คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : EP.05 : ห้ามใจ [100%]
Episode 05
ห้ามใจ...
ตลอดเวลาที่เราจับมือกัน เชื่อไหมว่าฉันมือสั่น แล้วฉันก็ได้แต่ตอบเขาไปแบบโง่ๆว่า ‘หนาว’ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด
ยิ่งเขาจับมือฉันไว้แน่นเท่าไหร่ฉันยิ่งรู้สึกแปลกๆในใจมากขึ้นเท่านั้น
“เฮีย ปล่อยมือก่อนแป๊บนึง”
“ทำไม?”
“ร้อนอ่ะ” ฉันทำท่าสะบัดมือ แต่จริงๆฉันสะบัดไม่ให้เขาเห็นว่ามันยังสั่นอยู่ต่างหาก
“ไหนเมื่อกี๊บอกหนาวไง” เขาจ้องหน้าฉันนิ่ง รู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูกแหะ
“ก็ตอนนี้ร้อนแล้ว” ฉันหลุบตาลงต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับเขา รู้ไหมไอ้หัวใจบ้าๆนี่ก็เต้นแรงเสียเหมือนจะหลุดออกมาอยู่ข้างนอก
พี่คะ…เมื่อไหร่จะเสร็จจากกิจกรรมที่ต้องจับมือสักที
ฉันภาวนาในใจอยู่เป็นสิบๆครั้ง โธ่…ทำไมเหมือนทุกอย่างกลั่นแกล้งฉันแบบนี้ด้วยนะ ฉันล่ะอยากจะร้องไห้จริงๆเลย
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น” เขาหันมาถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆตามปกติของเขา ฉันได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะตอบไปเบาๆ
“เปล่า ขิงแค่เบื่อๆ”
“น่าเบื่อจริงๆ”
หลังจากนั้นเราต่างคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยจนจบกิจกรรม
เช้าวันรุ่งขึ้น…
รู้ไหมมันลำบากแค่ไหนกับการต้องข่มตาหลับ เพราะภาพบ้าๆนี่ก็ติดอยู่ในหัวของฉันตลอดเวลาเลย ภาพที่พูดจับมือฉันไว้…
“ขิง เป็นอะไร ดูเงียบๆ” ยัยบลายธ์แตะไหล่ฉันเบาๆ แต่ฉันกลับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“ตกใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย” บลายธ์ขมวดคิ้ว
“เปล่าหรอกบลายธ์ ป่ะๆ กินข้าวกัน!” ฉันรีบลุกขึ้นเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะลากยัยบลายธ์ที่ยืนเอ๋อกับท่าทางของฉันออกมาจากห้องด้วย
ฉันเป็นอะไรไป…
“กินข้าวสิขิง เขี่ยอยู่ได้” และแล้วเสียงยัยบลายธ์ก็ฉุดฉันจากภวังค์อีกครั้ง ยัยบลายธ์คงทนไม่ไหวแน่ๆถึงเดินหนีไปเก็บจานก่อนหลังจากที่ทักฉันเสร็จ
ทำไมถึงเหม่อบ่อยจังนะ เหม่อทำไม…
“เอาอะไรร้อนๆมั้ย?” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังฉันสะดุ้งเล็กน้อย ฉันค่อยๆหันไป และก็เจอกับ ‘ต้นเหตุ’ ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้
“ไม่เอาหรอก เฮียกินเลย ขิงอิ่มแล้ว”
“ขนมปังหน่อยมั้ย?”
“ไม่อ่ะ” ฉันส่ายหน้า
“นี่เรียกกินเหรอ?” พีชหันมามองหน้าฉันนิ่งๆเหมือนกำลังรอให้ฉันตอบ ฉันก็เลยพยักหน้าไปเบาๆ
ทำไมถึงรู้สึกทำตัวไม่ถูกแบบนี้ และระหว่างเราก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง…
และแล้วเวลามันก็ล่วงเลยไปจนครึ่งวัน ฉันกับเขาก็ยังไม่พูดกันอยู่ดี ทำไมน่ะเหรอ…ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฉันน่ะรู้สึกแปลกๆจนไม่กล้าคุยกับเขา กลัวตัวเองจะคิดอะไรไปไกล
เลยอยาก ‘ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม’
เขามีแฟนอยู่แล้วนะ ยิ่งมา ‘ใจดี’ กับฉันแบบนี้ มันจะยิ่งไปกันใหญ่ ทางที่ดีฉันก็ควรไม่ยุ่งวุ่นวายกับเขา จริงไหม…?
