ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark Seed

    ลำดับตอนที่ #2 : After Last War

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 49


    บทที่ 1  After Last War...
                
         
                                                     "  เมพิสโต้เอ๋ย เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าต่อสู้กับเหล่าเทพมานาน และทุกครั้งทีสู้... ข้าก็เป็นฝ่ายแพ้ 

                                 ทุกครั้งที่ข้าพยายาม... ข้าก็ล้มเหลว ไม่ว่าวิธีใด ข้าก็ไม่อาจเอาชนะพวกมันได้เลย

                                 สงครามครั้งนี้ก็เช่นเคย.....   ข้าแพ้...    ความหวังของข้าที่จะทำให้สวรรค์ล่มสลายคงจะรางเลือนเต็มที 

                                 แต่...จะว่าไปมันก็ยังไม่หมดหวังไปเสียทีเดียว ข้าเตรียมแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว "

                                 " ข้าเก็บพลังของความมืดฝังไว้ใจกลางของดวงจันทร์

                                 อีก 1000 ปีข้างหน้าตามเวลาของโลกมนุษย์ จะเกิดสุริยคราสขึ้น

                                 จะมีเด็กทารก 1 คนที่เกิดในวันนั้น  ที่จะได้มาเป็น จ้าวนรกแทนข้า                   
                                 
                                 เจ้าต้องคุ้มครองเด็กคนนั้น

                                 โอกาสมีเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะหลังจากที่เหล่าเทพรู้แผนของข้าแล้ว 
     
                                 ดวงจันทร์ที่เป็นต้นกำเนิดแห่งพลังของข้า

                                 อาจจะถูกทำลายก็เป็นได้ แต่เจ้าไม่ต้องรีบไปปดวงจันทร์หรอกนะ
     
                                 เพราะกว่าที่  เซนีอาร์  จะรู้แผนของข้า มันก็สายเกินไป เพราะความสามารถของนาง

                                 สามารถมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เพียง 999 ปี เท่านั้น           
                                 
                                 1 ปี นั้นนานเพียงพอ .... ที่จะทำให้แผนของข้าสำเร็จ

                                 โชคดีที่ 'ท่านเอทาริส' ไม่นำเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่ก็อย่างว่า...เทพผู้มีจิตใจดีอย่างเขา คงจะเข้าใจจุดประสงค์ของข้าดี

                                 แต่...ถ้าเกิดโชคร้าย.. เกิดเจ้าทำไม่สำเร็จ โลกนี้ก็คงจะต้องพินาศเพราะพวกเทพ 
                                 
                                 เจ้าก็คงรู้ใช่มั้ยว่าในเหล่าเทพ มีบางคนที่ต้องการให้โลกมนุษย์ถูกทำลาย

                                 ข้าชอบโลกใบนี้ ข้าไม่อยากให้มันถูกทำลาย   ไม่สิ ไม่ใช่แค่โลก แม้แต่พระเจ้า ก็จะถูกทำลายลงไปด้วย

                                 ถึงข้าจะเกลียดพระเจ้า... แต่โลกใบนี้ก็ยังต้องการพระเจ้าอยู่ดี... "


                                                    "   สงครามครั้งนี้ ถึงจะเหลือแค่ข้ากับเจ้ารอดกลับมาแค่ 2 คน    แต่เจ้าก็ยังรบได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย

                                 ฆ่าพวกเทพไปตั้งมากมาย หมดไปครึ่งสวรรค์เลยมั้ง ฮ่าๆ   

                                 ว่าแต่เจ้า 7 เทพ นี่มันก็เก่งมากเลยนะเจ้าว่ามั้ย น่าเสียดาย..ถ้าเจ้า เอนซิเฟอร์

                                 ไม่เลือดร้อน รีบเข้ากลางวงพวกเทพเหล่านั้น ก่อนที่ข้าจะไปถึง   มันก็คงจะไม่ตาย.... 

