คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เอเธียร่า คัฟ(ลาเซนตรา+บารามอส) ตอนที่2:งานเลี้ยงต้อนรับผู้มาเยือน(100%)
หลังจากเดินชมโรงเรียนกันเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาแห่งมิตรภาพ ลาเซนตราเพิ่งรู้มากจากปากของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าเองว่า อันที่จริง เจ้าหญิงเอง เป็นจำพวกสองเพศสองร่าง คล้ายๆกับเธอ เพียงแต่เจ้าหญิงไม่เคยรู้มาก่อน
มันคงเป็นเรื่องที่ทำจได้ยากอยู่ เพราะถ้าเป็นเธอคงจะช็อกน่าดู
เจ้าหญิงไม่ชินกับการพูดแบบผู้หญิง ไม่ชอบแต่งชุดกระโปรงลุ่มล่าม แต่ที่ใส่มาได้วันนี้เพราะโดนบังคับไม่งั้นใช้ให้ไปกระโดดหน้าผาตายก็ไม่ขอใส่ชุดนี่อีกเป็นครั้งที่สอง...
เจ้าหญิงยังบอกอีกว่า
"อย่าเรียกชื่อลิเกๆนั่นเลย เรียกเฟรินก็พอ แล้วก็ไม่ต้องทำสุภาพ ผมเลี่ยน"ด้วยเหตุนั้น เธอจึงทั้งกัดทั้งแซวทั้งแกล้งทั้งด่าตามใจชอบ
แต่ก็มีอยู่สองคน ที่เธอไม่กล้าจะแซว หรือพูดให้ถูกคือแทบจะไม่กล้าเดินเข้าไปคุยด้วยเลยด้วยซ้ำ คือคนที่ตัวสูงๆ ที่ชื่อโรเวน กับคนที่คิลวอกว่า เป็นคนแสนพิเศษของเฟรินที่ชื่อคาโล บอกได้เลยว่าทั้งสองคนหน้าตาดีมาก โดยเฉพาะคาโล แต่ทั้งคู่เงียบขรึม ขรึมมาก ขรึมจนเวอร์เกินไป ความขรึมนั้นมีมากจนสามารถดึงเซรอสเข้าร่วมวงได้ และกลายเป็น ขบวนการ
...เงียบสะท้านโลกา...
แต่ที่ติดใจมากที่สุดก็คือ คู่คาโลกับเฟรินนี่ไปกันได้อย่างไร?
คนหนึ่งก็บ้าดีเดือด มุทะลุที่หนึ่ง ไม่ได้ต่างกับเธอเลย ฟังจากการเดินท่างที่เล่า โดยเฉพาะฉากที่ที่ทิ่งตัวดิ่งพสุธากลางสมรภูมิลพที่กำลังฟันกันเลือดสาด ดีที่มีเวทจากราชินีจันทราที่ว่าเป็นน้าช่วยเอาไว้ ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสได้มาเดินปร๋อแบบนี้
อีกคน... ทั้งเงียบทั้งหยิ่ง ทั้งดุทั้งโหด มาดเจ้าชายน้ำแข็งเต็มประดา สมฉายาจริงๆ
สรุปแล้ว บอกได้คำเดียวว่า 'ประหลาด' และ ‘มหรรษจัรรย์!’
คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือก แล้วหันไปมองเลอัสกับคิลที่เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย... ไอ้สองตัวนี้ตั้งแต่เจอหน้ากัน ได้คุยกันคำสองคำก็กระดี้กระด้ากันป็นการใหญ่ เลอัสนี่ถึงขั้นลืมเรื่องยูรีเอลไปเลย เห็นอย่างนี้ก็โล่งใจแทนเจ้าชายแห่งซิริธรายนั้น ในที่สุดก็เป็นอิสระเสียทีสินะ ปัญหาคือสงสารนักฆ่าแห่งซาเรสนั่นเหลือเกิน...
...เจ้ายังไม่รู้ฤทธิ์เดชของมัน ท่านนักฆ่าคนเก่ง!...
คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่แทบตจะขึ้นหลักร้อยในรอบวัน ลาเซนตรามองหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาลูฟที่ตอนนี้ หายไปไหนไม่รู้ ลาเซนตราทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนั้น เพื่อจะไปตามหาไอ้ปีศาจที่อยู่ๆ ก็หายตัวไปเฉยๆ ทั้งๆ งานสำคัญกำลังจะเริ่ม แต่ก่อนหน้านั้น...
"ลาเซนฯ จะไปไหน?"เฟรินเอ่ยถาม คนถูกเรียกชื่อย่อประหลาดๆ เริ่มรู้สึกระคายหูน้อยๆ เจ้าหล่อนหันหน้ากลับมาสบตาด้วย
"ลาซก็ได้"เธอทักท้วง คนฟังแสยะยิ้มทะเล้น
"โอเค ลาเซนตรา จะไปไหน"เฟรินเอ่ยพลางกลั้วหัวเราะ
...โอ้ย บอกให้เรียกชื่อย่อก้เสือกเรียกชื่อเต็ม เจ้าหญิงองค์นี้นี่เพี้ยนหรือเปล่า?...
"ข้าจะไปตามหาสหายข้า งานสำคัญกำลังจะเริ่ม ดันหายหัวไปไหนไม่รู้"ลาเซนตรตอบ
"สหายที่ว่า ใช่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่นั่นหรือเปล่า"เฟรินเอ่ยพลางชี้นิ้วไปทางต้นไม้ใหญ่ตนหนึ่ง ที่อยู่ถัดออกไปไกลพอสมควร ใกล้ๆ กับแม้น้ำจนเรียกได้ว่าอยู่ริมแม่น้ำได้แล้ว
"หืม?"ลาเซนตราย้อนกลับอย่างงงๆ
"เฮ้ย! เออ... โทษที ฉันหมายถึงโร"เฟรินกระแอมน้อยๆ ลาเซนตราหันไปมองตามทิศทางของนิ้ว ก่อนจะหลุดคำตอบออกมา
"อ้อ ใช่แล้ว นั่นแหละ"เธอมองไปที่สองคนนั้น ก่อนจะขมวดคิ้วเข้ม "ว่าแต่คนไหนลูฟคนไหนโรมองไกลๆแบบนี้ ข้าชักงง"
"นั่นเดะ มองจากตรงนี้ อย่างกับฝาแฝด"เฟรินว่าพลางเพ่งมองไปบ้าง
"ช่างเหอะ รู้ว่าอยู่นั่นก็ไม่จำเป็นต้องหา"ลาเซนตราสรุป แล้วพยายามมองแยกแยะว่าใครป็นใคร ก่อนคำตอบจะปรากฎเมื่อหนึ่งในนั้น โบกมือให้เธออย่างเป็นคนคุ้นเคย ใบหน้าเรียวขึ้นสีเรื่อ อยากจะโจนลงไปเอามีดปาดคอไอ้บ้าตรงหน้านี่จริงๆ!!
...ไอ้เจ้าบ้าลูฟ!!!...
การกระทำนั้น ทำให้คนข้างๆ กายเธอ เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างที่เธอไม่อยากให้เข้าใจ
นัยน์ตาสีน้ำตาลของเฟริน เป็นประกายมันวาว ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ
"อือ อย่างงี้นี่เอง อ้อ งั้นเหรอๆ อืมๆ"เฟรินเอ่ยไปพยักหน้าไปด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่ ยียวนกวนประสาทเป็นที่สุด ในขณะที่คนโดนแหย่ อายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
...หน้าขายหน้า ขายหน้าที่สุด!...
