ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรวารี [ภาคหนึ่ง]

    ลำดับตอนที่ #3 : เริ่มเรียนรู้

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 49


    สวัสดีปีใหม่ไทยค่า^^



         แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างลงมายังพื้นบ้าน เสียงต๊อกแต๊กดังตามจังหวะที่แผ่นไม้สองแผ่นกระทบกัน เส้นใยสีขาวค่อยๆเลื่อนเรียงกันจนเกิดเป็นรูปเป็นร่าง เครื่องทอผ้าแบบโบราณทำจากไม้กำลังถูกใช้งานโดยหญิงสาวคนหนึ่ง หน้าตารูปร่างที่สวยงามราวกับนางฟ้ากลับสามารถใช้เครื่องทอผ้าได้อย่างคล่องแคล่ว

         "มองอะไรเหรอจ้ะ?" หลีหลินหยุดแล้วถามเด็กสาวที่เอาแต่จ้องเครื่องทอผ้าเงียบๆมานานสองนาน เธอส่งยิ้มให้อาเหมยแล้วรอดูปฏิกริยาว่าเธอต้องการสื่อสารอะไร

         อาเหมยส่ายหน้าเร็วๆแล้วก้มหน้า หลีหลินจึงลองมั่วๆถามดูเผื่อจะถูก "อยากทอผ้างั้นเหรอ"

         อาเหมยหน้าแดงแล้วส่ายหน้า เธอแค่มาดูว่าพี่หลีหลินกำลังทำอะไรอยู่เท่านั้นเอง เด็กสาวมาอยู่ที่นี่ได้3วันแล้วและกำลังอยู่ในช่วงที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆในดินแดนแห่งนี้

         "ไม่ต้องเกรงใจ พี่จะสอนให้" หลีหลินลุกขึ้นมาจากเครื่องทอผ้าแล้วจับตัวอาเหมยมานั่งที่เครื่องนั้นแทน เด็กสาวทำอะไรไม่ถูกเลย หลีหลินจึงค่อยๆสอนไปทีละอย่างทีละขั้น


    ---------


         ห้องๆหนึ่งซึ่งค่อนข้างอบอ้าวและเต็มไปด้วยถ่านหินกับเศษเหล็ก อาวุธมากมายถูกวางเรียงๆในห้อง อาวุธที่สวยงามถูกวางใส่ในชั้นอย่างดี ส่วนอาวุธที่ทำผิดพลาดหรือที่เรียกว่ากองเศษเหล็กถูกกะเกะอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง อาเหมยแง้มประตูดูก่อนจะเข้าไป

         ชายวัยกลางคนร่างกายกำยำนั่งอยู่กลางห้องโดยหันหลังให้กับประตู กองไฟด้านข้างลุกโชนอย่างแรงจนแผ่ความร้อนมาถึงนอกห้อง เขากระหน่ำค้อนเล็กๆลงไปบนทั่งเหล็ก ก่อนจะยกบางอย่างขึ้นมาชมแล้ววางมันลงบนผ้าขาวด้านข้าง

         "ใครน่ะ" ชายวัยกลางคนถามด้วยเสียงเหี้ยม ปกติลูกๆหรือภรรยาเขาจะไม่มากวนในเวลานี้เด็ดขาด ชายวัยกลางคนถามอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังและน่ากลัวกว่าเก่า "ฉันถามว่าใคร"

         อาเหมยเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปโดยตีหน้าเศร้า ไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูเพียงแต่เดินผ่านมาเฉยๆเท่านั้นเอง ชายวัยกลางคนหันมามองเด็กสาวแล้วทำท่าแปลกใจเล็กน้อย

         "อาเหมยเองเหรอ เฮ้อ" ชายวัยกลางคนทำท่าถอนหายใจ ลืมไปว่ามีเด็กผู้หญิงคนใหม่อยู่ในบ้านนี้ด้วย "แล้วมาที่นี่มีอะไรรึเปล่า"

         อาเหมยส่ายหน้า วิธีสื่อสารกับคนในบ้านนี้ก็มีแค่ส่ายหน้ากับพยักหน้าเท่านั้น ตอนนี้เธอยังพูดไม่ได้แต่ก็เริ่มจะชินแล้ว เธอหันไปมองสิ่งที่อยู่บนผ้าสีขาวด้วยท่าทางสงสัย

         ชายวัยกลางคนยกสิ่งที่อยู่บนห่อผ้าขึ้นมาให้เด็กสาวดู ดาบเล่มสวยที่ถูกตีขึ้นมาอย่างปราณีตบรรจง ใบดาบสีเงินคมกริบส่องแสงวิบวับ อาเหมยมองแล้วตะลึงไปเล็กน้อย เธอพึ่งเคยเห็นดาบจริงๆเป็นครั้งแรก

