ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กำเนิดแห่งเทพ
          ณ  ดินแดนใกล้โพ้นจากชายฝั่งทะเลสีขาว  ซึ่งตัดกับฟ้าสีดำทมึนราวกับค่ำคืนนี้จะเกิดพายุใหญ่  คลื่นน้ำทะเลต่างม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นพร้อมที่จะทลวงชายฝั่งให้พังทลายราบเป็นหน้ากอง  เกาะน้อยใหญ่หลายแห่งต่างผจญกับมรสุมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา  โดยไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร  ทันใดนั้นเอง
          “ เจ้าทั้งสองทำผิดกฎแห่งเทพ ”  เสียงคำรามก้องฟ้าแทรกผ่านบรรยากาศลงมา
          “ ท่านโปรดเมตตาเราด้วยเถิด  เรารักกันจริง ๆ ”  หญิงสาวขอร้องด้วยเสียงอันอ่อนล้า  และเพลียมากจากการให้กำเนิดบุตรแห่งเทพ 
          ชายชราครุ่นคิดหนักไม่คิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นมา  พร้อม ๆ กับความสงสารที่มีมาเพิ่มขึ้นในหัวใจ  แต่การผิดกฎแห่งเทพก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาให้อภัยหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้
          “ เทพเมซซา  ท่านเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล  ท่านก็น่าจะรู้ดีว่า  การทำผิดกฎแห่งเทพ  จะส่งผลกระทบมากมายเพียงใด  ท่านลองมอบไปรอบ ๆ สิ  ท่านเห็นไหม  อาณาจักรของท่าน  อาณาจักร  ปากัสกำลังจะถูกเกลียวคลื่นแห่งความผิดทำลายลง  ท่านเห็นเพียงแค่ความรู้สึกของพวกท่านเอง  โดยไม่คิดถึงราษฎรของท่านเลยหรือ ”
          “ แต่ . . . . ”  เทพเมซซากำลังจะตอบ แต่ถูกตัดบทโดยชายชราอีกครั้ง
          “ ข้าจำเป็นต้องพาลูกของท่านไป  เพราะ  เขาเป็นบุตรที่เกิดจากเทพและมนุษย์  เขาจึงต้องไปอยู่บนโลกมนุษย์  ไม่สามารถมาอยู่ในอาณาจักรแห่งเทพได้ ”
          “ แล้วลูกของข้าจะทำอย่างไร  เขาจะดูแลตัวเองได้อย่างไรท่าน  เขามีอายุยังไม่ถึง  1  วันเลยด้วยซ้ำ  ใครจะคอยป้อนน้ำทิพย์  ดูแลเมื่อยามเจ็บไข้  หรือให้ความรักที่เขาพึงได้รับจากพ่อและแม่ของเขา ”  เทพเมซซาถาม
          “ เรื่องนี้พวกท่านวางใจได้  ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไรกับลูกของท่าน  ข้าจะพาเขาไปหาคนที่พร้อมจะให้ทั้งความรักและความเอ็นดูกับหนูน้อยนี้ ”
          “ ขอบคุณมากเทพลาลอส ”
          “ เรื่องของเจ้าหนูน้อยนี้จบไปแล้ว  ต่อไปข้าคงต้องลงโทษตามมติแห่งเทพว่าด้วยการทำผิดกฎข้อที่  26  ของเทพเมซซา  และข้อที่  62  ของภรรยาท่าน  พวกท่านจะต้องถูกนำตัวไปขังไว้ที่เขารัตติกาลมืด  เป็นเวลา  12  ปี ”
          “ เดี๋ยวท่าน ”  เทพเมซซาพูดขึ้น
          แสงสีฟ้าครามเปล่งออกมาจากอัญมณีที่เทพเมซซาถือครองอยู่  ภายนอกอัญมณีมีรูปเกลียวคลื่นแกะสลักอยู่บริเวณฐานด้านล่าง  มีตัวอักษร  L  สีฟ้าเข้มอยู่ภายใน  ด้านบนเป็นแผนที่แสดงอาณาเขตของอาณาจักรปากัสทั้งหมด  และยังมีสายน้ำไหลวนไปเวียนมาอยู่ภายใน  เผยให้เห็นถึงอำนาจของอัญมณีสีฟ้านี้
