ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF]ฉันกำลังท้องงั้นหรอ.....2
ตอนที่ 2
ชองยุนโฮนอนกระวนกระวายใจอยู่ในห้องนอนของตนเอง เมื่อคิดถึงคนรักของตนไม่ได้นอนอยู่ในห้องด้วยเหมือนเมื่อวันก่อน ถ้าเค้าตั้งสติเร็วกว่านี้แจจุงก็คงไม่ต้องงอนเค้าไปนอนบ้านแม่ เค้าก็จะได้กอดแจจุงทั้งคืน แต่นี้เค้าดันตกใจนานไปหน่อยเลยทำให้คนรักของตนหนีไปนอนบ้านแม่ซะงั้น
ตู๊ดๆๆ
(สวัสดีค่ะ คิมซองมี พูดค่ะ)
“คุณแม่คับ แจจุงอยู่ไหมคับ”
(ยุนโฮหรอลูก)
“คับแม่”
(แจจุงนอนหลับแล้วละ แพ้ท้องจนเพลียหลับไปแล้วละจ๊ะ)
“อย่างนั้นหรอคับ แม่คับ ผมจะทำยังไงดีคับ แจจุงเค้าเข้าใจผมผิดนะ”
(อืม ไหนเราลองเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้แม่ฟังหน่อยสิ)
“คับ คืองี้นะคับแม่ ตอนนั้นผมเห็นว่าแจจุงเค้าดูหน้าซีดๆผมก็เลยตามเค้าเข้าไปในห้องแล้วถามเค้าว่าเค้าเป็นอะไร แล้วแจจุงก็บอกกับผมว่าเค้าท้องได้สามเดือนแล้ว ไอตัวผมก็ตกใจไงคับก็เลยถามย้ำออกไปอีกครั้งเพื่อความชัว แต่แจเค้าคิดว่าผมนะไม่เชื่อเค้าแล้วก็วิ่งออกนอกห้องแล้วขับรถออกไปหาแม่อย่างที่เห็นนะแหละคับ”
(อืม คนท้องอารมณ์จะแปรปรวนแบบนี้แหละ ยุนโฮต้องเข้าใจหน่อยนะลูก เอางี้ตอนเช้าของพรุ่งนี้ก็มาหาแจจุงที่บ้านแม่เลยสิลูก แล้วก็บอกแจจุงให้ละเอียดนะลูกว่ายังไง)
“คับแม่ เออ แม่คับผมมีอีกเรื่องที่จะบอกแม่คับ”
(อะไรหรอ)
“ผมจะขอแจจุงแต่งงานคับแม่ แล้วเดี่ยวผมจะโทรหารแม่ของผมด้วย”
(อืม ดีแล้วละ รีบๆแต่งเดี่ยวถ้าแต่งหลังจากนี้คงจะยุ่งแน่ๆ)
“คับ ขอบคุณมากนะคับแม่”
(ไม่เป็นไรจ๊ะ)
“ฝันดีนะคับแม่”
(เช่นกันจ๊ะ)
‘เอาละ พรุ่งนี้ผมจะอธิบายเรื่องราวต่างๆให้แจจุงฟัง และผมจะขอแจจุงแต่งงานคับ’
เช้าตรู่ ชองยุนโฮรีบตื่นตั้งแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสูทเพราะว่าวันนี้เค้าจะไปง้อเมียและเข้าไปหาพ่อและแม่ของตนเพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานระหว่างเค้ากับแจจุง และจะบอกข่าวดีให้พวกท่านได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องที่แจจุงมีหลานไว้ทันใช้ให้พวกท่านแล้ว ถ้าพวกท่านรู้คงจะจัดงานแต่งให้ภายในอาทิตย์นี้เป็นแน่แท้
“เอาละชองยุนโฮ นายต้องสู้ๆ”เมื่อพูดกับตัวเองในกระจกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็รีบหยิบกุญแจรถออดี้สีดำของตนและขับออกไปมุ้งหน้าสู่บ้านของผู้เป็นแม่ยายของตนเองอย่างรวดเร็ว
ทางด้านบ้านของตระกูลปาร์ค
“ชอนนี่ จุนจังอยากกินอะไรที่เปรี้ยวๆอะ”ปาร์คจุนซูเอ่ยบอกกับผู้ที่เป็นสามีของตนอย่างออดอ้อน
“เอาอย่างนั้นหรอคับที่รัก”ผู้เป็นสามีเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็เพราะเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ท้อง จุนจังจะไม่กินเลยกับพวกของเปรี้ยว อย่างพวก มะม่วงเปรี้ยวของไทย ของดองบอกได้คำเดียวว่าของเปรี้ยวไม่มีอยู่ในความคิดของจุนซูเลย
“อืม นะๆชอนนี่บอกให้แม่บ้านออกไปซื้อให้จุนจังหน่อยนะ”ยังออดอ้อนๆผู้เป็นสามีต่อ
“คับๆ ได้คับ ใครอยู่แถวนี้บ้างฮะ”เมื่อได้ยินอย่างนั้นปาร์คยูชอนจึงเรียกสาวใช้ที่อยู่ใกล้ให้เข้ามารับงานที่จะสั่ง
