ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Endless War:Part 1 The Eldolus

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่6-หลบหนี

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 49


    บทที่ 6 - หลบหนี



        “จื๊ดๆๆ”เสียงหนูร้องวิ่งไปในห้องที่กว้างและมืดมิด มีเพียงแสงเล็กน้อยลอดออกมาจากลูกกรงที่อยู่ด้านบนสาดส่องลงมายังพื้นเบื้องล่าง พนังสี่ด้านทำด้วยอิฐที่แข็งแรงทนทาน ยากแก่การทำลาย ใช่แล้วมันคือห้องขัง



        อูย~~ เสียงครวญครางดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ณ.ที่แห่งหนึ่งในห้องขังนั้น



        ร่างอ้วนใหญ่ผิวสีดำ ผมขาว เซตัสนั้นเอง เขาลุกขึ้นมานั่งคลำที่ต้นคอของตัวเอง หน้าตาสลึมสะลือเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ก่อนที่จะสะบัดหัวไปมาเพื่อให้ประสาทตื่นเต็มที่ แล้วจึงสำรวจหันซ้ายหันขวา มองดูสิ่งต่างภายในห้องขัง



        ภายในห้อง เต็มไปด้วยผู้คนมากมายอาจจะมากกว่า30-40คนจากการประมาณของเขา บ้างนั่งบ้างนอนบ้างอยู่ตาม พื้นที่ต่างๆภายในห้องอย่างไร้ชีวิต ชีวา ไร้ซึ่งความหวัง เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาณ ราวกับซากศพไม่มีผิด



        เซตัสเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบน ลูกกรงเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นทางออกเอาไว้ทำให้ออกจากห้องนี้ไปไหนไม่ได้ เขาเห็นดังนั้นจึงก้มหน้าลงเพื่อทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



        เขาจำได้ว่า เขาถูกลากกคอเป็นตัวประกันของหัวหน้ากลุ่มโจรกะโหลกแดง แล้วถูกพาออกมาหลังจากนั้นเขารู้สึกเจ็บที่ด้านหลัง ก่อนจะหมดสติไป  แล้วเขาตื่นอีกทีในห้องขัง ที่นี่คงจะเป็น ห้องขังที่เหล่ากองโจรกระดูกแดงจับคนมาขังไว้เพื่อ ขายเป็นทาส แน่นอน



        ก่อนจะรู้สึกเจ็บที่ต้นคออีกหน ทำให้เขารู้สาเหตุที่ทำให้เขาสลบไปแล้ว



        อ๋อ รู้แหละมันฟาดเขาสลบนี่เอง - -a (จำไว้เดียวจะเอาคืนให้สาหัสเลยคอยดูหลายกระทงแหละ)



        พอได้คิดดังนั้นเขาจึงเริ่มสำรวจผู้คนที่ติดอยู่ในห้องขัง



        ในห้องขังเต็มไปด้วย ผู้ใหญ่ เด็ก คนชรา แต่ไม่มีหญิงสาว คงจะถูกจับแยกขังอีกห้อง ภายในห้องขัง เขาเห็นนัยน์ตาสีแดงคมกล้าคู่หนึ่ง มองมาที่เซตัส ในแววตาเจือปนไปด้วยความสงสาร จ้องมองอยู่ในมุมมืด



        นัยน์ตาสีแดงคู่นั้นลุกขึ้นยืนแล้ว เดินตรงมายังเซตัส แสงที่ส่องมาจากด้านบน ทำให้เห็นหน้าเจ้าของสายตาคู่นั้น



        เขามีผมลองทรงสั้นสีทอง นัยน์ตาสีแดงดุดัน ประกายตาแฝงไปด้วยความเร่าร้อน ใบหน้าคมเข้มแต่ออกแนวหวานๆราวกับหญิงสาว ลับกับผิวสีแทนอย่างกับคนที่มาจากทะเลทราย รูปร่างสมส่วน กล้ามนื้อแขนเป็นมัดๆ เขาสวมเสื้อคุม ใหญ่สีน้ำตาล เดินตรงมายังเบื้องหน้าเซตัส



