ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Death Zone
          เมโทรเป็นชายชราตัวสูง  สายตาของเขายังคมกริบ  แม้ว่าอายุจะมากแล้วก็ตาม  เขาใส่เสื้อคลุมสีดำสนิท  เสื้อประดับไปด้วยพลอยเนื้อสีดำทำให้เสื้อดูเงางามมากยิ่งขึ้น  ที่มือถือห่อเล็ก ๆ อยู่หนึ่งห่อ  ที่คาดเอวเหน็บมีดสั้นไว้หลายสิบเล่มเตรียมพร้อมที่จะขวางใส่ศัตรูที่หมายจะเอาชีวิต  แต่จุดที่น่าสังเกตมากที่สุดคือบริเวณหน้าอกด้านซ้าย  มีอัญมณีสีดำสว่างเงาวับปรากฏอยู่  ภายในเป็นเนื้อดำเดียวกันหมด  มีลายดินแกะสลักทั่วทั้งอัญมณี  และมีรูปเมฆฝนอยู่ด้านบน
          “ ข้าเรียกเจ้าแล้วทำไมไม่ออกมาเปิดประตู ”  เทพโซกาสถามด้วยความโมโห
          “ จำเป็นหรือไม่  ที่ต้องฟังคำสั่งของท่าน ”  เมโทรย้อนถาม
          “ แต่ข้านำคำสั่งจากท่านลาลอสมานะ ”
          “ ก็ออกมาแล้วนี่ไงล่ะ  มีอะไร  เห็นบอกจะเอาเด็กมาฝากไว้ให้ข้าเลี้ยง  ไหนล่ะ  เอามาให้แล้วเจ้าก็รีบกลับไป  ข้าไม่อยากจะสร้างเรื่องราวให้มันใหญ่โต  เดี๋ยวจะทำให้เจ้าอับอายพวกราษฎรมากกว่านี้อีก ”
          เทพโซกาสหน้าแดงจัดด้วยความโกรธ  แต่ก็ต้องระงับเอาไว้  เพราะอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างที่เมโทรพูดได้  เขาคิด  ‘ ข้าเป็นถึงหัวหน้าผู้ดูแลความเรียบร้อยของอาณาจักรนี้  จะมามัวใส่ใจกับราษฎรผู้ซึ่งไม่เอาไหนอย่างนี้ทำไม ’
          “ นี่คือซีโอล  เจ้าต้องดูแลเขาให้ดี  ไม่อย่างนั้นเทพลาลอสลงโทษเจ้าอย่างสาสมแน่ ”
          “ ไม่ต้องห่วง  ท่านดูแลตัวเองให้ดีด้วยแล้วกัน  ระวัง !  อาจโดนลูกน้องนินทานะ ”
          “ เจ้า . . . เจ้า . . .  ฝากไว้ก่อนเถอะ ”
          เทพโซกาสหันไปหาคนขับรถม้า  “ กลับกันได้แล้ว  ข้ายังมีงานที่ต้องจัดการอีกมากมายในแผนกของข้า ”
          “ โชคดีนะ  โซกาสเพื่อนยาก  ว่าง ๆ ก็แวะมาเยี่ยมข้าบ้างล่ะ ”
          ‘ ไม่มีวัน ’  เทพโซกาสนึกในใจ 
          ชายชราอุ้มหนูน้อยเขาไปในบ้าน  เพ่งดูเข้าไปในดวงตาของเด็ก  ‘ นี่เป็นเด็กที่เกิดจากเทพกับมนุษย์หรือนี่ ’  เขานึกในใจ  ชายชราเริ่มสำรวจไปรอบ ๆ ตัวของเด็ก  แล้วก็ไปสะดุดตากับสร้อยคอ  เขานำมือไปแตะและจะนำมันขึ้นมา  แต่เขากลับนำมันออกมาจากคอไม่ได้  ‘ สงสัยต้องเป็นอัญมณีแห่งเทพเป็นแน่ ’  เขาพึมพำอยู่กับตนเอง  จะเป็นเทพองค์ไหนนะ  ในจำนวนเทพทั้งหมดมีเพียง  9  เทพเท่านั้นที่มีอัญมณีประจำองค์  นั่นคือ  เทพแห่งไฟตาสโดก้า  เทพแห่งน้ำเมซซา  เทพแห่งป่าฟรอส  เทพแห่งสายลมรูกอส  เทพแห่งภูผาเกรน  เทพแห่งดินจักเกน  เทพแห่งสายฟ้าซูน  เทพแห่งแสงสว่างลาลอส  แล้วก็ข้าเทพแห่งความมืดเมโทร  ‘ ย่อมไม่ใช่ข้าและลาลอสแน่  ดังนั้นจึงเหลืออีกเพียง  7  เท่านั้น ’
