คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : PUNISH GAME EPISODE 01. [100%]
PUNISH GAME EPISODE 01.
The end is the beginning
เพราะอดีตไม่มีวันหวนกลับ และอนาคตไม่มีทางหยั่งถึง…
“…” ฉันนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ แต่รู้อะไรไหม…ฉันทั้งโกรธและเกลียดผู้ชายตรงหน้าคนนี้มากแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะ ‘บางอย่าง’ ที่ต้องแลกมา ฉันจะไม่ยอมเลือกให้มันเป็นแบบนี้เลย
เพราะฉันเลือกเข้าไปในเกมนี้ ฉันจึงต้องสูญเสียอย่างไม่อาจปฏิเสธ
เรื่องราวในอดีตที่ถูกซ่อนไว้มาเนิ่นนาน ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาแม้แต่น้อย ฉันโล่งใจในเรื่องนั้น ถึงแม้ว่ามันจะแลกมาด้วยความเจ็บปวดในใจฉันก็ตาม
“ไม่…” ฉันเอ่ยออกไปเบาๆด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่แม้แต่จะแข็งข้อ ไม่แม้แต่จะต่อสู้ ไม่แม้แต่จะคิดขัดขืน
สายตาเราประสานกันอยู่ครู่หนึ่ง ความเงียบงันครอบคลุมเราไว้อีกครั้ง เขายังคงมองฉันด้วยสายตาปนเหยียดหยามอยู่แบบนั้น รอยยิ้มเล็กๆอย่างพอใจเผยขึ้นที่มุมปาก
ใช่สิ…ฉันเลือกไม่ได้นี่นะ ทางเลือกสำหรับฉันไม่มีหรอก
“ดี…ที่เธอคิดได้แบบนี้ เอาล่ะ ละครฉากใหญ่วันนี้ก็ควรจะจบได้แล้ว และเธอ…ก็ต้องไปกับฉัน” เขาหันไปประกาศกร้าวกับทุกคนก่อนลากเสียงแล้วหันกลับมามองใบหน้าฉัน
เกลียด… เกลียดเหลือเกิน
“ปล่อยเธอซะ!!” เร็นยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะช่วยฉัน แม้ว่าฉันจะทำให้เขาเจ็บปวดเจียนตายแล้วครั้งหนึ่ง
“เสียใจด้วยที่จะบอกว่าไม่: ) ”
“ไปรักษาตัวดีๆแล้วค่อยมาว่ากันใหม่นะ เคอิซูมิ เร็น มนุษย์ผู้เป็นใหญ่เหนือผู้ใด” ยูไดกระตุกยิ้มเล็กๆก่อนจะกระชากแขนฉันให้เดินตามเขาออกมาจากที่แห่งนั้น รอบข้างก็ยังคงเงียบงัน มีเพียงเสียงลมที่พัดใบไม้ที่แห้งเหี่ยวเบาๆเท่านั้น
ยิ่งฉันพยายามกรีดร้อง… โวยวาย… ทุบตี… เขาก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดเดียว
“ปล่อยสิ!! นายจะเอาอะไรจากฉันอีก!?”
“ไม่น่าถามนะ”
“ยูได!!!” ฉันเรียกชื่อเขาเสียงดังอยู่เหลืออด แขนข้างหนึ่งยังถูกเขากำไว้แน่น เจ็บร้าวไปทั้งแขน
“อะไร?”
“นายจะพาฉันไปไหน จะลากฉันไปไหน!!”
