ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PARAGON

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : บททดสอบ

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 49


                   แต่แล้วความสงสัยในใจของทุกคนก็ได้รับคำเฉลย เมื่อพื้นสนามประลองด้านหลังของมิคาเอล อาร์ทีมิส ถูกทำลายพังไปเป็นแถบ สมกับชื่อแบล็คเพิร์ลดาบในตำนาน

                  ......พลาดงั้นเหรอ...... เด็กสาวเจ้าของนัยน์ตาสีมรกตคิดในใจ ก่อนจะถอยกลับมาตั้งหลัก จิตสังหารอันรุงแรงเริ่มแทรกแซงเข้ามาทำลายสมาธิของเธอ เพิร์ลสะบัดศีรษะเล็กน้อยเพื่อตั้งสติใหม่

                  ขณะเดียวกันนั้นเองที่ลูกธนูลงอาคมของมิคาเอลก็พุ่งตรงมายังเพิร์ลหมายปองชิวิต เด็กสาวเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่กระนั้นต้นแขนของเด็กสาวก็โดนหัวลูกศร ถากจนเลือดซึมเลอะแขนเสื้อ

                  ดูท่าการประลองวันนี้คงจะเข้มข้นจนละสายตาไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

                  ............................................................................................

                  "ก่อนอื่น ฉันต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ผ่านด่านแรกในการทดสอบวันนี้ทั้งหมด98 คน" เสียงเฮจากเหล่าอนาคตนักเรียนของ เกรทไลฟ์ ดังกระหึ่มด้วยความฮึกเหิม

                  "ด่านที่สอง ซึ่งเป็นด่านสุดท้าย เป็นด่านที่รุ่นพี่ปีสี่ได้จัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับเหล่านักเรียนใหม่ ประธานนักเรียนจะบอกกับพวกเธอในเรื่องนี้"

                  อเล็กซ์ซานเดอร์ผายมือให้กับนักเรียนชายหญิงคู่หนึ่ง ทั้งสองโค้งรับอย่างนอบน้อม เด็กหนุ่มร่างสูงผมสีดำหยักศก ในชุดไปรเวทและเสื้อคลุมสีขาว แต่เด็กสาวนัยน์ตาสีเลือดนกที่อยู่ข้างๆกลับใส่เสื้อคลุมสีดำ

                  "สวัสดี ชั้น เจมส์ วันเดอร์เรอร์ ประธานนักเรียน"เด็กหนุ่มกล่าวพลางขยับแว่นเล็กน้อย

                  "ชั้น วาเนสซ่า คิม ประธานนักเรียน สำหรับการทดสอบด่านสุดท้ายของปีนี้เป็นด่านง่ายๆ ถ้าหากว่าพวกเธอจะฉลาดพอที่จะเอาชนะมัน แต่ถ้าไม่ เกรทไลฟ์คงเป็นแค่ความฝัน" มุมปากเหยียดออกเล็กน้อย ก่อนที่เจมส์จะเป็นผู้แจกแจงถึงอุปสรรคที่ทุกคนจะต้องเผชิญ

                  "ขอให้น้องๆจับคู่กันแล้วก็ไปลงชื่อที่โต๊ะของคณะกรรมการนักเรียนทางด้านขวาของสนามประลอง จากนั้นจะมีรุ่นพี่นำพวกเราไปยังห้องทดสอบ ห้องถูกร่ายมนต์เอาไว้ และห้องจะเป็นผู้ทดสอบพวกเธอ เอาเข็มตราโรงเรียนออกมาจากห้องนั้น แล้วเธอจะกลายเป็นนักเรียนของเกรทไลฟ์อย่างเต็มตัว ขอบคุณที่ตั้งใจฟัง" หลังจากที่เจมส์กล่าวจบ เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจก็ดังไปทั่วบริเวณ นักเรียนหลายคนรู้สึกสบายๆกับการทดสอบด่านที่สองนี้ ถึงแม้จะคิดคลางแคลงระแวงในอันตรายข้างหน้า อันเนื่องมาจากคำข่มขู่ของประธานนักเรียนสาว วาเนสซ่า คิม อยู่บ้าง แต่ยังไงซะรุ่นพี่ก็คงไม่ใจร้ายจนเกินไป..........

                  ใช่มั้ย?..

