ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    f(x) Caffee ☕ By ปีศาจแตงกวา

    ลำดับตอนที่ #1 : [1-Shot] Do you miss me…? [Sulli & Krystal]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 74
      0
      14 มี.ค. 59

    CR.SQW









    [1-Shot] Do you miss me? 

    Pair : Sulli x Krystal

    Author : ZombieJuhyun

    Re-post : ปีศาจแตงกวา





    ว้าวๆ ไอยูเอาของให้อีกแล้วเหรอ

    แอมเบอร์เจ้าของร้านกาแฟเดินอ้อมเคาน์เตอร์มาเอ่ยแซ่วเพื่อนสนิทที่เพิ่งจะได้รับของขวัญแทนใจจากเพื่อนสาวคนน่ารักและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกับเพื่อน เค้าให้อะไรซอลอะ?”

     

    สร้อยข้อมือซอลลี่ตอบเสียงเรียบ

     

    แอมเบอร์ถึงกับกลอกตาทันที ไม่ใช่ไม่ชอบใจกับของที่ไอยูมอบให้ซอลลี่หรอก เพราะดูลักษณะเจ้าสร้อยข้อมือนี่แล้วถึงแม้ว่ามันจะดูเรียบง่ายแต่ก็คลาสิคดี ราคาเจ้าของสิ่งนี้ดูแล้วก็น่าจะแพงไม่ใช่น้อย แต่ทำไมต้องซื้อสร้อยข้อมือให้ซอลลี่ด้วยก็ในเมื่อเพื่อนมันมีสร้อยข้อมือของมันอยู่แล้ว สร้อยข้อมือที่ชีวิตนี้ก็ไม่คิดจะถอดออก...

     

    ถ้าคิดจะพูดโน้มน้าวใจเพื่อนให้เปลี่ยนมาใส่ของไอยูแล้วล่ะก็...แค่คิดก็รู้เลยว่าเปล่าประโยชน์...

     

    เหมือนเป็นการพยายามเปลี่ยนให้น้ำไหลจากที่ต่ำขึ้นที่สูง หรือไม่ก็เปลี่ยนพระอาทิตย์ให้ขึ้นตอนกลางคืน เปลี่ยนพระจันทร์ให้ขึ้นตอนกลางวันอย่างไงอย่างงั้น สรุปคือเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ซอลลี่เปลี่ยนใจ...

     

    ปกติแอมเบอร์คนนี้ไม่ใช่คนมีนิสัยยอมแพ้กับสิ่งใดง่ายๆค่อนข้างจะหัวดื้อหัวรั้นด้วยซ้ำ แต่เพราะเคยลองแล้ว เคยพยายามแล้ว ไม่ว่าจะลองวิธีไหนๆ  ไม่ว่าจะทำยังไงซอลลี่ก็ไม่เคยคิดที่จะถอดสร้อยข้อมือเส้นนั้นออกจนคนหัวแข็งอย่างเธอยังต้องยอมแพ้ 

     

    ตัวเธอเองรู้ดีถึงสาเหตุว่าทำไมซอลลี่ไม่เคยถอดสร้อยเส้นนั้นออก เพราะของชิ้นนั้นมันมีคุณค่าต่อหัวใจ เพราะของชิ้นนั้นเป็นของที่มีคุณค่าในความทรงจำ เพราะของชิ้นนั้น...เป็นของที่คนเคยรักมอบให้กัน...

     

    ไอยูจัดเป็นคนหน้าตาน่ารักมาก มากถึงมากที่สุด ถ้าไม่ติดว่าตัวเองนั้นมีแฟนอยู่แล้วนะ จะจีบแทนเลยไม่ปล่อยให้ไอยูมาไล่ตามจีบซอลลี่ให้เสียเวลาเปล่ามาสามปีหรอก

     

    ส่วนเพื่อนของเธอคนนี้ก็ใจแข็งยิ่งกว่าหินผา มีคนน่ารักไล่ตามจีบมาตั้งหลายปีก็ยังคงมั่นคงต่อคนคนเดิม เจ้าของสร้อยข้อมือเส้นนั้น...

     

    กาลเวลาเปลี่ยนไป แต่ใจไม่...ซอลลี่ยังคงรักผู้หญิงคนนั้น...ผู้หญิงที่ทิ้งเพื่อนเธอไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว...

