คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Begin Of Chaos (1)
1 ชั่วโมงก่อน เกิดสุริยคราส
ณ เมือง โจอาลิส เมืองที่เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย เป็นที่เมืองแต่ความสงบสุข
ไม่เคยมีภัยพิบัติอะไรมาก่อน ใครๆก็ต่างอยากพากันย้ายมาอยู่ที่เมืองแห่งนี้
เพราะรอบๆของเมืองล้อมรอบป่าเขาลำเนาไพรที่อุดมสมบูรณ์ และยังติดกับทะเล
จึงมีเรือสินค้าต่างพากันมาค้าขายสินค้าต่างๆมากมาย
ทั้งเครื่องประดับอัญมณี และ อาหารต่างๆ เมืองโจอาลิสแห่งนี้ไม่เคยมีปีศาจเข้ามาอาละวาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เพราะเมืองนี้ถูกกางเขตอาคมล้อมรอบเอาไว้
โดยเทพผู้หนึ่ง ตั้งแต่อดีตกาลมาแล้ว
วันนี้อากาศแจ่มใส แสงแดงส่องสว่างจ้า
เหล่าชาวเมืองกำลังทำมาค้าขายกันตามปกติ มีเด็กน้อยวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
คนขนของที่กำลังทยอยขนของลงจากเรือเพิ่อมาขายของก็ต่างพากันปวดหัวกับเหล่าเด็กน้อยที่กำลังวิ่งซุกซนอยู่
เมื่อพ่อแม่ของเด็กๆก็รีบพาลูกน้อยกลับบ้าน พร้อมทั้งกล่าวขอโทษต่อพวกคนขนของกันยกใหญ่
ณ ท้องพระโรงในปราสาท แห่งเมือง โจอาลิส
" ...เอ่อ...คือ..."
ลีดัส ชายแก่อายุราว 50 ที่เป็นจอมเวทย์และเป็นองค์รักษ์ที่เก่งที่สุดของ พระราชา เนโครลัส
ทำท่าอึกอักเหมือนไม่อยากพูดอะไรบางอย่าง
" ทำไม !! มีอะไร เจ้าบอกข้ามาตรงๆ "
พระราชา เนโครลัส ยืนขึ้นจากบัลลังก์ แล้วกล่าวด้วยความโมโห ที่ลีดัสไม่ยอมพูดให้กระจ่างชัดเจน
" พระอาญามิพ้นเกล้า ข้าจะทูลกับท่านตรงๆ พะยะค่ะ
บุตรของพระองค์ผู้นี้ จะถือกำเนิดช่วงสุริยคราสในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า "
" เกิดในช่วงสุริยคราสและยังไง ทำไม มีอะไรน่าแปลกใจ "
" เด็กผู้นี้เป็นกาลกิณี จะนำความหายนะ มาสู่ชาวเมือง โจอาลิส ของเราพะยะค่ะ "
ลีดัสก้มหน้าลง
" สามหาว !!! ข้าให้เจ้ามาทำนายดวงชะตาของลูกข้า ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนี้ เจ้าอยากตายหรืออย่างไร !!! "
พระราชาเนโครลัส โมโหจัด
" วิธีแก้ไขคือ ต้องสังหารเด็กผู้นั้น มิเช่นนั้น เมืองนี้ จะไม่มีผู้ใดรอดชีวิต... " ลีดัสจำใจพูดต่อให้จบ
" เด็กคนเดียวจะทำลายเมืองของข้า ทั้งเมืองเลย รึ ? เจ้านี่ช่างเลอะเทอะ แล้วยังปากเสียด้วย
!!!! ทหารจับตัวมันไปประหารเดี๋ยวนี้ !!!! "
" พระองค์ฟังหม่อมชั้นให้จบก่อนพระเจ้าค่ะ เมืองของเราจะถูกทำลายเพราะ.... "
ลีดัสยังพูดไม่จบ ก็มีนายทหารที่บาดเจ็บสาหัสมีเลือดท่วมตัวปรากฏตัวขึ้น โดยมีทหารที่อยู่ในท้องพระโรงช่วยกันประคอง
" ....ฝ่าบาท...ย...แย่แล้วพระ...เจ้าค่ะ อ่อก... "
" ตอนนี้ที่...ม..เมืองของเราถูกพวกปีศาจบุกมาอาละวาด ข...เขตอาคมที่ป้องกันเมืองของพวกเราเอาไว้
ก็ถูก ค ...คน..ทะ ทำลาย ลง ...ไป...
!!!!!! พรึ่บบบบ !!!!!!