                     

                      "ปีเตอร์ วอร์แฟร์ และ โทโมฮิสะ เรย์อาร์" เสียงรุ่นพี่ขานชื่อนักเรียนเข้าไปยังห้องทดสอบดังอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่กำลังรอคิวเข้าทดสอบ ด่านสุดท้ายก่อนจะเข้าไปยังหลังกำแพงของโรงเรียนนั่น

                  "พวกเธอมาจากไหนเหรอ" รุ่นพี่ผู้คุมนักเรียนเข้าสู่ห้องทดสอบคนหนึ่งกล่าวถาม ฝาแฝดคู่หนึ่งที่หน้าเหมือนกันจนแยกไม่ออก

                  "เซเรนิตี้ครับ" หนึ่งในผู้ถูกถามกล่าวตอบ ผู้ถามมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวถามต่อ

                      "หรือว่าจะเป็นโอรสและธิดาแห่งเซเรนิตี้" เด็กฝาแฝดยิ้มและพยักหน้ารับพร้อมกัน "ขอประทานอภัยที่ล่วงเกิน เจ้าชายมิคาเอล และเจ้าหญิงแองเจลล่า" เด็กหนุ่มรีบพูดอย่างรวดเร็วพร้อมกับโค้งลงอย่างให้ความเคารพ บ่งบอกว่ารุ่นพี่คนนี้เป็นคนในเซเรนิตี้อย่างแน่นอน

                      "ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ที่นี่เป็นโรงเรียน และฉันก็เป็นรุ่นน้อง" มิคาเอลพูด้วยเสียงที่แฝงอำนาจอยู่ในที

                      "เจมส์บอกพวกเราทุกคนน่ะ เรื่องที่ท่านทั้งสองจะเข้าเรียนปีนี้ เค้าเป็นคนจัดการเรื่องโรงเรียนให้กับท่านทั้งสอง คงจะดีถ้า....เอ่อ...ไปทักทายแล้วก็ขอบคุณเขานิดหน่อย เขาเป็นประธานนักเรียนที่ดี ผิดกับยัยนั่น เอ่อ....ฉันหมายถึงวาเนสซ่าน่ะ" เด็กหนุ่มพูดซะยืดยาว ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะยัง เกรงๆอยู่บ้าง

                      "ขอบคุณที่แนะนำค่ะ"  แองเจลล่ากล่าวตอบพร้อมรอยยิ้ม

                      "มิคาเอล อาร์ทีมิส และ แองเจลล่า อาร์ทีมิส" เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง

                      "เราต้องไปแล้วล่ะค่ะ คงได้พบกันอีกนะค่ะ" เด็กสาวกล่าว ก่อนจะรีบเดินตามมิคาเอลไป

                      "โชคดีนะ หวังว่าตอนเปิดเทอมจะพบกันที่โรงเรียน"

                      ...................................................................

                      ปัง!!

                      ประตูถูกปิดลงอย่างแรงคล้ายจะข่มขวัญรุ่นน้องอย่างกลายๆ มิคาเอลและแองเจลล่า ต่างตกอยู่ในความมืด ไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียง ไม่มีกลิ่น ความหวาดกลัวค่อยๆคืบคลานเข้าสู่จิตใจของทั้งคู่ทีละน้อย เหงื่อไหลซึมออกมา มือทีเย็นเฉียบของทั้งคู่ยังคงกุมกันไว้

                      "มิคาเอล.....เค้ากลัว.."

                      ตูม!!

                  ทันทีที่แองเจลล่าพูดคลื่นพลังเวทมนต์ก็ซัดเข้าใส่ร่างของเธอจนกระเด็นไปที่ผนังด้านหนึ่ง ทั้งคู่ไม่สามารถบอกได้ว่าต้นตอของพลังเวทมนต์ที่ซัดแองเจลล่าไปนั้นอยู่ที่ไหน มือที่เกาะกุมกันอยู่ในตอนแรกหลุดออกจากกัน มิคาเอลหยิบลูกธนูออกมาพร้อมกับที่คับธนูปรากฎในมืออีกข้าง

                      "แองเจลล่าเป็นอะไรรึเปล่า" มิคาเอลเสียงเครียดพลางง้างธนู

                  "พอไหว ระวังนะมิคาเอล เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร" แองเจลล่ากล่าวเตือน

                      ฟ้าว....

