คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เอเธียร่า คัฟ(ลาเซนตรา+บารามอส) ตอนที่3:วิกฤตใต้ทะเล!
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปรวดเร็วจนน่าใจหาย ใจขณะที่ลาเซนตรา เรื่มสนิทกับเฟรินและเจ้าหญิงวิเวียนนานีย่ามากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงสามสาวแห่งป้อมอัศวิน ที่บางครั้งก็แห่กันมานอนแออัดยัดเยียนกันในห้องเธอเป็นครรั้งคราว
แต่นั่น ทำให้เธอรู้สึกแย่นิดๆ ที่พรุ่งนี้แล้ว เธอจะต้องเริ่มทำการแข่งขันกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งจะได้รู้จักกันด้วยซ้ำ
"มานั่งหงอยเหงาอะไรอยู่ตรงนี้"เสียงใสๆ ดังมาจากทางด้านหลัง ซึ่งเมื่อหันไปมองก็พบเจ้าของผมสีดำหยักศกยาวถึงกลางหลัง และนัยน์ตาเสีเขียวมรกตคู่สวย เจ้าของนาม มาทิลด้า ซิลเวอร์ ที่เดินเข้ามาทัก
เธอเอาค้างอิงกับแขนที่เท้าอยู่ที่ระเบียง ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ
"มีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อย"เธอตอบเรียบๆ
"มีเรื่องอะไรก็บอกกันได้นะ"มาทิลด้าเอ่ย ลาเซนตรายิ้มรับแห้งๆ
"ขอบใจ"เธอว่า "ข้าแค่รู้สึกไม่ดี พรุ่งนี้ก็ต้องแข่งกับพวกเจ้า เล่นเอาข้าวางตัวไม่ถูก"
"จะคิดมากทำไม ลาซ พวกนั้นเองก็ผ่านอะไรมาเยอะแยะ เธอแค่ทุ่มให้เต็มฝีมือในการแข่งเราแข่งเอาสนุก แพ้ชนะไม่สำคัญ ขอให้เจ้าแข่งอย่างเต็มที่ก็พอ ถ้าพวกนั้นชนะในขณะที่เธอไม่ได้ใช้ฝีมือเต็มๆ ก็คงไม่ภูมิใจกันหรอก"น้ำคำปลอบใจจากมาทิลด้าทำให้หัวใจที่เต้นรัว สงบลงได้ เธอหยัดกายตรงแล้วหันมายิ้มให้สาวสวยตรงหน้า
"ขอบใจเจ้าจริงๆ ข้าสบายใจขึ้นล้ว แล้วเจอกัน"เธอเอ่ยปิดท้าย แล้วหันหลังเดินลัดเลาะไปตามระเบียงอย่างสงบ
สายลมเย็นๆพัดอ่อยๆมาจากริมทะเล ที่มีบุรุษผมทองเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยที่ทอดมองท้องทะเลด้วย ประกายอ่อนโยนเช่นทุกครั้ง ข้างๆมีบุรษอีกคน ผมทองยาวระต้นคอ ใบหน้าคมคายดูคล้ายกัน ต่างตรงที่มีนัยน์ตาสีเขียวมรกต
ทั้งคู่นั่งมองทิวทัศน์กลางทะเลอย่างเงียบๆ ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครเปิดบทสนทนา
ดวงอาทิตย์กำลังลดระดับลงเรื่อยๆ จนแทบจะมองเห็นได้ว่ามันกำลังค่อยๆจบลงไปในทะเลทีละน้อย
"นายคงชอบมองอาทิตย์ตกน้ำ?"โรเริ่มเปิดบทสนทนา
"อันที่จริงอาทิตย์ข้าก็ชอบ แต่ข้าชอบดวงดาวมากกว่า"ลูกรับ โรเลิกคิ้ขึ้นน้อยๆ
"นายนี่แปลกคน มานั่งอยู่นี่ตั้งแต่ป่านนี้เพื่อจะรอให้ดาวขึ้น?"โรย้อนอย่างขำๆ ลูฟยิ้มแล้วตอบกลับไป
"ข้าชอบทั้งอาทิตย์และดวงดาว"ว่าแล้วก็บิดขี้เกียจเล็กน้อย
"ดูไม่มีอคติเลยนะ นายน่ะ"โรโพล่งขึ้น ลูฟเบือนหน้ามามองคนพูด
"ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก"ลูฟเอ่ยพลางส่ายหน้า "ข้ามีอคติแทบจะกับทุกๆ สิ่ง ตอนนี้มันมีมากจนมากกว่าที่ข้าจะแบกไหว ก็เลยโยนมันทิ้งไปตั้งนานแล้ว"ลูฟว่า โรพยีกหน้าเนิบๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้
“สุดท้ายตอนนี้ก็ไม่มีอัคติอยู่ดี...”
