ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [B.A.P] อยากให้รักตายไปจากใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : + [Intro] + (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 56


    "บางครั้ง ในวันที่ฝนพรำ... มักจะทำให้้ผมคิดถึงคนๆหนึ่งเสมอ...
    ผมทิ้งตัวอย่างเหนื่อยล้าลงบนเก้าอี้นวมสีดำในห้องพักสีทะมึน
    ฝนที่ตกลงมาไม่เป็นสายพาลให้ใจของผมหนาวเหน็บไปด้วย
    แก้วกาแฟที่วางอยู่ตรงหน้าบนโต๊ะไม้สีเบจคอยเตือนความทรงจำที่ผมเคยมีร่วมกับเธอคนนั้นเสมอ

    ...มันยังคงอุ่นอยู่...

    ณ เวลานี้ ผมไม่กล้าแม้แต่จะยกมันขึ้นมาดื่ม เพราะกลัวว่า กลิ่นอายที่ผมคุ้นเคย อาจจะหายไป...

    เธอคนนั้นของผม... อยู่ที่ไหนกันนะ..." --บังยงกุก

    "แฮ่กๆ" เสียงหายใจหอบถี่ของคิมฮิมชาน ชายหนุ่มหน้าหวานที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนดังขึ้นไม่เป็นจังหวะพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังหาที่หลบฝนมาได้สักพักหนึ่งจนกระทั่งมาหยุดที่ป้ายรถเมล์ข้างๆชายหนุ่มอีกคนที่ถือร่มสีดำเอาไว้ในมือ

    "ฉันบอกนายแล้วว่าให้รีบกลับบ้าน" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบาๆข้างหูคนที่กำลังยืนหอบอยู่ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายทยอยกลับบ้านกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

    "แล้วนายล่ะ มายืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้" ฮิมชานเอนพิงกำแพงอิฐอย่างเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่วายส่งคำประชดมาให้

    "ถามอะไรไม่สมกับเป็นนายเลย" เจ้าของเสียงทุ้มยิ้มอย่างพอใจราวกับว่าเขารู้นิสัยของฮิมชานดี

    "ก็ใครที่บอกว่าจะไม่โผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก" ฮิมชานทอดสายตาออกไปไกลแสนไกลไม่ยอมสบตา น้ำเสียงของเขาแสดงออกเลยว่ากำลังโกรธอยู่

    เจ้าของเสียงทุ้มนั้นไม่พูดอะไร เพียงแต่กางร่มแล้วหันมาหาคนที่ยังคงยืนหอบอยู่ ผมสั้นของเขาเปียกปอน ส่วนชุดลำลองสีดำก็ชุ่มไปด้วยน้ำฝน แม้เขาจะยังมีแรงมาต่อกรกับเจ้าของเสียงทุ้ม แต่แววตาของเขานั้นไม่ใช่เลย ริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพูเช่นดอกกุหลาบซีดลงอย่างเห็นได้ชัด บวกกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว... กำลังไม่สบายอยู่สินะ...

    "กลับบ้านกัน" ไม่รอช้าคว้าข้อมือของคิมฮิมชานไว้แน่นแล้วออกเดินไปนอกชายคา

    "ฉันกลับเองได้น่า เลิกยุ่งกับฉันซะทียงกุก" ฮิมชานพยายามสะบัดแขนของเขาออกแต่ก็แพ้แรงของเจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยขึ้นเมื่อครู่ ยงกุกได้แต่ส่ายหน้า

    "หน้าซีดเป็นเผือกอย่างงี้จะให้ฉันปล่อยนายโหนรถเมล์กลับบ้านเองคนเดียวรึไง ตามฉันมา"

    "นายเป็นคนที่กรมตำรวจต้องการตัวมากที่สุดตอนนี้ ถ้านายไม่ปล่อย ฉันยิงแน่..." 

    สิ้นเสียงของฮิมชาน ยงกุกได้แต่ชงัก เลิกคิ้วใส่คนข้างหลังที่ชักปืนขึ้นมาจ่อตรงหน้าด้วยมืออีกข้าง

    "อยากยิงก็ยิงสิ..." เขายิ้มให้เธอบางๆ ก่อนจะเริ่มก้าวฝ่าสายฝนไปข้างหน้าพร้อมกับบีบข้อมือของอีกคนไว้แน่นเพื่อให้เธอเดินไปด้วยกัน "ฉันรู้ว่ายังไงๆ นายก็ไม่มีทางยิงฉัน ต่อให้ฉันเลวแค่ไหน..."

    ยงกุกยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่หันกลับมาสนใจฮิมชานที่กำลังสั่นเทาด้วยความหนาวของสายฝนโปรยปราย มือข้างที่ถือปืนนั้นเริ่มสั่นขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้ก็รื้นออกมา ก่อนที่เสียงปืนจะดังสนั่นไปทั่วบริเวณ


    - - - - - - - - - - - - - - BangChan

    "แสงแดดยามเช้าสาดทอเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ ปลุกให้ผมตื่นจากฝัน ตื่นขึ้นมาด้วยความหวังว่าจะได้พบเธอคนนั้นกำลังนอนกอดกัน...
    กลิ่นเส้นผมของเธอยังคงตราตรึงอยู่ในหมอนสีขาวใบเดิม
    รอยยิ้มขี้เล่นของเธอผุดขึ้นมาตรงหน้าพร้อมกับร่างเล็กๆที่โอบกอดผมไว้
    แก้มนุ่มๆของเธอที่ซุกอยู่ในอกของผม...

    ...ผมไม่เคยลืม...

    สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ก็คือการฝังใบหน้างี่เง่าของตัวเองลงไปในหมอนใบนั้น เผื่อว่าผมจะได้กลับไปฝันอีกครั้ง

    เผื่อว่าเธอคนนั้นจะไม่จากผมไป... เหมือนในตอนนี้..." --ชองแดฮยอน

    ปํง! ปัง! ปัง! กระสุนแต่ละนัดถูกยิงออกมาจากปืนสั้น ขวดแก้วถูกวางเรียงรางไว้อย่างเป็นระเบียบแตกกระจายไม่มีชิ้นดี มือเล็กๆนั้นเหนี่ยวไกปืนไว้มั่น สายตาอันคมกริบจับจ้องไปที่ขวดแก้วขวดสุดท้าย นัดนี้ จะพลาดไม่ได้

    กริ๊ก! ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียงสัญญาณจากกระบอกปืนว่าลูกกระสุนหมด คนแก้มยุ้ยขมวดคิ้ว เตรียมตัวจะหันไปว้ากชายหนุ่มหน้ามนที่นั่งดูอยู่ข้างหลัง แต่ยังไม่ทันจะหันไปก็มีอ้อมแขนเข้ามาโอบเอวเอาไว้เสียก่อน

    "เมียจ๋า~~~" คำหวานถูกกระซิบข้างหู ใบหน้าหล่อๆเกยคางไว้บนไหล่ แล้วส่งสายตาออดอ้อน นายรู้ตัวใช่ไหมว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

    "ไม่ต้องมาพูดเลยเมียจ๋งเมียจ๋า นี่นายใส่กระสุนให้ฉันไม่ครบใช่มั้ยฮะ!" ลูกอ้อนไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ

    "เปล่าซะหน่อย ก็ใส่ให้ครบแล้วน้า" ชายหนุ่มยิ้มหวาน ยิ่งกอดคนตัวเล็กแน่น 

    "ขี้จุ๊เบ่เบ๋" เธอเบ้ปากใส่เขา

    "ไม่ได้ขี้จุ๊ แต่จะจุ๊บ มั้วะ!" พูดไม่ทันจบ คนขี้เล่นก็หอมเข้าที่แก้มนุ่มๆนั้นฟอดใหญ่

    "ชองแดฮยอน!" เธอดิ้นและขึงตาใส่คนเพิ่งฉวยโอกาสทองไปเมื่อสักครู่นี้ แต่สุดท้ายก็สู้แรงแดฮยอนไม่ได้

    "อะไรจ๊ะ ยูยองแจ โอ๊ะ! ไม่สิ ต้อง ชองยองแจ คึคึ" 

    "ไม่เห็นจะเข้ากันเลยเหอะ" ใบหน้าของยองแจแดงก่ำด้วยความเขิน ตอนนี้เธอทำได้แค่ถอนหายใจ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบไปสักพัก เหลือไว้เพียงเสียงนกร้อง สายลมเบาๆ และแสงแดดอุ่นๆของปูซาน ทั้งคู่เหม่อมองไปยังทุ่งหญ้าอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า เหมือนกับความฝันของทั้งคู่ที่ไม่มีวันสิ้นสุด

    "เข้ากันจะตาย ฉันตั้งชื่อลูกของเราเอาไว้แล้วด้วยนะ ชื่อ..." ไม่ทันที่แดฮยอนจะได้เอ่ยชื่อลูกสมใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ "แหงะ รอตรงนี้นะที่รัก" เขาสบถแล้วปล่อยมือจากยองแจพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆแก้มของเธอเพื่อที่จะหอมเข้าอีกฟอด

    "รีบๆไปรับโทรศัพท์เลย" เธอผลักหน้าคนรักออกจนแดฮยอนหน้าหงาย 

    "เดี๊ยะๆๆ คืนนี้เธอเจอดีแน่ชองยองแจ" เขาเดินเข้าไปในตัวบ้านแต่ก็ยังหันกลับมาส่งคำเตือนให้ยองแจระวังตัวไว้ก่อนจะหันไปรับโทรศัพท์ "ครับ หมวดชองพูดครับ"

