ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Wednesday & Vampire Twilight] Girl born on friday ตระกูลนี้ผียังหลบ

    ลำดับตอนที่ #3 : Episode 2

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 66


    "คือพื้นที่ไม่พอ เราเลยเปลี่ยนเป็นเตียงสองชั้น เธอเลือกนอนตามสบายเลย"

    เบลล่าพูดหลังจากเห็นเวนส์เดย์จ้องที่นอนอยู่นาน เธอพาเบลล่าเข้ามาดูห้องพักหลังกลับจากทัวร์ในเมือง ซึ่งเป็นห้องนอนของเธอเอง บ้านของเราไม่ได้มากกว้างมาก อีกห้องหนึ่งก็เป็นของชาร์ลีและห้องเก็บของที่เรายังไม่ได้เคลียร์ หวังว่าเวนส์เดย์จะไม่อึดอัด เธอกับพ่อเลือกซื้อเตียงไม้สองชั้น มันราคาถูกแต่มันก็ยังใช้งานได้ดี

    "ฉันนอนใต้เตียงก็ได้"

    สกปรก คับแคบ มืดมิด เหมาะเป็นที่ฝังร่างที่ดีว่ามั้ย

    "ไม่ใช่อย่างนั้นสิ!"

    เวนส์เดย์หรี่ตา เธอเลือกตอบใหม่

    "ชั้นล่าง เผื่อว่าเสาเตียงจะหักและทับฉันตาย"

    "เธอนี่พูดแต่เรื่องตายตลอด ฉันเคยซึมเศร้าอยู่พักหนึ่ง มันไม่ดีนักหรอก"

    เวนส์เดย์หยิบของในกระเป๋าออกมาจัด ห้องนี้แคบกว่าห้องที่เนเวอร์มอร์อีก ฉันแบ่งครึ่งแบบที่ทำกับอีนิดไม่ได้ คงต้อง...

    เบลล่าตื่นในเช้าวันถัดมา เธอกำลังปีนบันไดลิงลงจากเตียง

    "เอ่อ...นี่มันอะไรน่ะ"

    เท้าเธอชะงักอยู่ที่บันได้ขั้นสุดท้าย ทำเอาเธอไม่กล้าเหยียบพื้นห้อง นั่นสีแห้งยังน่ะ?

    "ฉันอนุญาตให้เธอเข้ามาในพื้นที่ฉันได้"

    เวนส์เดย์ที่อยู่ในท่าค้างถือกระป๋องสี แปลงทาสีในกระป๋อง และที่ฉาบปูน

    "เธอทาสีและขูดผนังออก ตั้งแต่ตอนไหน"

    เบลล่ามองสภาพพื้นห้องที่กลายเป็นสีดำและกำแพงครึ่งล่างเป็นสีขาวซีด เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกทาสีครึ่งล่างเป็นสีดำ เธอแค่นอนหลับไปคืนเดียว และทุกอย่างก็เงียบมาก ให้ตายสิ

    "เธอไม่ขออนุญาตฉันก่อน"

    "ทำไปแล้ว"

    เวนส์เดย์ตอบหน้าตาย

    "เฮ้อ...ไปเตรียมตัวไปโรงเรียนกันเถอะ"

    เบลล่ายกมือกุมหน้าผาก

    เวนส์เดย์สวมใส่ชุดนักเรียนประจำที่เธอเคยใส่เมื่ออยู่เนเวอร์มอร์ ต้องยอมรับว่ามันทำให้ฉันคล่องตัวไม่น้อยและเป็นสีโปรด เพื่อว่าจะมีคนรู้จักโรงเรียนเนเวอร์มอร์ ฉันอาจจะได้ถามเรื่องของซาเวียร์กับเขา

    "ที่นี่ไม่ต้องใส่เครื่องแบบเวนส์เดย์ เธอแต่งตัวตามสบายได้นะ"

    "ฉันรู้"

