คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Episode 5
“ฉันนอนไม่ได้ ที่นี่มีสีสันมากเกินไป”
เวนส์เดย์พูดขึ้นเมื่อเอมิลี่พาเข้ามาในห้องนอนของเธอ และแซมจะไปนอนข้างนอกก่อนในคืนนี้ เวนส์เดย์มองสภาพรอบห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีสว่างอย่างกับดอกทานตะวัน เธอรู้สึกว่าผิวหนังเริ่มหลุดลอกแล้ว ถ้าอยู่แป๊บเดียวก็ไม่มีปัญหา แต่เธอต้องนอนทั้งคืน แถมห้องนี้มีกลิ่นแปลก เหมือนพวกน้ำหอมของอีนิด
“เธอไม่ชอบสีสดใสงั้นหรอจ๊ะ”
“ฉันเป็นโรคภูมิแพ้สีสันน่ะ”
เอมิลี่ทำสีหน้าไม่เข้าใจ เธอไม่เคยได้ยินชื่อโรคนี้มาก่อน
“หนังของฉันจะลอกออกจนเห็นกระดูกข้างใน”
“นั่น…ร้ายแรงมาก เอาเป็นว่าฉันจะหาชุดที่นอนสีมืดๆ ให้เธอ”
เอมิลี่ว่าและจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่เป็นสีเทา ไม่รู้ว่าเวนส์เดย์พูดจริงหรือไม่ แต่เธอจะไม่ยอมปล่อยให้แขกไม่สบายใจ
“ฉันไม่เคยนอนเตียงเดียวกับคนอื่นมาก่อน”
เวนส์เดย์ เธอรู้สึกแปลกพิลึกและไม่เข้าใจความสับสนนี้เลย เอมิลี่ใจดีกับเธอมากเกินไป อ่อนโยนและอบอุ่น เธอไม่ชอบแบบนี้ เวนส์เดย์ขยาดจนอยากจะได้ขี้เถ้ามาทาแก้ผื่นด่วนๆ
“ฉันไม่นอนดิ้นหรอกจ้ะ หรือถ้าเธอกังวล ฉันจะลงไปนอนพื้น”
“ไม่ ให้หนูนอนใต้เตียงดีกว่า”
“งั้นเราทั้งคู่นอนบนเตียง”
เอมิลี่ว่าอย่างขึงขัง เธอยื่นชุดอาบน้ำให้เวนส์เดย์และชุดนอนสมัยเด็กของเธอให้พลัดเปลี่ยน เอมิลี่เพิ่งไปหยิบมาใหม่หลังจากได้ยินว่าเด็กสาวเป็นโรคแพ้สีสัน มันเป็นชุดนอนลายมิกกี้เมาส์สีดำ อย่างน้อยนี่ก็เป็นชุดนอนที่มีสีสดใสน้อยที่สุดจากที่เธอมี
“ขอบใจ”
เวนส์เดย์รับมาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ เหตุการณ์ค้างคืนข้างนอกเธอไม่ได้คาดไว้ก่อนจึงไม่ได้เตรียมชุดมาเผื่อ เวนส์เดย์วางกระเป๋าที่เธอสะพายตลอดลงบนเตียงแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ต้องบอกว่าเวนส์เดย์รู้จักพูดขอบคุณเพราะอีนิดสั่งสอนมา ไม่งั้นเธอจะตื้อจนน่ารำคาญถ้าเวนส์เดย์ไม่รับฟัง
เช้าวันใหม่มาถึง เอมิลี่ตื่นขึ้นมา เธอหันมองเพื่อนร่วมเตียงแล้วตกใจนิดหน่อย เวนส์เดย์นอนอย่างกับคนตายและท่านอนเธอก็แปลกไม่เหมือนใคร อ้อ ยกเว้นคนที่จะต้องนอนในโลงนั่นแหละ เอมิลี่ลุกจากเตียงเธอดึงผ้าห่มให้คลุมเวนส์เดย์ถึงคอและเตรียมตัวไปทำมื้อเช้าให้พวกหมาป่ากินเก่งทั้งหลาย รวมถึงแขกด้วย