          “ เจ้าคิดไม่ผิดหรอก  เมโทร ”  ชายชราอีกคนปรากฏตัวพร้อมกับแสงสีขาวที่เปล่งออกมารอบตัว
          “ ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้า  ลาลอส ”  ชายชราอีกคนต้อนรับเพื่อนเก่าด้วยไมตรีจิตที่แสนดี
          อันที่จริงแล้ว  ลาลอสกับเมโทร  เป็นเพื่อนรักกันมานาน  ทั้งสองโตมาด้วยกัน  แต่กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ลาลอสเป็นเทพสีขาว  เป็นเทพที่เทพทั่วไปและแม้กระทั่งมนุษย์ให้ความเคารพนับถือ  กราบไหว้  บูชา  แต่เมโทรเป็นเทพสีดำ  ซึ่งทั้งมนุษย์และเทพด้วยกันต่างรังเกียจ  ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย  ยกเว้นเพียงลาลอสคนเดียวที่ยังเห็นเมโทรเป็นเทพที่น่านับถือ  เป็นเพื่อนรัก  และเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด
          “ เจ้าก่อเรื่องอีกแล้วนะเมโทร  เดี๋ยวเทพทั่วไปก็หาว่าเจ้าเป็นเทพนิสัยไม่ดี  ชอบแกล้งคนที่ด้อยกว่าอีกหรอก ”
          “ เจ้าโซกาสมันคงไปฟ้องล่ะซิ  แต่พูดก็พูดเถอะ  ถึงข้าจะทำตัวดีแค่ไหน  ใครก็ต้องมองว่าข้าชั่วอยู่วันยังค่ำแหละ ”
          “ อย่าว่าตัวเองเลย  เอาเป็นว่า  เจ้าดีเสมอในสายตาของข้าก็แล้วกัน ”
          “ นี่ซิเพื่อนรักของข้า  อืม . . . แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไมล่ะ  อย่าบอกนะว่าจะมาลงโทษข้าที่ไปแกล้งลูกน้องของเจ้า ”
          “ เจ้าพูดเป็นเล่นไปได้  เจ้าก็รู้หนิว่าเข้ามาที่นี่เพื่ออะไร ”
          “ เด็กคนนี้เป็นบุตรของเทพองค์ไหน ”
          “ เทพแห่งน้ำเมซซา ”
          “ งั้นที่สร้อยคอนั้น ”
          “ ถูกแล้ว  นั่นคืออัญมณีน้ำทะเล  อัญมณีที่รวมอำนาจแห่งน้ำไว้  เมซซาได้ถ่ายทอดพลัง  ทั้งหมดไว้ในอัญมณีนั่น  เพื่อที่ว่าจะได้ให้ลูกชายของเขาได้รับพลังอันยิ่งใหญ่และก็คอยดูแล    อาณาจักรปากัสต่อจากเขา  เจ้าไม่สังเกตเลยเหรอว่าทำไม  น้ำในบ่อเลี้ยงปลาของเจ้าถึงได้เงียบสงบผิดปกติ  ก็เพราะนั่นมาจากอำนาจของอัญมณีไง ”
          “ ไม่น่าเชื่อเลย  ทีแรกข้าก็นึกว่า  ปลามันตายไปหมดหลังจากที่ข้ากับเจ้าโซกาสหยอกเล่นกัน  ที่ไหนได้  เป็นเพราะพลังของอัญมณีนี้เอง ”