คนใต้ต้นไม้ดูเหมือนจะรู้ว่าเธอกำลังอยู่ในสถานการณ์น่าแกล้งสุดๆ มันก็ยิ่งแกล้งหนักเข้าไปอีก
"มานั่งกับข้าตรงนี้สิ"ลูฟตะโกนมาหาเธอ ทำให้ความอายแปรเปลี่ยนเป็นความหมั่นไส้
"ใครอยากจนั่งกับเจ้า"ลาเซนตราตะคอกกลับไป พลางทำท่าจะเดินหนี และแน่นอนลูฟลุกขึ้นจากที่ตรงนั้น บอกลาเพื่อนใหม่ แล้ววิ่งตามเธอไปทันที
...ไม่แกล้งต่อ ท่าจะไม่มันส์...
ราตรีการเริ่มมาเยือน งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป ไม่เลิกลา และได้ยินว่าจะจัดกันไปถึงตอนเช้า หลังจากนี้เป็นคิวของงานเต้นรำ ลูฟจองตัวเธอไว้เรียบร้อย ตามรรังความทุกฝีย่างก้าว ตามติดจนน่ารำคาณสุดๆ เธอคงใช้วิชาหายตัวไปแล้วถ้าทำได้
"จะตามข้าอีกนานไหม"เธอถาม
"ตามไปเรื่อยๆ เคียงข้างเจ้าตลอดเวลา"ลูฟเอ่ยพลางยิ้มอ่อนโยน
ในความมืด จะมีข้า ที่เคียงข้าง
ยามอ้าวว้าง จะมีข้า ให้แลเห็น
บทเพลงแห่งอดีตถูกหยิบยกขึ้นมาร้อง ทำให้นึกถึงจตอนที่เธอแทงมันเกือบตายตอนนั้น เล่นเอาเธอไม่กล้าปริปากไล่
"โอเคๆ ข้ารู้แล้ว ไม่ต้องร้อง"ลาเซนตราเอ่ยตัดบท ลูฟยิ้มอย่างผู้มีชัยแล้ว แล้วแกล้งเดินตามเธอต่อไป อย่างลอยหน้าลอยตา
แสงไฟสีส้มอ่อนๆ จากคบเพลิงที่ตั้งอยู่รอบๆ ฟลอร์เต้นรำส่องแสงทำให้ฟอร์เต้นรำดูสว่างสไวเข้ากับบรรยากาศ ปัญหาคือนี่ไม่ใช่บรรยากาศที่เธออยากจะได้
ลาเซนตราเห็นลูฟที่ยืนเรียงแถวอยู่ในที่ตรงนั้น พร้อมกับเลอัสและยูรีเอล ที่ยืนอยู่ข้างๆ ถัดมาก็เป็นคิลและโรตามลำดับ ทุกคนแต่งตัวด้วยชุดดูเป็นทางการซึ่งดูไปดูมาก็นับว่าดูดี แต่ต้องมาเต้นกับปีศาจ แม้จะดูดีแค่ไหน แต่ก็หาความไว้วางใจได้ไม่มี
"แขกผู้มีเกียตริทุกท่าน เราจะขอเปิดฟลอร์เต้นรำเอเธียร่า หลังจากสิ้นเสียงของข้า หกท่านนี้ จะเป็นตัวแทนนำเต้น และของเชิญสตรีตัวแทนที่ถูกเลือกไว้อีกหกคน เข้าสู่ฟลอร์ เพื่อเตรียมเข้าสู่บทเพลงแรก"เสียงเปิดของของเดเรสที่เป็นพิธีกรตลอดกาล เอ่ยสั่งทำให้ลาเซนตราที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือกกัดฟันกรอด แสร้งจีบกระโปรงเดินเข้าไปในฟลอร์อย่างไม่สบอารมณ์สุดๆ
...แกล้ง! มันแกล้ง ใช่ มันแกล้งเธอ! ทะลึ่งเอาชื่อใส่ใจการแข่งยังไม่พอ ยังจะบัดซบใส่ในรายชื่อตัวแทนนำเต้นรำอีก มันน่านัก! รอให้หมดงานนี้ก่อนเถอะ ลูฟ! เจ้าตาย!