เวนส์เดย์ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับพวกหมาป่าเหมือนอย่างที่ผ่านมาเมื่อวาน ทุกคนตกอกตกใจกันมากตอนที่เธอล้มลงไป หลังจากนั้นพวกเขาก็นึกสนุกให้เวนส์เดย์แตะตัวพวกเขาอีกจนแซมต้องเอ่ยปากไล่ ความเงียบถึงกลับมา บิลลี่ยังไม่ส่งเธอกลับทันที เขาชวนเวนส์เดย์ไปตกปลาอีกรอบเพราะเมื่อวานชวดไป เธอสลบไปซะก่อน บิลลี่พาเวนส์เดย์มาที่ตกปลาของเขาประจำ เขายื่นถังให้เวนส์เดย์ พยักเพยิดหน้าไปทางบึง
“ไปเติมน้ำให้หน่อย”
เวนส์เดย์คว้าถังไป เธอก้มตัวลงแนบกับสะพานท่าน้ำ ตักน้ำขึ้นมาให้บิลลี่ เขาเกี่ยวเหยื่อกับเบ็ดแล้วเขวี่ยงมันออกไป
จ๋อม…
“เธอไม่ตกหรอแม่หนู”
“หนูให้โอกาสคุณก่อน”
“รอดูได้เลย ฉันนี่แหละ แชมป์ตกปลา”
เวนส์เดย์ยืนเอามือไพล่หลังมองบิลลี่ที่ยักไหล่ให้ เขานั่งตกปลาอยู่บนวิลแชร์ จนเมื่อตกได้สองสามตัว บิลลี่ยื่นคันเบ็ดให้เวนส์เดย์
“ไม่ต้อง หนูมีของตัวเอง”
เวนส์เดย์ถอดกระเป๋าสะพายจากหลังมาไว้ข้างหน้า เธอหยิบระเบิดมือขึ้นมาลูกหนึ่ง บิลลี่ทำหน้าเคร่งเครียด เขาไม่รู้ว่ากระเป๋าที่เวนส์เดย์สะพายตลอดมีระเบิด แล้วมันมีกี่ลูกกัน โชคดีที่เมื่อคืนไม่มีใครซนไปรื้อกระเป๋าเด็กสาวหรือชนจนมันกระแทกกัน เวนส์เดย์แกะสลักทิ้ง กำมือและปาลงน้ำ
ตู้ม!
ศพปลาลอยขึ้นเหนือผิวน้ำห้าตัวจากแรงระเบิด
“อืม เป็นการตกปลาที่ไม่เหมือนใครจริงๆ และฉันคงต้องเว้นการตกปลาที่นี่สักช่วง”
“เอาด้วยมั้ย”
เวนส์เดย์ยื่นระเบิดที่แกะสลักแล้วไปทางบิลลี่ เขาโบกมือบอกปัด
“ไม่ล่ะ ขอบใจ”
ตู้ม!
สงสัยมื้อเที่ยงพวกหมาป่าต้องกินปลากันบ้างแล้ว บิลลี่หิ้วปลากลับมาฝากเอมิลี่เต็มสองมือของสองคน จนเธอทำหน้าแปลกใจ แต่ก็รับไปปรุงอาหารให้ แซมและฝูงที่กลับจากไปเที่ยวเล่นน้ำตกเจอปลาทอดอยู่บนโต๊ะก็ทำหน้าไม่ชอบใจกันทันที โดยมีเวนส์เดย์นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว ดูเหมือนเธอจะติดใจฝีมือของเอมิลี่นิดหน่อย พวกหมาป่านั่งประจำที่ เอมิลี่เดินออกมาจากครัว วางอาหารส่วนที่เหลือ
“เวนส์เดย์ตกปลามาได้เยอะเลยจ้ะ”
เอมิลี่บอกพวกแซม พวกเขาต้องเกรงใจหน่อยนะ นี่เวนส์เดย์อุตส่าห์หาวัตถุดิบมาให้เชียว
“ไม่ยักรู้เธอตกปลาได้เยอะขนาดนี้”
