ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : + [Intro] + (100%)
"บางครั้ง ในวันที่ฝนพรำ... มักจะทำให้้ผมคิดถึงคนๆหนึ่งเสมอ...
ผมทิ้งตัวอย่างเหนื่อยล้าลงบนเก้าอี้นวมสีดำในห้องพักสีทะมึน
ฝนที่ตกลงมาไม่เป็นสายพาลให้ใจของผมหนาวเหน็บไปด้วย
แก้วกาแฟที่วางอยู่ตรงหน้าบนโต๊ะไม้สีเบจคอยเตือนความทรงจำที่ผมเคยมีร่วมกับเธอคนนั้นเสมอ
...มันยังคงอุ่นอยู่...
ณ เวลานี้ ผมไม่กล้าแม้แต่จะยกมันขึ้นมาดื่ม เพราะกลัวว่า กลิ่นอายที่ผมคุ้นเคย อาจจะหายไป...
เธอคนนั้นของผม... อยู่ที่ไหนกันนะ..." --บังยงกุก
"แฮ่กๆ" เสียงหายใจหอบถี่ของคิมฮิมชาน ชายหนุ่มหน้าหวานที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนดังขึ้นไม่เป็นจังหวะพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังหาที่หลบฝนมาได้สักพักหนึ่งจนกระทั่งมาหยุดที่ป้ายรถเมล์ข้างๆชายหนุ่มอีกคนที่ถือร่มสีดำเอาไว้ในมือ
"ฉันบอกนายแล้วว่าให้รีบกลับบ้าน" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบาๆข้างหูคนที่กำลังยืนหอบอยู่ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายทยอยกลับบ้านกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
"แล้วนายล่ะ มายืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้" ฮิมชานเอนพิงกำแพงอิฐอย่างเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่วายส่งคำประชดมาให้
"ถามอะไรไม่สมกับเป็นนายเลย" เจ้าของเสียงทุ้มยิ้มอย่างพอใจราวกับว่าเขารู้นิสัยของฮิมชานดี
"ก็ใครที่บอกว่าจะไม่โผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก" ฮิมชานทอดสายตาออกไปไกลแสนไกลไม่ยอมสบตา น้ำเสียงของเขาแสดงออกเลยว่ากำลังโกรธอยู่
เจ้าของเสียงทุ้มนั้นไม่พูดอะไร เพียงแต่กางร่มแล้วหันมาหาคนที่ยังคงยืนหอบอยู่ ผมสั้นของเขาเปียกปอน ส่วนชุดลำลองสีดำก็ชุ่มไปด้วยน้ำฝน แม้เขาจะยังมีแรงมาต่อกรกับเจ้าของเสียงทุ้ม แต่แววตาของเขานั้นไม่ใช่เลย ริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพูเช่นดอกกุหลาบซีดลงอย่างเห็นได้ชัด บวกกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว... กำลังไม่สบายอยู่สินะ...
"กลับบ้านกัน" ไม่รอช้าคว้าข้อมือของคิมฮิมชานไว้แน่นแล้วออกเดินไปนอกชายคา
"ฉันกลับเองได้น่า เลิกยุ่งกับฉันซะทียงกุก" ฮิมชานพยายามสะบัดแขนของเขาออกแต่ก็แพ้แรงของเจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยขึ้นเมื่อครู่ ยงกุกได้แต่ส่ายหน้า
"หน้าซีดเป็นเผือกอย่างงี้จะให้ฉันปล่อยนายโหนรถเมล์กลับบ้านเองคนเดียวรึไง ตามฉันมา"
"นายเป็นคนที่กรมตำรวจต้องการตัวมากที่สุดตอนนี้ ถ้านายไม่ปล่อย ฉันยิงแน่..."
สิ้นเสียงของฮิมชาน ยงกุกได้แต่ชงัก เลิกคิ้วใส่คนข้างหลังที่ชักปืนขึ้นมาจ่อตรงหน้าด้วยมืออีกข้าง
"อยากยิงก็ยิงสิ..." เขายิ้มให้เธอบางๆ ก่อนจะเริ่มก้าวฝ่าสายฝนไปข้างหน้าพร้อมกับบีบข้อมือของอีกคนไว้แน่นเพื่อให้เธอเดินไปด้วยกัน "ฉันรู้ว่ายังไงๆ นายก็ไม่มีทางยิงฉัน ต่อให้ฉันเลวแค่ไหน..."
ยงกุกยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่หันกลับมาสนใจฮิมชานที่กำลังสั่นเทาด้วยความหนาวของสายฝนโปรยปราย มือข้างที่ถือปืนนั้นเริ่มสั่นขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้ก็รื้นออกมา ก่อนที่เสียงปืนจะดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
- - - - - - - - - - - - - - BangChan
"แสงแดดยามเช้าสาดทอเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ ปลุกให้ผมตื่นจากฝัน ตื่นขึ้นมาด้วยความหวังว่าจะได้พบเธอคนนั้นกำลังนอนกอดกัน...
กลิ่นเส้นผมของเธอยังคงตราตรึงอยู่ในหมอนสีขาวใบเดิม
รอยยิ้มขี้เล่นของเธอผุดขึ้นมาตรงหน้าพร้อมกับร่างเล็กๆที่โอบกอดผมไว้
แก้มนุ่มๆของเธอที่ซุกอยู่ในอกของผม...
...ผมไม่เคยลืม...
สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ก็คือการฝังใบหน้างี่เง่าของตัวเองลงไปในหมอนใบนั้น เผื่อว่าผมจะได้กลับไปฝันอีกครั้ง
เผื่อว่าเธอคนนั้นจะไม่จากผมไป... เหมือนในตอนนี้..." --ชองแดฮยอน
ปํง! ปัง! ปัง! กระสุนแต่ละนัดถูกยิงออกมาจากปืนสั้น ขวดแก้วถูกวางเรียงรางไว้อย่างเป็นระเบียบแตกกระจายไม่มีชิ้นดี มือเล็กๆนั้นเหนี่ยวไกปืนไว้มั่น สายตาอันคมกริบจับจ้องไปที่ขวดแก้วขวดสุดท้าย นัดนี้ จะพลาดไม่ได้
กริ๊ก! ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียงสัญญาณจากกระบอกปืนว่าลูกกระสุนหมด คนแก้มยุ้ยขมวดคิ้ว เตรียมตัวจะหันไปว้ากชายหนุ่มหน้ามนที่นั่งดูอยู่ข้างหลัง แต่ยังไม่ทันจะหันไปก็มีอ้อมแขนเข้ามาโอบเอวเอาไว้เสียก่อน
"เมียจ๋า~~~" คำหวานถูกกระซิบข้างหู ใบหน้าหล่อๆเกยคางไว้บนไหล่ แล้วส่งสายตาออดอ้อน นายรู้ตัวใช่ไหมว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
"ไม่ต้องมาพูดเลยเมียจ๋งเมียจ๋า นี่นายใส่กระสุนให้ฉันไม่ครบใช่มั้ยฮะ!" ลูกอ้อนไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ
"เปล่าซะหน่อย ก็ใส่ให้ครบแล้วน้า" ชายหนุ่มยิ้มหวาน ยิ่งกอดคนตัวเล็กแน่น
"ขี้จุ๊เบ่เบ๋" เธอเบ้ปากใส่เขา
"ไม่ได้ขี้จุ๊ แต่จะจุ๊บ มั้วะ!" พูดไม่ทันจบ คนขี้เล่นก็หอมเข้าที่แก้มนุ่มๆนั้นฟอดใหญ่
"ชองแดฮยอน!" เธอดิ้นและขึงตาใส่คนเพิ่งฉวยโอกาสทองไปเมื่อสักครู่นี้ แต่สุดท้ายก็สู้แรงแดฮยอนไม่ได้
"อะไรจ๊ะ ยูยองแจ โอ๊ะ! ไม่สิ ต้อง ชองยองแจ คึคึ"
"ไม่เห็นจะเข้ากันเลยเหอะ" ใบหน้าของยองแจแดงก่ำด้วยความเขิน ตอนนี้เธอทำได้แค่ถอนหายใจ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบไปสักพัก เหลือไว้เพียงเสียงนกร้อง สายลมเบาๆ และแสงแดดอุ่นๆของปูซาน ทั้งคู่เหม่อมองไปยังทุ่งหญ้าอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า เหมือนกับความฝันของทั้งคู่ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
"เข้ากันจะตาย ฉันตั้งชื่อลูกของเราเอาไว้แล้วด้วยนะ ชื่อ..." ไม่ทันที่แดฮยอนจะได้เอ่ยชื่อลูกสมใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ "แหงะ รอตรงนี้นะที่รัก" เขาสบถแล้วปล่อยมือจากยองแจพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆแก้มของเธอเพื่อที่จะหอมเข้าอีกฟอด
"รีบๆไปรับโทรศัพท์เลย" เธอผลักหน้าคนรักออกจนแดฮยอนหน้าหงาย
"เดี๊ยะๆๆ คืนนี้เธอเจอดีแน่ชองยองแจ" เขาเดินเข้าไปในตัวบ้านแต่ก็ยังหันกลับมาส่งคำเตือนให้ยองแจระวังตัวไว้ก่อนจะหันไปรับโทรศัพท์ "ครับ หมวดชองพูดครับ"
"อย่าดีแต่พูดแล้วกันน่า" เธอตะโกนกลับเข้าไปพลางเช็ดกระบอกปืนเก็บเข้ากล่องสีดำบนม้านั่ง ช่วงเวลาของเธอที่บ้านสวนของแดฮยอนในปูซานมักจะสร้างความทรงจำดีๆให้เธอเสมอ
"ครับ จะรีบไปเดี๋ยวนี้" สีหน้าของแดฮยอนซีดเผือดระหว่างที่เขาเดินออกมาหายองแจ
"ใครโทรมา" เธอถามสั้นๆขณะเก็บปืนเข้าล็อก รู้ดีว่าต้องมีคดีความเกิดขึ้นแน่
"สารวัตรยุนโทรมาจากโซล..." สายตาของแดฮยอนแสดงความกังวลออกมาเมื่อยองแจเงยหน้าขึ้นไปมอง
"มีเรื่องอะไร"
"ยงกุกฮยองถูกยิง..."
