ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SuJu] A Drop of Tears [WONHYUK / KIHAE ]

    ลำดับตอนที่ #13 : A Drop of Tears Vol 13

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 54


    Vol 13





    ทงเฮตื่นเต้นกับบรรยากาศของสวนสนุกที่อยู่รอบๆ ตัว สวนสนุกกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นหลากหายชนิด  ทั้งเครื่องเล่นที่มีขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่  หลายอย่างดูแปลกตา  เยอะแยะมากมายเสียจนเลือกเล่นไม่ถูกนอกเหนือจากเครื่องเล่นเหล่านั้น  ทงเฮยังตื่นตากับผู้คนทั้งหญิงและชาย เด็กเล็กเด็กโตที่เดินขวักไขว่กันมากมายให้วุ่น จนไม่ทันสังเกตสีหน้าของคนข้างเคียงที่เดินตามมาใกล้ๆ เขาลอบมองสีหน้าแจ่มใสของร่างบาง ก่อนที่จะแอบรอยยิ้ม  สงสัยจะเป็นครั้งแรกอย่างที่ฮีซอลว่าไว้จริงๆ



    ร่างบางระหงของทงเฮละลิ่วไปข้างหน้า  แล้วก็หันหลังวิ่งกลับเข้ามาหา  ร้องถามเสียงใสว่า “ทำไมเดินช้าจังนะ คิบอม”



    “ฉันเดิน แต่นายวิ่ง” เขาย้อน “เดี๋ยวก็ได้หกล้มเหมือนวันนั้นอีกหรอก”



    ทงเฮหัวเราะ  สีหน้าเบิกบาน แก้มใสเป็นสีระเรื่อ



    “ก็ทงเฮตื่นเต้นนี้น้า”



    คิบอมถอนหายใจอย่างยอมแพ้  ว่าไม่ลง...



    ทงเฮกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นเต้นไม่หาย โลกภายนอกที่เห็นคงงดงามตระการตายิ่งนักสำหรับชายหนุ่มที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้านกับโรงพยาบาล



    ทั้งสองคนตระเวนเล่นเครื่องเล่นกันหลายอย่าง....คิบอมมองทงเฮที่ดูเหมือนจะสนุกมาก.. ร่างบางพูดเจื้อยแจ้วเหมือนนกตัวน้อยไม่หยุด  มือเรียวเล็กก็ค่อยดึงเขาไปเล่นนู่นเล่นนี้  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องเล่นที่ไม่ค่อยอันตรายมากนัก อย่างถ้วยหมุน  ปลาหมึกยักษ์...หรือกิจกรรมแสนธรรมดาในสายตาของคิบอมอย่างเช่นเล่นเกมตามมุมต่างๆ  เดินกินไอครีมเครปรสหวาน ทานอาหารในร้านเล็กๆ ด้วยกัน..เป็นสิ่งที่คิบอมทำมาจนเบื่อแล้ว...แต่สำหรับทงเฮ มันคือเรื่องแปลกใหม่  ทั้งน่าตื่นเต้น และประทับใจ...



    ภาพของคนตัวเล็กเจ้าน้ำตาที่เขาแสนเบื่อหน่ายกำลังยิ้มกว้าง แววตาส่องประกายของความสุขระยิบระยับราวกับดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิด...เสียงหัวเราะที่เบิกบาน..ทำเอาคนที่เดินตามอยู่ห่างๆ อย่างคิบอมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว  ลืมความขุ่นเคืองในใจไปเสียสนิท...




    “ซีวอนไม่เคยพานายมาสวนสนุกเหรอ?”



    คิบอมเอ่ยถาม  หลังจากที่ทั้งคู่ก้าวเดินออกมาจากม้าหมุน  ชายหนุ่มนึกแปลกใจที่คนเอาใจทงเฮสารพัดอย่าง ชเว ซีวอน  ทำไมถึงไม่เคยพาร่างบางมาเที่ยวสนุก  ทงเฮสั่นศีรษะเบาๆ



    “ซีวอนไม่อยากให้ทงเฮมา”



    “ทำไม”



    “เห็นบอกว่าคนเยอะ จะทำให้ทงเฮไม่สบายเอาได้ง่ายๆ”



    “งั้นเหรอ” เขาตอบรับเบาๆ เป็นเชิงเข้าใจสาเหตุ  ซีวอนคงเป็นห่วงทงเฮมาก  คิบอมคิด  แล้วนึกถึงสายตาของชเว  ซีวอนที่เขาเคยสัมผัสเวลามองทงเฮ  ดูจากแววตาที่แสดงออกเขาก็รู้แล้ว  ความห่วงใยที่ให้ว่ามันเกินขอบเขตของคำว่า เพื่อน  เหมือนกับแววตาของฮยอกแจที่มองผู้ชายคนนั่น  คิม  คิบอมเผลอลืมตัวเม้มปากแน่นด้วยความน้อยใจ ทำไมกันนะ  ฮยอกแจถึงไม่หันมามองเขาด้วยสายตาแบบนั้นบ้าง 
     


