คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : A Drop of Tears Vol 10
Vol 10
“อากาศเริ่มร้อนแล้วเนอะ ว่าไหม ซีวอน”
เสียงหวานใสดังกังวานขึ้น ชเว ซีวอนหันมามองคนข้างๆ ตัว มือทั้งสองประคองพวงมาลัยรถยนต์คู่ใจของตน.... แสงแดดจากดวงอาทิตย์เริ่มทอดแสงรุนแรง ท้องฟ้าแจ่มใสเห็นเมฆสีขาวเป็นก้อนๆ ต้นไม้มีใบเขียวครึ้มแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา ตามถนนหนทางในย่านการค้าดังๆ ผู้คนเริ่มสวมใส่เสื้อผ้าหลากหลายแบบ หลากสีสันสดใส สาวๆ บางคนก็สวมใส่เสื้อสายเดี่ยว เกาะอก กางเกงขาสั้นโชว์เนื้อหนังมังสาอวดสายตาหนุ่มๆ ให้เห็นดาษดื่น แหล่งท่องเที่ยวอย่างชายทะเลเริ่มกลับมาคึกคัก...หลายคนเริ่มออกนอกบ้านเที่ยวพักผ่อนกันตามต่างจังหวัด....ตอนนี้ทั่วทั้งเกาะเกาหลีใต้เข้าสู่ฤดูร้อนเรียบร้อยแล้ว....
“ก็มันเข้าหน้าร้อนแล้วนี้หน่า ทงเฮ” เสียงตอบขรึมๆ “อากาศก็ร้อนเป็นธรรมดา”
“นั่นนะสินะ” อี ทงเฮทอดสายตานอกกระจกรถ แสงแดดภายนอกเจิดจ้าไม่มัวซัวเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนแต่งตัวสดใสเดินกันให้ขวัก เสียงของคนข้างๆ กล่าวต่อไปว่า
“ว่าแต่เราจะไปไหนกันดีล่ะ?” ร่างบางหันไปมองเสี้ยวหน้าของซีวอน แล้วพูดขึ้นแกมขอร้องว่า...
“ซีวอน พาทงเฮแวะไปที่นั่นได้ไหม?”
..............
.....................
...............................
“คิดยังไงพาเรามาที่นี้นิ?” ซีวอนหันมาถาม ตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่หน้าโรงแรมเอเชียแกรนด์ ตึกสูงตระหง่านลัดฟ้าภายใต้แสงแดดอันร้อนแรง ส่องประกายวิบวับเสียจนรู้สึกพร่าตาจำต้องยกมือป้อง...“แต่ไหนแต่ไรเราไม่เห็นว่าทงเฮจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับมันนิ แล้ววันนี้คิดยังไงถึงได้....”
“ทงเฮอยากมาหาพี่ฮยอกแจนะ” ทงเฮตอบ “ถ้าซีวอนไม่อยากเข้าจะกลับก่อนก็ได้นะ”
“ทงเฮไม่อยากให้เราเข้านักเหรอ?” เสียงนั้นถามคล้ายโมโห สายตาที่จ้องมองมาก็ส่อแววแบบเดียวกัน ร่างบางอึกอักหาเหตุผลเสียยกใหญ่
“ก็ ซีวอนคงไม่อยากเจอพี่ฮยอกแจ”
ซีวอนถอนหายใจยาวให้กับคำตอบนั้น...
“ใช่ เราอาจจะไม่ชอบพี่ชายทงเฮ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าไปเจอหน้ากันไม่ได้ ถึงยังไงๆ เรากับฮยอกแจก็เคย...เข้าไปข้างในเถอะ ข้างนอกแดดร้อน...”
คำพูดตอนต้นจบอยู่แค่นั้นแล้วก็ตัดบทเอาดื้อๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะจับมือนุ่มนิ่มให้มั่น พาเดินเข้าไปข้างใน ทงเฮรู้สึกถึงแรงกระชับนั้น ประกายบางอย่างวูบวาบในดวงตากลม...
..........................