    "อย่าดีแต่พูดแล้วกันน่า" เธอตะโกนกลับเข้าไปพลางเช็ดกระบอกปืนเก็บเข้ากล่องสีดำบนม้านั่ง ช่วงเวลาของเธอที่บ้านสวนของแดฮยอนในปูซานมักจะสร้างความทรงจำดีๆให้เธอเสมอ

    "ครับ จะรีบไปเดี๋ยวนี้" สีหน้าของแดฮยอนซีดเผือดระหว่างที่เขาเดินออกมาหายองแจ

    "ใครโทรมา" เธอถามสั้นๆขณะเก็บปืนเข้าล็อก รู้ดีว่าต้องมีคดีความเกิดขึ้นแน่

    "สารวัตรยุนโทรมาจากโซล..." สายตาของแดฮยอนแสดงความกังวลออกมาเมื่อยองแจเงยหน้าขึ้นไปมอง

    "มีเรื่องอะไร"

    "ยงกุกฮยองถูกยิง..."


    - - - - - - - - - - - - - - DaeJae

    "สายลมหนาวพัดผ่านเข้ามาในห้องพักของโรมแรมในเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ หนาวซะจนถึงขั้วหัวใจ
    นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้เจอกับเธอคนนั้น
    ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาพวงกุญแจรูปปิกาจูขึ้นมา
    มันอาจจะไม่ใช่ตัวการ์ตูนที่ผมชอบที่สุดแต่มันเพียงเป็นสิ่งของสิ่งเดียวทีเธอเหลือไว้ให้ผม
    รอยยิ้มที่สดใสที่เจ้าปิกาจูส่งมาให้กับผมเหมือนกับรอยยิ้มของเธอคนนั้นไม่มีผิด

    ...อย่าหายตัวไปได้มั้ย...


    ต่อให้ขาของผมวิ่งออกไปเร็วแค่ไหนก็ไม่มีทางตามหาเธอเจอ

    ทำไมถึงต้องจากฉันไปโดยที่ไม่เหลือร่องรอยอะไรให้ฉันตามหาเลยล่ะ..." -- มุนจงออบ


    "อร่อยจังฮะฮยอง" เด็กหนุ่มร่างสูงคีบปลาดิบคำโตเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ลืมเงยหน้าขึ้นมาชมถึงรสชาติของซาซิมิ ในร้านอาหารญี่ปุ่นเย็นวันนี้มีลูกค้าไม่มากนักเพราะฝนที่ตกลงมาพาลทำให้ทุกคนไม่อยากเดินทางไปไหน มีเพียงชายหนุ่มสองคนนี้ที่ตัดสินใจมาทานอาหารญี่ปุ่นหลังจากหมดภาระที่หนักหน่วงจากการทำคดีความ

    "หิวก็บอกมาเหอะน่า" พี่ชายร่างเล็กยิ้มกว้าง แล้วกระดกน้ำเปล่าลงคอแก้คาวจากปลาทะเล

    "เปล่าหรอกฮะ ที่มันอร่อยขนาดนี้ก็เพราะว่าผมไม่ใช่คนจ่ายตังค์ คึคึ" หนุ่มน้อยยิ้มแป้นจนตาหยี คำพูดเชิงล้อเล่นของเขาทำเอาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับสำลัก

    "ให้มันน้อยๆหน่อย ใช่ว่าฉันจะยอมเลี้ยงข้าวใครง่ายๆนะ" ชายหนุ่มร่างเล็กตักซุปขึ้นมาซดแก้เขิน ตั้งแต่เขาทำงานในกรมตำรวจมา มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เขาจะชวนไปทานข้าวด้วย ส่วนมากหลังเลิกงาน เขาชอบอยู่กับตัวเองเงียบๆคนเดียวมากกว่า

    "งั้นผมคือผู้โชคดีสินะครับ จงออบฮยอง" 

    "ก็คงงั้น" จงออบยิ้ม "ว่าแต่จุนฮง นายแฮ็ก..."