          “ นี่คือสัญลักษณ์แห่งเทพ  ผู้ที่ถือครองสามารถละเว้นโทษที่ตนจะได้รับได้  1  ครั้ง  ข้าขอมอบอัญมณีแห่งเทพนี้ให้กับภรรยาข้า  เพื่อนางจะไม่ต้องรับโทษ ”
          “ เทพเมซซา  ข้าซึ้งในน้ำใจของท่านนัก  แต่ในเมื่อข้ารักท่านแล้ว  ข้าก็พร้อมที่จะผจญอันตราย  สู้ชีวิตร่วมกับท่าน  ในเมื่อข้ามีส่วนร่วมในความผิด  ข้าก็ขอรับความผิดนั้นด้วย ”  นางตอบกลับมา
          “ ข้าประทับใจตัวเจ้าจริง ๆ ”  เทพเมซซากล่าว
          “ เจ้าควรมอบอัญมณีแห่งเทพให้กับลูกชายของเจ้าดีกว่านะ  เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจของความรักที่พวกเจ้ามีให้กัน ”
          เทพเมซซาเห็นด้วย จึงนำอัญมณีคล้องลงไปที่คอของบุตรแห่งเทพ ทันทีที่สร้อยคออัญมณีได้ลงไปนั้น  แสงสีฟ้าก็หลันหายไป  เหลือเป็นเพียงแค่สร้อยคล้องคอที่มีเม็ดสีฟ้าเล็ก ๆ ประดับอยู่เท่านั้นเอง
          “ แล้วพบกันใหม่นะลูกรัก . . . . ซีโอล ”
          ซีโอลได้ถูกนำตัวออกจากอาณาจักรปากัส  ไปยังดินแดนที่พวกเทพขนานนามว่า  โลปาส  เป็นดินแดนของพวกมนุษย์  พร้อม ๆ กันนั้น  เทพเมซซาและภรรยาก็ถูกนำตัวไปยังเขารัตติกาลมืด  โลปาส  ดินแดนแห่งนี้แบ่งออกเป็นหลายส่วนซึ่งแต่ละส่วนจะปกครองกันเองในแต่ละผู้ครองเมือง  แบ่งออกเป็น  3  เขตใหญ่  คือ  ปีต้า  วาสโซ  และ  เมลาดูก้า    ดินแดนทั้งสามนี้ก็เปรียบเหมือนคน  3  จำพวก  ที่มีวัฒนธรรมการดำรงชีวิตแตกต่างกันออกไป    เมืองปีต้า  เป็นเมืองแห่งความเจริญ  มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย  แต่มากไปด้วยมลพิษและอันตรายรอบด้าน    เมืองวาสโซ  เป็นเมืองของพวกค้าขาย  อาหารทุกอย่างที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของทั้งโลปาส  มักจะมาจากแห่งนี้ทั้งหมด    สุดท้ายคือเมลาดูก้า  เป็นเมืองแห่งชนบทที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและความน่าลึกลับของทุกสรรพสิ่ง  เป็นดินแดนแห่งป่านรก  ที่ร่ำลือกันว่าเป็นที่พักอยู่ของเทพแห่งความตาย  ดินแดนแห่งนี้จึงถูกขนานนามว่า  Death  Zone    แต่ภายในดินแดนแห่งนี้กลับมีดินแดนสำหรับเทพด้วย  ไม่มีผู้คนใดรู้นอกจากเทพด้วยกันเท่านั้น  ภายนอกดินแดนแห่งนี้ก็เป็นเพียงหมู่บ้านหนึ่ง    เท่านั้น  มีการเลี้ยงสัตว์และทำการเกษตรทั่วไป  ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกเนรมิตขึ้นมาจากเทพลาลอส  แต่ภายในจะเป็นที่ชุมนุมของเหล่าเทพและเป็นที่ใช้สำหรับติดต่อไปยังอาณาจักรต่าง ๆ
   
          แสงเรืองสีทองสว่างอยู่หน้าแท่นพิธีกรรม  พลันปรากฏเป็นร่างชายชรา  ใส่ชุดคลุมสีขาว  แว่นตาเป็นรูปเหลี่ยม  มองดูแล้วน่าเกรงขาม  มือขวาถือไม้เท้ายาวพอ ๆ กับความสูงของเขา  ส่วนมือซ้ายอุ้มเด็กทารกที่ตอนนี้หลับอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเทพผู้ยิ่งใหญ่
