ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Wednesday & Vampire Twilight] Girl born on friday ตระกูลนี้ผียังหลบ

    ลำดับตอนที่ #4 : Episode 3

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 66


    “เกิดอะไรขึ้นคาร์ไลล์”

    เอ็ดเวิร์ดถามคาร์ไลล์ พ่อบุญธรรมของเขา หมอหนุ่มที่เดินออกมาจากสถานีตำรวจ ระหว่างทางกลับบ้าน เบลล่าเห็นรถของพ่อเธอและพวกตำรวจ รถพยาบาล เธอขอให้เอ็ดเวิร์ดจอดที่นี่ เตียงพยาบาลถูกเข็นออกมาผ่านหน้าพวกเขา เวนส์เดย์ต้องการดูศพ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับไทเลอร์

    “ถูกหมีฆ่าตายอีกแล้ว บางทีเธอควรเข้าไปดู เขาเป็นเพื่อนของพ่อเธอ”

    คาร์ไลล์พยักเพยิดหน้าให้เบลล่าเข้าไปหาพ่อของเธอที่ข้างใน

    “ไม่ใช่ฝีมือพวกหมี ใช่มั้ย” เอ็ดเวิร์ด

    “ไม่ใช่” คาร์ไลล์

    ระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน ฉันเลิกผ้าห่อศพออก มีรอยกัดที่คอและแผลกลางหน้าอก ศพของเขาขึ้นอืด ฉันจับชีพจรเข้าที่คอ ตายมานานแล้ว และเสียเลือดตายไม่ใช่จมน้ำ

    “นั่นเธอทำอะไร”

    เอ็ดเวิร์ดหันมาเห็น คาร์ไลล์โบกมือให้พวกเขาเอาศพออกไป

    “เป็นเด็กที่อยากรู้อยากเห็นจริงนะ สวัสดีฉันคาร์ไลล์ คัลเลน”

    คาร์ไลล์ย่อตัวมาคุยกับเวนส์เดย์

    “เวนส์เดย์ แอดดัมส์ คุณก็รู้ว่ามันไม่ใช่ฝีมือหมี ใช่มั้ย”

    เวนส์เดย์เลิกคิ้ว

    “มันเป็นหมีที่รัก ไม่มีสัตว์ใหญ่แถวนี้จะทำร้ายคนนอกจากพวกหมี”

    คาร์ไลล์ตอบอย่างใจเย็น

    “หมีไม่กัดคนที่คอแล้วดูดเลือดจนหมดตัว นอกจากค้างคาว แต่เขามีแผลโดนกรีดที่อก และมันใหญ่เกินกว่าจะเป็นคมเล็บของพวกค้างคาว”

    “เธอรู้อะไร”

    “ใจเย็นเอ็ดเวิร์ด”

    “โรงเรียนของหนูโดนหมีโจมตี เราจับมันและมันหนีไปได้ หนูว่ามันหลุดมาที่ฟอร์ค และหนูไม่ได้หมายถึงหมีจริงๆ”

    “เราจะไปคุยกันที่ส่วนตัวกว่านี้สาวน้อย”

    คาร์ไลล์ผายมือไปทางรถยนต์ของเขา

    “ฉันพาเธอไปส่งบ้านเองเอ็ดเวิร์ด”

    เอ็ดเวิร์ดพยักหน้ารับ เขายืนรอเบลล่า

     

    คาร์ไลล์ขับรถไปตามทางอย่างช้าๆ แล้วเขาก็ชวนเวนส์เดย์คุย เวนส์เดย์เล่าเรื่องบางส่วนที่ทำให้เธอมาที่นี่ เรื่องไทเลอร์ ซาเวียร เนเวอร์มอร์ เรื่องพวกนี้เธอไม่มีอะไรต้องปกปิด เธอไม่ได้บอกว่าเธอสามารถเห็นนิมิตได้ อย่างน้อยก็ตอนนี้

    “เราเรียกพวกมันว่าไฮด์ เป็นมนุษย์ที่แปลงร่างได้เหมือนพวกมนุษย์หมาป่าแต่ตัวใหญ่กว่า”

    ฉันหยิบภาพวาดของซาเวียร์ออกจากกระเป๋าสะพายหลัง กางมันออกบนตัก คาร์ไลล์เหลือบดู

    “เธอพูดเรื่องจริง?”

