ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรวารี [ภาคหนึ่ง]

    ลำดับตอนที่ #1 : สู่การเปลี่ยนแปลง

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 52


       ไอหมอกสีม่วงเข้มราวกับเจือพิษล่องลอยอยู่ทั่วบริเวณ พื้นดินสีดำแตกระแหงไม่มีแม้ต้นหญ้าเล็กๆซักต้น ต้นไม้ที่ไร้ใบสีน้ำตาลไหม้จนออกดำหงิกงอผิดรูปราวกับกงเล็บของปีศาจ สิ่งมีชีวิตมีปีกหน้าตาอัปลักษณ์ที่ใครๆหลายคนขนานนามมันว่า'แร้ง'กำลังจับจ้องเหยื่อของมันอยู่บนต้นไม้ เมฆบนผืนฟ้าเป็นสีดำสนิททั้งแถบ ที่นี่ไร้ทั้งดวงอาทิตย์และแสงจันทร์

       ควันสีเทาแผ่ไอร้อนต้องผิวคนที่มันพัดผ่าน สัตว์นรกหลายสิบตัวค่อยๆคลืบคลานขึ้นมาจากพื้นดินช้าๆ ฝูงอีแร้งขนดำไม่รอช้ารีบบินโฉบไปกินอาหารอันโอชะของมันทันที กงเล็บที่เท้าจิกลงไปที่สัตว์นรกตัวหนึ่งมันร้องครวนอย่างเจ็บปวด เจ้าแร้งไม่สนใจเสียงร้องโหยหวนกลับรีบใช้จะงอยปากจิกกินเหยื่อของมันทันที เลือดสีแดงกระจายเต็มพื้นที่ ตับไตไส้พุงหรืออวัยวะภายในต่างๆกำลังถูกฉีกกระชากเข้าปากนกแร้งอย่างเอร็ดอร่อย เสียงของสัตว์นรกที่ถูกฉีกกินเนื้อทั้งร้องทั้งครวญอย่างเจ็บปวดทรมานแต่ก็ไม่อาจห้ามให้ตัวเองถูกฉีกกินไปได้ ไม่นานฝูงแร้งก็บินกลับไปพักบนต้นไม้ รอเวลาที่ซากของสัตว์นรกหายไปแล้วก็คลืบคลานขึ้นมาใหม่แทน

       (ไปที่ฉากที่จะเล่าเลยดีกว่าเดี๋ยวจะหาว่านิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยใส- -":ผู้แต่ง)


       ปากประตูนรก ที่ซึ่งคอยกักขังมนุษย์ซึ่งทำบาปไว้เมื่อตอนมีชีวิตให้ชดใช้กรรม ที่ซึ่งไม่มีมนุษย์หรือเทพตนใดอยากมาเยือน

       ชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งมีผมสีเงินแต่งกายด้วยชุดสีเขียว อีกคนมีผมสีน้ำเงินแต่งกายด้วยชุดสีฟ้า ทั้งสองคนกำลังพยายามช่วยเด็กสาวคนหนึ่ง

       "อย่าปล่อยมือพี่นะ" ชายผมสีน้ำเงินกล่าว ข้อมือแข็งแรงพยายามดึงตัวเด็กสาวคนหนึ่งอยู่ เธอมีผมสีทองแต่งกายด้วยชุดสีส้ม เบื้องหลังของเธอคือมวลอากาศสีม่วงหมุนเป็นวงราวกับพายุ คอยดูดกลืนผู้ที่ตกลงไปให้ได้รับการทรมาน มันคือปากประตูนรก

       เด็กสาวที่กำลังห้อยต่องแต่งอยู่ที่ปากประตูนรกกรีดร้องอย่างหวาดกลัว ที่ใต้เท้าของเธอไม่มีอะไรเลยนอกจากไอหมอกสีม่วงน่าสยอง ชายหนุ่มผมสีเงินรีบส่งมือให้เด็กสาว

       "จับมือพี่เร็ว" เขาพูด เด็กสาวพยายามเอื้อมข้อมือไปจับอย่างยากลำบาก เธอกำลังจะไม่ไหวแล้ว