- - - - - - - - - - - - - - DaeJae
"สายลมหนาวพัดผ่านเข้ามาในห้องพักของโรมแรมในเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ หนาวซะจนถึงขั้วหัวใจ
นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้เจอกับเธอคนนั้น
ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาพวงกุญแจรูปปิกาจูขึ้นมา
มันอาจจะไม่ใช่ตัวการ์ตูนที่ผมชอบที่สุดแต่มันเพียงเป็นสิ่งของสิ่งเดียวทีเธอเหลือไว้ให้ผม
รอยยิ้มที่สดใสที่เจ้าปิกาจูส่งมาให้กับผมเหมือนกับรอยยิ้มของเธอคนนั้นไม่มีผิด
...อย่าหายตัวไปได้มั้ย...
ต่อให้ขาของผมวิ่งออกไปเร็วแค่ไหนก็ไม่มีทางตามหาเธอเจอ
ทำไมถึงต้องจากฉันไปโดยที่ไม่เหลือร่องรอยอะไรให้ฉันตามหาเลยล่ะ..." -- มุนจงออบ
"อร่อยจังฮะฮยอง" เด็กหนุ่มร่างสูงคีบปลาดิบคำโตเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ลืมเงยหน้าขึ้นมาชมถึงรสชาติของซาซิมิ ในร้านอาหารญี่ปุ่นเย็นวันนี้มีลูกค้าไม่มากนักเพราะฝนที่ตกลงมาพาลทำให้ทุกคนไม่อยากเดินทางไปไหน มีเพียงชายหนุ่มสองคนนี้ที่ตัดสินใจมาทานอาหารญี่ปุ่นหลังจากหมดภาระที่หนักหน่วงจากการทำคดีความ
"หิวก็บอกมาเหอะน่า" พี่ชายร่างเล็กยิ้มกว้าง แล้วกระดกน้ำเปล่าลงคอแก้คาวจากปลาทะเล
"เปล่าหรอกฮะ ที่มันอร่อยขนาดนี้ก็เพราะว่าผมไม่ใช่คนจ่ายตังค์ คึคึ" หนุ่มน้อยยิ้มแป้นจนตาหยี คำพูดเชิงล้อเล่นของเขาทำเอาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับสำลัก
"ให้มันน้อยๆหน่อย ใช่ว่าฉันจะยอมเลี้ยงข้าวใครง่ายๆนะ" ชายหนุ่มร่างเล็กตักซุปขึ้นมาซดแก้เขิน ตั้งแต่เขาทำงานในกรมตำรวจมา มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เขาจะชวนไปทานข้าวด้วย ส่วนมากหลังเลิกงาน เขาชอบอยู่กับตัวเองเงียบๆคนเดียวมากกว่า
"งั้นผมคือผู้โชคดีสินะครับ จงออบฮยอง"
"ก็คงงั้น" จงออบยิ้ม "ว่าแต่จุนฮง นายแฮ็ก..."