    เวนส์เดย์เดินออกไป

    แฟนหนุ่มของเบลล่าที่ยืนพิงตัวรถอยู่ยืนตัวตรงมองมาทางเวนส์เดย์ ทั้งสองจ้องตากันพักใหญ่อย่างลองเชิง ไม่มีใครยอมใครจนเบลล่าเดินออกมา

    "เอ็ดเวิร์ด"

    เบลล่าเข้าไปกอดแฟนหนุ่ม

    "นั่นใคร"

    ชายหนุ่มผิวสีขาวซีด ผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีทอง มองเวนส์เดย์ด้วยแววตาดุร้าย

    "เอ็ดเวิร์ดนี่เวนส์เดย์ เวนส์เดย์ แฟนฉันเอ็ดเวิร์ด พ่อให้เธอมาพักกับฉันชั่วคราว เธอย้ายมาเรียนที่เดียวกับเรา"

    "รบกวนไม่นานหรอก ฉันจำทางได้แล้วจะไปเอง"

    เอ็ดเวิร์ดเปิดประตูให้เบลล่านั่งข้างคนขับแล้วเดินไปขึ้นรถ เวนส์เดย์เปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะหลังเอง

    ฉันต้องจ้องมองพ่อแม่พลอดรักกันบ่อยๆ โชคดีที่เบลล่ากับแฟนของเธอไม่ทำอย่างนั้น อย่างน้อยก็ขณะที่ฉันนั่งอยู่บนรถปิดตายนี่ รับประกันได้เลยว่าโรงเรียนของพวกนอร์มีต้องมีอะไรชวนอ้วกอีกแน่นอน และเป็นจริงตามนั้น เมื่อเวนส์เดย์มาถึงโรงเรียน กว่า 80% มีพวกคู่รักเดินกอดกันนัวเนีย

    เหมือนมีบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอฉัน

    เอ็ดเวิร์ดจอดรถข้างครอบครัวพี่น้องของเขาที่ยืนรออยู่ เขาเดินไปเปิดประตูให้เบลล่า เวนส์เดย์ก้าวลงจากรถ

    “เด็กใหม่หรอเอ็ด”

    ชายหนุ่มร่างใหญ่ กล้ามโต เดาว่าคงบีบกระโหลกแตกได้ด้วยกล้ามนั่น เขาเดินมาถามเอ็ดเวิร์ดขณะพิจารณาเวนส์เดย์ด้วยสายตาและหน้าไม่รับแขก และเวนส์เดย์ไม่เคยกลัวที่จะจ้องมองใครกลับอย่างสำรวจเช่นกัน

    “สวัสดีเพื่อนใหม่ ฉันอลิซ อลิซ คัลเลน”

    หญิงสาวผมสั้น เอนเนอร์จี้เหลือล้น เดินเข้ามาทักทายเวนส์เดย์และคว้าสองมือเธอไปจับแล้วเขย่าไปมา พลางพยักเพยิดหน้าให้ดูแต่ละคน อลิซแนะนำสมาชิกครอบครัว

    “เอ็ดเวิร์ด น้องเล็กของเรา เธอคงรู้จากเบลล่าแล้ว นี่แฟนฉันแจสเปอร์ นั่นเอ็มเม็ตต์กับโรซาลี เธอแวะมาเที่ยวเล่นที่บ้านเราได้นะ เพื่อนเบลล่าก็เหมือนเพื่อนของเรา”

    เวนส์เดย์มองตามอลิซ ฉันจดจำลักษณะพวกเขาเผื่อจะมีประโยชน์แล้วชักมือจากการจับกุม คนที่นี่มักจะถึงเนื้อถึงตัวกันเกินไปหน่อย

    “อุ้ย ขอโทษ”

    อลิซปล่อยมือและถอยห่างเมื่อเห็นเวนส์เดย์หน้าบึ้งตึง

    คนประเภทอีนิด ถ้าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันฉันจะต้องปวดหัวมากแน่ๆ