    คาร์ไลล์หันมามองเวนส์เดย์

    “แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าหนูโกหกละ ที่โรงเรียนของหนูมีคนอย่างพวกคุณ”

    “อย่างไหนละ”

    คาร์ไลล์ลองเชิง

    “ไม่รู้ทำไมความลับของพวกคุณยังไม่แตก พวกคุณผิวขาวซีดและเย็น ตอนอลิซจับมือฉัน ถึงที่นี่จะเป็นหน้าฝนแต่มันเย็นเกินไปเหมือนศพ พวกคุณไม่กินอาหารแต่ดันมานั่งที่โรงอาหาร และตาของพวกคุณ ฉันมีเพื่อนที่ชอบแต่งหน้าถึงรู้ว่าพวกคุณใส่คอนแทคเลนส์”

    “เธอ…ช่างสังเกตดีนะ ไม่คิดว่าเธอจะจับผิดลูกๆ ของฉันได้ภายในวันเดียว พวกเธอทำให้ฉันประหลาดใจทั้งคู่ เพื่อนของเบลล่าสินะ ถ้าเธอว่าที่โรงเรียนเก่าของเธอมีคนแบบพวกฉัน งั้นฉันก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง เป็นอย่างที่เธอคิด นั่นไม่ใช่หมี พวกเรามีแวมไพร์เร่ร่อนและมันควบคุมไม่ได้”

    “ฉันต้องการข้อมูลมากกว่านี้”

    “ฉันคงบอกได้แค่ว่านอกจากพวกเรายังมีกลุ่มอื่นอีกและไม่ใช่แค่แวมไพร์ เป็นสัญญาน่ะ ฉันพูดไม่ได้หรอก”

    คาร์ไลล์จอดรถเมื่อขับวนมาถึงหน้าบ้านชาร์ลี เขาเท้าแขนกับพวงมาลัยแล้วหันมามองเธอ

    “ถ้าเธอมีอะไร ไปหาพวกลูกฉันได้เสมอ ฉันจะบอกพวกเขาและฉันขอรูปนั้นได้มั้ย ฉันจะให้พวกลูกดูและจะได้ช่วยกันเฝ้าระวัง”

    “ไฮด์เป็นนักโทษของเรา คุณต้องแจ้งหนูทันทีที่เจอเขาหรือจับเขาได้ จับเป็นเท่านั้น”

    เวนส์เดย์ยื่นภาพวาดให้คาร์ไลล์ เขารับมันไปเก็บ

    “ขอบใจ ฉันจะลองศึกษาเรื่องสะกดจิตตามที่เธอบอก”

    ฉันเปิดประตูลงจากรถและปิดประตู รถของคาร์ไลล์เคลื่อนตัวออกไป ฉันเดินเข้าบ้าน เจอชาร์ลีที่กำลังนั่งดื่มแอลกอฮอล์ที่หน้าทีวี สภาพดูไม่ดีเท่าไหร่และเบลล่า เธอกำลังทำอาหารอย่างง่ายในครัว

    “ขนมปังกับเบคอน ได้ใช่มั้ย”

    เธอหันมาถามเวนส์เดย์ เธอไม่ตอบเบลล่าจึงยักไหล่แล้วกลับไปทำอาหารต่อ

    ฉันเดินเข้าไปนั่งโซฟาเดี่ยวข้างชาร์ลี เขาหันมามอง

    “มีคนตายเพราะหมีตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “อ้อ เรื่องนั้น หนูไม่ต้องกังวลหรอก เราจะจับมันให้ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไร”

    “มีหมีหลุดออกจากโรงเรียนของฉัน ฉันถึงมาที่นี่”

    ชาร์ลีมองเวนส์เดย์ด้วยสายตาแปลกใจ

    “เขาให้นักเรียนมาจับหมีหรอ”