                                 เมพิสโต้.. ข้าดีใจที่มีเพื่อนอย่างเจ้า เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้าไว้ใจที่สุด

                                 ข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ตอนนี้นรกเหลือเจ้าเพียงคนเดียวแล้ว ภาระทั้งหมดเป็นของเจ้าแล้วนะ

                                 เพื่อนรักเอย.....   "


                                              " เอาล่ะ.... ดึงดาบออกจากตัวข้าได้แล้ว... 

                                 หืม.... เจ้าเป็นอะไรไป ?

                                 อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ อย่าบอกนะว่าเจ้ากำลังเสียใจ

                                 เจ้าไม่ใช่มนุษย์นะ ฮ่าๆ เจ้านี่ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลย 

                                 ข้าก็แค่กำลังจะหลับ   พอตื่นขึ้นข้าก็จะกลับไปยังที่เดิมของข้า  " อีเด็น " ยังไงล่ะ 
     
                                 เจ้าไม่เคยเห็นใช่มั้ยว่ามันสวยแค่ไหน เด็กคนนั้น ไม่สิบุตรของข้า..... เมลฟิซ จะเป็นคนพาเจ้าไป....... "

    ..............................................................................................................................................

                                 เมพิสโต้ถอนดาบไลท์สคาเล็ตออกจากร่างของซาตานอย่างช้าๆ...ด้วยความขมขื่น

                                 และวางร่างของเพื่อนรักไว้ที่บัลลังก์ในปราสาทสีดำสนิท เลือดสีฟ้าของซาตานไหลท่วมร่างของเมพิสโต้จนชุ่มโชก

                                 ดุจดังสายธาราที่ไหลเจิ่งนองตัดกับผืนนรกที่มีสีแดงฉาน


                                 " เจ้าคงทรมานมากสินะ.... หลับให้สบายเถิด เพื่อนรัก...."
         

     ==========================================================================================================

     เวลาผ่านไป 999 ปี ณ สวรรค์  
                   
                                 หอคอยเรโนสที่ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่ดอกไม้ที่มีสีสันหลากหลายสวยงาม เป็นบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล

                                 ดุจดั่งเกาะที่อยู่กลางมหาสมุทรแห่งหมู่มวลดอกไม้ผืนใหญ่   

                                 ในหอคอยนี้มีเทพ 4 องค์ กำลังนั่งอ่านหนังสือ และนั่งเล่นอยู่


                                 " เฮ่อ.... ตั้งแต่ซาตานตายไป อะไรๆก็ดูน่าเบื่อไปเสียหมด... "

                                 เป็นเสียงบ่นพึมพำจาก เฮเทรส เทพแห่งกาลเวลา ผู้สูงสง่า นัยน์ตาสีฟ้า ผมสีเงินยาวประบ่าสวมชุดคลุมสีขาวแขนยาว 

                                 สายตาที่แลดูมีแต่ความมั่นใจ

                                 เป็นคนประเภทน้ำนิ่งไหลลึก ฉลาดลึกล้ำ แต่ไม่ค่อยแสดงออกให้ใครรู้

                                 " แต่ว่า... เมพิสโต้ยังอยู่ และเจ้านั่น มันเก่งกว่าพวกเรามาก

                                 สงครามครั้งนั้น ถ้าเจ้ารวบรวมพลังย้อนเวลาไม่ทัน ข้าก็ไม่รู้ว่าสวรรค์จะเป็นอย่างไร "

                                 เอดัล เทพแห่งเปลวเพลิง ผู้มีนัยน์ตาสีแดงฉานแต่กลับดูสุขุมเยือกเย็นอย่างน่าประหลาด ในชุดที่ประดับประดาด้วยอัญมณีสีแดง
                         
                                 ผมสีแดงสั้นเข้ากับชุด  มีนิสัยบ้าเลือดคลั่งสงครามผิดกับท่าทางที่ดูสุขุมเยือกเย็นอย่างลิบลับ   กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