    “เอ่อ…ฉันจะพาเธอไปรับตารางเรียนก่อน ไว้เจอกันนะเอ็ดเวิร์ด”

    ก่อนเบลล่าจากไป เขาดึงเธอเข้ามากอดและกระซิบข้างหู

    “ระวังไว้ด้วยเบลล่า ฉันอ่านใจเธอไม่ได้”

    เขามองไปทางเวนส์เดย์ เบลล่ามองตามพลางทำหน้าคิ้วขมวด

    “เธอเป็นแบบพวกนายรึเปล่า”

    “แน่นอนว่าไม่ใช่ ยิ่งต้องระวัง”

    ทั้งสองผละออกจากกัน เวนส์เดย์เดินตามเบลล่า ไม่วายเธอก็เอี้ยวตัวหันกลับมามองพวกเอ็ดเวิร์ดอีกครั้งและหันกลับไป

    “เอาล่ะ ฉันไม่ชอบแม่นั่น”

    หญิงสาวผมบลอนด์ยาวหนึ่งเดียวในกลุ่มพูดขึ้น เธอสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ไม่น่าเข้าใกล้ น่ารำคาญพอๆ กับพวกมนุษย์ แค่เบลล่าคนเดียวก็เป็นตัวปัญหาจะแย่ แต่หล่อนเป็นคู่ของเอ็ดเวิร์ด ยังพออะลุ่มอล่วยกันได้ถึงเธอจะไม่ชอบใจนัก

    “เธออาจจะแค่กำลังปรับตัวกับโรงเรียนใหม่ ให้เวลาเธอหน่อย”

    อลิซพูดขึ้นอย่างยินดี เซนส์ของเธอบอกว่าเวนส์เดย์ต้องนำพาเรื่องสนุกมาให้แน่

    “เราจะไม่สนิทกับเธออลิซ ฉันอ่านใจเธอไม่ได้”

    เอ็ดเวิร์ดพูดดักอลิซที่คิดอะไรแผลงๆ เขาบอกพี่น้องว่าความสามารถของเขาใช้ไม่ได้ผลกับเด็กใหม่

    “เธอเป็นเหมือนเบลล่า?”

    โรซาลีถาม ใบหน้าตึงเครียด ครั้งสุดท้ายที่เอ็ดเวิร์ดอ่านใจใครไม่ได้ เบลล่านำปัญหามาให้เรา ยิ่งเป็นเพื่อนของเบลล่า ไม่มีใครรับประกันได้ว่ามันจะไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก

    “เบลล่าไม่ใช่ตัวปัญหาโรส”

    เอ็ดเวิร์ดตะโกนใส่โรซาลี พี่สาวของเขาไม่ยอมรับแฟนสาวเขาสักที นั่นทำให้เขาเครียดที่โรซาลีตั้งแง่กับเบลล่า จริงอยู่ที่มีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่เขาเจอเบลล่า ความลับที่เรารักษามานานก็มาถูกเปิดเผยโดยเบลล่า แถมเรายังถูกพวกโวลตูรีเพ่งเล็งกว่าเดิม แต่เบลล่าคือคู่ชีวิตของเขา และเขาจะไม่มีวันปล่อยมือเธอ อีกแล้ว

    “เราควรจะบอกคาร์ไลล์มั้ย”

    แจสเปอร์สีหน้าเป็นกังวล เขากอดกับแฟนสาวแน่น อลิซลูบอกปลอบเขา

    “นายได้กลิ่นเธอมั้ย”

    อลิซถามเขา เพราะแจสเปอร์เป็นแวมไพร์คนล่าสุด เขาค่อนข้างไวต่อกลิ่นเลือด และรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้

    “ฉันได้กลิ่นฝนจากตัวเธอ เหมือนฝนที่ตกในงานศพ ความรู้สึกของเธอมันดำมืด”