    “ฉันแค่มายืนยันว่ามันเป็นตัวเดียวกัน”

    “มีมานานแล้ว แต่มันเพิ่งกลับมาอาละวาดอีกครั้งเมื่อสี่วันก่อน”

    “ทุกศพเหมือนกันรึเปล่า”

    ชาร์ลีมองเวนส์เดย์อีกครั้ง เธอจ้องเขานิ่ง

    “คล้ายกัน รู้อะไรมั้ย เด็กๆ ไม่ควรฟังเรื่องนี้หรอก”

    ว่าจบเขาก็กระดกเบียร์กระป๋องต่อ เบลล่าวางจานอาหารกับโต๊ะกินข้าว เธอเดินมาหาเวนส์เดย์

    “นั่นคือเหตุผลที่เธอมาเรียนที่นี่?”

    เอ็ดเวิร์ดคุยกับเธอบนรถระหว่างขากลับ เธอออกมาไม่เจอเวนส์เดย์ เอ็ดเวิร์ดบอกว่าเธอไปกับคาร์ไลล์ และเธออาจจะรู้เรื่องหมี ที่มีอะไรมากกว่านั้น เอ็ดเวิร์ดบอกว่าเป็นฝีมือพวกแวมไพร์เร่ร่อน บางทีเวนส์เดย์ก็อาจจะรู้

    “เหตุผลเดียวที่ฉันจะไปทันทีเมื่อเจอมัน”

     

    วันอาทิตย์ตามที่พวกคัลเลนนัดกันไว้ เบลล่าพาเวนส์เดย์มาตามคำบอกของเอ็ดเวิร์ด แล้วคราวนี้พวกเขาไม่ต้องปิดบังตัวตนเพราะเธอรู้แล้ว พวกเขาทั้งหมดรู้เรื่องของเธอจากคาร์ไลล์

    บ้านทรงสไตล์โมเดิร์น กระจกรอบด้าน ตั้งอยู่กลางป่าลึกที่ไม่มีเพื่อนบ้านสักหลัง เหมาะสำหรับพวกที่ต้องการตัดขาดจากโลกภายนอกและซ่อนตัวได้ดี เหมือนพวกเอาต์แคสต์ โรงเรียนของเราก็ตั้งอยู่ในสถานที่ลึกแต่ไม่ลับ ติดต่อกับหมู่บ้านได้ น้อยมากที่จะมีนอร์มีเข้าไปในเนเวอร์มอร์ อย่าสนใจครูเก่าคนนั้นเลย ฉันลืมชื่อไปแล้ว คาร์ไลล์บอกว่ากลุ่มของพวกเขาไม่เหมือนฉัน พวกเขาต้องหลบซ่อนและอย่าให้ใครรู้ว่าเป็นตัวอะไร พวกเขามีศาลเตี้ยที่เรียกว่าโวลตูรี บ้าอำนาจ และเก่าแก่ เขาให้ฉันรู้แค่นั้น นั่นจึงแตกต่างจากเนเวอร์มอร์ พวกเราไม่หลบซ่อน พวกเราเปิดเผยตัวตน

    “ว้าว แม่สาวสยองขวัญ ทำลายสถิติเบลล่า เธอรู้ความลับพวกเราในวันเดียว” เอ็มเม็ตต์

    “พวกนายต่างหากที่ปิดความลับไม่ได้”

    “ฉันบอกแล้วว่าเธอจะนำปัญหามาให้” โรซาลี

    “อันที่จริงฉันนี่แหละตัวปัญหา”

    โรซาลีสะอึกเมื่อเธอโดนเวนส์เดย์ตอกกลับ เธอทำหน้าที่พร้อมจะกัดกระชากเหยื่อทุกเมื่อจนเอ็มเม็ตต์ต้องเข้ามาปลอบให้ใจเย็น

    อะไร ฉันพูดเรื่องจริงทั้งนั้น

    “เราได้ยินเรื่องของเธอมาแล้วคุณแอดดัมส์ เรียกเวนส์เดย์ได้มั้ยจ๊ะ”