          “ ข้าฝากซีโอล  บุตรของเมซซา ด้วยนะ ”
          “ ทำไมเจ้าถึงมาให้ข้าเลี้ยงเจ้าเด็กนี้ด้วยล่ะ  แทนที่จะไปให้พ่อแม่ที่แท้จริงเลี้ยง ”
          “ เจ้าลองไปส่องกระจกรัตติกาลของเจ้าดู  แล้วจะรู้เองว่าทำไม ? ”
          “ ก็ได้  งั้นข้าจะรับเลี้ยงเจ้าหนูนี้ไว้  แล้วจะให้ข้าทำอะไรบ้าง ”
          “ ก็แค่ให้เจ้าเลี้ยงดู  คอยให้น้ำทิพย์กับดูแลสภาพบ้านให้มันน่าอยู่ก็เท่านั้นเอง  พอให้โตขึ้นกว่านี้หน่อยแล้วค่อยว่ากันอีกที แต่มีอยู่ 2 เรื่องที่ข้าจะขอ ”  ชายชราทำหน้าเคร่งขรึมหนักเข้าไปอีก
          “ ห้ามบอกให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเจ้ารับเด็กคนนี้มาเลี้ยง  และห้ามทิ้งเด็กไว้ในบ้านคนเดียว  เด็ดขาด ”
          “ ข้ารู้เหตุผลดีพออยู่แล้ว  ไม่ต้องกังวลหรอก  แต่ข้าขอถามอีกครั้งว่า  ทำไมต้องเป็นข้า  เทพมีตั้งมากมาย  ทำไมต้องระบุว่าเป็นข้าด้วย ”
          “ เจ้าไม่รู้หรือแกล้งกันแน่ ”
          “ อันนี้ข้าไม่รู้จริง ๆ ”
          “ ท่านเป็นเทพเพียงองค์เดียวที่อยู่ห่างไกลจากผู้คน  จึงไม่ต้องระแวงว่าจะเกิดอันตรายจากพวกมนุษย์  อีกอย่าง  ท่านก็เป็นเทพที่เก่งที่สุดในอาณาจักรเนสโตนี้  จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีอันตรายจากเทพด้วยกัน  แต่ก็อย่าประมาทไปนะ  ท่านเป็นคนฉลาด  ท่านน่าจะรู้ดีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับอาณาจักรเทพของเรา ”
          “ ท่านหมายถึง  Death  Zone  หรือ ”
          “ ใช่แล้ว  ข้ารู้สึกว่ามีพลังอันชั่วร้ายได้ก่อตัวขึ้นมา  ตอนนี้เหล่ามวลเทพทั้งหมดก็กำลังประชุมกันอยู่    ข้ามีอะไรจะให้เจ้าดู ”
          จากนั้น  เทพลาลอสก็ยกมือขึ้นตรง  นิ้วชี้ประกบติดกัน  เคลื่อนนิ้วชี้ออกไปเป็นแนวเส้นตรง  แล้ววกกลับลงมาจนเกือบถึงพื้น  วกนิ้วชี้มาประกบกันอีกครั้งหนึ่ง  ต่อมาก็ก้าวถอยหลังออกไป  3  ก้าว  พร้อมกับร่ายมนต์
          “ ด้วยอำนาจแห่งเทพ  ประตูแห่งแสงจงเปิดออก ”
          ทันใดนั้นเองก็มีแสงสีขาวนวลเรืองออกมาจากกรอบสี่เหลี่ยมนั่น  เผยให้เห็นภาพที่อยู่ภายใน  มันเป็นภาพที่ไม่สามารถบรรยายถึงความน่ากลัวได้  หมอกความมืดกำลังปกคลุม  Death  Zone  มีร่างเล็ก ๆ มากมายอยู่บนพื้นดินเต็มไปหมด  กระจกไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสัตว์ประเภทไหน  เพราะถูกอาคมดำบังตาไว้  บอกได้แค่เพียงเป็นสัตว์ตัวดำกำลังเคลื่อนย้ายไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาที่เหล่าทวยเทพเรียกว่า  ปราสาทมฤตยู