                      ลูกธนูพุ่งแหวกอากาศตรงมายังมิคาเอล เขายิงสวนออกไปในทิศทางตรงข้ามทันที แต่ลูกธนูอีกดอกก็พุ่งเข้าใส่เข้าใส่อย่างรวดเร็ว

                      "โอ้ย!!" เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังออกจากปากมิคาเอล ทำเอาแองเจลล่าหัวใจแทบหยุดเต้น

                      "มิคาเอล ตัวเป็นอะไร!!" เธอร้องถามอย่างหวาดกลัว ไอเวทมนต์เข้าจู่โจมเธออย่างเงียบๆทำเอาเธออึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก มือเท้าก็เหมือนจะหมดเรี่ยวแรงไปซะเฉยๆ

                      "หลบลูกธนูไม่พ้น แต่ไม่เป็นไร แค่ที่แขนน่ะ" เด็กหนุ่มกัดฟันดึงลูกธนูออกจากแขน ทั้งๆที่ห้องนี้อากาศไม่ร้อนเลยซักนิด แต่เหงื่อกลับไหลจนเสื้อผ้าเปียกชุ่มไปหมด

                      "มิ....มิคาเอล....เค้า....หายใจไม่.....ออก..." เด็กหนุ่มหันขวับไปยังด้านที่คิดว่าเป็นต้นเสียงด้วยความตระหนก

                  "พยายามหน่อย...สูดหายใจลึกๆ" เด็กหนุ่มกล่าวพลางข่มความกลัวเอาไว้ แต่น้ำเสียงของมิคาเอลก็ไม่มั่นคงนัก

                      "ไม่...ไหว.." เสียงของเด็กสาวแย่ลงกว่าเก่า คล้ายคนหมดแรงใกล้ตาย

                      "แองเจลล่า!!!!!" เด็กหนุ่มตะโกนสุดเสียง

    ............มิคาเอล ดูแลน้องให้ดีๆนะ............

    ความหวาดกลัวที่ข่มเอาไว้พุ่งเข้าใส่มิคาเอล พร้อมกับที่ลูกธนูห่าใหญ่พุ่งเข้าจู่โจมตัวเค้าจนไม่สามารถหลบได้ทัน ลูกธนูปักลงบนร่างกายของเค้า แม่นราวกับจับวาง เลือดอุ่นๆไหลซึมออกมาทีละน้อย กลิ่นคาวๆโชยมากระทบ พร้อมๆกับความสิ้นหวัง

    ตอนนี้.....แม้แต่ชีวิตของตัวเอง เด็กหนุ่มก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะยังอยู่ไปอีกนานเท่าไหร่ การทดสอบด่านแรกมีคนตายไปคนนึง และบาดเจ็บสาหัสอีกคนนึง แล้วถ้าทั้งเค้าและแองเจลล่าตายในการทดสอบด่านนี้ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้

    เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างอ่อนแรง เจ็บ.....จนไม่สามารถขยับตัวได้เลย

    ........รัชทายาทแห่งเซเรนิตี้........

    ความหมายของคำๆนี้ดูเหมือนจะใกล้เคียงกับคำว่าอ่อนแอเต็มที

    เสียงของแองเจลล่าก็เงียบหาย จนกลัวว่าเธอออาจจะ...ไม่มีลมหายใจหลงเหลืออยู่อีกแล้วก็เป็นได้

    น้ำตาไหลซึมลงมาช้าๆ เพิ่งจะรู้ว่าพื้นที่ยืนอยู่ในตอนแรกเย็นขนาดนี้ หากแม้แต่มีแรงหลงเหลือให้ยันกายขึ้นมาซักนิด เค้าคงไม่นอนบนพื้นนี้เป็นแน่แท้

    ท่านแม่....ข้าคงจะทำตามสัญญาที่ให้กับท่านไม่ได้.....ข้าขอโทษ.....

    ลูกธนูพุ่งเข้าโจมตีเด็กหนุ่มอีกครั้ง มิคาเอลไม่มีแรงแม้แต่ที่จะร้องออกมา ว่าเค้าเจ็บปวดมากแค่ไหน

    ฝีมือการยิงธนูที่ตนเคยภูมิใจนักหนา สุดท้ายก็ทำได้แค่ ตายเพราะธนู เลือดอุ่นๆไหลรินอย่างไม่หยุดยั้ง ลมหายใจขาดห้วงไปทีละนิด แม้แต่ความมืดก็ยังพร่าเลือน ความอ่อนแอที่ส่งผ่านนัยน์ตาสีไพลินถูกซ่อนไว้เบื้องหลังเปลือกตา

    ......ศักดิ์ศรีของเจ้าชาย....