       "แข็งใจไว้ อะ อีกนิดเดียว" ชายผมสีน้ำเงินพูด เขาก็กำลังจะไม่ไหวเหมือนกันแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ เด็กสาวแข็งใจใช้แรงทั้งหมดที่มีเอื้อมไปจับข้อมือของชายผมสีเงิน

       มือปีศาจสีแดงหลายสิบหลายร้อยมือพุ่งขึ้นมาจากปากประตูนรก ดึงเอาร่างของเด็กสาวลงไปในนั้น เธอร้องอย่างตื่นตระหนกแล้วพยายามคว้ามือของพี่ชายแต่ก็ได้เพียงแค่แหวกอากาศ ร่างบางโดนมือปีศาจกระตุกลงไปในหมอกควัน

       "ม่ายยยยยย~~~~" ชายหนุ่มทั้งสองคนร้อง ร่างของเด็กสาวร่วงลงสู่ประตูนรกและหายไปตลอดกาล



    ----------------



    ณ โลกยุคปัจจุบัน


         'กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!' 'กริ้ง' เสียงนาฬิกาปลุกได้ถูกปิดลงอย่างรวดเร็วโดยมือของมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่ง เวลานอนอันแสนสุขได้หมดลงเสียแล้ว เด็กสาวผู้เป็นเจ้าของนาฬิกาปลุกกระพริบเปลือกตา2-3ทีเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงภายในห้อง

         "ฮ้าว~" เด็กสาวหาววอดแล้วบิดขี้เกียจเป็นการออกกำลังกายเล็กน้อยในยามเช้า เธอลุกขึ้นเก็บที่นอนพร้อมกับเดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ตอนนี้เป็นเวลา5.45น.เหลือเวลาอีกเหลือเฟือ

         หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวก็นั่งที่หน้ากระจกพลางจัดทรงผมให้เรียบร้อย เธอมองตนเองในกระจก ผมสีดำขลับเป็นมันถูกถักเป็นเปียแล้วม้วนขึ้นเป็นวงกลมที่ผมทั้งสองข้างเหมือนซาลาเปา ดวงตากลมโตสีดำนิล ผิวขาวเนียน หน้าตาน่ารักแม้จะไร้เครื่องสำอางมาตกแต่ง รูปร่างบอบบางเข้ากับชุดนักเรียนได้อย่างพอดี

         สิ่งที่ไม่ค่อยเข้ากับเธอคือริมฝีปากอันเฉยชา ไร้รอยยิ้ม กับหางคิ้วที่ตกลงแสดงถึงความเศร้า เด็กสาวสำรวจตนเองแล้วคว้ากระเป๋านักเรียนเดินลงบันไดมาชั้นล่าง

         เสียงทะเลาะเบาะแว้งของพ่อแม่ดังมาจากในครัว เด็กสาวเบือนหน้าหนีและพยายามเลี่ยงเมื่อเดินผ่านห้องครัวไปทางประตูหน้า ใจความที่ทะเลาะก็เรื่องเดิมๆ การตะโกนด่าทอค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวไม่สนใจที่จะห้ามปรามบุพการี เธอเดินออกจากบ้านราวกับเป็นเรื่องปกติ ไม่มีการทักทาย ไม่มีการห้ามปราม เมื่อถึงเวลาสมควรพวกท่านก็เลิกกันเองและคอยหาเรื่องมาทะเลาะกันใหม่ในยามเช้าหรือดึกดื่นของทุกวัน มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เธอจำความได้

         ซาลาเปาไส้หมูข้างถนนที่อาม่าคนหนึ่งตั้งขายแต่เช้าตรู่ยังคงสุกและหอมกรุ่นราวกับพึ่งนึ่งใหม่ๆ เด็กสาวทักทายคนขายอย่างเป็นกันเองแล้วอุดหนุนซาลาเปา3ลูกเพื่อรองท้องแทนอาหารมื้อเช้า