         "ระวัง มันร้อนนะ" ชายวัยกลางคนค่อยๆส่งดาบให้โดยใช้ผ้ารองด้ามเอาไว้ อาเหมยรับมาถือในมือแล้วทำตาเป็นประกาย ตอนนี้เธอกำลังถือดาบอยู่

         ชายวัยกลางคนหยิบดาบออกจากมืออาเหมยอย่างรวดเร็วแล้วเก็บแล้วฝัก "คราวหลังห้ามมาเล่นที่นี่อีกมันอันตราย เข้าใจไหม" เขาเตือนเหมือนพูดกับเด็กๆแล้วเอาดาบไปวางเก็บบนชั้น อาเหมยทำท่าน้อยใจเล็กๆ ขอสักครั้งเธออยากลองใช้ดาบดู

         "ถ้าอยากใช้ไว้วันหลังจะสอนให้ละกัน" เขาพูดเหมือนกับอ่านใจออก "แต่ตอนนี้ไปให้ฟูหลงสอนสิ แล้วถึงจะให้จับของจริง" ชายวัยกลางคนดันตัวเด็กสาวออกไปนอกห้องแล้วจัดการล็อคประตูอย่างแน่นหนา ติดป้ายไว้ด้วยว่า'ห้ามเข้า'

         "ทีนี้จะไปเที่ยวที่ไหนก็ไปนะ" ชายวัยกลางคนหันมายิ้มให้กับอาเหมยแล้วเดินไปที่ไหนก็ไม่รู้ เด็กสาวยิ้มทำหน้าหน้างอนแล้วตัดสินใจเดินไปหาฟูหลง


    ----------


         ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องทอผ้า ห้องอาวุธ ห้องว่าง ห้องเก็บของ หน้าบ้าน ลานกว้าง ใต้ต้นเหมย หรือโดยรวมไม่อยู่ที่ใดทั้งสิ้น เด็กสาวเดินหาทุกที่ในบ้านและนอกบ้านที่คิดออกแต่ก็ไม่พบ สรุปคือฟูหลงไม่ได้อยู่แถวนี้

         อาเหมยเดินกลับเข้าบ้านด้วยจิตใจห่อเหี่ยว แล้วก็ได้ยินเสียงเรียกมาจากห้องๆหนึ่งที่เธอยังไม่ได้ไป

         "อาเหมยๆ" เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น เด็กสาวเข้าไปในห้องตามเสียงเรียก คุณป้ากับพี่หลีหลินกำลังทำกับข้าวอยู่ท่าทางยุ่งน่าดูซะด้วย

         "ว่างพอไหม มาช่วยกันทำกับข้าวหน่อยสิ" พี่หลีหลินที่กำลังจัดเรียงอาหารบางอย่างพร้อมเคี่ยวน้ำซุปกับสับอาหารพูด คุณป้าก็อยู่ในท่าทางเดียวกัน อาเหมยเห็นว่าท่าทางยุ่งมากจึงเดินเก้ๆกังๆเข้าไปในครัว


    เวลาเย็น


         "หิว~~ มีอารายกินมั่ง" เสียงบ่นดังมาจากประตูหน้าบ้าน ฟูหลงถอดรองเท้าแล้วเดินเข้ามาในบ้านโดยตรงมาทางห้องครัว

         วิ้งๆๆ เสียงประกายของอาหารส่องระยิบระยับจนฟูหลงต้องถอยหลังหนี ที่โต๊ะอาหารทุกคนมานั่งอยู่เรียงกันโดยเหลือเพียงที่ของเขาคนเดียว ฟูหลงชี้ไปที่กับข้าวมากมายบนโต๊ะที่ดูน่ากินราวกับอาหารชั้นหนึ่ง "อาหารพวกนี้ใครเป็นคนทำเนี่ย"

         "กินๆเข้าไปเถอะน่าอาเหมยช่วยทำนะมื้อนี้" หลีหลินพูดแล้วตักอาหารเข้าปาก ทุกคนเริ่มกินโดยไม่สนใจฟูหลงแล้ว เด็กหนุ่มนั่งที่โต๊ะแล้วลองชิมบ้าง

         "โห อร่อยนะเนี่ย อาเหมยนี่เก่งจริงๆ" ฟูหลงซดซุปแล้วเอ่ยชมไม่ขาดปาก หลีหลินจึงพูดขัดขึ้นมา "อันนั้นน่ะพี่ทำ"

         "มิน่า...เค็ม" เด็กหนุ่มรีบเปลี่ยนอาการทันที อาเหมยกับท่านลุงหัวเราะ หลีหลินทำหน้าบูดใส่ฟูหลงจนเด็กหนุ่มยิ่งหัวเราะเข้าไปใหญ่

         "ทานข้าวกันเงียบๆหน่อยสิ" คราวนี้ผู้เป็นมารดาเอ็ดขึ้นทำให้ฟูหลงต้องถึงกับนั่งกินไปเงียบๆ อาเหมยหัวเราะเล็กน้อยแล้วกินต่อ