    "ชี่
    ~ ไม่ได้นะครับ" จุนฮงยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ปากพร้อมกับส่งเสียงออกมาเบาๆ 

    "อ่อ โทษทีๆ คดีความล่าสุดที่นายไปสืบมาเป็นไงบ้าง" จงออบหรี่เสียงลงจนเขาแน่ใจว่าจะเบาพอที่ทั้งสองจะได้ยินแค่ในโต๊ะ

    "Zirious น่ะหรอครับ ระบบของมันซับซ้อนกว่าที่ผมคิดไว้ ผมเข้าถึงมันได้แล้วแต่ก็เหมือนกับว่ามันจะไหวตัวทัน หง่ำ" จุนฮงว่าพลางคีบปลาแซลมอนเข้าปากไปอีกคำ

    "นายไม่รู้ใช่มั้ยว่าใครเป็นเจ้าของ Zirious" 

    "อังไอ้อู๊อั๊บ ไอ้เอ้าอี้่อ๊ายไอ้ไอ้เอ้น" หนุ่มน้อยตักข้าวขึ้นมาทานแล้วคีบปลาอีกชิ้นมาสมทบจนพูดออกมาไม่ได้ศัพท์

    "จุนฮงอ่า ฮยองตึ๊บเลยเว่ยเฮ่ย กินให้เสร็จก่อนก็ได้น่า"

    "อึ้ก" จุนฮงกลืนข้าวทั้งหมดลงท้อง นอกจากจะกินเก่งที่สองแล้ว (ที่หนึ่งขอยกให้ผู้หมวดชอง) นายตำรวจหนุ่มน้อยคนนี้ยังทำการแฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ได้เร็วที่สุดอีกด้วย ความอัจฉริยะของเขาเป็นอาวุธไม้ตายส่วนหนึ่งที่ทั้งทีมจะขาดไปไม่ได้ในเมื่อโลกทุกวันนี้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี "ขอโทษนะฮะฮยอง ผมยังไม่รู้อะไรเลยครับ จะมีข้อมูลก็แต่เป็นแค่คนขององค์กรลับองค์กรหนึ่ง ไอ้เจ้านี่มันร้ายกว่าที่เราคิดไว้ ดีไม่ดีเลเวลของมันอาจจะมากกว่าของผมก็ได้"

    "ฮืม..." จงออบขมวดคิ้ว จนหนุ่มน้อยคลี่ยิ้มออกมาแล้วเอื้อมมือไปตบบ่า

    "คงไม่ร้ายกาจเกินความสามารถเราหรอกครับ ฮยองรีบกินซุปสิฮะ เย็นหมดแล้วเนี่ย"

    "ก็ฉันเป็นห่วงนายนี่นา..." แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา จงออบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ท "แดฮยอนฮยองโทรมา ครับ มือขวาจงออบพูดครับ" เขาเงยหน้าขึ้นมาบอกจุนฮงก่อนจะกดรับโทรศัพท์

    "มือขงมือขวาอะไรเนี่ยฮะ! นายรีบไปโรง'บาลโซลด่วนเลย เป็นลูกน้องภาษาอะไรฟะ ปล่อยให้ยงกุกฮยองโดนยิงได้ไง! นายอยู่ไหน?! โทรบอกจุนฮงด้วย ตอนนี้ฉันกำลังออกจากปูซาน รีบไปถึงโรง'บาลให้ไวเลยนะเว่ย!" น้ำเสียงกระวนกระวายของผู้หมวดชองแดฮยอนจากปลายสายดังออกมาจากโทรศัพท์โดยที่จุนฮงไม่จำเป็นต้องให้จงออบย้ำอีกรอบ

    "ไปกันเถอะครับ" จงออบรีบควักธนบัตรวางไว้บนโต๊ะ ก่อนทั้งคู่จะเก็บข้าวของวิ่งออกจากร้านฝ่าสายฝนออกไป


    - - - - - - - - - - - - - - JongLo

    .
    .
    .
    อร๊าง อินโทรจบแล้ว คู่น้องโล่อาจจะไม่หวานน้ำตาลเรียกพี่เท่าไหร่เลยนะ
    รีดเดอร์ชอบกันมั้ยค้า ถ้าชอบกดเมนต์กดโหวตให้กันด้วยน้า ถ้าเรทติ้งดีจะมาอัพตอนที่ 1 เร็วนี้ค่ะ ^^

    ว่าแต่ไรท์เตอร์อยากขอความคิดเห็นจากรีดเดอร์หน่อยว่าภาษาของไรท์เตอร์เป็นยังไง วิจารณ์มาได้เลยนะคะ
    แล้วก็ตอนต่อไปอยากจะรีบอ่านตอนที่หนี่งเลยหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศมาอ่านบทสัมภาษณ์สุด exclusive ของเมนคาแรกเตอร์ทั้งหกคนเปิดกองฟิค "อยากให้รักตายไปจากใจ" กันก่อนดี คึคึ

    ยังไงก็ของฝาก "[B.A.P] อยากให้รักตายไปจากใจ" ด้วยนะคะ ถึงรีดเดอร์จะไม่รักไรท์เตอร์ แต่ก็ขอให้รักต่ายเถื่อน B.A.P กันให้มากๆนะคะ ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×