คนต้อนรับโค้งตัวให้ทงเฮและซีวอนที่เดินผ่านประตูเข้ามา ซีวอนกวาดสายตาไปรอบๆ ล็อบบี้ชั้นล่าง ทุกอย่างถูกจัดให้ดูเรียบร้อยสวยงามด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราราคาแพง ที่ตั้งได้อย่างลงตัวในพื้นที่แคบๆ อันจำกัด ดูแล้วไม่รกหูรกตา
“คุณหนูทงเฮ!!!!” เสียงใสๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้ทงเฮและซีวอนต้องหันไปมอง ก็พบผู้ชายหน้าหวานร่างอวบตัวเล็กในชุดสูทสีเทาดูสุภาพ ผมสีดำขลับถูกจัดตกแต่งมาอย่างดีกำลังก้าวเดินเร็วๆ ตรงมาหาพวกเขา ซีวอนรู้จักชายหนุ่มตัวเล็กคนนี้ เขาคือ อี ซองมิน เลขาของประธานบริหารที่เขาเคยพบเมื่อครั้งมาทำงานกับรุ่นพี่สาวร่วมงาน...
“พี่ซองมิน!!!” เสียงของทงเฮดังขึ้นอย่างสดใจ ที่เห็นเลขาของผู้เป็นพี่ชาย...ซองมินโค้งตัวให้ซีวอนนิดๆ ชายหนุ่มตอบรับด้วยการน้อมศีรษะลงเล็กน้อย เลขาหนุ่มอ้าแขนไปข้างหน้า รับร่างผอมบางของทงเฮเข้ามาสวมกอด...
“ดีใจจังครับ ที่ได้เจอคุณหนูที่นี้”เขาว่า น้ำเสียงแสดงความดีใจเต็มเปี่ยมที่เห็นใบหน้าของอี ทงเฮ “ว่าแต่ลมอะไรหอบคุณหนูมาที่นี้ครับ?”
“ทงเฮมาหาพี่ฮยอกแจฮะ พี่ซองมิน” ร่างบางตอบ “พี่ฮยอกแจอยู่ไหมฮะ?”
“อยู่ครับ แต่คงไม่ว่างพบ คุณกำลังเช็คเอกสารสำหรับการประชุมบ่ายนี้” สีหน้าของทงเฮสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซีวอนจับไหล่บางไว้ หน้าตาพลอยรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย
“ขนมเค้กของโปรดของคุณหนูยังมีอยู่ในตู้ ถ้ายังไงไปนั่งทานรอก่อน เดี๋ยวผมจะไปบอกคุณฮยอกแจว่า คุณหนูมาขอพบนะครับ”
ทงเฮพยักหน้ารับคลายยิ้มออกมาได้ ซองมินเดินจากไปอยู่ที่ลิฟต์คงจะขึ้นไปที่ชั้นบนสุดอย่างที่เจ้าตัวว่า ร่างบางหันมาหาซีวอน เขายังมองตามร่างอวบๆ ที่เดินออกไปจนลับสายตา
“ซีวอน ไปกินเค้กด้วยกันไหม?” ทงเฮถาม แตะข้อศอกคู่สนทนาเบาๆ ชเว ซีวอนพลันรู้สึกตัว เขายิ้มรับคำ ก่อนที่จะเดินตามทงเฮไปยังตู้เบเกอรรี่ของโรงแรมที่ตั้งอยู่ถัดไปใกล้เคาน์เตอร์ของโรงแรม...
สมเป็นโรงแรมระดับห้าดาว...เค้กและขนมปังหลายชนิดในตู้นั้นล้วนดูน่าตาน่าทานด้วยสีสัน...พวกมันทำมาจากวัตถุดิบอย่างดี และกรรมวิธีการทำจากเชฟผู้ชำนาญการ ทุกอย่างสดใหม่....จัดเรียงรายให้เป็นหมวดหมู่ดูสวยงามเป็นระเบียบในตู้กระจกเย็นขนาดใหญ่ให้เลือกกันไม่ถูก ขนมปังฝรั่งเศสในตะกร้าสานร้อนกรุ่น นวลแป้งยังติดที่ผิวเป็นละอองขาว
บิสกิต คุ้กกี้หลากรสบรรจุอยู่ในถาดใบโต มีฝาแก้วปิดทับป้องกันลม....แยมและเนยจากต่างประเทศให้เลือกซื้อที่ตู้แช่ที่อยู่ใกล้ๆ รวมถึงบริการเครื่องดื่ม คล้ายร้านคอฟฟี่ช๊อปทั่วไป สงวนราคาเองก็ไม่ใช่ย่อย...บางชิ้นราคามากกว่าค่าอาหารธรรมดาๆ ตามท้องถนนสามมื้อรวมกันซะอีก...