“อย่าถามมาก น่ารำคาญ” เขาตอบพร้อมกับตวัดสายตาดุๆมามองหน้าฉัน ฉันถึงกับนิ่งเงียบ เพราะฉันรู้แล้วน่ะสิว่าถ้าเกิดยังดึงดันเถียงกันต่อไป ฉันนี่แหละจะโดนอะไรบ้าง
…ฉันเรียนรู้ทุกสิ่งที่เป็นเขา
….ตั้งแต่ ‘วันนั้น’ วันที่ฉันเลือกทุกๆอย่างเพื่อตัวเอง
มีเพียงแต่ความเงียบที่เข้าปกคลุมภายในรถคันเล็กนี้ ต่างคนต่างไม่ปริปากพูดอะไรกันสักคำ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด และเขาก็ไม่คิดจะพูดกับฉันให้มากความหรอก
ฉันหันไปมองใบหน้าผู้ที่เรียกตัวเองว่า ‘พระเจ้า’ อยู่ครู่หนึ่ง… ใบหน้าหล่อเหลา แม้มองในมุมข้างแบบนี้ความหล่อกลับไม่ได้ลดลงแม้แต่นิด จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงธรรมชาติ ดวงตาเรียวรี ทุกอย่างลงตัวราวกับพระเจ้าสร้างมา…
.เขา…เชื่อในตัวเอง เขาไม่ยอมให้ใครมาขีดเส้นในชีวิต
เขา…ฉลาดและไหวพริบดีกว่าคนปกติทั่วไป
และเขา… ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น
“เธอจะทำยังไงต่อไป ฉันรู้ว่าเธอคงไม่อยากแพ้ตอนนี้สินะ” ยูไดเอ่ยขึ้นนิ่งๆสายตายังคงจ้องมองที่ถนน
“นายไม่น่าจะถามแบบนั้นกับฉันนะ ทุกอย่างนายกำหนดมันแล้วนี่ นายน่าจะรู้ดี”
“บางทีฉันก็อาจจะไม่รู้”
“พูดเป็นเล่นหน่า ยูได” ฉันแสร้งหัวเราะร่า
“เพราะอดีตไม่มีวันหวนกลับ และอนาคตไม่มีทางหยั่งถึง…”
“เรื่องนั้นฉันรู้ดี…”
“ฉันยังสงสัยเลยทำไมเธอถึงเลือกทางนี้ เลือกทำทุกอย่างแบบนี้” ยูไดพูดแล้วหันมองฉันครู่หนึ่ง ก่อนดับเครื่องรถ
ถึงแล้วสินะ…คอนโดของเขา น้อยคนนักจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ ก็ขึ้นชื่อว่าพระเจ้า เขาย่อมไม่ทิ้งหลักฐานให้รู้อยู่แล้วว่าเขาคือใคร และอยู่ที่ไหน
“นายก็รู้เหตุผลว่าทำไม”
“ใช่ฉันรู้…” เขาหันมาสบตาฉันนิ่ง นัยน์ตาเรียวคมที่ฉันไม่เคยอ่านออก ใบหน้านิ่งๆราวกับไม่เคยแสดงอารมณ์ใดๆมันทำให้ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ใบหน้าของเขาค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ตัวฉันเองกลับไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย
ราวกับต้องมนตร์สะกด…
ฉันรู้สึกถึงริมฝีปากที่กำลังแตะอยู่บนริมฝีปากฉัน เย็บเยียบราวกับน้ำแข็ง แต่กลับไม่สามารถขัดขืนได้ เขาลากไล้ริมฝีปากของตัวเองมาแตะที่ต้นคอฉันก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ
“…แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องลงทุนเพื่อมันขนาดนั้น”
----------------- 50% -----------------
มึนงง… อื้ออึงไปหมด…
ฉันก้าวพ้นประตูห้องของเขาเข้ามาด้วยความเลื่อนลอย ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันนะ ฉันถึงรู้สึกประหลาดทุกครั้งที่ถูกเขาสัมผัสแบบนี้
ใช่…มันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งไป
คุณอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันเป็นและสิ่งที่ฉันกำลังทำ ความสัมพันธ์ของเราทุกคนเกี่ยวข้องกันหมดอย่างน่าประหลาด
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันล่ะ…” เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ฉันเสียวสันหลังวาบ
ราวกับปีศาจที่จองจำฉันไว้…
เนิ่นนานจนชั่วกัปชั่วกัลป์
“แค่คิดอะไรเพลินๆ”
“ถ้าจะคิดว่าจะต้องทำอะไรต่อก็หยุดคิดซะนะ” เขาวางมือลงบนไหล่ฉันเบาๆ แต่ฉันกลับรู้สึกร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งๆที่ หัวใจ ถูกแช่แข็งไปแล้วแบบนั้น… ทำไมกลับยังมีความรู้สึกร้อนรน หวาดกลัว…
“รู้ดีไปซะทุกเรื่อง…” ฉันพึมพำพลางกลอกตาไปทางอื่น
“หึ…เธอก็น่าจะรู้จักนิสัยฉันดีไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ต้องพูดมากหรอก ฉันรู้”
“งั้นก็ดี เธออยากได้ตัวไอ้โชมันมากไม่ใช่เหรอ… ไม่งั้นคงไม่ซมซานมาหาฉันหรอก ใช่มั้ย…” เขาพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ๆ ก่อนใช้นิ้วชี้เกลี่ยผมที่ข้างแก้มของฉันอย่างช้าๆ…
เย็นยะเยือก…
ฉันรับรู้ได้อย่างเดียวเลยว่า ผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น ที่พร้อมจะแช่แข็งทุกหัวใจ
…นั่นอาจจะรวมฉันด้วย หัวใจที่ถูกแช่แข็งจนไม่รู้สึกรู้สาอะไรแบบนั้น
“ไม่ต้องย้ำมากหรอก ถ้าฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้ว ฉันกับนายก็จะได้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก!”