แซมพูดขึ้นอย่างแปลกใจ ผู้หญิงตัวเล็กๆ โกธิค ดูไม่เหมาะกับกิจกรรมของพวกว่างงาน
“เธอไม่ได้ตก แต่เธอเล่นระเบิดบ่อฉันกระจุยเลยล่ะ” บิลลี่
พวกแซมมองหน้ากันก่อนจะลงมือกินอาหารที่วันนี้ไม่ใช่เนื้อไก่แล้วไม่สงสัยอะไรอีก พวกเขาไม่แปลกใจในความประหลาดของเวนส์เดย์แล้วแหละ อย่างน้อยก็ดีกว่าพวกผีดิบดูดเลือด ที่หนึ่งในพวกมันฆ่าบรรพบุรุษพวกเขา
“ก่อนหน้านี้เหมือนฉันจะเห็นกลุ่มแวมไพร์เร่ร่อน ในนั้นมีไทเลอร์กับผู้หญิงผมแดงที่ฉันไม่รู้จัก แล้วหลังจากนั้นฉันเห็นพวกมันโจมตีพวกคุณ เป็นไปได้มั้ยว่าพวกมันกำลังบุกมา”
“เธอบอกพวกคัลเลนรึยัง”
“เขากำลังฟังอยู่”
เวนส์เดย์ชี้ให้ดูโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนหน้านี้เธอกดโทรออกหาเบลล่าแล้วเผอิญว่าอยู่กับครอบครัวคัลเลนพอดี พวกเขาจึงได้ฟังพร้อมกัน เวยส์เดย์เปิดลำโพงทิ้งไว้ กลุ่มคัลเลนที่เงียบมานาน คาร์ไลล์จึงเปิดปากพูดบ้าง
“พอดีกับที่อลิซเพิ่งเห็นอนาคต ในนั้นเธอไม่รู้จักใครแต่เธอเห็นไทเลอร์ วิกตอเรียน่าจะเป็นสาวผมแดงที่หนูพูดถึง เธอเป็นคนเดียวที่เคียดแค้นเบลล่า”
“เมื่อคืนก่อนมีแวมไพร์เร่ร่อนบุกห้องเบลล่า เจคอบไปหาพวกคุณรึยัง” เอ็ดเวิร์ด
“นั่นไง มาพอดี”
บิลลี่พูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นลูกชายเดินเข้ามาในสภาพเปลือยท่อนบน
“แวมไพร์กลิ่นไม่คุ้น บุกรุกห้องเบลล่าเมื่อคืนนี้ โชคดีที่ไม่มีใครอยู่”
เจคอบบอกทุกคน
“มันมาใกล้ถึงขนาดนี้แล้ว” แซม
“ฉันจะกลับไปสำรวจห้อง บางทีอาจจะเห็นนิมิต”
“ดีเลย พวกเราจะไปส่งเธอ”
บิลลี่พยักหน้ากับเจคอบ เขาออกไปเตรียมรถ
“เป็นไง เห็นอะไรมั้ย”
เอ็ดเวิร์ดที่ยืนอยู่ในห้องกับเบลล่าถามขึ้น เจคอบยืนอยู่หน้าประตู ส่วนบิลลี่กำลังคุยเล่นกับชาร์ลีเพื่อไม่ให้เขาสงสัยว่าพวกเวนส์เดย์ทำอะไรกัน และแน่นอน ชาร์ลีไม่รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดอยู่ที่นี่เพราะเขาถูกสั่งห้ามเข้าจากเหตุการณ์ครั้งก่อนที่เลิกกับเบลล่าและทะเลาะกันจนเบลล่านอนกรีดร้องทั้งคืน เขาคงจะไม่ยอมให้ลูกสาวเจ็บปวดอีก แต่เอ็ดเวิร์ดดันเป็นความสุขเดียวของเบลล่า
เวนส์เดย์ลูบตามหัวเตียงที่เจคอบบอกว่ากลิ่นแวมไพร์เร่ร่อนแรงสุดตรงนี้ เธอปีนขึ้นไปดูข้างบนที่นอนของเบลล่าแล้วกลับลงมา มองไปทางประตูสลับกับเอ็ดเวิร์ด