“ค่ะๆ มีอะไรให้ดิฉันรับใช้ค่ะ”
“เดี่ยวเธอช่วยออกไปซื้อของเปรี้ยวมาให้คุณนายเค้าหน่อยนะ เอามาซักสองถึงสามถุงก็พอนะ”
“ได้ค่ะ”
“อะนี่เงิน”
“ค่ะ”เมื่อได้รับงานที่ผู้เป็นเจ้านายสั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาวใช้คนนั้นก็รีบ
“จุนจังอยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กในครรภ์ไหม”
“อืมๆ ชอนนี่อ่านให้ฉันฟังนะ”
“ได้สิคับ”ยูชอนเมื่อได้ยินดังนั้นก็หยิบหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเล็ก การเลี้ยงเด็กอ่อนมาอ่าน
“ลูกเป็นอย่างไร ในแต่ละช่วง
ช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงของการเริ่มต้นสร้างอวัยวะ กล้ามเนื้อต่างๆ และเซลล์ประสาทของลูกน้อย ช่วงนี้คุณแม่จะต้องดูแลเรื่องอาหาร ยา และหลีกเลี่ยงสารพิษ เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 3 ทารกจะมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกที่มากระทบได้แล้ว ลูกจะดิ้นไปมาอยู่ในท้อง แต่แม่จะยัง ไม่ค่อยรู้สึกเพราะขนาดตัวของลูกยังเล็กมาก
ช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงของการเริ่มต้นสร้างอวัยวะ กล้ามเนื้อต่างๆ และเซลล์ประสาทของลูกน้อย ช่วงนี้คุณแม่จะต้องดูแลเรื่องอาหาร ยา และหลีกเลี่ยงสารพิษ เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 3 ทารกจะมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกที่มากระทบได้แล้ว ลูกจะดิ้นไปมาอยู่ในท้อง แต่แม่จะยัง ไม่ค่อยรู้สึกเพราะขนาดตัวของลูกยังเล็กมาก
ช่วง 4-6 เดือนของการตั้งครรภ์ ประสาทสัมผัสทางการได้ยินเริ่มพัฒนา ทารก จะเริ่มได้ยินเสียงหัวใจและเสียงของแม่ จำนวนเซลล์ของระบบประสาทเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทารกเริ่มจดจำเสียงของคุณแม่ได้ และยังมีการเชื่อมต่อระหว่างระบบประสาทกับระบบกล้ามเนื้อ ทารกสามารถเคลื่อนไหวแขนและขาตามจังหวะของ ข้อพับ กำมือ ยืดตัว หรือพลิกตัวได้แล้ว
ช่วง 7-9 เดือนของการตั้งครรภ์ เมื่อลูกรู้สึกว่าภายนอก มีเสียงดัง หรือหากคุณแม่กินอาหารผิดเวลา ลูกจะสื่อความต้องการ หรือตอบโต้ด้วยการดิ้น เตะ ถีบ ระบบประสาทในการมองเห็นพัฒนา รูม่านตาจะเริ่มขยายหรือหรี่ได้ แม้จะอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ทารกก็สามารถรับรู้ต่อแสง ความมืด ความสว่างได้ และสมองของทารกช่วงนี้ เป็นระยะที่มีการขยายตัวของเซลล์และรอยหยักมากขึ้น เด็กจะมีความจำมากขึ้นส่งเสริม 4 พัฒนาการให้ลูกในท้อง
ช่วง 7-9 เดือนของการตั้งครรภ์ เมื่อลูกรู้สึกว่าภายนอก มีเสียงดัง หรือหากคุณแม่กินอาหารผิดเวลา ลูกจะสื่อความต้องการ หรือตอบโต้ด้วยการดิ้น เตะ ถีบ ระบบประสาทในการมองเห็นพัฒนา รูม่านตาจะเริ่มขยายหรือหรี่ได้ แม้จะอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ทารกก็สามารถรับรู้ต่อแสง ความมืด ความสว่างได้ และสมองของทารกช่วงนี้ เป็นระยะที่มีการขยายตัวของเซลล์และรอยหยักมากขึ้น เด็กจะมีความจำมากขึ้นส่งเสริม 4 พัฒนาการให้ลูกในท้อง
ขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ ระบบประสาทส่วนต่างๆ ของลูกเริ่มทำงาน สามารถรับรู้และตอบสนองกับสิ่งกระตุ้นจากภายนอกท้องแม่ได้ โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ 4 เดือนไปแล้ว คุณแม่และคุณพ่อจึงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ ดังนี้
1. ด้าน อารมณ์
คุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอจะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ) ในทางตรงกันข้าม คนที่มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย จะทำให้ลูกคลอดออกมาเป็นเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า ดังนั้นระหว่างตั้งครรภ์ควรปรับอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ ไม่เครียด อาจฟังเพลงหรืออ่านหนังสือเพื่อช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์
คุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอจะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ) ในทางตรงกันข้าม คนที่มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย จะทำให้ลูกคลอดออกมาเป็นเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า ดังนั้นระหว่างตั้งครรภ์ควรปรับอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ ไม่เครียด อาจฟังเพลงหรืออ่านหนังสือเพื่อช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์
2. ด้าน การมอง
ออกไปยืนรับแสงแดดอ่อนๆ นอกบ้านช่วงเช้าหรือบ่าย ควรเลือกแสงที่มีความสว่างไม่จ้าจนเกินไป นอกจากนี้ การใช้ไฟฉายส่องที่หน้าท้องก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและ การมองเห็นของทารกมีพัฒนาการดีขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับการ มองเห็นภายหลังคลอด
ออกไปยืนรับแสงแดดอ่อนๆ นอกบ้านช่วงเช้าหรือบ่าย ควรเลือกแสงที่มีความสว่างไม่จ้าจนเกินไป นอกจากนี้ การใช้ไฟฉายส่องที่หน้าท้องก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและ การมองเห็นของทารกมีพัฒนาการดีขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับการ มองเห็นภายหลังคลอด
3. ด้าน การได้ยิน
หมั่นพูดคุยกับลูกในท้องบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ใช้ประโยคซ้ำๆ เพื่อให้ลูกคุ้นเคย จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด นอกจากนี้ การร้องหรือเปิดเพลงให้ลูกฟังบ่อยๆ โดยเฉพาะเพลง ที่มีความไพเราะและคุณแม่ชอบฟัง ซึ่งการใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้ การได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น ช่วงเวลาที่เหมาะในการฟังเพลง ควรเป็นช่วงหลังมื้ออาหาร เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกตื่นตัวมากที่สุด ควรเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณเพื่อลูกในท้องจะได้ฟังเสียงเพลงไปด้วย คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินมีการพัฒนาระบบการทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้เมื่อลูกคลอดออกมาจะมีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง รู้สึกผ่อนคลาย และจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดี
4. ด้าน การสัมผัส
การลูบไล้หน้าท้องบ่อยๆ จะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น คุณแม่ควรลูบหน้าท้องเป็นวงกลมจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน บริเวณไหนก่อนก็ได้ โดยขณะที่สัมผัสอาจร้องเพลงหรือพูดคุย ไปด้วย ยิ่งถ้าทำในช่วงเวลาเดิมเป็นประจำจะรู้สึกได้ว่าเมื่อถึงช่วงเวลานั้น ลูกจะดิ้นรออยู่แล้ว นอกจากการลูบไล้หน้าท้องแล้วการออกกำลังกายเบาๆ หรือการเดินเล่น จะทำให้ลูกในท้องมีการเคลื่อนไหว ตามไปด้วย และผิวกายของลูกจะไปกระแทกกับผนังด้านในของมดลูก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของลูกให้พัฒนาได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง”
หมั่นพูดคุยกับลูกในท้องบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ใช้ประโยคซ้ำๆ เพื่อให้ลูกคุ้นเคย จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด นอกจากนี้ การร้องหรือเปิดเพลงให้ลูกฟังบ่อยๆ โดยเฉพาะเพลง ที่มีความไพเราะและคุณแม่ชอบฟัง ซึ่งการใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้ การได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น ช่วงเวลาที่เหมาะในการฟังเพลง ควรเป็นช่วงหลังมื้ออาหาร เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกตื่นตัวมากที่สุด ควรเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณเพื่อลูกในท้องจะได้ฟังเสียงเพลงไปด้วย คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินมีการพัฒนาระบบการทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้เมื่อลูกคลอดออกมาจะมีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง รู้สึกผ่อนคลาย และจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดี
4. ด้าน การสัมผัส
การลูบไล้หน้าท้องบ่อยๆ จะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น คุณแม่ควรลูบหน้าท้องเป็นวงกลมจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน บริเวณไหนก่อนก็ได้ โดยขณะที่สัมผัสอาจร้องเพลงหรือพูดคุย ไปด้วย ยิ่งถ้าทำในช่วงเวลาเดิมเป็นประจำจะรู้สึกได้ว่าเมื่อถึงช่วงเวลานั้น ลูกจะดิ้นรออยู่แล้ว นอกจากการลูบไล้หน้าท้องแล้วการออกกำลังกายเบาๆ หรือการเดินเล่น จะทำให้ลูกในท้องมีการเคลื่อนไหว ตามไปด้วย และผิวกายของลูกจะไปกระแทกกับผนังด้านในของมดลูก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของลูกให้พัฒนาได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง”
“เป็นอย่างนี้หรอ อ่า ฉันจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเลยละ”
“คับคนดี”
“ชอนนี่เมื่อวานคุยอะไรกับยุนโฮเค้าบ้างหรอ”
“อ่า ผมลืมบอกคุณไม่เลย แจจุงเค้าท้องแล้วนะ”
“จริงหรอ กี่เดือนแล้วๆ”
“ก็ 3 เดือนแล้วละคับ แต่ทะเลาะกับไอยุนมันซะงั้นอะ”
“ทะเลาะกันเรื่องอะไรหรอ”
“ก็ไอยุนมันตกใจไงแล้วแบบตั้งสติยังไม่ทัน แล้วแจจุงเค้านึกว่าไอยุนมันไม่เชื่อนะคับ ก็เลยวิ่งหนีออกจากบ้านขับรถออกไปเลย”