    เอสเม่ ภรรยาคนสวยของคุณหมอคาร์ไลล์ เธอเข้ามาจับไหล่เวนส์เดย์และนำพาเข้าบ้าน

    “จะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ”

    เวนส์เดย์เบี่ยงตัวออกจากมือของเอสเม่ เอสเม่มองตามอย่างเสียดาย เวนส์เดย์ตัวเล็กกว่าเบลล่าอีก เธอล่ะเอ็นดูจริงๆ

    “ตกลงแล้วเธอไม่ใช่ทั้งแวมไพร์ หมาป่า หรือไฮด์อะไรนั่น ที่โรงเรียนเธอรวมพวกตัวประหลาด แล้วเธอเป็นอะไร ซอมบี้?”

    เอ็มเม็ตต์เอ่ยอย่างขำๆ แจสเปอร์ยิ้มตาม

    “เผอิญว่าซอมบี้ไม่มีมันสมองเท่าฉัน”

    “โอเคฉันยอมแพ้”

    เอ็มเม็ตต์ยกแขนทั้งสองข้างระดับไหล่ เขาต่อกรกับแม่สาวมืดมนไม่ได้จริงๆ

    “เอาล่ะ เราจะพาเธอเข้าไปในป่า ไปดูว่ามีร่องรอยของไฮด์มั้ย”

    คาร์ไลล์เตือนทุกคนถึงจุดประสงค์ของวันนี้ และเป็นคำขอของเวนส์เดย์ที่บอกเขา ทุกคนที่เคยดูหน้าของไฮด์ผ่านภาพวาด แค่เห็นก็สยองแล้ว หวังว่าเวนส์เดย์จะเอามันกลับไปเร็วๆ ก่อนที่พวกเผ่าควิลยูตจะรู้แล้วเรื่องมันวุ่นวายกว่านี้ เพราะถึงเวนส์เดย์จะไม่ใช่พลเมืองฟอร์ค แต่เธอคือมนุษย์ในสายตาของพวกควิลยูต แค่เบลล่าคนเดียวพวกเขาก็ผิดข้อตกลงมากพอแล้ว

    “เราจะแยกกันไป เอ็ดเวิร์ด เบลล่า เอ็มเม็ตต์พวกเธอไปด้วยกัน โรซาลี แจสเปอร์ อลิซ เวนส์เดย์จะไปกับฉันและเอสเม่ ต้องการอะไรอีกมั้ยสาวน้อย”

    คาร์ไลล์ก้มลงมามองเวนส์เดย์

    ฉันเลื่อนหารูปของไทเลอร์ที่ขอมาจากพ่อของเขาโดยติดต่อผ่านครูใหญ่อีกที และรูปของซาเวียร์จากอีนิด ฉันหันโทรศัพท์ไปทางพวกคัลเลน

    “นี่คือร่างมนุษย์ของไฮด์ เขาชื่อไทเลอร์ ส่วนนี่ซาเวียร์ เขาเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกับฉันและเขาหายไปวันเดียวกับที่ไฮด์หลุดออกมา เผื่อว่าพวกคุณเจอเขา”

    “มีอะไรที่เราต้องรู้อีกมั้ย” เอ็ดเวิร์ด

    “ซาเวียร์เป็นคนเดียวที่เห็นว่าไฮด์จะทำอะไร”

    ทุกคนทำหน้าไม่เข้าใจ เวนส์เดย์จึงยอมอธิบายเพิ่มอีก

    “เขาเห็นนิมิตของไฮด์”

    “หมายถึงมองเห็นอนาคต นั่นเหมือนกับความสามารถของอลิซ” เอ็ดเวิร์ด

    “โอเค พวกเราเข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ”

     

    คาร์ไลล์ที่พาเวนส์เดย์ขี่หลังเขามาด้วยความเร็วของแวมไพร์ เขาหยุดลงเมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาปล่อยเวนส์เดย์

