คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่7
"ดิฉันจองซูยอน มารายงานตัวค่ะท่านประธาน..."เจสสิก้าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆไร้ความรู้สึกกับคนที่เธอเรียกว่าท่านประธานที่นั่งอยู่กลางห้อง
"ขอบคุณที่คุณไม่ลืมสัญญาครับ..."ซีวอนยิ้มออกมาก่อนจะตอบรับเธอ "ทานอะไรก่อนไหมครับ อย่างเช่นกาแฟ หรือนมอุ่นๆ"ซีวอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เจสสิก้าเรื่อยๆแล้วจับมือเธออย่างฉวยโอกาส
"ดิฉันมีงานต้องทำค่ะ ไม่ได้ว่างมากมายขนาดนั้น ถ้าจะให้ฉันมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้หล่ะก็ขอบายค่ะ"เจสสิก้าสะบัดมือของซีวอนออก
"งั๊นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอโทษด้วยแล้วกัน เชิญไปทำงานตามที่คุณต้องการก็ได้ครับ"ซีวอนผายมือให้เจสสิก้าไปยังทางออกของห้อง ซึ่งเจสสิก้าก็เดินหันหลังกลับอย่างไม่ใส่ใจคำพูดของอีกฝ่าย
แต่หัวสมองของเธอกลับวูบลง และร่างกายยังอ่อนแรงจนไม่มีแรงที่จะเดิน
เจสสิก้าใช้มือจับที่ขมับก่อนจะล้มลงไปตามแรงโน้มถ่วง
แล้วคงจะลงไปกองกับพื้นเสียแล้วหากไม่มีมือหนาของซีวอนคว้าเอวบางเอาไว้
"เจสสิก้า คุณเป็นอะไรไป"เขาประคองเธอในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน
"ปล่อยนะคะ.."เจสสิก้าไม่ตอบคำถามอะไรทั้งสิ้นพยายามเบี่ยงตัวออกจากอ้อมอกของซีวอนให้เร็วที่สุด
"ไม่ปล่อยครับ จนกว่าคุณจะบอกว่าเป็นอะไร"ซีวอนกระชับอ้อมกอดแน่น
"ฉันแค่นอนไม่พอ..พอใจหรือยังคะ ปล่อยได้แล้ว"เจสสิก้าพูดเสียงงึมงำ เพราะความจริงเธอยังไม่มีแรงจะลุกตากหาก
ซีวอนไม่พูดอะไร แต่อุ้มเธอขึ้นก่อนจะวางเธอไว้ที่โซฟาในห้องผู้บริหารของเขา
เจสสิก้าหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย...
สายตาของซีวอนมองไปยังประตูห้องที่เปิดออก ดูเหมือนว่าจะมีคนมาใหม่
"ผมขอโทษที่รบกวนนะครับ คุณชเวซีวอน"ดงเฮพูดเสียงเรียบ เพราะเขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว
"ไม่เป็นไรครับ วันนี้เรานัดมาคุยเรื่องงานที่ค้างไว้ใช่ไหมครับ"ซีวอนพูดทั้งๆสายตาของเขากำลังมองไปที่มือของเขาที่ปัดปอยผมของเจสสิก้าอยู่
"ครับ แต่ดูเหมือนว่าคุณจะยุ่งๆ ไว้คราวหลังก็ได้นะครับ"ดงเฮใช้สายตาแข็งกร้าวของเขามองไปทางซีวอน "ดูเหมือนว่าคนของผมจะไม่ค่อยสบาย ผมพาเธอกลับได้ไหมครับ"
"เห็นทีว่าจะไม่ได้หรอกครับ คุณลีดงเฮ...ตอนนี้เป็นเวลางาน ทุกคนก็ต้องอยู่ที่บริษัทสิครับ อีกอย่าง เดือนนี้คุณเจสสิก้าหยุดงานเกินกำหนดแล้ว ถ้าเธอหยุดอีกเธอจะถูกตัดเงินเดือนนะครับ" ดงเฮมองซีวอนด้วยความไม่ไว้ใจ มิน่าเจสสิก้าถึงได้กลัวนักกลัวหนา
"เท่าไหร่ครับ"ดงเฮพูดขึ้น
"ก็ตอนนี้การก่อสร้างเริ่มแล้วหล่ะครับ ฐานตึกดูเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เราคงใช้งบประมาณสักสามพันล้านวอน..."