     

    ซอลลี่เก็บสร้อยข้อมือที่ไอยูมอบให้ใส่กล่องของมันเหมือนเดิม แล้วลุกขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋ากล้องสะพายพาดไหล่

     

    กลับก่อนนะ

     

    แอมเบอร์พงักหน้างืมๆ โบกมือ กลับบ้านดีๆล่ะ

     

    นี่ค่ากาแฟแต่แอมเบอร์กลับไม่รับ ส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่คิดอะ เก็บไว้เถอะ

     

    ไม่เคยคิดเงินตลอด วันหลังจะไปกินร้านอื่นแล้วนะซอลลี่พูดขำๆ

     

    ก็เพื่อนกันจะให้ฉันมานั่งเก็บตังแกรึไง บ้ารึเปล่า

    แอมเบอร์ยืนขึ้นแล้วเขย่งปลายเท้าเพื่อผลักหัวตากล้องมืออาชีพจนเซถอยหลัง

     

    ร้านนี้นอกจากลูน่าแฟนฉัน ก็มีแกเนี่ยแหละหุ้นส่วนคนสำคัญ คิดได้ไงจะให้ฉันมานั่งเก็บเงินแก

     

    ได้ไงของซื้อของขาย

     

    เออๆ เอาไปเถอะ จะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ กลับไปได้แล้ว

    แอมเบอร์ไม่พูดไล่เปล่ายังดันหลังเพื่อนให้รีบออกจากร้านไป ไม่งั้นได้มีเถียงจ่ายไม่จ่ายยันร้านปิดแน่  แต่ซอลลี่ก็ยังคงดื้อดึงจะจ่ายตังค์ให้ได้

     

    แอมเบอร์ถึงกับต้องกุมขมับพูดอย่างเนือยๆ เอาอย่างงี้ ไว้เราไปกินข้าวด้วยกันแล้วแกเลี้ยงข้าวฉันแทนล่ะกัน โอเคป่ะ

    ต้องให้พูดแบบนั้นเพื่อนมันถึงจะยอมโอเคด้วยและกลับบ้านได้สักที

     

    แอมเบอร์มองไล่ตามแผ่นหลังของเพื่อนรักที่เดินจากไป เกิดความรู้สึกหดหู่ภายในใจ ใครจะไปรู้ว่าเพื่อนรักคนนี้...จะต้องแบกความทุกข์อะไรไว้บ้าง...ก็ตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นจากไป...เหมือนความสุขของเพื่อนเธอก็ถูกพรากไปด้วย...

     

     

     

    ***

     

     

     

     

    แกร๊ก...

     

    ซอลลี่เปิดประตูเข้ามาในห้อง ถอดเสื้อโค้ชพาดไว้กับพนักโซฟาพร้อมวางกระเป๋ากล้องบนโต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟา แล้วพาตัวเองไปยังเตียงทิ้งตัวลงนอน เงยหน้ามองเพดานและชูแขนข้างซ้ายที่ใส่สร้อยข้อมือขึ้น ปล่อยความคิดและความรู้สึกต่างๆล่องลอย ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา...

     

    ไม่เคยเลย ไม่เคยมีสักครั้งที่จะไม่คิดถึง...

     

     

     

    เสียงเอะอะโวยวายจากเด็กกลุ่มหนึ่งเรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้าง เด็กผู้หญิงตัวสูงกำลังถูกกลุ่มเพื่อนคะยั้นคะยอ และถูกดันหลังให้เดินไปข้างหน้า

     

    เห้ยๆอย่าดันดิ

     

    ไปเร็วๆเถอะน่า เดี๋ยวมีคนตัดหน้าไปหาซูจองก่อนทำไงอะแอมเบอร์พูด

     

    นั้นดิ วันนี้วันจบการศึกษาแล้วนะ ถ้าไม่เจอเค้าอีกจะทำไงมินโฮพูดสนับสนุนแอมเบอร์

     

    แต่ว่า...

     

    นั่นไงซูจอง!”