        เขาหยุดอยู่เบื้องหน้าเซตัสแล้วนั่งยองๆลงจ้องมองเซตัสก่อนจะยิ้มแล้วถามไปว่า



        “เป็นไงมั้งนาย บาดเจ็บตรงไหนบ้างไหม”เขากวาดตาสำรวจตามร่างกายของเซตัส ดูบาดแผล



        “อืม ไม่เป็นไรมากหรอกฉันโดนมันฟาดท้ายทอยสลบแล้วลักพามาน่ะ”



        “ตอนนายเข้ามาในนี้ ฉันเห็นมันโยนนายลงมา ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม อืมงั้นโชคดีไป อ๋อ ขอโทษฉันลืมแนะนำตัวไปสวัสดี ฉันชื่อ เลย์เฟอเทีย โซลคิส เรียกสั้นว่า เลย์ก็ได้”เขายื่นมือขวาออกมา สื่อความหมายต้องการจับมือด้วย



        “ฉันชื่อ เซตัส เบนาวิส ยินดีที่ได้รู้จักเลย์”เซตัสยื่นมือขวาออกมาจับมือกับเลย์ เพื่อนใหม่ที่เขารู้จักในยามนี้



        “นายมาจากไหนหรอเลย์” เซตัสถามเลย์หลังจากเขยิบให้เลย์นั่งข้างๆแล้ว    



        “ฉันมาจากซีลอทน่ะ ผ่านทางมาเพื่อจะมุ่งหน้าไปแกรนชายพร้อมกับพี่ แต่โชคร้ายชะมัดดันไปพักโรงแรมโจรเข้าเลยโดนมอมสลบ ยังไม่ทันได้ต่อสู้เลย ก็โดนจับริบอาวุธไปแล้ว”



        เขากำหมัดแน่แล้วชกหมัดเข้ากลางฝ่ามือตัวเองอย่างเจ็บแค้นแล้วจึงพูดต่อไปว่า



        “ถ้าฉันได้สู้น่ะรับร้องฉันไม่ถูกจับมาอย่างงี้หรอกคิดแล้วน่าเจ็บใจ ไม่น่าเสียรู้พวกมันเลย พวกเราเดินทางครั้งแรกเลยประมาทไป”



        “อ้าว แล้วพี่นายอยู่ไหนล่ะ”เซตัสกวาดสายตาควานหาผู้ที่คิดว่าน่าจะเป็นพี่ของเลย์ดู



        “พี่ฉันเขาไม่ได้อยู่ในนี้หรอกเขาโดนจับแยกอีกห้องนึง อ๋อขอโทษ ยัยนั้นเขาเป็นผู้หญิงน่ะ”ก่อนที่จะพึมพำเบาๆว่า



    “ถึงนิสัยจะไม่ใช่ก็เถอะ”ก่อนที่จะหัวเราอย่างแห้งอยู่คนเดียว



    “ฮะ นายว่าอะไรน่ะ”เซตัสเงี่ยหูฝังสิ่งที่เลย์พูดเมื่อกี้



    “อ๋อ เปล่า ฉันบอกว่า เราสองคนเป็นฝาแฝดกัน”แล้วยิ้มมองดู



        “อืม งั้นพี่นายหน้าตาเหมือนนายเลยดิ งั้นก็คงสวยใช่ไหมนั่น”เซตัสฉีกยิ้มให้เลย์ไป



        “ก็สวยน่ะ แต่ขอบอกว่า อย่าคิดจีบดีกว่าจะบาดเจ็บสาหัสไม่รู้ตัว”เลย์พูดด้วยสีหน้าซีดๆก่อนที่จะมองคนข้างหน้าด้วยสีหน้าขำๆ



        “อีกอย่างอย่าคิดว่าฉันดูถูกนายเลยน่ะ แต่ อย่างนายไม่ใช่สเป็กเจ๊เขาเลยขอบอก”



        “ว้า~~งั้นแย่จริงเสียด้ายจัง



        แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะออกมาทั้งคู่



        “เอาล่ะเลิกเล่นกันดีกว่า ฉันมีไรจะถามนายหน่อย”เซตัสเลิกทำหน้าขำแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง



        “ว่ามามีไรหรอ”



        “นายโดนจับมาแล้วกี่วันอ่ะ”