"ชี่~ ไม่ได้นะครับ" จุนฮงยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ปากพร้อมกับส่งเสียงออกมาเบาๆ
"อ่อ โทษทีๆ คดีความล่าสุดที่นายไปสืบมาเป็นไงบ้าง" จงออบหรี่เสียงลงจนเขาแน่ใจว่าจะเบาพอที่ทั้งสองจะได้ยินแค่ในโต๊ะ
"Zirious น่ะหรอครับ ระบบของมันซับซ้อนกว่าที่ผมคิดไว้ ผมเข้าถึงมันได้แล้วแต่ก็เหมือนกับว่ามันจะไหวตัวทัน หง่ำ" จุนฮงว่าพลางคีบปลาแซลมอนเข้าปากไปอีกคำ
"นายไม่รู้ใช่มั้ยว่าใครเป็นเจ้าของ Zirious"
"อังไอ้อู๊อั๊บ ไอ้เอ้าอี้่อ๊ายไอ้ไอ้เอ้น" หนุ่มน้อยตักข้าวขึ้นมาทานแล้วคีบปลาอีกชิ้นมาสมทบจนพูดออกมาไม่ได้ศัพท์
"จุนฮงอ่า ฮยองตึ๊บเลยเว่ยเฮ่ย กินให้เสร็จก่อนก็ได้น่า"
"อึ้ก" จุนฮงกลืนข้าวทั้งหมดลงท้อง นอกจากจะกินเก่งที่สองแล้ว (ที่หนึ่งขอยกให้ผู้หมวดชอง) นายตำรวจหนุ่มน้อยคนนี้ยังทำการแฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ได้เร็วที่สุดอีกด้วย ความอัจฉริยะของเขาเป็นอาวุธไม้ตายส่วนหนึ่งที่ทั้งทีมจะขาดไปไม่ได้ในเมื่อโลกทุกวันนี้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี "ขอโทษนะฮะฮยอง ผมยังไม่รู้อะไรเลยครับ จะมีข้อมูลก็แต่เป็นแค่คนขององค์กรลับองค์กรหนึ่ง ไอ้เจ้านี่มันร้ายกว่าที่เราคิดไว้ ดีไม่ดีเลเวลของมันอาจจะมากกว่าของผมก็ได้"
"ฮืม..." จงออบขมวดคิ้ว จนหนุ่มน้อยคลี่ยิ้มออกมาแล้วเอื้อมมือไปตบบ่า
"คงไม่ร้ายกาจเกินความสามารถเราหรอกครับ ฮยองรีบกินซุปสิฮะ เย็นหมดแล้วเนี่ย"
"ก็ฉันเป็นห่วงนายนี่นา..." แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา จงออบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ท "แดฮยอนฮยองโทรมา ครับ มือขวาจงออบพูดครับ" เขาเงยหน้าขึ้นมาบอกจุนฮงก่อนจะกดรับโทรศัพท์
"มือขงมือขวาอะไรเนี่ยฮะ! นายรีบไปโรง'บาลโซลด่วนเลย เป็นลูกน้องภาษาอะไรฟะ ปล่อยให้ยงกุกฮยองโดนยิงได้ไง! นายอยู่ไหน?! โทรบอกจุนฮงด้วย ตอนนี้ฉันกำลังออกจากปูซาน รีบไปถึงโรง'บาลให้ไวเลยนะเว่ย!" น้ำเสียงกระวนกระวายของผู้หมวดชองแดฮยอนจากปลายสายดังออกมาจากโทรศัพท์โดยที่จุนฮงไม่จำเป็นต้องให้จงออบย้ำอีกรอบ
"ไปกันเถอะครับ" จงออบรีบควักธนบัตรวางไว้บนโต๊ะ ก่อนทั้งคู่จะเก็บข้าวของวิ่งออกจากร้านฝ่าสายฝนออกไป
- - - - - - - - - - - - - - JongLo
.
.
.
อร๊าง อินโทรจบแล้ว คู่น้องโล่อาจจะไม่หวานน้ำตาลเรียกพี่เท่าไหร่เลยนะ
รีดเดอร์ชอบกันมั้ยค้า ถ้าชอบกดเมนต์กดโหวตให้กันด้วยน้า ถ้าเรทติ้งดีจะมาอัพตอนที่ 1 เร็วนี้ค่ะ ^^
ว่าแต่ไรท์เตอร์อยากขอความคิดเห็นจากรีดเดอร์หน่อยว่าภาษาของไรท์เตอร์เป็นยังไง วิจารณ์มาได้เลยนะคะ
แล้วก็ตอนต่อไปอยากจะรีบอ่านตอนที่หนี่งเลยหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศมาอ่านบทสัมภาษณ์สุด exclusive ของเมนคาแรกเตอร์ทั้งหกคนเปิดกองฟิค "อยากให้รักตายไปจากใจ" กันก่อนดี คึคึ
ยังไงก็ของฝาก "[B.A.P] อยากให้รักตายไปจากใจ" ด้วยนะคะ ถึงรีดเดอร์จะไม่รักไรท์เตอร์ แต่ก็ขอให้รักต่ายเถื่อน B.A.P กันให้มากๆนะคะ ^^
ผมทิ้งตัวอย่างเหนื่อยล้าลงบนเก้าอี้นวมสีดำในห้องพักสีทะมึน
ฝนที่ตกลงมาไม่เป็นสายพาลให้ใจของผมหนาวเหน็บไปด้วย
แก้วกาแฟที่วางอยู่ตรงหน้าบนโต๊ะไม้สีเบจคอยเตือนความทรงจำที่ผมเคยมีร่วมกับเธอคนนั้นเสมอ
...มันยังคงอุ่นอยู่...
