ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ......ใจแตก...... [Yunho x Jaejoong] TVXQ

    ลำดับตอนที่ #3 : Two :: Snow White

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 925
      0
      22 มี.ค. 50

    Two :: Snow White

    เกือบๆสามทุ่มที่แจจุงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันี้เค้าจะเริ่มทำงานวันแรก งานที่เรียกได้ว่าเป็นงานของคนชั้นต่ำ "โฮสต์" ร่างบางกระโดดผลุงเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

    .......สำหรับงานวันแรก เค้าต้อง "เฟอร์เฟ็ค"....

    ไอร้อนๆจากน้ำในอ่างอาบน้ำส่งผลให้กระจกเงาบานใหญ่ขึ้นฝ้าอย่างช่วยไม่ได้ เพราะน้ำร้อนทำให้เค้าผ่อนคลาย ไม่เช่นนั้นแล้วเค้าคงไม่ยอมให้สิ่งใดมาบดบังภาพของตัวเองที่สะท้อนลงบนวัสดุผิวเรียบนั่นเป็นแน่ ผ้าขนหนูสีขาวถูกลูบไล้เช็ดเอาไอขาวๆนั่นออกสะท้อนภาพที่งดงามราวกับภาพวาดที่มีจิตรกรที่ดีที่สุดในศตวรรษนับสิบช่วยกันสร้างสรรค์มันขึ้นมา

    นัยน์ตาดำขลับมืดสนิทราวกับจะไม่มีความรู้สึกใดส่งผ่านออกมา ดูลึกลับและน่าค้นหา จมูกโด่งเป็นสัน อาจจะเป็นผลพวงจากน้ำร้อนจัดที่ทำให้ริมฝีปากอิ่มกลายเป็นสีของผลเชอร์รี่ที่สุกจัด หรือเพราะอะไรก็ตาม แต่มันดูยั่วเย้าน่าลิ้มลองเป็นที่สุด เส้นผมสีเดียวกับในตาที่เปียกลู่ลงตัดกับแก้มขาวจัด เรื่อยมาถึงลำคอระหง ที่ยังผิวขาวนวลเนียนเช่นเดียวกับใบหน้า เหมือน......เหมือนเจ้าหญิงในนิทาน

    เจ้าหญิงผู้มีผมดำขลับ ริมฝีปากสีแดงจัด และผิวขาวดุจดั่งหิมะ

    "หึ..หึ..." เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นเบาๆ เพราะหากเค้าเป็นเจ้าหญิง ก็คงเป็นเจ้าหญิงเปื้อนเลือด เป็นผ้าขาวที่มีรอยด่าง

    แจจุงเช็ดผมเช็ดตัวจนแห้งสนิท ก่อนที่จะหยิบเชิ๊ตสีขาวที่บางซะจนเห็นทะลุไปถึงไหนต่อไหน กับกางเกงยีนส์ที่ถูกฟอกสีจนซีดมาใส่ เค้าไม่เคยใส่น้ำหอม ไม่ใช้โคโรญจ์ กลิ่นตัวของเค้ามีกลิ่นคล้ายๆกับดอกไม้ป่าหลายๆชนิดที่บางครั้งก็ฉุนมากไปจนเจ้าตัวยังรู้สึกเอียน

    แจจุงหยิบโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินก่อนจะเดินออกจาห้องไปอย่างมาดมั่น เมื่อลงไปถึงชั้นล่าง แจจุงเห็นพ่อตัวเองยังนั่งอยู่ตรงที่เดิมกับตอนที่เค้ากลับมา แต่ก็เดินเลยผ่านไปอย่างไม่สนใจ แต่ความตั้งใจที่จะเดินผ่านไปเฉยๆนั้นถูกทำลายลงซะก่อน

    "นั่นแกจะไปไหนอีก..." ผู้เป็นพ่อถามเสียงดุ

    "ถึงพ่อจะถาม แต่ผมก็รู้ว่าพ่อไม่ได้ใส่ใจ พูดไปก็ปล่าวประโยชน์" ร่างบางตอบกลับไป และแทบจะในทันทีที่พูดจบเค้าก็ก้าวพ้นออกจากประตูบ้านไปแล้ว

     

     

    "เดี๋ยวช่วยจอดตรง Fairy Land นะครับ" เสียงทุ้มจากคนร่างสูง ทำเอาคนขับรถแท๊กซี่มองผ่านกระจกหลังมาด้วยความไม่เข้าใจ จากการแต่งตัวแล้ว ผู้โดยสารของเค้าดูเป็นคนซื่อๆท่าทางใจดี ไหนยังจะแว่นหนาที่ใส่อยู่นั่นอีก ดูยังไงก็เหมือนพวกคงแก่เรียนชัดๆ แต่กลับมาเที่ยวกลางคืนในสถานที่โสมมแบบนี้นะเหรอ เด็กสมัยนี้ตัดสินจากท่าทางภายนอกไม่ได้จริงๆด้วย คนขับรถแท๊กซี่คิดเองเออเองในใจซะเสร็จสรรพ

    "ถึงแล้วครับ...."