          “ ยินดีต้อนรับกลับสู่อาณาจักรเนสโต  ท่านเทพลาลอส ”  ชายสูงอายุคนหนึ่งลุกขึ้นกล่าวต้อนรับ  พร้อมกับแววตาประหลาดใจในสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
          “ ขอบใจเทพโซกาส  วันนี้ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องท่านหน่อย  นี่คือซีโอล  บุตรชายของเทพเมซซาและนางออสมา  ข้าต้องการให้ท่านนำเขาไปอยู่กับชายชรานามว่า  เมโทร  ข้าคิดว่านั้นเป็นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหนูน้อยผู้นี้ ”
          “ ข้าจะทำตามคำบัญชา ”
          แล้วเทพโซกาสก็ขึ้นรถม้าพาหนูน้อยซีโอลไปยังบ้านของชายชราเมโทร  พร้อม ๆ กับการหายตัวไปของเทพลาลอส
          รถม้าวิ่งไปได้ระยะทางหลายกิโลเมตรแล้ว  แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะหยุด ‘ ทำไมถึงให้พาไปที่บ้านชายชราคนนี้นะ ’  เทพโซกาสสงสัยอยู่ภายในใจ
          ชายชราเมโทร  คนในหมู่บ้านเรียกขนานนามชายชราผู้นี้ว่า  พ่อมดไร้น้ำใจ  เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวที่สุด  จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม  บ้านของเขาถึงอยู่ไกลจากผู้คนเช่นนี้  เพราะเขามีนิสัยขี้ขโมยและไม่เคยแบ่งปันน้ำใจให้กับผู้ใดเลย  บ้านของเขาเป็นบ้านไม้สองขั้นที่มีรอยผุที่เกิดจากน้ำฝนมากมายนับไม่ถ้วน  ทุ่งหญ้าบริเวณรอบบ้านก็ตายหมดเนื่องมาจากขาดการดูแลเอาใจใส่  ไม่มีสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน  แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ  ไม่มีแม้กระทั่งเสียงนกบินผ่านเลย  อาจมีบ้างก็แค่เสียงฝนตกลงในหลุมหน้าบ้านที่มีปลาเพียง 2 3  ตัวเท่านั้นเอง  ไม่มีผู้ใดรู้เหมือนกันว่าทำไม  แต่ก็มีคนสันนิษฐานไปต่าง ๆ นา ๆ  ว่าชายชราคนนี้เป็นสมุนของซาตานบ้างล่ะ  เป็นซาตานในคราบมนุษย์บ้างล่ะ  แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าพิสูจน์เสียที  ข้อสงสัยเหล่านี้จึงยังคงอยู่ภายในใจของผู้คน    อาณาจักรเนสโตต่อไป
          “ ถึงสักที  พวกเจ้ารอข้าอยู่นี่ก่อนนะ  เดี๋ยวข้าจะกลับมา ”  เทพโซกาสบอกคนขับรถม้า
          “ เมโทร  เจ้าอยู่หรือเปล่า  ข้าเทพโซกาส  หัวหน้าผู้ดูแลความเรียบร้อยของอาณาจักร    เนสโต  ได้รับบัญชาจากเทพลาลอส  ให้นำตัวเด็กน้อยนามว่าซีโอลมาอยู่กับเจ้า ”
          ไร้เสียงการตอบรับจากเจ้าของบ้าน  ยิ่งทำให้อารมณ์เดือดของเทพโซกาสมากยิ่งขึ้น  ทั้ง ๆ ที่เหนื่อยจากการเดินทางมาร่วม  100  กิโลเมตร
          “ ถ้าเจ้าไม่ออกมาพบข้า  อย่าหาว่าข้าทำรุนแรงนะ ”
          ไร้เสียงการตอบกลับอีกครั้ง
          เทพโซกาสประกบมือเป็นรูปสามเหลี่ยม  พร้อมกับร่ายมนต์คาถา 
          “ ด้วยอำนาจแห่งเทพ  ประตูจงเปิดออก ณ บัดนี้ ”
          “ ด้วยอำนาจแห่งเทพ  มนต์จงสลายไป ”  เสียงหนึ่งตอบกลับมาจากภายในประตูบ้าน  พร้อมกับเสียงหัวเราะแห่งความสะใจที่สามารถทำให้เทพโซกาส  ผู้ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเทพลาลอสอับอายอย่างไม่เป็นท่า