นึกภาพแสงแห่งราตรีที่เฉาะทะลุทองซ้ำรอยกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นเธอไม่ได้จงใจ ผิดกับครั้งนี้ 'จงใจสุดๆ'
เมื่อเธอก้าวเท้าเข้ามาถึงกลางฟลอร์เต้นรำ สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำให้เธอนึกอยากจะเอาคบเพลิงมาเผาหัวตัวเองให้ตาย เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะเมื่อเธอก้าวเท้ามายืนตามลำดับที่เดินออกมาก็พบว่าตัวเองถูกไอ้ปีศาจงี่เง่านี่อ่านทางออกหมดเรียบร้อย
...ไอ้ปีศาจบ้า บัดซบ! บัดซบที่สุด ดันมาจับคู่เธอให้กับตัวเอง คราวนี้แหละ ศพไม่สวย!...
การกระทำของลูฟ เรียกให้อารมณ์ของลาเซนตรา พุ่งฉิวจนยากที่จะห้ามปราม แต่มาลองคิดๆดูอีกที ถ้าให้เธอไม่คู่กับใครสักคนนอกจากลูฟในลานนั่น บอกได้คำเดียวว่า 'ไม่มีทาง'
คนที่พอจะเต้นตามเธอได้ นอกจากลูฟแล้ว ดูท่าจะไม่มีใครอื่น ยูรีเอลเหรอ เคยแพ้เธอมาครั้งหนึ่ง เล่นด้วยอีกทีคนไม่สนุกไปกว่าการเต้นกับคนที่รู้ท่วงท่าพิศดารของเธอเป็นอย่างดีอย่างลูฟ
เธอวางมือบนไหล่ของลูฟ มืออีกข้างจับมือของคนตัวสูง แล้วจิ๊กเล็บของไปอย่างหมั้นใส้จนคนตัวสูง นิ่วหน้าลงเล็กน้อย
"อย่าทำอย่างนี้สิ ข้าเจ็บนะ"ลูฟเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนฟังดูอยากอ้วก พลางโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนหน้าของลูฟกับเธอ ห่าง-กันเพียงคืบกว่าๆ แล้วส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้
ไอ้...
พยายามสกัดกั้นคำด่าและอารมณ์สุดชีวิต เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้า คงไม่มีเจตนารมณ์อื่นเลยนอกจาก 'แกล้ง!' อีกอย่างตอนนี้เธออยู่ต่อหน้าประชาชี ทำอะไรมุทะลุไปขายหน้าเข้าแย่ต้องสงบเอาไว้ ลาเซนตรา เย็นไว้ ใช่อย่างนั้นแหละ! อย่าไปถือสา มันก็เป็นของมันอย่างนี้
ลูฟเอื้อมมือมาจับที่เอวของเธอ ก่อนที่เสียงเพลงจะดังขึ้น มันเป็นเพลงบรรเลงเบาๆ ที่ฟังแล้วอย่างจะหลับมากกว่าเต้น และไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าหันไปมองหาไอ้บ้าอยู่ซีทที่นั่งอยู่ข้างๆ เก้าอี้ที่เดเรสเคยนั่ง ตอบได้โดยไม่ต้องคิดว่า 'หลับไปแล้ว'
เพลงบรรเลงไปอย่างช้าๆ พร้อมๆ กับที่คนในฟลอร์เต้นรำเริ่มขยับฟีเท้า นาร์เนียที่ยืนอยู่ข้างๆเปียโนที่เดเรสนั่งเล่นอยู่เริ่มยกนิ้วขึ้นดีดพิณประกอบเข้ากับทำนองเปียโนที่หมอนั่นเล่น
...เพิ่งจะรู้ว่ามันเล่นเปียโนเป็น...