    วิคตอเรียตะโกนเสียงดัง ก่อนพ้องเพื่อนทั้งสามจะพร้อมใจผลักเพื่อนตัวสูงไปหาเพื่อนคนสวยหัวแทบคะมำทิ่มพื้น

     

    พอตั้งหลักได้จะหันไปด่าเพื่อนเงยหน้าขึ้นมาเจอหน้าคนหน้าหวานเข้าพอดี...ซอลลี่ถึงกับอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูก...

     

    อยากพูดอะไรก็พูดออกไปเซ่!”

    มินโฮตะโกน ซอลลี่ค้อนขวับใส่เพื่อน มองกันด้วยสายตาเป็นเชิงที่ว่า หุบปากซะ แต่มินโฮกลับไม่สะทกสะท้านต่อสายตาที่จ้องจนแทบจะขยำคอกันสักนิดแถมยังส่งยิ้มร่าให้อีกต่างหาก

     

    เอ่อ....ซูจอง...คือฉัน....

     

    บรรดาเพื่อนและคนเห็นเหตุการณ์รวมถึงคนหน้าหวานก็พลอยลุ้นไปกับอาการเงอะงะของซอลลี่ด้วย จอง คริสตัล...

     

    คริสตัลถึงกับตกใจเล็กน้อยเมื่อเพื่อนคนนี้เรียกชื่อกันเต็มยศก่อนจะขานรับกลับไปมีอะไรรึเปล่า?”

     

    คือ...ซอล....คือ....

     

    คือๆอยู่นั่นแหละ อยากพูดอะไรก็พูดออกไปดิ!”วิคตอเรียโผงพูดเสียงดังอย่างเหลืออด

     

    รู้แล้วน่า!”

    ซอลลี่หันไปแหวใส่เพื่อน แล้วกลับมาสบตากับคริสตัลอีกรอบ ก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมยื่นตุ๊กตาลิงให้ ยินดีด้วยที่จบการศึกษาขอให้คริสตัลประสบความสำเร็จในชีวิตนะ!”พูดใส่เสียงดังฟังชัดจนเหมือนแทบจะตะโกนใส่หน้า ค้อมหัวให้และรีบเดินหนีทว่ากลับถูกกลุ่มเพื่อนแห่กันมาจับตัวให้เผชิญหน้ากับเพื่อนคนสวยอีกรอบ

     

    นี่แค่บอกซูจองว่ารักมันจะไปยากอะไรนักหนาฟ่ะแอมเบอร์พูดอย่างทนไม่ได้

     

    “!!!”

     

    ทุกคนตกใจหันมองแอมเบอร์อย่างพร้อมเพรียง พอแอมเบอร์ตระหนักได้ว่าตัวเองเผลอหลุดพูดอะไรออกไป เจ้าตัวก็หัวเราะแหะๆ

    คริสตัลหันกลับมามองซอลลี่อย่างอึ้งๆ ส่วนซอลลี่ก็ก้มหน้ามองต่ำซ่อนใบหน้าเขินอายของตนไว้

     

    จริงเหรอซอล?!”ลูน่าเพื่อนซี้คริสตัลถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

     

    เอาก็เอาว่ะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ซอลลี่เงยหน้าขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่ตนแอบรักมาหลายปี และตัดสินใจพูดไปในที่สุด 

    คริสตัล....คือฉัน...รักเธอ

    พูดพร้อมเกาท้ายทอยแก้เขิน แต่พอเห็นสีหน้าตื่นตกใจของคริสตัลก็พอเข้าใจ ก็แน่ละเพื่อนที่รู้จักจู่ๆก็มาสารภาพรักใส่กันอย่างกะทันหันแบบนี้ก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา

     

     

    ฉันแค่อยากบอกให้เธอได้รับรู้ อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสบอกความรู้สึกไปเธอไม่จำเป็นจะต้องตอบรับอะไรทั้งนั้น ฉันแค่....พอพูดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกตื้นตันในลำคอ น้ำตามันจะไหลออกมาดื้อๆ แต่ก็ยังคงฝืนส่งยิ้มไปให้ ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้บอกความรู้สึกว่าฉันรักเธอก็พอแล้วพูดจบแล้วก้มหัวให้หันหลังเดินจาก

     

     

    คริสตัลยืนอึ้งไปชั่วครู่เหมือนสมองกำลังประมวลผลคำพูดที่ออกมาจากปากเพื่อนว่ามันจริงเท็จแค่ไหน

     

    ยัยคริสซอลลี่เค้าบอกรักแกแล้วนะเว้ย อย่าเล่นตัวให้มากสิ รีบตามไปเร็วเข้า

    ลูน่ากระซิบข้างหูทำให้คริสตัลได้สติ รีบส่งช่อดอกไม้ ตุ๊กตาทั้งหมดให้ลูน่าแล้วรีบวิ่งตามซอลลี่ไป 

     

    ซอลซอล!”