          แกร็ก . . . แกร็ก . . . แกร็ก
          ประตูสีดำบานใหญ่เปิดออก  เผยให้เห็นชายชรานามว่า  เมโทร  อยู่ภายใน
          “ เจ้าทั้งสองทำผิดกฎแห่งเทพ ”  เสียงคำรามก้องฟ้าแทรกผ่านบรรยากาศลงมา
          “ ท่านโปรดเมตตาเราด้วยเถิด  เรารักกันจริง ๆ ”  หญิงสาวขอร้องด้วยเสียงอันอ่อนล้า  และเพลียมากจากการให้กำเนิดบุตรแห่งเทพ 
          ชายชราครุ่นคิดหนักไม่คิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นมา  พร้อม ๆ กับความสงสารที่มีมาเพิ่มขึ้นในหัวใจ  แต่การผิดกฎแห่งเทพก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาให้อภัยหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้
          “ เทพเมซซา  ท่านเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล  ท่านก็น่าจะรู้ดีว่า  การทำผิดกฎแห่งเทพ  จะส่งผลกระทบมากมายเพียงใด  ท่านลองมอบไปรอบ ๆ สิ  ท่านเห็นไหม  อาณาจักรของท่าน  อาณาจักร  ปากัสกำลังจะถูกเกลียวคลื่นแห่งความผิดทำลายลง  ท่านเห็นเพียงแค่ความรู้สึกของพวกท่านเอง  โดยไม่คิดถึงราษฎรของท่านเลยหรือ ”
          “ แต่ . . . . ”  เทพเมซซากำลังจะตอบ แต่ถูกตัดบทโดยชายชราอีกครั้ง
          “ ข้าจำเป็นต้องพาลูกของท่านไป  เพราะ  เขาเป็นบุตรที่เกิดจากเทพและมนุษย์  เขาจึงต้องไปอยู่บนโลกมนุษย์  ไม่สามารถมาอยู่ในอาณาจักรแห่งเทพได้ ”
          “ แล้วลูกของข้าจะทำอย่างไร  เขาจะดูแลตัวเองได้อย่างไรท่าน  เขามีอายุยังไม่ถึง  1  วันเลยด้วยซ้ำ  ใครจะคอยป้อนน้ำทิพย์  ดูแลเมื่อยามเจ็บไข้  หรือให้ความรักที่เขาพึงได้รับจากพ่อและแม่ของเขา ”  เทพเมซซาถาม
          “ เรื่องนี้พวกท่านวางใจได้  ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไรกับลูกของท่าน  ข้าจะพาเขาไปหาคนที่พร้อมจะให้ทั้งความรักและความเอ็นดูกับหนูน้อยนี้ ”
          “ ขอบคุณมากเทพลาลอส ”
          “ เรื่องของเจ้าหนูน้อยนี้จบไปแล้ว  ต่อไปข้าคงต้องลงโทษตามมติแห่งเทพว่าด้วยการทำผิดกฎข้อที่  26  ของเทพเมซซา  และข้อที่  62  ของภรรยาท่าน  พวกท่านจะต้องถูกนำตัวไปขังไว้ที่เขารัตติกาลมืด  เป็นเวลา  12  ปี ”
          “ เดี๋ยวท่าน ”  เทพเมซซาพูดขึ้น
          แสงสีฟ้าครามเปล่งออกมาจากอัญมณีที่เทพเมซซาถือครองอยู่  ภายนอกอัญมณีมีรูปเกลียวคลื่นแกะสลักอยู่บริเวณฐานด้านล่าง  มีตัวอักษร  L  สีฟ้าเข้มอยู่ภายใน  ด้านบนเป็นแผนที่แสดงอาณาเขตของอาณาจักรปากัสทั้งหมด  และยังมีสายน้ำไหลวนไปเวียนมาอยู่ภายใน  เผยให้เห็นถึงอำนาจของอัญมณีสีฟ้านี้
          “ นี่คือสัญลักษณ์แห่งเทพ  ผู้ที่ถือครองสามารถละเว้นโทษที่ตนจะได้รับได้  1  ครั้ง  ข้าขอมอบอัญมณีแห่งเทพนี้ให้กับภรรยาข้า  เพื่อนางจะไม่ต้องรับโทษ ”