ทหารยังไม่ทันพูดจบ ร่างของทหารคนนั้น ก็ลุกไหม้และกลายเป็นขี้เถ้าอย่างรวดเร็วเหลือเพียงประกายสีเขียวเล็กๆ
ที่ค่อยๆร่วงลงมาตามเศษขี้เถ้า
ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนในท้องพระโรง
...และทันใดนั้น ก็ได้ปรากฎร่าง ของเอดัลเทพผู้มีนัยน์สีแดงฉาน ที่ค่อยๆเดินมาจากทางประตู
ทุกก้าวที่เอดัลเดินผ่านพรมที่ปูพื้นอยู่จะเกิดไฟสีเขียวลุกขึ้นเป็นทาง
นางกำนัลพากันตกใจหวีดร้องวิ่งหนีออกไปบ้างก็ทำน้ำในโถที่จะนำมาถวายพระราขาแตกลง
น้ำที่หกเลอะเต็มพรมที่ปูพื้นท้องพระโรง ค่อยๆรวมตัวกันกลายเป็นร่างของเทพสาวผู้ที่มีผมและนัยน์ตาสีฟ้า ใบหน้าที่งดงาม
ริมฝีปากสีแดง ในชุดราตรีเปิดไหล่สีฟ้า เสน่ห์ของนางทำให้คนทั่วท้องพระโรงต่างตะลึง
ดั่งถูกสะกดด้วยมนต์ตรา จนไม่มีใครสังเกตุว่ามีเทพสาวคนหนึ่งค่อยๆเดินมาจากทางฝาผนังด้านข้าง
โดยที่นางสวมชุดรบที่ทำจากผ้าไหมสีเขียวมรกต ผมสีทองอ่อนๆซอยสั้นประมาณเลยติ่งหูไปนิดหน่อย
นัยน์ตาสีเขียวสดใสแต่ทว่ากลับดูว่างเปล่าเหลือเกิน
หน้าตาของนางงดงามไม่แพ้เทพเซนีอาร์เลยแต่ทว่ากลับดูลึกลับและน่ากลัวมากกว่า
" พวกเรามารับตัวบุตรของเจ้า " เสียงของทีอาทำให้ทุกคนในท้องพระโรงคลายจากอาการตกตะลึง
ทีอาเดินลงมาที่พรมสีแดงกำมะหยี่ที่ปูพื้นของท้องพระโรงอยู่
" น่าแปลกที่เขตอาคมของเมืองนี้ป้องกันไม่ให้เทพอย่างพวกเราเข้าไปด้วย
อีกอย่าง..ดูเหมือนว่า พวกปีศาจก็เหมือนจะต้องการบุตรซาตานเหมือนกับพวกเรา "
แต่พวกมันรู้ได้อย่างไรนะ ว่าบุตรซาตานอยู่ที่นี่ เซนีอาร์ เจ้ารู้มั้ย " เอดัลถามพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
" เป็นอาณาเขตเวทย์มนต์ที่แปลกมาก..และเรื่องปีศาจข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน
เจ้ามัวเสียเวลาคิดเรื่องนี้ทำไมกัน พวกเราต้องรีบนะ " เซนีอาร์กังวลว่าเมพิสโต้จะพบบุตรซาตานก่อนพวกนาง
" หึหึ ตามใจๆ แต่ข้าขออยู่ที่นี่แหละ " เอดัลผู้คลั่งไคล้การต่อสู้สังหรณ์ใจว่าความสนุกสนานต้องเกิดขึ้นจึงไม่ยอมไปไหน
" ทีอา เราไปกันเถอะ " เทพสาวผู้งดงามพูดจบก็หายหัวจากไป
" ค่ะ " ทีอาก้มหัวลงเล็กน้อยแล้วหายตัวตามเซนีอาร์ไป
พระราชาเนโครลัสวิ่งไปดูที่หน้าต่าง ถึงกับต้องอึ้ง เมื่อเมืองที่เคยมีแต่สีขาว บัดนี้ ไม่ว่าตามฝาผนัง บ้าน หรือ พื้นถนน
ก็มีแต่สีแดงของโลหิต เศษชิ้นส่วนของร่างมนุษย์กระจายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด
พวกปีศาจ พากันกัดกิน ชาวเมือง อย่างหิวกระหาย ท่ามกลางเสียงหวีดร้อง อย่างโหยหวน
" พระราชา ถ้าเจ้ายอมมอบบุตรซาตาน... ไม่สิ บุตรของเจ้าให้กับข้า บางทีข้าก็อาจจะช่วยชีวิตชาวเมืองที่เหลือก็เป็นได้นะ "
เอดัลหันมามองที่พระราชา
" บัดซบ!!! เจ้าเป็นคนทำลายเขตอาคม ยังจะมีหน้ามาบอกว่าจะช่วยอีกหรือ และอีกอย่างลูกของข้า
ข้าจะไม่มอบให้ใครทั้งนั้น ไม่ว่าเทพหรือปีศาจก็ตาม!!!!!