ราตรีการมาเยือน สองร่างบนชายหาด ที่ผลอยหลับไปแล้ว นอนกองขนานกับราวกับ
เทวดาสององค์ถูกปล่อยลงมาจากสวรรค์
ตอนนีน้ลาเซนตรากับเฟรินและเจ้าหญิงวิเวียนรวมไปถึงสามสาวแห่งป้อมอัศวินออกมาเดินเล่นกินลมกันแถวทะเล พวกเธอเดินลัดเลาะไปตามชายหาด แองจี้เดินสลับกระโดดอย่างร่าเริง ก่อนจะก้าวลงไปย่ำเท้าในน้ำตื้น
"บรื๋อ เย็นจัง"เธออุทาน
"แน่นอน ทะเลตอนกลางคืนน่ะ น้ำเย็นจะตายไป ตอนที่ถอนคำสาปของข้า ข้าแทบจะกลายเป็นปฎิมากรรมน้ำแข็งมีชีวิต"ลาเซนตราเสริมขึ้น เมื่อนึกถึงตอนที่ต้องลงไปในทะเลเพื่อแก้คำสาป จนสำลักน้ำทะเลยเข้าไปตั้งหลายอึก
มาทิลด้าที่ยืนอยู่ถึงกับสะดุ้ง เมื่อรู้ถึงความเย็นของน้ำทะเลที่ผู้สาดใส่คือ วิเวียน
"วิเวียนเหรอ ได้เลย นี่แนะ"พูดจบ คนโดนสาดน้ ก็ควักน้ำสาดคืนกลับไปบ้าง จนกลายเป็น 'มหาสงครามสาดน้ำกระจุย!'
"พอเถอะๆ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอานะ มาทิลด้า นี่ก็ดึกมาแล้วด้วย น้ำค้างก็เริ่มลงแล้ว พอเถอะ"เรนอนผู้อ่อนหวานร้องห้ามอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้าวิตก แต่คนอื่นๆ ไม่ได้ฟังกันเลยสักนิดพากันลงไปเล่นกลางทะเลที่ระดับน้ำขึ้นสูงถึงเอวอย่างสนุกสนาน แต่แล้ว...
“นี่ลาซ เธอว่าเฟรินเหมาะกับเจ้าชายคาโลมั้ย”มาทิลหน้าเอ่ยขึ้นมาพลางหัวเราะ
“ไม่เหมาะหรอกใช่ไหมละ? ชัวร์อยู่แล้ว คู่นี่น่ะไม่น่าเชื่อที่สุด”แองจี้เอ่ยขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบกลับ ทำให้ทุกคนเริ่มหยุดคิด เฟรินปาดน้ำที่ใหลเข้าตาออก แล้วมองไปรอบด้านก่อนจะเบิกตากว้างและรีบร้องปรามเพื่อนๆ
"เดี๋ยวๆ หยุดก่อน"เฟรินเอ่ยปราม ทุกคนหันมามองอย่างงุนงง "ลาเซนตรากับวิเวียนหายไปไหน" น้ำคำที่เล่นเอาคนฟังใจหายวูบ พลางหันหน้ามองหาเจ้าของสองชื่ออย่างตกใจ
"ลาเซนตรา วิเวียน อยู่ไหน โผล่ขึ้นมาสิ"แองจี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
"มันไม่ตลกเลยนะ ลาซ วิเวียน!"เฟรินตะโกนลั่น จนสองหนุ่มที่อยู่บนชายฝั่ง ถัดออกไปไม่ใกล ถึงกับสะดุ้งตื่น
"อือ... ลูฟาเอล นายได้ยินเสียงอะไรไหม"โรที่เพิ่งตื่น ยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะหันไปถามคนข้างกายที่เอามือขยี้ตาน้อยๆ
"อืม แต่ข้าฟังไม่ถนัด แต่พนันได้ว่าเป็นเสียงผู้หญิง"คนโดนถามว่าถลางทำสีหน้าครุ่นคิด
"ลาเซนตรา วิเวียน อยู่ไหนกันคะ ไม่เล่นอย่างนี้นะคะ ไม่เอา"เสียงของเรนอนตะโกนขึ้นบางด้วยความตกใจ ทันที่ที่ได้ยินชื่อที่ลั่นออกมาจากปากของเรนอน สองร่างที่เคยอยู่ตรงชายหาด ไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว
"เกิดอะไรขึ้น"โรที่วิ่งตามหลังลูฟมา ตะโกนถามขึ้น สีหน้าดูกังวล
"เมื่อกี้... เมื่อกี้นี้ ยังสาดน้ำด้วยกันอยู่ดีๆ แต่พอมารู้ตัวอีกที วิเวียนกับลาเซนตราก็..."มาทิลด้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
"อะไรนะ!"สองหนุ่มประสานเสียงอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะกระโจนลงไปในทะเลอย่างร้อนรน
ตูม!!
