ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Of Survivor : เกาะแห่งฝัน วันแห่งรัก [Snsd+Sj]

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่5

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 53




    วันนี้คริสตัลเดินผ่านหน้าบ้านเพื่อนสนิทเธอตามปกติ จึงอดไม่ได้ที่จะแวะทักทายเสียหน่อย

    "แทมินนนนนนนนนนนนนนนนน"คริสตัลตะโกนเหมือนทุกๆวัน แต่วันนี้ดูเหมือนจะต้องเรียกนานกว่าปกติ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

    "อ้าวคริสมีอะไรเหรอ"ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่แทมินเดินออกมาจากบ้านแล้วพูดประโยคนั้นกับเธอ

    "พี่คยู แทมินตื่นยังคะ"คริสตัลถามคยูฮยอน ซึ่งเป็นพี่ชายของแทมินนั่นเอง

    "ออกไปตั้งแต่ไก่ขันแล้ว พี่ก็ไม่รู้ไปไหนของมัน"คยูฮยอนตอบคนที่เขารักเหมือนน้องสาว ก็เพราะสองคนนี้อยู่ด้วยกันตั้งเด็กๆ คยูฮยอนเองก็สนิทกับคริสตัลเหมือนกับน้องชายตนเอง

    "อ้าว ขอโทษด้วยคะพี่คยู"เธอกล่าวขอโทษก่อนที่จะเดินตามทางเดินที่คุ้นเคย แต่ที่ไม่คุ้นเคยนั่นก็คือ เธอต้องเดินคนเดียว

    คริสตัลเดินมาเรื่อยๆจนมาถึงห้องเรียนที่เธอคุ้นเคย

    "อ้าวคริส...วันนี้ทะเลาะกับแทมินเหรอ"ทันทีที่เดินเข้าห้องมาเพื่อนของเธอก็ทักเธอด้วยคำพูดแบบนี้

    "รู้ได้ไงเนี่ย...แต่ก็นั่นสิเนอะ...ผู้ชายอะไรไม่รู้หละลูน่า งอนยังกะตุ๊ดเลย"คริสตัลพูดเหมือนพยายามจงใจให้ใครบางคนที่บังเอิญวันนี้นั่งอยู่หน้าห้องได้ยิน

    "พูดแรงไปป่าวคริส แทมินเค้าไม่โกรธแย่เหรอ"ลูน่าเพื่อนของเธอพูด

    แต่แทมินก็ไม่สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ กำลังสนใจกับหนังสือบางอย่างที่อยู่ในมือมากกว่าสิ่งอื่นๆ

    "ฉันรู้จักนายดีน่าแทมิน...อย่างนาย ไม่เกิน3วันหรอก"คริสตัลคิดในใจ แล้วมองท่าทางของแทมินที่แปลกไปมากกว่าทุกๆวัน

     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาประชุมแล้ว เจสสิก้ากำลังเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า พนักงานทั้งแผนกต่างสลับหันมาทางเธอไม่หยุด แถมข้อความปริศนาที่คู่หมั้นของซีวอนส่งมาอีก และอีกเรื่องที่สำคัญ คือวันนี้เธอไม่ได้ไปกินข้าวกับซีวอน ไม่รู้ว่าเขาไม่กล้าสู้หน้าเธอหรือเพราะเรื่องอื่นกันแน่

    และเรื่องที่สำคัญที่สุดของเรื่องทั้งหมดคือเรื่องที่ซูยองเล่าให้ฟังเมื่อเช้าว่า คู่หมั้นของซีวอน คือลูกสาวเจ้าของบริษัทที่มีอิทธิพลมากต่อบริษัทเจวายพี และเป็นหุ้นส่วนอันดับต้นๆ ดังนั้นในวันนี้เธอจะเข้าประชุมด้วย

    ติ๊ง..เสียงลิฟต์เปิดออกที่ชั้น15 เป็นสัญญาณให้เจสสิก้าได้รู้ว่าเธอกำลังจะถึงห้องประชุมแล้ว เธอค่อยๆผลักประตูเข้ามาภายในห้องประชุม