พระราชากล่าวด้วยความโมโหสุดขีดด้วยความรักลูกของตนและความเจ็บแค้นที่ชาวเมืองถูกปีศาจสังหารอย่างโหดร้าย
" ทหารรร !!!! ให้ทหารที่อยู่นอกท้องพระโรงช่วยชาวเมือง และที่เหลือในนี้ฆ่าพวกเทพให้หมด !!!!!! "
พระราชาเนโครลัสสั่งด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราด
หลังจากสิ้นคำสั่งของพระราชา เหล่าทหารที่มีแต่ความจงรักษ์ภักดีต่างหยิบดาบออกมาเตรียมพร้อมที่จะสู้อย่างสุดชีวิต
ลีดัสร่ายเวทย์มนต์ ฟิเกร่า สร้าง ลูกไฟขนาดยักษ์ พุ่งไปที่ เอดัลอย่างไม่รั้งรอ
" ตูมมม !!! " เกิดควันไฟและเปลวเพลิงฟุ้งกระจายไปทั่วท้องพระโรง จนมองอะไรแทบไม่เห็น
" เป็นยังไงบ้างเจ้าพวกเทพ บังอาจมาทำชั่วที่เมืองของข้ามันก็ต้องพบจุดจบแบบนี้แหละ "
ลีดัสจอมเวทย์ กล่าวขึ้นอย่างได้ใจ
หลังจากที่กลุ่มควันจางหายไป ร่างของเอดัลค่อยๆปรากฏขึ้นดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะไม่มีแม้รอยไหม้สักนิด
" มันก็อุ่นดีนะ ข้าจะอยู่เล่นกับเจ้าก็ได้ " เอดัล ยิ้มที่มุมปาก เยาะเย้ยลีดัส
" อะไรกัน !!!! " ลีดัสตกใจสุดขีด
ทหารในวังต่างกรูไปหา เอดัล แต่ยังไม่ทันจะถึงตัว ร่างก็ของทหารเหล่านั้นก็มอดไหม้เป็นผุยผงอย่างรวดเร็ว
ไม่เหลือแม้แต่ควัน เพราะความร้อนที่เอดัลสร้างขึ้นมีอุณหภูมิสูงมาก พอที่จะทำให้เกิดการเผาไหม้แบบสมบูรณ์ คือจะไม่เกิดควัน
" เจ้าพวกแมลงเม่า " เอดัล มองเศษของขี้เถ้าของทหาร อย่างสะใจ พลางขยี้เท้าที่เศษขี้เถ้าไปมา
" เจ้ามันก็ไม่ต่างไปจากปีศาจพวกนั้นหรอก !!! " เนโครลัส พูดพลางชักดาบออกมาพร้อมที่จะสู้ตาย
ขณะที่พระราชากำลังจะวิ่งเข้าไปสู้กับ เอดัล
ลีดัสก็วิ่งเข้าไปขวาง พระองค์ และพูดว่า
" พระองค์ ข้าจะต้านมันไว้ พระองค์รีบพาพระโอรสหนีไปเถิด พะยะค่ะ "
" ไม่!!! ข้าจะสู้กับเจ้าด้วย ข้าไม่เคยหนีใคร "
ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็มืดมิด และ...
ปรากฏการณ์แห่งความมืดมิด ... สุริยคราส ...ได้เกิดขึ้นแล้ว....
เหล่าเทพที่กำลังแยกย้ายกันค้นหาต่างรู้กันว่าบัดนี้บุตรซาตานได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว
จึงเร่งรีบค้นหาและฆ่าทหารในวังไปด้วยตลอดทาง
ที่ห้องหนึ่งของปราสาท
" . . . . . เอ่อ พระราชินีเพคะ พระโอรสคลอดแล้วเพคะ " สาวรับใช้ที่ทำคลอดกล่าวขึ้น
" ไหนขอดูหน้าของลูกเราหน่อยสิ... " พระราชินีเซียร์น่าพูดเบาๆนัยน์ตาบ่งบอกถึงความอ่อนแรง
สาวรับใช้ อุ้ม ทารกน้อยไปให้พระราชินี
" ฮิๆ เอิ๊กๆๆ " ทารกน้อยหัวเราะ... ใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
" ลูกเราทำไมไม่ร้องเหมือนเด็กทั่วไป.. แต่..จะว่าไปก็น่ารักดีนะ " พระราชินีแปลกใจปนกับความปิติยินดี
" เพคะ พระโอรสน่ารักจริงๆเลยนะเพคะ " สาวรับใช้ก็รู้สึกเช่นเดียวกับพระราชินี
ทันใดนั้นเองก็มีทหารคนหนึ่ง ผลักประตูออกออกไปอย่างแรง