“อ่า อืมๆคนกำลังท้องอารมณ์จะแปรปรวนบ่อย แม่จุนจังบอกมาอย่างนี้อะ”
“คับ ผมว่าจุนจังนอนพักผ่อนดีกว่านะ แล้วตื่นมาก็จะได้ทานข้าวนะคับ”
“อืม”
เมื่อได้ยินที่คนรักของตนพูด ร่างบางก็ได้ซบลงตรงตักของร่างสูงโดยทันทีก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนและเข้าสู่ห้วงนิทราไปโดยปริยาย ร่างสูงเห็นว่าร่างของคนรักหลับแล้วจึงเก็บหนังสือไว้ที่เดิมก่อนจะลูบผมของคนรักอย่างถนุถนอม
ทางด้านชองยุนโฮ ที่ตอนนี้ขับรถมาถึงบ้านของแม่แจจุงเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินกระวนกระวายใจอยู่หน้าบ้าน
ติ๋งต๋องๆ
“มาแล้วๆ”เสียงใส่ที่บอกได้ว่าคนที่มาเปิดประตูให้นั้นเป็นใครนั้นก็คือ คิมแจจุง แฟนสุดสวยของชองยุนโฮนะเอง ยุนโฮเมื่อได้ยินเสียงของคนรักของตนก็รีบเดินมาตรงประตูหน้าบ้านโดยทันทีที่กดเสียงกริ้ง
“แจจุง”
“ยุนโฮ”เมื่อเห็นดังนั้น แจจุงก็รีบจะปิดประตูบ้านโดยทันที แต่ก็ปิดไม่ทันร่างสูงรีบตรงเข้าไปในบ้านโดยทันทีก่อนจะรวบร่างของคนรักเข้ามากอดอย่างแนบแน่น
“แจจุง ฟังผมก่อนนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อคุณ แต่ผมแค่ตกใจนิดหน่อย ผมดีใจนะที่คุณท้องและผมก็กำลังจะเป็นพ่อคน แจจุงผมรักคุณนะ”ยุนโฮอธิบายให้คนรักของตนเองจบก็ได้จับหน้าของคนรักให้หันมามองหน้าของตนเองและกดจูบที่นุ่มนวลลงบนปากอมชมพูของคนรักของตน ร่างบางเห็นดังนั้นก็ตอบรับรสจูบที่ตนเองได้รับมาอย่างนุ่มนวลเช่นกัน ผู้เป็นแม่ที่ยืนดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นยืนยิ้มกับเหตุการณ์ที่จบอย่างแฮปปี้ด้วยท่าทางมีความสุข
“อืม”ร่างบางเอ่ยทักท้วงในลำคอบงบอกให้ร่างสูงรับรู้ว่าตนเองหายใจไม่ออก ร่างสูงเมื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนจูบนั้นออกอย่างช้าๆ ร่างบางตรงหน้าได้แต่ยืนหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศอยู่อย่างนั้น
“แจจุง แต่งงานกันนะ”ชองยุนโฮ เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นและกำลังรอคำตกลงจากร่างบางตรงหน้า
“ไม่” ร่างบางพูดออกมา แต่แอบยิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อร่างสูงได้ยินดังนั้นก็หุบยิ้มโดยทันทีและทำสีหน้าเศร้าส้อย
“อืม ผมเข้าใจแล้วละ”
“เดี่ยวสิ นายยังฟังไม่จบเลยนะยุนโฮ”
“ผมเข้าใจแล้ว”
“ฉันจะบอกนายว่า ไม่ปฎิเสธ นายได้ยินไหม ฉันจะแต่งงานกับนาย เจ้าหมีอ้วน”ร่างบางเอ่ยกับร่างของคนรักของตนก่อนจะกอดร่างของคนรักของตนไว้อย่างแนบแน่น
“จริงนะ คุณจะแต่งงานกับผมจริงๆนะ”เมื่อหลุดจากความตกใจแล้ว ชองยุนโฮได้แต่ถามร่างของคนรักซ้ำไปซ้ำมา
“ก็จริงนะสิ แม่ฉันเป็นพยานให้นะ จริงไหมฮะแม่”
“จ๊ะ แต่งวันไหนบอกแม่ด้วย แม่จะได้ไปช่วยงาน ^^”
“ขอบคุณคับแม่ ขอบคุณนะที่รักของผม”
“อืม ขอบคุณที่นายรักคนอย่างฉันนะยุนโฮ”
“^^”
“แล้วบอกกับทางพ่อแม่เราหรือยังละ ยุนโฮ”
“ผมยังไม่ได้บอกเลยคับ แต่เดี่ยวจะไปบอกแล้วละคับ”
“จ๊ะ งั้นไปบอกท่านก่อนเถอะนะ”
“คับแม่ แจจุงไปหาพ่อกับแม่ฉันกัน”
“อืม แม่ฮะผมไปก่อนนะฮะ”
“จ๊ะ”
“สวัสดีคับคุณแม่”
“จ้า ยุนโฮขับรถดีๆนะ”
“คับผม”
“^^”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น