     

    ซอลลี่หันไปตามเสียงเรียกพบเพื่อนคนสวยหยุดยืนหอบแฮกตรงหน้า เธอ...รักฉันจริงๆเหรอ?”

     

    คนโดนถามพยักหน้าตอบ ฉับพลันก็ถูกคริสตัลเข้าสวมกอดและสะอื้นไห้ออกมา

     

    ซอลลี่ถึงกับทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ไม่รู้จะวางมือตรงไหนก่อนจะตัดสินใจวางลงบนแผ่นหลังบางๆแล้วลูบปลอบคนที่ร้องไห้ไม่หยุด แม้ว่าในหัวยังคงมีความมึนงงอยู่บ้างแต่เธอก็ไม่อาจทนมองเค้าร้องไห้เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้หรอก และแล้วตัวของซอลลี่ก็ต้องอึ้งค้างเพราะคำพูดของคนในอ้อมกอด

     

     

    นึกว่าจะไม่พูดซะแล้ว ปล่อยให้รอตั้งนาน

     

     

     

    ซอลลี่หัวเราะทั้งน้ำตาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์จุดเริ่มต้นความรักของ เรา’ หลังจากพบว่าเราสองคนต่างแอบชอบซึ่งกันและกันมานาน และตัดสินใจตกลงคบหากันในฐานะคนรัก เธอคิดว่าตัวเองในตอนนั้นโชคดีที่สุด จะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้ที่สมหวังในรักแรกแบบเธอ จะมีสักกี่คนบนโลกนี้ที่แอบชอบเค้า...และเค้าก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเรา...

     

    มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ ความรัก...มันช่างหอมหวาน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข....

     

    จึงไม่ทันได้ระวัง ไม่ทันได้เตรียมใจ...

     

    ซอลลี่เหลือบมองสร้อยข้อมือที่ห้อยจี้ตัวอักษร ไว้ ของขวัญวันครบรอบสามปีของเรา...

     

     

    คนอ่านหนังสือละสายตาจากตัวอักษรบนกระดาษ ก้มมองกล่องขนาดกะทัดรัดบนตักที่อีกคนเอามาวางไว้

     

    เปิดดูสิ

     

    ซอลลี่เปิดฝากล่อง ก่อนจะเบิกตากว้างมองคริสตัล ซื้อมาทำไมเนี่ย?!”

     

    คริสตัลส่ายหัวพร้อมยิ้มน้อยๆ ดีดหน้าผากซอลลี่ไปทีหนึ่งให้ซอลลี่ลูบหน้าผากตัวเองปอยๆ ก็ของขวัญครบรอบไง

     

    เธอให้ของแพงขนาดนี้กับฉัน...แต่ฉันไม่มีอะไรให้เธอเลย...ฉัน....

    คริสตัลทาบนิ้วชี้บนปากซอลลี่ ส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงห้ามให้หยุดพูด

     

    ฉันซื้อให้เพราะอยากซื้อให้ และฉันเห็นว่ามันเหมาะกับเธอดี แล้ว...นี่คริสตัลชูแขนให้ซอลลี่ดู มันเป็นสร้อยข้อมือคู่ ของเธอเป็นตัว ส่วนของฉันเป็นตัว Sหมายความว่าเธอเป็นของฉัน และฉันก็เป็นของเธอไง

     

    ซอลลี่นิ่งค้าง ในหัวไม่เคยคาดคิดว่าคนอย่างจอง คริสตัล จะมีมุมน่ารักๆแบบนี้ด้วย คนที่ไม่ค่อยมีถ้อยคำหวานให้กัน คนที่ไม่ความโรแมนติกในสมอง นิยมความรุนแรงแบบนั้นจะทำอะไรอย่างนี้กับเค้าก็เป็นด้วย สร้อยข้อมือนี้มองดูก็รู้ว่ามันมีราคาสูงขนาดไหน แต่คริสตัลคงไม่คิดแบบเดียวกันหรอกสำหรับลูกคุณหนูแบบเค้า ข้าวของแบบนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา..