          “ มีตำนานเล่าว่า  มีอสูรกายยักษ์อาศัยอยู่  ณ  ที่นั่น  และมีบริวารเป็นสัตว์ประหลาดต่าง ๆ มากมาย  นี่แหละคือภาพที่ข้าอยากให้เจ้าได้ดู  เพราะไม่แน่ว่า  อาจจะมีวันที่พวกเทพจะต้องเข้าไปทำลายมันก็เป็นได้ ”
          “ ในเมื่อเรารู้ว่ามันกำลังสะสมกองทัพอสูรปีศาจ  ทำไมเราไม่ร่วมมือไปทำลายมันเสียตั้งแต่แรกล่ะ  และข้าก็ไม่เห็นรู้เรื่องพวกนี้เลย  ทำไมไม่มีใครคิดจะมาบอกข้าบ้างล่ะ ”  เทพเมโทรถาม
          “ ไม่แปลกหรอกที่ไม่มีใครมาบอกท่าน  เพราะคนที่รู้เรื่องนี้มีข้าเพียงคนเดียว ”
          “ แล้วท่านรู้ได้ไงล่ะ ”
          “ อัญมณีจะส่งพลังถึงกันและกันอยู่  ข้าคิดว่าท่านก็คงสัมผัสพลังเหล่านั้นได้นะ ”
          “ ข้าสัมผัสได้อยู่แล้ว  ว่าแต่  การจะสัมผัสพลังได้ก็ต้องเกิดจากการที่มีเทพใช้อัญมณี  ข้ายังไม่ได้ใช้พลังแห่งอัญมณีเทพ  ซีโอลก็ยังเล็กเกินไปที่จะใช้  แล้วท่านล่ะ  สัมผัสพลังนั้นได้อย่างไร ”
          “ เจ้ารู้หรือไม่ว่า  อัญมณีแห่งเทพมีทั้งหมดกี่ชิ้น ”
          “ 9  ชิ้นไง  อืม . . .  ไม่สิ  มี  10  ชิ้น  แต่ข้าจำได้ว่า  ชิ้นที่  10  มันหายสาบสูญไปตั้งนานแล้วนะ  หรือท่านจะบอกว่า  ท่านพบแล้วว่าอัญมณีชิ้นที่  10  อยู่กับผู้ใด ”
          เทพลาลอสเงียบไปชั่วครูหนึ่ง  แววตาอันเคร่งครึมของเขา  ทำให้เทพเมโทรระงับความสงสัยไว้ไม่อยู่
          “ ท่านอย่าบอกนะว่า . . . . ”
          “ ข้าเรียกเจ้าแล้วทำไมไม่ออกมาเปิดประตู ”  เทพโซกาสถามด้วยความโมโห
          “ จำเป็นหรือไม่  ที่ต้องฟังคำสั่งของท่าน ”  เมโทรย้อนถาม
          “ แต่ข้านำคำสั่งจากท่านลาลอสมานะ ”
          “ ก็ออกมาแล้วนี่ไงล่ะ  มีอะไร  เห็นบอกจะเอาเด็กมาฝากไว้ให้ข้าเลี้ยง  ไหนล่ะ  เอามาให้แล้วเจ้าก็รีบกลับไป  ข้าไม่อยากจะสร้างเรื่องราวให้มันใหญ่โต  เดี๋ยวจะทำให้เจ้าอับอายพวกราษฎรมากกว่านี้อีก ”
          เทพโซกาสหน้าแดงจัดด้วยความโกรธ  แต่ก็ต้องระงับเอาไว้  เพราะอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างที่เมโทรพูดได้  เขาคิด  ‘ ข้าเป็นถึงหัวหน้าผู้ดูแลความเรียบร้อยของอาณาจักรนี้  จะมามัวใส่ใจกับราษฎรผู้ซึ่งไม่เอาไหนอย่างนี้ทำไม ’
          “ นี่คือซีโอล  เจ้าต้องดูแลเขาให้ดี  ไม่อย่างนั้นเทพลาลอสลงโทษเจ้าอย่างสาสมแน่ ”
          “ ไม่ต้องห่วง  ท่านดูแลตัวเองให้ดีด้วยแล้วกัน  ระวัง !  อาจโดนลูกน้องนินทานะ ”