ณ เวลานี้ ผมไม่กล้าแม้แต่จะยกมันขึ้นมาดื่ม เพราะกลัวว่า กลิ่นอายที่ผมคุ้นเคย อาจจะหายไป...
เธอคนนั้นของผม... อยู่ที่ไหนกันนะ..." --บังยงกุก
"แฮ่กๆ" เสียงหายใจหอบถี่ของคิมฮิมชาน ชายหนุ่มหน้าหวานที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนดังขึ้นไม่เป็นจังหวะพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังหาที่หลบฝนมาได้สักพักหนึ่งจนกระทั่งมาหยุดที่ป้ายรถเมล์ข้างๆชายหนุ่มอีกคนที่ถือร่มสีดำเอาไว้ในมือ
"ฉันบอกนายแล้วว่าให้รีบกลับบ้าน" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบาๆข้างหูคนที่กำลังยืนหอบอยู่ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายทยอยกลับบ้านกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
"แล้วนายล่ะ มายืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้" ฮิมชานเอนพิงกำแพงอิฐอย่างเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่วายส่งคำประชดมาให้
"ถามอะไรไม่สมกับเป็นนายเลย" เจ้าของเสียงทุ้มยิ้มอย่างพอใจราวกับว่าเขารู้นิสัยของฮิมชานดี
"ก็ใครที่บอกว่าจะไม่โผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก" ฮิมชานทอดสายตาออกไปไกลแสนไกลไม่ยอมสบตา น้ำเสียงของเขาแสดงออกเลยว่ากำลังโกรธอยู่
เจ้าของเสียงทุ้มนั้นไม่พูดอะไร เพียงแต่กางร่มแล้วหันมาหาคนที่ยังคงยืนหอบอยู่ ผมสั้นของเขาเปียกปอน ส่วนชุดลำลองสีดำก็ชุ่มไปด้วยน้ำฝน แม้เขาจะยังมีแรงมาต่อกรกับเจ้าของเสียงทุ้ม แต่แววตาของเขานั้นไม่ใช่เลย ริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพูเช่นดอกกุหลาบซีดลงอย่างเห็นได้ชัด บวกกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว... กำลังไม่สบายอยู่สินะ...
"กลับบ้านกัน" ไม่รอช้าคว้าข้อมือของคิมฮิมชานไว้แน่นแล้วออกเดินไปนอกชายคา
"ฉันกลับเองได้น่า เลิกยุ่งกับฉันซะทียงกุก" ฮิมชานพยายามสะบัดแขนของเขาออกแต่ก็แพ้แรงของเจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยขึ้นเมื่อครู่ ยงกุกได้แต่ส่ายหน้า
"หน้าซีดเป็นเผือกอย่างงี้จะให้ฉันปล่อยนายโหนรถเมล์กลับบ้านเองคนเดียวรึไง ตามฉันมา"
"นายเป็นคนที่กรมตำรวจต้องการตัวมากที่สุดตอนนี้ ถ้านายไม่ปล่อย ฉันยิงแน่..."
สิ้นเสียงของฮิมชาน ยงกุกได้แต่ชงัก เลิกคิ้วใส่คนข้างหลังที่ชักปืนขึ้นมาจ่อตรงหน้าด้วยมืออีกข้าง
"อยากยิงก็ยิงสิ..." เขายิ้มให้เธอบางๆ ก่อนจะเริ่มก้าวฝ่าสายฝนไปข้างหน้าพร้อมกับบีบข้อมือของอีกคนไว้แน่นเพื่อให้เธอเดินไปด้วยกัน "ฉันรู้ว่ายังไงๆ นายก็ไม่มีทางยิงฉัน ต่อให้ฉันเลวแค่ไหน..."
ยงกุกยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่หันกลับมาสนใจฮิมชานที่กำลังสั่นเทาด้วยความหนาวของสายฝนโปรยปราย มือข้างที่ถือปืนนั้นเริ่มสั่นขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้ก็รื้นออกมา ก่อนที่เสียงปืนจะดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
- - - - - - - - - - - - - - BangChan
"แสงแดดยามเช้าสาดทอเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ ปลุกให้ผมตื่นจากฝัน ตื่นขึ้นมาด้วยความหวังว่าจะได้พบเธอคนนั้นกำลังนอนกอดกัน...
กลิ่นเส้นผมของเธอยังคงตราตรึงอยู่ในหมอนสีขาวใบเดิม
รอยยิ้มขี้เล่นของเธอผุดขึ้นมาตรงหน้าพร้อมกับร่างเล็กๆที่โอบกอดผมไว้
แก้มนุ่มๆของเธอที่ซุกอยู่ในอกของผม...
...ผมไม่เคยลืม...
สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ก็คือการฝังใบหน้างี่เง่าของตัวเองลงไปในหมอนใบนั้น เผื่อว่าผมจะได้กลับไปฝันอีกครั้ง
เผื่อว่าเธอคนนั้นจะไม่จากผมไป... เหมือนในตอนนี้..." --ชองแดฮยอน
ปํง! ปัง! ปัง! กระสุนแต่ละนัดถูกยิงออกมาจากปืนสั้น ขวดแก้วถูกวางเรียงรางไว้อย่างเป็นระเบียบแตกกระจายไม่มีชิ้นดี มือเล็กๆนั้นเหนี่ยวไกปืนไว้มั่น สายตาอันคมกริบจับจ้องไปที่ขวดแก้วขวดสุดท้าย นัดนี้ จะพลาดไม่ได้
กริ๊ก! ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียงสัญญาณจากกระบอกปืนว่าลูกกระสุนหมด คนแก้มยุ้ยขมวดคิ้ว เตรียมตัวจะหันไปว้ากชายหนุ่มหน้ามนที่นั่งดูอยู่ข้างหลัง แต่ยังไม่ทันจะหันไปก็มีอ้อมแขนเข้ามาโอบเอวเอาไว้เสียก่อน
"เมียจ๋า~~~" คำหวานถูกกระซิบข้างหู ใบหน้าหล่อๆเกยคางไว้บนไหล่ แล้วส่งสายตาออดอ้อน นายรู้ตัวใช่ไหมว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
"ไม่ต้องมาพูดเลยเมียจ๋งเมียจ๋า นี่นายใส่กระสุนให้ฉันไม่ครบใช่มั้ยฮะ!" ลูกอ้อนไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ
"เปล่าซะหน่อย ก็ใส่ให้ครบแล้วน้า" ชายหนุ่มยิ้มหวาน ยิ่งกอดคนตัวเล็กแน่น
"ขี้จุ๊เบ่เบ๋" เธอเบ้ปากใส่เขา
"ไม่ได้ขี้จุ๊ แต่จะจุ๊บ มั้วะ!" พูดไม่ทันจบ คนขี้เล่นก็หอมเข้าที่แก้มนุ่มๆนั้นฟอดใหญ่
"ชองแดฮยอน!" เธอดิ้นและขึงตาใส่คนเพิ่งฉวยโอกาสทองไปเมื่อสักครู่นี้ แต่สุดท้ายก็สู้แรงแดฮยอนไม่ได้
"อะไรจ๊ะ ยูยองแจ โอ๊ะ! ไม่สิ ต้อง ชองยองแจ คึคึ"
"ไม่เห็นจะเข้ากันเลยเหอะ" ใบหน้าของยองแจแดงก่ำด้วยความเขิน ตอนนี้เธอทำได้แค่ถอนหายใจ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบไปสักพัก เหลือไว้เพียงเสียงนกร้อง สายลมเบาๆ และแสงแดดอุ่นๆของปูซาน ทั้งคู่เหม่อมองไปยังทุ่งหญ้าอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า เหมือนกับความฝันของทั้งคู่ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
"เข้ากันจะตาย ฉันตั้งชื่อลูกของเราเอาไว้แล้วด้วยนะ ชื่อ..." ไม่ทันที่แดฮยอนจะได้เอ่ยชื่อลูกสมใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ "แหงะ รอตรงนี้นะที่รัก" เขาสบถแล้วปล่อยมือจากยองแจพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆแก้มของเธอเพื่อที่จะหอมเข้าอีกฟอด
"รีบๆไปรับโทรศัพท์เลย" เธอผลักหน้าคนรักออกจนแดฮยอนหน้าหงาย
"เดี๊ยะๆๆ คืนนี้เธอเจอดีแน่ชองยองแจ" เขาเดินเข้าไปในตัวบ้านแต่ก็ยังหันกลับมาส่งคำเตือนให้ยองแจระวังตัวไว้ก่อนจะหันไปรับโทรศัพท์ "ครับ หมวดชองพูดครับ"
"อย่าดีแต่พูดแล้วกันน่า" เธอตะโกนกลับเข้าไปพลางเช็ดกระบอกปืนเก็บเข้ากล่องสีดำบนม้านั่ง ช่วงเวลาของเธอที่บ้านสวนของแดฮยอนในปูซานมักจะสร้างความทรงจำดีๆให้เธอเสมอ
"ครับ จะรีบไปเดี๋ยวนี้" สีหน้าของแดฮยอนซีดเผือดระหว่างที่เขาเดินออกมาหายองแจ
"ใครโทรมา" เธอถามสั้นๆขณะเก็บปืนเข้าล็อก รู้ดีว่าต้องมีคดีความเกิดขึ้นแน่
"สารวัตรยุนโทรมาจากโซล..." สายตาของแดฮยอนแสดงความกังวลออกมาเมื่อยองแจเงยหน้าขึ้นไปมอง
"มีเรื่องอะไร"
"ยงกุกฮยองถูกยิง..."
