ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PASSIONATE GAME ★ เกมรักอันตราย ท้าหัวใจมาเดิมพัน

    ลำดับตอนที่ #8 : Passionate Game EP.06 :: Drunk on love [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ค. 56


    Passionate game episode o6.

    “Drunk on love”

     

    จงดื่มด่ำไปกับความรักที่หลอกลวง โง่งม

    จนไม่สามารถหาทางออกได้ เพราะนี่คือทางเดินสุดท้ายของฉัน

     

               ในที่สุดฉันก็ใจอ่อนให้เขาอยู่เป็นเพื่อนจนได้ อาจจะเป็นเพราะฉันไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไงก็เป็นได้ เขาเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของฉัน ถ้าไม่มีเขา ฉันอาจจะโดนพวกเลวนั่นทำอะไรต่อมิอะไรบ้างก็ไม่รู้

                ฉันน่ะไร้ค่าจะตายไปคิก

                ขนาด เขายังทำกับฉันเหมือนเป็นของเล่นเลย อยากได้ก็มา ไม่อยากก็ผลักไสราวกับฉันเป็นเศษขยะ!

                น่าสมเพชนะมิกิ

                เพราะฉันนี่แหละโง่เอง เขาไม่ผิดหรอกฉันโง่เองที่รักแบบไม่ทันคิด!

                นี่ เธอหิวรึเปล่า ดูเหมือนเราจะยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลยนะเสียงเข้มๆของเร็นปลุกฉันตื่นจากภวังค์ นี่ฉันเผลอคิดเรื่อยเปื่อยไปจนลืมว่าเขาก็อยู่ในบ้านนี้ด้วยเหรอเนี่ย แย่จริงๆ

                จริงด้วยสิฉันพึมพำออกมาเบาๆเมื่อนึกถึงสภาพห้องครัวในบ้านหลังนี้มันช่างโล่งและฝุ่นเขรอะราวกับไม่ได้ใช้งานมาแรมปี

                มีอะไรพอจะทำอาหารได้รึเปล่า?” เขาหันมาถามอย่างใช้ความคิดก่อนกวาดสายตามองดูรอบๆตัว ฉันเลยได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ

                มันไม่มีหรอก ฉันแทบไม่เคยเข้าห้องครัวด้วยซ้ำ

                “ดูเหมือนจะไม่มีสินะ…” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย บางทีฉันก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเดาอารมณ์ผู้ชายคนนี้ไม่ถูก

                อืม..” ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงการสบสายตาดุๆนั่น

                งั้นไปกินข้าวข้างนอกกันนะเขาเอื้อมมือมาฉุดมือฉันก่อนจะออกแรงดึงมือฉันให้เดินตามเขาไปโดยไม่ปล่อยโอกาสให้ฉันแย้งสักคำ!

                เอาแต่ใจตัวเองที่สุดเลย!

     

                เขาพาฉันมาทานร้านอาหารข้างทางที่ไม่ไกลจากบ้านของฉันเท่าไหร่ ที่นี่เป็นร้านอาหารเล็กๆที่ตกแต่งแบบอบอุ่นเหมือนร้านอาหารสำหรับครอบครัว ฉันมองดูเขาสั่งอาหารด้วยท่าทางที่ดูสนิทสนมกับเจ้าของร้าน

                มันทำให้ฉันสงสัย

                ใช่….ฉันกำลังสงสัยว่าทำไมเขาถึงดูสนิทสนมกันนักนะ ทั้งๆที่เขาเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกไม่ใช่หรือไง?

                “หน้าฉันมีอะไรติดอยู่งั้นเหรอ?” เขาละสายตาจากเมนูอาหารในมือก่อนจ้องหน้าฉันเขม็ง

                เปล่าฉันส่ายหน้าไปมา ก่อนก้มหน้าลงมองมือตัวเองบนหน้าตัก ฉันทำตัวไม่ถูกเลย

                “อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่ามิกิ?” เขาถามฉันอีกครั้ง แต่ฉันก็ยังเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองหน้าเขา

                ฉันรู้สึกประหม่ายังไงก็ไม่รู้

                “เงยหน้าพูดกับฉันได้ไหม? เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนพูดคนเดียวนะ

                “ขอโทษนะเร็นฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ฉันรู้สึกผิดจริงๆนะที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดีแบบนี้ แต่จะให้ฉันทำยังไงล่ะ

                ฉันกลัวการสบตาผู้ชายคนนี้ไปเสียแล้ว

                ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจเขาระบายยิ้มอ่อนโยนให้ฉัน

                เขาส่งยิ้มให้ฉันงั้นเหรอ? ยิ้มที่อ่อนโยนแบบนั้น มันคืออะไรนะ?