                                 แล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกับ เฮเทรส อย่างช้าๆ

                                " มันก็จริงของเจ้านะ แต่ถึงอย่างไร แสงสว่างย่อมชนะความมืด

                                 ธรรมมะย่อมชนะอธรรม มันไปตามของกฎของธรรมชาตินี่

                                 หลักฐานก็คือ นรก เหลือแค่ เมพิสโต้คนเดียว

                                 ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว   ฮ่าๆๆๆ " เฮเทรสหัวเราะแล้วยกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างสบายอารมณ์

                            
     
                                 " แต่ข้าว่า มันแปลกๆนะ ข้ารู้สึกว่า ซาตาน จะยอมให้"ทีอา"ใช้ไลท์สคาร์เล็ตแทงได้อย่างง่ายดายเกินไป

                                 แล้วตอนนี้  ดาบนั่นก็คงอยู่กับเมพิสโต้แล้ว "

                                 ฟินิอัส เทพสาวแห่งแสงที่มีหน้าตาน่ารัก ผิวขาวสดใส นัยน์ตาสีดำกลมโต ริมฝีปากสีชมพูอ่อน แก้มแดงระเรื่อ

                                 ผมสีน้ำตาลเงางามยาวเรียบตรงจนถึงกลางแผ่นหลัง ด้านหน้าทำผมปัดไปทางด้านหนึ่งดูเรียบร้อยน่ารัก 

                                 แม้จะดูสดใสร่าเริง น่าจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่กลับมีนิสัยขี้ระแวง นางกล่าวตัดบทเฮเทรสที่กำลังหัวเราะร่วนทันที 

                                 " เซนี่ จ๋า ข้าอยากรู้ว่าเมพิสโต้จะมีแผนร้ายอะไรอีกหรือเปล่า เจ้าช่วยดูให้ทีนะ "

                                 ฟินิอัสทำตาใสอ้อนเซนีอาร์เหมือนเด็กไร้เดียงสา พลางดึงแขนของเซนีอาร์ไปมา

                                 " นี่รอบที่ร้อยแล้วนะ คำถามนี้น่ะ "
                 
                                 เซนีอาร์ เทพสาวแห่งสายธารา ที่งดงามทรงสเน่ห์ นัยน์ตาสีฟ้า ริมผีปากสีแดงอวบอิ่มน่าเย้ายวนใจยิ่งนัก

                                 ผมสีฟ้าที่ยาวประบ่าประดับประดาไปด้วยอัญมณีหลากสีสันดูงดงามอย่างน่าประหลาด 

                                 นางเป็นเทพที่มีจิตใจเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวจึงได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำกลุ่ม 7 เทพองค์รักษ์ 
                        
                                 นางทำหน้าเบื่อระอา แล้วเบือนหน้าหนีฟินิอัส 
                        
                                 แต่ฟินิอัสก็ยังอ้อนไม่ยอมหยุด จนเซนีอาร์เริ่มจะใจอ่อน

                                " เอาล่ะๆ เฮ่ออ ข้าจะดูให้ก็ได้ แต่เป็นครั้งสุดท้ายนะ เพราะสิ่งที่เจ้าจะเห็น ก็คือภาพ
     
                                 ของเมพิสโต้ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือ เหมือน ทุกครั้งที่เราเคยเห็นกันนั่นแหละ เจ้านี่ช่างขี้ระแวงจริงๆ

                                 เซนีอาร์พูดดักเอาไว้ก่อน แล้วหยิบอ่างน้ำที่มีก้นแบนคล้ายถาด มาวางไว้บนโต๊ะ

                                 เอามือของนางจุ่มลงในถาดแล้วหลับตาเพิ่งสมาธิ

                                 " . . . . . . . . . . "

                                 เซนีอาร์ทำหน้าตื่นตระหนก แล้วหลับตาอีกครั้ง

                                 " . . . . . . .ตอนนี้เมพิสโต้ไม่ได้นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เดิมแล้ว  มันหายไป "

