ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SuJu] A Drop of Tears [WONHYUK / KIHAE ]

    ลำดับตอนที่ #15 : A Drop of Tears Vol 15 40 % (มาเรื่อยๆ)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 55


    Vol 15





    “นายจะพาฉันไปไหน ชเว ซีวอน!!!!!”






    ฮยอกแจจำไม่ได้ว่าเขาพูดประโยคนี้มากี่รอบแล้ว   ในขณะที่เท้าบางภายใต้รองเท้าผ้าใบสีขาวใหม่เอี่ยมก็พยายามก้าวยาวๆ ตามชเว ซีวอนที่กำลังจะขึ้นบันไดเลื่อนของสถานีรถไฟใต้ดิน  แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ตั้งแต่ออกจากห้องพักจนมาถึงสถานีรถไฟ.... 




    ร่างบางเม้มปากแน่น  โกรธจัด  อยากจะหมุนกายหันหลังเดินกลับ  แล้วเรียกแท็กซี่สักคันไปโรงแรม  แต่คงได้แค่คิด  ในเมื่อกระเป๋าสตางค์และมือถือของเขาถูกอีกฝ่าย  ‘ยึด’ ไปแล้ว





    ร่างบางคว้าแขนอีกคนไว้พลางกระชากให้อีกฝ่ายหันมามอง  มาสนใจอย่างหมดความอดทน  ถามเสียงกร้าวว่า






    “ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้นะ!!!!!” 
     





    ชเว  ซีวอนสบสายตาที่ขุ่นมัวคู่นั้นที่จ้องมองเขาอย่างเอาเรื่องอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนริมฝีปากจะเผยยิ้มออกมา  ทำเมินไม่สนใจสายตาคู่นั้น





    “เอาน่า ใจเย็นๆ สิ ฮยอกแจ เดินตามมาเดี๋ยวก็รู้เอง ฉันไม่พานายไปฆ่าหรอกน้า”






    เสียงทุ้มกังวานเอ่ยล้อเลียน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนฟังอารมณ์ดีขึ้นมาแม้แต่น้อย  กลับหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก  ฮยอกแจถลึงตาใส่อีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ  สบถออกมาเบาๆ ก่อนที่จะปล่อยมือออก สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ช้าๆ  ระงับอารมณ์เดือดพาล 





    “หิวหรือเปล่า นายยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไม่ใช่เหรอ?”





    ร่างบางเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ     ความประหลาดใจฉาบเต็มไปหมด   ริมฝีปากบางกำลังจะเปิดออกเพื่อพูดอะไรสักอย่าง  แต่ก็ช้าไป   ข้อมือบางของเขาถูกมือใหญ่ของซีวอนเกาะกุมเป็นที่เรียบร้อย  คนตัวเล็กตั้งท่าจะดึงออก ทว่าอีกคนกับกุมไว้เสียแน่น ไม่เปิดโอกาสให้ทำตามใจได้  ร่างบางส่งสายตาประท้วง  กลีบปากบางขยับอีกครั้ง   คล้ายจะต่อว่า





    แต่แล้ว อี  ฮยอกแจก็ต้องอ้าปากค้าง ...พูดไม่ออก  เมื่อเจอประโยคนี้ของ ชเว  ซีวอน...





    “นายหิวแล้วใช่ไหม งั้นเราไปหาอะไรกินกันเถอะ”





    ...........................
    .......................................
    ......................................................





    ร้านอาหารเกาหลีริมทางเล็กๆ สร้างด้วยไม้เนื้อที่หนึ่งคูหา  ประตูของร้านทำจากกระจกใส  มีป้ายเมนูที่เป็นรูปภาพติดอยู่ข้างๆ รวมถึงชื่อร้านกับผนังไม้  ภายในร้านมีโต๊ะเพียงแค่ 6 โต๊ะ   กั้นแบ่งแยกเป็นโซนๆ ด้วยฉากกั้นไม้สร้างความเป็นส่วนตัว  โต๊ะตัวไม่เล็กมากนักที่อยู่ภายในสุดคือโต๊ะที่ซีวอนและฮยอกแจจับจองอยู่ในขณะนี้  