"ผมหมายถึงอิสรภาพของเจสสิก้าครับ...ไม่ใช่ตึก"
"สมัยนี้ผู้หญิงเนี่ยซื้อกันได้ด้วยเหรอครับคุณดงเฮ...ไม่อยากเชื่อนะครับว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ แต่นี่เป็นเวลาทำงานนะครับ...อ้ออีกอย่างเจสสิก้าเธอเป็นคนตกลงทำงานที่นี่เองนะครับ ไม่ใช่เพราะผมสักหน่อย ไม่เชื่อลองถามเธอก็ได้ ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรก็เชิญครับ"
"บังเอิญว่าผมมีครับ...นี่คือแบบร่างของอีกโปรเจคหนึ่ง ผมนำมาส่งครับ"ดงเฮหยิบแฟ้มที่เขาถือมาด้วยมอบให้ซีวอน
"ไม่อยากจะเชื่อนะครับว่าท่านประธานบริษัทจะมาส่งด้วยตัวเอง ความจริงคุณให้คนอื่นมาส่งให้ก็ได้ หรือคุณเองก็มีจุดประสงค์อื่นเหมือนกัน....อื้ม ท่าทางแบบที่ร่างมาก็เวิร์คนะครับ"ซีวอนเปิดแฟ้มดูงานที่ดงเฮนำมา
"หึหึ.."ดงเฮหัวเราะในลำคอ "สำหรับผมงานก็คืองานครับ งานออกแบบตึกเนี่ยผมเป็นคนออกแบบเองครับ เผื่อขาดเหลืออะไรผมจะได้แก้ไขถูก"
"งั๊นเหรอ...แต่ดูพวกคุณสองคนจะรักกันมากนะ เห็นปกป้องกันตลอด"ซีวอนชำเลืองไปทางเจสสิก้าที่หลับอยู่ "ดูเธอรักคุณมาก"
"ขอบคุณครับ...มันก็คงจะเป็นอย่างนั้น"
"ดูท่าทางเธอจะเหนื่อยมาก คุณพาเธอกลับไปพักผ่อนแล้วกัน ผมอนุญาต"
"ถ้าคุณไม่อนุญาตผมว่าคุณก็คงไม่ใช่มนุษย์แล้วหล่ะครับ แต่ยังไงก็ขอบคุณเหมือนกัน"พูดจบ ดงเฮรีบตรงไปยังโซฟาที่เจสสิก้านอนอยู่ทันที ก่อนที่จะใช้แรงของเขายกัวเธอขึ้น แต่เจสสิก้ากลับรู้สึกตัวเสียก่อน
"ออกไปนะ..."เจสสิก้าพยายามปัดมือของดงเฮออกเพราะนึกว่าเขาเป็นซีวอน
"สิก้า...ผมเองครับ"เจสสิก้าลืมตาเบิกกว้าง
"ดงเฮ คุณมาได้ยังไง..."เจสสิก้าขยี้ตาตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่ามันคือความจริง
"มารับคุณกลับบ้านไงครับ ไม่สบายแล้วยังจะหักโหมอีก"ดงเฮยกตัวเจสสิก้าขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
"ปล่อยเถอะค่ะ เจสยังไหว...ทำงานต่อได้ค่ะ"เจสสิก้าพยายามหว่านล้อมให้ดงเฮปล่อยตัวเธอลง ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
"อย่าฝืนเลยครับ...กลับบ้านเถอะ"
"เจสอยากรีบทำงานให้เสร็จหน่ะคะ อีกอย่างเจสหายเวียนหัวแล้วด้วย ให้เจสทำงานเถอะนะคะ ดงเฮ"
"ถ้าคุณต้องการแบบนั้นก็ได้ครับ...แต่เย็นนี้ผมจะมารับคุณที่นี่แล้วกันนะครับ"
"ได้ค่ะ..."