ความคิดที่ไม่อยากจะเชื่อ แต่เห็นเข้ากับตาแบบนี้ คงจะต้องเชื่อ ไม่ใช้ว่าแค่เล่นเป็นธรรมดา แต่ยังเล่นเก่งเสียด้วย เดเรสหลับตาลงและพรมนิ้วไปบนเปียโนอย่างพริ้วไหวดูเป็นมืออาชีพ
เสียงฝีเท้าก้าวเป็นจังหวะอย่างพร้อมเพรียง แต่เมื่อเหล่ตาไปมองคู่ข้างๆ ที่ดูจะสะเปะสะปะเอียงซ้ายทีขวาที ทำให้เธอได้แค่ถอนหายใจด้วยความสงสารเจ้าชายน้ำแข็งที่ต้องมายืนคุมท่าเต้นให้กับเจ้าหญิงคนเก่งแห่งเดมอสที่ดูยังไงก็ไม่เหมาะกับมาดเจ้าหญิงเลยสักนิด แต่เจ้าชายน้ำแข็งก็ใช่ย่อย ภายนอกดูเหมือนไม่ห่วง แต่ถ้าสังเกตปากดีๆ จะรู้ว่าคาโลพยายามนับจังหว่ะเบาๆ เป้นการช่วยคู่เต้นอย่างสุดชีวิต แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังเห็น เฟรินเหยียบเท้าเขาหลายครั้งทีเดียวเชียว
ลาเซนตราเริ่มรู้สึกอยากจะหลับกับเพลงนี้เสียเหลือหลาย เต้นแบบนี้มีหวังเธอหลับคาฟลอร์เต้นรำเป็นแน่ เท้าขวาดีดตัวเองให้ผละออกจากคนตรงหน้าเป็นสัญญาณว่าเธอกำลังจะเริ่มอะไรพิเรณๆ อีกแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าลูฟก็รู้สเตปดี คนตัวสูงก้าวเท้าไปด้านหลัง และเรียกดาบออกมาในจังหวะเดียวกับที่แสงแห่งราตรีปรากฎขึ้นในมือเธอ
เหล่าคนดูพากันซุบซิบกันยกใหญ่ เมื่อเห็นสิ่งที่เธอกับลูฟเริ่มกันอยู่ตอนนี้ ทุกสายตา ณ ที่นั้นตอนนี้จับจ้องมาที่คู่เธอ ซึ้งก็ไม่รู้ว่านั่นมันเป็นการดีหรือเปล่า เอาล่ะ คราวนี้ใครจะชนะ... ข้า? หรือเจ้า!?
ลูฟร่ายเพลงดาบไปทางซ้าย ทันทีที่เธอไปทางขวา เดเรสก็ดูเหมือนจะรอจังหวะนี้มานานอยู่แล้ว มันเริ่มใส่ทำนองเพลงแต่แต่กต่างจากท่อนก่อนๆ อยู่ๆ ก็เร็วและเดี่ยวก็เปลี่ยนมาชาสลับกันไปเรื่อย แต่มันก็หนักแน่นขึ้นทีละน้อย จนพิณที่ท่านพี่นาร์เนียเล่นอยู่ถึงกับต้องหยุดชะงัก ส่วนคนเล่นก็มองไปทางมือเปียโนอย่างขอความเห็น
ยูรีเอลมองมาด้วยรอยยิ้มขำๆ ก่อนจะปราดตามองท่าเต้นพิสดารของเธออย่างสนใจ ไม่แพ้กับสาวสวยแห่งคณะเดินทางเอดินเบิร์กนาม มาทิลด้าที่นั่งมองอยู่เช่นกัน
มาดูทางด้านคู่ของสาราณุกรมเคลื่อนทีของถิ่นโน้นบ้าง... โรได้คู่กับน้องสาวตัวเอง ท่าจะโชคดีเป็นพิเศษ อย่างน้อย ก็ได้เต้นกับคนที่ตัวเองคุ้นเคย ยิ่งทั้งน่ารักแบบนี้ ให้ร้อยคะแนนเต็ม เจ้าหญิงวิเวียนนานีย่า ดูอย่างไรก็ยังเด็ก แต่ฝีมือในการขยับฝีเท้าก็ใช่ย่อยทั้งคู่เต้นไปตามจังหวะเพลงที่แตกต่างไปจากเดิมด้วยท่าทางสบายๆ โดยไม่ทุกข์ร้อนอะไร... ท่าจะมืออาชีพ...
