คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : A Drop of Tears Vol 15 40 % (มาเรื่อยๆ)
Vol 15
“นายจะพาฉันไปไหน ชเว ซีวอน!!!!!”
ฮยอกแจจำไม่ได้ว่าเขาพูดประโยคนี้มากี่รอบแล้ว ในขณะที่เท้าบางภายใต้รองเท้าผ้าใบสีขาวใหม่เอี่ยมก็พยายามก้าวยาวๆ ตามชเว ซีวอนที่กำลังจะขึ้นบันไดเลื่อนของสถานีรถไฟใต้ดิน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ตั้งแต่ออกจากห้องพักจนมาถึงสถานีรถไฟ....
ร่างบางเม้มปากแน่น โกรธจัด อยากจะหมุนกายหันหลังเดินกลับ แล้วเรียกแท็กซี่สักคันไปโรงแรม แต่คงได้แค่คิด ในเมื่อกระเป๋าสตางค์และมือถือของเขาถูกอีกฝ่าย ‘ยึด’ ไปแล้ว
ร่างบางคว้าแขนอีกคนไว้พลางกระชากให้อีกฝ่ายหันมามอง มาสนใจอย่างหมดความอดทน ถามเสียงกร้าวว่า
“ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้นะ!!!!!”
ชเว ซีวอนสบสายตาที่ขุ่นมัวคู่นั้นที่จ้องมองเขาอย่างเอาเรื่องอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนริมฝีปากจะเผยยิ้มออกมา ทำเมินไม่สนใจสายตาคู่นั้น
“เอาน่า ใจเย็นๆ สิ ฮยอกแจ เดินตามมาเดี๋ยวก็รู้เอง ฉันไม่พานายไปฆ่าหรอกน้า”
เสียงทุ้มกังวานเอ่ยล้อเลียน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนฟังอารมณ์ดีขึ้นมาแม้แต่น้อย กลับหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ฮยอกแจถลึงตาใส่อีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ สบถออกมาเบาๆ ก่อนที่จะปล่อยมือออก สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ช้าๆ ระงับอารมณ์เดือดพาล
“หิวหรือเปล่า นายยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ร่างบางเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ ความประหลาดใจฉาบเต็มไปหมด ริมฝีปากบางกำลังจะเปิดออกเพื่อพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ช้าไป ข้อมือบางของเขาถูกมือใหญ่ของซีวอนเกาะกุมเป็นที่เรียบร้อย คนตัวเล็กตั้งท่าจะดึงออก ทว่าอีกคนกับกุมไว้เสียแน่น ไม่เปิดโอกาสให้ทำตามใจได้ ร่างบางส่งสายตาประท้วง กลีบปากบางขยับอีกครั้ง คล้ายจะต่อว่า
แต่แล้ว อี ฮยอกแจก็ต้องอ้าปากค้าง ...พูดไม่ออก เมื่อเจอประโยคนี้ของ ชเว ซีวอน...
“นายหิวแล้วใช่ไหม งั้นเราไปหาอะไรกินกันเถอะ”
...........................
.......................................
......................................................