" ปัง !!! "
" พระราชินี เพคะ แย่แล้วว พระองค์ต้องหนีไปตอนนี้เลยพะยะค่ะ พวกปีศาจกำลังบุกมา . . . "
ยังไม่ทันที่ทหารคนนี้จะพูดจบ ก็สลบลงทันใด พระราชินี และ สาวใช้ ตกใจมาก
" นี่มันอะไรกัน !!! " พระราชินีอุทานขึ้น เมื่อมองเห็นร่างของเทพสาวผู้มีแววตาสดใส มาปรากฎที่ข้างๆเตียงพระองค์
ฟินิอัส ติดตามทหารคนที่สลบอยู่นี้ เพราะตอนที่เหล่าทหารวิ่งออกมาจากท้องพระโรง
ฟินิอัสสังเกตุเห็นว่าทหารคนนี้ได้หนีไปทางกำแพง
ต่างจากทหารคนทั่วไป ที่ต่างแยกย้ายกันไปทางอื่น และกำแพงนั้นก็มีประตูลับเป็นทางลัดขึ้นมายังห้องนี้
" อ่าา อยู่นี่เอง " ฟินิอัสทำตาโตด้วยความดีใจ และยิ้มน้อยๆ
ฟินิอัสไม่อยากทำอะไรพระราชินีจึงลองออกอุบายให้พระราชินีหลงเชื่อดู
" พระราชินี เพคะ เด็กผู้นี้เป็นเด็กที่ควรจะกำเนิดบนสวรรค์แต่เกิดความผิดพลาดขึ้น
ข้าเป็นเทพและข้าจำเป็นจะต้องนำเด็กผู้นี้กลับไปยังสวรรค์
โปรดทำตามที่ข้าขอด้วย " ฟินิอัสพูดลวง
พระราชินีเห็นแสงสว่างเปล่งประกายออกมาจากตัวฟินิอัส และเสื้อผ้าที่ทำด้วยขนนกประดับด้วยอัญมณีสีสันหลากหลาย
ที่แลดูวิจิตรงดงามยิ่งนัก และพอเห็นปีกสีขาว 2 ข้างกางออก ก็รู้ทันทีว่าฟินิอัสเป็นเทพจริงๆ
แต่ด้วยความรักที่มีของบุตร..ทำให้นางไม่อาจยอมให้เด็กน้อยกับฟินิอัสง่ายๆ
" โอ....ไม่...ท่านเทพ นี่เป็นลิขิตจากสวรรค์หรืออย่างไร... " พระราชินีทำหน้าสลด
" ใช่ เพคะ ข้าต้องขออภัยจริงๆ ที่ต้องมาพรากบุตรของท่านแบบนี้ "
" ไม่ได้....." พระราชินี กอดเด็กน้อยไว้แน่น
" ถึงท่านจะเป็นเทพ ถึงมันจะเป็นลิขิตสวรรค์ แต่นี่มันลูกของข้านะ ข้าขอร้องล่ะ ท่านเทพ อย่าเอาลูกของข้าไปเลย ...." พระราชินีขอร้องด้วยน้ำตาที่เจิ่งนองทั่วใบหน้า
" . . . . " ฟินิอัส สะกดจิตให้พระราชินี และสาวรับใช้หลับลงไปในทันที
" ข้าขอโทษนะเพคะ.... " ฟินิอัส เดินเข้าไปอุ้มเด็กน้อยจากอ้อมอกของพระราชินีที่กำลังหลับใหล
ฟินิอัสมามองพระราชินีอีกครั้ง แล้วเดินออกไปจากห้องอย่างช้าๆ
(( ท่านเซราฟต้องการตัวเด็กคนนี้ แต่เซนีอาร์บอกให้ฆ่า เราจะทำยังไงดีนะ
อื่ม..แต่ยังไง เราก็ควรทำตามคำสั่งของท่านเซราฟ เพราะท่านเซราฟอาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างล่ะมั้ง ))
ฟินิอัส มองที่ใบหน้าของเด็กทารกที่ไร้เดียงสาด้วยความสลดใจที่ต้องมาพรากเด็กน้อยออกจาอ้อมอกแม่ แต่แล้วฟินิอัสก็ยิ้มออก เมื่อเห็นรอยยิ้มของเด็กน้อย
" ดูเจ้าสิ หัวเราะตลอดเวลาเลยนะ มีอะไรน่าขำมากหรือยังไง เด็กน้อย หืมม "
" นี่ข้าจะทำยังไง กับเจ้าดีเนี่ย บอกข้าทีซิ ฮิๆ " ฟินิอัสหยอกเล่นกับเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู
" ฟินิอัส ! ! ! " เฮเทรสที่มองฟินิอัสอยู่นาน กล่าวเสียงดัง
ฟินิอัสตกใจมากจึงรีบหันกลับมา
" เฮเทรส !! ทำไมต้องเสียงดังขนาดนั้น ข้าตกใจหมดเลย" ฟินิอัสทำหน้าบึ้ง