เอ็ดเวิร์ดคิด เธอจ้องหน้าเขาทำไม การอ่านใจใครไม่ได้มันทำให้เขาหงุดหงิดตัวเอง ยกเว้นเบลล่า พลังของทุกคนไม่มีผลกับเธอ จากการพิสูจน์มาแล้วที่โวลเทอร่า
“มันเข้ามาจากทางไหน”
“น่าจะหน้าต่างเพราะหมอนั่นก็เข้าทางนี้บ่อย”
เจคอบตอบไม่วายจิกกัดเอ็ดเวิร์ดอีก ศัตรูหัวใจ เอ็ดเวิร์ดอ่านความคิดเจคอบแล้วเขาจะไม่ถือสากับหมาบ้า เวนส์เดย์เดินไปแตะขอบหน้าต่างแล้วเธอก็ชะงัก ชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาเหมือนไทเลอร์ ผิวขาวซีด ตาแดงก่ำ เขาเข้ามาหยิบเสื้อกันหนาวของเบลล่าไป แล้วภาพก็ย้อนไปอีก เธอเห็นเงาดำโจมตีเขาขณะเดินอยู่บนถนนในตอนกลางคืน เวนส์เดย์ออกมาจากภาพนิมิต
“หมอนั่นโดนกัด เขาจะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ใช่มั้ย”
“เราดูดเลือดเพื่อกิน ส่วนใหญ่จะดูดจนหมดตัวเพื่อให้ใครติดเชื้อ และจะกัดเพื่อพ่นพิษของเรา” เอ็ดเวิร์ด
“ฉันไม่รู้จักเขา มันเอาเสื้อเบลล่าไป”
“เพื่ออะไร” เจคอบ
“เพื่อตามล่ากลิ่น มันมีพรรคพวกอีกแน่ เราต้องพาเบลล่าหลี้ภัย”
เอ็ดเวิร์ดกอดแฟนสาวของเขาไว้แน่น
“ฉันอยากรู้ว่าอลิซเคยเห็นคนนี้มั้ย”
ฉันต้องไปพบอลิซเพื่อบอกลักษณะที่เห็นกับเธอ เพื่อว่ามันจะเคยผ่านนิมิตของอลิซ และได้ยินมาว่าเธอวาดภาพเก่ง คงจะดีถ้ามีรูปให้พวกเราดู จะได้รู้ตัวคนร้ายมากขึ้น แต่จนป่านนี้ฉันก็ยังไม่เห็นซาเวียร์ หวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไร
“พวกเราจะไปบ้านฉันก่อน เจคอบนายกลับไปบอกบิลลี่เถอะ บางทีเราอาจต้องขอให้พวกนายคุ้มครองเบลล่า”
“ถึงเบลล่าจะเป็นแฟนนาย แต่เธอก็ยังเป็นมนุษย์ ฉันคุ้มครองเธอแน่” เจคอบ
“อีกสองชั่วโมงเจอกันในป่า”
“ฉันจะเกลี่ยกล่อมพวกเขาให้”
เจคอบวิ่งลงไปชั้นล่าง เอ็ดเวิร์ดกระโดดออกทางหน้าต่างแล้วเขาจะเอารถมารับเธอ เบลล่าเดินไปมาอย่างกังวล เวนส์เดย์มองตาม
“ทำไมวิกตอเรียถึงจ้องเล่นงานเธอ”
เวนส์เดย์เลิกคิ้วถาม
“อันที่จริงฉันถูกแฟนของวิกตอเรียทำร้ายเมื่อปีก่อน และเอ็ดเวิร์ดฆ่าเขา เราไม่เคยเจอวิกตอเรียอีกเลย”
ฉันเดินเข้าไปใกล้เบลล่า น่าแปลกที่ตั้งแต่มาที่นี่ฉันไม่เคยโดนตัวเธอเลย และฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปซะสนิท ฉันยื่นมือไปให้เบลล่า เมื่อก่อนฉันคงไม่ชอบการโดนตัว แต่ถ้าไม่ใช่กอดก็ยังจะพอรับได้ เบลล่าทำหน้าตึงเครียด