    “พอแล้ว ฉันอิ่มแล้ว”






    ฮยอกแจร้องอุทธรณ์บอกอีกฝ่าย  เมื่อเห็นตะเกียบเหล็กยาวๆ คีบมันดูมาวางบนจานเล็กของเขา  แต่ดูเหมือนซีวอนจะไม่สนใจ  มันดูอีกชิ้นถูกคีบมาวางข้างๆ  ที่นอนนิ่งรออยู่ก่อน  อี  ฮยอกแจตวัดแววตาต่อว่า   ชายหนุ่มยักไหล่ทำเป็นเมินเฉยกับสายตาขุ่นเขียวคู่นั้น 






    “ได้ไง นายสั่งมาซะเต็มโต๊ะ รับผิดชอบหน่อยสิ”






    ฮยอกแจถลึงตาใส่ทันทีได้ยินอย่างนั้น  พลางต่อว่าอีกคนในใจ....อาหารที่อยู่บนโต๊ะนี้ใช่ความผิดของเขาเสียเมื่อไร....ทันทีที่เข้ามาในร้าน  ซีวอนก็จัดแจงสั่งอาหารกับบริการสาวสวยที่มาพร้อมกับสมุดเมนูบางๆ   โดยที่เขายังไม่ทันได้หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้...พอเขาอ้าปากสั่งกาแฟดำร้อนเมื่อพนักงานสาวหันมาถามเมนูที่ต้องการ  ซีวอนก็เอ่ยขึ้นว่า..






    "กาแฟดำเมื่อกี้ยกเลิกนะครับ ขอเป็นน้ำส้มแทน”  






    ร่างบางตวัดสายตาใส่คนที่ถือวิสาสะเปลี่ยนเมนูของเขา ซีวอนส่งสมุดเมนูคืนกลับให้เธอ  เอนกายพิงเก้าอี้  ท่วงท่าสบายๆ  ยักยิ้มอย่างไม่สะท้านอารมณ์  ชายหนุ่มร่างเล็กจึงได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในอกอีกครั้ง แสร้งเสสายตามองรูปวาดที่ติดบนผนังไม้ข้างๆ  ไม่อยากมองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายให้เสียอารมณ์






    รอไม่นาน  อาหารที่ซีวอนสั่งก็ถูกทยอยลำเลียงเข้ามาเสริฟ  เล่นเอาฮยอกแจตาโต  อึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า  บิบิมบับ  มันดู  ซุปกิมจิ  และพาจอนจานใหญ่..... ปริมาณอาหารนั้นมากเกินกว่าที่คนสองคนจะสามารถทานได้หมด






    ตะเกียบเหล็กในมือของฮยอกแจคีบมันดูทั้งสองชิ้นใส่จานของซีวอนคืน   แต่ดูเหมือนชายหนุ่มร่างสูงจะไม่ยอมง่ายๆ เขาคีบมันกลับใส่จานให้ฮยอกแจ  ร่างบางเงยหน้ามองอีกฝ่าย  แววตาฉาบความไม่พอใจ 






    “ชเว ซีวอน!!!!”






    “อี ฮยอกแจ”






    ซีวอนล้อเลียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ  เมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเขาด้วยโทนเสียงข่มขู่เช่นเคย  แสดงความไม่พออกพอใจ  ชายหนุ่มยิ้มทะเล้น  ไม่ได้สนใจสายตาที่มองตวัดค้อนเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ  พาจอนชิ้นใหญ่ถูกตะเกียบเหล็กคีบวางลงบนจานของฮยอกแจอีกชิ้น 






    “นายนะผอมมากเลย รู้ตัวบ้างหรือเปล่า”






    คำพูดที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้คนฟังอย่างฮยอกแจชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง  แต่เมื่อสบสายตากับอีกฝ่าย ฮยอกแจรีบหลบแววตาที่ทอดมองมาแทบไม่ทัน  อ้อมแอ้มตอบเบาๆ






    “งั้นเหรอ”






    “ฮยอกแจ นายทำงานหนักเกินไปแล้วนะ หาเวลาพักผ่อนบ้างสิ” 