" ส่งบุตรของซาตานให้ข้า เดี๋ยวนี้ ! ! ! " แววตาของเฮเทรสจ้องเขม็งไปที่ทารกน้อย
" .. เจ้าดูแปลกๆไปนะ.. เฮเทรส รีบร้อนอะไรนักหนา" ฟินิอัสทำหน้าสงสัยแต่ก็เดินเข้าไปส่งทารกน้อยให้ เฮเทรส
" เจ้าไปบอกพวกกับพวกเราว่า บุตรของซาตานอยู่ในมือของพวกเราแล้ว " เฮเทรสกล่าวเหมือนจะรีบไล่ฟินิอัสไปจากที่ตรงนี้โดยทันที
ฟินิอัสแปลกใจมาก จึงแสร้งเดินจากไป แล้วแอบมองที่ข้างกำแพง ว่าเฮเทรสจะทำอะไร
เฮเทรสทำท่าเหมือนจะควักลูกตาของเด็กน้อยออกมา ฟินิอัสรู้สึกว่าเฮเทรสจะโหดร้ายกับเด็กน้อยมากเกินไป จึงรีบเข้าไปช่วย
ด้วยความเร็วของฟินิอัสจึงสามารถชิงตัวของทารกน้อยไว้ได้ก่อนที่จะถูกเฮเทรสควักลูกตา
" ทำไมเจ้าต้องใจร้าย ทำถึงขนาดนี้ด้วย !! " ฟินิอัส อุ้มเด็กทารกไว้แน่น ราวกับว่าเป็นลูกของตัวเอง
" ก็ข้าจะส่งเด็กคนนี้ไปลงนรก ทำตามคำทำนายของ เซนีอาร์ยังไงล่ะ!!
เด็กคนนี้ปล่อยไว้ก็มีแต่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเรา เจ้าก็แค่รายงานกับท่านเซราฟว่าบุตรซาตานถูกพวกปีศาจฆ่าตายแล้วซะก็หมดเรื่อง !!! "
เฮเทรสโมโหหนักที่ถูกขัดจังหวะ
" แต่ท่านเซราฟต้องการตัวเด็กคนนี้ เจ้ากลับจะควักนัยน์ตาของเด็กคนนี้ หรือว่า...... ที่นัยน์ตาของเด็กคนนี้มีอะไรที่เจ้าต้องการ !!! "
.......................................................................................................................................
เฮเทรสหยุดเวลา แล้วรีบนำทารกน้อยออกมาจากอ้อมกอดของฟินิอัส
" หึหึ ช่วยไม่ได้นะ " เฮเทรสแสยะยิ้มออกมา
ทันใดนั้น ก็มีบางอย่างค่อยๆลอยขึ้นมาจากเงาของฟินิอัส
เฮเทรสตกใจมาก เนื่องจาก มีแต่ตัวเขาและเอทาริสเท่านั้น ที่สามารถเคลื่อนไหวท่ามกลางห้วงเวลาที่หยุดนิ่งได้
" หึหึหึ ซาตานน้อย หน้าตาน่ารักน่าชังจริงๆ..... " เสียงดังมาจากเงามืดที่ลอยขึ้นมาจากเงาของฟินิอัส
เงามืดค่อยๆก่อตัวขึ้น เป็นปีศาจตัวสูงใหญ่ราว 2 เมตร ใส่เกราะสีดำ มีนัยน์ตาที่เป็นสีดำสนิททั้งดวง
มือข้างขวาถือดาบที่มีรูปร่างประหลาด
ส่วนมือซ้ายก็กำดาบสีแดงใสไว้แน่น แม้ว่าดาบเล่มนี้ จะให้มือของปีศาจตัวนี้ร้อนจัดจนมีควันลอยขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาก็ตาม
" ม ... เม .... เมพิสโต้ !!! " เฮเทรสตกใจอย่างสุดขีด
" ดูเหมือนไลท์สคาร์เล็ต จะไม่ชอบข้าเท่าไหร่เลยนะ " เมพิสโต้กล่าวด้วยเสียงก้องกังวาลพลางหยิบไลท์สคาร์เล็ตขึ้นมามอง
" เจ้ากำลังคิดอะไร ?? ปล่อยให้เวลาเดินต่อไป หรือจะ ย้อนเวลากลับดี แล้วบอกให้พวกเทพมาช่วยเจ้า หืม? " เมพิสโต้จีองที่เฮเทรส
เฮเทรสนิ่งเงียบ
" หรือว่าเจ้าจะรีบฆ่าบุตรซาตานซะ แต่ข้าว่าเป็นนั่นความคิดที่แย่มากนะ นอกจากเจ้าจะตายเพราะข้าอย่างแน่นอนแล้ว
เจ้ายังจะไม่ได้ครอบครอง ดวงตาข้างซ้ายที่มาสามารถอ่านจิตใจของใครๆได้