     

    ร่างสูงถูกนำตัวมาส่งตรงหน้าประตูทางเข้า FAIRY LAND พอดีเด๊ะ ตาคมมองสถานเริงรมย์แห่งนี้ผ่านเลนส์แว่นตาอย่างพิจารณา เค้ารู้สึกไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมต้องมาที่นื่ เค้ากำลังหาหัวข้อทำวิทยานิพนธ์ส่งอาจารย์ ทำให้วันนี้เค้ากลับบ้านมืดนิดหน่อย แต่ก่อนที่เค้าจะเดินถึงบ้าน เค้าก็ได้พบกับ เจ้าหญิงในนิทานเรื่องโปรดตั้งแต่เยาว์วัยของเค้า

    ........สโนว์ไวท์........

    ผมดำขลับ ปากแดงราวลูกเชอร์รี่สุกจัด และผิวขาวราวหิมะนั่น ทำเอาร่างสูงเดินตามไปราวกับต้องมนต์ รู้ตัวอีกที เจ้าหญิงในนิทานที่เค้าเห็นก็กำลังเรียกแท๊กซี่ ก่อนจะบอกถึงจุดหมายปลายทางที่เธอคนนั้นจะไป แล้วตอนนี้เค้าก็ยืนอยู่ที่นั่น

    ให้มันได้อย่างนั้นซี่ฮันกยอง.......ร่างสูงบ่นกับตัวเองในใจ เข้าไม่เข้าใจตัวเองเลยซักนิดว่าจะตามมาทำไม มันดูน่ากลัวเล็กน้อยสำหรับเค้า ที่ชีวิตวันๆมีแต่เรียนๆๆๆๆๆ เคยรู้จักโลกแบบนี้ซะที่ไหน

    ก่อนที่ร่างสูงจะคิดอะไรมากไปกว่านี้ สโนว์ไวท์ของเค้าก็เดินลงมาจากรถแท๊กซี่ที่เพิ่ง จอดเทียบริมทางเท้า ฮันกยองจ้องหน้าสวยนั้นอย่างไม่วางตา แสงไฟหลากสีกระทบบนใบหน้าขาวจัด ทำให้มองดูเหมือนสโนว์ไวท์มากกว่าในทีแรกเสียอีก แต่นั่นเป็นแค่องค์ประกอดของใบหน้า สิ่งที่ทำเอาฮันกยองสะดุดเป็นที่สุด ดูจะเป็น ในตาดำขลับที่สะท้อนแสงไฟหลากสีจนดูน่าเวียนหัว แต่ราวกับว่า นัยน์ตาทั้งคู่ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่สะท้อนอยู่ในนั้น

    โดดเดี่ยว.....

    สับสน......

    สิ้นหวัง....

    ท้อแท้....

    เจ็บปวด....

    เหงา......

    แล้วก็......ว่างเปล่า

    ร่างสูงขมวดคิ้วจนมุ่นอย่างไม่เข้าใจ ดูเหมือนหัวข้อวิทยานิพนธ์จะถูกกำหนดขึ้นในสมองของฮันกยองแล้ว ร่างสูงตัดสินใจเดินตามร่างบางที่เค้าไม่รู้จักชื่อเข้าไปใน Fairy Land อย่างไม่ลังเล

    บรรยากาศในร้าน ต่างจากที่ฮันกยองคิดเอาไว้นิดหน่อยถงจะมืดสลัว แล้วก็เปิดเพลงน่าหนวกหู แต่อย่างน้อยมันก็ไม่มีกลิ่นเหม็นอับๆ และกลิ่นบุหรี่ที่เขาไม่ชอบ