"คุณทำงานที่ไหนหล่ะครับเดี๋ยวผมจะได้ไปส่ง"ดงเฮประคองเจสสิก้า
"ชั้นสาม แผนกต่างประเทศค่ะ"เจสสิก้าตอบ
"ใครบอกหล่ะครับว่าเป็นที่นั่น..."ดงเฮและเจสสิก้ามีสีหน้างงเล็กน้อยกับคำพูดของซีวอน
"เจสสิก้าเธอเป็นเลขาของผมครับ.."
######################################################
"ทำไมคุณไม่บอกฉันก่อนหล่ะคะ ว่าฉันจะต้องมาเป็นเลขาส่วนตัวของคุณ"เจสสิก้าพูดขึ้นทันทีเมื่ออยู่กับซีวอนสองต่อสองในห้องของเขา
"ก็บอกแล้วไงครับ ไม่พอใจเหรอ..."
"คุณจะกักขังฉันไปอีกนานเท่าไหร่กัน ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่าฉันกับดงเฮเป็นอะไรกัน..."
"ก็ได้...ผมยอมก็ได้ ต่อไปนี้ผมจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณอีกแล้ว ผมขอเอกสารจากฝ่ายการเงินด้วยครับ"
"ดิฉันจบอักษรศาสตร์มากนะคะ ไม่ได้จบเลขา ดิฉันจะรู้ได้ยังไงหล่ะคะว่าจะต้องทำอะไรบ้าง"
"บอกตามตรง ความจริงผมก็แค่แกล้งนายนั่นไปเฉยๆ ดังนั้นเชิญคุณที่แผนกต่างประเทศตามเดิมเถอะครับ"
"ขอบคุณค่ะ แล้วหวังว่าเจ้านายอย่างคุณจะไม่มารบกวนเวลาทำงานของดิฉันนะคะ"เจสสิก้าพูดขึ้นก่อนจะกลับหันหลังก้าวปึงปังด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอ
"เดี๋ยวก่อนครับ.."ซีวอนเรียกเจสสิก้าที่กำลังจะเปิดลูกบิดของประตู
"เฮ้อ.. ค๊ะ ท่านประธาน"เจสสิก้าถอนหายใจก่อนที่จะค่อยๆหันมาแล้วตอบรับ
"ผมว่าระวังหน่อยก็ดีนะครับ ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้"
"ดงเฮไม่ใช่คนแบบนั้นค่ะ"เจสสิก้าเถียง
"แล้วแต่คุณ ผมเตือนไว้แล้วนะครับ...เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะครับ รักมาก ก็เจ็บมากนะครับ...คุณเจสสิก้า"
"หึ...ปัง"เจสสิก้าหัวเราะในลำคอก่อนที่จะเดินออกจากประตูแล้วปิดมันเสียงดังลั่น
"เหมือนที่ผมรักคุณอยู่ไงครับ...ไม่มีใครทนได้หรอกเจสสิก้า ทนที่จะต้องเห็นคนที่ตัวเองรักรักกับคนอื่น"ซีวอนกำมือตัวเองแน่น
#################################################
ยูริขับรถมาจอดที่สนามบินชั้นบนสุดตามเดิม ก่อนที่จะมองไปที่รูพรุนสามรูที่ยังอยู่เหมือนเดิม
"นายตัวซวย อย่าให้ฉันเจอนายอีกนะ จะเอาให้ซวยกว่าฉันเลย ค่าซ่อมรถก็ไม่จ่าย ฮึ่ยนึกว่าจะดี บินคราวนี้กะจะไปถอยไอโฟนซะหน่อย ต้องไปเสียค่าซ่อมรถ อยากกรี๊ดโว้ย....."ยูริเปิดประตูรถก่อนจะออกจากมาหยิบข้าวของสัมภาระ เพราะวันนี้มีไฟล์ทที่เธอต้องบินไปด้วย