ดวงตาคู่งามของทงเฮ แลกวาดมองซ้ายขวาไปทั่วตู้กระจกนั้น ก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา เมื่อเห็นสตรอเบอร์รี่มูสเค้กสีชมพูอ่อน ด้านล่างของมันเป็นเค้กช๊อกโกแลตเนื้อนุ่ม ประดับด้านบนด้วยครีมสดและสตอเบอร์รี่ผลโตหั่นเป็นชิ้นๆ เหลืออยู่หนึ่งชิ้นในส่วนในสุด...เค้กสุดโปรดของเขา...
“ขอเจ้านี้ด้วยฮะ”
“ขอเค้กสตรอเบอร์รี่ชิ้นนี้ด้วย”
สองเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกัน รวมถึงเป้าหมายอันเดียวกันคือเค้กชิ้นนั้น....ทั้งคู่จึงหันมามองกันในทันทีโดยไม่ได้นัดหมาย ทงเฮเบิกตากว้าง พึมพำเสียงแผ่ว ไม่ต่างจากชายหนุ่มผู้นั้นที่ออกอาการอึ้งไม่แพ้กัน ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี้....
“คิบอม...”
“นาย...”
..............
..........................
.....................................
“คุณฮยอกแจครับ”
“มีอะไรซองมิน? เอกสารพวกนี้เอาไปจัดการซีร๊อกตามจำนวนที่ฉันเคยบอก แล้วจัดการให้เรียบร้อยด้วย อีกหนึ่งชั่วโมงเราต้องประชุมกับผู้ถือหุ้นกันแล้ว....” ฮยอกพูดยาวเหยียดทั้งๆ ที่ยังไม่เงยหน้าจากกองเอกสารสำหรับการประชุมในครั้งนี้บนโต๊ะ มองใบหน้าของผู้ที่มาเยือนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานแม้แต่น้อย ร่างบางรู้อยู่ดีอยู่แล้วว่าในเวลาแบบนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะมีสิทธิเข้ามายุ่งยามได้ นั่นคือ เลขา...อี ซองมิน...
ซองมินเดินเข้าไปใกล้ ยื่นมือรับเอกสารในมือของผู้เป็นนาย ฮยอกแจยกมือขึ้นคลึงระหว่างหน่วยตาทั้งสองข้าง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นสบสายตาของเลขา เมื่อรู้สึกว่าร่างอวบนั้นยังไม่ถอยห่างไปไหน
“มีอะไร?”
“คุณหนูทงเฮมานะครับ คุณฮยอกแจ”
ได้ยินชื่อนี้ ใบหน้าของฮยอกแจตึงฉับพลัน ความหงุดหงิดผุดขึ้นมาในความรู้สึก ก่อนที่จะกระแทกเสียงพูดออกไปว่า
“ฉันไม่ว่าง มีงานต้องทำ เอาเอกสารไปจัดการตามที่ฉันสั่งได้แล้ว ซองมิน”
“แต่คุณหนูทงเฮอุตส่าห์มา ไม่ไปพบหน่อยหรือครับ เขาอยากพบคุณมากเลยนะครับ คุณฮยอกแจ”
“ซองมิน” หางเสียงขุ่นเขียว บ่งบอกถึงความไม่พอใจ...แต่ซองมินหาสนใจไม่ ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนยังคงพูดต่อไป..
“ผมอาจจะไม่รู้สาเหตุที่คุณเกลียดคุณหนูทงเฮดีหรอกนะครับ ว่าเพราะอะไร แต่อย่างน้อยคุณหนูทงเฮก็มีสายเลือดเดียวกันกับคุณนะครับ คุณฮยอกแจ...น้องชายที่คุณเคยรักและดูแล....”
จบคำ อี ซองมินก็ผละเดินออกไปที่ประตู ปล่อยให้ฮยอกแจนั่งจมอยู่ในความคิดของตนอยู่เพียงลำพัง...
.............
......................
...................................
“คิบอมชอบมากินที่นี้เหรอ?”
ชเว ซีวอนพูดขึ้น หลังจากเห็นใบหน้าของคิม คิบอม ชายหนุ่มที่หน้าตู้กระจกเมื่อสองสามนาทีก่อน... ตอนนี้พวกเขาสามคนกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะที่ใช้รับรองลูกค้าของแผนกเบอเกอรี่ที่ตั้งอยู่มุมใน เขานั่งอยู่ข้างทงเฮ ในขณะที่ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม คิบอมทำหน้ายิ้มๆ ตอบตามมารยาท
“ฉันชอบเค้กที่นี้...”