    ซีวอนเอ่ยขึ้นน้ำเสียงห่วงใย   มองใบหน้าขาวซีดของอีกคน  สภาพใบหน้าที่ไม่ผิดแผกไปจากแผ่นกระดาษแม้แต่น้อย  ดวงตาลึกโหล เนื้อตัวซีดเซียวและผอมบาง.....ชายหนุ่มจำน้ำหนักของอีกฝ่ายที่ถูกเขายกจนตัวลอยออกมาจากรถของตนแล้วก็ต้องใจหาย  เบาหวิวราวกับขนนก  จับตรงไหนก็เจอแต่กระดูก....






    ร่างบางช้อนตามองขึ้นสบสายตาคมเข้มของซีวอน  รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น  หน่วยตาที่จับจ้องเมื่อกี้ฉาบแววซุกซนกลับมีความอ่อนโยนขึ้นมาแทน  สายตาที่ทำเอาอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ  สายตาที่ฮยอกแจโหยหามาตลอด...






    “มันเรื่องของฉัน”






    แต่ทิฐิที่ค้ำคอและความรู้สึกที่ร้องเตือนบอกตัวเองว่าถ้าไม่อยากเจ็บปวดเจียนตาย  อย่าหลงกลคำพูดอันหอมหวานนั้น....เลือกให้ร่างบางตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ  ซีวอนผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบาพลางส่ายหน้าน้อยๆ






    “ฉันนึกแล้ว ว่านายต้องตอบแบบนี้”






    ชายหนุ่มคาดเดาคำตอบของฮยอกแจไว้ได้ไม่ผิด  ว่าอีกฝ่ายต้องตอบอย่างไร้เยื่อใยแบบนี้  ตะเกียบเหล็กในมือเขี่ยมันดูที่อยู่ในจานของจนไปมา  ร่างบางเองก็นั่งเงียบ....บรรยายกาศชวนน่าอึดอัดกำลังก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขาสองคน






    “ตกลงนายจะตอบฉันได้หรือยัง ว่าจะพาฉันไปไหน”






    ฮยอกแจเป็นฝ่ายเอ่ยปากทำลายชั้นบรรยายกาศนั้น  คนถูกถามละจากจานอาหารของตน   ก่อนที่จะช้อนสายตามองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม   ใบหน้าหล่อจุดยิ้มบางๆ ที่มุมปาก  มือข้างหนึ่งยกขึ้นค้ำคาง  บอกเสียงเรียบๆ ว่า……






    “เดี๋ยวนายก็รู้”




    ................
    ..............................
    ...............................................

     



    อี  ฮยอกแจเงยหน้ามองไล่ตัวอักษรที่อยู่ติดบนประตูทางเข้าขนาดใหญ่สถาปัตยกรรมสไตส์ยุโรป ด้านบนสุดมีรูปปั้นมนุษย์ในอิริยาบนต่างๆ ประดับอยู่  ร่างบางกวาดสายตาอ่านที่ละตัวอย่างช้าๆ  จนครบทุกตัว คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่ง  ก่อนที่จะหันไปเอ่ยถามซีวอนที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่า





    “นายพาฉันมาทำอะไรที่มหาลัย”





    ฮยอกแจเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อรู้ว่าสถานที่ที่ซีวอนพามาคือที่ไหน ....มหาวิทยาลัยคยองฮี  มหาวิทยาลัยที่ทั้งเขาและซีวอนเคยศึกษาเมื่อ 2 ปีก่อน  แต่ไม่ทันได้คำตอบจากซีวอน  เสียงตะโกนเรียกชื่อร่างสูงก็ดังขึ้นจากข้างใน  ทั้งเขาและซีวอนหันหลังไปมอง  สิ่งที่ฮยอกแจเห็นก็คือรถเวสป้าสีเขียวและเหลือง  บนรถคันเล็กๆ นั้นมีเด็กชายวัยรุ่นสองคนในชุดเสื้อผ้าสไตล์ฮิพฮอฟเป็นผู้ขับ  เด็กหนุ่มผมสีดำเจ้าของรถเวสป้าสีเขียวฉีกยิ้มตาหยี ยกมือขึ้นโบกไปมา....





