ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    〔FANFIC HAIKYUU〕°เกินต้าน°(Matsukawa​ x​ Oc)​

    ลำดับตอนที่ #1 : นมสตอเบอรี่

    • อัปเดตล่าสุด 19 ม.ค. 64


    1

    .____________________.


    'สถานีต่อไปเซ็นได'​

     

    เสียงประกาศจากรถไฟดังขึ้นเพื่อเตือนว่าตอนนี้รถไฟเคลื่อนที่ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว​ 'อามาเนะ​ โคโมริ'​เด็กสาวตัวเล็กเจ้าของเรือนผมสีแดงที่มัดรวบเอาไว้อย่างเรียบร้อยเอามือเกยไว้ที่คางพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

     

    "ในที่สุดก็ถึงแล้วสินะ มิยางิ"

     

     เจ้าของนัยน์ตาสีทับทิมกวาดสายตาออกไปมองนอกหน้าต่างของรถไฟ บรรยากาศของเมืองที่ไม่คุ้นตาทอดผ่านสายตาไปอย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่อามาเนะได้มาที่มิยางิแถมยังเป็นการย้ายมาอยู่อีกด้วย เด็กสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ที่โตเกียวนานเกือบสิบเจ็ดปี แทบไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเล่นหลังเลิกเรียนหรือไปทัศนศึกษาเหมือนกับเด็กคนอื่นเค้า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะพ่อของเธอและสาเหตุที่ทำให้เธอต้องลากสังขารย้ายสำมะโนครัวจากโตเกียวมาที่มิยางิก็คือพ่อของเธออีกนั่นแหละที่เป็นคนไล่เธอออกจากบ้าน​ 

     

    โชคยังดีที่อาหนุ่มของอามาเนะได้ทราบเรื่องที่เธอถูกไล่ออกจากบ้าน​ เขาเลยเสนอให้ย้ายมาอยู่กับเขาที่มิยางิแทนไม่งั้นเธอคงได้กลายเป็นคนไร้บ้านอย่างแน่นอน

     

    ไม่นานนักรถไฟก็จอดสนิทเมื่อถึงที่หมาย​ เด็กสาวขนกระเป๋าสัมภาระลงจากรถไฟ​ สัมภาระที่เธอขนมามันมากจนเหมือนกับจะย้ายบ้านมาทั้งหลัง​ ยังดีที่มีเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟมาช่วยไม่อย่างนั้นสาวเจ้าคงได้เป็นลมล้มพับเพราะกองสัมภาระของตัวเองเป็นแน่

     

    "คุณอาอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย"

     

    อามาเนะวางกระเป๋าสัมภาระลงและหยิบโทรศัพท์​มือถือขึ้นมาต่อสายหาอาหนุ่มที่จะมารับเธอที่หน้าสถานี



    ++++++++++

     


    "ขนอะไรมาเยอะแยะเนี่ย" 

     

    พอเดินทางมาถึงบ้านของ'ซาดายูกิ​ มิโซงุจิ'​​ผู้มีศักดิ์เป็นอาของอามาเนะ​ ตั้งแต่เจอหน้าหลานสาวซาดายูกิก็บ่นไม่หยุดตั้งแต่ที่สถานีรถไฟยันขับรถมาถึงบ้านเขาก็ยังคงบ่นอุ๊บอิ๊บไม่หยุด​ บางทีเธอก็สงสัยว่าอาหนุ่มของเธอเข้าวัยกลางคนแล้วรึเปล่าทั้งๆที่เขาพึ่งจะย่างเข้าปีที่สามสิบเอ็ดเองแท้​ๆ​ ถึงแม้เขาจะขี้บ่นแต่ก็ใจดีกับเธอเป็นอย่างมาก 

     

    "คุณอาหยุดบ่นก่อนเถอะค่ะ"

     

    "ฉันไม่ได้บ่นสักหน่อยยัยเด็กนี่​ ไม่ได้เจอกันตั้งนานกล้าขึ้นเยอะเลยนะเรา​ ฮ่าๆ"

     

    ซาดายูกิไขกุญแจเพื่อเปิดประตูบ้านและยกกระเป๋าสัมภาระที่อามาเนะขนมาอย่างแทบเป็นแทบตายขึ้นมาอย่างง่ายดายอย่างกับยกกล่องเปล่ายังไงยังงั้น​ ภายในบ้านตกแต่งแบบเรียบง่ายไม่มีของมากนัก​ เพราะซาดายูกิเป็นชายโสดและไม่มีใครที่อาศัยอยู่กับเขา​ 

     

    "เดี๋ยวค่อยจัดของก็ได้​ ตอนนี้ไปหาอะไรกินก่อนเถอะ"

     

    ซาดายูกิวางกระเป๋าสัมภาระลงแล้วชวนหลานสาวไปหาอะไรทานที่ห้องครัว​ อามาเนะที่พึ่งรู้ตัวว่านี่ก็เลยเวลาอาหารเที่ยงมานานแล้วจึงเดินตามไปโดยไม่ขัดอะไร

     