    ฮันกยองเห็นร่างบางเดินเข้าไปในห้องที่มีคำว่า ‘Staff only’ แปะอยู่ ราวกับว่าคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี ก็ดูท่าทางที่เดินเข้าไป ออกจะมั่นใจซะขนาดนั้น คงจะเป็นพนักงานละมั้ง ฮันกยองคิดก่อนจะนั่งลงตรงเคาท์เตอร์บาร์ นิ้วเรียวเคาะลงบนเคาท์เตอร์เบาๆอย่างเคยชิน เครื่องดื่มที่สั่งมาคงไม่พ้นเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์อย่างโคคาโคล่า ว่าแต่แค่น้ำอัดลมแก้วเดียวมันแพงขนาดนี้เลยเหรอว่ะ

    ไม่นานนักร่างบางก็เดินออกมาจากห้องที่เดินเข้าไปเมื่อครู่ เพียงแต่คราวนี้พ่วงหนุ่มหล่อที่ดูมีเสน่ห์ด้วยลักยิ้มตรงข้างแก้ม ร่างบางเองก็กำลังยิ้ม หวานจับใจต่างกับที่เค้าเห็นก่อนหน้านี้ซะเหลือเกิน แสงที่มืดสลัวทำให้รอยยิ้มนั้นดูพร่าเลือนเหลือเกิน ฮันกยองมองร่างบางถูกพาไปยังโต๊ะที่มีลูกค้าวัยประมาณยี่สิบกว่าๆนั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว

    ชายที่เดินมาด้วยในตอนแรกคุณกับลูกค้าผู้นั้นสองสามคำแล้วยิ้มให้ร่างบางนั้นก่อนจะเดินจากไป นัยน์ตาสีนิลละจากชายร่างสูงที่เดินห่างออกไป ก่อนจะแย้มยิ้มให้กับลูกค้าของเค้า......งั้นก็หมายความว่าเป็นโฮสต์

    ฮันกยองนั่งอยู่ในร้านนานทีเดียวแต่น้ำอัดลมในแก้วพร่องลงไปไม่ถึงครึ่ง เพราะอะไรนะหรือ นางเอกในเทพนิยายของเค้ายังคงนั่งอยู่กับลูกค้าคนเดิมและดูคล้ายจะเมาอยู่พอตัว

    เสียงหัวเราะใสๆที่เจือจางด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์นั้นเบาเกินกว่าจะฝ่าเสียงเพลงมาถึงหูของฮันกยองได้ แต่แค่ท่าทางนั้นก็ทำให้ฮันกยองต้องจิ๊ปากอย่างรู้สึกรำคาญ

    "มีอะไรให้รับใช้รึเปล่าครับ" เสียงทุ้มๆดังอยู่ข้างหูทำเอาฮันกยองที่กำลังใจจดใจจ่อกับร่างบางถึงกับสะดุ้ง และก็ต้องหันมาพบกับใบหน้าอันทรงเสน่ห์เจ้าของลักยิ้มตรงข้างแก้มที่เดินไปส่งเจ้าหญิงในนิยายของเค้าเมื่อกี้ "ผม ชเวซีวอน ครับเป็นเจ้าของที่นี่"

    "คะ...ครับ" ฮันกยองตอบรับไปอย่างตะกุกตะกัก เค้าไม่ค่อยคุ้นเคยกับการคุยกับคนแปลกหน้าในระยะประชิดแบบนี้ซักเท่าไหร่ "ผมแค่อยากจะทราบว่าน้องผู้หญิงคนนั้น ชื่ออะไร"

    "ผู้หญิง..." ซีวอนมุ่นคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

    "ครับ...คนนั้นที่ผิวขาวๆ สวยๆเหมือนสโนว์ไวท์นะครับ" ฮันกยองอธิบาย ทำเอาซีวอนถึงกับหัวเราะร่า ฮันกยองขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเค้าพูดอะไรผิดไปรึไง

    "หนุ่มน้อยคนนั้นเค้าชื่อยองอุงครับ"

    คำตอบนั้นทำเอาฮันกยองเบิกตาโต ผู้ชายเหรอวะนั่นน่ะ ฮันกยองหันไปมองร่างบางตรงนั้นอีกครั้งแล้วก็รู้สึกอยากตบหน้าผากตัวเองซักฉาด ก็ยองอุงน่ะปลดกระดุมเสื้อซะขนาดนั้น ใครดูไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายก็บ้าแล้ว และคนบ้าคนนั้นก็คือเค้าซะด้วย ฮันกยองหันกลับมามองเจ้าของร้านหนุ่มที่นั่งยิ้มล้อๆอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหันไปสังเกตการณ์ร่างบางๆนั้นต่อ

    "สนใจเหรอครับ ผมเรียกให้มั้ย" ซีวอนถามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มข้างๆยังคงจ้องเด็กใหม่ของเค้าอย่างไม่วางตา

    ฮันกยองหันกลับมาแทบจะในทันที สมองอันชาญฉลาดไตร่ตรองก่อนจะประมวลผลออกมาอย่างรวดเร็ว เรื่องราวจากนัยน์ตาดำขลับที่เค้าเห็นในตอนนั้นเหมือนจะเร่งให้คำพูดหลุดออกมาจากริมฝีปากอย่างรวดเร็ว "ก็ดีครับ...."