    แจสเปอร์ตอบอลิซ และเวนส์เดย์เป็นมนุษย์คนแรกที่เขาไม่รู้สึกกระหายเลือด มันน่าขยะแขยงยิ่งกว่าที่เขาเคยเจอมา ความรู้สึกของเธอมันซับซ้อนมาก เป็นมนุษย์ที่ให้ความรู้สึกพะอืดพะอมดีแท้ พลังของแจสเปอร์ไม่มีปัญหากับเวนส์เดย์ นั่นยิ่งทำให้พวกเขาสับสนไปใหญ่

    “เธออาจจะแค่เป็นพวกไม่เข้าสังคม เราแค่จับตาดูเธอหนึ่งอาทิตย์ ถ้าไม่พบอะไรก็วางใจได้”

    เอ็มเม็ตต์ยักไหล่อย่างไม่แคร์ เวนส์เดย์อยู่ในฟอร์ค และเธอไม่ใช่แวมไพร์ ทุกคนได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้น แต่แค่เบามากจนเหมือนไม่ได้ยิน ตอนแรกเขานึกว่าเธอเป็นศพเดินได้ด้วยซ้ำ ถ้าเธอทำตัวมีปัญหาก็มีพวกเขตสงวนที่รอรับงานอยู่ พวกหมาป่าปกป้องมนุษย์ พวกเขาปกป้องคนของตัวเอง

    “แล้วใครจะจับตาดูเธอ” โรซาลี

    “นายเลยเอ็ดเวิร์ด ดูเหมือนเธอจะสนิทกับเบลล่า” เอ็มเม็ตต์

    “ไม่ เธอแค่มาพักกับเบลล่าเฉยๆ”

    เอ็ดเวิร์ดปฏิเสธไป และเขาไม่ต้องการตามดูชีวิตผู้หญิงคนอื่นนอกจากเบลล่า

    “บางทีเราอาจจะขอให้เบลล่าช่วย” อลิซ

    “เบลล่าจะตกอยู่ในอันตรายถ้าเธอเป็นตัวอันตรายจริง” เอ็ดเวิร์ด

    “แล้วอยู่บ้านเดียวกันไม่อันตรายรึไง” เอ็มเม็ตต์

    “เราจะคุยเรื่องนี้ทีหลัง” เอ็ดเวิร์ด

    เสียงกริ่งบอกเวลาเริ่มเรียนดังขึ้น พวกคัลเลนแยกย้ายกันไปเข้าห้องเรียน

     

    “โย่ เด็กใหม่กลางเทอม โดนไล่ออกมาหรือเปลี่ยนบรรยากาศ”

    หนุ่มผิวสีแทนที่เคยวิ่งเข้ามาขโมยหอมแก้มเบลล่าเข้ามาทักเวนส์เดย์ที่นั่งอยู่โต๊ะในโรงอาหาร อันที่จริงเขาก็อยากจะรับน้องนะ แต่เธอดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ พนันเลยว่าถ้าเขาขโมยหอมแก้มเธออาจจะจบไม่สวยแบบเบลล่า

    “เสียมารยาท ไปไหนก็ไปเลยไป”

    เจสสิก้าเพื่อนสาวของเบลล่าที่นั่งอยู่ข้างกันโบกมือไล่ชายหนุ่ม

    “โว๊ะ ไปก็ได้”

    “ไม่ต้องไปสนใจนะ ว่าแต่เธอมาจากไหน”

    “ที่ๆ ไกลมาก เธอคงไม่อยากรู้หรอกว่าร่างของฉันจะถูกฝังอยู่ที่ไหน”

    “เอ่อ…อะจ้ะ”

    เจสสิก้าหันไปคุยกับแฟนหนุ่มแทน

    “ฉันขอถ่ายรูปเธอไปลงหนังสือพิมพ์โรงเรียนได้มั้ย แบบพาดหัวข้อข่าว นักเรียนใหม่สยองขวัญกลางเทอม เธอเข้ามาเรียนหลังจากเราเปิดเทอมสองไปได้สัปดาห์หนึ่ง”