    "คิบอม"



    เสียงร้องทักของคนข้างกายดังขึ้นเรียกสติของชายหนุ่มกลับคืนมา คิบอมหันไปมอง....ทงเฮชี้นิ้วไปยังกลุ่มคนจำนวนมากที่ยืนมุงกันตามถนน  เอ่ยถามอย่างสงสัย



    “ตรงนั้นมีอะไรกันเหรอ คิบอม?”



    “โชว์ขบวนพาเหรดนะ”



    ดวงตากลมโตของทงเฮเป็นประกายขึ้นมาทันที..



    “ขบวนพาเหรด”



    จบคำ  ร่างโปร่งระหงของทงเฮก็วิ่งตรงไปยังฝูงชนเป็นจำนวนมาก  ทิ้งให้คิบอมต้องวิ่งตามพลางสบถในใจกับความดื้อดึงราวกับเด็กไม่รู้จักโตของทงเฮ...



    ทงเฮก้าวเข้าไปอยู่ในฝูงชนที่พากันยืนอ้ออยู่ตามสองฝั่งถนนเพื่อชมการแสดงขบวนพาเหรดที่กำลังเคลื่อนตัวออกมาอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าตื่นเต้น  และนั่นทำให้ผู้คนที่อยู่ในสวนสนุกต่างหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก  ส่งผลให้ทงเฮโดนผู้คนชนจนพลัดหายเข้าไปข้างใน  ร่างบางพยายามเบียดตัวออกจากฝูงชนเนื่องจากเริ่มอึดอัดและหายใจไม่ออก ผู้คนที่หนาแน่นจึงไม่ใช้เรื่องง่ายเลยที่จะออกไปได้  อากาศในอกเริ่มลดน้อยลง หัวใจเริ่มสูบฉีดถี่ขึ้น ทงเฮรู้สึกเจ็บที่หน้าอก อากาศหอบเริ่มกำเริบขึ้นมาแล้ว 



    คนตัวเล็กหาที่ว่างสำหรับสูดอากาศ  แต่ดูเหมือนตัวเองจะโดนผู้คนโดยรอบเบียดเข้าไปข้างในมากยิ่งขึ้น ทงเฮรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม  เขาเริ่มโอนเอนจะล้มตัวลงท่ามกลางฝูงคนที่หนาแน่น  ในความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น  ทงเฮก็รู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นร้อนเอื้อมมาคว้าตัวเขาไว้  ร่างบางเงยหน้าเจ้าของมือใหญ่  ก่อนที่จะอุทานออกมาเบาๆ



    “คิบอม”



    คิบอมไม่พูดหรือกล่าวอะไรออกมา เขารีบพาร่างในอ้อมแขนฝ่าออกจากฝูงคนอย่างรวดเร็ว  เพราะดูจากสภาพร่างกายของทงเฮในตอนนี้แล้ว  ขืนชักช้าหอบได้กำเริบเอาจนเป็นลมหมดสติแน่ 



    คิบอมประคองร่างบอบบางของอี  ทงเฮเดินฝ่ากลุ่มคนที่หนาแน่นออกมาอย่างทุลักทุเล  พาไปยังม้านั่งใต้ร่มไม้ที่ห่างจากตรงนั้นพอสมควร  ก่อนที่จะยกมือขึ้นปาดเหงื่อหน้าผากที่ซึมออกมาเล็กน้อย อากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้เหงื่อของเขาออกได้ง่าย ทงเฮหยิบยาในกระเป๋าสะพายใบเล็กๆ ขึ้นมาพ่นใส่ปาก  ชายหนุ่มตัวเล็กหลับตาสูดอากาศเข้าปอดช้าๆ จนกระทั่งสามารถหายใจได้เป็นปกติ  



    พอผ่านช่วงระทึกมาได้  ความโกรธก็แล่นวูบเข้ามาแทนที  คิบอมกอดอกหรี่ตามองจ้องคนตัวเล็กเขม็ง  ตวาดเสียงเข้มจนทงเฮเผลอสะดุ้งตัวเฮือกหนึ่ง



    “ทำบ้าอะไรของนาย อยู่ๆ ก็วิ่งเข้าไปแบบนั้น อยากตายนักหรือไงฮะ!!!”