                                 เซนีอาพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตา แล้วเพ่งสมาธิเพื่อมองเหตุการณ์ล่วงหน้า

                                 " มันที่ไปโลกมนุษย์......  "

                                 ฟินิอัสกุมมือของเซนีอา แน่น เฮเทรส และ เอดัล ก็ต่างตั้งใจฟังคำพูดของเซนีอาร์

                                 ภาพเหตุการณ์มากมายต่างพากันวิ่งเข้าสู่หัวของเซนีอาร์

                                 เซนีอาลืมตาขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ดูตื่นตระหนกเป็นที่สุด  และพูดว่า

                                 " ...สุริยคราส โลกมนุษย์กำลังปั่นป่วนโกลาหล ผู้คนล้มตาย เป็นจำนวนมาก "

                                 " เมพิสโต้เดินไปยังห้องของหญิงที่เพิ่งคลอดลูกออกมา...แล้วนำเด็กทารกคนนั้นหายกลับเข้าไปในเงามืด..

                                 และ..ทำไม...เด็กคนนี้ถึงได้....
                              
                                 มีพลังแบบเดียวกับซาตาน ..ข้าเกรงว่า......  " เซนีอาร์ลังเลที่จะพูดต่อ


                                 "...เด็กคนนี้อาจจะเป็นบุตรซาตาน " เซนีอาร์ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อเม็ดโตที่ผุดขึ้นมาทั่วทั้งใบหน้า

                                 " บุตรซาตาน !!!! " ฟินิอัสร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ

                                 " มีทางแก้ไขหรือไม่ ? " เอดัลตั้งคำถามทันที

                                 " นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลง ยังสามารถแก้ไขได้

                                 เรา ต้องสังหารเด็กคนนั้นทิ้งเสียก่อน " เซนีอาร์ กล่าว พร้อมทั้งทำหน้าจริงจังแต่แววตาแฝงด้วยความกังวล

                                 " แค่สังหารเด็กคนนั้นทิ้ง มันมีอะไรน่ากังวลนักหรืออย่างไร ? " เฮเทรสกล่าวขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเซนีอาร์

                                 " เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายสินะ แค่สังหารเด็กทารก แต่เจ้าลืมไปแล้วหรือ

                                 ว่า เมพิสโต้ คงจะไม่ยอมให้เราทำแบบนั้นได้ง่ายๆหรอก

                                 นำเรื่องนี้ไปรายงาน ท่านเซราฟ ให้เร็วที่สุด ฟินิอัส " เซนีอาร์กล่าว

                            
      ณ หอคอย เรโนส ชั้นสูงสุด


                                 " ท่านเซราฟ คะ  ข้ามีเรื่องสำคัญ และด่วนมาก มารายงานท่านค่ะ "

                                 ฟินิอัส กล่าวขึ้นด้วยอาการลนลาน

                                 " ว่ามาสิ.. " 

                                 เซราฟ เทพผู้มี 6 ปีก มีแววตาและใบหน้านิ่งเฉยไม่ยินดียินร้าย

                                 และเป็นเทพชั้นสูงสุดในสวรรค์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

                                 " อีกประมาณ 1 ปีข้างหน้าตามเวลาของโลกมนุษย์ จะมี บุตรของซาตาน ถือกำเนิดขึ้น

                                 และตอนนั้นก็เป็นช่วงที่สุริยคราสด้วยค่ะ " 

                                 " สุริยคราสรึ... เป็นช่วงเวลาที่พวกปีศาจแข่งแกร่งที่สุด ซาตานช่างเข้าใจคิดเหลือเกิน

                                 พวกเจ้าตัดสินใจเองก็แล้วกัน ว่าควรทำอย่างไร ความจริง เรื่องอย่างนี้ไม่ควรมาถามข้านะ

                                 แต่ก็ดีแล้วที่เจ้าพวกยังรู้จัก มารายงาน ไม่ทำอะไรตามอำเภอใจ แต่ข้าขอเตือนไว้อย่าง
     