    -------------



         ล่วงเลยเวลาดับไฟมาแล้ว อาเหมยนอนกระสับกระส่ายอยู่ในห้อง ห้องนอนของเธอเคยเป็นห้องนอนของฟูหลงมาก่อน เมื่อมีเธอมาอยู่ด้วยอีกคนฟูหลงจึงยกห้องนี้ให้แล้วไปนอนห้องเดียวกับท่านลุงแทน

         ภายในห้องมืดสนิทถ้าไม่จุดเทียนคงจะไม่เห็นอะไรเลย อาเหมยลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างเพื่อจะชมดวงจันทร์

         น่าเสียดายที่วันนี้เห็นเพียงพระจันทร์เสี้ยว เด็กสาวนั่งลงที่หน้าต่างพลางมองไปยังท้องฟ้า ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ ก้อนเมฆก้อนหนึ่งค่อยๆลอยตัวผ่านดวงจันทร์ไปช้าๆ อาเหมยมองดูอยู่นานแต่เธอก็ยังไม่ค่อยรู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย

         ฟุ่บ เสียงเหมือนใครบางคนกำลังทำอะไรซักอย่างอยู่ใต้ต้นเหมย เด็กสาวมองเห็นเงาคนแต่ไม่ชัดนัก เธอค่อยๆเดินออกไปนอกห้องผ่านห้องของทุกคนไปอย่างช้าๆและเงียบเชียบ เด็กสาวเดินออกไปนอกบ้านเพื่อจะดูว่าใครมาทำอะไรในยามวิกาลแบบนี้

         เงาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาลดำยาวประบ่ามัดรวบไว้ด้วยเชือกหนังเส้นเล็กๆเส้นหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเรียวคมแต่มีประกายสดใส หน้าตาก็จัดว่าหล่อพอใช้ได้ รูปร่างสมส่วนแบบผู้ชายออกค่อนไปทางสูงซะมากกว่า ผิวสีแทนกรำแดดดูเท่ห์ในสายตาของหญิงบางคน โดยรวมแล้วจัดว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีมากคนหนึ่งทีเดียว

         ฟูหลงถือดาบเล่มหนึ่งไว้ในมือ ดูลักษณะแล้วเหมือนดาบไม้ไผ่เสียมากกว่าดาบเหล็ก เขาทำท่าร่ายเวทย์บางอย่างวงกลมสีขาวปรากฎขึ้นรอบเท้า ก้อนหินขนาดใหญ่ปานกลางแต่ท่าทางหนักไม่ใช่เล่นราว5ก้อนร่วงลงมาจากท้องฟ้า

         เด็กสาวรีบวิ่งไปห้ามเพราะดูท่าทางอันตราย ฟูหลงตวัดดาบไม้ไผ่ใส่ก้อนหินอย่างรวดเร็วหลายครั้งจนมองตามแทบไม่ทัน ก้อนหินทุกก้อนแตกออกเป็นสองซีกราวกับใช้เครื่องตัดแล้วตกลงข้างตัวเขา ก่อนจะอันตรธานหายไป

         "อาเหมย มาทำอะไรที่นี่" ฟูหลงเอ่ยถามเด็กสาวที่มาดูเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่มันก็เลยเวลาเข้านอนมาแล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เด็กหนุ่มงงเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปหา

         เด็กสาวยืนนิ่งแล้วเข้าไปจับดาบไม้ไผ่ของฟูหลง มันก็ดาบไม้ไผ่ธรรมดาทำไมถึงตัดหินได้กันนะ แล้วฟูหลงก็ใช้เวทย์ได้ด้วยเหมือนในการ์ตูนเลย อาเหมยอยากสื่อสารแต่ไม่รู้จะทำยังไงดีให้เด็กหนุ่มเข้าใจ

         "ทำไม?ดาบนี่มีอะไรเหรอ?" ฟูหลงก็ไม่เข้าใจว่าอาเหมยอยากพูดอะไร เด็กสาวหยิบดาบมาไว้ในมือตนเองแล้วท่าทางเหมือนกับร่ายเวทย์ฟันหินเหมือนที่ฟูหลงทำเมื่อครู่แบบตลกๆ ฟูหลงหัวเราะเล็กน้อยในท่าทางของเด็กสาว

         "อ๋อ อยากให้สอนให้ใช่ไหม" ฟูหลงพูด อาเหมยพยักหน้าหงึกๆๆ เด็กหนุ่มหัวเราะร่าแล้วพูดว่า "พรุ่งนี้ข้าว่างเดี๋ยวจะสอนให้ละกัน ตอนนี้ไปนอนก่อนนะ"

         อาเหมยพยักหน้าอย่างดีใจแล้ววิ่งกลับเข้าไปในบ้านเหมือนเด็กๆ ฟูหลงเดินอาดๆตามเข้าไป แล้วเตรียมคิดวิธีสอนน้องสาวผู้เป็นใบ้ในวันพรุ่งนี้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×