ปากก็ตอบคำถามของซีวอน และสายตากลับปรายมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองโต๊ะแก้วกระจกใส ทงเฮเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกจับจ้อง หน้าใสแดงวาบเมื่อมองสบสายตาคมนั้นตรงๆ พลาดแล้วอี ทงเฮ ที่เผลอไปสบตาคมกริบดุตาของพญาราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่...ทงเฮหลบตาวูบ ร้อนที่แก้ม....รอยจูบนั้นยังซาบซ่านอยู่ในอารมณ์และความรู้สึก...
ซีวอนถอนสายตาไปยังร่างเพรียวบางข้างๆ แล้วก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าระยะหลังที่ผ่านทงเฮจะมองชายหนุ่มพี่เลี้ยงด้วยแววตากระดากเขิน...ร่างบางมักจะหน้าแดงทุกครั้งหากได้สบสายตาคมนั้นตรงๆ
น่าแปลก...ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง เขารู้สึกว่าทงเฮกำลังมีความลับบางอย่างที่ไม่อยากให้เขารับรู้....คิดได้อย่างนั้นก็รู้สึกปวดหนึบไปทั้งอก...เหมือนกับว่าระยะทางของความรักที่เขามีให้ร่างบางเริ่มห่างไกลมากขึ้นเข้าไปอีก....
เค้กที่สั่งไว้ถูกนำมาเสริฟลงบนโต๊ะ ทงเฮเลื่อนจานเค้กสตรอเบอร์รี่ชิ้นนั้นไปตรงหน้าคิบอม ตาคู่สวยมองด้วยความเสียดายลึกๆ ในอก เค้กรสโปรดเสียด้วย....เสียงหวานใสกล่าวเกรงในทีว่า....
“คิบอม เค้ก...”
ชายหนุ่มมองจานเค้กตรงหน้าสลับกับใบหน้าของคนให้ แล้วก็ต้องส่ายหัว แววตาและสีหน้าบ่งบอกถึงความเสียดมเสียดายอย่างชัดเจน ร่างบางคงจะเสียสละเค้กชิ้นนี้ให้เขาทั้งๆ ที่ตัวเองก็อยากจะกิน...เขาเลื่อนมันไปให้ทงเฮคืน ร่างบางมองด้วยสีหน้าฉงนสงสัย..
“ฉันให้ เห็นนายมองตาเป็นมันเชียว”
ร่างบางยิ้มแป้นเสียแก้มบาน ดวงตาเป็นประกายวิบวับ...
“ขอบคุณนะ คิบอมใจดีจัง...”
มือเรียวหยิบช้อนขึ้นมาตัดเค้กชิ้นนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ซีวอนนึกขำ เวลาทงเฮได้ของที่ถูกใจไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ... เหลือบมองคิม คิบอมที่นั่งจิบกาแฟ ชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้...คิบอมเองก็ไม่ได้ใจร้ายหรือเย็นชาอย่างที่เคยสัมผัส... บางทีถ้ารู้จักกันดีกว่านี้ พวกเขาสองคนอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้....
หญิงสาววัยกลางคนในชุดแม่บ้านที่กำลังจะเดินผ่านบริเวณที่พวกเขาสามคนเดินไปช้าๆ ท่าทางเธอดูรีบร้อน ในอ้อมแขนถือห่อหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ไว้ ทงเฮร้องเรียกเพราะเหลือบไปเห็นพอดีด้วยเสียงอันดังพอใช้ได้ ร่างบางคงจะลืมตัวมากกว่าที่จะตะโกนออกไปอย่างนั้น
“ป้ายูรี!!!...”
ทงเฮจำหญิงสาววัยกลางคนนี้ได้ เธอทำงานเป็นแม่บ้านตั้งแต่สมัยเขายังเด็กๆ ยูรีเลิกซ้ายแลขวามองหน้าต้นเสียง แล้วก็ต้องยิ้มกว้าง เมื่อเห็นคนที่แสนคุ้นตายกมือไม้กวักให้วุ่น
“คุณหนูทงเฮ ใช่คุณหนูจริงๆ ด้วย!!” เธอถลันเข้ามาหายื่นมือออกสัมผัสกับร่างบาง “นางฟ้าตัวน้อยๆ ของอิฉันเติบโตมากจนคนแก่ๆ อย่างอิฉันจำแทบไม่ได้ สบายดีใช่ไหมค่ะ คุณหนู?”