    “พี่ซีวอน!!!”





    “มาพอดีเลยแดซอง” ซีวอนเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่ชื่อแดซองคนนั้น ฮยอกแจมองเด็กหนุ่มท่าทางอ่อนกว่าตรงหน้าที่เขาไม่รู้จักกำลังพูดคุยอยู่กับซีวอนด้วยท่าทีสนิทสนม ยืนพูดคุยกันสักพักหนึ่ง....ซีวอนก็ยื่นมือรับกุญแจจากแดซองที่ตอนนี้ย้ายตัวเองออกจากเวสป้าสีเขียวไปซ้อนท้ายเพื่อนที่มากับเวสป้าสีเหลืองแทน….ก่อนที่รถคันนั้นก็หันกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัยคืน





    ร่างบางตีสีหน้างุนงง  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่งอีกครั้ง  เมื่อเห็นเวสป้าสีเขียวอ่อนที่จอดอยู่ข้างซีวอน  ฮยอกแจมองรถเครื่องที่จอดอยู่ตรงหน้า ....  





    “รถของน้องคนเมื่อกี้ ฉันไปยืมเขามา”





    ซีวอนบอก  ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่ข้างแก้ม  เพราะเห็นสายตาสงสัยไม่หายของร่างบาง   และนั้นก็ยิ่งทำให้ฮยอกแจสงสัยหนักขึ้นไปอีก ร่างบางทำท่าจะอ้าปากเอ่ยถามว่าซีวอนไปเอารถคันนี้มาทำไม?.... แต่ยังไม่ทันได้เปล่งเสียงพูดออกมา  ฮยอกแจต้องร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ  เพราะมือเรียวยาวทั้งสองของซีวอนสอดเข้าที่เอวขอดเล็กของเขา ชายหนุ่มร่างสูงออกแรงเพียงนิดเดียวก็ยกร่างทั้งร่างของฮยอกแจลอยขึ้นมาวางบนเบาะท้ายได้ 





    มือเรียวเล็กของคนตัวบางหน้าหวานเผลอยกเกาะไหล่ของอีกฝ่ายไว้  กันตก....เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าใบหน้าของชเว ซีวอนอยู่ใกล้แค่เพียงปลายจมูกเท่านั้น   รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ จนร้อนรวยระรินข้างๆ ผิวแก้ม  ดวงตาคมเข้มที่กำลังจับจ้องอย่างไม่วางตา  ลูกแก้วสีนิลที่กำลังสะท้อนภาพของเขา  ฮยอกแจหลบสายตาวูบโดนอัตโนมัติ





    “ถอยไป มันอึดอัด”





    เสียงหวานว่าแสดงความไม่พอใจ  มือเรียวเล็กผลักหน้าอกอีกฝ่ายให้ออกห่าง  พลางหันหน้าหนีไปอีกทางซ่อนใบ
    หน้าสีแดงระเรื่อ  ซีวอนยักไหล่  ยอมถอยให้แต่โดยดี....ชายหนุ่มพาร่างอันสมส่วนของตนขึ้นคล่อมเบาะด้านหน้า จัดการสตาร์เครื่องยนต์   ก่อนที่เอี้ยวตัวไปด้านหลัง  ยิ้มตาปิดแล้วเอ่ยว่า





    “นั่งดีๆ ระวังตกละฮยอกแจ”





    ...........................
    ........................................
    ......................................................

    กระดึบมาอีก 10 ขอโทษรีดเดอร์ทั้งหลายด้วยนะคะที่ไม่ครบ 100 สักที (ใจจริงก็อยากให้ครบนะ แต่คงอีกนานมาก)    ไรเตอร์ของต่อทีล่ะนิดทีละน้อยแล้วกันนะคะ  ไรเตอร์งานยุ่งมากเลยช่วงนี้  (พยายามมาลงบ่งบอกว่าไรเตอร์ยังคงไม่ทิ้งเรื่องนี้)


    อดทนรอต่อไปหน่อยนะคะ (โค้งงามๆ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×