ดวงตาข้างขวาที่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ทุกห้วงเวลาไม่ว่าจะเป็นอดีตหรืออนาคตได้
เอ.. หรือเจ้าจะหนีข้าไปซะตอนนี้เลย ? ว่าแต่...เรื่องนี้เจ้าคงรู้มาจาก เซนีอาร์ สินะ..อืม..ช่างมันเถอะ
เอาล่ะ... เหลืออีก 3 วินาที... 1 ... 2 ..." เมพิสโต้ค่อยๆเดินไปหาเฮเทรสอย่างช้าๆ
เฮเทรส รีบปล่อยให้เวลาเดินต่อทันที ฟินิอัส ตกใจมากที่เห็น เมพิสโต้ จึงรีบถอยเข้าไปหาเฮเทรส
" เฮเทรส นี่มันอะไรกัน !!! เมพิสโต้มาได้อย่างไร ทำไมข้าถึงไม่รู้ตัวเลย " ฟินิอัสถามด้วยสงสัย
" ลองถามเพื่อนของเจ้าดูสิ " เมพิสโต้ตอบแทนเฮเทรส
ฟินิอัสมองที่เฮเทรสที่ยืนนิ่งก็รู้ว่าเมื่อสักครู่นี้เฮเทรสเป็นคนหยุดเวลาแต่นางก็ไม่มีเวลามาต่อว่าเฮเทรส จึงหันไปที่เมพิสโต้อีกครั้ง
นางเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าเมพิสโต้ได้ถือดาบสีแดงใสอยู่
" นั่น... ไลท์สคาร์เลต !!!! " ฟินิอัสร้องอุทานขึ้น
" ภาระกิจอีกอย่างของพวกเราคือ นำดาบไลท์สคาร์เล็ตกลับมาให้ได้ " ฟินิอัสบอกกับเฮเทรส
เทพที่เหลือทุกคนรับรู้ถึงพลังความมืดที่เป็นของ เมพิสโต้ จึงรีบรุดเข้าไปยังต้นตอของพลังนั้นทันที
เหลือเพียงแต่เอดัลที่กำลังสนุกอยู่กับเวทมนต์ของ ลีดัส
" เอาสิ เจ้ามีอะไรให้ข้าดูอีก เอาออกมาให้หมด " เอดัลพูดเย้ยหยัน
" แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ !!! " ลีดัสจ้องด้วยแววตาโกรธแค้น
ลีดัสนิ่งเงียบ แล้วหลับตา
" เอล ซา ฟรา ดี ซา เลซ เอนคอล เอนซิเฟอร์ !!!! " ลีดัสท่องมนต์หมายเรียกต้องห้าม
ที่ต้องทำสัญญากับปีศาจว่าจะต้องขายวิญญาณของตนเอง
เพื่อขอยืมพลังมาจากปีศาจตนนั้น แล้วลีดัสก็สลบลงไป ทันใดนั้น ก็เกิดมีหมอกสีดำสนิทลอยขึ้น ฟุ้งกระจายไปทั่วท้องพระโรง
และได้ปรากฏร่างของปีศาจสามเขา รูปร่างคล้ายมังกรตัวสีแดง แต่มีปีกที่เหมือนปีกของค้างคาว
ทุกลมหายใจเข้าออกเป็นเปลวเพลิงแดงฉาน ไม่ต่างไปจากดวงตาที่มีไฟลุกท่วมอยู่ตลอดเวลาของปีศาจตนนี้เลย
ทุกย่างก้าวของปีศาจตนนี้จะมีเปลวเพลิงสีแดงลุกท่วมตามเสมอ
" เฮเทรสส !!! คิดถึงข้ามั้ยย ข้านี่ช่างโชคดีจริงๆที่ได้เจอกับเจ้าอีกครั้ง !!" ปีศาจตนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น
" เอนซิเฟอร์ !!! บ้าน่า เจ้าถูกซาลฟาเรล แทง เจ้าไม่มีทางมีชีวิตรอดได้ !! "
เอดัลตกใจมากที่เจอกับเอนซิเฟอร์อีกครั้งหลังจากสงครามที่สวรรค์เมื่อเกือบพันปีที่แล้ว
" เจ้ามนุษย์คนนี้ยอมขายวิญญาณให้ข้า ทำให้ข้าได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง หึหึ " เอนซิเฟอร์มองไปที่ลีดัสที่กำลังสลบอยู่
" แต่ก็ดีเหมือนกัน วันนั้นเจ้ารีบตายไปเสียก่อน เรายังไม่รู้ผลแพ้ชนะกันเลยยย " เอดัลที่ตอนนี้หายตกใจแล้ว
เขายิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่คู่ควร
เอดัลวิ่งตรงเข้าไปหา เอนซิเฟอร์ พร้อมกับใช้ดาบที่สร้างจากเพลิงสีเขียว ฟันเข้าลำตัวของเอนซิเฟอร์อย่างแรง