    มิคาเอล.....แองเจลล่า....ลูกทั้งสองคนเป็นลูกของกษัตริย์ เป็นเชื้อสายนักรบ การยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ ไม่ใช่กษัตริย์ ไม่ใช่นักรบ ลูกคือความหวังของประชาชนเช่นเดียวกับพ่อ และแม่ของเจ้า จงเชื่อมั่น และใช้สติ เอาชนะความกลัวในจิตใจของตนเอง แล้วชัยชนะจะเป็นของลูก

    ดวงตาที่ปิดลงไปแล้วของมิคาเอล ถูกเปิดออกอีกครั้ง ประกายมุ่งมั่นและกล้าหาญ ฉายชัดอยู่ในแววตานั้น เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่ง ไม่รู้สึกเจ็บเลยซักนิด ลูกธนูหายไปราวกับไม่เคยพุ่งเข้าทำร้ายเขามาก่อน บาดแผลตามตัวแม้แต่แผลเดียวก็ไม่มี เด็กหนุ่มเพิ่งรู้สึกว่าตะเกียงตรงมุมห้องถูกจุดเพื่อให้แสงสว่างตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาแล้ว ห้องนี้ไม่ได้กว้างใหญ่อย่างที่เค้าคิดไว้ในตอนแรก ผนังทุกด้านเป็นกระจกเงา สะท้อนภาพของเขาและแองเจลล่าซึ่งกำลังนั่งพิงกำแพงอย่างเหนื่อยอ่อนไม่ไกลจากตัวเค้านัก รอยยิ้มน้อยๆฉายอยู่บนใบหน้าที่อ่อนล้านั้น กระจกสะท้อนภาพของพวกเค้า ใบหน้าที่เหมือนกัน ทั้งผมสีบลอนส์ ดวงตาสีน้ำเงิน จมูก ริมฝีปาก และรอยยิ้ม ไม่ต่างจากกระจกทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างคือ ภาพสะท้อนความหวาดกลัว ไร้สติ และความอ่อนแอ

    "จงเชื่อมั่น และใช้สติ เอาชนะความกลัวในจิตใจของตนเอง" เป็นเสียงที่ดังจากปากของแองเจลล่า เสียงที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ

    "แล้วเราจะออกจากห้องยังไง"มิคาเอลเอ่ยอย่างสงสัย

    แองเจลล่ายิ้มกับพี่ชายก่อนจะชี้ให้เขาก้มลงมองที่เสื้อของตัวเอง ตรงอกด้านซ้ายเข็มกลัดสีทองรูปมงกุฎของพระราชา นิ้วมือไล้ตราประจำโรงเรียนเบาๆ ก่อนจะมองไปตามมือของแองเจลล่าอีกครั้ง ตรงกลางของกระจกด้านหนึ่งรอยสลักรูปมงกุฎขนาดพอเหมาะพอดีกับเข็มกลัดที่ติดอยู่บนเสื้อ เด็กหนุ่มลุกขึ้นไปพยุงแองเจลล่าที่เหนื่อยอ่อนเกินกว่าจะลุกไหว

    ตราโรงเรียนของทั้งคู่ทาบลงบนกระจกพริบตาเดียวกระจกก็หายไปพร้อมกับแสงไปในห้องที่ดับลง แสงแดดส่องมายังทั้งคู่ ภาพโรงเรียนเกรทไลฟ์ตรงหน้า และรุ่นพี่ที่รอต้อนรับ

    "เวลาดีนี่ ทำลายสถิติไปแล้ว" วาเนสซ่า คิม ประธานนักเรียนสาวกล่าวพลางยัดเอกสารชุดหนึ่งใส่มือมิคาเอล

    "เจมส์ ทางนั้นเรียบร้อยรึยัง คู่นี้ออกมาเร็วกว่าคู่ที่แล้วอีก ด่านที่ฉันเตรียมมาอย่างดี ง่ายจนเด็กพวกนี้จัดการได้ไม่ถึงหนึ่งนาที" วาเนสซ่ากล่าวอย่างหงุดหงิด

