ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PUNISH GAME II เกมล่ารัก กักขังหัวใจมาลงทัณฑ์

    ลำดับตอนที่ #3 : PUNISH GAME EPISODE 01. [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 57



    PUNISH GAME EPISODE 01.


    The end is the beginning

    เพราะอดีตไม่มีวันหวนกลับ และอนาคตไม่มีทางหยั่งถึง


     

    “…” ฉันนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ แต่รู้อะไรไหมฉันทั้งโกรธและเกลียดผู้ชายตรงหน้าคนนี้มากแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะบางอย่างที่ต้องแลกมา ฉันจะไม่ยอมเลือกให้มันเป็นแบบนี้เลย

                เพราะฉันเลือกเข้าไปในเกมนี้ ฉันจึงต้องสูญเสียอย่างไม่อาจปฏิเสธ

                เรื่องราวในอดีตที่ถูกซ่อนไว้มาเนิ่นนาน ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาแม้แต่น้อย ฉันโล่งใจในเรื่องนั้น ถึงแม้ว่ามันจะแลกมาด้วยความเจ็บปวดในใจฉันก็ตาม       

                “ไม่…” ฉันเอ่ยออกไปเบาๆด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่แม้แต่จะแข็งข้อ ไม่แม้แต่จะต่อสู้ ไม่แม้แต่จะคิดขัดขืน

                สายตาเราประสานกันอยู่ครู่หนึ่ง ความเงียบงันครอบคลุมเราไว้อีกครั้ง เขายังคงมองฉันด้วยสายตาปนเหยียดหยามอยู่แบบนั้น รอยยิ้มเล็กๆอย่างพอใจเผยขึ้นที่มุมปาก

                ใช่สิฉันเลือกไม่ได้นี่นะ ทางเลือกสำหรับฉันไม่มีหรอก

                “ดีที่เธอคิดได้แบบนี้ เอาล่ะ ละครฉากใหญ่วันนี้ก็ควรจะจบได้แล้ว และเธอก็ต้องไปกับฉันเขาหันไปประกาศกร้าวกับทุกคนก่อนลากเสียงแล้วหันกลับมามองใบหน้าฉัน

                เกลียด เกลียดเหลือเกิน

                ปล่อยเธอซะ!!” เร็นยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะช่วยฉัน แม้ว่าฉันจะทำให้เขาเจ็บปวดเจียนตายแล้วครั้งหนึ่ง

                เสียใจด้วยที่จะบอกว่าไม่: )

                “ไปรักษาตัวดีๆแล้วค่อยมาว่ากันใหม่นะ เคอิซูมิ เร็น มนุษย์ผู้เป็นใหญ่เหนือผู้ใดยูไดกระตุกยิ้มเล็กๆก่อนจะกระชากแขนฉันให้เดินตามเขาออกมาจากที่แห่งนั้น รอบข้างก็ยังคงเงียบงัน มีเพียงเสียงลมที่พัดใบไม้ที่แห้งเหี่ยวเบาๆเท่านั้น

                ยิ่งฉันพยายามกรีดร้อง โวยวาย ทุบตี เขาก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดเดียว

                ปล่อยสิ!! นายจะเอาอะไรจากฉันอีก!?”

                “ไม่น่าถามนะ

                “ยูได!!!” ฉันเรียกชื่อเขาเสียงดังอยู่เหลืออด แขนข้างหนึ่งยังถูกเขากำไว้แน่น เจ็บร้าวไปทั้งแขน

                อะไร?”

                “นายจะพาฉันไปไหน จะลากฉันไปไหน!!”

                “อย่าถามมาก น่ารำคาญเขาตอบพร้อมกับตวัดสายตาดุๆมามองหน้าฉัน ฉันถึงกับนิ่งเงียบ เพราะฉันรู้แล้วน่ะสิว่าถ้าเกิดยังดึงดันเถียงกันต่อไป ฉันนี่แหละจะโดนอะไรบ้าง

                ฉันเรียนรู้ทุกสิ่งที่เป็นเขา

                ….ตั้งแต่ วันนั้น วันที่ฉันเลือกทุกๆอย่างเพื่อตัวเอง

                มีเพียงแต่ความเงียบที่เข้าปกคลุมภายในรถคันเล็กนี้ ต่างคนต่างไม่ปริปากพูดอะไรกันสักคำ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด และเขาก็ไม่คิดจะพูดกับฉันให้มากความหรอก