        “ฉันกับพี่โดนจับมาแล้วสองวัน ถ้านับวันนี้ด้วยก็สามแหละ”



        “อืมแล้วนายเคยลองหาทางออกมั่งป่ะ”



        “เคยสิ ฉันเคยลองทำลายกำแพงดูน่ะแต่พอลองดูแล้วมันไม่ไหว อิฐหินขาว หนามากทำลายไม่ได้ง่ายๆละอีกอย่างฉันว่ามันถูกฝังอยู่ใต้ดินด้วย”



        “อืมแล้วนายเคยลองใช้เวทย์ดูมั้งไหมว่าใช่ได้หรือป่าว”



        เลย์ส่ายหัวไปมาก่อนจะตอบไปว่า



        “ฉันใช้เวทย์ไม่เป็นฉันใช้เป็นแต่ดาบ ฉันฝึกกับพี่มาตั้งแต่เด็กแล้ว ฉันคิดว่าฉันใช้ดาบได้ดีน่ะแต่เวทย์ฉันยังไม่เคยฝึกเลย เลยยังไม่เคยทดลองดูเลย”



        “อืมงั้นหรองั้น ขอฉันลองดูหน่อยน่ะ”



        เซตัสหลับตาพร้อมท่องพึมพำออกมา



        สักพักเซตัสลืมตาออกมาแล้วจึงหันไปพูดกับเลย์ว่า



        “ฉันว่าแล้วว่าพวกมันต้องกางข่ายมนต์ สยบมนต์ตราไว้อยู่แล้วมิน่า ถึงไม่มีใครใช้เวทย์ได้”



        “งั้นเราก็ไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่เลยน่ะสิ”เลย์พูดด้วยน้ำเสียงท้อแท้



        “เลย์ถ้าฉันบอกว่าฉันมีวิธี นายจะเชื่อฉันไหม”เซตัสส่งสายตาแน่วแน่ไปที่เลย์



        เลย์มองดูตาคู่นั้นแล้วพยักหน้าตอบไป

        

        “ฉันเชื่อนาย”แปลกทำไมเขาถึงเชื่อมั่นในตัวเพื่อนใหม่ที่เขาเพิ่งพบยังไม่ถึงวันเลย มันเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นว่าคนตรงหน้านี้จะต้องทำอย่างที่เขาพูดได้ เพราะอะไร เขาไม่อาจจะหาคำตอบที่แน่นอนให้ใจของตัวเองได้หรืออาจเป็นเพราะสายตาที่เพื่อนใหม่ผู้นี้มองมาที่เขากระมัง ที่ทำให้เขารู้สึกเชื่อในตัวของเซตัส



        “แล้วถ้าฉันบอกว่าวิธีที่ของฉัน มันเสี่ยงอันตรายอาจถึงตายนายยังจะทำไหม”



        เลย์นิ่งเงียบสักพักก่อนที่จะ ถอนหายใจแล้วตอบไปว่า



        “ฉันจะทำ ถึงจะเสี่ยงอันตรายแต่มันก็มีโอกาสรอดใช่ป่ะ ดีกว่ามานั่งรอพวกจัดการอย่างเดียวฉันรับไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอสู้กะพวกมันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย”



        เซตัสยิ้มแล้วก็ตบบ่าเพื่อนใหม่ของเขาเบาๆอย่างให้กำลังใจ



        “ว่าแต่ว่าแล้วเราจะออกไปยังไงล่ะ”ก่อนจะนั่งคอตกเอนหลังพิงกำแพงต่อ



        “แล้วใครว่าเราออกไปไม่ได้ล่ะ ฉันสามารถทำลายห้องขังนี่ออกไปได้แต่……..คงต้องขอความร่วมมือจากทุกคนในห้องขังนี้ด้วยน่ะ”



        “จริงน่ะ!! นายทำได้แน่น่ะ”เลย์หันขวับมาจับบ่าเซตัสเขย่าอย่างดีใจ



        “ฉันทำได้แต่ตอนนี้ นายไปเรียกทุกคนในห้องขังมาคุยกันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องจะปรึกษาด้วย”