จาง ยูรีปลาบปลื้มกับการได้เห็นใบหน้าของคุณหนูคนเล็กเจ้าของโรงแรมนี้อีกครั้งเป็นอย่างมาก หลังจากการพบกันครั้งสุดท้ายคือเมื่อสิบปีก่อน เธอจำได้ว่าตอนนั้นทงเฮยังอายุสิบสามปี...
“ฮะ ป้ายูรีเองก็ดูแข็งแรงเหมือนเดิมนะฮะ ว่าแต่ นั่นห่ออะไรฮะ?” ยูรีก้มลงมองห่อกระดาษในมือ ก่อนที่เธอจะร้องอ๋อ
“ดอกกุหลาบนะค่ะ เขาให้อิฉันเอามาทิ้ง น่าเสียดายนะค่ะ สวยๆ ทั้งนั้น คุณหนูดูสิค่ะ”
พูดจบ เธอก็คลี่กระดาษในมือออก เผยให้เห็นช่อดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนกองใหญ่ กลีบยังแข็งสด มีหยดน้ำเกาะพราว ทงเฮมอง แล้วก็นึกเสียดายตามที่หญิงสาวว่า...
“ทิ้งทำไมฮะ ยังใช้ได้อยู่เลย?”
“ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พวกพนักงานที่จัดห้องประชุมบอกให้เอามาทิ้ง ไม่ได้ใช้แล้ว”
“น่าสงสารพวกมันออก ถูกทิ้งอย่างไรค่าแบบนี้ ว่าแต่ห้องประชุมไหนฮะ?”
“ห้อง กุกฮัน ที่อยู่ชั้นสองนะค่ะ ห้องประชุมใหญ่ที่จะมีการประชุมในบ่ายนี้” ยูรีตอบ พลางชี้นิ้วไปที่ชั้นสอง ทงเฮมองตาม ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัว...ร่างบางจุดยิ้ม แล้วหันไปพูดกับยูรี
“ดอกกุหลาบพวกนี้ ทงเฮขอได้ไหมฮะ?”
“ได้ค่ะ ว่าแต่คุณหนูจะเอาไปทำอะไรค่ะ” ยูรีถาม คิ้วขมวดด้วยความสงสัย ร่างบางเอียงคอตอบด้วยรอยยิ้มตาปิด...
“เอาไปจัดห้องประชุมฮะ”
............
.......................
.................................
สองขาเรียวขาวภายในกางเกงสแล็คสีดำสนิทของฮยอกแจก้าวยาวๆ ตรงไปยังห้องประชุมใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า โดยมีเลขาร่างอวบ อี ซองมินหอบเอกสารเดินตามอยู่ห่างๆ พนักงานหญิงสองคนที่นั่งอยู่หน้าห้องประชุม พวกเธอพากันลุกขึ้นโค้งทำความเคารพเจ้านาย
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม?” เขาถามเสียงเรียบ หญิงสาวพยักหน้าตอบเสียงสุภาพ
“เรียบร้อยค่ะ”
ฮยอกแจพยักหน้าน้อยๆ รับคำ ก่อนที่จะเดินเข้าไป พลางกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องชนิดไม่ยอมให้สิ่งใดรอดพ้นสายตาไปได้ พอใจลึกๆ ในอกกับการจัดตกแต่ง ทันใดนั้น เขาก็ชะงักฝีเท้า ทำจมูกฟุตฟิต คิ้วขมวดเข้าหากัน
“มีอะไรผิดปกติหรือครับ?” ซองมินถามเบาๆ อย่างสงสัยในอาการของผู้เป็นนาย
ร่างผอมบางไม่ตอบอะไรให้เลขาคลายข้อกังขาใจ ฮยอกแจสูดลมหายใจหนักๆ มองไปที่โต๊ะตัวยาวที่ถูกปูด้วยผ้าสีขาว จ้องเขม็งไปยังแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาก้าวเข้าไปใกล้ พิจารณาช่อดอกไม้ที่เสียบอยู่ด้านใน หยิบมันขึ้นมาดู ไม่ผิดดั่งที่เขาคิด....ดอกไม้ที่อยู่ในมือของเขาตอนนี้คือดอกกุหลาบสีชมพูอ่อน....