                ฉันนิ่งเงียบไปสักพักก่อนที่อาหารจะถูกยกมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ ฉันมองหน้าเขาด้วยความงุนงง

                ก็ในเมื่อมากันแค่สองคนทำไมต้องสั่งเยอะขนาดนี้กันล่ะ?

                “ทำไมทำหน้าแบบนั้น?” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ จนฉันยังแอบตกใจ ก็ฉันไม่เคยเห็นเขาหัวเราะนี่ เห็นเขาสู้กับพวกน่าขยะแขยงพวกนั้นเขาก็ดูน่ากลัวออกขนาดนั้น

                แต่พอยิ้มและหัวเราะทำไมเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

                “ลองชิมนี่ดูสิ อร่อยนะเขาใช้ส้อมในจานของเขาจิ้มอาหารที่อยู่ในจานที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามยื่นมาตรงหน้าฉัน

                ฉันขมวดคิ้วด้วยความงุนงงอีกครั้ง

                “ชิมดูสิ อ้ำ…” เขาพูดลากเสียงเหมือนเด็กๆ ทำให้ฉันจำยอมอ้าปากให้เขาป้อนแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นโต๊ะข้างๆคงมองฉันแล้วก็ยิ้มอยู่แบบนั้นไปอีกนานแน่ๆ

                อร่อยล่ะสิ

                “อื้มฉันพยักหน้า มือแกร่งของเขายื่นมือมาบีบแก้มทั้งสองฉันไว้เบาๆก่อนจะพูดด้วยทีเล่นทีจริงจนฉันเสียวสันหลังวาบ

              “กินเยอะๆนะมิกิ ถ้าเธอไม่ยอมกินฉันจะป้อนเธอด้วยปากของฉันเลย เข้าใจรึเปล่า?”

     
    ---------------------------------[50%]---------------------------------

     

    ฉันจ้องหน้าเขาอยู่นานเลยทีเดียวกว่าจะรู้สึกตัวก็โดนเขามองหน้าแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆเสียแล้ว

                นี่ฉันทำอะไรผิดอีกรึเปล่าเนี่ย?

                “ฉันล้อเล่นหน่า ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มจนเห็นเขี้ยวซี่เล็กๆโผล่ออกมา มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกประหม่า

                กินสิ เอาแต่หลบตาฉันอยู่นั่นจะได้กินมั้ย?”  เขาพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ฉันจึงต้องก้มหน้าตักข้าวในจานเข้าปากอย่างจำยอม

                ไม่อย่างนั้นฉันคงโดนเขาป้อนด้วยวิธีพิสดารนั่นแน่ๆเชียว

     

                เราทานข้าวด้วยกันจนเสร็จ เขาอาสามาส่งฉันที่บ้านและอาสาจะอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย แน่นอนว่าฉันไม่มีทางปฎิเสธเขาได้อยู่แล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็จะงัดวิธีการสารพัดมาบังคับฉันอยู่ดีนั่นแหละหน่า

                เข้าบ้านได้แล้ว

                “อืมฉันพยักหน้าเบาๆก่อนเปิดประตูเข้าไปในบ้านโดยมีเขายืนรออยู่ไม่ไกล                        ระหว่างที่ฉันเดินเข้ามาในตัวบ้าน ฉันก็เฝ้าคิดว่าฉันเชื่อใจเร็นขนาดนั้นเลยรึไงถึงขนาดให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนแบบนี้

                 และแน่นอนว่าคำตอบของฉันก็คือไม่

                ฉันไม่ค่อยไว้ใจเขาเท่าไหร่แต่ในเมื่อเขาเป็นเหยื่อที่ต้องจัดการด้วยแล้ว คงไม่มีโอกาสไหนเหมาะเท่าโอกาสนี้อีกแล้วล่ะ

                โอกาสที่จะทำให้เขาตกหลุมรักฉัน

                ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยการจะทำให้ใครสักคนตกหลุมรักได้ในเวลาจำกัด แต่ฉันเชื่อว่าเขาอาจจะเดินตามเกมของฉัน