สองร่าง ดำดิ่งลงมาเบื้องล่างของน้ำทะเล รอบหน้ามืดสนิทเพราะเป็นตอนกลางคืน ทำให้ยากต่อการตามหาคนจมน้ำเป็นอย่างมาก และแล้ว...สายตาของลูฟสบเข้าแสงเรืองรองบางอย่าง สว่างมาจากข้างหน้า และเมื่อเพ่งมองอย่างตั้งใจน้อย ก็พบว่ามันคือสาหร่ายเรืองแสงและยิ่งไปกว่านั้น มันกำลังดิงร่างของเจ้าหญิงวิเวียนลงสู่เบืองล่าง! ลูฟรีบกวักมือส่งสัญญาณให้โรหันไปดู และเมื่อเห็นดังนั้น เขาก็ว่ายเข้าที่สาหร่างนั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่นึกถึงชีวิต มือเอื้อมไปกระชาดร่างของน้องสาวตัวเองเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แล้วพุ่งตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ
ซึม!
หัวของโรและวิเวียน ที่โผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำ ทำให้ความกังวลของคนบนชายหาด ลดลงบ้างเล็กน้อย
วิเวียนยังมีสติดี เพียงแค่ขาดอากาสหายใจนานเกินไปเท่านั้น
โรว่ายมาที่ชายฝั่ง ก่อนจะช้อนร่างบางของน้องสาว ขึ้นมานั่งพักบนชายหาด วิเวียนสำลักน้ำน้อยๆ ก่อนจะมองออกไปในทะเล
"ท่านพี่... ลาเซนตรา... เธออยู่ไหน"วิเวียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ซึ่ม!
เสียงน้ำกระเด็นดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่หัวของลูฟ โผล่ขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ
"ลูฟาเอล ลาเซนตรล่ะ!"เฟรินถามขึ้นทันที
ลูฟไม่ตอบอะไร แต่สีหน้าเครยีดจัดของลูฟ ทำให้เธอไม่กล้าถามต่อ ลูฟดำดิ่งลงไปสู่ความมืดมิดข้างล่างนั่นอีกครั้ง เขาว่ายลึกลงไปเรื่อยๆ อย่างกระสับกระส่าย มือคลำสะแปะสะปะไปทั่ว ในความมืดที่เขาไม่รู้ว่าข้างหน้ามันคืออะไร ในหัวคิดอย่างเดียวว่าจะช่วยคนที่ตัวเองหวังจะช่วยอย่างไร ก่อนที่สายตาจะไปสบเข้ากับบางอย่าง
...แสง แสงนั่นอีกแล้ว?...
แสงสีเขียวอ่อน ส่องสว่างน้อยๆ อยู่เบื้องล่าง ลูฟว่ายลงไปใกล้ๆมัน ก่อนจะพบว่า มันนคือสาหร่ายเรืองแสงแบบเดียวกับที่ดึงเจ้าหญิงวิเวียนลงมา
...ทะเลที่เอเธียร่ามีของแบบนี้ได้ยังไง?...
ลูฟคิดอย่างสงสัย ก่อนความคิดนั้นจะถูกสลัดออกไปอย่างง่ายดาย เมื่อนัยน์ตาสีครามสบเข้ากับร่างของคนที่ตัวเองกำลังตามหา ถกพันอยู่กับกองสาหร่าย ซึ่งร่างนั้นไม่ได้มีสติดอยู่กับตัวอีกแล้ว...
ลูฟว่ายเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเอื้อมมือคว้าหมับเข้าที่สาหร่าย แต่ก็ต้องรีบชักมันกลับมา
...หนาม...
ลูฟสรุปในใจแล้วตั้งสติอีกครั้ง
เขาเอามือคว้ามันเป็นครั้งที่สอง แล้วบรรจงแหวกมันออกด้วยมือคู่นั้น เลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นสายจากมือซึ่งโดนหนามที่ทั้งมากทั้งแหลมทิ่มเอาอย่างจัง
...เจ็บ! แต่ก็ต้องทน ไม่งั้น...