                ฉันหันไปมองใบหน้าผู้ที่เรียกตัวเองว่า พระเจ้า อยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลา แม้มองในมุมข้างแบบนี้ความหล่อกลับไม่ได้ลดลงแม้แต่นิด จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงธรรมชาติ ดวงตาเรียวรี ทุกอย่างลงตัวราวกับพระเจ้าสร้างมา

                .เขาเชื่อในตัวเอง เขาไม่ยอมให้ใครมาขีดเส้นในชีวิต

                เขาฉลาดและไหวพริบดีกว่าคนปกติทั่วไป

                และเขา ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น

                “เธอจะทำยังไงต่อไป ฉันรู้ว่าเธอคงไม่อยากแพ้ตอนนี้สินะยูไดเอ่ยขึ้นนิ่งๆสายตายังคงจ้องมองที่ถนน

                นายไม่น่าจะถามแบบนั้นกับฉันนะ ทุกอย่างนายกำหนดมันแล้วนี่ นายน่าจะรู้ดี

                “บางทีฉันก็อาจจะไม่รู้

                “พูดเป็นเล่นหน่า ยูไดฉันแสร้งหัวเราะร่า

    เพราะอดีตไม่มีวันหวนกลับ และอนาคตไม่มีทางหยั่งถึง…”

    เรื่องนั้นฉันรู้ดี…”

    ฉันยังสงสัยเลยทำไมเธอถึงเลือกทางนี้ เลือกทำทุกอย่างแบบนี้ยูไดพูดแล้วหันมองฉันครู่หนึ่ง ก่อนดับเครื่องรถ

    ถึงแล้วสินะคอนโดของเขา น้อยคนนักจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ ก็ขึ้นชื่อว่าพระเจ้า เขาย่อมไม่ทิ้งหลักฐานให้รู้อยู่แล้วว่าเขาคือใคร และอยู่ที่ไหน

    นายก็รู้เหตุผลว่าทำไม

    ใช่ฉันรู้…” เขาหันมาสบตาฉันนิ่ง นัยน์ตาเรียวคมที่ฉันไม่เคยอ่านออก ใบหน้านิ่งๆราวกับไม่เคยแสดงอารมณ์ใดๆมันทำให้ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ใบหน้าของเขาค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ตัวฉันเองกลับไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย

    ราวกับต้องมนตร์สะกด

    ฉันรู้สึกถึงริมฝีปากที่กำลังแตะอยู่บนริมฝีปากฉัน เย็บเยียบราวกับน้ำแข็ง แต่กลับไม่สามารถขัดขืนได้ เขาลากไล้ริมฝีปากของตัวเองมาแตะที่ต้นคอฉันก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ

     “…แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องลงทุนเพื่อมันขนาดนั้น


     ----------------- 50%  -----------------

     

     

    มึนงง อื้ออึงไปหมด

    ฉันก้าวพ้นประตูห้องของเขาเข้ามาด้วยความเลื่อนลอย ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันนะ ฉันถึงรู้สึกประหลาดทุกครั้งที่ถูกเขาสัมผัสแบบนี้

    ใช่มันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งไป

    คุณอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันเป็นและสิ่งที่ฉันกำลังทำ ความสัมพันธ์ของเราทุกคนเกี่ยวข้องกันหมดอย่างน่าประหลาด

    ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันล่ะ…” เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ฉันเสียวสันหลังวาบ

    ราวกับปีศาจที่จองจำฉันไว้

    เนิ่นนานจนชั่วกัปชั่วกัลป์

    แค่คิดอะไรเพลินๆ

    ถ้าจะคิดว่าจะต้องทำอะไรต่อก็หยุดคิดซะนะเขาวางมือลงบนไหล่ฉันเบาๆ แต่ฉันกลับรู้สึกร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก

    ทั้งๆที่ หัวใจ ถูกแช่แข็งไปแล้วแบบนั้นทำไมกลับยังมีความรู้สึกร้อนรน หวาดกลัว

    รู้ดีไปซะทุกเรื่อง…” ฉันพึมพำพลางกลอกตาไปทางอื่น

    หึเธอก็น่าจะรู้จักนิสัยฉันดีไม่ใช่เหรอ

    ไม่ต้องพูดมากหรอก ฉันรู้

    งั้นก็ดี เธออยากได้ตัวไอ้โชมันมากไม่ใช่เหรอไม่งั้นคงไม่ซมซานมาหาฉันหรอก ใช่มั้ย…” เขาพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ๆ ก่อนใช้นิ้วชี้เกลี่ยผมที่ข้างแก้มของฉันอย่างช้าๆ

    เย็นยะเยือก

    ฉันรับรู้ได้อย่างเดียวเลยว่า ผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น ที่พร้อมจะแช่แข็งทุกหัวใจ

    นั่นอาจจะรวมฉันด้วย หัวใจที่ถูกแช่แข็งจนไม่รู้สึกรู้สาอะไรแบบนั้น

    ไม่ต้องย้ำมากหรอก ถ้าฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้ว ฉันกับนายก็จะได้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก!”