    ทิฟฟานี่กำลังจ้องมาที่เธอพร้อมกันคนอื่นๆที่นั่งกันอยู่เกือบจะครบองค์ประชุมแล้ว เจสสิก้าหน้าซีด เธอไม่รู้จักใครสักคนในห้องนี้ ด้วยความกลัว  เธอจึงมองหาสายตาที่เธอคุ้นเคยมากที่สุด แต่ว่าเธอก็ยังไม่พบสายตาคู่นั้น

    "หาใครอยู่เหรอคะ คุณจองซูยอน"ทิฟฟานี่ส่งสายตาเย็นเฉียบมาให้เธอ ทำเอาคนอื่นๆต่างมองมาที่เธอ

    "หาที่นั่งอยู่คะ"เจสสิก้าตอบโดยใช้เสียงที่สุภาพมากที่สุด

    "นั่นไงคะชื่อของคุณ แค่นี้ก็อ่านไม่ออก ภาษาคนนะคะ หรือว่าทำเป็นแต่ภาษากาย"เจสสิก้าหันไปมองทิฟฟานี่ทันที ไม่คิดว่าเธอจะทำแบบนี้

    "ทุกท่านคะ ในขณะที่เรายังไม่ได้ประชุมกัน ดิฉันมีเรื่องจะประกาศสักนิดคะ"ทิฟฟานี่พูดเสียงดังในองค์ประชุม

    "ก็แค่อยากจะประจานสักนิดว่า มีใครบางคนพยายามแย่งว่าที่สามีของคนอื่น"ทิฟฟานี่ยิ้มอย่างเลือดเย็น ร่างกายของเจสสิก้าเริ่มสั่น คนในองค์ประชุมเริ่มหันหัวไปมาอย่างสงสัยว่าเป็นใคร

    "กลัวว่าคนอื่นจะรู้ความจริงเหรอคะคุณจองซูยอน ตัวสั่นเชียว"เธอหันมองเจสสิก้า โดยที่คนอื่นๆก็หันมามอง และมองด้วยสายตาแปลกๆ

    "ไม่จริงนะคะ..."เธอทุบโต๊ะแล้วยืนขึ้น ทำเอาคนอื่นๆต่างลุ้นในมวยคู่เอกของวัน

    "ถ้าอย่างนั้น คุณก็แก้ตัวกับพ่อแม่ของซีวอนเองแล้วกัน"ทิฟฟานี่หันหน้าไปอีกทางเจสสิก้ามองตามดูจากเค้าโครงของหน้าตาและนามสกุลที่ติดอยู่ตรงป้ายก็รู้ว่าเขาเป็นพ่อแม่ลูกกันจริงๆ

    ซึ่งเขาเองก็มองเธอด้วยสายตาที่เหยียดหยาม

    "คุณก็คงจะรู้นะคะว่ายังไง กาก็อยู่กับหงส์ไม่ได้ เพราะมันคนละชั้นกัน"บางคนมองมาที่เธอแล้วหัวเราะอยู่ในลำคอ ความจริงที่ทิฟฟานี่กล้าพูดเช่นนี้เพราะว่าเธอรู้จักและสนิทสนมกับผู้บริหารทุกคนเป็นอย่างดี คงไม่แปลกหากจะพูดเรื่องส่วนตัวในห้องประชุมรอก่อนที่บุคคลสำคัญจากต่างประเทศมา

    "ฉันกับเขาไม่มีอะไรกันจริงๆ"ตอนนี้เจสสิก้าพูดทั้งน้ำตา รู้ทั้งรู้ว่าถึงพูดไปจะไม่มีใครเชื่อ ทุกคนมองเธอด้วยสายตาแปลกๆราวกับเป็นผู้หญิงเช่นนั้นจริงๆ

    ทุกคนไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เธอพูด

    เจสสิก้าพยายามวิ่งให้ออกห่างมาจากห้องประชุมมากที่สุด ตอนนี้เธอทนไม่ไหวแล้ว สายตาเริ่มพร่ามัว มองอะไรไม่เห็นทั้งนั้น น้ำตาหลั่งไหลจนภาพต่างๆมัวจนเกือบจะหายไป

    โครม...เธอชนกับใครบางคนเข้าอย่างแรง แฟ้มต่างๆที่เธอถือกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นไปหมด

    ไม่มีแม้แต่คำขอโทษของเธอ หัวสมองของเธอตอนนี้แค่วิ่งหนีไปให้ไกลจากที่นี่ที่สุด

    เธอเก็บของที่ตกหล่นให้เร็วที่สุด แล้วทรงตัวให้คงที่ก่อนจะวิ่งต่อไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีกเลย

     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    "เจส ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วจังเลยจ๊ะ"แม่ของเธอที่กำลังนั่งถักไหมพรมอยู่บนโซฟาถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าลูกสาวคนกลางกลับมาก่อนเวลาเลิกงานตั้งหลายชั่วโมง

    "แม่คะ..."เธอตรงเข้ามากอดแม่ของเธอที่โซฟาทันที

    "เจส เป็นไรไป...ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรลูกแม่เนี่ย"หญิงวัยเกือบกลางคนเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเสียงที่ตกใจ เจสสิก้าเป็นคนที่ร่าเริง แต่ทำไมวันนี้กลับร้องไห้ฟูมฟายกลับมาได้

    "เจสจะลาออกคะ เจสทนไม่ไหวแล้ว"เธอพูดออกมาอย่างไม่อัดอั้นอีกต่อไป เจสสิก้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ของเธอฟัง ทำเอาหญิงวัยเกือบกลางคนถึงกับเจ็บแทนลูกสาว

    "อย่าไปร้องเลยลูก จะออกก็ออกเราไม่เห็นต้องไปสนใจคนพวกนั้น แม่รู้ลูกแม่เก่ง ลูกแม่ต้องหางานที่ดีกว่านี้ได้แน่ๆจ๊ะ"เธอให้กำลังใจลูกสาวคนกลาง เธอกอดแม่ของเธอแน่น...

    "คะ เจสจะเข้มเเข็งคะแม่"ถึงกระนั้นแล้วน้ำตาของเธอก็ยังไม่แห้งเหือดไป

    "หวังว่าชาตินี้เราคงจะไม่ต้องเจอกันอีกนะ..."เจสสิก้าพึมพำออกมาก่อนที่จะบอกแม่ของเธอว่าไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนเธอในห้อง

    ตอนนี้เองก็เริ่มเย็นแล้ว เจสสิก้าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เธอเองก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าการนอนหลับเป็นสิ่งที่เดียวที่ทำให้เธอลืมเรื่องที่ควรจะลืมไปมากที่สุด

    ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เจสสิก้าตื่นเพราะเสียงเคาะประตู

    "เจส แม่ขอโทษที่ปลุกนะจ๊ะ"เจสสิก้าตอบรับ ทั้งๆที่จริงตอนนี้เธอไม่อยากจะพบใคร

    "มีคนมาขอพบลูกหนะจ๊ะ"เจสสิก้าตาลุกวาว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่มาขอพบเธอคือใคร

    หากแต่ถ้าปฏิเสธไปเรื่องมันก็คาราคาซังไปมากกว่านี้

    เจสสิก้าเดินลงมาถึงห้องรับแขกก็เจอคนที่เธอคิดว่าจะเจอจริงๆ

    "สวัสดีคะ"เจสสิก้าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะมองซองสีขาวให้เขา

    "ดิฉันกะจะให้พี่ซูยองเอาไปส่งให้พรุ่งนี้ แต่ว่าไหนๆคุณก็มาแล้วฉันควรจะมอบมันให้คุณ"เจสสิก้าพูดกับเขาโดยที่มีแม่ของเธออยู่เป็นเพื่อนด้วย