    “ทงเฮขอโทษ” เสียงหวานกล่าวสั่นเครือ ไหล่บางๆ นั้นหดเล็กลงเหลือไม่ถึงหนึ่งนิ้ว คิบอมกระแทกลมหายใจแรงๆ



    “เมื่อไรจะเลิกทำตัวมีปัญหาสักที ฉันเหนื่อยที่จะดูแลนายเต็มทนแล้ว!!!!”



    เหมือนกับมีค้อนปอนด์มาทุบลงบนหัวอย่างแรง  คำพูดประโยคนี้ของคิบอมเหมือนจะตอกย้ำทิ่มแทงใจ ย้ำให้ชัดเจนทั้งทีโดนแบบนี้ประจำ ก็น่าจะชินได้แล้ว  แต่ทำไม....ร่างบางกำมือที่วางอยู่บนตักแน่น....หัวใจถึงได้รู้สึกเจ็บแปลบเจียนจะขาดใจทุกครั้งที่ได้ยิน.....



    ทงเฮเงยหน้าขึ้นเผชิญกับคนตรงหน้า  นัยน์ตาหวานไหวระริกด้วยความเจ็บช้ำ  พยายามกลั้นก้อนสะอึกที่มาจุกอยู่ที่คอจนปวดไปหมด  รู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา น้ำตากำลังจะไหลริน แต่ทงเฮไม่อยากร้องไห้ในตอนนี้...



    “ถ้าทงเฮทำให้คิบอมลำบากใจ ก็ปล่อยทงเฮไว้ตรงนี้เถอะนะ”



    สิ้นคำ  ร่างบอบบางหยัดกายลุกขึ้นยืน  ตัดสินใจพาตัวเองออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด  ก่อนที่เขาจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว 



    .........
    ......................
    ...................................



    ทงเฮไม่รู้ตัวว่าตัวเองเดินมาไกลเท่าไร  มารู้ตัวอีกทีขาทั้งสองข้างก็พาเขามาหยุดอยู่หน้าชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่  ทั้งๆ ที่วันนี้ผู้คนมาเที่ยวกันมากมาย  แต่ที่นี้กลับมีเพียงคู่รักหนุ่มสาวสองสามคู่มาใช้บริการเท่านั้น....ทุกคนคงไปรวมตัวกันที่ขบวนพาเหรดกันหมดแล้ว.... ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองตัวกล่องลอยฟ้าสีขาวสะท้อนประกายแดดเป็นมันวาว  อากาศรอบตัวช่างสดใส ผิดกับหัวใจดวงน้อยที่ห่อเหี่ยวนี่เหลือเกิน



    ‘เมื่อไรจะเลิกทำตัวมีปัญหาสักที ฉันเหนื่อยที่จะดูแลนายเต็มทนแล้ว!!!!’



    “อึก....”



    เมื่อนึกถึงคำพูดที่ทำให้หัวใจเจ็บช้ำ  น้ำตามันก็ไหลอาบแก้มลงมา... ทงเฮเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น  ปล่อยหยดน้ำตาพร่างพรูออกมาจากดวงตา หล่นลงอาบผิวแก้มทั้งสองข้าง  น้ำตาที่สะกดกลั้นไว้ตอนที่อยู่ต่อหน้าคิบอมไหลออกมาเหมือนทำนบกั้นได้พังทลายลงอย่างห้ามไม่อยู่…



    "เอ่อ...ขอโทษนะครับ...."



    เสียงเรียกเบาๆ ของผู้ชายดังขึ้นเบื้องหน้า ทำให้ทงเฮตกใจจนต้องรีบปาดน้ำตาทิ้งให้หมดอย่างรวดเร็ว เขาไม่ควรร้องไห้ต่อหน้าคนไม่รู้จัก....ร่างบางเงยหน้ามองที่มาของเสียงนั้น เขาก็พบใบหน้าผู้ชายสองคน  คนหนึ่งมีรูปร่างสูงโปร่ง ส่วนอีกคนตัวเล็กกว่า สวมแว่นตา....ร่างบางมองด้วยความสงสัยแกมสนเท่ห์ ชายร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาแล้วยื่นนามบัตรให้ดู บอกว่า....



    “พี่เป็นนักข่าวจากนิตยสารแฟชั่น” เขาแนะนำตัว “ตอนนี้พวกพี่กำลังถ่ายรูปสำหรับลงสกู๊ปแฟชั่นของสาวน้อยในสวนสนุกหน้าร้อน”



    “แล้วไงฮะ”



    “พวกพี่เห็นน้องแต่งตัวน่ารักดี เข้ากับคอนเซ็ปต์” ชายคนนั้นยังคงว่าต่อ ทงเฮก้มลงมองตัวเอง วันนี้เขาสวมเสื้อแขนยาวลายขวางสีชมพู กางเกงขายาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบสีเดียวกัน ผมหวีเรียบๆ ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่ดูน่าสะดุดตาสักนิด ที่สำคัญเขาไม่ใช่สาวน้อยอย่างที่ชายคนนั้นต้องการเสียด้วย....