     

    ฉันอาจพูดไม่ค่อยเก่งหรอก คำหวานๆก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา แต่ฉันแค่อยากบอกให้เธอรู้ไว้...

    ฉันคิดว่าฉันโชคดีที่เจอเธอ...โชคดีที่ได้เธอมาเป็นคนรัก...

    ฉันรักเธอนะ ซอลลี่

     

     

    ซอลลี่เงยมองเพดาน....น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด....

    รักกัน...แล้วทำไม....ต้องบอกเลิกกันด้วย...

     

     

    กลับมาแล้วคนเพิ่งกลับมาถึงวางของที่ซื้อมาจำนวนมากเผื่อทั้งเธอและเค้าลงบนโต๊ะ

     

    ซูจองตะโกนเรียกหา ทว่ากลับได้ยินแต่ความเงียบเป็นคำตอบ... 

     

    ซอลลี่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติจึงเดินเข้าไปในห้องนอน ทว่าสิ่งที่พบมันไม่ได้เป็นอย่างที่ภาพในหัวได้วาดเอาไว้ เตียงว่างเปล่า...ไม่ได้หลับหรอกเหรอหรือว่าจะอยู่ในห้องน้ำพอเปิดดูก็ไม่มีนี่.......หรือยังไม่กลับมา...?

     

    ทว่าซอลลี่เกิดนึกเฉลียวใจกับของข้าวบางอย่างในห้องน้ำ เข้าไปดูอีกรอบ...แปรงสีฟันที่เคยวางคู่กันมันหายไป...ข้าวของซูจองมันหายไป ฉับพลันซอลลี่ก็รีบวิ่งไปยังตู้เสื้อผ้าเปิดกระชากออก...

     

    ตัวของซอลลี่ชาวาบ...ดวงตาเบิกกว้าง...

     

    ว่างเปล่า...เสื้อผ้าของพี่คริสตัลหายไปหมด...

     

    แทบประคองสติไว้ไม่อยู่ รีบหยิบโทรศัพท์มือถือกดเบอร์โทรหาคนรัก เนื้อตัวสั้นเทิ้มไปหมด...ในใจภาวนาขอให้เค้ารับสายกัน เธอไม่รู้เธอทำอะไรให้เค้าเคืองโกรธกันถึงขั้นต้องเก็บข้าวของหนีกันไปแบบนี้ เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย ไม่มีวี่แววจะตีจาก หรือเธอเผลอไปทำอะไรให้เค้าไม่พอใจโดยไม่รู้ตัวรึเปล่า หากเป็นอย่างงั้นจริง เธอจะรีบขอโทษ ขอโอกาสแก้ตัว แต่ได้โปรดอย่าทำอย่างนี้ใส่กัน...อย่าทิ้งกันไปแบบนี้...

     

    ซูจอง!?”ซอลลี่พูดเสียงร้อนรนไปทันทีเมื่ออีกคนรับสาย

     

    ซูจองไปไหน เธอกำลังจะไปไหน ฉันเผลอทำอะไรให้เธอไม่พอใจรึเปล่า ฉันขอโทษ ให้โอกาสฉันได้แก้ตัวได้ไหม ซูจอง...ซูจอง...

     

    “[............]”

     

    เธออย่าโกรธฉันด้วยวิธีนี้สิ ฉันเผลอทำอะไรให้เธอโกรธรึเปล่า ฉันขอโทษนะ ฉันขอโทษ

     

    “[เธอไม่ได้ทำอะไรให้ฉันโกรธ]”

     

    แล้วทำไม” “[ฉันต้องไปแล้ว...]”

     

    ไป...ไปไหน....เธอจะไปไหน?!”

     

    “[……….]”

     

    ไหนเธอบอกว่ารักกันไง บอกว่าจะไม่ทิ้งกันไปยังไง!”เสียงของซอลลี่สั่นพร่า

     

    “[แค่คำว่ารักมันไม่พอหรอกซอลลี่...ความรักของเราสองคนมันไม่มีทางเป็นไปได้...]”