    ฉันย่อลงลูบพื้นหญ้า ดิน และต้นไม้ ฉันเดินไปเรื่อยๆ สัมผัสต้นไม้ทีละต้น ก้อนหินทีละก้อน

    คาร์ไลล์กับเอสเม่มองตามการกระทำของเวนส์เดย์จนพวกเขาอดสงสัยไม่ได้

    “เธอสามารถรู้อะไรหรอจ๊ะเวนส์เดย์”

    เวนส์เดย์หันมามองเอสเม่ เธอกลับไปสำรวจต่อและเอ่ยตอบ

    “ฉันสามารถมองเห็นอนาคต อดีต เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาผ่านที่ตรงนี้ จะได้ผลดีเมื่อฉันสัมผัสของเก่าๆ หรือตัวคนๆ นั้น”

    “เป็นความสามารถที่ดีนะ” คาร์ไลล์

    เวนส์เดย์หยุดลูบต้นไม้ เธอไม่เห็นนิมิต

    “ฉันเลือกมองไม่ได้”

    ตอนที่เธอสัมผัสศพที่สถานีตำรวจนั่นเธอก็ไม่เห็นอะไรเลย

    “อนาคตมักจะไม่แน่นอนเวนส์เดย์”

    คาร์ไลล์บอกเธอ เขารู้ อลิซก็มักมีปัญหากับการมองอนาคต มันมาโดยที่เราไม่ล่วงรู้

    “คุณบอกว่าที่นี่มีกลุ่มอื่นอีก ให้ฉันได้เจอพวกเขา”

    “ใช่ แต่เราจะตามเธอไปไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะเป็นมิตรกับเธอมั้ย”

    คาร์ไลล์ว่าอย่างเป็นห่วง เขาไม่อยากให้เธอไปเจอกับพวกหมาป่า พวกเขาจะกำจัดสิ่งที่เป็นภัยต่อฟอร์คทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น และตอนนี้เธอเป็นพวกเขาแล้ว มีกลิ่นของแวมไพร์ติดตามตัวเธอ พวกหมาป่าจะไม่ยอมแน่ อย่างน้อยก็ต้องให้เขาเจรจานอกรอบก่อน

    “ฉันดูแลตัวเองได้”

    “เอาเป็นว่าเราจะรอพวกเอ็ดเวิร์ดก่อน เผื่อได้อะไรเพิ่มเติม”

    Talk

    ช่วงนี้กำลังมีประเด็นที่ร้อนแรงเกี่ยวกับหนึ่งในนักแสดงของหนังเรื่องเวนส์เดย์ที่มีพฤติกรรมไม่ดี ไรท์ก็เลยลังเลว่าควรจะแต่งต่อไปดีมั้ย หรือจะต้องพักเรื่องให้ข่าวมันซาลงก่อน เพราะว่าการที่คนชื่นชอบผลงาน ส่วนหนึ่งมันก็มาจากนักแสดงที่เป็นกระแสนิยม หากนักอ่านยืนยันจะอ่านต่อและบอกได้ว่าสามารถแยกแยะระหว่างแฟนฟิคกับชีวิตจริงของนักแสดงได้ ไรท์ก็จะแต่งต่อ แต่อาจจะปรับบทคนนั้นให้น้อยลง ที่บอกว่าต้องแยกแยะระหว่างแฟนฟิคกับชีวิตจริง เพราะอาจจะมีคนที่ไม่เคยดูหนังแล้วได้มาอ่านนิยายจนไปหาหนังดู หนังมันสนุกมากจริงๆ ตัวละครในเรื่องราวเขาเป็นคนที่ดีพร้อมคนหนึ่งเลยแหละ ซึ่งแฟนหนังหลายคนเชียร์เขา ไรท์เองก็ชอบตัวละครนี้ และมันอาจจะรู้สึกผิดหวังมากที่เราได้เห็นข่าวอย่างนั้นของนักแสดงที่รับบทบาท ไม่รู้ว่าตอนนี้ได้บทสรุปรึยัง นักอ่านทุกท่านคิดว่ายังไงกันบ้างคะ

    23/01/66

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×