          “ เจ้า . . . เจ้า . . .  ฝากไว้ก่อนเถอะ ”
          เทพโซกาสหันไปหาคนขับรถม้า  “ กลับกันได้แล้ว  ข้ายังมีงานที่ต้องจัดการอีกมากมายในแผนกของข้า ”
          “ โชคดีนะ  โซกาสเพื่อนยาก  ว่าง ๆ ก็แวะมาเยี่ยมข้าบ้างล่ะ ”
          ‘ ไม่มีวัน ’  เทพโซกาสนึกในใจ 
          ชายชราอุ้มหนูน้อยเขาไปในบ้าน  เพ่งดูเข้าไปในดวงตาของเด็ก  ‘ นี่เป็นเด็กที่เกิดจากเทพกับมนุษย์หรือนี่ ’  เขานึกในใจ  ชายชราเริ่มสำรวจไปรอบ ๆ ตัวของเด็ก  แล้วก็ไปสะดุดตากับสร้อยคอ  เขานำมือไปแตะและจะนำมันขึ้นมา  แต่เขากลับนำมันออกมาจากคอไม่ได้  ‘ สงสัยต้องเป็นอัญมณีแห่งเทพเป็นแน่ ’  เขาพึมพำอยู่กับตนเอง  จะเป็นเทพองค์ไหนนะ  ในจำนวนเทพทั้งหมดมีเพียง  9  เทพเท่านั้นที่มีอัญมณีประจำองค์  นั่นคือ  เทพแห่งไฟตาสโดก้า  เทพแห่งน้ำเมซซา  เทพแห่งป่าฟรอส  เทพแห่งสายลมรูกอส  เทพแห่งภูผาเกรน  เทพแห่งดินจักเกน  เทพแห่งสายฟ้าซูน  เทพแห่งแสงสว่างลาลอส  แล้วก็ข้าเทพแห่งความมืดเมโทร  ‘ ย่อมไม่ใช่ข้าและลาลอสแน่  ดังนั้นจึงเหลืออีกเพียง  7  เท่านั้น ’
          “ เจ้าคิดไม่ผิดหรอก  เมโทร ”  ชายชราอีกคนปรากฏตัวพร้อมกับแสงสีขาวที่เปล่งออกมารอบตัว
          “ ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้า  ลาลอส ”  ชายชราอีกคนต้อนรับเพื่อนเก่าด้วยไมตรีจิตที่แสนดี
          อันที่จริงแล้ว  ลาลอสกับเมโทร  เป็นเพื่อนรักกันมานาน  ทั้งสองโตมาด้วยกัน  แต่กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ลาลอสเป็นเทพสีขาว  เป็นเทพที่เทพทั่วไปและแม้กระทั่งมนุษย์ให้ความเคารพนับถือ  กราบไหว้  บูชา  แต่เมโทรเป็นเทพสีดำ  ซึ่งทั้งมนุษย์และเทพด้วยกันต่างรังเกียจ  ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย  ยกเว้นเพียงลาลอสคนเดียวที่ยังเห็นเมโทรเป็นเทพที่น่านับถือ  เป็นเพื่อนรัก  และเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด
          “ เจ้าก่อเรื่องอีกแล้วนะเมโทร  เดี๋ยวเทพทั่วไปก็หาว่าเจ้าเป็นเทพนิสัยไม่ดี  ชอบแกล้งคนที่ด้อยกว่าอีกหรอก ”
          “ เจ้าโซกาสมันคงไปฟ้องล่ะซิ  แต่พูดก็พูดเถอะ  ถึงข้าจะทำตัวดีแค่ไหน  ใครก็ต้องมองว่าข้าชั่วอยู่วันยังค่ำแหละ ”
          “ อย่าว่าตัวเองเลย  เอาเป็นว่า  เจ้าดีเสมอในสายตาของข้าก็แล้วกัน ”