    “แต่ทงเฮเป็นผู้ชายนะฮะ” ชายคนนั้นเบิกตากว้างแทบถลน ดูจะตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำพูดของทงเฮ  ก่อนที่จะใบหน้านั้นจะพลันเรียบเฉย  เขาจุดยิ้มออกมา....



    “ไม่เป็นไร ถึงเป็นผู้ชายก็ไม่เป็นไร เท่ห์ดีออก หนุ่มน้อยหน้าสวยกับแฟชั่นในสวนสนุก”



    “แต่ว่า....”



    “นะน้อง อย่าปฏิเสธเลย ใช้เวลาไม่นานหรอก” เขายังไม่ละความพยายาม ชายหนุ่มพูดจาหว่านล้อม ทงเฮเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงอย่างชั่งใจ ยิ่งได้สบสายตาแสดงอาการวิงวอนขอร้องของผู้ชายคนนั้นแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกลำบากใจและกดดันกับสถานการณ์ช่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกตรงหน้า



    “ถือว่าช่วยพี่หน่อยเถอะนะครับน้อง” ชายสวมแว่นช่วยพูดขึ้นมาอีกคน เมื่อเห็นว่าทงเฮทำท่าจะปฏิเสธ “พี่มีค่าตอบแทนให้น้องด้วย ไม่ต้องกังวล”



    ร่างบางยิ่งครุ่นคิดอย่างหนัก  เขาเคยถูกสอนว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าง่ายๆ  ทงเฮมองชายทั้งสองอย่างพิจารณา  พวกเขาดูไม่มีพิษมีภัยหรือไม่น่าไว้ใจสักนิด....ปกติ ซีวอนคือคนที่จะช่วยให้คำตอบแก่ทงเฮทุกอย่างในยามที่เกิดความลังเลใจแบบนี้  แล้วถ้าเป็นคิบอมล่ะ....



    ทงเฮเหลือบไปมองที่ด้านหลัง  มันว่างเปล่า...ร่างบางรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา  พยายามกลืนก้อนแข็งๆ ที่รี่ขึ้นมาตามลำคออย่างยากเย็น  แล้วบอกตัวเองในใจ  คล้ายพยายามย้ำเตือน....อย่าหลงตัวเองอีกเลยว่าคิบอมห่วงใย....ทุกอย่างเกิดขึ้นจากหน้าที่และความเวทนาเขาทั้งนั้น....ชายหนุ่มคงดีใจที่คนน่ารำคาญอย่างเขาหายไปพ้นๆ สายตาเสียที



    “น้องครับ”



    “ก็ได้ฮะ”



    ชายหนุ่มของคนยิ้มหน้าระรื่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำตอบของทงเฮ  



    “ถ้าอย่างนั้นรบกวนน้องไปกับพวกพี่หน่อยนะครับ ทีมงานของพี่รออยู่ที่อื่น” 



    ทงเฮพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ  แล้วจึงเดินไปกับชายหนุ่มสองคนนั้น  พวกเขาหันมามองหน้ากัน  ก่อนที่จะกระตุกยิ้มมุมปาก  แววตาเจ้าเล่ห์....




    ..................
    ...........................
    .......................................




    ร่างบอบบางของอี  ทงเฮ กวาดสายตามองไปรอบๆ สถานที่ที่ชายคนนั้นบอกว่าเป็นที่ๆ ทีมงานรออยู่...ห้องน้ำเก่าๆ อยู่ในมุมอับของสวนสนุก  มีป้ายติดด้านหน้าแขวนไว้ว่าปิดปรับปรุง  ภายในนั้นค่อนข้างมืด แสงจากข้างนอกส่องผ่านร่องของมันพอทำให้เห็นอะไรลางๆ....และที่สำคัญในนี้ไม่มีใครนอกจากเขาและชายสองคนนั้นเท่านั้น  ความรู้สึกหวาดกลัวสะท้อนขึ้นมาในจิตใจทันควัน  ร่างบางมองซ้ายขวาอย่างนึกหวั่น ใจไม่ดี....