         ระยะทาง2กิโลครึ่งจากบ้านมาโรงเรียนไม่ทำให้เด็กสาวเหนื่อยหรือหอบซักนิด เธอยังเดินกินซาลาเปาไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพัก เมื่อหมดเด็กสาวก็ทิ้งลงถังขยะข้างทาง และเริ่มเดินไปเรื่อยๆ วิ่งบ้าง หยุดบ้าง หรือแวะข้างทางบ้างสลับกันไป

         ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่นัก เด็กสาวเดินเข้าไปเพื่อเดินเล่นและชมสถานที่ อีกไม่ไกลก็ถึงโรงเรียนทำให้ไม่ต้องห่วง เมื่อเดินเข้าไปที่สวนนี่ก็จัดว่าร่มรื่นใช้ได้เลยทีเดียว พื้นหญ้าสีเขียวอ่อนสบายตาตัดกับสีของดอกท้อที่กำลังร่วงลงจากต้น ท่าให้เปรียบคงคล้ายกับซากุระของญี่ปุ่นกระมัง ผีเสื้อน้อยตัวหนึ่งบินวนอยู่เหนือแปลงดอกไม้แล้วเข้าเกาะที่ไหล่ของเธอ เมื่อเด็กสาวขยับตัวนิดนึงผีเสื้อน้อยก็บินไปหาน้ำหวานจากดอกไม้ที่อื่นเสียแล้ว

         เด็กสาวเดินเที่ยวไปเรื่อยๆจนถึงกลางสวนสาธารณะ บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีปลาแหวกว่ายอยู่ช่างหาได้ยากยิ่งนักในเมืองแบบนี้ ปลาตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำราวกับเป็นการทักทายเธอ เด็กสาวยิ้ม

         นาฬิกาที่สวนสาธารณะบอกเวลาว่าเธอควรเข้าเรียนได้แล้ว เด็กสาวหันหลังกลับแล้วเตรียมตัววิ่งไปโรงเรียน

         'ตูม' เสียงบางอย่างดังขึ้นจากข้างหลังพร้อมหยดน้ำที่กระจายมาโดนตัวเธอราวกับฝนตก เด็กสาวหยุดชะงัก แล้วหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านหลังของเธอกันแน่

         วงกลมประหลาดขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นเหนือพื้นน้ำ มันโผล่ขึ้นมาบนอากาศ เด็กสาวยืนนิ่งแล้วเอามือขยี้ตาพร้อมหยิกแก้มตัวเอง เจ็บ! เธอไม่ได้กำลังฝัน พลันร่างของบุรุษคนหนึ่งผู้มีสีผมและสีตาเป็นสีฟ้าดุจท้องทะเลก้าวออกมาจากวงกลมประหลาดหรือมิติพิศวงอะไรซักอย่างหนึ่งแล้วลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวล

         "..." เด็กสาวอ้าปากค้างพร้อมยืนนิ่งเป็นหิน ตอนนี้จิตใจของเธอไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว บุรุษผู้มีผมสีฟ้าเลิกคิ้วเล็กน้อย เสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่เหมือนกับชุดจีนสมัยโบราณไม่มีผิด เขาตรงเข้ามาที่เด็กสาวแล้วก้มลงคำนับกับพื้น

         "..." เด็กสาวเลิกลั่ก แต่ก่อนที่เสียงจะเล็ดลอดออกมาจากปากของเธอ ชายคนนั้นก็กล่าวด้วยเสียงอันดัง "ข้ามารับตัวท่านตามคำบัญชา ท่านเทพมังกรวารี"

         "?" เด็กสาวขมวดคิ้ว บัญชา? เทพ? มังกร? คนๆนี้สติดีรึปล่าว เธออาจจะคิดว่าคนๆนี้เป็นคนบ้าที่หลุดออกมาจากโรงพยาบาลที่ไหนซักแห่งถ้าไม่ได้มองผ่านไปข้างหลังเขา วงกลมพิศวง(รู้สึกว่าเปลี่ยนชื่อบ่อยจัง)ที่โผล่อยุ่บนอากาศยังลอยนิ่งๆอยู่ตรงนั้นเลย

         "ขอประทานอภัยแต่ตอนนี้คงคุยอะไรไม่ได้มากนัก" ชายคนนั้นลุกขึ้นแล้วอุ้มร่างบางๆของเด็กสาว "..." เธอกำลังจะกรีดร้องแต่เสียงมันจุกอยู่ในลำคอ ตาเธอโตเป็นไข่ห่านเมื่อเห็นว่า

         เขากำลังอุ้มเธอลอยขึ้นไปในมิติประหลาด ลอย ลอย!! เขาบินได้!! ตอนนี้เด็กสาวช็อกไปเรียบร้อยแล้ว

         ...............