     

    ความรู้สึกของซอลลี่ตอนนี้เหมือนโดนคนเอาไม้หน้าสามมาฟาดเข้าที่หัวอย่างแรง

    ราวกับโลกทั้งใบของเธอพังทลายไปต่อหน้าต่อตา...แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี...

     

    เกิดคำถามขึ้นในใจ...ทำไม....เพราะอะไร...แต่ทุกอย่างมันดูเชื่องช้าไปหมด รู้สึกตัวชาไปทั้งร่าง ร่างกายไม่อาจสั่งการอะไรได้ ไม่อาจรับรู้สึกใดได้....นอกเหนือจากความเจ็บปวด...

     

    “[ดูแลตัวเองดีๆละ]” สิ้นคำนั้นปลายสายก็ตัดสายไป

     

    ซอลลี่ตกใจรีบโทรกลับไปแต่พบว่าอีกคนปิดเครื่องไปแล้ว คนตัวสูงสั้นสะท้านไปทั้งร่างก่อนทรุดฮวบลงไปนั่งกับพื้นราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกสูบออกจากร่างจนหมดสิ้น เสียงร่ำไห้ดังกังวาลไปทั่วห้องฟังดูเศร้าหดหู่ราวกับว่าไม่เหลือแล้วซึ่งสิ่งใดๆบนโลกนี้...

     

     

    เธอจะเป็นยังไงบ้าง...เธอสบายดีไหม...เธออยู่ที่ไหน...ตอนนี้เธอทำอะไรอยู่...

     

    คิดถึง...

     

    จนถึงตอนนี้ก็อยากจะเจอหน้าอีกสักครั้ง ยังมีคำถามที่ค้างคาใจ...มันคงเป็นคำถามที่มีแต่เค้าเท่านั้นที่ตอบได้...

     

     

     

     

     ***

     

     

     

    ท่ามกลางแสงสีเสียง คนหลายคนกำลังสนุกสุดเหวี่ยงกับงานฉลองวันเกิดของเจ้าแม่ปาร์ตี้อย่างลูน่า...

    ซอลลี่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบที่ที่เต็มไปด้วยเสียงน่ารำคาญหู แต่ที่ต้องมาก็เพราะ...

     

    เธอจะมาชิ่งกลับไปดื้อๆไม่ได้นะซอลลี่!”

     

    ซอลลี่กลอกตาทำหน้าเอื้อมใส่ลูน่า แต่พอเจอลูน่าจ้องเขม็งเลยจำเป็นต้องส่งยิ้มเจื่อนๆให้แฟนเพื่อนไปทั้งๆที่ใครๆก็สามารถดูออกได้ว่ามันเป็นรอยยิ้มที่จำใจ และก็ปล่อยให้ตัวเองถูกแอมเบอร์ฉุดกระชากลากถูเข้ามาในห้องครัว ก็เป็นการดีที่เธอจะได้พาตัวเองถอยห่างจากความวุ่นวายตรงนั้น

     

    ซอลลี่ วิคลืมซื้อเทียนมาว่ะมินโฮพูด

     

    ซอลลี่พยักหน้างืมๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาเบิกตากว้างจนแทบถลนออกจากเบ้า ห้ะ!!”

     

    วิคตอเรียรีบเอามือมาปิดปากซอลลี่ แอมเบอร์ทำสัญญาณบอกว่าให้เงียบๆ เมื่อซอลลี่พยักหน้าเป็นเชิงรู้แล้ว วิคตอเรียจึงปล่อยให้เป็นอิสระ

     

    ลืมซื้อเทียนมาได้ยังไงเนี่ย?!”ซอลลี่พูดลอดไรฟัน

     

    ก็คนมันลืมอะ!” วิคตอเรียเถียงกลับคอแข็ง

     

    ซอลลี่ตบหน้าผากดังป้าบ สุดท้ายก็เป็นคนออกไปซื้อเองทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนลืม คิดในแง่ดีอย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยตัวเองให้ต้องอยู่กับสถานที่ที่หาแน่นไปด้วยผู้คน หลังจากซอลลี่ออกไปแล้วก็เหลือแค่คนสามคน...