                                 พวกเจ้าทั้ง 7 คน    ในคืนสุริยคราสแบบนั้น เจ้าไม่มีทางเอาชนะเมพิสโต้คนเดียวได้

                                 และ...ดาบของทีอา ไม่ว่าอย่างไร พวกเจ้าก็ต้องนำกลับมาให้ได้ "

                                 เซราฟ กล่าวขึ้นด้วยน้ำหนักแน่น แต่ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย

                                 " ทำไมล่ะคะท่าน ยังไงเมพิสโต้ก็ใช้ดาบนั่นไม่ได้ไม่ใช่หรือคะ " ฟินิอัสทำหน้าสงสัย 

                                 " เจ้าดูไม่ออกหรือ ว่าซาตานมันคิดอะไร  พวกปีศาจหรือแม้แต่เทพอย่างพวกเรายกเว้นทีอา ไม่สามารถใช้ดาบไลท์สคาเล็ตได้

                                 แต่ถ้าเป็นมนุษย์ก็จะสามารถใช้ดาบนั้นได้  และมันเป็นอาวุธอย่างเดียว...

                                 ที่สามารถสังหารเทพองค์รักษ์ทั้ง 7 อย่างพวกเจ้าได้

                                 ถ้าดาบนั่นตกอยู่ในมือของบุตรซาตานจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์อาจจะต้องพินาศก็เป็นได้

                                 และที่สำคัญ เจ้าห้ามฆ่าเด็กคนนั้น ส่งมันมาให้ข้า แล้วข้าจะจัดการเอง นี่เป็นคำสั่ง !!! "

                                 " ข้าเข้าใจแล้วค่ะ " ฟินิอัสแม้จะติดใจที่เซราฟไม่สั่งให้ฆ่าทันทีแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จึงย่อเข่าคำนับ

                                 และก้มหัวลงช้าๆ แล้วเดินถอยหลังจากไป

                       

                         
                            >>สวรรค์แห่งนี้ไม่มีพระเจ้าสถิตย์อยู่อย่างที่มนุษย์เข้าใจ พระเจ้าสำหรับเหล่าเทพเป็นเหมือนสิ่งสมมุติ

                                บ้างก็เชื่อ บ้างก็ไม่เชื่อ ว่ามีตัวตนอยู่จริง  บนสวรรค์มีเมืองที่มีขนาดใหญ่ชื่อว่า เฟเรีย ตั้งอยู่ล้อมรอบหอยคอยเรโนส

                                เหล่าเทพใช้ชีวิตอยู่กันเหมือนมนุษย์ปกติก็ยังคงต้องการหายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ปอด 

                                แต่ที่เหล่าเทพมีชีวิตยืนยาวอยู่นาน เพราะความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างสูง

                                กล่าวคือ สามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้ จึงสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโครโมโซม  

                                และดึงเอาโครโมโซมคู่ที่ควบคุมการเสื่อมโทรมของเซลล์

                                ที่เป็นสาเหตุของการชราออกไป       ถ้าเทพคนใดเกิดอุบัติเหตุ ก็สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการปลูกถ่ายเซลล์

                                ไม่ว่าจะบาดเจ็บสักเพียงใดก็ตาม

                                การตัดต่อโครงสร้างพันธุกรรมทำให้พวกเทพมีกล้ามเนื้อที่มีพลังกำลังมหาศาล ในอาหารปริมาณเท่ากันกับที่มนุษย์กิน 

                                ร่างกายของพวกเทพสามารถเผาผลาญอาหารและสร้างออกมาเป็นพลังงานได้มากกว่ามนุษย์ปกติถึง 50 เท่า

                                และพวกเทพสามารถใช้พลังของสมองได้มากถึง 90-100 % ในขณะที่มนุษย์ใช้พลังของสมองได้แค่เพียง 5-10 % เท่านั้น