         "ฮะ เฮ้ย! นายท่านครับ" ชายหนุ่มเขย่าตัวเด็กสาวในอ้อมแขนให้รู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นมาปริบๆแล้วมองไปรอบๆ

         'อยากจะกรีดร้องดังๆ' แต่ไม่รุ้เสียงหายไปอยู่ไหนหมด บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยสีสัน สีสันจริงๆเพราะมีแสงสีทุกสีจนรอบตัวเธอจนเวียนหัว ช่องอากาศสีดำหลายหลุมโผล่ขึ้นมาจากอากาศ ชายหนุ่มที่อุ้มเธออยู่หลบช่องอากาศไม่พึงประสงค์อย่างทะมัดทะแมง

         "โอ๊ะ" หลุมดำอันหนึ่งโผล่ขึ้นหน้าด้านหน้าพอดี เขาบินหลบได้อย่างฉิวเฉียด เด็กสาวหลับตาเกาะเสื้อเขาแน่นเพราะกลัวว่าตัวเองจะตกลงไปตาย

         "ถึงแล้วครับนายท่าน" เขาพูด เด็กสาวจึงลืมตาขึ้นมา

         ยังอยู่ในห้วงอากาศพิศวง เขาหัวเราะคิกเล็กๆที่แกล้งสำเร็จ แต่เด็กสาวตกใจจนเผลอปล่อยมือออกจากชายหนุ่มผมฟ้า

         "เฮ้ย!!" ชายหนุ่มอุทานอย่างตกใจ ร่างของเด็กสาวหลุดลงจากข้อมือของเขา ร่วงลงไปยังหลุมอากาศสีดำหลุมหนึ่ง ร่างของเธอผลุบหายลงไปเลย

         ชายผมฟ้ารีบเข้าไปตามแต่เจ้าหลุมอากาศเจ้ากรรมกลับหายไปเสียก่อน

         "ซวยละ" เขาเอามือกุมขมับ เจ้าหลุมพวกนี้จะไปโผล่ที่ไหนในโลกก็ไม่รู้ อุตส่าห์หาเจ้ามังกรเจอก็ดันทำหลุดมือไปได้อีก

         "เอาเป็นว่ากลับก่อนดีกว่า" เขาบ่นกลับตนเองแล้วบินเข้าไปในช่องอากาศสีขาวทันที



         "กรี๊ดดดดดด!!!!" เด็กสาวร้อง ตอนนี้กำลังดิ่งพสุธาลงไปยังแม่น้ำแห่งหนึ่งโดยไร้เชือกหรืออุปกรณ์ใดๆ เธอกำลังรู้สึกถึงความกลัวอย่างแท้จริง

         "ตูม" ร่างของเด็กสาวตกลงไปในแม่น้ำ มันทั้งเย็นและไหลเชี่ยว ความหนาวของแม่น้ำทิ่มแทงลงไปถึงกระดูก ร่างของเธอไหลไปตามแม่น้ำ เด็กสาวพยายามตะเกียกตะกายเต็มที่

         ไร้ผล ร่างบอบบางของเธอไม่อาจต้านกระแสน้ำได้ เด็กสาวกลืนน้ำไปหลายอึกจนสำลัก ในน้ำแม้แต่เด็กอนุบาลยังรู้ว่าหายใจไม่ได้ ร่างของเธอค่อยๆจมลงไป

         กลุ่มควันสีขาวคล้ายดวงวิญญาณลอยเข้าไปในปากของเธอ เด็กสาวจมลงสู่แม่น้ำ และหมดสติไปในที่สุด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×