“เอ็ดเวิร์ดบอกว่าฉันมีเกราะป้องกัน และพลังเธออาจจะใช้ไม่ได้ผล”
“ยื่นมือมา”
เวนส์เดย์ไม่ชอบให้ใครมาสบประมาท เบลล่าวางมือลงบนมือเธอ เวนส์เดย์สูดหายใจเข้าลึก หน้าเธอเริ่มซีดของจริง คงเพราะช่วงนี้เธอใช้พลังมากไป เวนส์เดย์เห็นนิมิต เธอลืมตาจ้องหน้าเบลล่า
“เธอกรีดข้อมือตัวเอง ต่อหน้าวิกตอเรีย ทำไม”
“ฉันไม่รู้”
และเบลล่าตกตะลึงมากที่เวนส์เดย์ใช้พลังกับเธอได้
เอ็ดเวิร์ดพาสองสาวมาที่บ้านเขา เขาบอกครอบครัวทันทีเรื่องพวกหมาป่า คาร์ไลล์พยักหน้ารับ เวนส์เดย์เดินไปหาอลิซ
“เอ็ดเวิร์ดบอกฉันว่าเธอมีเรื่องให้ช่วย”
“เธอเคยเห็นเขามั้ย คนที่มีหน้าตาคล้ายไทเลอร์ ผิวขาวซีด ผมสีน้ำตาล”
“ฉันจะวาดทุกคนที่เคยเห็น และเธอบอกเราว่าคนไหน”
แจสเปอร์หยิบกระดาษกับดินสอมาให้แฟนสาวของเขา อลิซเริ่มวาดรูปจากสิ่งที่เคยเห็น เวนส์เดย์นั่งมองข้างๆ กันอย่างตั้งใจ มุมนี้ทำให้เธอนึกถึงซาเวียร์ ระหว่างรอภาพวาดจากอลิซ โทรศัพท์ของเวนส์เดย์ก็ดังขึ้น เป็นเพลงสวดศพ ทำเอาทุกคนหยุดสิ่งที่ทำทันที
“ฉันแนะนำให้เธอเปลี่ยนเพลงนะสาวน้อย”
เอ็มเม็ตต์ทำสีหน้าเต็มกลืน
“เพลงนี้เพราะสุดแล้ว”
เวนส์เดย์ว่าและกดรับ เป็นสายจากอีนิดวีดีโอคอลเข้ามา
[พระเจ้า เธอต้องไม่เชื่อแน่ เราเพิ่งได้รับข้อความจากซาเวียร์ เขาส่งมาแค่ GPS และมันอยู่ที่ฟอร์ค เธอพูดถูก!]
เอ็มเม็ตต์มองกล้องอย่างอยากรู้อยากเห็น ใครกันที่จะเป็นเพื่อนของยัยหนูผีนี่ พวกคัลเลนได้เห็นเด็กสาวท่าทางสดใสร่าเริ่ง และดูเจ้าแม่แฟชั่น มันทำให้พวกเขาเหลือบมองอลิซ
“ส่ง GPS ให้ฉัน”
ฉันตอบกลับอีนิดเสียงราบเรียบ รำคาญน้ำเสียงของเธอที่พูดมากมายเหลือเกิน
[ได้ๆ]
อีนิดกระตือรือร้น เธอกดแชร์ข้อความที่ได้รับมาจากเพื่อนอีกที
“ซาเวียร์ส่งข้อความมาหาใคร”
นี่เป็นสิ่งที่น่าสงสัยที่สุด ซาเวียร์ขาดการติดต่อไปนาน แต่พอฉันจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้และมาอยู่ที่ฟอร์ค เขาก็ปรากฏตัวแบบไม่ใช่ปรากฏตัวจริงๆ
Talk
ไรท์สอบผ่านแล้วทุกคน ดีใจมาก คือก่อนหน้านี้ร้องไห้ในห้องสอบ กดดันมาก แต่ดีที่ผ่านทุกวิชา โชคดีมีเพื่อนมาปลอบกันอย่างล้นหลาม ได้กินของอร่อยก็คือดีขึ้นแล้ว ชีวิตประหนึ่งอยู่ในการ์ตูนตาหวานอย่างนั้นแหละ
ปล.ยังไม่ได้ตรวจคำผิด
10/02/66
ความคิดเห็น