    “ที่นี้เหรอฮะ ทงเฮว่ามันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้นะฮะ” ร่างบางเปรยๆ ให้อีกฝ่ายฟัง น้ำเสียงนั้นติดสั่นเล็กน้อย ทงเฮเป็นคนหวาดกลัวความมืด จึงค่อนข้างรู้สึกไม่ดีกับบรรยากาศรอบตัว.... คนร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาซ้อนด้านหลังร่างระหงของทงเฮโดยที่เจ้าตัวไม่ทันรู้ตัว ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย 




    “ไม่น่ากลัวหรอก ที่นี้เป็นที่สุดวิเศษเลยล่ะ”




    “เอ๋”




    ไม่ทันได้เอ่ยปากถามว่านั้นหมายว่าอย่างไร  ชายคนนั้นก็จับแขนบางบอบของทงเฮกดไพล่หลัง  ร่างบางสะดุ้งตัวด้วยความตกใจกับการจู่โจมอย่างไร้มารยาทแบบนี้  ....แขนเล็กพยายามบิดเพื่อให้หลุดจาพันธนาการที่หนาแน่น  ทว่ามันมีแต่จะทำให้เจ็บร้าวไปถึงกระดูก พอเงยหน้าขึ้น  แทบสิ้นสติ  เบิกตาโพลง กล้องวิดีโอขนาดพกพากำลังจ่ออยู่ตรงหน้าเขา....




    ”พวกคุณจะทำอะไรทงเฮนะ!!!!” ร่างบางร้องโวยวายถามด้วยความตกใจ พวกนั้นพากันหัวเราะๆ หึ ดูท่าทางถูกใจ นิ้วหยาบของชายสวมแว่นผู้เป็นเจ้าของกล้องวีดีโอในมือจับปลายคางของทงเฮให้เชิดขึ้นสบสายตา ยกยิ้มร้ายมุมปาก...รอยยิ้มที่ทำเอาทงเฮหวาดกลัว ใจสั่นระริก...





    “ก็แค่ถ่ายวิดีโอสนุกๆ เท่านั้น อย่ากลัวไปเลย รับรองน้องได้เป็นดาราดังแน่”



    ...............
    .........................
    .................................





    สองขาเรียวยาวของคิม  คิบอมออกแรงวิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ฝ่าผู้คนที่เดินสวนโดยไม่สนใจว่าใครจะต่อว่าหรือเปล่า เป้าหมายของเขาคือแผนกประชาสัมพันธ์ของสวนสนุก  หลังจากได้รับโทรศัพท์จากบุคคลหนึ่งเมื่อสิบนาทีก่อนในระหว่างที่กำลังตะเวนหาร่างบอบบางของคนในปกครองที่หายลับไปกับฝูงชน....เขาคงไม่สนใจหากไม่มีชื่อบุคคลที่สามถูกยกขึ้นมาอ้างในบทสนทนาสั้นๆ นั้น





    “คุณชื่อคิบอมใช่ไหม รู้จักเด็กที่ชื่ออี ทงเฮ ไหมครับ...”





    และทันทีที่เห็นป้ายของแผนกประชาสัมพันธ์  ชายหนุ่มหรี่ตา  ตามใบหน้ามีหยดเหงื่อไหลมาตามไรผมและขมับ ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจที่จะเช็ดมันออก....สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มสองคนยืนขนาบข้างคนตัวเล็กที่ก้มหน้าสะอื้นไห้  เสื้อผ้าและทรงผมที่คิบอมจำได้ดีว่าคือใคร....





    “อี ทงเฮ!!!”





    “คิบอม”





    ใบหน้าหวานที่อาบชุ่มไปด้วยหยดน้ำตาเงยขึ้น  ริมฝีปากบางพึมพำเรียกชื่อนั้นแผ่วเบา...ทันทีนั้นเอง ทงเฮก็วิ่งเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่ โถมกายเข้ากอดเต็มแรง...





    “อึก.....คิบอม...ฮือ....คิบอม...”





    วงแขนเล็กโอบกอดร่างสูงโปร่างนั้นไว้แน่นเต็มวงแขน  ปลดปล่อยเสียงสะอื้นไห้ออกมาราวกับเด็กเสียขวัญ  กายบอบบางสั่นเทิ้มเหมือนลูกนกตกน้ำ  มือเล็กที่กำเสื้อไว้สั่นสะท้าน เรียกขานชื่อไม่หยุดคละเคล้ากับเสียงสะอื้นไห้ที่ดังเป็นระยะๆ ซ้ำไปซ้ำมา  คิบอมรู้ถึงเงาแห่งความหวาดกลัว.....





    คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันโดนทันที
     




    “เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือครับ”





    คิบอมหันถามชายหนุ่มร่างใหญ่ในเครื่องแบบของรปภสวนสนุกที่มีปลอกแขนที่ด้านซ้าย  เดาว่าเขาคงเป็นหัวหน้าด้วยน้ำเสียงสุภาพ เพราะถามทงเฮไปคงไม่ได้ความ  ยามนี้  อี ทงเฮไม่ผิดกับคนเสียสติแม้แต่น้อย...และคำตอบที่ได้ทำเอาคิบอมลืมตาโต สีหน้าตกใจ  นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ





    “เด็กคนนี้ถูกพวกมิจฉาชีพหลอกไปข่มขืน...”