ร้านอาหารเกาหลีริมทางเล็กๆ สร้างด้วยไม้เนื้อที่หนึ่งคูหา ประตูของร้านทำจากกระจกใส มีป้ายเมนูที่เป็นรูปภาพติดอยู่ข้างๆ รวมถึงชื่อร้านกับผนังไม้ ภายในร้านมีโต๊ะเพียงแค่ 6 โต๊ะ กั้นแบ่งแยกเป็นโซนๆ ด้วยฉากกั้นไม้สร้างความเป็นส่วนตัว โต๊ะตัวไม่เล็กมากนักที่อยู่ภายในสุดคือโต๊ะที่ซีวอนและฮยอกแจจับจองอยู่ในขณะนี้
“พอแล้ว ฉันอิ่มแล้ว”
ฮยอกแจร้องอุทธรณ์บอกอีกฝ่าย เมื่อเห็นตะเกียบเหล็กยาวๆ คีบมันดูมาวางบนจานเล็กของเขา แต่ดูเหมือนซีวอนจะไม่สนใจ มันดูอีกชิ้นถูกคีบมาวางข้างๆ ที่นอนนิ่งรออยู่ก่อน อี ฮยอกแจตวัดแววตาต่อว่า ชายหนุ่มยักไหล่ทำเป็นเมินเฉยกับสายตาขุ่นเขียวคู่นั้น
“ได้ไง นายสั่งมาซะเต็มโต๊ะ รับผิดชอบหน่อยสิ”
ฮยอกแจถลึงตาใส่ทันทีได้ยินอย่างนั้น พลางต่อว่าอีกคนในใจ....อาหารที่อยู่บนโต๊ะนี้ใช่ความผิดของเขาเสียเมื่อไร....ทันทีที่เข้ามาในร้าน ซีวอนก็จัดแจงสั่งอาหารกับบริการสาวสวยที่มาพร้อมกับสมุดเมนูบางๆ โดยที่เขายังไม่ทันได้หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้...พอเขาอ้าปากสั่งกาแฟดำร้อนเมื่อพนักงานสาวหันมาถามเมนูที่ต้องการ ซีวอนก็เอ่ยขึ้นว่า..
"กาแฟดำเมื่อกี้ยกเลิกนะครับ ขอเป็นน้ำส้มแทน”
ร่างบางตวัดสายตาใส่คนที่ถือวิสาสะเปลี่ยนเมนูของเขา ซีวอนส่งสมุดเมนูคืนกลับให้เธอ เอนกายพิงเก้าอี้ ท่วงท่าสบายๆ ยักยิ้มอย่างไม่สะท้านอารมณ์ ชายหนุ่มร่างเล็กจึงได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในอกอีกครั้ง แสร้งเสสายตามองรูปวาดที่ติดบนผนังไม้ข้างๆ ไม่อยากมองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายให้เสียอารมณ์
รอไม่นาน อาหารที่ซีวอนสั่งก็ถูกทยอยลำเลียงเข้ามาเสริฟ เล่นเอาฮยอกแจตาโต อึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า บิบิมบับ มันดู ซุปกิมจิ และพาจอนจานใหญ่..... ปริมาณอาหารนั้นมากเกินกว่าที่คนสองคนจะสามารถทานได้หมด
ตะเกียบเหล็กในมือของฮยอกแจคีบมันดูทั้งสองชิ้นใส่จานของซีวอนคืน แต่ดูเหมือนชายหนุ่มร่างสูงจะไม่ยอมง่ายๆ เขาคีบมันกลับใส่จานให้ฮยอกแจ ร่างบางเงยหน้ามองอีกฝ่าย แววตาฉาบความไม่พอใจ
“ชเว ซีวอน!!!!”
“อี ฮยอกแจ”
ซีวอนล้อเลียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ เมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเขาด้วยโทนเสียงข่มขู่เช่นเคย แสดงความไม่พออกพอใจ ชายหนุ่มยิ้มทะเล้น ไม่ได้สนใจสายตาที่มองตวัดค้อนเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พาจอนชิ้นใหญ่ถูกตะเกียบเหล็กคีบวางลงบนจานของฮยอกแจอีกชิ้น
“นายนะผอมมากเลย รู้ตัวบ้างหรือเปล่า”
คำพูดที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้คนฟังอย่างฮยอกแจชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อสบสายตากับอีกฝ่าย ฮยอกแจรีบหลบแววตาที่ทอดมองมาแทบไม่ทัน อ้อมแอ้มตอบเบาๆ
“งั้นเหรอ”
“ฮยอกแจ นายทำงานหนักเกินไปแล้วนะ หาเวลาพักผ่อนบ้างสิ”
ซีวอนเอ่ยขึ้นน้ำเสียงห่วงใย มองใบหน้าขาวซีดของอีกคน สภาพใบหน้าที่ไม่ผิดแผกไปจากแผ่นกระดาษแม้แต่น้อย ดวงตาลึกโหล เนื้อตัวซีดเซียวและผอมบาง.....ชายหนุ่มจำน้ำหนักของอีกฝ่ายที่ถูกเขายกจนตัวลอยออกมาจากรถของตนแล้วก็ต้องใจหาย เบาหวิวราวกับขนนก จับตรงไหนก็เจอแต่กระดูก....
