ใครจะชนะ - ใครจะชนะ นิยาย ใครจะชนะ : Dek-D.com - Writer

    ใครจะชนะ

    เชื่อไหมว่า.. คนทำดีในปัจจุบันนี้ มีอำนาจต่อรองในสังคมน้อย

    ผู้เข้าชมรวม

    453

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    453

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 มี.ค. 50 / 19:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ใครจะชนะ

      เชื่อไหมว่า.. คนทำดีในปัจจุบันนี้ มีอำนาจต่อรองในสังคมน้อย…

      • ในยามที่เรายืนอยู่กลางทุ่งกว้าง ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์ เราจะปลอดโปร่ง หายใจได้คล่อง แต่ถ้าหากมีกลุ่มควันอันเกิดจากเผาขยะลอยมาขับไล่อากาศอันบริสุทธิ์นั้นไป แล้วแผ่ขยายเข้าไปปกคลุมพื้นที่นั้นแทน ย่อมทำให้เรารู้สึกอึกอัด หายใจติดขัดจนแทบกระอักกระอ่วนไปหมด เหตุการณ์เช่นนี้คงไม่ต่างกับกระแสบาปที่มีพลังมากมาผลักดันกระแสบุญออกไปจากใจ ความเป็นสิริมงคลและความเจริญในชีวิตก็พลอยมลายสิ้นไปด้วย แถมความชั่วร้ายต่างๆ ก็ยังเข้ามาแทนที่อีก…

      ชายคนหนึ่งทำความดีมาค่อนชีวิต แต่เขาต้องพบกับความหายนะต่าง ๆ ที่พัดกระหน่ำโหมชีวิดแทบปางตาย ด้วยเหตุเพราะกระแสบุญบาปที่เคยทำไว้ในอดีต ที่มันมีพลังเชี่ยวกรากรุนแรงยิ่งกว่ากระแสบุญที่มีอยู่…

      • ในจิตใจของมนุษย์มีพลังงาน 3 อย่างได้แก่

      • พลังแห่งกุศลธรรม (กระแสบุญ)
      • พลังแห่งอัพยากฤต (กระแสเป็นกลาง) และ
      • พลังแห่งอกุศลธรรม (กระแสบาป)

      ต่างก็คอยแย่งชิงเข้าครอบครองจิตใจมนุษย์อยู่ตลอดเวลา มนุษย์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันถูกพลังแห่งอกุศลธรรมครอบคลุมจิตใจมากขึ้น คนใจบาปจึงมีมากตาม

      ธรรมะย่อมชนะอธรรมจะเป็นจริงได้อย่างไร ถ้าหากฝ่ายธรรมะมีกำลังน้อย การพ่ายแพ้แก่อธรรม ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้สูงเหมือนน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ..

      • จริงอยู่บุญนั้นอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คอยส่งเสริม สนับสนุนให้เรามีสมบัติอันเป็นโลกิยะ (อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข) และโลกุตระ (มรรค ผล นิพพาน) เมื่อใดถ้ากระแสบุญมีพลังน้อย เราจะเอาพลังงานจากไหนมาผลักดันและเอาชนะกระแสบาปได้ สมบัติต่างๆ ที่เราปรารถนาจะมีมาอย่างไร ด้วยเหตุนี้เอง พระบรมศาสดาทรงตรัสสอนให้หมั่นทำบุญบ่อยๆ แม้เพียงเล็กน้อย เหมือนตุ่มน้ำย่อมเต็มด้วยการตกลงของหยดน้ำทีละหยดฉันนั้น…
      สามเณรติสสะ ศิษย์ของพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรอายุเพียง ๗ ขวบ

      บวชวันแรกก็ออกบิณฑบาตได้ของมาต้องพันอย่าง
      ผ้านุ่งห่มตั้งพันผืนภายในวันเดียว เพราะใครเห็น ใครก็รัก เนื่องจากบุญเก่าที่ทำมาดี จึงมีพลังมากได้ตามมาส่งผล หรือในช่วงฤดูหนาว ภิกษุทั้งหลายไม่มีผ้าขนสัตว์ห่ม สามเณรเข้าไปในเมืองก็สามารถบอกบุญผ้าขนสัตว์ซึ่งหาได้ยาก

      สามารถนำมาถวายแด่พระภิกษุได้ภายในวันเดียว ดังตัวอย่างมีพ่อค้าคนหนึ่งถูกความตระหนี่ครอบงำจิต เพราะถูกคนใจบาปชี้นำและพูดขัดขวางชวนให้เลิกถวายและให้นำผ้าไปซ่อนเสีย ด้วยเกรงว่าสามเณรจะมาขอบริจาค แต่ครั้นเมื่อได้เห็นสามเณร ก็กลับเปลี่ยนใจถวายผ้าราคาตั้งแสน จำนวน ๒ ผืน ทั้งๆ ที่สามเณรยังไม่ได้พูดอะไร

      • ขณะเดียวกันพ่อค้าคนนั้นยังกล่าวด้วยความปิติอีกว่า… เมื่อได้เห็นสามเณร อย่าว่าแต่ผ้าราคาตั้งแสนเลย แม้ดวงหทัยของเรา เราก็พร้อมจะควักสละให้ได้… นี่ก็เป็นเพราะกระแสบุญที่มีพลังมากกว่ากระแสบาปนั่นเอง…

      กระแสบุญจะชนะกระแสบาปได้นั้นต้องสร้างคนดี คนมีบุญให้เกิดขึ้นในโลกให้มากที่สุด …

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×