          “ เทพเมซซา  ข้าซึ้งในน้ำใจของท่านนัก  แต่ในเมื่อข้ารักท่านแล้ว  ข้าก็พร้อมที่จะผจญอันตราย  สู้ชีวิตร่วมกับท่าน  ในเมื่อข้ามีส่วนร่วมในความผิด  ข้าก็ขอรับความผิดนั้นด้วย ”  นางตอบกลับมา
          “ ข้าประทับใจตัวเจ้าจริง ๆ ”  เทพเมซซากล่าว
          “ เจ้าควรมอบอัญมณีแห่งเทพให้กับลูกชายของเจ้าดีกว่านะ  เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจของความรักที่พวกเจ้ามีให้กัน ”
          เทพเมซซาเห็นด้วย จึงนำอัญมณีคล้องลงไปที่คอของบุตรแห่งเทพ ทันทีที่สร้อยคออัญมณีได้ลงไปนั้น  แสงสีฟ้าก็หลันหายไป  เหลือเป็นเพียงแค่สร้อยคล้องคอที่มีเม็ดสีฟ้าเล็ก ๆ ประดับอยู่เท่านั้นเอง
          “ แล้วพบกันใหม่นะลูกรัก . . . . ซีโอล ”
          ซีโอลได้ถูกนำตัวออกจากอาณาจักรปากัส  ไปยังดินแดนที่พวกเทพขนานนามว่า  โลปาส  เป็นดินแดนของพวกมนุษย์  พร้อม ๆ กันนั้น  เทพเมซซาและภรรยาก็ถูกนำตัวไปยังเขารัตติกาลมืด  โลปาส  ดินแดนแห่งนี้แบ่งออกเป็นหลายส่วนซึ่งแต่ละส่วนจะปกครองกันเองในแต่ละผู้ครองเมือง  แบ่งออกเป็น  3  เขตใหญ่  คือ  ปีต้า  วาสโซ  และ  เมลาดูก้า    ดินแดนทั้งสามนี้ก็เปรียบเหมือนคน  3  จำพวก  ที่มีวัฒนธรรมการดำรงชีวิตแตกต่างกันออกไป    เมืองปีต้า  เป็นเมืองแห่งความเจริญ  มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย  แต่มากไปด้วยมลพิษและอันตรายรอบด้าน    เมืองวาสโซ  เป็นเมืองของพวกค้าขาย  อาหารทุกอย่างที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของทั้งโลปาส  มักจะมาจากแห่งนี้ทั้งหมด    สุดท้ายคือเมลาดูก้า  เป็นเมืองแห่งชนบทที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและความน่าลึกลับของทุกสรรพสิ่ง  เป็นดินแดนแห่งป่านรก  ที่ร่ำลือกันว่าเป็นที่พักอยู่ของเทพแห่งความตาย  ดินแดนแห่งนี้จึงถูกขนานนามว่า  Death  Zone    แต่ภายในดินแดนแห่งนี้กลับมีดินแดนสำหรับเทพด้วย  ไม่มีผู้คนใดรู้นอกจากเทพด้วยกันเท่านั้น  ภายนอกดินแดนแห่งนี้ก็เป็นเพียงหมู่บ้านหนึ่ง    เท่านั้น  มีการเลี้ยงสัตว์และทำการเกษตรทั่วไป  ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกเนรมิตขึ้นมาจากเทพลาลอส  แต่ภายในจะเป็นที่ชุมนุมของเหล่าเทพและเป็นที่ใช้สำหรับติดต่อไปยังอาณาจักรต่าง ๆ
   
          แสงเรืองสีทองสว่างอยู่หน้าแท่นพิธีกรรม  พลันปรากฏเป็นร่างชายชรา  ใส่ชุดคลุมสีขาว  แว่นตาเป็นรูปเหลี่ยม  มองดูแล้วน่าเกรงขาม  มือขวาถือไม้เท้ายาวพอ ๆ กับความสูงของเขา  ส่วนมือซ้ายอุ้มเด็กทารกที่ตอนนี้หลับอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเทพผู้ยิ่งใหญ่
          “ ยินดีต้อนรับกลับสู่อาณาจักรเนสโต  ท่านเทพลาลอส ”  ชายสูงอายุคนหนึ่งลุกขึ้นกล่าวต้อนรับ  พร้อมกับแววตาประหลาดใจในสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