สาหร่ายเรืองแสงนั้นตอนนี้ถูกแหวกออกมากว้างพอจะนำร่างนั้นออกมาได้แล้ว ทันทีที่ร่างนั้น หลุดออกจากการถูกพันธนาการ คนตัวสูงก็ออกแรง กระชากร่างบางออกมาแล้วพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างแรง
หัวของลูฟ โผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับร่างของลาเซนตราในอ้อมแขน
เสียงโห่ร้องบ่งของถึงความดีใจของคนบนฝั่ง ประสานเสียงกันเมื่อเห็นร่างสูง รวบร่างบางขึนมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัย
...ปลอดภัย!!!???...
"เฮ่อ ในที่สุดก็ปลอดภัย"เฟรินเอ่ยอย่างโล่งใจ
"ไม่"ลูฟปฎิเสธทันควัน "ไม่ได้มีความปลอดภัยเลยสักนิด"
ร่างสูงบรรจงวางร่างบนลงช้าๆ ก่อนจะตบแก้มเรียวเบาๆ หวังจะเรียกสติ
"ลาซ! ลาซ!"ลูฟเรียก "ลาซ!"พยายามแล้วพยายามอีก แต่ผลก็ยังคงเหมือนเดิม
ร่างตรงหน้ายังคงไร้การตอบสนอง ลูฟช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แล้วเข่าแรงๆ ลาเซนตรายังคงนิ่งเฉย ไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาขึ้นมา ลูฟมองร่างตรงหน้าด้วยสายตาวิตกกังวลอย่างยิ่ง มือใหญ่ลูบขึ้นลูบลงที่แก้มขาวอย่างเป็นห่วง ดวงหน้าหวาน ที่บัดนี้ ซีดเผือก ลูฟกัดฟันกรอด ก่อนจะค่อยๆ โน้มหน้าเข้าไปใกล้
ทุกคนมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ คนตัวสูงประกบริมฝีปากลงบนเรียวปากบาง แล้วทำการผายปอด ร่างสูงกระชับร่างบางเอาไว้แน่น แล้วทำการผายปอดอีกหลายครั้ง ทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ทำได้แต่เพียงรอลุ้นให้ร่างบางลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
"แคกๆๆ"ลาเซนตราสำลักน้ำในปอดออกมา เปลือกตาค่อยๆปรือขึ้น เผยให้เห็นนัยน์ตาสีทองภายใต้นั้น สิ่งแรกที่ได้เห็นคือ ใบหน้าคมคาย ฉายรอยเป็นห่วงชัดเจนของคนผมทอง ที่โอบเธอไว้ในอ้อมแขน "ลูฟ..."เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจนน่าใจหาย
ลูฟยิ้มอย่างโล่งอก ก่อนจะกระชับร่างของเธอเข้าสูงอ้อมแขน แล้วกอดเธอไว้อย่างนั้น
"ข้าอยู่นี่"ลูฟเอ่ย ก่อนจะค่อยๆคลายมือออก แล้วถอดเสื้อของตัวเอง มาคลุมร่างบางเอาไว้ ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นช้าๆ แล้วบรรจงช้อนร่างบางขึ้น "ข้าจะพาลาเซนตราไปพักที่ห้อง"ลูฟว่าก่อนจะสาวเท้าเดินไป
"เราไปด้วย"มาทิลด้าเอ่ย ก่อนจะวิ่งตามไป ส่วนเฟริน เรนอน แองจี้ และวิเวียนเองก็ไม่รอช้า รีบวิ่งตามไปเช่นกันด้วยสีหน้าเป็นห่วง
ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างสูงอุ้มร่างบางที่เตียง ก่อนจะบรรจงว่างร่างนั้นลงช้าๆ แล้วหันไปหา อีกสี่คนที่วิ่งตามมาเมื่อครู่
"ข้าฝากพวกเจ้าเปลี่ยนชุดให้ลาเซนตราด้วยนะ"ลูฟว่า "ข้าจะไปรอข้างนอก"ว่าแล้วก็ก้าวเท้าออกไปจากห้อง
"อืม"มาทิลด้ารับ ก่อนจะสาวเท้าไปที่ร่างของลาเซนตรา
