คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : After Last War
บทที่ 1 After Last War...
" เมพิสโต้เอ๋ย เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าต่อสู้กับเหล่าเทพมานาน และทุกครั้งทีสู้... ข้าก็เป็นฝ่ายแพ้
ทุกครั้งที่ข้าพยายาม... ข้าก็ล้มเหลว ไม่ว่าวิธีใด ข้าก็ไม่อาจเอาชนะพวกมันได้เลย
สงครามครั้งนี้ก็เช่นเคย..... ข้าแพ้... ความหวังของข้าที่จะทำให้สวรรค์ล่มสลายคงจะรางเลือนเต็มที
แต่...จะว่าไปมันก็ยังไม่หมดหวังไปเสียทีเดียว ข้าเตรียมแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว "
" ข้าเก็บพลังของความมืดฝังไว้ใจกลางของดวงจันทร์
อีก 1000 ปีข้างหน้าตามเวลาของโลกมนุษย์ จะเกิดสุริยคราสขึ้น
จะมีเด็กทารก 1 คนที่เกิดในวันนั้น ที่จะได้มาเป็น จ้าวนรกแทนข้า
เจ้าต้องคุ้มครองเด็กคนนั้น
โอกาสมีเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะหลังจากที่เหล่าเทพรู้แผนของข้าแล้ว
ดวงจันทร์ที่เป็นต้นกำเนิดแห่งพลังของข้า
อาจจะถูกทำลายก็เป็นได้ แต่เจ้าไม่ต้องรีบไปปดวงจันทร์หรอกนะ
เพราะกว่าที่ เซนีอาร์ จะรู้แผนของข้า มันก็สายเกินไป เพราะความสามารถของนาง
สามารถมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เพียง 999 ปี เท่านั้น
1 ปี นั้นนานเพียงพอ .... ที่จะทำให้แผนของข้าสำเร็จ
โชคดีที่ 'ท่านเอทาริส' ไม่นำเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่ก็อย่างว่า...เทพผู้มีจิตใจดีอย่างเขา คงจะเข้าใจจุดประสงค์ของข้าดี
แต่...ถ้าเกิดโชคร้าย.. เกิดเจ้าทำไม่สำเร็จ โลกนี้ก็คงจะต้องพินาศเพราะพวกเทพ
เจ้าก็คงรู้ใช่มั้ยว่าในเหล่าเทพ มีบางคนที่ต้องการให้โลกมนุษย์ถูกทำลาย
ข้าชอบโลกใบนี้ ข้าไม่อยากให้มันถูกทำลาย ไม่สิ ไม่ใช่แค่โลก แม้แต่พระเจ้า ก็จะถูกทำลายลงไปด้วย
ถึงข้าจะเกลียดพระเจ้า... แต่โลกใบนี้ก็ยังต้องการพระเจ้าอยู่ดี... "
" สงครามครั้งนี้ ถึงจะเหลือแค่ข้ากับเจ้ารอดกลับมาแค่ 2 คน แต่เจ้าก็ยังรบได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย
ฆ่าพวกเทพไปตั้งมากมาย หมดไปครึ่งสวรรค์เลยมั้ง ฮ่าๆ
ว่าแต่เจ้า 7 เทพ นี่มันก็เก่งมากเลยนะเจ้าว่ามั้ย น่าเสียดาย..ถ้าเจ้า เอนซิเฟอร์
ไม่เลือดร้อน รีบเข้ากลางวงพวกเทพเหล่านั้น ก่อนที่ข้าจะไปถึง มันก็คงจะไม่ตาย....
เมพิสโต้.. ข้าดีใจที่มีเพื่อนอย่างเจ้า เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้าไว้ใจที่สุด
ข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ตอนนี้นรกเหลือเจ้าเพียงคนเดียวแล้ว ภาระทั้งหมดเป็นของเจ้าแล้วนะ
เพื่อนรักเอย..... "
" เอาล่ะ.... ดึงดาบออกจากตัวข้าได้แล้ว...
หืม.... เจ้าเป็นอะไรไป ?
อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ อย่าบอกนะว่าเจ้ากำลังเสียใจ
เจ้าไม่ใช่มนุษย์นะ ฮ่าๆ เจ้านี่ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลย
ข้าก็แค่กำลังจะหลับ พอตื่นขึ้นข้าก็จะกลับไปยังที่เดิมของข้า " อีเด็น " ยังไงล่ะ
เจ้าไม่เคยเห็นใช่มั้ยว่ามันสวยแค่ไหน เด็กคนนั้น ไม่สิบุตรของข้า..... เมลฟิซ จะเป็นคนพาเจ้าไป....... "
..............................................................................................................................................