- - - - - - - - - - - - - - DaeJae
"สายลมหนาวพัดผ่านเข้ามาในห้องพักของโรมแรมในเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ หนาวซะจนถึงขั้วหัวใจ
นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้เจอกับเธอคนนั้น
ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาพวงกุญแจรูปปิกาจูขึ้นมา
มันอาจจะไม่ใช่ตัวการ์ตูนที่ผมชอบที่สุดแต่มันเพียงเป็นสิ่งของสิ่งเดียวทีเธอเหลือไว้ให้ผม
รอยยิ้มที่สดใสที่เจ้าปิกาจูส่งมาให้กับผมเหมือนกับรอยยิ้มของเธอคนนั้นไม่มีผิด
...อย่าหายตัวไปได้มั้ย...
ต่อให้ขาของผมวิ่งออกไปเร็วแค่ไหนก็ไม่มีทางตามหาเธอเจอ
ทำไมถึงต้องจากฉันไปโดยที่ไม่เหลือร่องรอยอะไรให้ฉันตามหาเลยล่ะ..." -- มุนจงออบ
"อร่อยจังฮะฮยอง" เด็กหนุ่มร่างสูงคีบปลาดิบคำโตเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ลืมเงยหน้าขึ้นมาชมถึงรสชาติของซาซิมิ ในร้านอาหารญี่ปุ่นเย็นวันนี้มีลูกค้าไม่มากนักเพราะฝนที่ตกลงมาพาลทำให้ทุกคนไม่อยากเดินทางไปไหน มีเพียงชายหนุ่มสองคนนี้ที่ตัดสินใจมาทานอาหารญี่ปุ่นหลังจากหมดภาระที่หนักหน่วงจากการทำคดีความ
"หิวก็บอกมาเหอะน่า" พี่ชายร่างเล็กยิ้มกว้าง แล้วกระดกน้ำเปล่าลงคอแก้คาวจากปลาทะเล
"เปล่าหรอกฮะ ที่มันอร่อยขนาดนี้ก็เพราะว่าผมไม่ใช่คนจ่ายตังค์ คึคึ" หนุ่มน้อยยิ้มแป้นจนตาหยี คำพูดเชิงล้อเล่นของเขาทำเอาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับสำลัก
"ให้มันน้อยๆหน่อย ใช่ว่าฉันจะยอมเลี้ยงข้าวใครง่ายๆนะ" ชายหนุ่มร่างเล็กตักซุปขึ้นมาซดแก้เขิน ตั้งแต่เขาทำงานในกรมตำรวจมา มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เขาจะชวนไปทานข้าวด้วย ส่วนมากหลังเลิกงาน เขาชอบอยู่กับตัวเองเงียบๆคนเดียวมากกว่า
"งั้นผมคือผู้โชคดีสินะครับ จงออบฮยอง"
"ก็คงงั้น" จงออบยิ้ม "ว่าแต่จุนฮง นายแฮ็ก..."