        เลย์แยกย้ายไปแจ้งข่าวทุกคนในห้องขัง ในไม่ช้าทุกคนในห้องขังก็มาชุมนุมกัน



        เซตัสนั่งลงตรงกลางเขาสูดลมหายใจลึกก่อน ที่จะพูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า



    “ทุกคนทำตามที่ผมบอก ถ้าสำเร็จเราทุกคนจะหนีออกจากที่นี่ปลอดภัยกันทุกคน ตกลงไหมครับ”



        หลายคนทำหน้าดีใจบอกจะให้ความร่วมมือเต็มแต่ก็อีกหลายคนก็ดูไม่ค่อยเชื่อถือเซตัสเท่าไรนัก



        เซตัสกวาดตามองเหล่าผู้คนต่างๆเขารู้ตัวว่าตัวเองไม่เป็นที่เชื่อถือเท่าไรนัก เขาจึงยิ้มแล้วพูดไปว่า



        “ผมรู้ หลายท่านในนี้ไม่เชื่อถือผม อาจจะเป็นเพราะว่าพวกท่านยังเห็นว่าผมเป็นเด็กหรือ เห็นสารรูปผมแบบนี้ ก็เถอะ แต่ผมอยากให้เชื่อมั่นในผมเถอะ ยังดีกว่าไม่ลองทำดูก่อนแล้วเราจะรู้หรอครับว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ ผมว่าดีกว่ามานั่งรอคอยชะตากรรมอย่างเดียว โดยที่ไม่ทำอะไรเลย



    น้ำเสียงของเซตัสเป็นน้ำเสียงที่จริงจังและเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอย่างมาก  จนกลุ่มที่ทำสายตาไม่น่าเชื่อถือเริ่มยอมรับ



    “แล้วเจ้าจะทำยังไง เราลองมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะขุดเจาะกำแพงหรือทำลายมัน เวทย์ก็ใช้ไม่ได้เพราะกำแพงมีข่ายมนต์สยบมนตราอยู่ทำให้ร่ายเวทย์ไม่ได้ แล้วเจาจะทำยังไงลองบอกพวกเรามาสิ”



    เสียงของชายคนนึงในกลุ่มของเหล่าผู้ไม่เชื่อมันในตัวเซตัสกล่าวออกมา



        เซตัสยิ้มแล้วกล่าวออกมาอย่างอารมณ์ดี



        “มีใครที่พอที่จะต่อสู้ได้มั่งครับ”



        หลายคนยกมือ  มีคนที่พอต่อสู้ได้ถึงสิบสองคนยังไม่นับรวมเซตัสและเลย์ที่อยู่ในนี้ด้วย



        เซตัสสอบถามถึงความสามารถในการต่อสู้ของแต่ล่ะคนดู ผลปรากฏว่า มีนักรบอยู่ห้า นักเวทย์สาม นักธนูสอง ที่เหลืออีกสองคนเคยเป็นนักบวชมาก่อนพอใช้เวทย์รักษา



        เซตัสแบ่งคนออกเป็นสามกลุ่ม และแบ่งหน้าที่ไว้สามอย่าง



    โดยกลุ่มแรก คือเซตัสกับเลย์ นักรบและอดีตนักบวชอย่างล่ะคน ทำหน้าค้นหาคนที่ถูกจับคนอื่นๆและ ช่วยเหลือไปยังที่ปลอดภัย



    กลุ่มที่สองมีหน้าที่ทำหน้าที่ก่อกวนและเบนความสนใจของเหล่ากองโจรเป็นหลัก ในกลุ่มจะมี สองนักรบ สองนักเวทย์ สองนักธนูและหนึ่งนักบวช



    กลุ่มสุดท้ายคุมกันคนที่ต่อสู้ไม่ได้ให้ไปที่ปลอดภัยและอยู่คุ้มกันไว้ มีสองนักรบและหนึ่งนักเวทย์อยู่



    หลังจากแบ่งกลุ่มเสร็จเรียบร้อยแล้วปัญหาที่ตามมาคือพวกเขาไม่มีอาวุธที่จะใช้ต่อสู้อยู่เลยเพราะอาวุธได้ถูกริบมาตั้งแต่ตอนโดนจับแล้ว



