ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Watnetus ดินแดนแห่งมนตรา

    ลำดับตอนที่ #3 : ระวัง!!

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 59


    CR.SHL

           "พี่ยืมหนังสือเล่มนี้นะ"ชายหนุ่มพูดกับสาวบรรณารักษ์ก่อนจะยื่นหนังสือปรัมปรานั่นให้หญิงสาว

           "ท็อปชั้นอย่างพี่สนใจหนังสือเล่มนี้หรอคะ"หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางหยิบหนังสือจากมือชายหนุ่มก่อนจะทำตามหน้าที่บรรณารักษ์อย่างเสร็จสรรพแต่ก็ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจจากชายหนุ่มตอบกลับมาเท่านั้น

           "แก้เครียด"หลังจากได้หนังสือมาครอบครองแล้วชายหนุ่มก็ปริยิ้มแต่ก็ไม่ลืมคำถามจากหญิงสาวบรรณารักษ์แต่ด้วยคำถามที่ทำให้เขาเซได้นั้นอาจจะใช้เวลานานในการคิดสำหรับชายหนุ่ม

           "พี่คะ"หญิงสาวตะโกนจนสุดเสียงทำให้เจ้าของนัยต์ตาสีครามน้ำทะเลหันมาอย่างตกใจ

           "ถ้าพี่อยากได้ไปเลยหรือไม่อยากคืนเดียวหนูจะลบประวัติออกให้ดีไหมคะ"หญิงสาวไม่รอคำขานรับจากรุ่นพี่ก็รีบแทรกขึ้นอย่างทันควันแต่ก็มีเพียงความเงียบเช่นเคย

          "ไว้พี่จะมาคืน"แม้จะตอบรับอย่างเชื่องช้าแต่กลับไม่หันมาสบตากับคำถามเลยชายหนุ่มผู้มีจิตใจเย็นอย่างน้ำแข็งอาจจะไม่ใช่เพียงจิตใจเท่านั้นสิ่ง

    ที่เป็นน้ำแข็งอาจเป็นทั้งร่างกายของเขาเลยก็ว่าได้

          "3วัน...ถ้าพี่ไม่กลับมาที่นี่ประวัติหนังสือเล่มนั้นจะถูกลบออกพี่โอเคใช่ไหม" ไม่มีเสียงตอบรับกับท่าทางของชายหนุ่มที่ชูหนังสือขึ้นเหนือหัวเล็กน้อยก่อนจะส่ายไปมาช้าๆแสดงถึงคำบอกลาและคำดูถูกก่อนจะย่างก้าวออกไปอย่างไม่เร่งรีบ

          "คอยดูเถอะจะคืนไม่คืน ชิ!"

    ________________________________________________________

          'เวท์นีตัสถูกปิดกั้นทันทีหลังจากสิ้นเสียงของพระชายาเทพเจ้าซัสนักเวทย์ผู้สูญเสียต่างเสียหยาดเหงื่อและหยาดน้ำตาร่วงลงสู่พื้นมากมายจึงกำเนิดแผ่นดินใหม่มากมายขึ้นและผู้ปกครองดินแดนสูงสุดของทั้งดินแดนเวทย์ตอนนั้นกลับสิ้นกำลังใจทำให้สละตำแหน่งให้เด็กชายคนหนึ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นด้วยความเชื่อที่ว่า 'เจ้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างแน่นอน' แต่เมื่อมีบุคคลเห็นด้วยย่อมเกิดเสียงต่างออกไปจากเหล่า นิระ* ขึ้นแต่เมื่อท่านตัดสิ้นใจแล้วย่อมเป็นอันสิ้นสุดทันทีและชื่อของเด' 

    (นิระ บุคคลชั้นกลางในดินแดน)

          "หน้านี้หายไปไหนตั้งซีกนีงเนี่ย"ชายหนุ่มอ่านต่อจากที่อ่านไปเมื่อพักเที่ยงแต่เมื่อเริ่มอ่านได้สักพักกับรู้สึกได้ว่าหนังสือหน้านี้มีชิ้นส่วนกระดาษไม่ครบและเมื่อเปิดไปหน้าถัดไปกลับขึ้นเรื่องใหม่ทันทีทำให้ไม่สามารถอ่านตอนจบของหน้านี้ได้

          "ชาติหน้าจะถึงไหมครับคุณชายรู้แล้วว่าหล่อครับเลิกเก๊กได้แล้ว"เพื่อนชายที่แสนสนิทพูดขึ้นอย่างประชดประชันพลางชายตามองเพื่อนของตนอย่างตัดพ้อ

          "อย่างกับตัวเองไม่เก๊กมือนะใส่กระเป๋าไว้ทำไมขานะยืนดีๆ"หัวหน้าห้องสาวได้แต่จิกกัดชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆพลางตีที่ขาด้วยความหมั่นไส้

          "ครับ"ผู้ถูกกล่าวในประโยคได้แต่ตอบสั้นๆด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเก็บหนังสือลงในกระเป๋าเคียงเพื่อหลบสายตาของเพื่อนทั้งสอง