     

    ทุกคนฉันมีอะไรจะบอกจู่ๆแอมเบอร์ก็พูดขึ้น

     

    หื้ม?”

     

    คริสตัลกำลังจะมาที่นี่

     

    ....!?”

     

    คริสตัลกลับมาจากเมืองนอกแล้ว...เค้ากำลังมางานวันเกิดลูน่า

     

    แล้วซอลอะ...!?”วิคตอเรียถามอย่างเป็นห่วง

     

    นั่นสิ ถ้าเกิดสองคนนั้นเจอกันขึ้นมาจะทำยังไงมินโฮพูดท่าทางซีเรียส

     

    แอมเบอร์ถอนหายใจ ทำหน้าเคร่งขรึมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ลูน่าเค้าต้องการให้สองคนนั้นเจอกัน...ส่วนพวกเราในฐานะเพื่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องยืนเคียงข้างมัน....

     

     

     

    หลังจากซอลลี่หาซื้อเทียนเจ้าปัญหาได้ก็ออกจากร้านสะดวกซื้อแล้วเดินไปยังรถ เธอรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆในวันนี้ ดูเหมือนลูน่าจะคอยมองหาเธอตลอดเวลา ส่วนเจ้าเพื่อนแสบสามตัวก็เหมือนจะมีเรื่องอะไรบางอย่างปิดบังกัน ดูท่าคะยั้นคะยอให้เธอออกมาซื้อเหลือเกิน...

     

    ฉับพลันหัวใจของซอลลี่สั่นสะท้านอย่างรุนแรง...สายตาหยุดจ้องมองที่หญิงสาวคนหนึ่ง...ถึงแม้สีผมจะเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ซอลลี่ก็ยังคงจดจำใบหน้างามนั้นได้เป็นอย่างดี...

     

    ซอลลี่คล้ายจะเพ้อออกมาเบาๆ ซูจอง...

     

    เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะรู้สึกว่ามีคนมองมา หันกลับไปมองอย่างแช่มช้า...

     

    และในวินาทีนี้เองที่ลมหายใจของซอลลี่แทบหยุดลง...ใบหน้านี้...คือ คริสตัลนี่นา!

     

    ซูจอง...คริสตัล...ซอลลี่เดินเข้าไปหาหญิงสาวด้วยอาการเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์มิอาจหลุดพ้นได้

     

    ผู้หญิงคนนั้นเบิกตากว้าง...ถอยหลังสองสามก้าวก่อนเปลี่ยนเป็นสาวเท้าวิ่งหนีแทน และแน่นอนซอลลี่วิ่งตามในทันที

     

    ซูจอง!”ด้วยสรีระทางร่างกายที่สูงกว่าเอื้ออำนวยให้ซอลลี่วิ่งตามได้ทัน ซอลลี่โผเข้ากอดหญิงสาวแน่น ซูจอง ฉันคิดถึงเธอ คิดถึงเหลือเกิน

     

    ทว่าผู้หญิงคนนั้นกลับผลักตัวซอลลี่ออก นี่คุณปล่อยฉันนะซูจองอะไรฉันไม่รู้จัก!”

     

    ซอลลี่ลูบไล้ใบหน้าคนที่ถวิลหามานาน ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นระริก ซูจอง...ซูจอง...

     

    เอ๊ะ!ก็บอกว่าไม่ใช่ไงปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”

    ผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคริสตัลปฏิเสธเสียงสั่นและผลักตัวซอลลี่ออกอย่างแรงจนหงายล้ม สบโอกาสวิ่งหนีในทันที

     

    ซอลลี่รีบลุกขึ้นวิ่งตาม ปากตะโกนพร่ำเรียกชื่อไปด้วย ซูจอง!”

     

     

     

    ปริ๊นนนน!เอี๊ยดดดด!!

     

     

     

    เสียงแตรรถ ทำให้ซอลลี่ต้องหันมองพบแสงสว่างจ้าจากไฟหน้ารถ ก่อนความเจ็บปวดจะถาโถมเข้าใส่ร่างกาย ถูกชนจนตัวลอยและกระแทกลงกับพื้น เลือดสีแดงสดกระจายไปทั่วพื้นถนน

     

    แต่...