" เปรี้ยงงง !!!! " เกิดเพลิงสีเขียวลุกท่วมร่างกายของเอนซิเฟอร์
แม้เอนซิเฟอร์จะถูกฟันเข้าอย่างจังแต่กลับดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร เอดัลรีบดึงดาบเพลิงออกจากตัวเอนซิเฟอร์
แล้วหายตัวกลับมาตั้งหลัก
" ข้ารู้ว่าไม่มีทางหลบเจ้าพ้น... " เอนซิเฟอร์กางกรงเล็บที่คมกริบดั่งใบมีดแล้วพุ่งเข้าไปหาเอดัลอย่างรวดเร็ว
แต่เอดัลก็หลบได้อย่างหวุดหวิด
เอนซิเฟอร์ที่พุ่งผ่านเอดัลไปแล้ว ค่อยๆหันกลับมามอง
" ข้าก็รู้เช่นกัน ว่าข้าก็หลบเจ้าไม่ได้ " เลือดไหลออกมาจากปากแผลขนาดใหญ่ที่ลำตัวของเอดัล
เอดัลใช้ไฟห้ามเลือดที่แผล ของตนเอง สร้างดาบเพลิงอีก 1 เล่ม แล้วก็เข้าไปต่อสู้กับ เอนซิเฟอร์ อย่างดุเดือด
พระราชาเนโครลัสที่กำลังยืนตะลึงอยู่ ซักพักก็ได้สติ
" ลีดัส!!! เจ้าต้องไม่เป็นอะไรนะ " พระราชาพูดพลางนำร่างของลีดัสออกไปจากท้องพระโรงที่กำลังร้อนระอุ
จากไฟของเอนซิเฟอร์และเอดัล
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขณะเดียวกัน เซนเทรล เซนีอาร์ ทีอา โนโทลอส ได้มาถึงต้นกำเนิดของพลังแห่งความมืดแล้ว
" เอดัลล่ะ ? " เมพิสโต้เอ่ยถามพลางยิ้มขึ้นมาอย่างน่ากลัว
" ไม่ต้องพูดมาก วันนี้เป็นวันตายของเจ้า !!! "
เซนเทรลหายตัวเข้าไปใช้ขวานยักษ์ฟันที่ร่างของเมพิสโต้ แม้จะฟันถูก แต่ก็เหมือนกับว่าเมพิสโต้ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
และขวานยักษ์กลับฟาดลงเข้าที่พื้นข้างๆที่เมพิสโต้ยืนอยู่
อานุภาพการทำลายของขวานยักษ์ทำให้พื้นบริเวณนั้น เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมากมาย
" อ.. อะไรกัน.. ทำไม.. " เซนเทรลแปลกใจมาก ว่าทำไมขวานยักษ์ของตนจึงฟันไม่ถูกร่างของเมพิสโต้
และเหมือนจะแกว่งไปมาจนควบคุมทิศทางการฟันไม่ได้
โนโทลอส หยิบลูกธนูสีทองดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วรีบใช้คันธนูที่มีขนาดใหญ่เท่าๆกับความสูงของตนยิงออกไปสู่ร่างของเมพิสโต้ภายในพริบตา
แต่ทว่าลูกธนูกลับทะลุผ่านร่างของเมพิสโต้ไปปักอยู่ที่ผนังด้านหลังของเมพิสโต้จนมิดไปกับผนัง
เทพทุกคนรู้ทันทีว่าคงจะไม่มีทางเอาชนะเมพิสโต้ได้ในตอนนี้แน่นอน
" ฟินิอัส เจ้ารีบ นำบุตรซาตานหนีไป เร็วเข้า !!! " ทันทีที่เซนีอาร์พูดจบ
นางก็วิ่งตรงเข้าไปที่เมพิสโต้โดยใช้ดาบฟันเข้าที่แขนข้างซ้ายของเมพิสโต้ที่ถือดาบไลท์สคาร์เล็ตอยู่จนขาดกระเด็น
" โอ...ซาลฟาเรล .... คมดาบที่มิอาจหลีกเลี่ยง ... " เมพิสโต้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
แล้วใช้ดาบที่มีรูปร่างประหลาดตวัดดาบขึ้นอย่างรวดเร็วที่ข้างหน้าของตนเอง
" .................. " เทพทุกคนต่างสงสัยกับการแกว่งดาบของเมพิสโต้มาก เพราะไม่มีใครเป็นอะไร แต่ก็ไม่มีใครประมาท
" มันทำอะไรของมัน ? " เฮเทรสกล่าวขึ้น