    "กำลังจะเรียบร้อย กี่นาทีล่ะ" ประธานนักเรียนอีกคนตอบ ก่อนจะถามกลับไป

    "สองนาที สิบแปดวินาที" วาเนสซ่ากล่าวก่อนจะถอนหายใจ "อ้าว....อาร์ทีมิสฝาแฝด อย่ามัวยืนอึ้งสิจ๊ะ ไปรายงานตัวกับประธานนักเรียนเจมส์ในนั้น อ้อ...อีกอย่าง ที่นี่คือโรงเรียน เราไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ เจ้าชายก็คือนักเรียน คนจนก็เป็นนักเรียนเหมือนกัน" เธอกล่าวพลางชี้เข้าไปในกระโจมสีขาว มิคาเอลและแองเจลล่าพยักหน้ารับ

     ภายในกระโจม นอกจาก ประธานนักเรียน เจมส์ วันเดอร์เรอร์แล้ว ยังมีนักเรียนชายอีกสองคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจมส์ หนึ่งในนั้นคือ โทโมฮิสะ เรย์อาร์ เด็กหนุ่มที่เสนอตัวทดสอบเป็นคู่แรก

    "ชื่ออะไรน่ะ สองคน" เจมส์เอ่ยกับผู้เพิ่งเข้ามาใหม่

    "มิคาเอลกับแองเจลล่า อาร์ทีมิสครับ" มิคาเอลกล่าวตอบ

    "อ๋อ...อาร์ทีมิส เอาเอกสารที่วาเนสซ่าให้มาวางไว้ บนโต๊ะ แล้วก็รอแป๊ปนึง ออกกันมาเร็วเกินไปรู้รึเปล่า ทั้งเรย์อาร์กับวอร์แฟร์ อาร์ทีมิสก็ด้วย" เจมส์บ่นพลางตรวจสอบเอกสาร และกรอกข้อมูลลงไปก่อนจะยื่นเอกสารให้กับ โทโมฮิสะ เรย์อาร์ และเด็กหนุ่มวอร์แฟร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ

    "เรียบร้อย เดินตรงไปตามทางเดินที่สวนด้านขวามือ หอพักของเธอสองคนอยู่ตึกด้านซ้ายชั้นบนสุดเลขห้องอยู่ที่กุญแจ" เจมส์กล่าวขณะที่เด็กหนุ่มสองคนนั้นลุกขึ้น ก่อนที่มิคาเอลและแองเจลล่าจะนั่งลงแทนที่

    "อ้อเดี๋ยว...รอสองคนนี้ด้วยก็ดี ยังไงก็ต้องอยู่ห้องติดกัน" เจมส์บอกเด็กหนุ่มสองคนนั้น ก่อนจะหันมาสนใจกับเอกสารตรงหน้าต่อ มิคาเอลและแองเจลล่ามองท่านประธานนักเรียนอย่างเกรงๆ "เรียบร้อย เดินตรงไปตามทางเดินที่สวนด้านขวามือ หอพักของเธอสองคนอยู่ตึกด้านซ้ายชั้นบนสุดเลขห้องอยู่ที่กุญแจ" เจมส์พูดประโยดเดิมที่กล่าวกับเด็กคู่ก่อนหน้านี้ แม้แต่น้ำเสียงไร้อารมณ์ของเขาก็ยังไม่ผิดเพี้ยนไปซักนิด

    "แล้วก็ไม่ต้องกลัวหรอก ชั้นไม่ได้กัดเหมือนวาเนสซ่าหน้ากระโจมนั่นหรอก" เจมส์กล่าวเรียบๆ ไม่วาย"กัด"ประธานนักเรียนอีกคน ที่ยืนรับรุ่นน้องพร้อมกับเตรียมเอกสารหน้าปวดหัวมาให้

    มิคาเอลและแองเจลล่าพยักหน้าพร้อมกัน

    "เอ่อ....ขอบคุณมากนะค่ะที่ช่วยจัดการเรื่องโรงเรียนให้ทั้งหมด" แองเจลล่ากล่าวขอบคุณ แต่ก็ยังเกรงๆคนตรงหน้าอยู่บ้างๆ

    "ไม่เป็นไร สำภาระของพวกเธออยู่ตรงมุมกระโจมนั่น เร็วๆเข้าล่ะ เรย์อาร์กับวอร์แฟร์ยังรอพวกเธออยู่หน้ากระโจม"

    to b con.......

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ช่วยกานวิจารณ์ด้วยนะค้าบบ จะได้เอามาปรับปรุง
    ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่ามาเมนท์กานนนะคับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×