ส่วนคิลคู่กับญาติห่างๆของคาโล เจ้าหญิงเรนอน สวย ใส น่ารัก ไม่ได้มีเความเหมาะสมกันเลยสักนิด แต่จากที่ฟังมาจากเฟริน ดูท่าคู่นี้จะมีแวว แต่ยังไม่แน่นอน ทางคู่นั้นดูจะน่าสงสารไปหน่อย อย่างว่า... ให้นักฆ่ามายืนเต้นรำ ใครนะเป็นคนต้นคิด เต้นยังแข็งๆ แทนที่ชายจะคอยเป็นผู้คุมเกมหญิง กลายเป็นตอนนี้เจ้าหญิงเรนอน จับจังหวะของเปียโนได้ก่อนคิลเสียอีก
แต่ที่น่าสงสารที่สุด เห็นจะเป็นคู่ของเลอัสกับเมอาร์ บอกได้เลยว่า 'รันทดจริงๆ' เต้นไปก็ยืนยิ้มเหี้ยมใส่กันและกัน สายตาแทบจะมองเห็นประจุไฟฟ้าแรงสูงที่ใหลปะทะกันอย่างดุเดือด
...มันจะเต้นรำหรือเปิดสงครามกันแน่วะเนี่ย...
ลูฟเริ่มค่อยๆ ขยับเขาใกล้เธอขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ก้าวเท้า ทำให้ลาเซนตรา พบว่า ตอนนี้ คนถูกรุก จะเป็นฝ่ายเธอ เธอพยายามแก้ท่าโดยการเก้าเท้าลักษณะเดียวกันเป็นจังหวะ ค่อยๆ ใกล้เข้ามาหาร่างสูงทีละน้อยทันทีที่เธอเข้ามาสู่รัศมีวงแขน ลูฟก็คว้าแขนเธอจนเธอตกใจถึงกับทำแสงแห่งราตรีหลุดมือ
เธอรีบทำให้มันหายไป ก่อนที่มันจะหล่นลงเพื้อนซึ่งในจังหวะเดียวกันนั้น ลูฟก็ไม่ได้ต่างจากเธอนัก ร่างบางถูกดึงเช้ามาสู่วงแขน ที่โอบร่างเธอไว้ไม่ให้ล้มลงไป ผมสีทองที่ถูกรวบไว้เป็นหางม้า เกือบจะแตะพื้น หัวของเธอเองก็เช่นกัน ดีที่คนตัวสูง เอามือมาประคองท้ายทอยเอาไว้
เธอกัดฟันกรอดอย่าเจ็บใจ ...โธ่ว้อย แพ้อีกจนได้...
"ท่าใหม่เหรอ ข้าไม่ยักกะเคยเห็น"ลูฟถามเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเปียโนของเดเรสลง แล้วท่านพี่นาร์เนีย ก็เกาพิณปิดท้ายเพื่อแก้เก้อ
สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่คู่ที่ระบำเพลงดาบงดงามเมื่อครู่ มันช่างเป็นท่วงท่าที่สง่างามเกินคำบรรยาย ยิ่งท่ามองจากเก้าอี้คนดูแล้ว สรุปได้อย่างเดียวว่า 'คงจะซักซ้อมกันมาอย่างดี'
หารู้ไม่ว่า นั่นน่ะ มันนคือ 'การประลองเพลงดาบที่ดำเดินไปอย่างดุดเดือด ที่เพิ่งจะมั่วท่ากันเมื่อตะกี้ สดๆ ร้อนๆ เหมือนเพิ่งออกมาจาเตาเลยทีเดียว'
"ถ้าเอาท่าเดิมๆ เจ้าก็จำได้น่ะสิ"ลาเซนตราว่า
"ขนาดท่าใหม่ เจ้ายังแพ้ข้า สงใสข้าจะเก่งเกินไป"ลูฟว่าพลางยิ้มละไม ก่อนจะค่อยๆ ประคองร่างบางให้ยืนขึ้น ลาเซนตราใช้เท้าของตัวเองกระทืบเท้าของอีกฝ่ายแรงๆ หนึ่งทีแล้วเอ่ยปากกระซิบข้างหูเบาๆ ว่า ‘หลงตัวเอง’
"อา จบไปแล้วนะครับ กับเพลงดาบ 'คู่รัก' ที่เอเธียร่า เตรียมมาเอาใจผู้มาเยือนใหม่หลายๆท่านคงจะตกใจกันเล็กน้อย แต่เพลงดาบและท่วงท่าอันงดงามเพื่อคู่ เป็นสิ่งที่ทั้งคู่ได้ซักซ้อมกันมาอย่างดี ก่อนจะมาแสดงให้พวกท่านได้ดูชมกันในวันนี้ ไม่ทราบว่าทุกท่านคิดอย่างไรกับ 'คู่รัก'คู่นี้ครับ"น้ำคำน่าถีบที่ไอ้บ้าเดเรสป่าวประกาสให้ได้ยินกันไปทั่วทั้งฟลอร์
...หมดแล้ว หมดกัน ชีวิตนี้ จบสิ้นกันแล้ว ลาแล้วโลก...
