ตอนที่ 35 : บทที่ 35 มารดาของเย่ฉวน!1
บทที่ 35 มารดาของเย่ฉวน!1
ตระกูลเย่ เมืองชิง
ช่วงเวลารุ่งเรืองของตระกูลเย่ได้กลายเป็นอดีต หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือตระกูลเย่เกือบจะหายสาบสูญไปจากเมืองชิงแล้ว
ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลเย่เรืองอำนาจ พวกเขาก็ได้สร้างศัตรูไว้กับตระกูลอื่น ๆ ในเมืองชิงทั้งหมด และตอนนี้ตระกูลหลี่ ตระกูลจาง และจวนคฤหาสน์ก็ได้ล้างแค้นตระกูลเย่
เขตแดนและทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของตระกูลเย่ถูกตระกูลอื่น ๆ กลืนกิน สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนนี้บรรดาเด็ก ๆ ในตระกูลเย่ต่างไม่กล้าออกไปไหนทั้งสิ้น!
เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาออกไป แน่นอนว่าพวกเขาก็จะถูกทุบตีจนตาย!
ตอนนี้ตระกูลเย่ตกอับจนถึงขีดสุดเท่าที่ผู้คนจะจินตนาการได้!
ภายในคุกน้ำของตระกูลเย่ ตอนนี้อดีตผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลถูกขังไว้ที่นั่นราวกับสุนัขข้างถนน
ความหวังสุดท้ายของผู้อาวุโสแห่งตระกูลเย่ได้พังทลายลงหลังรู้ว่าเย่หลางถูกบั่นศีรษะ หลังจากนั้นเขาก็มีท่าทางวิปลาสเป็นครั้งคราว
ในวันนี้เอง เย่ชางก็มาที่คุกน้ำ
เย่ชางเข้าไปในคุกของผู้อาวุโสใหญ่ เขามองผู้อาวุโสใหญ่ในคุกอย่างเฉยชาและเอ่ยขึ้น “ท่านกับข้าสู้มาทั้งชีวิต ไม่คิดเลยว่าตระกูลเย่จะพังย่อยยับจากน้ำมือของเราเอง!”
ภายในคุกน้ำ ผู้อาวุโสใหญ่ก็เอ่ยประชดประชัน “เย่ชาง ทุกคนล้วนบอกว่าข้าสายตาสั้น แต่ท่านก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
เย่ชางพยักหน้าและเอ่ย “ข้าสายตาสั้นก็จริง แต่ตระกูลเย่ต้องไม่พังพินาศเพราะเรื่องนี้ สักวันหนึ่งเราจะต้องผงาดขึ้นได้อย่างแน่นอน!”
ผู้อาวุโสใหญ่แสยะ “ท่านยังคิดอยู่หรือว่าเขาจะเห็นแก่ความรู้สึกเก่า ๆ และดูแลตระกูลเย่ในวันข้างหน้า ? หากเป็นเช่นนั้นก็หยุดฝันกลางวันเสียเถอะ! ท่านรู้ดีกว่าทุกคน จากนิสัยของคน ๆ นั้นแล้ว เขาไม่สนตระกูลเย่อีกต่อไปแล้วในชีวิตนี้ เพราะตระกูลเย่ทำให้เขาผิดหวัง!”
เย่ชางเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นก็เอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียม “มีเรื่องหนึ่งที่ท่านไม่ควรลืมนะ กล่าวกันว่าเมื่อใดที่พลังยุทธ์ของบุคคลนั้นอยู่ในขั้นสูงระดับหนึ่ง เลือดของเขาจะเกิดการกลายพันธุ์ เป็นเพราะเขา คนที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขาจะกลายพันธุ์ไปและมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน”
“ท่านพูดจาเหลวไหล!”
ผู้อาวุโสแค่นเสียงเอ่ย “ผู้มีพลังแข็งแกร่งแบบไหนกันถึงมีความสามารถเช่นนี้ ? ข้าเกรงว่าในแคว้นเจียงจะไม่มีเลยสักคน อะไรทำให้ท่านคิดว่าเย่ฉวนคนนั้นจะมีความสามารถเช่นนั้นได้?”
เย่ชางเดินหน้าไปสองก้าวพลางยิ้ม “ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้าจึงกลับคำคัดค้านทั้งหมดแล้วแต่งตั้งเขาเป็นทายาทสายตรงในปีนั้น?”
ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองเย่ชางนิ่งโดยไม่เอ่ยอะไร
เย่ชางยิ้มและเอ่ยต่อ “นอกจากพลังส่วนตัวของเขาแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง - มารดาของเขา!”
มารดาของเย่ฉวน!
คิ้วของผู้อาวุโสใหญ่ย่นเข้าหากันเล็กน้อย แน่นอนว่าเขามีความประทับใจต่อบุคคลนั้น นางเป็นสตรีธรรมดาอย่างยิ่งที่จู่ ๆ ก็หายตัวไปเมื่อเย่ฉวนอายุได้สิบขวบแล้วหลังจากนั้นก็ไม่เห็นนางอีกเลย!
มือขวาของเย่ฉวนค่อย ๆ กำแน่น เมื่อมารดาของเย่ฉวนจากไปพร้อมกับชายชุดดำที่ประตูหลังของจวนตระกูลเย่ เขาเองก็อยู่ที่นั่นด้วย ในตอนนั้นเองเขาก็ได้เห็นว่าชายชุดดำที่อยู่เบื้องหลังมารดาของเย่ฉวนน่าหวาดผวาเพียงใด!
วิชาตัวเบา!