    ซาดายูกิเตรียมอาหารมื้อง่ายๆอย่างข้าวห่อไข่​ ที่ราดหน้าด้วยซอสมะเขือเทศเป็นรูปกระต่ายน้อยหน้าตาน่ารัก​เสริฟให้เธอ​ อามาเนะก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคุณอาของเธอถึงชอบทำอะไรแบบนี้ให้​เธอเสมอ​ อย่างครั้งก่อนที่เธอไปเที่ยวงานชมดอกไม้กับคุณอาที่โตเกียวเขาก็อาสาจะทำข้าวกล่องให้แถมเป็นข้าวกล่องสุดแสนจะน่ารักเสมือนกับข้าวกล่องเด็กประถมที่คุณแม่ตั้งใจทำให้ลูกเพื่อไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนก็ไม่ปาน

     

    "ทานละนะคะ"

     

    "กินเยอะๆล่ะ​ อยู่โตเกียวเธอได้กินอะไรบ้างรึเปล่าเนี่ย​ ทำไมถึงดูตัวเบาขนาดนี้?" 

     

    "แหม ถ้าหนูได้กินอาหารฝีมือของคุณอาทุกวันรับรองว่าคุณอายกหนูไม่ขึ้นแน่ค่ะ​"

     

    ซาดายูกิหัวเราะลั่นพลางเอามือลูบหัวหลานสาวอย่างเอ็นดู​ ซาดายูกิรู้ดีว่าหลานของเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเธอสักเท่าไหร่นัก ซาดายูกิอยากที่จะดูแลหลานสาวให้ดีมากกว่าที่พี่ชายของเขาทำ เขาไม่อยากให้หลานของเขาต้องจมอยู่กับความทุกข์เหมือนเมื่อก่อน



    ++++++++++

     


    “ชิxหาย”

     

    นิ้วเรียวกดหน้าจอโทรศัพท์ในมือยิกๆแต่กลับไม่มีอะไรตอบสนอง ทำให้ทราบได้แล้วว่าตอนนี้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มันได้หมดลงแล้ว​ อามาเนะนั่งลงกอดเข่าตัวเองแน่นพลางคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดีพลางหันซ้ายทีขวาทีอย่างวิตกกังวล​ เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังหลงทางน่ะสิ.... 

     

    เด็กสาวก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบทุ่มแล้วตั้งแต่เธอออกมาเดินเล่น​ ตอนที่จัดของเสร็จอามาเนะได้ขออาของเธอว่าจะออกมาเดินเล่นสำรวจเมืองรอบๆก่อนสักนิด​ แต่ใครมันจะไปคิดว่าเธอจะเดินเล่นเพลินจนลืมทางกลับบ้านแบบนี้​ เด็กสาวจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียวที่ไม่เคยมาที่มิยางิสักครั้งนั่งกุมหัวอย่างกับคนหมดอะไรตายอยาก​ ทั้งเนื้อทั้งตัวของอามาเนะตอนนี้ก็มีนาฬิกาข้อมือและโทรศัพท์​ที่แบตหมดเพียงเท่านั้น​ ครั้นเธอจะไปหาตู้โทรศัพท์​สารธารณะก็ไม่มีเงินติดตัวมาสักเยนเดียว

     

    "กลับไปคุณอาได้บ่นยันเช้าแน่เลย" 

     

    เหตุผลที่อามาเนะนั่งเครียดอยู่ไม่ใช่เพราะว่าหลงทางอยู่ในสถานที่ที่ไม่รู้จัก​ แต่ว่าเธอกลัวว่าพ​อกลับบ้านไปจะโดนคุณอาบ่นเป็นชุดตั้งแต่ก้าวเข้าบ้านยันฟ้าสางน่ะสิ​ แถมโทรศัพท์​เจ้ากรรมที่ดันมาแบตหมดทำให้ติดต่อกับใครไม่ได้อีกยิ่งแย่เข้าไปใหญ่​ 

     

    "ฮือออ​ ทำไงดี"

     

    สถานที่ที่อามาเนะอยู่ตอนนี้คือหน้าสนามเด็กเล่น​ เธอนั่งอยู่ข้างๆตู้กดน้ำ​ เธอได้แต่ภาวนาว่าจะมีใครสักคนเดินผ่านมา​ แต่นี่ก็ผ่านมาได้หลายนาทีแล้วก็ไม่เห็นจะมีใครเดินผ่านสักคนแถมฟ้าก็ยังเริ่มที่จะมืดลงเรื่อยๆแสงจากเสาไฟข้างทางก็เริ่มส่องสว่างทีละดวง

     

    กริ๊ก

     

    ในขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งก้มลงเอาใบหน้าซุกลงกับเข่า​ ก็มีเสียงหยอดเหรียญ​ของตู้กดน้ำข้างๆกับที่เธอนั่ง​ พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกำลังยืนเลือกเครื่องดื่มอยู่​ 

     

    "เอ่อ...ขอโทษนะคะ"

     

    อามาเนะทักชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า​ แต่เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินที่เธอพูด​ ชายคนนั้นทำหน้าครุ่นคิดอย่างกับว่ากำลังตีโจทย์​คณิตศาสตร์​โอลิมปิก​ทั้งๆที่เขาแค่กำลังยืนเลือกเครื่องดื่ม​ 

     

    "เอาอันนี้แหละ" 

     

    เมื่อชายคนนั้นเลือกเครื่องดื่มได้เขาก็กดลงไปที่ตู้กดน้ำและก้มลงไปหยิบเครื่องดื่ม​ พอจัวหวะที่เขาลุกขึ้นมาสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นว่ามีเด็กสาวตัวเล็กยืนอยู่และมีท่าทีว่ามีอะไรอยากจะพูดกับเขา

     

    "นมสตอเบอรี่?" 