เมพิสโต้ถอนดาบไลท์สคาเล็ตออกจากร่างของซาตานอย่างช้าๆ...ด้วยความขมขื่น
และวางร่างของเพื่อนรักไว้ที่บัลลังก์ในปราสาทสีดำสนิท เลือดสีฟ้าของซาตานไหลท่วมร่างของเมพิสโต้จนชุ่มโชก
ดุจดังสายธาราที่ไหลเจิ่งนองตัดกับผืนนรกที่มีสีแดงฉาน
" เจ้าคงทรมานมากสินะ.... หลับให้สบายเถิด เพื่อนรัก...."
==========================================================================================================
เวลาผ่านไป 999 ปี ณ สวรรค์
หอคอยเรโนสที่ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่ดอกไม้ที่มีสีสันหลากหลายสวยงาม เป็นบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล
ดุจดั่งเกาะที่อยู่กลางมหาสมุทรแห่งหมู่มวลดอกไม้ผืนใหญ่
ในหอคอยนี้มีเทพ 4 องค์ กำลังนั่งอ่านหนังสือ และนั่งเล่นอยู่
" เฮ่อ.... ตั้งแต่ซาตานตายไป อะไรๆก็ดูน่าเบื่อไปเสียหมด... "
เป็นเสียงบ่นพึมพำจาก เฮเทรส เทพแห่งกาลเวลา ผู้สูงสง่า นัยน์ตาสีฟ้า ผมสีเงินยาวประบ่าสวมชุดคลุมสีขาวแขนยาว
สายตาที่แลดูมีแต่ความมั่นใจ
เป็นคนประเภทน้ำนิ่งไหลลึก ฉลาดลึกล้ำ แต่ไม่ค่อยแสดงออกให้ใครรู้
" แต่ว่า... เมพิสโต้ยังอยู่ และเจ้านั่น มันเก่งกว่าพวกเรามาก
สงครามครั้งนั้น ถ้าเจ้ารวบรวมพลังย้อนเวลาไม่ทัน ข้าก็ไม่รู้ว่าสวรรค์จะเป็นอย่างไร "
เอดัล เทพแห่งเปลวเพลิง ผู้มีนัยน์ตาสีแดงฉานแต่กลับดูสุขุมเยือกเย็นอย่างน่าประหลาด ในชุดที่ประดับประดาด้วยอัญมณีสีแดง
ผมสีแดงสั้นเข้ากับชุด มีนิสัยบ้าเลือดคลั่งสงครามผิดกับท่าทางที่ดูสุขุมเยือกเย็นอย่างลิบลับ กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
แล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกับ เฮเทรส อย่างช้าๆ
" มันก็จริงของเจ้านะ แต่ถึงอย่างไร แสงสว่างย่อมชนะความมืด
ธรรมมะย่อมชนะอธรรม มันไปตามของกฎของธรรมชาตินี่
หลักฐานก็คือ นรก เหลือแค่ เมพิสโต้คนเดียว
ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ " เฮเทรสหัวเราะแล้วยกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างสบายอารมณ์
" แต่ข้าว่า มันแปลกๆนะ ข้ารู้สึกว่า ซาตาน จะยอมให้"ทีอา"ใช้ไลท์สคาร์เล็ตแทงได้อย่างง่ายดายเกินไป
แล้วตอนนี้ ดาบนั่นก็คงอยู่กับเมพิสโต้แล้ว "
ฟินิอัส เทพสาวแห่งแสงที่มีหน้าตาน่ารัก ผิวขาวสดใส นัยน์ตาสีดำกลมโต ริมฝีปากสีชมพูอ่อน แก้มแดงระเรื่อ
ผมสีน้ำตาลเงางามยาวเรียบตรงจนถึงกลางแผ่นหลัง ด้านหน้าทำผมปัดไปทางด้านหนึ่งดูเรียบร้อยน่ารัก
แม้จะดูสดใสร่าเริง น่าจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่กลับมีนิสัยขี้ระแวง นางกล่าวตัดบทเฮเทรสที่กำลังหัวเราะร่วนทันที
" เซนี่ จ๋า ข้าอยากรู้ว่าเมพิสโต้จะมีแผนร้ายอะไรอีกหรือเปล่า เจ้าช่วยดูให้ทีนะ "