คิดแล้วก็อยากจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายไปซะตอนนี้เลยจริงๆ ไอ้บ้าเดเรส จะแก้เก้อก็ช่วยใช้วิธีที่ไม่ให้เธออับอายขายขี้หน้าไปมากกว่านี้จะได้ไหม!
"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ที่มันพูดก็มีส่วนจริงไม่ใช่เหรอ"ลูฟเอ่ยพลางกลั้วหัวเราะ
"เจ้า!"ลาเซนตราพูดผ่านไรฟันมาอย่างหงุดหงิด ก่อนเสียงกรี๊ดกร๊าดจะตามมา เมื่อร่างสูง ดึงร่างบางเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วโบกมือ
...ไอ้! ไอ้ปีศาจจอมฉวยโอกาส คอยดูนะ หลังจะงานนี้จบเมื่อไหร่ จะเอาแส่งแห่งราตรีเฉพาะให้ใส้ทะลักแล้วเอาหัวไปเสียบประจาน จากนั้นก็แร่รเนื้อขาย สมองเอาไปจัดแสดงเป็นสมองปีศาจในพิพิธพันธ์ เอาให้ไม่เหลือชิ้นดีเลย คอยดีนะ คอยดู!!...
"เจ้าเองก็ทำอะไรบ้างสิ"ลูฟกระซิลด้วยสายตาเจ้าเลห์
"นี่เจ้า...!"ลาเซนตราตวาดกลับไปเบาๆ
"หรือว่า...เจ้าไม่กล้า?"น้ำคำท้าทายถูกเอ่ยจากปากของคนตัวสูง พร้อมกับสายตาเย้อหยั่น ส่งมาอย่างดูถูกดูแคลน
แล้วก็ติดกับ...เป็นธรรมดาของคนที่ไม่ชอบให้ใครดูถูก และอยากจะเอาชนะ
"ฝันไปเหอะ"เอ่ยก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นไปกดจมูกลงบนแก้มนวล ซึ่งคนถูกกระทำก็ยิ้มอย่างพอใจ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากกองคนดูได้เป็นอย่างดี "ลืมได้เลย เรื่องที่ว่าไม่กล้า"
...หึ มันดูถูกเธอ ดูถูกเรอะ! ทำไมจะไม่กล้า ของแค่นี้ทำมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก ทั้งกอดทั้งหอม มีหรือ โตมาจะกล้าน้อยกว่าตอนเด็ก...
คิดแล้ว ก็แทบไม่อยากจะคิดต่อ เมื่อบทสรุปมันกลับกลายเป็นว่า
...ไอ้ที่ทำๆไปนั้น โดนคนตรงหน้าหลอกให้ทำทั้งนั้น!...
"เอ้า ข้าให้เจ้าชนะก็ได้"ลูฟเอ่ยพลางยกมือยอมแพ้
"มันต้องอย่างนั้น!"
ความคิดเห็น