ร่างบางช้อนตามองขึ้นสบสายตาคมเข้มของซีวอน รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น หน่วยตาที่จับจ้องเมื่อกี้ฉาบแววซุกซนกลับมีความอ่อนโยนขึ้นมาแทน สายตาที่ทำเอาอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ สายตาที่ฮยอกแจโหยหามาตลอด...
“มันเรื่องของฉัน”
แต่ทิฐิที่ค้ำคอและความรู้สึกที่ร้องเตือนบอกตัวเองว่าถ้าไม่อยากเจ็บปวดเจียนตาย อย่าหลงกลคำพูดอันหอมหวานนั้น....เลือกให้ร่างบางตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ซีวอนผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบาพลางส่ายหน้าน้อยๆ
“ฉันนึกแล้ว ว่านายต้องตอบแบบนี้”
ชายหนุ่มคาดเดาคำตอบของฮยอกแจไว้ได้ไม่ผิด ว่าอีกฝ่ายต้องตอบอย่างไร้เยื่อใยแบบนี้ ตะเกียบเหล็กในมือเขี่ยมันดูที่อยู่ในจานของจนไปมา ร่างบางเองก็นั่งเงียบ....บรรยายกาศชวนน่าอึดอัดกำลังก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขาสองคน
“ตกลงนายจะตอบฉันได้หรือยัง ว่าจะพาฉันไปไหน”
ฮยอกแจเป็นฝ่ายเอ่ยปากทำลายชั้นบรรยายกาศนั้น คนถูกถามละจากจานอาหารของตน ก่อนที่จะช้อนสายตามองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าหล่อจุดยิ้มบางๆ ที่มุมปาก มือข้างหนึ่งยกขึ้นค้ำคาง บอกเสียงเรียบๆ ว่า
“เดี๋ยวนายก็รู้”
................
..............................
...............................................
อี ฮยอกแจเงยหน้ามองไล่ตัวอักษรที่อยู่ติดบนประตูทางเข้าขนาดใหญ่สถาปัตยกรรมสไตส์ยุโรป ด้านบนสุดมีรูปปั้นมนุษย์ในอิริยาบนต่างๆ ประดับอยู่ ร่างบางกวาดสายตาอ่านที่ละตัวอย่างช้าๆ จนครบทุกตัว คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่ง ก่อนที่จะหันไปเอ่ยถามซีวอนที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่า
“นายพาฉันมาทำอะไรที่มหาลัย”
ฮยอกแจเอ่ยถามอย่างสงสัย เมื่อรู้ว่าสถานที่ที่ซีวอนพามาคือที่ไหน ....มหาวิทยาลัยคยองฮี มหาวิทยาลัยที่ทั้งเขาและซีวอนเคยศึกษาเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ไม่ทันได้คำตอบจากซีวอน เสียงตะโกนเรียกชื่อร่างสูงก็ดังขึ้นจากข้างใน ทั้งเขาและซีวอนหันหลังไปมอง สิ่งที่ฮยอกแจเห็นก็คือรถเวสป้าสีเขียวและเหลือง บนรถคันเล็กๆ นั้นมีเด็กชายวัยรุ่นสองคนในชุดเสื้อผ้าสไตล์ฮิพฮอฟเป็นผู้ขับ เด็กหนุ่มผมสีดำเจ้าของรถเวสป้าสีเขียวฉีกยิ้มตาหยี ยกมือขึ้นโบกไปมา....