เมื่อเปลี่ยนชุดให้ลาเซนตราเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้ร่างบางนอนอยู่บนเตียงคนเดียว ส่วนตัวเองและคนอื่นๆ เดินออกมาสมทบกับลูฟข้างนอก
ทันทีที่พวกเธอก้าวเท้าออกมาจากห้อง ลูฟก็ถามทันที
"ลาซล่ะ"
"อยู่ในห้อง"เฟรินตอบ
"หลับ?"เขาถามอีก
"เปล่านี่ ก็เห็นนอนเหม่ออยู่เฉยๆ ไม่ได้หลับ"มาทิลด้าว่าบ้าง "จะเข้าไปก็ได้นะ"
"อืม"ลูฟตอบสั้นๆ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปในห้อง
ร่างบางบนเตียง ที่นอนตะแคงข้างอยู่นั้น เมื่อรู้ว่ามีคนเข้ามา ตามสัญชาตญาณ ก็เบือนสายตาไปมองหน้าคนที่เข้ามาในห้อง
ร่างสูงเดินมานั่งบนเตียงข้างๆ เธอ ก่อนจะเอามือปัดปอยผมที่ร่วงลงมาปิดตาออกให้คนตัวเล็ก แล้วเอามันไปทัดที่ข้างหู
"เป็นไงบาง"ลูฟถาม เธอนิ่งไปสักพัก หัวใจยังคงเต้นรัวอันเนื่องมาจากความกลัวในเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงไม่หายไปไหน ภาพตัวเธอที่เกือบจะถูกสาหร่ายเรืองแสงเขมือบเอาเมื่อครู่ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจเธอ ยิ่งเพิ่มความกลัวให้เป็นทวีคูณ ร่างเล็กสั่นเทาน้อยๆ คนตัวสูงขมวดคิ้วมุ่น "หือ? ว่าไง"ลูฟย้ำ
"ก็ดี"ลาเซนตราตอบสั้นๆ โดยไม่หันไปมองคนข้างหลัง
...ปากแข็ง... สั่นขนาดนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าก็ดี...
ลูฟถอนหายใจ ก่อนจะขยับกายเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก แล้วดึงผ้าห่ม ที่ห่มอยู่แค่เอว ขึ้นมาห่มให้จนถึงคอ ลาเซนตรามีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะซุกหน้าลงไปใต้ผ้าห่ม นัยน์ตาสีทองยังไม่ปิดลง เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง ลูฟทำท่าจะดับเทียนแต่ถูกคนตัวเล็ก ปรามไว้
"อย่า"เธอเอ่ย "ไม่ต้องดับ"
ลูฟยิ้มอย่างขำๆ ก่อนจะกลับมานั่นที่เดิม
"หลับตาไปก่อน แล้วข้าค่อยจะดับเทียน ทีนี้ก็ไม่ต้องลืมตาขึ้นมา ข้าจะนั่งอยู่นี่ จนกว่าเจ้าจะหลับ โอเคมั้ย?"ลูฟว่า ลาเซนตราไม่ตอบอะไร แต่ก็หลับตาแต่โดยดี ก่อนจะพลิกตัวหันหน้ามาทางคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างหลัง ลูฟวางมือลงบนมือของเธอ ก่อนจะดับเทียน
ลูฟเริ่มร้องเพลงเดิม ที่เคยร้องให้เธอฟัง ตั้งแต่ครั้งยังเด็ก จวบจนบัดนี้ มันก็ยังตราตรึงอยู่ในใจ เรื่อยมา
ในความมืด...จะมีข้า...ที่เคียงข้าง
ยามอ้างว้าง...จะมีข้า...ให้แลเห็น
ยามทุกข์ทน...จะมีข้า...ดั่งเคยเป็น
ยามยากเข็ญ...จะมีข้า...ไม่ห่างใกล
คือทะเล...แด่ท้องฟ้า...ที่ก้มหน้า
คือจันทรา...คู่อาทิตย์...ไม่หวั่นไหว
คือสายลม...โอบภูผา...คอยห่วงใย
คือดวงไฟ...ในคืนมืด...ให้กับดาว
จะเก็บวัน...เก็บเวลา...ที่เลยผ่าน
ต่อให้กาล...ล่วงเลยจน...พ้นหนุ่มสาว
จะเก็บภาพ...ทุกวานวัน...ของเรื่องราว
ให้ยืนยาว...จนคราวสิ้น...ลมหายใจ
บทเพลงของลูฟ ถูกขับขานไปมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนนัยน์ตาของเธอค่อยๆปิดลง แล้วร่างบาง ก็ผอยหลับไป ในที่สุด...
ความคิดเห็น