    “อะไรนะครับ!!!!!”





    “ลูกน้องผมได้ยินเสียงร้องของน้องเขาดังมาจากห้องน้ำเก่าๆ เข้าไปก็เห็นว่าเป็นพวกมิจฉาชีพที่ปลอมตัวมาเป็นนักข่าวของนิตยสารมาหลอกถ่ายวิดีโอโป๊เด็กสาวที่เป็นเหยื่อ กำลังทำมิดีมิร้ายเด็กคนนี้อยู่  ก็เลยรีบเข้าช่วยเหลือและจับกุมพวกนั้นส่งตำรวจ ถึงแม้แกจะยังไม่โดนทำอะไรมาก แต่ดูจะเสียขวัญไม่น้อย”





    ชายหนุ่มรปภตอบเสียงเคร่งขรึม สั่นศีรษะช้าๆ อดนึกสงสารเด็กน้อยไร้เดียงสาไม่ได้ที่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ แบบนี้ คิบอมเม้มริมฝีปากแน่นอย่างลืมตัว  ขบกรามแน่น สบถออกมาด้วยความอาฆาตเคียดแค้นผ่านสายลมไปให้ไอ้พวกเศษสวะสังคมพวกนั้น





    “ถามอะไรก็ไม่ตอบ เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียวจนพวกผมจนปัญญา ไม่รู้จะทำยังไง พอค้นกระเป๋าก็เจอเบอร์โทรของคุณอยู่.....”





    ชายหนุ่มนึกขอบคุณความรอบคอบของแม่บ้านประจำตระกูลอี  ซียอง เธอเป็นคนใส่กระดาษที่มีชื่อและเบอร์โทรของเขาลงในกระเป๋าของคุณหนูคนเล็กไว้  เผื่อมีการติดต่อ ทงเฮไม่มีโทรศัพท์มือถือ ด้วยความที่ไม่เคยได้ไปไหนและไม่ค่อยมีเพื่อน  ทำให้ร่างบางคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องซื้อให้เปลืองเงิน...





    ....................
    ..............................
    ..........................................





    “ยังไงก็ต้องขอบคุณมากนะครับ”





    คิบอมโค้งขอบคุณชายหนุ่มหัวหน้ารปภกับความช่วยเหลือ  เขาตอบพลางยิ้มบอกว่าไม่เป็นไร  มันเป็นหน้าที่  พวกเขานึกขอบคุณร่างบางเสียอีกที่เป็นผู้ช่วยจับคนร้ายที่ตำรวจต้องการมานานให้เข้าไปนอนในคุก รับความผิดที่ตนเองก่อขึ้น 





    คิบอมมองร่างบอบบางของทงเฮในอ้อมแขนเขา  ร่างบางสั่นเทาอย่างน่าสงสาร ชายหนุ่มอึกอัก บอกความรู้สึกไม่ถูก  ต้นเหตุที่ทำให้อี  ทงเฮ  ต้องมาอยู่สภาวะสะเทือนใจเช่นนี้ ก็คือตัวเขาเอง  ชายหนุ่มรู้อยู่เต็มอก  ทงเฮยังอ่อนต่อโลกใบนี้นัก....จิตใจก็อ่อนแอ  เปราะบาง  หากมีอะไรรุนแรงมากระทบกระเทือน....ร่างสูงลอบถอนหายใจลึกและหนักหน่วง ที่เผลอเจ้าอารมณ์ใส่  ความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามาจับหัวใจ  แต่คนอย่างคิม คิบอม กร้าวเกินไป  จะให้พูดจาดีๆ กับคนที่ตนเองตั้งแง่รังเกียจก็ไม่ใช่นิสัย





    วงแขนถูกคลายออก คิบอมดันร่างของทงเฮออกเล็กน้อย ทงเฮลืมตาขึ้นมอง แววตาหวาดหวั่น น้ำตายังไม่เหือดแห้ง เขามองอย่างเข้าใจ  มือเรียวยาวแตะที่ร่องแก้มแผ่วเบา แล้วพึมพัมออกมาว่า





    "เลิกร้องไห้ได้แล้ว ร้องไห้มากๆ นายไม่เหนื่อยมั่งหรือไงฮะ"





    อี ทงเฮมช้อนสายตาฉ่ำไปด้วยหยดน้ำมอง  ริมฝีปากบางอิ่มสั่นระริก แล้วน้ำตาก็ไหลพรูออกมาอีกครั้งเหมือนสายน้ำเล่นเอาคิบอมตกใจเป็นการใหญ่ แขนผอมบางยกโอบรอบลำตัวหนา  พูดเสียงกระท่อนกระแท่น สะอื้นไห้และหวาดกลัว  เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนนี้  ...