    ..........................

    "เรียกทำไม ชั้นรับแขกอยู่นะ" ร่างบางแหวทันทีที่เดินมาถึงเคาท์เตอร์บาร์

    "เค้าสนใจนาย" ซีวอนพูดเข้าประเด็นทันทีพลางพยักเพยิดไปทางฮันกยอง หนุ่มผมทองหน้าตาเรียบร้อยกับแว่นสายตา ทำเอาแจจุงอยากจะบ้า แจจุงเตรียมตัวจะหันไปใส่อารมณ์กับซีวอนเต็มที่แต่เสียงของคุณลูกค้าคนใหม่ของเค้าก็ดังขัดจังหวะซะก่อน

    "นั่งกับผมหน่อยได้รึเปล่า" เสียงทุ้มๆอ่อนโยนอย่างประหลาดในความรู้สึกของแจจุง ทำเอาร่างบางนั่งลงตรงเคาท์เตอร์บาร์แทบจะในทันทีราวกับถูกสะกด

    ดูเหมือนเจ้าของคลับอายุน้อยคนนี้จะกลายเป็นส่วนเกินซะแล้ว ซีวอนยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินห่างออกไป เค้ายังต้องตรวจตราความเรียบร้อยของคลับให้ทั่วซะก่อน และดูเหมือนลูกค้ารายนี้น่าจะวางใจได้.......

    .......................................

    "ยองอุงยังเป็นเด็กม.ปลายใช่มั้ย?" ฮันกยองเอ่ยถามอย่างสนใจ นิ้วเรียวของคนตรงหน้าเอื้อมมาม้วนผมเค้าเล่น ดวงตากลมติดจะเหม่อๆ เสียงหัวเราะคิกคักดังลอดออกมาปะปนไปกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ฮันกยองเรียกสติร่างบางให้หันมามองหน้าตนตรงๆก่อนจะถามซ้ำ และคำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้า ดวงตาใสแจ๋วหันมาจ้องเค้าอย่างน่าเอ็นดู แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ทำให้มันดูเซ็กซี่ซะได้

    "ผมชื่อฮันกยอง" ฮันกยองว่าก่อนจะหันไปสั่งน้ำพันช์กับบาร์เทนเนอร์มาให้กับร่างบาง

    ตากลมมองน้ำพันช์สีสวยที่ถูกวางลงตรงหน้าก่อนจะหัวเราะน้อยๆแล้วยกขึ้นจิบ "อร่อย..." ยองอุงกว่าแล้วยิ้มเหมือนเด็กๆ ฮันกยองได้แต่ยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อร่างบางยกน้ำพันช์ขึ้นดื่มอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องช็อคหนัก เมื่อเครื่องดื่มสีสวยนั้นไม่ได้ลงคอร่างบางแต่อย่างใด

    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างอ่อน ให้รสฝาดเฝื่อนแต่ก็หวานลิ้น ถึงอย่างนั้นฮันกยองก็ยังไม่ชอบ และยิ่งไม่ชอบใหญ่ เมื่อมันกำลังไหลลงคอเค้าอยู่ตอนนี้ ลมหายใจร้อนๆของร่างบางเป่ารดข้างหูของฮันกยองอย่างจงใจ.....ถ้าเป็นคนอื่นคงจับร่างบางๆนี้กดกับเคาท์เตอร์บาร์เป็นแน่ แต่คงไม่ใช่กับคนบ้าคนนี้

    "อร่อยมั้ย..." ยองอุงหัวเราะคิกคัก แบบที่ไม่ได้ทำให้ฮันกยองหัวเราะตามได้แม่แต่นิดเดียว เงินจำนวนมากกว่าค่าเครื่องดื่มถูกวางลงบนเคาท์เตอร์บาร์ ก่อนที่เค้าจะลากร่างบางๆนี้ออกจากคลับ ไปด้วยความเต็มใจของยองอุง ร่างบางเข้าใจว่าผู้ชายตรงหน้านี้ต้องการเค้าจนทนไม่ไหว แต่มันตรงข้าม......

    เจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เดินนำอยู่ข้างหน้า เพียงแค่ทนไม่ได้ ที่จะเห็น เจ้าหญิงในเทพนิยายของเค้า ทำร้ายตัวเอง

    .............................................................................................

    "อือ....." เสียงครางอย่างพึงพอใจดังลอดออกมา ก่อนที่ร่างบางจะพลิกตัวผายใต้ผ้านวมหนา แสงสีเรืองรองทอประกายลอดเข้ามาในห้องนอนใหญ่ รบกวนเวลานอนอันแสนสบายแต่ถึงอย่างนั้น เปลือกตาก็เปิดขึ้นช้าๆ แสงแดดระคายเคืองน้อยๆ แต่ไม่อาจไล่ความมึนอันเกิดมาจากแอลกอฮอล์ไปได้

    แจจุงนอนอยู่คนเดียวบนเตียงกว้าง ปราศจากชายหนุ่มเคียงกายอย่างที่ควรจะเป็น เค้าในชุดนอนสะอาดสะอ้านกลิ่นสบู่ราคาแพงยังคงติดผิวกาย มันเป็นเหมือนห้องนอนมากกว่าจะเป็นห้องพักในโรงแรมอย่างที่เค้าคิดว่าจะตื่นมาเจอ แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องล้วนดูเป็นของราคาแพงทั้งสิ้น ร่างบางบิดขี้เกียจน้อยๆ

    ......สรุปว่า เมื่อคืนเค้าไม่ได้มีอะไรกับใครเลยอย่างนั้นสิ.........

    แจจุงอดจะหัวเสียไม่ได้ แต่ก็คล้ายกับว่าโล่งใจ หรืออะไรซักอย่าง ร่างบางเคลื่อนตัวลงจากเตียงทันที แต่ก็ต้องรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างใต้ฝ่าเท้านุ่ม ก่อนที่จะลุกออกจาเตียง บางอย่างที่เค้าสาบานได้ว่าไม่ใช่พื้น

    "อ๊ะ...คุณ..." ถูกแล้ว มันไม่ใช่พื้น แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง แจจุงรีบหดเท้ากลับขึ้นมาบนเตียง ถ้าจำไม่ผิดก็คงเป็นคนนี้แหละที่พาเค้าออกจาคลับมาเมื่อวาน ใบหน้ายามหลับดูใจดีเหมือนกับเสียง ใจดี....ใจดีก็เลยไม่ทำอะไรเค้าแบบนั้นเหรอ.....

    "ตื่นนานแล้วเหรอครับ..." เสียงนุ่มๆนั้นเอ่ยขึ้นอย่างงัวเงีย พาเอาแจจุงหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง "หิวรึเปล่า ไปอาบน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวผมทำอะไรให้ทาน" ว่าแล้วฮันกยองก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าชุดเดิมซึ่งซักรีดเรียบร้อยแล้วมาให้ร่างบางที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียง

    ฮันกยองพับเก็บที่นอนที่เค้ารื้ออกมาปูนอนเมื่อคืน รวมทั้งจัดที่นอนตบหมอนและพับผ้าห่มบนเตียงที่ยกให้ร่างบางๆนี้นอนด้วย "เอ่อ...." ร่างบางทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ถูกขัดขึ้นซะก่อน

    "ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจะไปส่งบ้านแล้วก็ไม่ต้องเกรงใจนะครับ" ฮันกยองว่าพลางส่งยิ้มให้ แม้แต่รอยยิ้มก็ยังฟังดูใจดี

    ....คนดีๆแบบนี้ ยังมีอยู่ในโลกนี้อีกเหรอ....ยังมีอยู่....เหรอ.......

     

     

    แจจุงออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก หนึ่งวันกับการไม่มีเซ็กซ์กับใครเลย มันเป็นแบบนี้เองนะเหรอ ดูเหมือนจะนานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้

    กลิ่นกรุ่นๆของอาหารเกาหลีต้นตำหรับ ทำเอาร่างบางเหลียวหาต้นตอของกลิ่นทันที นานแค่ไหนแล้วที่เค้าเอาแต่กินอาหารนอกบ้าน พวก Fast food ทั้งหลายแหล่ หรือพวกเครื่องดื่มแอลกอฮล์ แทนที่จะเป็นข้าวหุงร้อนๆกับอาหารที่ทำใหม่ๆหน้าตาน่าทานแบบนี้