    "ซองขาว...ลาออกเหรอครับ"เขาถาม

    "คะ..."เธอตอบสั้นๆ"ถ้าคุณไม่ให้ออกฉันก็จะทำทุกวิถีทางให้คุณไล่ออก"

    "แล้วถ้าผมไม่ไล่ออกหละครับ"เขาถามอย่างกวนๆ

    "ฉันก็แค่ไม่ไปทำงาน ไม่โผล่หน้าไปที่บริษัทคุณ พอใจกับคำตอบไหมคะ"เธอก็ตอบอย่างกวนๆเช่นกัน เพราะตอนนี้เธอไม่ใช่ลูกน้องของเขาอีกไปแล้ว

    "แล้วถ้าคุณไม่ยอม ฉันก็จะฟ้องศาล"เธอตอบอย่างเด็ดขาด

    "ผมขอคุยกับคุณจริงๆ..."ซีวอนพยายามตื้อไม่ยอมออกจากบ้านไปจนกว่าเธอจะคุยกับเขา

    "หมดเรื่องที่ฉันจะคุยกับคุณ เชิญคะ..."เธอผายมือไปยังประตูบ้านเพื่อให้เขาเดินออกไป

    "พรุ่งนี้ผมจะมาใหม่"

    "แล้วแต่คุณคะ"เจสสิก้าตอบ"แต่ทุกวันที่คุณมาคำตอบก็จะเหมือนวันนี้ ดีไม่ดี ฉันอาจจะให้พ่อของฉันลากคุณออกจากบ้านไปเลยก็ได้"เธอยิ้มให้เขาอย่างเลือดเย็น

    "คุณ..."เขากำลังจะพูดหากไม่มีเสียงของบุคคลที่สามสวนขึ้นก่อน

    "ขอร้องหละคะ คุณกลับไปเถอะลูกสาวดิฉันไม่ต้องการเจอคุณอีก"แม่ของเจสสิก้าพูดขึ้น ซีวอนไม่มีทางเลือกจึงต้องถอยทัพกลับไปก่อน

     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    วันนี้เป็นวันที่สี่ของการลาออกจากงาน และสี่วันที่เธอเดินหน้าหางานใหม่

    "มาสมัครงานคะ"เจสสิก้าพูดกับประชาสัมพันธ์

    "ตำแหน่งอะไรคะ"ประชาสัมพันธ์ถามอย่างมีมารยาท

    "ต่างประเทศคะ"เจสสิก้าตอบ

    "คะ เรากำลังเปิดรับตำแหน่งนี้พอดี ขอทราบชื่อด้วยคะ"

    "จะ..จองซูยอนคะ"เธอตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ

    "เอ่อ...เราพึ่งจะนึกได้ค่ะว่าเรามีพนักงานฝ่ายนี้แล้ว ขอโทษด้วยคะ"ประชาสัมพันธ์เปลี่ยนคำพูด ซึ่งเจสสิก้าเองก็เข้าใจดี

    เธอค่อยๆเหลียวไปมองป้าย "YG กรุ๊ป" ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลฮวาง หรือพูดง่ายๆคือเป็นบริษัทของครอบครัวทิฟฟานี่นั่นเอง

    "ขอบคุณคะ..ขอโทษที่รบกวน"เจสสิก้าพูดกับประชาสัมพันธ์คนนั้น

    "ขอโทษนะคะ"เจสสิก้าไม่แปลกใจ เพราะสามวันที่ผ่านมาเธอก็เจอเหตุการณ์แบบนี้ตลอด ตระกูลฮวางมีธุรกิจใหญ่โตกว่าที่เธอคิด ทำธุรกิจแทบจะทุกอย่าง ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีบริษัทต่างๆต่างก็ปลดพนักงานออก แต่ถึงแม้บริษัทนี้จะไม่ไปตามกระแส แต่เธอก็ถูกแบนจากฝ่ายบริหารอยู่ดี