    "คิบอม...กลัว...อึก...ทงเฮ...กลัว...พวกเขา...อึก..."





    "พอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงมันอีก!!!!"





    คิบอมตัดบทเสียงเข้ม คล้ายไม่อยากให้ร่างบางนึกถึงมัน วงแขนทั้งสองรัดร่างสั่นเทานั้นเข้ามาแนบอกให้มากขึ้น กระซิบปลอบขวัญเบาๆ ที่ข้างใบหู ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 





    "อย่ากลัวเลย มันไม่มีอะไรแล้ว นายปลอดภัยแล้ว"





    มือเรียวลูบเรือนผมสีดำสนิทไปมาเหมือนปฏิบัติกับเด็กเล็กๆ อาการสั่นสะท้านและเเรงสะอื้นนั้นค่อยๆ แผ่วและเงียบไปในที่สุด ทงเฮพึมพำเบาๆ ฟังไม่ได้ศัพท์  อ้อมแขนที่มั่นคง สัมผัสอันนุ่มนวล  เพียงแค่นี้ก็ช่วยปัดเป่าสิ่งร้ายๆ ให้กลายเป็นเพียงฝันแค่ตื่นหนึ่ง  เขาหลับตาลง ซบพิงแผ่นอกนั้นอย่างอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัยเป็นที่สุด ห่างไกลจากความหวาดกลัวอีกแล้ว





    ต่อมา อี ทงเฮ ก็รู้สึกตน เลือดฉีดแรงไปทั้งกาย เมื่อรู้สึกตัวว่าตนกำลังทำอะไร....ร่างบางค่อยๆ ผละออกจากวงแขนแกร่งนั้นอย่างเขินอาย  ก่อนที่จะก้มหน้านิ่งอยู่เช่นนั้น  เช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก จังงังไปชั่วขณะ ต่างคนต่างสำนึกในภาวะของแต่ล่ะฝ่าย





    “ขอโทษนะ ทงเฮทำเสื้อคิบอมเปื้อนจนได้” ทงเฮเป็นฝ่ายทำลายความเงียบที่ว้าวุ่นนั้น มือบางปัดป่ายรอยคราบน้ำตาที่เปรอะเป็นดวงที่เสื้อของอีกฝ่าย





    “ช่างมัน”





    คิบอมตอบกลับเบาๆ จับข้อมือขาวจัดนั้นให้หยุดการกระทำ ร่างบางกระพริบตาปริบๆ มองคิบอม  สบสายตาอย่างจังกับดวงตาคมดุคู่นั้น ที่เขายอมรับว่านึกขยาดเหลือเกิน...





    ร่างบางก้มลงมองปลายเท้าของตน  เม้มริมฝีปากเข้าหากัน คิบอมคงจะโกรธเขาที่เขาร้องไห้ทำตัวอ่อนแออีกแล้ว  พอคิดแบบนั้น....หยดน้ำตารื้นมาคลอที่หน่วยตาอีกครั้ง  ชั่วขณะก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาใหม่  เมื่อเห็นมือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า





    “จับมือฉันไว้ จะได้ไม่หลงกันอีก”





    ดวงตาคู่งามเบิกกว้างให้กับถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากหยัก  ทงเฮจ้องใบหน้าคมเข้มนั้นโดยไม่กระพริบตา เห็นแววห่วงใยซ่อนอยู่ภายในลูกแก้วสีเข้ม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยแจ่มชัดนักก็ตาม ทงเฮบอกไม่ถูกว่าสายตาเช่นนั้นทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างน่าพิศวงได้อย่างไรกัน ประหลาดใจจนบรรยายไม่ถูก





    “เอามองอยู่ได้ เร็วสิ!!!” คิบอมขึ้นเสียงดุ เมื่อเห็นร่างบางเอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่อย่างงั้น ก่อนที่จะแสร้งหันหน้าไปทางอื่น ทงเฮนึกขำกับท่าทีที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก น่าแปลก...เขากลับไม่รู้สึกหวาดกลัวน้ำเสียงนั้นเหมือนอย่างเคย 





    มือบางค่อยๆ วางลงบนอุ้งมือใหญ่ที่แบตั้งท่ารออยู่ จังหวะการเต้นของหัวใจผิดแปลกไปจากปกติ หวั่นไหว.....คิบอมจับมือเรียวขาวนุ่มนิ่มนั้น ก่อนที่จะพาเดินออกไป....