    "ทานข้าวกันเถอะครับ ไม่รู้ว่าจะถูกปากรึเปล่า" ฮันกยองชวนให้ร่างบางๆนั่งลงบนพื้น บนโต๊ะทานอาหารตัวเตี้ยมีอาหารหน้าตาน่าทานวางอยู่สองสามอย่าง "ผมอยู่บ้านคนเดียว คงทำได้แค่นี้"

    มือของแจจุงสั่นน้อยๆตอนที่หยิบช้อนกับตะเกียบขึ้นมา มันไม่ใช่เรื่องที่เค้าคุ้นเคยกับการที่จะมีใครซักคน อาบน้ำให้ แต่งตัวให้ ห่มผ้าให้ตอนเข้านอน เตรียมเสื้อผ้าให้ พับที่นอนให้ ทำกับข้าวให้ อย่างอ่อนโยนแบบนี้ ตั้งใจแบบนี้ เป็นห่วงเค้าแบบนี้ นี่มันเรื่องอะไรกัน มันไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนที่แปดเปื้อนแบบเค้าไม่ใช่รึไง

    ทันทีที่อาหารคำแรกถูกตักเข้าปาก ความอ่อนแอที่เก็บมาเกือบสิบปี เหมือนจะล้นออกมาแบบห้ามไม่อยู่

    ผู้ชายคนนี้ใจดีกับเค้าเหลือเกิน..........

    "หือ...ยองอุงร้องให้ทำไมครับ...เจ็บตรงไหนรึเปล่า หรือว่าอาหารไม่ถูกปาก" ฮันกยองเลื่อนตัวเข้ามาดูใกล้ๆ แต่กลายเป็นว่าโดนร่างบางๆตรงหน้าคว้าเป็นที่ยึดเหนี่ยวซะได้

    แจจุงปล่อยโฮแบบห้ามไม่อยู่ เค้ากำลังสับสน ตอนนี้เค้ากำลังทำอะไรอยู่ เค้าเป็นใคร และต้องการอะไร ไม่เข้าใจอะไรเลยซักอย่าง รู้เพียงแค่ว่า ตอนนี้เค้าหนาวจนไขว่คว้าหาความอบอุ่นจากคนที่รู้จักเพียงแค่ชื่อแบบนี้

    ฮันกยองลูบศีรษะนั้นเบาๆ แล้วยิ้มออกมา กลุ่มผมสีดำสนิทยังคงชื้นน้ำ สโนว์ไวท์ที่เค้าเจอเมื่อวาน อ่อนแอขนาดนี้เชียวหรือ "ยองอุง" เสียงนุ่มกระซิบเบาๆคล้ายจะปลอบโยน

    "ผม...ชื่อ....แจจุง....ฮึก...ไม่ใช่....ไม่ใช่ยองอุง..." ร่างบางพูดเสียงอู้อี้

    "แจจุง...." เสียงสะอื้นดังอยู่ในอ้อมอก

    "แจจุง...." บนโลกกว้างใหญ่ใบนี้

    "แจจุง..." มีคนที่ต้องเศร้าโศกอยู่มากมายเต็มไปหมด

    "แจจุง..." แล้วเจ้าหญิงองค์น้อย ต้องเศร้าเพราะอะไร

    "แจจุง....." อย่าได้เจ็บปวดอีกเลย.......

    ..............................

    "So kiss me and smile for me

    Tell me that you'll wait for me

    Hold me like you'll never let me go.

    I'm leavin' on a jet plane

    I don't know when I'll be back again

    Oh, babe, I hate to go"

    "แจจุง!!"

    ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน เสียงตวาดที่คุ้นเคยก็ดังเรียกดักทางก่อนซะแล้ว แจจุงถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆแต่ก็หันหน้าไปตามเสียงเรียกแต่โดยดี

    "พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย" คุณแยจุนกล่าวเสียงเข้ม

    "แต่ผมไม่มี.." จบคำพูดแจจุงก็มุ่งไปยังบันไดขึ้นชั้นสอง

    "ถึงแกไม่มี แต่ชั้นมีและแกต้องฟัง น้องแกจะกลับมาอาทิตย์หน้า..." แจจุงชะงักทันที เสียงของผู้เป็นพ่อดังก้องซ้ำไปมา

    ......น้องแกจะกลับมาอาทิตย์หน้า

    .........จะกลับมาอาทิตย์หน้า

    ............อาทิตย์หน้า

    ความจริงที่พยายามวิ่งหนี ตามเค้ามาเร็วเหลือเกิน และพุ่งเข้าชนจนเจ็บ......ปางตาย

    ..........................