    เจสสิก้าเดินตามทางมาเรื่อยๆอย่างเลื่อนลอย แต่เธอก็รู้ว่ามีใครบางคนตามเธอมาอยู่

    "นายจะตามฉันอีกนานแค่ไหน ชเวซีวอน"เธอหันไปตะคอกใส่ระคันที่เธอคุ้นเคย ซีวอนค่อยๆกดกระจกรถลงมา ดูเหมือนว่าเขาจะตามเธอมาตั้งนานแล้ว

    "คุณช่วยคุยกับผมดีๆได้ไหม"เขาอ้อนวอน

    "ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคนอย่างนายอีก เลิกตามซักทีเถอะ น่ารำคาญ"เธอทำหน้าดุใส่เขา แต่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะฉลาดเกินไปหรือเปล่าที่จะรู้ว่า เธอไม่เล่นด้วย

    "นี่ ใจอ่อนซักทีเถอะ ผมตามคุณมา4วันแล้วนะ"เขายังพยายามตื้อเธอ

    "ตามอีกซักวันจะเป็นไรไป"เธอตัดบทเรียกแท็กซี่ก่อนจะก้าวขึ้นไป ซีวอนทุบแตรรถเพื่อระบายอารมณ์ แต่ก็ไม่ทำให้หญิงสาวสนใจได้

     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    "ห๊า....จริงเหรอ"ทุกคนในบ้านพูขึ้นพร้อมกัน ยกเว้นยุนอาซึ่งยังไม่กลับบ้าน

    "ทุกคนฟังไม่ผิดหรอกคะ...เจสจะไปอเมริกา พรุ่งนี้!!"เจสสิก้าพูดคำสุดท้ายเป็นการเน้นย้ำ

    "อะไรกัน กลับมาไม่ถึงครึ่งเดือนจะไปอีกแล้วเหรอ"คริสตัลพูด

    "คะ ทุกคนห้ามเจสไม่ได้ เจสจะไปจริงๆ"เธอพูดอย่างเด็ดขาด

    "แต่เจส...ลูกจะหนีปัญหาไปแบบนี้เลยเหรอ"ผู้เป็นพ่อของเธอพูดขึ้น

    "เอาเถอะพ่อ...ให้ลูกสบายใจก่อนแล้วค่อยให้กลับมาก็ได้นี่ "ดูเหมือนจะมีแม่ของเธอคนเดียวที่สนับสนุน

    "นะคะ เจสขอร้อง..."เธอพยายามอ้อนวอนพ่อของเธอ

    "ก็ได้ๆ...อย่าไปนานหละ พ่อคิดถึง เดี๋ยวนี้แทบจะไม่ได้เจอกันเลย ยังจะไปอีกแล้ว พ่อคิดถึงนะลูก พ่อคิดถึง....."ผู้เป็นพ่อพูดย้ำไปย้ำมาจนภรรยาอดที่นะเหน็บไม่ได้

    "ทีหลังก็กลับบ้านเร็วๆสิ...ช่วยไม่ได้อยากกลับดึกเอง"

    "ที่รักจ๋า...ก็เค้าต้องทำงานนี่"

    "ไม่ต้องมาพูดเลย"

    "แต่..."

    "ไม่ต้องมาแต่เลยคุณ.."

    "ที่รัก..."สองพี่น้องอดจะหัวเราะกันเองไม่ได้กับการทะเลาะ แต่ก็เป็นการทะเลาะที่สนุกที่สุดสำหรับพวกเค้า

    "ดีกัน...น้าาาา"สามียังไม่ยอมแพ้ ยกนิ้วก้อยขึ้นมาหวังจะคืนดี

    "ไม่ต้องเลย...."ส่วนฝ่ายภรรยายังคงเดินหนี

    "พี่เจส"คริสตัลเรียกพี่สาว

    "หืม.."