    “ไม่ต้องห่วงครับ แผนการของผมเป็นแบบนี้น่ะครับ”เซตัสพูดอธิบายแผนการทั้งหมดไป



    สักพัก หลังจากที่บอกแผนการเสร็จเรียบร้อยแล้วเซตัสกวาดตาองแล้วถามเหล่าผู้ร่วมแผนการ



    “มีใครสงสัยอะไรอีกไหมครับ ถ้าไม่มีขอให้แยกย้ายทำตามแผนการน่ะครับ”



    ผู้คนตรงนั้นพยักหน้าและแยกย้ายไปเตรียมตัวทันที



    เลย์หันมามองหน้าเซตัสแล้วถามไปว่า



    “นายจะออกจากที่นี่ยังไง”เลย์ถามอย่างสงสัย



    เซตัสไม่พูดอะไรเขายิ้มแล้วเขาก็ล้วงมือไปที่เข็มขัดของเขา เขาชักการ์ดออกมาใบนึงออกมา



    เซตัสอมยิ้มมองไปที่เลย์



    “ด้วยไอ้นี่ไง “เซตัสชูการ์ดให้เลย์ดู



    “อะไรอ่ะ”เลย์เกาหัว แกรก งงในสิ่งที่เซตัสเอามาให้ดู



    เซตัสยิ้มแล้วพูดไปว่า “ช่างเถอะ เอาเป็นว่ามันช่วยเราหนีได้ล่ะกัน”



    “กระดาษใบเดียวเนี่ยน่ะ”เลย์มองเซตัสด้วยสายตาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร



    “ดูน่ะ”ว่าแล้ว เซตัสก็ใช้มันทันที



    “จงออกมา Spirit of Shadow ข้าขอปลดปล่อย (Release)”



    การ์ดในมือของเซตัสเปล่งแสงสีขาวแล้วก็หายไป แต่แล้วเงาที่ยู่ใต้เท้าของเซตัสกลับยืดขยาย และผุดร่างสีดำสวมผ้าคลุมสีดำอันมืดมิดมองไม่เห็นข้างในว่ามีรูปร่างยังไงออกมา ยืนอยู่เบื้องหน้าเซตัส



    “Shadow ค้นหาผู้ที่ถูกขังไว้ที่อื่น และหาตำแหน่งที่เก็บอาวุธ มาโดยด่วน”เซตัสออกคำสั่งกะร่างสีดำเบื้องหน้า



    ร่างสีดำค่อมหัวและ จมกลับไปที่เงาของเซตัสอีกครั้ง



    Summon Card ไอ้หนูเอ็งเป็นใคร”นักเวทย์คนนึงพูดขึ้นอย่างตกใจ สายตาตื่นตะลึงที่มองมายังร่างอ้วนๆ กลมๆของเซตัสเป็นจุดเดียวกัน



    เซตัสยิ้มไม่ตอบคำ ก่อนที่จะพึมพำอยู่คนเดียวเบา



    “อยู่ในร่างนี้ พลังเวทย์มีน้อยแหะ คงโดนกำไลสะกดไปด้วยล่ะมั้ง”



    ทันใดนั้นเอง ภูตเงากลับมาผุดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อมศีรษะอีกที



    “กลับมาแล้วหรอ เป็นยังไงมั่งที่สั่งไป อ๋อ อืมรู้แหละพาไปทีล่ะกัน” [มันเหมือนคนบ้าไงไม่รู้แหะ - -a]



    เซตัสหันไปหาเลย์ก่อนที่จะถูกดูดกลืนหายเขาไปในเงา



    “รอ แปป เดียวฉันมา” เขาหายเข้าไปในเงามืด



    เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของเลย์ เขากระวนกระวาย กลัวแผนจะไม่สำเร็จ กลัวหนีออกไปไม่ได้ ใครล่ะไม่ต้องการอิสรภาพมั่ง



    จนกระทั่ง มีเสียงเกิดขึ้นด้านบน



    แกร๊ก!!  ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูกรงด้านบน เลย์เห็นเด็กหนุ่มรูปร่างอ้วนผิวดำ ยืนอยู่ข้างบนพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้  