                ฉันเชื่ออย่างนั้น

                เหม่อจังเลยนะ อย่างนี้ฉันไม่กล้าปล่อยเธอไว้คนเดียวหรอกเร็นเดินมาโอบไหล่ฉันจากทางด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันไปจ้องหน้าเขาเขม็ง

                ฮ่ะๆ ขอโทษทีเขาหัวเราะก่อนเอามือออกจากไหล่ฉันเหมือนไม่รู้สึกผิดอะไร

                แล้วนี่นายไม่กลับบ้านเหรอ?” ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาทำท่าทางสบายๆ

                ก็บอกแล้วไงว่าจะอยู่เป็นเพื่อน

                “ก็ฉันเกรงใจนายนี่นาฉันบอกเสียงอ่อนก่อนก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาเขา ก็สายตาเขาน่ะมันมีอานุภาพร้ายแรงเลยล่ะ

                “เธอไม่ได้บังคับฉันสักหน่อย ฉันเต็มใจจะทำเองต่างหาก….ไปอาบน้ำได้แล้วไป เนื้อตัวเธอเปื้อนไปหมดแล้วเนี่ยเขาพูดไปสักพักก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไล่ให้ฉันไปอาบน้ำ อะไรของเขาเนี่ย?

                “อืมฉันพยักหน้าให้เขาก่อนรีบเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง พอประตูห้องนอนปิดสนิท ฉันก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง ทำไมชีวิตฉันต้องเจอแต่เรื่องร้ายๆด้วยนะ

                ฉันไม่เข้าใจเลย

                ฉันพาร่างตัวเองไปยังห้องน้ำด้วยแรงอันน้อยนิด ใช่ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรแล้ว ฉันเปิดฝักบัวจนแรงสุดให้สายน้ำกระทบใบหน้าและร่างกายฉันอยู่อย่างนั้นเผื่อว่ามันจะล้างสิ่งสกปรกในตัวฉันออกไปได้เผื่อมันจะล้างบางอย่างที่ติดอยู่ในใจฉันออกไปได้

                หลังจากที่ฉันชำระร่างกายเรียบร้อย ฉันก็ออกมาในชุดคลุมอาบน้ำพร้อมกับผมที่เปียกชุ่ม ฉันนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วบรรจงซับน้ำในผมอย่างใจเย็น

                แกร๊ก

                ฉันได้ยินเสียงผิดปกติบางอย่างแต่ฉันก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะฉันคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของคนที่อยู่ข้างล่างมากกว่า ฉันหลับตาลงแล้วเช็ดผมตัวเองต่ออย่างไม่ใส่ใจ

                แต่แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนมีมืออีกมือดึงผ้าขนหนูที่ฉันจับอยู่ออกไป ฉันขันขวับไปทางด้านหลังทันที และนั่นก็ทำให้หน้าฉันชนเข้ากับแผงอกใครบางคนพอดี!

                “นายเข้ามาได้ยังไง?” ฉันจ้องหน้าเขาเขม็ง

                ก็เธอไม่ได้ล็อกประตูนี่ เร็นหัวเราะเบาๆก่อนเอาผ้าขนหนูในมือมาเช็ดผมให้ฉันหน้าตาเฉย

                ฉันเช็ดเองได้หน่าฉันพยายามจะแย่งผ้าขนหนูจากมือเขา แต่ก็กลายเป็นว่าฉันเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียอย่างนั้น เขาใช้มือข้างหนึ่งรวบแขนทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ก่อนจะยื่นหน้ามาพูดใกล้ๆฉันอย่างจงใจพร้อมกับรอยยิ้มแพรวพราว

              อย่าขยับไปมากกว่านี้ล่ะ ไม่งั้นฉันได้ตบะแตกกันพอดี

                “…!!!”


     

    Talk with writer :)

    อ๊ากกก~! บริจาคเลือดกันเลยทีเดียวกับชาร์ปนี้

    ใครไม่ฟินเค้าฟิน ฮ่าๆๆ นี่มันแค่ออร์เดิร์ฟ ของจริงน่ะตอนต่อไป

    เอ้าๆๆ เม้นต์รึยัง?? ไม่เม้นต์อดนะๆๆๆ


     ใครใจดีฝากไปเจิมเรื่องใหม่กันหน่อยโน๊ะ ใครชอบแอด Fav. รอน้า จุ๊บๆ  
    ข้อความ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×