    "ตัวเองรีบๆกลับนะ...อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะสอบชิงทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้ว พี่เจสรีบกลับมาติวให้คริสน้า..."คริสตัลอ้อนพี่สาวของเธอ

    "ไม่รู้ซิว่าพี่จะกลับมาทันหรือเปล่า"

    "แง้...แล้วคริสจะได้ทุนไหมเนี่ย...คริสจะทำได้ไหมอ่ะพี่เจส.."คริสตัลพูดด้วยเสียงเป็นกังวล เพราะเธอใฝ่ฝันจะเป็นอย่างพี่สาวเธอให้ได้  เธอไม่อยากให้ความฝันของเธอพัง

    "ถ้าคริสพยายาม คริสก็ทำได้เองแหละ"

    "จริงเหรอ.."คริสตัลถามเพื่อความแน่ใจ

    "จริงสิ"เจสสิก้าพูดเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กันน้องสาว

    "ถ้าเราไม่พยายาม ก็ไม่มีใครพยายามทำให้เราหรอกจริงไหมหละ"เจสสิก้าพูดแล้วลูบหัวน้องสาวของตน

    "จริงคะคะ"คริสตัลพยักหน้าสัญญากับพี่สาว

     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    วันนี้เป็นวันที่เจสสิก้าที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินทาง สังเกตได้ว่าการขึ้นเครื่องบินไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสำหรับเธอสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะเธอนั่งบ่อยจนเบื่อ ตอนนี้เจสสิก้าอยู่คนเดียว พ่อของเธอทำงานดึก ยุนอากลับบ้านช้าอาจจะเพราะเรื่องงาน แม่ของเธอต้องไปงานแต่งงานลูกสาวของเพื่อนสนิท และพรุ่งนี้คริสตัลไปโรงเรียน คงจะมาส่งเธอไม่ได้ เพราะตอนนี้มันก็ดึกเอาการ เมื่อพนักงานประกาศให้ขึ้นเครื่อง เธอขึ้นเครื่องไปอย่างไม่รอช้า อาจจะเพราะเธอเบื่อ อยากจะไปให้ไกลจากที่นี่ให้เร็วๆ

    "รับอะไรไหมคะ.."แอร์โฮสเตสสาวถาม

    "ขอน้ำส้มคะ..."เธอพูดก่อนที่แอร์โฮสเตสจะทำหน้าที่ของตนเอง เธอมองออกไปนอกหน้าต่างพบกับก้อนเมฆมากมาย เธอขยับแข้งขาอยู่ตลอดอาจจะเพราะเครื่องบินมาหลายชั่วโมงแล้ว จากที่กัปตันพูดดูเหมือนว่าเธอกำลังอยู่ที่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก เธอหลับๆตื่นๆรอบที่เท่าไหร่แล้วเธอเองก็ยังไม่รู้

    "พี่สาว..."เจสสิก้าเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอดูเหมือนจะกำลังร้องไห้"หนูหาแม่ไม่เจอคะ...ไม่มีใครช่วยหนูเลย" เธอพูดเป็นภาษาอิตาเลียน ทำให้ไม่มีใครเข้าใจว่าเธอกำลังพลัดหลงกับแม่ของเธออยู่

    "ใจเย็นๆนะ"เจสสิก้าตอบเป็นภาษาเดียวกับเธอ เด็กน้อยยังคงร้องไห้ ส่วนเจสสิก้าก็พยายามช่วยเธอตามหาแม่ให้พบ แต่ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควรกว่าจะเจอแม่ของเด็กคนนั้น

    ด้วยความเบื่อ เจสสิก้าจึงผล็อยหลับไปอีกรอบ...แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อสัญญาณฉุกเฉินของเครื่องบินดังขึ้น

    และเธอได้รู้จากสิ่งที่กัปตันกำลังประกาศว่า...

    "ขณะนี้เครื่องบินกำลังจะตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก...ครืดๆ......ครืดๆ...."เสียงสัญญาณหายไป

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×