    “ฉันมาแหละ”เซตัสยิ้มพร้อมส่งดาบสองออกมาสองเล่ม กับไม้คทาออกมาหนึ่งเล่ม ยื่นส่งให้กับกลุ่มสามที่ต้องรับหน้าที่คุ้มกันคนที่ต่อสู้ไม่ได้



    “เอาล่ะเริ่มตามแผนกันเลย กลุ่มสามรอจนสัญญาน่ะครับ แล้วอพยพไปยังที่ๆผมบอก อย่าช้าน่ะครับ ส่วนคนที่เหลือตามผมไปเอาอาวุธ แล้วทำตามแผน ไปครับ”



    เซตัสเดินนำไปอย่ารวดเร็ว ตลอดรายทาง เลย์เห็น เหล่าโจรทั้งหลายสลบมอดกันอย่างเป็นทิวแถว เขาสันนิฐานว่านั่นคงเป็นฝีมือเซตัสแน่นอน



    เขามองข้างหลังเซตัสอย่างสงสัย ทำไมเพื่อนใหม่ของเขาคนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกลึกลับ เสียจริง



    เซตัสพาทั้งหมดมายังคลังอาวุธ ทุกคนแยกย้ายกันหยิบฉวยอาวุธ เลย์หยิบดาบใหญ่สีเงินสองเล่ม ซึ่งดูท่าทางแล้วคงหนักไม่ใช่เล่นเลย(มันถือเขาไปได้ไงฟ่ะ - -a)



    พอทุกคนอาวุธครบมือแล้วจึงแยกย้ายทำตามแผนในทันที



    ในไม่ช้า มีเสียงแอะอ่ะดังขึ้น เสียงระเบิด เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นเป็นที่ใหญ่ๆ



    เซตัสและกลุ่มหนึ่งวิ่งตรงไปห้องคุมขังอีกแห่งปลดปล่อยผู้ที่ถูกคุมขังออกมา มีทั้งเด็ก สตรีทั้งหลาย และรีบพาไปหลบภัยในที่วางแผนกันเอาไว้



    เซตัสปล่อยผู้หญิงที่เหลือ กลุ่มสุดท้ายที่ข้างในมีแต่ผู้หญิงหน้าตาดีออกมา



    “พี่ ฉันอยู่นี่”เลย์พุ่งเขาไปหาหญิงสาวนางนึงในนั้น



    เธอมีหน้าตาคล้ายกับเลย์อย่างกับคนเดียวกันแต่ที่แตกต่างคือ เธอ มีผมสั้นยาวถึงต้นคอสีเขียว แต่นัยน์ตาของเธอมีสีแดงแต่แฝงไปด้วยความสุขุมเยือกเย็นผิดกับน้องชายของเธอ ด้วยหุ่นสูงผอม และผิวสีทรายเลยทำให้เธอดูเซ็กซีในสายตาของใครหลายๆคนต้องหลงใหล



    “เลย์นายหนีออกมาได้ยังไง แล้วปลอดภัยไหม”ดูเธอดีใจที่เห็นน้องชายของเธอปลอดภัยก่อนจะมองตามตัวค้นหาบาดแผล อย่างกังวล



    “ผมปลอดภัยดี เพื่อนใหม่ผมเขาเป็นคนวางแผนช่วยคนออกมาแน่ะ”เขาชี้นิ้วไปที่เซตัส เธอหันไปมองก่อนทำหน้า งงงง



    “อ๋อ ผมลืมแนะนำไป พี่นี่เพื่อนใหม่ผมชื่อเซตัส ส่วนเซตัสนี่พี่สาวฉันเองชื่อมารีเซีย เรียกเจ๊แกว่ามารีก็ได้”



    เซตัสผงกศรีษะทักทายไป ก่อนที่จะหันไปหาเลย์แล้วบอกว่า



    “รีบไปก่อนที่พวกมันรู้ตัวรีบไป”



    เลย์ยื่นส่งดาบเล่นหนึ่งให้มารีแล้วทั้งหมดพาเหล่าหญิงสาวมุ่งหน้าไปที่ปลอดภัยทันที



    ในขณะที่เซตัส เลย์ มารกะลังพาคนมุ่งหน้าไปที่ปลอดถัย เหล่ากองโจรรู้ตัวและไล่ตามมาทันแล้ว มันไล่อยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว เลย์หันไปมองแล้วหันกลับมาหาซัตส