          “ นี่ซิเพื่อนรักของข้า  อืม . . . แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไมล่ะ  อย่าบอกนะว่าจะมาลงโทษข้าที่ไปแกล้งลูกน้องของเจ้า ”
          “ เจ้าพูดเป็นเล่นไปได้  เจ้าก็รู้หนิว่าเข้ามาที่นี่เพื่ออะไร ”
          “ เด็กคนนี้เป็นบุตรของเทพองค์ไหน ”
          “ เทพแห่งน้ำเมซซา ”
          “ งั้นที่สร้อยคอนั้น ”
          “ ถูกแล้ว  นั่นคืออัญมณีน้ำทะเล  อัญมณีที่รวมอำนาจแห่งน้ำไว้  เมซซาได้ถ่ายทอดพลัง  ทั้งหมดไว้ในอัญมณีนั่น  เพื่อที่ว่าจะได้ให้ลูกชายของเขาได้รับพลังอันยิ่งใหญ่และก็คอยดูแล    อาณาจักรปากัสต่อจากเขา  เจ้าไม่สังเกตเลยเหรอว่าทำไม  น้ำในบ่อเลี้ยงปลาของเจ้าถึงได้เงียบสงบผิดปกติ  ก็เพราะนั่นมาจากอำนาจของอัญมณีไง ”
          “ ไม่น่าเชื่อเลย  ทีแรกข้าก็นึกว่า  ปลามันตายไปหมดหลังจากที่ข้ากับเจ้าโซกาสหยอกเล่นกัน  ที่ไหนได้  เป็นเพราะพลังของอัญมณีนี้เอง ”
          “ ข้าฝากซีโอล  บุตรของเมซซา ด้วยนะ ”
          “ ทำไมเจ้าถึงมาให้ข้าเลี้ยงเจ้าเด็กนี้ด้วยล่ะ  แทนที่จะไปให้พ่อแม่ที่แท้จริงเลี้ยง ”
          “ เจ้าลองไปส่องกระจกรัตติกาลของเจ้าดู  แล้วจะรู้เองว่าทำไม ? ”
          “ ก็ได้  งั้นข้าจะรับเลี้ยงเจ้าหนูนี้ไว้  แล้วจะให้ข้าทำอะไรบ้าง ”
          “ ก็แค่ให้เจ้าเลี้ยงดู  คอยให้น้ำทิพย์กับดูแลสภาพบ้านให้มันน่าอยู่ก็เท่านั้นเอง  พอให้โตขึ้นกว่านี้หน่อยแล้วค่อยว่ากันอีกที แต่มีอยู่ 2 เรื่องที่ข้าจะขอ ”  ชายชราทำหน้าเคร่งขรึมหนักเข้าไปอีก
          “ ห้ามบอกให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเจ้ารับเด็กคนนี้มาเลี้ยง  และห้ามทิ้งเด็กไว้ในบ้านคนเดียว  เด็ดขาด ”
          “ ข้ารู้เหตุผลดีพออยู่แล้ว  ไม่ต้องกังวลหรอก  แต่ข้าขอถามอีกครั้งว่า  ทำไมต้องเป็นข้า  เทพมีตั้งมากมาย  ทำไมต้องระบุว่าเป็นข้าด้วย ”
          “ เจ้าไม่รู้หรือแกล้งกันแน่ ”
          “ อันนี้ข้าไม่รู้จริง ๆ ”
          “ ท่านเป็นเทพเพียงองค์เดียวที่อยู่ห่างไกลจากผู้คน  จึงไม่ต้องระแวงว่าจะเกิดอันตรายจากพวกมนุษย์  อีกอย่าง  ท่านก็เป็นเทพที่เก่งที่สุดในอาณาจักรเนสโตนี้  จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีอันตรายจากเทพด้วยกัน  แต่ก็อย่าประมาทไปนะ  ท่านเป็นคนฉลาด  ท่านน่าจะรู้ดีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับอาณาจักรเทพของเรา ”
          “ ท่านหมายถึง  Death  Zone  หรือ ”