    ทงเฮหน้าร้อนฉ่า  แก้มใสแดงสุกปลั่งเหมือนผลมะเขือเทศ รู้สึกถึงไออุ่นจากแรงกระชับที่ฝ่ามือ ปลายนิ้วที่สอดประสานกัน ร่างบางคลายยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความสบายใจเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ได้ใกล้ชิดผู้ชายคนนี้



    ..........
    ........................
    ..............................




    Oh Yeah ไรเตอร์ กลับมาแล้วรายงานตัวแล้วค่า รีดเดอร์ทั้งหลาย (จุดพลุฉลองหน่อย ปังๆๆ)


    ต้องขอประทานอภัยที่หายหัวแอนด์หาง???ไปนานมากกกกกกกกก


    พอดีช่วงที่ผ่านมา ไรเตอร์ต้องประกอบภาระกิจมากมาย ชีพจรลงเท้าต้องไปๆ มาๆ ต่างจังหวัด


    ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน จึงไม่มีเวลาว่างเเม้แต่น้อย...






    เอาความจริงไหม...






    ที่ไรเตอร์หายไปนานร่วมหลายเดือนนั้นก็เพราะ





    "ไรเตอร์ติดเด็กค่ะ"





    ช่วงนี้เด็กๆ ต่างพาเหรดเข้ามาให้ใจให้ไรเตอร์ได้หอบหื่นกำเริบ


    ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มๆ MBLAQ โอ้ มายบุดด้าเบส!!!O_O หล่อกระชากตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูดีทั้งวงเจ้าค่า  เด็กป๋าเรนแกเเน่จริงๆ


    (โดยเฉพาะ อีจุน กะ น้องชองดุง ซานด้าร่า ฉันไม่คิดเลยว่า น้องชายเธอจะหล่อ น่ารักกระชาก ตับ ไต ไส้ พุง ฉันได้ขนาดนี้ โอ้ๆๆๆๆ O0O)


    หนุ่มน้อย ดี น่า หนูกระหล่ำ เฮ้ย น้องคารัม น่ารักสุโค่ยยยยยยยย >O<


    ซีอา จุนยอง (เปล่าว้า???) ลูกชายทายาทอสูรของมิกกี้ ปาร์ก ยูชอน พ่อห้อยศรีมหาเด้งแห่งราชวงศ์เทพ (ทำไมไม่ได้แม่
    (พร้าวจุนซู)มามั้งล่ะลูกT_T)


    และวงอื่นๆ (คนอื่นๆ ) อีกมากมาย จนไม่สามารถนับได้ 


    ไรเตอร์จึงหลงอยู่ในฮาเร็ม????เด็กๆ เหล่านั้นพักใหญ่



    จนกระทั่ง  ไรเตอร์ก็มีโอกาสเห็นเอ็มวีใหม่ของเอสเจ และเมื่อสายตาของไรเตอร์ได้ปะกะน้องหมวย และหนูไก่


    (ในสภาพที่ไรเตอร์มิปลื้มอย่างรุนแรงTT^TT)แล้วนั้นไซร์



    ก็พลันให้ไรเตอร์รู้สึกตัวและสำนึกได้ว่า  "ตูไม่ได้ต่อฟิกมานานแล้วนี้หว่าาาาาาาาาาาาา"



    ไรเตอร์รีบพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย (เว็บเด็กดี) และทำการเช็คทันที


    OMG รีดเดอร์ประท้วงทวงฟิกตูยิ่งกว่าม๊อบเสื้อแดงอีกเหรอนี้ (เว่อร์ไปๆๆ)


    ไม่ได้การแล้ว ไรเตอร์จึงรีบไปขุดฟิกที่ดองไว้อย่างดีในโอ่งมังกรของป๋าฮัน (อิมพอร์ตมาจากเมืองจีนเชียวน้า )


    กลิ่นใช้ได้ (ไม่ใช่แล้วตู =_=)


    และทำการปั่นต่อโดยไว้ จึงทำให้ตอนนี้ยามนานจนแทบจะเป็นมหากาพย์กว่าตอนอื่นๆ  ไรเตอร์ต้องขออภัยรีดเดอร์ทั้งหลาย ไว้ ณ ที่นี้ด้วย (โค้งงามๆ) ...


    ...เด็กมันยั่ว ไรเตอร์เลยหลวมตัวไปหน่อย..






    ป.ล.สำหรับแบนเนอร์ทั้งหลายที่ส่งมาแลกนั้น ไรเตอร์จะถยอยแปะให้นะค่ะ ขอเวลาเคลียร์ตัวเองแป๊บ ตอนนี้ก็ยังรับแลกอยู่นะค่ะ....



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×