"ลัลล๊า....ค่าซ่อมรถ ฮือๆ..."ยูริทั้งหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันอย่างเสียสติ "ไอโฟนของฉัน.....ชาตินี้ชาติไหนอย่าได้เจอกันอีกหนเลย สาธุ!!"ยูริยกมือขึ้นมาไหว้ระดับศีรษะ
"เอาหละ แล้วนี้ฉันจะต้องทำงานอย่างมีความสุข ไฟท์ติ้ง!!"พูดจบยูริก็คว้ากระเป๋าเดินทางใบประจำออกมาจากท้ายรถ ก่อนจะลากมันอย่างสง่างามมาดแอร์โฮสเตสสาว
"นี่ ยัยควอนใช่ไหม..."หัวหน้าแอร์โอสเตสเป็นคนพูดกับเธอเมื่อเธอกำลังจะโหลดกระเป๋าเดินทางของเธอขึ้นเครื่อง
"ขา หัวหน้า..."ยูริเตรียมจะยกกระเป๋าขึ้นโหลดก็ต้องหยุดชะงักเสียก่อน
"ท่านผู้อำนวยการเรียกเธอหน่ะ"หัวหน้าแอร์โฮสเตสเป็นคนพูดขึ้น
"ห๊า พี่ว่ายังไงนะคะ ท่านผู้อำนวยการเรียกยูริเหรอคะ...เรียกเพื่อ ??"ยูริยังเกาหัวแกรกๆงงกับสิ่งที่หัวหน้าแอร์โฮสเตสพูด คนอย่างท่านผู้อำนวยการจะเรียกเธอเนี่ยนะ ตลก ใครเชื่อก็บ้าแล้ว...
"ฮ่าๆ ถึงยูริจะมาใหม่พี่ก็แกล้งยูริไม่ได้หรอกน่า"ยูริหัวเราะออกมาก่อนที่จะเตรียมเอากระเป๋าเดินทางของเธอใส่ไปในเครื่องโหลดกระเป๋า แต่ก็ต้องหยุดอีกครั้งเมื่ออีกคนวีนขึ้นมา
"นี่ อย่าเอากระเป๋าของเธอวางลงไปนะ ไฟล์ทของเธอถูกยกเลิกไปแล้ว..."
"ห๊า!! ไฟล์ทยูริถูกยกเลิก ทำไมคะ พี่หัวหน้า....??"ยูริทำหน้างงยิ่งกว่าเดิม
"ฉันบอกแล้วไงว่าท่านผู้อำนวยการเรียกเธอ ถ้าเธออยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไปหาท่านซะ ฉันเป็นแค่หัวหน้าแอร์โฮสเตสฉันจะไปรู้เหรอยะหล่อน"
"เออ พี่อ่ะ ไปก็ได้ ฉันจะให้พี่หลอกก็ได้...เชอะ"ยูริสะบัดหน้าก่อนจะเดินกลับหลังหันแล้วลากกระเป๋าเดินทางของเธอไปด้วย
"มองอะไรกันนักกันหนา ไม่เคยเห็นกระเป๋าเดินทางเหรอไง.."ยูริแอบสบถขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมงานที่เดินไปมาจ้องมาที่กระเป๋าเดินทาง'ลายคิตตี้'ใบโตของเธอ
#######################################################
"เอ๊ะ ถ้าท่านผู้อำนวยการเรียกเราไปจริงๆแสดงว่า....เราอาจจะได้เลื่อนตำแหน่ง วะฮ่าฮ่า "ยูริคิดเพ้อเจ้อ
"เราอาจจะถูกย้ายไปเป็นหัวหน้าแอร์แทนป้านั่น หรืออาจจะได้ไปเป็นแอร์ที่ยุโรป โอ้วววว....ไอโฟน!! แค่เอื้อม!!"