          “ ใช่แล้ว  ข้ารู้สึกว่ามีพลังอันชั่วร้ายได้ก่อตัวขึ้นมา  ตอนนี้เหล่ามวลเทพทั้งหมดก็กำลังประชุมกันอยู่    ข้ามีอะไรจะให้เจ้าดู ”
          จากนั้น  เทพลาลอสก็ยกมือขึ้นตรง  นิ้วชี้ประกบติดกัน  เคลื่อนนิ้วชี้ออกไปเป็นแนวเส้นตรง  แล้ววกกลับลงมาจนเกือบถึงพื้น  วกนิ้วชี้มาประกบกันอีกครั้งหนึ่ง  ต่อมาก็ก้าวถอยหลังออกไป  3  ก้าว  พร้อมกับร่ายมนต์
          “ ด้วยอำนาจแห่งเทพ  ประตูแห่งแสงจงเปิดออก ”
          ทันใดนั้นเองก็มีแสงสีขาวนวลเรืองออกมาจากกรอบสี่เหลี่ยมนั่น  เผยให้เห็นภาพที่อยู่ภายใน  มันเป็นภาพที่ไม่สามารถบรรยายถึงความน่ากลัวได้  หมอกความมืดกำลังปกคลุม  Death  Zone  มีร่างเล็ก ๆ มากมายอยู่บนพื้นดินเต็มไปหมด  กระจกไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสัตว์ประเภทไหน  เพราะถูกอาคมดำบังตาไว้  บอกได้แค่เพียงเป็นสัตว์ตัวดำกำลังเคลื่อนย้ายไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาที่เหล่าทวยเทพเรียกว่า  ปราสาทมฤตยู
          “ มีตำนานเล่าว่า  มีอสูรกายยักษ์อาศัยอยู่  ณ  ที่นั่น  และมีบริวารเป็นสัตว์ประหลาดต่าง ๆ มากมาย  นี่แหละคือภาพที่ข้าอยากให้เจ้าได้ดู  เพราะไม่แน่ว่า  อาจจะมีวันที่พวกเทพจะต้องเข้าไปทำลายมันก็เป็นได้ ”
          “ ในเมื่อเรารู้ว่ามันกำลังสะสมกองทัพอสูรปีศาจ  ทำไมเราไม่ร่วมมือไปทำลายมันเสียตั้งแต่แรกล่ะ  และข้าก็ไม่เห็นรู้เรื่องพวกนี้เลย  ทำไมไม่มีใครคิดจะมาบอกข้าบ้างล่ะ ”  เทพเมโทรถาม
          “ ไม่แปลกหรอกที่ไม่มีใครมาบอกท่าน  เพราะคนที่รู้เรื่องนี้มีข้าเพียงคนเดียว ”
          “ แล้วท่านรู้ได้ไงล่ะ ”
          “ อัญมณีจะส่งพลังถึงกันและกันอยู่  ข้าคิดว่าท่านก็คงสัมผัสพลังเหล่านั้นได้นะ ”
          “ ข้าสัมผัสได้อยู่แล้ว  ว่าแต่  การจะสัมผัสพลังได้ก็ต้องเกิดจากการที่มีเทพใช้อัญมณี  ข้ายังไม่ได้ใช้พลังแห่งอัญมณีเทพ  ซีโอลก็ยังเล็กเกินไปที่จะใช้  แล้วท่านล่ะ  สัมผัสพลังนั้นได้อย่างไร ”
          “ เจ้ารู้หรือไม่ว่า  อัญมณีแห่งเทพมีทั้งหมดกี่ชิ้น ”
          “ 9  ชิ้นไง  อืม . . .  ไม่สิ  มี  10  ชิ้น  แต่ข้าจำได้ว่า  ชิ้นที่  10  มันหายสาบสูญไปตั้งนานแล้วนะ  หรือท่านจะบอกว่า  ท่านพบแล้วว่าอัญมณีชิ้นที่  10  อยู่กับผู้ใด ”
          เทพลาลอสเงียบไปชั่วครูหนึ่ง  แววตาอันเคร่งครึมของเขา  ทำให้เทพเมโทรระงับความสงสัยไว้ไม่อยู่
          “ ท่านอย่าบอกนะว่า . . . . ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น