     

    "มีอะไรรึเปล่าครับ?" 

     

    ชายหนุ่มตรงหน้าเธอพูดขึ้นแสงไฟจากเสาไฟส่องกระทบลงตรงเส้นผมสีดำหยิกและดูยุ่งเล็กน้อย​ นัยน์ตา​สีดำของเขาจ้องมองลงมาที่อามาเนะราวกับจะขอคำตอบ

     

    "ขอโทษที่รบกวนค่ะ​ คือ...คุณรู้ทางแถวนี้มั้ยคะ?" 

     

    มือเล็กเรียวประสานเข้าหากัน​ อามาเนะเงยหน้าขึ้นไปถามชายหนุ่มตรงๆ​ เธอรู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กที่หลงทางแล้วต้องให้ผู้ใหญ่พาไปส่ง​ แต่ในกรณีนี้มันจำเป็นจริงๆที่จะต้องพึ่งชายแปลกหน้าคนนี้ที่กำลังถือกล่องนมสตอเบอรี่ดีไซน์​น่ารักที่ไม่เข้ากับเขาเอาซะเลย

     

    "รู้สิครับ​ มีอะไรรึเปล่าครับ?" 

     

    "คือว่าฉันหลงทางน่ะค่ะ" 

     

    "พลัดหลงกับพ่อแม่เหรอครับ?" 

     

    "ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ!" 

     

    อามาเนะขึ้นเสียงใส่ชายตรงหน้าหนึ่งที​ แต่ก็ยอมอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง​ พอชายคนนั้นรู้เรื่องที่เธอต้องมาติดแหงกอยู่ที่ตรงนี้เขาก็เลยอาสาเดินพาไปส่งยังจุดหมาย​นั่นก็คือ​ร้านชิมาดะมาร์ท ซึ่งเป็นแลนด์​มาร์กในหัวของอามาเนะที่เดียว​ที่อยู่ใกล้บ้านของอาเธอ​

     

    โชคดีที่ชายแปลกหน้าคนนี้ให้อามาเนะยืมโทรศัพท์​ติดต่อกับอาของเธอ​ ระหว่างทางที่เดินไปยังชิมาดะมาร์ททั้งคู่ก็ได้คุยกันสรรพเพเหระไปเรื่อยๆจนไม่นานก็เดินมาถึงยังร้านชิมาดะ

     

    "ถึงแล้วครับ​ ต่อจากนี้ไปเองได้ใช่มั้ยครับ" 

     

    "ขอบคุณที่มาส่งนะคะ​ จากนี้ฉันจำทางกลับบ้านได้แล้วขอบคุณจริงๆนะคะ" 

     

    แต่ยังไม่ทันที่อามาเนะจะกล่าวลา​ ชายคนนั้นก็ยื่นกล่องนมสตอเบอรี่​ให้เธอพร้อมกับยิ้มให้

     

    "ไว้เจอกันนะครับ​ คุณเด็กหลงทาง" 

     

    ชายหนุ่มคนนั้นหันหลังเดินกลับไปโดยที่รอยยิ้มเมื่อครู่ยังคงตราตรึงภายในใจของอามาเนะ​ ถึงแม้จะคุยกันมาตลอดทางแต่ก็ยังไม่ได้บอกชื่อหรือแลกข้อมูลส่วนตัวกันไว้

     

    "รอยยิ้มของคุณพี่ช่าง... เกินต้าน

     

    เด็กสาวกำกล่องนมสตอเบอรี่แน่นแนบไว​้กับอก​ พลางเดินตัวปลิวไปยังบ้านของอาเธอโดยที่ยังมีภาพของชายหนุ่มแปลกหน้าที่ยิ้มให้กับเธอวนอยู่ในหัวตลอดทางเดินกลับบ้าน


                                                                      

    :P

     .____________________.


    TALK​ WITH​ MEANLEO

    ตอนแรกก็งอกออกมาเรียบร้อยแล้วค่าทุกคน​ เรารู้ว่าทุกคนต้องเดาออกว่าชายแปลกหน้าที่ถือกล่องนมสตอเบอรี่​นั้นเป็นใคร​555​ เราอาจจะยังเรียงประโยคแปลกๆหรือดำเนินเรื่องงงๆไปบ้างต้องขออภัยนะคะอยู่ในช่วงมือใหม่หัดแต่งค่ะ;-;​  แต่เราก็จะพยายามต่อไปนะคะ​ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ เย่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    T
    B
    Select AllCopy To Clipboard
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×