          “ ขอบใจเทพโซกาส  วันนี้ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องท่านหน่อย  นี่คือซีโอล  บุตรชายของเทพเมซซาและนางออสมา  ข้าต้องการให้ท่านนำเขาไปอยู่กับชายชรานามว่า  เมโทร  ข้าคิดว่านั้นเป็นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหนูน้อยผู้นี้ ”
          “ ข้าจะทำตามคำบัญชา ”
          แล้วเทพโซกาสก็ขึ้นรถม้าพาหนูน้อยซีโอลไปยังบ้านของชายชราเมโทร  พร้อม ๆ กับการหายตัวไปของเทพลาลอส
          รถม้าวิ่งไปได้ระยะทางหลายกิโลเมตรแล้ว  แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะหยุด ‘ ทำไมถึงให้พาไปที่บ้านชายชราคนนี้นะ ’  เทพโซกาสสงสัยอยู่ภายในใจ
          ชายชราเมโทร  คนในหมู่บ้านเรียกขนานนามชายชราผู้นี้ว่า  พ่อมดไร้น้ำใจ  เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวที่สุด  จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม  บ้านของเขาถึงอยู่ไกลจากผู้คนเช่นนี้  เพราะเขามีนิสัยขี้ขโมยและไม่เคยแบ่งปันน้ำใจให้กับผู้ใดเลย  บ้านของเขาเป็นบ้านไม้สองขั้นที่มีรอยผุที่เกิดจากน้ำฝนมากมายนับไม่ถ้วน  ทุ่งหญ้าบริเวณรอบบ้านก็ตายหมดเนื่องมาจากขาดการดูแลเอาใจใส่  ไม่มีสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน  แต่ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ  ไม่มีแม้กระทั่งเสียงนกบินผ่านเลย  อาจมีบ้างก็แค่เสียงฝนตกลงในหลุมหน้าบ้านที่มีปลาเพียง 2 3  ตัวเท่านั้นเอง  ไม่มีผู้ใดรู้เหมือนกันว่าทำไม  แต่ก็มีคนสันนิษฐานไปต่าง ๆ นา ๆ  ว่าชายชราคนนี้เป็นสมุนของซาตานบ้างล่ะ  เป็นซาตานในคราบมนุษย์บ้างล่ะ  แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าพิสูจน์เสียที  ข้อสงสัยเหล่านี้จึงยังคงอยู่ภายในใจของผู้คน    อาณาจักรเนสโตต่อไป
          “ ถึงสักที  พวกเจ้ารอข้าอยู่นี่ก่อนนะ  เดี๋ยวข้าจะกลับมา ”  เทพโซกาสบอกคนขับรถม้า
          “ เมโทร  เจ้าอยู่หรือเปล่า  ข้าเทพโซกาส  หัวหน้าผู้ดูแลความเรียบร้อยของอาณาจักร    เนสโต  ได้รับบัญชาจากเทพลาลอส  ให้นำตัวเด็กน้อยนามว่าซีโอลมาอยู่กับเจ้า ”
          ไร้เสียงการตอบรับจากเจ้าของบ้าน  ยิ่งทำให้อารมณ์เดือดของเทพโซกาสมากยิ่งขึ้น  ทั้ง ๆ ที่เหนื่อยจากการเดินทางมาร่วม  100  กิโลเมตร
          “ ถ้าเจ้าไม่ออกมาพบข้า  อย่าหาว่าข้าทำรุนแรงนะ ”
          ไร้เสียงการตอบกลับอีกครั้ง
          เทพโซกาสประกบมือเป็นรูปสามเหลี่ยม  พร้อมกับร่ายมนต์คาถา 
          “ ด้วยอำนาจแห่งเทพ  ประตูจงเปิดออก ณ บัดนี้ ”
          “ ด้วยอำนาจแห่งเทพ  มนต์จงสลายไป ”  เสียงหนึ่งตอบกลับมาจากภายในประตูบ้าน  พร้อมกับเสียงหัวเราะแห่งความสะใจที่สามารถทำให้เทพโซกาส  ผู้ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเทพลาลอสอับอายอย่างไม่เป็นท่า
          แกร็ก . . . แกร็ก . . . แกร็ก
          ประตูสีดำบานใหญ่เปิดออก  เผยให้เห็นชายชรานามว่า  เมโทร  อยู่ภายใน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น