“คยูรี!!!” ฮยอกแจส่งเสียงเรียกหญิงสาวผู้รับผิดชอบงานในครั้งนี้ดังๆ สองสามครั้ง ไม่ถึงอึดใจหญิงสาวรูปร่างแบบาง ผมหลอนสีน้ำตาลเข้มในเครื่องแบบก็วิ่งเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต เธอยืนก้มหน้านิ่ง ทิ้งระยะห่างจากผู้เป็นนายพอสมควร นึกกลัวจนตัวแทบสั่น ใบหน้าสวยหวานมีร่องรอยแห่งความไม่พอใจฉาบอยู่ทั่ว ดูเขาหงุดหงิดทั้งท่าทีและสายตา เธอเห็นแล้วแทบอยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด คยูรีเอ่ยถามเสียงสั่นนิดๆ ว่า...
“มีอะไรหรือค่ะ คุณฮยอกแจ”
“ใครเอาดอกกุหลาบพวกนี้มาไว้ในห้อง!!! ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าให้เอาพวกมันไปทิ้ง แล้วนี้มันหมายความว่าไง!!!” เสียงหวานนั้นถามอย่างเกรี้ยวกราด ดอกกุหลาบในมือถูกปาใส่ใบหน้าของเธอ ร่างบอบบางของพนักงานสาวหัวหน้างานไหวสะเทือน ไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองสบตาของผู้เป็นนายที่กำลังโทสะจริต...ก่อนที่จะตอบเสียงตะกุกตะกัก
“ดิฉันสั่งให้คนเอาไปทิ้งแล้วนะค่ะ แต่คุณหนูทงเฮ...เธอ...เธอเอามาจัดใส่แจกันค่ะ คนของดิฉันห้ามแล้ว แต่คุณหนูเธอก็ไม่ฟัง พอจะเอาไปทิ้งอีก เธอก็ไม่ยอม ดิฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง? ก็เลย..”
ฮยอกแจกัดริมฝีปากแน่นจนมันสั่นระริก ยืนตัวสั่นเทิ้ม หน้าแดงจัดด้วยแรงโกรธาหลังจากได้ยินชื่อผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น...อารมณ์ดุดันยังไม่ลดละ ซ้ำยังเพิ่มขึ้นเป็นทวี... ดวงตาเรียวสวยคู่นั้นลุกวาวอาบเอิบไปด้วยแรงโทสะ มือกำเข้าหากันแน่นจนเกร็งขาวอย่างโกรธขึ้ง เขาโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่แล้ว....
คยูรียืนหน้าซีด ตัวสั่นงันงก ซองมินมองผู้เป็นนาย กลืนก้อนแข็งๆ ในคอลงอย่างยากเย็น นึกขยาด...แววตาของอี ฮยอกแจในตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์ร้ายใดๆ ในโลกเสียอีก..
”คุณฮยอกแจ!!!!...”
ซองมินเรียกชื่อของเจ้านายดังลั่น เมื่อจู่ๆ ฮยอกแจก็ก้าวเดินพรวดพราดออกจากห้องประชุมไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย หนำซ้ำเจ้าตัวยังคว้าดอกกุหลาบในแจกันทั้งหมดออกไปด้วย ซองมินรีบวิ่งตาม...สังหรณ์ใจไม่ดี...
ในขณะที่วิ่งตามร่างของฮยอกแจไปนั้น เลขาร่างอวบได้แต่ภาวนาในใจ ขออย่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเลย....
.............
....................
................................
Meawyu คุยกันหลังฉาก.....
ต้องกราบขออภัยผู้อ่านทุกท่านด้วยที่มาต่อช้า (มาก) เนื่องจากคนแต่งติดภาระกิจปั่นรายงานตลอดเดือน จึงไม่มีเวลาว่างแม้แต่น้อย....ทำให้ตอนนี้นั้นมาช้ายิ่งกว่าเต่าคลาน แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกดีใจจังที่ยังมีคนรออ่านอยู่...
ปล.เห็นทรงผมใหม่ของอิไก่แล้วปวดใจจริงๆ TT^TT เอาแม่สาวสวย???ผมแดง ตาเฉียวด้วยอายลายเนอร์คืนมาน้า......After มันต้องดีกว่า Before ดิ แหวกทฤษฎีมาก...
เค้กมูสสตอเบอร์รี่ที่หมวยกะตี๋แย่งชิงกัน น่ากินดีจัง อยากกินบ้างอะไรบ้าง....
ส่วนนี้เป็นอิจเมจล๊อบบี้ของโรงแรม (จำไม่ได้แล้วเอามาจากโรงแรมอะไร ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง)
ความคิดเห็น