"นี่หล่อน เอาอาหารไปเสิร์ฟให้แขกเดี๋ยวนี้นะ ไม่ไปอีกเหรอ เดี๋ยวหักเงินเดือนเลย โฮะๆๆ"ยูริคิดภาพตัวเองในจินตนาการ ที่ตัวเองเป็นหัวหน้าแล้วสั่งบรรดาลูกน้องแอร์โฮสเตส
"ยูริมาแล้วค่ะท่านยูริยืนบิดไปบิดมาด้วยความตื่นเต้นหน้าห้องผู้อำนวยการ โดยที่มีเลขานั่งอยู่หน้าห้อง
"ควอนยูริ มาพบท่านผู้อำนวยการค่ะ ท่านนัดเอาไว้"ยูริพูดกับเลขาอย่างร่าเริง
"อ๋อ คุณควอนยูริใช่ไหมคะ รอสักครู่นะคะ"พูดจบเลขาก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นเพื่อติดต่ออะไรบางอย่าง
"เร็วๆสิค๊า...ยูริรอไม่ไหวแล้ว ยัยป้านั่นเสร็จแน่ ฮ่าฮ่าฮ่า"ยูริแอบตื่นเต้นในใจ
"เชิญค่ะ"เลขาผายมือให้เข้าไปในห้องได้ ยูริโค้งตัวให้เลขาหนึ่งครั้งก่อนจะเดินเข้าไป
"สวัสดีค่ะท่านผู้อำนวยการ ควอนยูริค่ะ"ยูริโค้งให้ท่านผู้อำนวยการหนึ่งครั้ง
"ทำไมเพิ่งจะมา"ผู้อำนวยการตอบด้วยเสียงเรียบๆ เย็นชา
"ขอโทษค่ะ ดิฉันเพิ่งจะรับทราบเรื่องจากหัวหน้าแอร์โฮสเตสค่ะ แล้วก็รีบมาทันที..."
"ผมไม่ต้องการข้อแก้ตัว ผมมีธุระที่จะจัดการอีกเยอะ ผมจะรีบพูดประเด็นเลยก็แล้วกัน"ยูริสังเกตสีหน้าที่จริงจังของผู้อำนวยการแล้วก็เริ่มเอะใจ คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่
"ค่ะ"ยูริก้มหน้าตอบสั้นๆ
"หึ คุณคงจะรู้นะว่าผมจะพูดเรื่องอะไรกัน"ยูริทำหน้าสงสัย
"ดิฉันไม่รู้จริงๆค่ะ"
"เธอโง่หรือแกล้งโง่กันแน่ แล้วรูปพวกนี้มันมาจากไหนคุณควอน"เขาขว้างซองสีน้ำตาลใส่เธอ ควอนยูริค่อยๆก้มลงเก็บซองที่ตกลงบนพื้นขึ้นมา แล้วเปิดมันออกด้วยความสงสัยที่ยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณ
แต่เมื่อเห็นรูปทั้งหมด เรื่องทุกอย่างก็ถึงบางอ้อ
"ห๊า......นี่มันรูปนาย...."ตาของยูริโตขึ้นมาทันที รูปของเธอกับนายฮีชอลที่โรงเเรม ตอนที่ฮีชอลพาเธอออกมาจากห้องแล้วกำลังจะไปส่งเธอด้วยสภาพที่ดูไม่ได้
"เอามาได้ไงอ่ะ...เอ้ย ท่านเอารูปพวกนี้มาได้ยังไงค่ะ...ไม่จริงน่า..."
"เธอรู้ไหมว่าเธอทำให้แอร์โฮสเตสสายการบินของฉันเสื่อมเสีย ถ้ารูปพวกนี้ออกไปสายการบินของเราจะต้องเสียเครดิตแน่ๆ"
"แต่เรื่องนี้มัน...ดิฉันไม่ได้ทำอย่างที่คุณคิดนะคะ"
"ผมไม่ได้เรียกให้คุณมาแก้ตัวนะครับ...บอกผมมาดีกว่าว่าคุณต้องการเท่าไหร่"
"ไม่นะคะ อย่าไล่หนูออกจากงานเลยนะคะท่าน หนูขอร้อง หนูยังต้องเลี้ยงพ่อแม่ ค่ารถก็ต้องซ่อม..."ยูริพูดด้วยท่าทางที่น่าสงสาร "ไอโฟนก็ยังไม่ได้.."ยูริแอบพูดงุบงิบ
"หึ..."ผู้อำนวยการหัวเราะในลำคอ "ไม่ต้องห่วง ในเมื่อคุณทำเรื่องเสื่อมๆพวกนี้ผมไล่คุณออกอยู่แล้วหล่ะ"ยูริหน้าซีด...