“ขิง…” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นข้างๆตัว ฉันเลิกคิ้วก่อนฉีกยิ้มสดใสออกมา
“เฮีย : )”
พอฉันเรียกชื่อเขาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่มายืนอยู่ข้างๆฉันเงียบๆเท่านั้น
ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าเขากำลังทำอะไร
“เฮีย…” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไร
“กินขนมมั้ย? พี่สต๊าฟเพิ่งแจกเมื่อกี๊เลย” ฉันยิ้มร่าก่อนยื่นขนมปังในมือไปให้เขา เขามองมันสลับกับหน้าฉัน ก่อนงับขนมปังในมือฉันไปคำหนึ่ง
“ต้องแกะให้กินจนหมดเลยมั้ยล่ะ” ฉันหัวเราะเบาๆกับท่าทางของเขา แต่เขาก็ยังตีหน้าเฉยอยู่ดีนั่นแหละนะ
ทำแบบนี้อีกแล้ว…
เฮียจะรู้อะไรบ้างไหมนะ ว่าใจขิงเริ่มแปลกไปแล้วกับความใจดีแบบนี้ ...
--------------------------------[50%]--------------------------------
น่าแปลกที่วันทั้งวันเราสองคนต่างเงียบใส่กันโดยไม่มีสาเหตุ ราวกับว่าฉันกับเขากำลังทำตัวไม่ถูก แต่ว่าจะทำตัวไม่ถูกเรื่องอะไรกันล่ะ ก็เรา ‘เพื่อน’ กันนี่นา มิหนำซ้ำเขายังมีแฟนแล้วอีกด้วย
ที่เขาใจดีกับฉันก็เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันไง เป็นเพราะว่าฉันสนิทกับเขาไง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น…
ยิ่งพูดไปก็เหมือนยิ่งหลอกตัวเองน่ะนะ ฉันย้ำกับตัวเองเป็นสิบๆครั้งไม่ให้มันคิดอะไรไปไกลกว่านั้น แต่ทุกครั้งที่ความใจดีของเขาส่งมาถึงฉัน บอกไม่ถูกเลยว่า ควรจะรู้สึกยังไง จริงอยู่ว่าฉันอาจจะร่าเริงเป็นปกติ แต่ว่าข้างในใจมันกลับไม่ปกติเสียแล้วสิ
ฉันควรจะทำยังไงกับสถานการณ์น่าอึดอัดนี้กันล่ะ…?
“ขิง ทำไมช่วงนี้แกดูเหม่อๆ” ยัยบลายธ์เดินมาถามฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วง ฉันก็ไม่ได้อยากทำให้เธอเป็นห่วงหรอก แต่ฉันยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร
“เปล่าหรอกบลายธ์ ฉันสบายดี”
“งั้นก็ดี คาบต่อไปเรียนแล็ปเคมีแกจะไหวมั้ยเนี่ย ดูท่าทางแกไม่ค่อยจะไหวเลย”
“ไหวสิ”
“งั้นก็ดี ไปเรียนกันเถอะ” ยัยบลายธ์เอ่ยปากชวนก่อนดึงแขนฉันเข้าไปในห้องแล็ปปฎิบัติการ
ฉันว่าฉันโอเคนะ
“เฮ้ยๆครูมาแล้วๆ” เสียงพวกผู้ชายในห้องพากันโวยวายก่อนรีบนั่งที่อย่างเรียบร้อย ที่จริงอาจารย์ท่านเป็นอาจารย์ผู้หญิงที่ไม่ค่อยเคร่งเท่าไหร่นะ แต่ทุกคนก็ให้ความเคารพท่าน
“นักเรียนคะ ครูจะ Brief แล็ป มารวมกันที่หน้าห้อง” เสียงนิ่มๆของอาจารย์ทำให้พวกเราเดินไปรวมตัวกันที่หน้าห้อง ก่อนจะหาที่นั่งกัน
และฉันก็เห็นพีชเดินมาทางฉัน…
เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันก่อนกระโดดขึ้นนั่งบนโต๊ะแล็ปที่อยู่ข้างหลังของฉัน เขาจัดแจงลากเก้าอี้มาไว้ระหว่างขาของเขาเพื่อเหยียบขาเก้าอี้ไว้พักเท้าล่ะมั้ง
แต่แล้ว…ฉันก็คิดผิด เมื่อเขาตบเบาะเก้าอี้เบาๆเป็นเชิงให้ฉันไปนั่ง
หัวใจฉันแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม…
ฉันค่อยๆเดินไปนั่งเงียบๆ เพราะเพื่อนๆเริ่มพากันเงียบกันแล้ว ทุกคนเริ่มสงบจนฉันไม่กล้าขยับตัว
แต่พอฉันไปนั่งเท่านั้นแหละ ฉันก็รู้สึกว่าผมด้านหลังเหมือนกำลังมีคนจับมันอยู่…. ฉันไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองว่าใคร เพราะก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคนที่อยู่ข้างหลังฉันก็มีอยู่แค่คนเดียว
เขาค่อยๆเกลี่ยผมออกจากต้นคอฉันอย่างเบามือ เพราะว่าฉันปล่อยผมไม่ได้รวบเหมือนทุกวัน (ปกติมาเข้าค่าย จะไม่ค่อยเคร่งเรื่องการแต่งกายและทรงผมเหมือนที่โรงเรียนน่ะนะ)
ตึกตัก….ตึกตัก…
ฉันฟังครูไม่รู้เรื่อง…
ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่มือของเขาสัมผัสกับต้นคอของฉันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็แอบสะดุ้งเล็กๆอย่างอดไม่ได้
ฉันตัดสินใจหันกลับไปมองหน้าเขาด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาต้องทำแบบนั้น แต่เมื่อหันไป เขาก็เลิกคิ้วเหมือนถามเป็นนัยๆว่า อะไรเหรอ?
ฉันเลยต้องรีบหันกลับมาเสียอย่างนั้น
หัวใจกำลังเต้นแรง… หน้าร้อนผ่าว…. ฉันเป็นบ้าอะไรไปเนี่ย!?
เวลาผ่านไปสักพักเพื่อนคนอื่นก็คงเริ่มสังเกตเห็นกันแล้ว หลายคนมองฉันแล้วก็หันกลับไปเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง
อย่าว่าแต่พวกเขาเลยที่สงสัย ฉันเองก็ยังสงสัยเลย…
เฮียทำแบบนี้ทำไมกันนะ…เฮียมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ มีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ… แล้วมาทำแบบนี้กับขิงทำไม?
ยิ่งพยายามห้ามใจตัวเองเท่าไหร่ กลับรู้สึกว่ามันเริ่มสูญเปล่าไปมากเท่านั้น
“ตัดหน้าม้าทำไม ไม่กลัวตาเหล่เหรอ” เขาเอี้ยวตัวมาข้างๆเพื่อพูดกับฉัน เขาใช้มือข้างหนึ่งปัดหน้าม้าออกจากใบหน้าของฉันอย่างเบามือ (หน้าม้ามันก็ยาวมากแล้วล่ะ)
ไม่ได้นะ…. ไม่ได้… เฮียทำแบบนี้ไม่ได้!
ยิ่งห้ามใจกลับยิ่งอยากปล่อยใจ…
ถ้าฉันจะเป็น ‘ผู้หญิงนิสัยไม่ดีสักวัน’ จะเป็นอะไรรึเปล่านะ มันจะผิดมากรึเปล่า?
กลิ่นดราม่าลอยมาแล้ว... ถ้าคุณเป็น ขนมขิง จะทำยังไงกัน แล้วถ้าในทางกลับกันถ้าคุณเป็นเฮียพีช
คุณจะทำยังไง.... มันก็ตอบยากเนอะ เอาล่ะ มารอดูกันต่อไป
เม้นต์ๆนะคะ แคทจะได้รู้ว่ามีคนรออ่านอยู่ ไม่เม้นต์กันเลยแคทก็ไม่มีกำลังใจแต่งนะ
ความคิดเห็น