          "เบื่อโว๊ยยย ไม่เถียงแล้ว"ชายหนุ่มสิ้นสุดหนทางในการต่อกรจึงตัดพ้อออกมาทันที

          "กลับกันเถอะฉันก็เหนื่อยม๊ากกกกับนาย!"หญิงสาวก็ไม่แคร์คำพูดใครทั้งนั้นก่อนจะเดินออกไปอย่างประชดประชันตามชายหนุ่มในบทสนทนาไป

          "รอใครจุดธูปครับไอคุณชายเดินมาสักทีครับ"แต่ยังไม่เลิกเหน็บแหนมชายหนุ่มก็ดันทุรังในการพูดต่อทำให้มาติณรีบเดินอย่างไม่รีรอ

    ----------------------------------------------------------------------------------

          "คิดว่าไงคับแม่นม"หลังจากชายหนุ่มกลับถึงบ้านก็รีบขึ้นห้องอย่างไม่รีรอทำให้แม่นมที่ดูแลมาติณตั้งแต่ยังเป็นเด็กเกิดความกังวลเพราะตั้งแต่คุณชายของเขามาถึงก็ไม่ออกมาจากห้องเลยแต่ด้วยความที่หญิงชรารู้นิสัยเขายิ่งกว่าใครจึงขึ้นมาด้วยความห่วงใยแต่ดันมาพบมาติณอยู่กับหนังสือเล่มเก่าและชำรุดอย่างมากแต่ก็ไม่เอะใจถามทำให้มาติณที่หาคนปรึกษาอยู่นั้นเกิดความคิดดีๆในการเล่าให้แม่นมฟัง

         แต่เริ่มเล่าได้ครู่นึงแม่นมก็ต้องตกใจและตอบคำถามแบบกระอักกระอวนทำให้มาติณที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นรีบถามด้วยความห่วงใย

          "แม่นมเป็นอะไรรึเปล่าครับ"

          "ไม่นิจ้ะ....แม่นมว่าคุณชายเอาหนังสือนี้ไปคืนเถอะคะมันไม่เหมาะกับคุณเลยรู้ไหมคะ"หญิงชรารีบปัดป้องมือมาติณออกจากตนก่อนจะแสดงอาการอ้อมค้อมให้เอาหนังสือนี่ออกไปให้พ้นตัวแต่ชายหนุ่มก็ไม่เอะใจคนที่เปรียบเสมือนแม่ของเขา

         "ผมอ่านจบก็จะเอาไปคืนแล้วละครับแม่นมก็จะไม่เห็นมันอีกแล้ว"ชายหนุ่มมองหนังสือบนโต๊ะเขียนหนังสือของเขาด้วยสายตาละห้อย

         "แม่นมว่ารีบอ่านให้จบเถอะคะแม่นมเห็นมันมานานเกินไปแล้ว"หญิงชราชายตามองหนังสือปรัมปราด้วยสีหน้าไม่พอใจ

         "นานหรอครับเมื่อครู่เองนะ"แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มสงสัยในคำพูดเพราะที่เขาจำได้แม่นมพึ่งเห็นไปเมื่อสิบหานาทีเองด้วยซ้ำ

        "อ่อ....เอ่อ...มันนานสำหรับแม่นมมากนะคะแม่นมแก่แล้วเลยรู้สึกว่าทุกอย่างยาวนานไปหมดเลย"หญิงชราตอบด้วยความตกใจสายตาวอกแวก

        "แม่นมไม่ได้โกหกใช่ไหมครับ"ชายหนุ่มเอียงคอพร้อมสายตาจริงจังทำให้หญิงสาวก้มหน้ามองพิ้นที่ปูด้วยพรมอย่างเกรงกลัว

        "ช่างเถอะครับออกไปได้แล้ว"ชายหนุ่มทนความเงียบไม่ไหวก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่ระเบียง

        "แต่ว่าแม่นม..."แต่แค่เพียงชายหนุ่มขยับขาเพียงเล็กน้อยก็ได้ยินเสียงอ้อนวอนที่แหบพล่าเรียกให้ตนสนใจ

        "ออกไปครับ"ชายหนุ่มผู้หนักแน่นเอ่ยย้ำอีกครั้งทำให้หญิงชราลุกจากพื้นออกจากห้องไปก่อนที่ตนจะเดินถึงหน้าระเบียงเพื่อรับลมและอากาศบริสุทธิ์

        "ระวังไว้นะคะ"หญิงชราทิ้งความสงสัยไว้มากมายก่อนจะเดินออกไปแต่มาติณก็ไม่ใส่ใจในคำพูดแถมยังมีแต่ความขุ่นมัวในใจเต็มไปหมด

        "เราเป็นอะไรเนี้ย"มีเพียงเสียงตัดพ้อที่พูดออกมาจากร่างก่อนจะปลิวไปตามสายลม

        "เป็นคนที่ช่วยเราได้ไงครับ" ?

                ตึ้ก...

        "โอ้ยยยยย"เสียงความเจ็บปวดจากร่างชายหนุ่มหลังจากถูกไม้กระทบเข้าที่ต้นคอด้านหลัง

        "นายทำแรงไปไหมท่านเจ็บ"เสียงเด็กสาวที่แหลมและเล็กกระทบกับหูของมาติณอย่างช้าๆก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลง

        "ช่วยไม่ได้มันสมควร" ?


    มาแย้วครึ่งหลังรอนานไหม ฮาาาา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×