ฟินิอัสทำตาใสอ้อนเซนีอาร์เหมือนเด็กไร้เดียงสา พลางดึงแขนของเซนีอาร์ไปมา
" นี่รอบที่ร้อยแล้วนะ คำถามนี้น่ะ "
เซนีอาร์ เทพสาวแห่งสายธารา ที่งดงามทรงสเน่ห์ นัยน์ตาสีฟ้า ริมผีปากสีแดงอวบอิ่มน่าเย้ายวนใจยิ่งนัก
ผมสีฟ้าที่ยาวประบ่าประดับประดาไปด้วยอัญมณีหลากสีสันดูงดงามอย่างน่าประหลาด
นางเป็นเทพที่มีจิตใจเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวจึงได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำกลุ่ม 7 เทพองค์รักษ์
นางทำหน้าเบื่อระอา แล้วเบือนหน้าหนีฟินิอัส
แต่ฟินิอัสก็ยังอ้อนไม่ยอมหยุด จนเซนีอาร์เริ่มจะใจอ่อน
" เอาล่ะๆ เฮ่ออ ข้าจะดูให้ก็ได้ แต่เป็นครั้งสุดท้ายนะ เพราะสิ่งที่เจ้าจะเห็น ก็คือภาพ
ของเมพิสโต้ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือ เหมือน ทุกครั้งที่เราเคยเห็นกันนั่นแหละ เจ้านี่ช่างขี้ระแวงจริงๆ
เซนีอาร์พูดดักเอาไว้ก่อน แล้วหยิบอ่างน้ำที่มีก้นแบนคล้ายถาด มาวางไว้บนโต๊ะ
เอามือของนางจุ่มลงในถาดแล้วหลับตาเพิ่งสมาธิ
" . . . . . . . . . . "
เซนีอาร์ทำหน้าตื่นตระหนก แล้วหลับตาอีกครั้ง
" . . . . . . .ตอนนี้เมพิสโต้ไม่ได้นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เดิมแล้ว มันหายไป "
เซนีอาพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตา แล้วเพ่งสมาธิเพื่อมองเหตุการณ์ล่วงหน้า
" มันที่ไปโลกมนุษย์...... "
ฟินิอัสกุมมือของเซนีอา แน่น เฮเทรส และ เอดัล ก็ต่างตั้งใจฟังคำพูดของเซนีอาร์
ภาพเหตุการณ์มากมายต่างพากันวิ่งเข้าสู่หัวของเซนีอาร์
เซนีอาลืมตาขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ดูตื่นตระหนกเป็นที่สุด และพูดว่า
" ...สุริยคราส โลกมนุษย์กำลังปั่นป่วนโกลาหล ผู้คนล้มตาย เป็นจำนวนมาก "
" เมพิสโต้เดินไปยังห้องของหญิงที่เพิ่งคลอดลูกออกมา...แล้วนำเด็กทารกคนนั้นหายกลับเข้าไปในเงามืด..
และ..ทำไม...เด็กคนนี้ถึงได้....
มีพลังแบบเดียวกับซาตาน ..ข้าเกรงว่า...... " เซนีอาร์ลังเลที่จะพูดต่อ
"...เด็กคนนี้อาจจะเป็นบุตรซาตาน " เซนีอาร์ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อเม็ดโตที่ผุดขึ้นมาทั่วทั้งใบหน้า
" บุตรซาตาน !!!! " ฟินิอัสร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ
" มีทางแก้ไขหรือไม่ ? " เอดัลตั้งคำถามทันที
" นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลง ยังสามารถแก้ไขได้
เรา ต้องสังหารเด็กคนนั้นทิ้งเสียก่อน " เซนีอาร์ กล่าว พร้อมทั้งทำหน้าจริงจังแต่แววตาแฝงด้วยความกังวล
" แค่สังหารเด็กคนนั้นทิ้ง มันมีอะไรน่ากังวลนักหรืออย่างไร ? " เฮเทรสกล่าวขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเซนีอาร์
" เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายสินะ แค่สังหารเด็กทารก แต่เจ้าลืมไปแล้วหรือ
ว่า เมพิสโต้ คงจะไม่ยอมให้เราทำแบบนั้นได้ง่ายๆหรอก
นำเรื่องนี้ไปรายงาน ท่านเซราฟ ให้เร็วที่สุด ฟินิอัส " เซนีอาร์กล่าว
ณ หอคอย เรโนส ชั้นสูงสุด
" ท่านเซราฟ คะ ข้ามีเรื่องสำคัญ และด่วนมาก มารายงานท่านค่ะ "
ฟินิอัส กล่าวขึ้นด้วยอาการลนลาน
" ว่ามาสิ.. "
เซราฟ เทพผู้มี 6 ปีก มีแววตาและใบหน้านิ่งเฉยไม่ยินดียินร้าย
และเป็นเทพชั้นสูงสุดในสวรรค์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
" อีกประมาณ 1 ปีข้างหน้าตามเวลาของโลกมนุษย์ จะมี บุตรของซาตาน ถือกำเนิดขึ้น
และตอนนั้นก็เป็นช่วงที่สุริยคราสด้วยค่ะ "
" สุริยคราสรึ... เป็นช่วงเวลาที่พวกปีศาจแข่งแกร่งที่สุด ซาตานช่างเข้าใจคิดเหลือเกิน
พวกเจ้าตัดสินใจเองก็แล้วกัน ว่าควรทำอย่างไร ความจริง เรื่องอย่างนี้ไม่ควรมาถามข้านะ
แต่ก็ดีแล้วที่เจ้าพวกยังรู้จัก มารายงาน ไม่ทำอะไรตามอำเภอใจ แต่ข้าขอเตือนไว้อย่าง
พวกเจ้าทั้ง 7 คน ในคืนสุริยคราสแบบนั้น เจ้าไม่มีทางเอาชนะเมพิสโต้คนเดียวได้
และ...ดาบของทีอา ไม่ว่าอย่างไร พวกเจ้าก็ต้องนำกลับมาให้ได้ "
เซราฟ กล่าวขึ้นด้วยน้ำหนักแน่น แต่ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย
" ทำไมล่ะคะท่าน ยังไงเมพิสโต้ก็ใช้ดาบนั่นไม่ได้ไม่ใช่หรือคะ " ฟินิอัสทำหน้าสงสัย
" เจ้าดูไม่ออกหรือ ว่าซาตานมันคิดอะไร พวกปีศาจหรือแม้แต่เทพอย่างพวกเรายกเว้นทีอา ไม่สามารถใช้ดาบไลท์สคาเล็ตได้
แต่ถ้าเป็นมนุษย์ก็จะสามารถใช้ดาบนั้นได้ และมันเป็นอาวุธอย่างเดียว...
ที่สามารถสังหารเทพองค์รักษ์ทั้ง 7 อย่างพวกเจ้าได้
ถ้าดาบนั่นตกอยู่ในมือของบุตรซาตานจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์อาจจะต้องพินาศก็เป็นได้
และที่สำคัญ เจ้าห้ามฆ่าเด็กคนนั้น ส่งมันมาให้ข้า แล้วข้าจะจัดการเอง นี่เป็นคำสั่ง !!! "
" ข้าเข้าใจแล้วค่ะ " ฟินิอัสแม้จะติดใจที่เซราฟไม่สั่งให้ฆ่าทันทีแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จึงย่อเข่าคำนับ
และก้มหัวลงช้าๆ แล้วเดินถอยหลังจากไป
>>สวรรค์แห่งนี้ไม่มีพระเจ้าสถิตย์อยู่อย่างที่มนุษย์เข้าใจ พระเจ้าสำหรับเหล่าเทพเป็นเหมือนสิ่งสมมุติ
บ้างก็เชื่อ บ้างก็ไม่เชื่อ ว่ามีตัวตนอยู่จริง บนสวรรค์มีเมืองที่มีขนาดใหญ่ชื่อว่า เฟเรีย ตั้งอยู่ล้อมรอบหอยคอยเรโนส
เหล่าเทพใช้ชีวิตอยู่กันเหมือนมนุษย์ปกติก็ยังคงต้องการหายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ปอด
แต่ที่เหล่าเทพมีชีวิตยืนยาวอยู่นาน เพราะความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างสูง
กล่าวคือ สามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้ จึงสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโครโมโซม
และดึงเอาโครโมโซมคู่ที่ควบคุมการเสื่อมโทรมของเซลล์
ที่เป็นสาเหตุของการชราออกไป ถ้าเทพคนใดเกิดอุบัติเหตุ ก็สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการปลูกถ่ายเซลล์
ไม่ว่าจะบาดเจ็บสักเพียงใดก็ตาม
การตัดต่อโครงสร้างพันธุกรรมทำให้พวกเทพมีกล้ามเนื้อที่มีพลังกำลังมหาศาล ในอาหารปริมาณเท่ากันกับที่มนุษย์กิน
ร่างกายของพวกเทพสามารถเผาผลาญอาหารและสร้างออกมาเป็นพลังงานได้มากกว่ามนุษย์ปกติถึง 50 เท่า
และพวกเทพสามารถใช้พลังของสมองได้มากถึง 90-100 % ในขณะที่มนุษย์ใช้พลังของสมองได้แค่เพียง 5-10 % เท่านั้น
พวกเทพจึงมีพลังแตกต่างกันออกไป พลัง..ที่มนุษย์เรียกกันว่า พลังจิต
จะว่าไป สวรรค์ ก็เปรียบเสมือน โลกอนาคต ของโลกมนุษย์ สวรรค์ตั้งอยู่ในมิติเวลาที่ซ้อนเหลื่อมอยู่กับโลกมนุษย์
>>ส่วนนรก จะเป็นที่รวบรวมและกักเก็บวิญญาณ หรือพลังงานที่หลงเหลือจากมนุษย์ที่ตายแล้ว
โดยปีศาจที่มีหน้าที่รวบรวมวิญญาณ เรียกว่า บริงค์เกอร์ เป็นคนนำมาไว้ที่นรก
เมพิสโต้ จะเป็นผู้ตัดสินว่าจะให้ วิญญาณ ไปอยู่ที่ใด ผู้ที่เคยทำความดีไว้ จะไม่ได้ถูกส่งไปที่ สวรรค์ แต่จะถูกนำไปไว้ที่
ดินแดนสนธยา หรือเมือง เคโลส ที่มีสภาพเหมือนโลกมนุษย์ปกติทุกอย่าง
ส่วนพวกที่ทำความชั่วก็จะถูกนำไปไว้ในนรกอเวจี หรือ เมือง ซอโรว
ที่เป็นดังคุกที่มีการลงโทษวิญญาณอย่างโหดร้ายทารุณอย่างแสนสาหัส
วิญญาณที่อยู่ในนรกนี้ นานวันเข้าจะสามารถก่อตัวสร้างร่างเนื้อได้ หรือที่ มนุษย์เรียกว่า ' ปีศาจ '
โดยสภาพของร่างเนื้อนั้นจะเป็นไปตามลักษณะจิตใจของวิญญาณดวงนั้นๆ
และพวกปีศาจไม่ชอบอยู่ในเมือง ซอโรว จึงมักจะหนีออกไปที่โลกมนุษย์โดยใช้ประตูมิติทางที่ถูกบริงค์เกอร์นำเข้ามานั่นเอง
นรกตั้งอยู่ที่ใจกลางของ หลุมดำในอวกาศ โดยมีประตูมิติเชื่อมระหว่างนรกและโลกมนุษย์ โดยมี สุนัข ปีศาจ 3 หัว เคลเบรอส เฝ้าอยู่
>>ทุกอย่างในนรก เป็นไปตามกฏแห่งกรรม
แต่สวรรค์ ละทิ้งกฏแห่งกรรม เพราะเทพคนส่วนใหญ่จะไม่ตาย แต่ถ้าตายวิญญาณก็จะนำมาสู่นรกเช่นกัน
แต่วิธีที่จะสังหารเทพนั้นทำได้ยากมาก
เหตุนี้ทำให้พวกเทพทำอะไรได้ตามอำเภอใจ พวกเขามองเห็นมนุษย์เป็นแค่เพียงสิ่งมีชีวิตที่ล้าหลังทางอารยธรรม
เทพบางคนก็มักจะแสดงอำนาจ เพิ่อให้มนุษย์นับถือ ถ้าใครไม่นับถือ
หรือทำให้เทพคนนั้นโกรธก็จะถูกฆ่าทิ้งเสียเหมือนผักปลา แต่เหล่าเทพก็เหมือนกับมนุษย์ มีทั้งดีและเลวปะปนกันไป
เทพที่มีจิตใจงดงามก็มีอยู่มากเช่นกัน
>>แต่ถึงอย่างไรซาตานก็เกลียดพวกเทพมาก เพราะพวกเขาละเลยกฎแห่งกรรม
ซาตานจึงต้องการทำลายสวรรค์และพวกเทพให้สิ้นซาก โดยเฉพาะ...เซราฟ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น