บุคคลผู้มีพลังแก่กล้าแบบไหนกันที่ยืนบนอากาศได้
ผู้มีพลังยุทธ์แข็งแกร่งในขั้นทะยานสวรรค์สามารถเหาะเหินบนท้องฟ้าได้เป็นเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ขณะที่บุคคลนั้นกลับลอยตัวอยู่กลางอากาศได้โดยไร้ซึ่งคลื่นปราณลึกลับรอบตัว!
จากนั้นพวกเขาก็บิดทะลวงมิติและหายตัวไป!
บิดทะลวงมิติ!
เขาเคยได้ยินเรื่องพวกนี้จากข่าวลือเท่านั้น!
นับจากนั้น เขาก็รีบแต่งตั้งเย่ฉวนเป็นทายาทสายตรงทันทีเพราะรู้สึกว่าสตรีลึกลับคงจะกลับมาพาตัวเย่ฉวนและน้องสาวจากไปในสักวันหนึ่ง ถึงตอนนั้นตระกูลเย่ก็จะได้กอบโกยผลประโยชน์มหาศาล!
แต่เขาไม่คิดเลยว่าสตรีผู้นั้นจะจากไปเกือบสิบปีและไม่หวนกลับมา พวกเขาไม่ได้ยินแม้แต่ข่าวคราวของนางเลยนับจากตอนนั้น
ถึงจุดนี้ เขาก็เริ่มเกิดความสงสัย!
เขาเริ่มคิดแล้วว่าเย่ฉวนกับน้องสาวคงถูกพวกเขาทอดทิ้ง!
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดที่มีต่อเย่ฉวน แต่เขาไม่คิดเลยว่าเย่ฉวนจะกลายเป็นผู้ฝึกกระบี่ได้อย่างลับ ๆ และมีพลังแข็งแกร่งมากกว่าเดิม เขารู้ว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับสตรีลึกลับผู้นั้นแน่!
เย่ชางพับเก็บความคิดของเขา เขาเหลือบมองผู้อาวุโสใหญ่ในคุกน้ำอย่างเย็นชา “ตอนนี้เย่ฉวนมีพลังแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อใด ตระกูลเย่ก็จะเป็นที่หัวเราะเยาะได้รับความอับอายมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเรายังทนไว้ได้จนกระทั่งเขามีพลังถึงจุดสูงสุดและมีสายเลือดเปลี่ยนแปลงไป แม้จะเป็นความหวังริบหรี่ แต่เราก็ยังมีบางสิ่งยึดถือไว้ได้อยู่ สำหรับเจ้า ผู้อาวุโสใหญ่ เจ้าไม่มีแม้กระทั่งความหวังเพียงเล็กน้อยเลยตลอดชั่วชีวิตของเจ้า ที่เราไม่สังหารเจ้าแต่ขังท่านไว้ที่นี่เพราะตระกูลเย่เราต้องการแสดงคำขอโทษแก่เย่ฉวน! เราจะรอจนกว่าเขาจะสงบลง ต่อให้ใช้เวลาเป็นสิบปี ยี่สิบปี หรือแม้แต่สามสิบปีก็ตาม ส่วนเจ้านั้นก็จงอยู่ที่นี่จนกระทั่งถึงวันตายนั่นแหละ!
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังจากไป!
ภายในคุกน้ำ ผู้อาวุโสใหญ่นิ่งไปครู่ใหญ่ จากนั้นเขาก็พลันระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเสียสติ!
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสใหญ่ก็ยิ้มกริ่มราววิปลาสและเอ่ยขึ้น “เย่ชางหนอเย่ชาง ท่านช่างโง่เขลายิ่งกว่าที่ข้าคิดเสียอีก!”
เขารู้ดีกว่าใครทั้งหมดเกี่ยวกับนิสัยของเย่ฉวน เย่ฉวนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น และเขาก็ยังเป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยวางความแค้นด้วย
สงบลงงั้นหรือ?
หากเขาเกลียดชังตระกูลเย่ มันก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขายังมีตระกูลเย่อยู่ในใจ ดังนั้นตระกูลเย่ก็จะยังมีหวังอยู่ แต่ตอนนี้เย่ฉวนไม่ได้รู้สึกแม้กระทั่งเกลียดตระกูลเย่แล้ว!
ในเมื่อมันไม่มีความเกลียดชัง พวกเขายังจะพูดเรื่องที่ว่าสงบลงได้อย่างไร?
...
สามวันต่อมาในเมืองพันภูผา
เมืองพันภูผาเป็นมหานครอันรุ่งเรืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นเจียงซึ่งรายล้อมด้วยภูเขานับไม่ถ้วน ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่าเมืองพันภูผา เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองเพราะเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งสำนักอัปสรเมรัยที่ว่าก็ตั้งอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
สำนักอัปสรเมรัยเป็นของกองกำลังลึกลับที่ตั้งสาขาอยู่ในเมืองนับร้อยของทวีปชิง และไม่ว่าเมืองไหนที่กองกำลังนี้ไป เมืองนั้นก็จะเจริญรุ่งเรืองในทันที!
เพราะพวกเขามีการขนส่งอย่างหนึ่งที่เรียกว่า เรือเหาะ!
สิ่งที่เรียกว่าเรือเหาะนั้นเป็นพาหนะบินได้ชนิดหนึ่ง เมื่อมีมันแล้วแต่ละเมืองก็ไม่อยู่ห่างไกลกันอีกต่อไป หรือกล่าวได้ว่าแต่ละแคว้นไม่ได้อยู่ห่างกันมากเลย
และในตอนนี้เขาก็จะไปยังเมืองพันภูผาและล่องเรือเหาะจากที่นั่นเพื่อไปยังเมืองหลวง!
สถานที่อันเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในแคว้นเจียง!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