    “เซตัสเดียวฉันกับพี่จะสกัดไว้ก่อนน่ะ เดียวพอช่วยคนได้ทั้งหมดแล้วยิงสัญญาณที่ตกลงไว้ ฉันกับพี่จะถอยไปสมทบที่หลังตกลงไหม”



    เซตัสหันไปมองหน้าเลย์ก่อนที่จะตัดสินใจ พยักหน้า สองศรีพี่น้องเลยหยุดวิ่งเตรียมรับการปะทะในทันที



    เซตัสวิ่งมุ่งหน้าต่อไปแต่ก่อนไปยังหันกลับมาตะโกนบอกว่า”อย่าลืมทำตามแผนน่ะ”



    เซตัสพาคนทั้งหมดไปยังที่ ที่ปลอดภัยและเรื่มสร้างข่ายมนต์คุ้มครองทันที นิ้วมือของเขาเปล่งแสงสีทองอร่ามขีดเขียนอักษรลงบนพื้น เขาวาดข่ายเวทย์มนต์เสร็จอย่างรวดเร็ว วงกลมไสยเวทย์วงใหญ่ เก้าวง ล้อมรอบเหล่าผู้ที่หนีมาเป็นวงกลม



    เซตัสบอกแก่พวกผู้หลบหนีว่าอย่าออกนอกวงกลม ไม่งั้นจะเข้าไปอีกไม่ได้และ จะไม่ปลอดภัยและข้อร้องให้อยู่แต่ในนั้นรอจนเขากลับมา เขาหันไปทางทิศตะวันออกแล้วร่ายเวทย์ทันที



    “ข่ายมนต์เก้าเทพผู้พิทักษ์”



    เซตัสเปิดข่ายมนต์ทันที และร่ายอีกเวทย์ต่อ



    “เซโนม่อน ราลอสซีม บอลเพลิงประลัยกรรณ์”



    เซตัสส่งลูกไฟขนาดใหญ่ออกจากฝ่ามือพุ่งขึ้นฟ้า



    ฟิ้ว~~ลูกไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว เซตัสกำมือซ้ายอย่างรวดเร็ว



    บรึ้ม!!บอลเพลิงที่พุ่งไปบนฟ้า เกิดระเบิดในทันใดก่อให้เกิดแสงสว่างขนาดใหญ่และเสียงระเบิดอันกึกก้อง มันคล้ายเป็นพลุสัญญาณที่ยิ่งขึ้นสู่ฟ้า ใช่แล้วนี่คือพลุสัญญาณ ที่เซตัสวางแผนตกลงให้กลุ่มที่หนึ่งถอนกลังหลบหนีไปนั่นเอง



    หลังจากเซตัสร่ายเวทย์ทั้งหมดเสร็จสิ้น เขาถึงได้เข่าทรุดลงพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน



    (ดูท่ากำไลปลอมแปลงจะกักพลังเวทย์ของเรา ทำให้เราใช้ได้ไม่ถึงครึ่งของปรกติเลย เห้อ!! แย่จัง)เซตัสถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน



    เซตัสรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือลุกขึ้น เขาชักเป็นห่วงสองพี่น้อง ทำไมไม่มาสักที



    ตูม!! เสียงระเบิดดังขึ้นจากทิศทางที่เขาพาคนหนีมาไม่ไกลจากที่นี่มากนัก เซตัสรีบมุ่งหน้าไปที่ต้นเสียงในทันที พร้อมทั้งร่ายเวทย์ปลดผนึกกำไลออก กลับสู่ร่างเดิมอย่างรวดเร็ว



    เขามาถึงสถานที่เป็นต้นเสียงแล้ว ภาพที่ปรากฏตรงหน้า เขาเห็นโจรจำนวนมากนอนตายอยู่ที่พื้น เขากวาดตามองหาสองพี่น้องอย่างรวดเร็ว เขาเจอแล้ว