    .....................................................

    ............................................................................

    แม่บอกว่าพ่ออยากให้ผมกับแม่กลับมาเกาหลี ผมไม่รู้จักพ่อของผม แม่ไม่เคยเล่าให้ฟังตลอดเจ็ดปี ตั้งแต่ผมเกิดผมก็อยู่ที่อเมริกา แม่บอกว่า ผมมีพี่ชาย พี่ชายของผมชื่อแจจุง แม่บอกว่าเค้าเกิดก่อนผมแค่สิบเอ็ดวัน พี่จึงอายุเจ็ดขวบเท่ากับผม แม่บอกว่าพี่เป็นเด็กน่ารัก ผมอยากเจอพี่มาก แต่แม่ไม่เคยพาผมกลับมาเกาหลี ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้ผมกับแม่อยู่ที่นี่แล้ว แม่บอกว่านี่คือบ้านของพ่อ และพี่ของผมก็อยู่ที่นี่

    "นี่เธอ.....เธอชื่ออะไรเหรอ" เด็กชายตัวน้อยกล่าวทัก พ่อกับแม่แล้วก็ผู้หญิงคนที่แม่บอกว่าเป็นน้าของเค้ากำลังคุยกันอยู่ แม่เลยไล่ให้เค้าออกมาข้างนอก แล้วเค้าก็มาเจอเด็กผู้หญิงคนนี้นี่แหละ

    "ชั้นไม่ใช่.....ผู้หญิง...." เด็กคนนั้นกล่าวโดยที่ไม่หันมามองหน้าคู่สนทนาด้วยซ้ำ นัยน์ตาสีนิลเหม่อมองไปยังท้องฟ้ายามเย็นเบื้องหน้า

    "เหรอ สวยเหมือนผู้หญิงออก ชั้นชื่อยุนโฮ...นายล่ะ" เด็กน้อยกล่าวพลางเดินไปนั่งข้างๆ เค้าเพ่งสังเกตุเห็นรอยช้ำประปรายบนท่อนแขน ขาเรียวหรือแม้แต่ใบหน้า

    "..........แจ....."

    "ยุนโฮมาหาพ่อมา!!!" เสียงผู้เป็นพ่อตะโกนเรียกเด็กน้อย ยุนโฮหันไปตาเสียงเรียกก่อนจะยิ้มกว้างแล้ววิ่งไปหาผู้เป็นพ่อทันที

    คุณแยจุนอ้าแขนรอรับยุนโฮอยู่แล้ว เมื่อเด็กน้อยวิ่งมากอด ผู้เป็นพ่อก็อุ้มเด็กน้อยตัวลอย จนยุนโฮหัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่

    คุณแยจุนตวัดสายตาไปมองยังที่ๆยุนโฮนั่งอย่เมื่อกี้ก่อนจะตะโกนไป "แจจุง!! แกก็มานี่ด้วย!!"

    ยุนโฮมองตามไป ...พี่แจจุง... เด็กคนนั้นนะเหรอพี่ชายของเค้า คำว่าน่ารักของแม่เนี่ย ขนาดนี้เลยเหรอ แล้วทำไมพ่อเรียกพี่แจจุงแบบนั้นล่ะ แต่.......

    "พ่อฮะ...ปล่อยผมลงก่อนได้มั้ย" ยุนโฮอ้อน คุณแยจุนมองลูกชายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่จะวางลงตามคำขอ ยุนโฮวิ่งไปหาพี่ชายหน้าสวยของเค้าทันที "พี่แจจุง...เข้าไปด้วยกันนะครับ" ยุนโฮฉีกยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวคู่สวย

    แจจุงสะดุ้งน้อยๆเหมือนเพิ่งตื่นจากภวังค์ เมื่อมือเล็กๆนั้นโดนคว้าไปกุมเอาไว้ ความอบอุ่นส่งผ่านจากฝ่ามือเล็กๆสู่นิ้วมือที่เย็นเฉียบอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มฉาบขึ้นบนใบหน้าหวานนั้นเป็นครั้งแรก แม้ใบหน้าจะดูหมองด้วยรอยฟกช้ำกับรอยแผลเล็กๆ แต่สำหรับยุนโฮ มันคือรอยยิ้มที่สวยที่สุด เท่าที่เค้าเคยเห็นมาเลย สวยเหมือนเจ้าหญิงในนิทาน.........