“พี่ซีวอน!!!”
“มาพอดีเลยแดซอง” ซีวอนเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่ชื่อแดซองคนนั้น ฮยอกแจมองเด็กหนุ่มท่าทางอ่อนกว่าตรงหน้าที่เขาไม่รู้จักกำลังพูดคุยอยู่กับซีวอนด้วยท่าทีสนิทสนม ยืนพูดคุยกันสักพักหนึ่ง....ซีวอนก็ยื่นมือรับกุญแจจากแดซองที่ตอนนี้ย้ายตัวเองออกจากเวสป้าสีเขียวไปซ้อนท้ายเพื่อนที่มากับเวสป้าสีเหลืองแทน
.ก่อนที่รถคันนั้นก็หันกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัยคืน
ร่างบางตีสีหน้างุนงง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่งอีกครั้ง เมื่อเห็นเวสป้าสีเขียวอ่อนที่จอดอยู่ข้างซีวอน ฮยอกแจมองรถเครื่องที่จอดอยู่ตรงหน้า ....
“รถของน้องคนเมื่อกี้ ฉันไปยืมเขามา”
ซีวอนบอก ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่ข้างแก้ม เพราะเห็นสายตาสงสัยไม่หายของร่างบาง และนั้นก็ยิ่งทำให้ฮยอกแจสงสัยหนักขึ้นไปอีก ร่างบางทำท่าจะอ้าปากเอ่ยถามว่าซีวอนไปเอารถคันนี้มาทำไม?.... แต่ยังไม่ทันได้เปล่งเสียงพูดออกมา ฮยอกแจต้องร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะมือเรียวยาวทั้งสองของซีวอนสอดเข้าที่เอวขอดเล็กของเขา ชายหนุ่มร่างสูงออกแรงเพียงนิดเดียวก็ยกร่างทั้งร่างของฮยอกแจลอยขึ้นมาวางบนเบาะท้ายได้
มือเรียวเล็กของคนตัวบางหน้าหวานเผลอยกเกาะไหล่ของอีกฝ่ายไว้ กันตก....เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าใบหน้าของชเว ซีวอนอยู่ใกล้แค่เพียงปลายจมูกเท่านั้น รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ จนร้อนรวยระรินข้างๆ ผิวแก้ม ดวงตาคมเข้มที่กำลังจับจ้องอย่างไม่วางตา ลูกแก้วสีนิลที่กำลังสะท้อนภาพของเขา ฮยอกแจหลบสายตาวูบโดนอัตโนมัติ
“ถอยไป มันอึดอัด”
เสียงหวานว่าแสดงความไม่พอใจ มือเรียวเล็กผลักหน้าอกอีกฝ่ายให้ออกห่าง พลางหันหน้าหนีไปอีกทางซ่อนใบ
หน้าสีแดงระเรื่อ ซีวอนยักไหล่ ยอมถอยให้แต่โดยดี....ชายหนุ่มพาร่างอันสมส่วนของตนขึ้นคล่อมเบาะด้านหน้า จัดการสตาร์เครื่องยนต์ ก่อนที่เอี้ยวตัวไปด้านหลัง ยิ้มตาปิดแล้วเอ่ยว่า
“นั่งดีๆ ระวังตกละฮยอกแจ”
...........................
........................................
......................................................
กระดึบมาอีก 10 ขอโทษรีดเดอร์ทั้งหลายด้วยนะคะที่ไม่ครบ 100 สักที (ใจจริงก็อยากให้ครบนะ แต่คงอีกนานมาก) ไรเตอร์ของต่อทีล่ะนิดทีละน้อยแล้วกันนะคะ ไรเตอร์งานยุ่งมากเลยช่วงนี้ (พยายามมาลงบ่งบอกว่าไรเตอร์ยังคงไม่ทิ้งเรื่องนี้)
อดทนรอต่อไปหน่อยนะคะ (โค้งงามๆ)
ความคิดเห็น