    เลย์อาบเลือดท่วมตัว มีแผลผุผองหลายแห่งตามร่างกาย นอนนิ่งอยู่ที่พื้นส่วนมารีพี่สาวของเรย์กะลังกัดฟันต่อสู่กับคนๆนึงอย่างอยากลำบาก ในมือเธอถือดาบเล่มใหญ่ของเลย์  เสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือด และรอยไหม้มากมาย แต่ดูจากแววตาของเธอ เธอยังมุ่งมั่นที่จะต่อสู้อยู่อย่างไม่ยอมแพ้ แม้ว่าตามตัวจะดูสาหัสก็ตาม ส่วนอีกคน เขาสวมผ้าคลุมสีดำอย่างมิดชิด มือสวมถุงมือสีดำดูน่ากลัว ใบหน้าที่มองเห็นเขาสวมหน้ากากสีแดงแวววาวไว้เป็นรูปกะโหลก ในมือถือเคียวใหญ่สีดำ ดูลึกลับน่าสะพรึงกลัว รอบเคียวมีวิญญาณบินวนรอบๆอยู่



    ทั้งสองพลัดกันรุกพลัดกันรับแต่ดูท่า…..มารีจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างหนัก



    เซตัสเตรียมจะโดดเข้าไปช่วยแต่ไม่ทันแล้ว



    ตูม!!มารีก็โดนเวทย์ระเบิดเพลิงปลิวไปไกลนอนนิ่งอยู่กับพื้นแล้ว



    คนสวมหน้ากากพุ่งตามเตรียมเอาเคียวเสียบไปที่มารึที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นต่ออย่างรวดเร็ว



    ฟิ้ว~~ แท่งน้ำแข็งจำนวนมากพุ่งเขาหาคนใส่หน้ากากก่อนที่เขาจะถึงตัวมารีแล้วฟันลง ทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจดึงเคียวกลับมาฟันน้ำแข็งทิ้ง พร้อมทั้งถอยออกมาตั้งหลัก พร้อมทั้งหันไปมองยังทิศทางที่แท่งน้ำแข็งพุ่งมา



    คนใส่หน้ากากไม่พบอะไร แต่ทันใดนั้นเอง เขาได้ยินเสียงถอนหายใจดังขึ้น กับทิศทางเดียวกับที่คู่ต่อสู้ของเขานอนแน่นิ่งอยู่



    ชายผมสีทองยาวถึงกลางหลังแล้วรวบด้วยที่รัดผมสีดำ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมลุกขึ้นยืนมาประจันหน้ากับเขาทันที



    เด็กหนุ่มนัยน์ตาสีทอง แววตาสงบนิ่งไม่สามารถจับอารมณ์อะไรได้ มองมายังคนใส่หน้ากากกระโหลกอย่างเย็นชา ทำให้คนใส่หน้ากาก ผงะถอยหลังไปก้าวใหญ่ ก่อนจะมีสติถามไปว่า



    “นายเป็นใคร” เสียงแหบห้าวดังลอดออกมาจากหลังหน้ากากกะโหลกสีแดง



    “ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ฉันมาช่วยเพื่อนของฉัน ก็เท่านั้นเอง ถ้าไม่มีธุระอะไรโปรดหลีกไป”เซตัสตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา



    “เพื่อนนายคนไหนล่ะ อย่าบอกน่ะว่านังนั่น”



    “ถ้าใช่แล้วจะทำไม”เซตัสมองไปยังคนใส่หน้ากากอย่างท้าทาย



    “งั้นแกก็ตาย”เสียงแหบห้าวคำรามอย่างเดือดดาด



    “ถ้าคุณทำได้ก็ลองดู”เซตัสตอบคำพร้อมส่งรอยยิ้มอย่างเย็นชาไปให้อย่างท้าทาย

















    สวัสดีปีใหม่ทุกคนน่ะครับ ขอให้ปีนี้ทุกคนมีความสุขกันทั่วหน้า

    น่ะครับ และขออำภัยอย่างสูงที่เอามาลงช้า แหะๆฉลองปีใหม่เผลิญไปนิด

    อย่าลืมน่ะครับขอ คอมเม้นเยอะๆและขอขอบคุณที่ติดตามผลงามผมน่ะครับ



    สุขสันต์ปีใหม่ทุกท่านน่ะครับ    ผู้จารึกจากบูรพา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×