    ........................................................................

    .....................................

    .......................

    ณ เกาะทางใต้ของประเทศไทย

    Rrrr Rrrrrrr Rrrrrrrr..........

    "ฮัลโหล ยุนโฮพูดครับ" ชายหนุ่มรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

    "นี่พี่เองนะ ฮันกยอง" ปลายสายตอบกลับมา ทำเอายุนโฮที่กำลังนอนอาบแดดอย่างสบายใจผุดลุกขึ้นนั่งทันที

    "พี่สบายดีเหรอครับ" ยุนโฮกล่าวอย่างตื่นเต้น ฮันกยองเป็นรุ่นพี่ในมหาลัยที่เขานับถือมากทีเดียว ฮันกยองได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งตอนจบปริญญาตรี แถมตอนนี้ก็จะจบโทแล้วด้วย

    "ก็ดี...พี่กลับมาเกาหลีหลายวันแล้วล่ะ เมื่อไหร่นายจะกลับถึงเนี่ย บอกพี่ว่าอยากกลับเกาหลี แล้วไปเถลไถลที่ไหน" ฮันกยองว่า

    "ตอนนี้ผมอยู่ภูเก็ตครับ อากาศดีเชียวพี่ ทะเลก็สวย ที่จริงน่าจะชวนพี่มาด้วยกัน" ยุนโฮกล่าวอย่างร่าเริง ทำเอาคนที่เอนกายอาบแดดอยู่ข้างๆต้องหันมาถาม

    "คุยอยู่กับใครเหรอ ยุนโฮ"

    "พี่ฮันกยองน่ะ" ยุนโฮหันมาพูดกับหนุ่มน้อยข้างๆก่อนจะสนใจเสียงจากปลายสายต่อ

    "อยู่กับใครเหรอ ซองมิน?" เสียงนุ่มกล่าวถาม และคำตอบก็เป็นอย่างที่เค้าคิดจริงๆด้วย

    "ครับ..." ยุนโฮตอบรับ และเมื่อได้ยินเสียงล้อมาจากปลายสายยุนโฮก็รีบพูดต่อทันที "คนรักกัน จะมาเที่ยวด้วยกันหน่อยไม่ได้เหรอพี่"

    "เอ้อ...พี่ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย คนเราก็ร้อนตัวไปเอง แล้วนี่จะกลับวันไหน พี่ซื้อบ้านไว้แล้วนะเนี่ย กะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตเลย"

    "เอางั้นเลยเหรอพี่ ผมจะได้เกาะไปนอนบ้านพี่ซักหน่อย อีกซักอาทิตย์ผมก็กลับแล้ว แล้วพี่จะไม่ทำเอกต่อรึไง" ยุนโฮว่า ข้างกายมีคนรักคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

    "พี่ก็กะมาทำที่นี่แหละนะ พี่ชอบที่นี่อะ ให้ความรู้สึกเป็นบ้านมากกว่า ยังไงพ่อพี่ก็คนเกาหลี มาเมื่อไหร่ก็โทรมาบอกบ้างแล้วกัน พี่อยู่นี่ไม่มีเพี่อนเลย หาเรื่องทำวิทยานิพนธ์อยู่คนเดียวเหงาตายชัก เอ้อ...แต่เมื่อไม่นานมานี้เหมือนจะได้เพื่อนคนนึงล่ะ น่ารักเชียว" ฮันกยองกล่าวอย่างอารมณ์ดี

    "แหม..เพื่อนแน่นะครับ เอาเป็นว่าถ้าผมถึงแล้วจะโทรให้พี่มารับที่อินชอนเลยดีมั้ย" พูดพลางก็ลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลทองนั้นอย่างรักใคร่

    "เปลืองค่าแท็กซี่โว้ย มาเองสิ แล้วจะให้ซุกหัวนอนที่บ้าน แค่นี้แหละวันนี้พี่จะไปทำธุระ เที่ยวให้สนุกล่ะ"

    "คร้าบ แล้วผมจะพาภรรยาไปเที่ยวบ้านพี่นะ" ยุนโฮพูดทำเอาคนข้างๆ บิดเนื้อตรงแขนแรงๆจนเขียว

    "ใครภรรยานายล่ะ ยุนโฮขี้ตู่" หนุ่มน้อยทำอมลมที่แก้มได้อย่างน่าเอ็นดู ยุนโฮจึงบีบจมูกเล็กนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว

    "แล้วเจอกันนะพี่"

    To be continue……

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×