    แองเจล่ายกกล้องขึ้นมาตั้งท่า

    “ถ้าเธอไม่กลัวว่าภาพนี้อาจจะเป็นรูปสุดท้ายที่เธอได้ถ่าย”

    “ทำไมละ”

    “เพราะนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นพวกเขา”

    คำพูดของเวนส์เดย์ทำเอาแองเจล่าคิดไปต่างๆ นานาอย่างกังวล

    “แม่สาววิตกจริต ฉันจะแนะนำอะไรให้ ถ้าเธออยากอยู่ที่นี่ เธอต้องยิ้มมากกว่านี้และลดคำพูดคำจาที่ไม่น่าพิสมัยนั่นลง”

    เจสสิก้าเอื้อมมือมายืดแก้มเวนส์เดย์ออก เธอปัดมืออย่างแรงจนหลังมือเจสสิก้าขึ้นรอยแดง

    “คนที่นี่เขาชอบลวนลามคนอื่นเป็นเรื่องปกติรึเปล่า”

    “แนะนำเพื่อนใหม่เธอบ้างนะเบลล่า บางทีอาจจะตายก่อนวัยอันควร”

    “ขอโทษแทนเธอด้วยนะเจส”

    เบลล่ายิ้มแห้ง

    “คนที่พูดว่าตายมักจะตายเร็วกว่าเพื่อน”

    เวนส์เดย์หันไปจิกกัดเจสสิก้า

    “สาวๆ อย่าวางมวยกัน กินข้าวกันเถอะ”

    เอริคแฟนหนุ่มของแองเจล่าเอ่ยห้ามปราม เชื่อเถอะ เขาเองก็เหงื่อตกไม่น้อย

     

    “แม่เวนส์เดย์นั่นจี๊ดไม่ใช่เล่น แถมประหลาดพิลึก”

    เอ็มเม็ตต์พูดพลางเขี่ยอาหารในจานไปมา พวกเขาได้ยินเสียงบทสนาที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากโต๊ะของเบลล่า แม้จะนั่งห่างกันไกล แต่หูดีอย่างพวกเขาไม่มีทางไม่ได้ยิน ต่อให้เป็นเสียงแมลงก็ตาม พวกเขาได้ยินเสียงไกลออกไปหลายร้อยเมตร นับอะไรกับในโรงอาหารที่ห่างกันไม่เท่าไหร่

    “ว่าเธอได้หรอ”

    แจสเปอร์เอ่ยแซวเอ็มเม็ตต์

    “เธอมองมาทางนี้”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น เพราะเขามองเบลล่าตลอดเวลาและนั่นทำให้เขาเห็นเวนส์เดย์ด้วย พวกเธอนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน 

    “เธอจ้องเราเขม็งเลยวะเพื่อน” เอ็มเม็ตต์

    “เราเข้าไปถามตรงๆ เลยเถอะ ฉันอึดอัดกับสายตานั่นไม่ไหว เหมือนเธอกำลังหาเรื่องเรา”

    โรซาลีผุดลุกขึ้นอย่างฉุนเฉียวแต่เอ็มเม็ตต์ดึงเธอไว้ได้ก่อน

    “โว้ว ใจเย็นแม่เสือสาวของฉัน”

    “เสาร์นี้เรามีนัดตีเบสบอสกับเบลล่า บางทีอาจจะเปลี่ยนแล้วชวนเวนส์เดย์มาด้วย แจสเปอร์ไม่มีปัญหากับเลือดของเธอ” อลิซ

    “กลิ่นเธอฉุนน้อยกว่าเบลล่า”

    แจสเปอร์พยักหน้ารับ เขาเอ่ยกับเอ็ดเวิร์ด

    “เราจะได้ทำความรู้จักกัน ให้เบลล่าชวนเธอสิ” อลิซ

    “ฉันจะลองถามดู”

    บางทีปัญหาอาจจะมาเยือนคันเลนเร็วกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่พวกเขา กับเวนส์เดย์ก็ด้วย ฟอร์คกำลังมีภัย

    17/01/66

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×