    “…อย่างงั้นเลยเหรอ เธอกำลังคิดว่าฉันจะคิดแผนหรือไม่ก็ทำอะไรให้ง่ายๆงั้นเหรอ?”

    แล้วนายยังจะต้องการอะไรจากฉันอีก?”

    “…ถึงเวลาเธอก็จะรู้เองเขาพูดหน้านิ่งก่อนจะหันหลังแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เสียงประตูเงียบลง ก็เหลือแต่ฉันเพียงลำพัง ฉันทรุดตัวลงนั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนล้า

    ฉันเคยมาห้องยูไดอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็มักจะเป็นเขาที่เฉยชาแบบนี้ ฉันจึงชินจนไม่รู้สึกว่ามันจะแปลกอะไรหากเขาจะพูดแล้วเดินหนีไปแบบนั้น

    ใจหนึ่งฉันก็รู้สึกเกลียดตัวเองที่ร่วมมือกับผู้ชายที่เจ้าเล่ห์แบบเขา

    ใจหนึ่งก็รู้สึกว่า เขาคือคนเดียวที่จะทำให้ฉันได้ทุกอย่างที่ฉันต้องการ

    นี่ฉันกำลังเดินไปในทางที่ถูกต้องหรือเปล่า

    ฉันกำลังทำร้ายผู้ชายคนที่ฉันรักรึเปล่าโชนายอย่าเกลียดฉันนะ  ฉันหันหลังกลับไปตอนนี้ไม่ได้แล้ว และนายจะต้องเป็นของฉัน ของฉัน แค่คนเดียว

    [END HANAKO’S PART]

     

    [MIKI’S PART]

    ทุกอย่างสงบเงียบไปชั่วอึดใจ สถานการณ์กดดันค่อยๆจางหายไปพร้อมๆกับผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่ชื่อ ยูไดผู้ชายที่แสนอ่อนโยนคนนั้น แต่ตอนนี้กลับ

    โช นายอย่าเป็นอะไรไปนะฉันพึมพำพลางกอดร่างของโชไว้แน่น สติเขาค่อนข้างพร่าเลือน เลือดค่อยๆไหลริน มันเปรอะเปื้อนตามเสื้อผ้าของฉันเต็มไปหมด

    กลิ่นคาวเลือดสีแดงฉาน  คละคลุ้งรอบตัวฉันไปหมด

    มิกิ ให้ฉันช่วยนะเร็นก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ยิ่งเป็นแบบนั้นฉันก็ยิ่งอยากร้องไห้หนักเข้าไปอีก

    ฉันกำลังจะทำร้ายคนที่ตั้งใจจะช่วยฉัน

    แต่ฉันกลับเชื่อใจคนที่สั่งให้ฉันไปทำร้ายคนอื่น..

    ตลกดีนะถ้าไม่เป็นเพราะฉัน ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ต่างๆในตอนนั้น มันก็คงไม่เป็นแบบนี้

    เร็นเข้ามาช่วยประคองตัวโชไว้ แน่นอนว่าให้ฉันประคองโชคงจะลำบากอยู่ไม่น้อย เขาตัวใหญ่กว่าฉันนี่นา

    เราไปกันเถอะมิกิ เขาจะไม่เป็นไรเร็นหันมาสบตาฉันแวบหนึ่ง รู้อะไรไหมเร็น สายตาของนายกำลังทำให้หัวใจฉันเจ็บปวด

    นายคงผิดหวังในตัวฉันมากสินะ

    แค่เชื่อฉัน แล้วทุกอย่างจะดีเองเขาพูดออกมาเบาๆก่อนทะยานรถออกไปสู่เบื้องหน้า

    ….หนทางข้างหน้าที่เราทั้งหมดไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไร

     

    Talk with Me
    ฮาโหลววว เค้าหายหัวไปนานมากเลยใช่ป่าว
    ไรเตอร์ผิดไปแล้ววว ไหนใครอ่านตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคนี้
    เรามาลองเดากันดูมั้ยว่าจะเป็นยังไง? : )
    ขอถึง 50 เม้นต์ได้ไหมมมม

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×