"โน่ว ไม่จริงนะ..."ตอนนี้ยูริกำลังอึ้ง ช็อคไปแล้ว "หนูไม่เคยทำเรื่องบัดสีอย่างนั้น.....จริงๆนะท่าน"
"บอกแล้วไง่าฉันไม่ได้เรียกเธอให้มาแก้ตัว....ตกลงเท่าไหร่"
"ไม่เอา เงินที่ฟาดหัวหนูให้ออกหน่ะหนูไม่เอา.....หนูจะอยู่ต่อ..."
"ฉันไม่ได้จ่ายให้เธอลาออก...แต่ฉันจ่ายเป็นค่าไม่ให้เธอมายุ่งกับลูกชายฉันอีก"
"ห๊า...ลูกชาย ตานี่... โอ๊ยไปกันใหญ่แล้วค่ะ ก็เรื่องของเรื่องคือ...."
"ผมฉันบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ให้คุณมาแก้ตัว...ฉันจะบอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ฉันจะให้คนลากเธอออกไปโดยไม่ได้รับเงินแม้แต่แดงเดียว"
"ได้ค่ะ!!"ยูริเริ่มทนไม่ไหวแล้ว "ถ้างั๊นก็จ่ายมาเลยค่ะ จ่ายมาเลย ค่าซ่อมรถของดิฉัน ที่ลูกชายตัวดีของคุณทำ!!"
"หึ ทำไมจะต้องจ่ายในเมื่อรถของเธอมันก็คือรถที่ลูกชายฉันซื้อให้"
"จะบ้าเหรอไง รถคันนั้นพ่อ..."
"พ่อของฮีชอลก็คือฉันเนี่ยแหละ รถคันนั้นมันก็คือเงินของฉันไง"ยูริกุมขมับ เธอเองก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่ทีเรื่องแบบนี้ทำไมไม่มีใครสนใจเธอเลยก็ไม่รู้
"เพราะเธอนั่นแหละที่ทำให้ลูกชายฉันต้องเสียคน แค่ฉันไม่ทวงรถคืนมันก็ดีแค่ไหนแล้ว เธอออกไปได้แล้ว ฉันไล่เธอออก แล้วอย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีก"
"ฮึ่ย.......อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!! ทนไม่ไหวแล้วนะ ไหนๆก็จะออกแล้ว คุณเองอย่าลืมไปใช้หนี้ให้ลูกชายด้วยหล่ะ มาเฟียตามฆ่าจะตายแหล่มิตายแหล่ คนอื่นเดือดร้อนนะเฟ้ย ฉันนี่แหละคนนึง คุณก็ด้วย หัดฟังคนอื่นบ้างเซ๊ะ เป็นเทพเจ้าเหรอไงคิดว่าถูกอยู่คนเดียว อ้อแล้วอย่าหลงลูกชายมากไป บอกนายนั่นให้ออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว ซวยทั้งชาติ โว้ยยยย..."ยูริวีนออกมาก่อนที่จะก้าวฉับๆเดินออกจากห้องไป
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!"ยูริกรี๊ดเสียงดังลั่นทันทีที่เดินออกมาจากห้องผู้อำนวยการ ทำเอาพนักงานทั้งหลายต่างหันมามอง
"ไปทำงานได้แล้วอย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้าน อ๊าย!!"ยูริตวาดใส่คนที่จ้องมาทางเธอก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย
ความคิดเห็น