                                พวกเทพจึงมีพลังแตกต่างกันออกไป พลัง..ที่มนุษย์เรียกกันว่า พลังจิต  

                                จะว่าไป สวรรค์ ก็เปรียบเสมือน โลกอนาคต ของโลกมนุษย์ สวรรค์ตั้งอยู่ในมิติเวลาที่ซ้อนเหลื่อมอยู่กับโลกมนุษย์


                            >>ส่วนนรก จะเป็นที่รวบรวมและกักเก็บวิญญาณ หรือพลังงานที่หลงเหลือจากมนุษย์ที่ตายแล้ว 

                                โดยปีศาจที่มีหน้าที่รวบรวมวิญญาณ เรียกว่า บริงค์เกอร์ เป็นคนนำมาไว้ที่นรก

                                เมพิสโต้ จะเป็นผู้ตัดสินว่าจะให้ วิญญาณ ไปอยู่ที่ใด ผู้ที่เคยทำความดีไว้ จะไม่ได้ถูกส่งไปที่ สวรรค์ แต่จะถูกนำไปไว้ที่ 

                                ดินแดนสนธยา หรือเมือง เคโลส ที่มีสภาพเหมือนโลกมนุษย์ปกติทุกอย่าง

                                ส่วนพวกที่ทำความชั่วก็จะถูกนำไปไว้ในนรกอเวจี หรือ เมือง ซอโรว 

                                ที่เป็นดังคุกที่มีการลงโทษวิญญาณอย่างโหดร้ายทารุณอย่างแสนสาหัส 

                                วิญญาณที่อยู่ในนรกนี้ นานวันเข้าจะสามารถก่อตัวสร้างร่างเนื้อได้ หรือที่ มนุษย์เรียกว่า  ' ปีศาจ ' 

                                โดยสภาพของร่างเนื้อนั้นจะเป็นไปตามลักษณะจิตใจของวิญญาณดวงนั้นๆ

                                และพวกปีศาจไม่ชอบอยู่ในเมือง ซอโรว จึงมักจะหนีออกไปที่โลกมนุษย์โดยใช้ประตูมิติทางที่ถูกบริงค์เกอร์นำเข้ามานั่นเอง

                                นรกตั้งอยู่ที่ใจกลางของ หลุมดำในอวกาศ โดยมีประตูมิติเชื่อมระหว่างนรกและโลกมนุษย์ โดยมี สุนัข ปีศาจ 3 หัว เคลเบรอส เฝ้าอยู่

                              

                            >>ทุกอย่างในนรก เป็นไปตามกฏแห่งกรรม 
     
                                แต่สวรรค์ ละทิ้งกฏแห่งกรรม เพราะเทพคนส่วนใหญ่จะไม่ตาย แต่ถ้าตายวิญญาณก็จะนำมาสู่นรกเช่นกัน 

                                แต่วิธีที่จะสังหารเทพนั้นทำได้ยากมาก 

                                เหตุนี้ทำให้พวกเทพทำอะไรได้ตามอำเภอใจ พวกเขามองเห็นมนุษย์เป็นแค่เพียงสิ่งมีชีวิตที่ล้าหลังทางอารยธรรม 

                                เทพบางคนก็มักจะแสดงอำนาจ เพิ่อให้มนุษย์นับถือ ถ้าใครไม่นับถือ

                                หรือทำให้เทพคนนั้นโกรธก็จะถูกฆ่าทิ้งเสียเหมือนผักปลา แต่เหล่าเทพก็เหมือนกับมนุษย์ มีทั้งดีและเลวปะปนกันไป 

                                เทพที่มีจิตใจงดงามก็มีอยู่มากเช่นกัน  

                            >>แต่ถึงอย่างไรซาตานก็เกลียดพวกเทพมาก เพราะพวกเขาละเลยกฎแห่งกรรม 

                                 ซาตานจึงต้องการทำลายสวรรค์และพวกเทพให้สิ้นซาก โดยเฉพาะ...เซราฟ
                            
                         
            ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×