“…อย่างงั้นเลยเหรอ เธอกำลังคิดว่าฉันจะคิดแผนหรือไม่ก็ทำอะไรให้ง่ายๆงั้นเหรอ?”
“แล้วนายยังจะต้องการอะไรจากฉันอีก?”
“…ถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง” เขาพูดหน้านิ่งก่อนจะหันหลังแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เสียงประตูเงียบลง ก็เหลือแต่ฉันเพียงลำพัง ฉันทรุดตัวลงนั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนล้า
ฉันเคยมาห้องยูไดอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็มักจะเป็นเขาที่เฉยชาแบบนี้ ฉันจึงชินจนไม่รู้สึกว่ามันจะแปลกอะไรหากเขาจะพูดแล้วเดินหนีไปแบบนั้น
ใจหนึ่งฉันก็รู้สึกเกลียดตัวเองที่ร่วมมือกับผู้ชายที่เจ้าเล่ห์แบบเขา
ใจหนึ่งก็รู้สึกว่า เขาคือคนเดียวที่จะทำให้ฉันได้ทุกอย่างที่ฉันต้องการ
นี่ฉันกำลังเดินไปในทางที่ถูกต้องหรือเปล่า…
ฉันกำลังทำร้ายผู้ชายคนที่ฉันรักรึเปล่า… โชนายอย่าเกลียดฉันนะ ฉันหันหลังกลับไปตอนนี้ไม่ได้แล้ว และนายจะต้องเป็นของฉัน ของฉัน แค่คนเดียว…
[END HANAKO’S PART]
[MIKI’S PART]
ทุกอย่างสงบเงียบไปชั่วอึดใจ สถานการณ์กดดันค่อยๆจางหายไปพร้อมๆกับผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่ชื่อ ‘ยูได’ ผู้ชายที่แสนอ่อนโยนคนนั้น แต่ตอนนี้กลับ…
“โช นายอย่าเป็นอะไรไปนะ” ฉันพึมพำพลางกอดร่างของโชไว้แน่น สติเขาค่อนข้างพร่าเลือน เลือดค่อยๆไหลริน มันเปรอะเปื้อนตามเสื้อผ้าของฉันเต็มไปหมด
กลิ่นคาวเลือด… สีแดงฉาน… คละคลุ้ง… รอบตัวฉันไปหมด
“มิกิ ให้ฉันช่วยนะ” เร็นก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ยิ่งเป็นแบบนั้นฉันก็ยิ่งอยากร้องไห้หนักเข้าไปอีก
ฉันกำลังจะทำร้ายคนที่ตั้งใจจะช่วยฉัน…
แต่ฉันกลับเชื่อใจคนที่สั่งให้ฉันไปทำร้ายคนอื่น..
ตลกดีนะ… ถ้าไม่เป็นเพราะฉัน ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ต่างๆในตอนนั้น มันก็คงไม่เป็นแบบนี้
เร็นเข้ามาช่วยประคองตัวโชไว้ แน่นอนว่าให้ฉันประคองโชคงจะลำบากอยู่ไม่น้อย เขาตัวใหญ่กว่าฉันนี่นา…
“เราไปกันเถอะมิกิ เขาจะไม่เป็นไร” เร็นหันมาสบตาฉันแวบหนึ่ง รู้อะไรไหมเร็น… สายตาของนายกำลังทำให้หัวใจฉันเจ็บปวด
นายคงผิดหวังในตัวฉันมากสินะ…
“แค่เชื่อฉัน แล้วทุกอย่างจะดีเอง” เขาพูดออกมาเบาๆก่อนทะยานรถออกไปสู่เบื้องหน้า
….หนทางข้างหน้าที่เราทั้งหมดไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไร…
Talk with Me
ฮาโหลววว เค้าหายหัวไปนานมากเลยใช่ป่าว
ไรเตอร์ผิดไปแล้ววว ไหนใครอ่านตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคนี้
เรามาลองเดากันดูมั้ยว่าจะเป็นยังไง? : )
ขอถึง 50 เม้นต์ได้ไหมมมม
ความคิดเห็น