ฟินิอัสสัมผัสใดถึงกระแสลมที่แปรปรวนเล็กน้อยจากทางด้านหลัง จึงหันกลับไปมอง
" ทุกคน หลบเร็ววว! !!! " ฟินิอัสร้องตะโกนดังลั่น
เกิดช่องว่างต่างมิติ เกิดขึ้นรอบๆ ตัวของเทพแต่ละคน แล้วก็มีดาบสีดำสนิทที่มีออร่าสีดำลักษณะคล้ายลอยอยู่รอบตัวดาบ
พุ่งออกมาจากช่องว่างต่างมิตินั้นแทงทะลุที่ร่างของเทพแต่ละคนจนเลือดทะลักออกมามากมาย
ยกเว้นเพียงฟินิอัส เท่านั้นที่หลบได้อย่างหวุดหวิด
" บ...บ้าที่สุด !! " เซนเทรลกล่าวพูดพลางดึงดาบสีดำสนิทออกไป
" ดีแล้วที่เจ้าเป็นคนอุ้ม สาวน้อย " เมพิสโต้หันไปมองที่ฟินิอัส แล้วเดินไปเก็บแขนของตนขึ้นมา
และปล่อยดาบที่มีรูปร่างประหลาดพร้อมกับแขนของตนทิ้งลงไปลงเงามืด
" อ๊อก... พวกเราประมาทไปหน่อย .. ฟินิอัสเจ้ารีบกลับไปสวรรค์ ไม่ต้องห่วงพวกเรา !!! " ทีอาที่กำลังบาดเจ็บสาหัสกล่าวขึ้น
" ข้าเข้าใจแล้วค่ะ " ฟินิอัสเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดี จึงรีบหายตัวออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
ฟินิอัสหนีออกจากปราสาทมายังป่าที่อยู่ข้างๆ
" ..มันจะตามมาทันมั้ยนะ " ฟินิอัสกังวล
สักพัก เทพสาวก็เริ่มรู้สึกตัวว่ามีบางอย่างหายไป จึงก้มลงมามองที่เด็กน้อย
แต่ทว่าตอนนี้เด็กน้อยได้หายไปจากอ้อมกอดของฟินิอัสเสียแล้ว
" อะ.. อะไรกันน " ฟินิอัสตกใจมาก จึงรีบย้อนกลับไปที่เดิม
(( ...ไลท์สคาร์เล็ต... ข้าคงไม่สามารถถือมันได้อีกครั้ง แค่นี้ข้าก็ฝืนมามากแล้ว.. คงต้องทิ้งมันไว้ที่นี่ ...ถ้าชะตาของพวกเจ้าต้องกัน..สักวันก็คงจะได้พบอีกครั้ง... )) เมพิสโต้ที่กำลังอุ้มเด็กน้อยอยู่ด้วยแขนข้างเดียวคิดในใจ
ขณะเมพิสโต้กำลังจะนำเด็กน้อยจากไป
โนโทลอสเห็นเมพิสโต้กำลังจะหนีจึงรวบรวมพลังทั้งหมดหยิบคันธนูที่มีขนาดความสูงเท่ากับตัวเอง พร้อมกับยิง
ลูกธนูต้องสาปที่ไม่มีทางพลาดเป้าออกไป 27 ดอก อย่างรวดเร็วในชั่วพริบตา
ลูกธนู 27 ดอก ถูกเข้าที่หลังเมพิสโต้ทุกดอกอย่างแม่นยำ แต่มี 1 ดอก พุ่งทะลุผ่านร่างของเมพิสโต้ไปแทงที่แขนของเด็กน้อย
" ย...เยี่ยมมาก เจ้า....นักธนู " เมพิสโต้หันมามองอย่างช้าๆ
เมพิสโต้พยายามฝืนคำสาปอย่างสุดกำลังจนร่างกายสั่นเทาไปหมด แต่ในที่สุดเขาก็อ่อนแรงและทรุดตัวลง
ฟินิอัสซึ่งกลับมาพอดี เห็นเมพิสโต้กำลังเสียท่าให้กับลูกธนูต้องคำสาป จึงรีบนำตัวเด็กน้อย ออกมาจากแขนของเมพิสโต้อย่างรวดเร็ว
" รีบกลับสวรรค์ก่อนมันจะฟื้น ธนูดอกที่ต้องคำสาปให้ขยับไม่ได้ของข้า มีผลกับเมพิสโต้ได้ไม่นานนัก " โนโทลอสกล่าวเตือน
ฟินิอัสรีบร่ายมนต์กลับสวรรค์ในทันที พร้อมกับเทพคนอื่นๆ
ดาบสีแดงใสถูกทิ้งอยู่ข้างๆกับร่างของเมพิสโต้ที่กำลังหัวเราะในลำคอเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือลงไปในเงามืดเพื่อหยิบแขนของเขาขึ้นมาต่อไว้เหมือนเดิม...
" รีบจนลืมเลยรึ ? หึหึ ... "
ความคิดเห็น