"ชี่~ ไม่ได้นะครับ" จุนฮงยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ปากพร้อมกับส่งเสียงออกมาเบาๆ
"อ่อ โทษทีๆ คดีความล่าสุดที่นายไปสืบมาเป็นไงบ้าง" จงออบหรี่เสียงลงจนเขาแน่ใจว่าจะเบาพอที่ทั้งสองจะได้ยินแค่ในโต๊ะ
"Zirious น่ะหรอครับ ระบบของมันซับซ้อนกว่าที่ผมคิดไว้ ผมเข้าถึงมันได้แล้วแต่ก็เหมือนกับว่ามันจะไหวตัวทัน หง่ำ" จุนฮงว่าพลางคีบปลาแซลมอนเข้าปากไปอีกคำ
"นายไม่รู้ใช่มั้ยว่าใครเป็นเจ้าของ Zirious"
"อังไอ้อู๊อั๊บ ไอ้เอ้าอี้่อ๊ายไอ้ไอ้เอ้น" หนุ่มน้อยตักข้าวขึ้นมาทานแล้วคีบปลาอีกชิ้นมาสมทบจนพูดออกมาไม่ได้ศัพท์
"จุนฮงอ่า ฮยองตึ๊บเลยเว่ยเฮ่ย กินให้เสร็จก่อนก็ได้น่า"
"อึ้ก" จุนฮงกลืนข้าวทั้งหมดลงท้อง นอกจากจะกินเก่งที่สองแล้ว (ที่หนึ่งขอยกให้ผู้หมวดชอง) นายตำรวจหนุ่มน้อยคนนี้ยังทำการแฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ได้เร็วที่สุดอีกด้วย ความอัจฉริยะของเขาเป็นอาวุธไม้ตายส่วนหนึ่งที่ทั้งทีมจะขาดไปไม่ได้ในเมื่อโลกทุกวันนี้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี "ขอโทษนะฮะฮยอง ผมยังไม่รู้อะไรเลยครับ จะมีข้อมูลก็แต่เป็นแค่คนขององค์กรลับองค์กรหนึ่ง ไอ้เจ้านี่มันร้ายกว่าที่เราคิดไว้ ดีไม่ดีเลเวลของมันอาจจะมากกว่าของผมก็ได้"
"ฮืม..." จงออบขมวดคิ้ว จนหนุ่มน้อยคลี่ยิ้มออกมาแล้วเอื้อมมือไปตบบ่า
"คงไม่ร้ายกาจเกินความสามารถเราหรอกครับ ฮยองรีบกินซุปสิฮะ เย็นหมดแล้วเนี่ย"
"ก็ฉันเป็นห่วงนายนี่นา..." แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา จงออบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ท "แดฮยอนฮยองโทรมา ครับ มือขวาจงออบพูดครับ" เขาเงยหน้าขึ้นมาบอกจุนฮงก่อนจะกดรับโทรศัพท์
"มือขงมือขวาอะไรเนี่ยฮะ! นายรีบไปโรง'บาลโซลด่วนเลย เป็นลูกน้องภาษาอะไรฟะ ปล่อยให้ยงกุกฮยองโดนยิงได้ไง! นายอยู่ไหน?! โทรบอกจุนฮงด้วย ตอนนี้ฉันกำลังออกจากปูซาน รีบไปถึงโรง'บาลให้ไวเลยนะเว่ย!" น้ำเสียงกระวนกระวายของผู้หมวดชองแดฮยอนจากปลายสายดังออกมาจากโทรศัพท์โดยที่จุนฮงไม่จำเป็นต้องให้จงออบย้ำอีกรอบ
"ไปกันเถอะครับ" จงออบรีบควักธนบัตรวางไว้บนโต๊ะ ก่อนทั้งคู่จะเก็บข้าวของวิ่งออกจากร้านฝ่าสายฝนออกไป
- - - - - - - - - - - - - - JongLo
.
.
.
อร๊าง อินโทรจบแล้ว คู่น้องโล่อาจจะไม่หวานน้ำตาลเรียกพี่เท่าไหร่เลยนะ
รีดเดอร์ชอบกันมั้ยค้า ถ้าชอบกดเมนต์กดโหวตให้กันด้วยน้า ถ้าเรทติ้งดีจะมาอัพตอนที่ 1 เร็วนี้ค่ะ ^^
ว่าแต่ไรท์เตอร์อยากขอความคิดเห็นจากรีดเดอร์หน่อยว่าภาษาของไรท์เตอร์เป็นยังไง วิจารณ์มาได้เลยนะคะ
แล้วก็ตอนต่อไปอยากจะรีบอ่านตอนที่หนี่งเลยหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศมาอ่านบทสัมภาษณ์สุด exclusive ของเมนคาแรกเตอร์ทั้งหกคนเปิดกองฟิค "อยากให้รักตายไปจากใจ" กันก่อนดี คึคึ
ยังไงก็ของฝาก "[B.A.P] อยากให้รักตายไปจากใจ" ด้วยนะคะ ถึงรีดเดอร์จะไม่รักไรท์เตอร์ แต่ก็ขอให้รักต่ายเถื่อน B.A.P กันให้มากๆนะคะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น