     

    ใบหน้าของซอลลี่กำลังแย้มยิ้ม...มือข้างที่ใส่สร้อยข้อมือเส้นนั้นไว้สั่นเท่าเอื้อมไปหาผู้หญิงที่หยุดชะงักแล้วหันกลับมามอง...

     

    ซ...ซูจอง...

    นัยน์ตาสะท้อนภาพของผู้หญิงคนนั้นที่กำลังมองมายังเธอ...ก่อนที่มือจะทิ้งลงบนพื้นอย่างหมดแรง น้ำตาหยดสุดท้ายไหลรินจากหางตา...

     

    คริสตัลปากสั่นระริกไม่แพ้มือทั้งสองข้าง กรีดร้องสุดเสียงก่อนโผเข้าหาร่างของคนรัก

     

     

    ซ...ซอล...ซอลลี่!”

     

     

     

     

    ***

     

     

     

     “จอง คริสตัลลูกจะไปไหนจะไปหาแฟนลูกอีกแล้วใช่ไหม?!”

     

    “………”

     

    นี่ลูกไม่เห็นหัวพ่อเลยใช่ไหม คำพูดของพ่อมันไม่มีความหมายอะไรต่อลูกเลยใช่ไหม?! พ่อสั่งแล้วใช่ไหมให้ลูกเลิกกับเด็กนั่น!!”

     

    ลูกก็คงยืนยันคำตอบเดิมค่ะ ไม่’”

     

    ....นี่ลูกจะไม่ฟังพ่อใช่ไหมซูจอง?”

     

    พ่อคะ ลูกโตแล้วนะ พ่อเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าลูกจะคบกับใครก็” “ใครก็ได้ที่มันเหมาะสมและคู่ควรกับลูก ไม่ใช่นังเด็กผู้หญิงเพศเดียวกันคนนั่น!”

     

    พ่อ...

     

    พ่อจะเตือนลูกเป็นครั้งสุดท้าย เลิกยุ่งกับเด็กคนนั้นซะ!”

     

    ............

     

     

    ภาพความทรงจำในอดีตย้อนเข้ามาในหัวราวกับเป็นหนังเก่าที่ถูกฉายอีกครั้ง....

     

    คริสตัลเดินมาถึงหน้าประตูห้องที่คุ้นเคย มือบางข้างที่ใส่สร้อยข้อมือห้อยจี้รูปตัว sถือกุญแจที่พกติดตัวตลอดเวลาไขบานประตู...

     

    เธอไม่ได้มาเหยียบที่นี่นานแค่ไหนแล้วนะ...ข้าวของทุกอย่างยังคงถูกว่าอยู่ที่เดิม เหมือนกับทุกอย่าง...กำลังรอเธอกลับมา...

     

    คริสตัลเผลอกำมือแน่น...เม้มริมฝีปากจนเกือบเป็นเส้นตรงข่มความเจ็บปวดที่กำลังก่อตัวขึ้น...ก่อนเดินไปยังห้องนอน....สายตามองไปที่เตียง....หากเป็นเมื่อก่อนคนตัวโตคงนอนยิ้มกว้างให้กันแล้ว...

     

    ยิ้มขื่นกับตัวเอง...ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้...

     

    คริสตัลทิ้งตัวนั่งลงกับเตียง กวาดสายตามองไปรอบห้องที่คุ้นตา...ก่อนจะสะดุดอยู่ที่กรอบรูป...เอื้อมมือแสนสั่นเทาไปหยิบมันขึ้นมา...

     

    รูปที่เราถ่ายคู่กัน...ลูบไล้รูปถ่ายนั่นไปมา...และเพ่งสายตาอ่านโน้ตตัวเล็กๆที่ถูกเขียนไว้ด้วยปากกาเมจิกบนกรอบรูป...

     

    อ่านจบน้ำตาก็ไหลลงมาตามแนวใบหน้า  คริสตัลเงยหน้าขึ้นเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้ ทว่า...เงยหน้าขึ้นไปก็พบเพดาน....น้ำตาที่เคยพยายามห้ามเอาไว้กลับไหลทะลักออกมา...

     

    บนเพดานนั้น...มันเต็มไปด้วยรูปมากมายของเธอที่ถูกแปะไว้...

     

    คริสตัลกอดกรอบรูปนั้นแนบอก ร้องร่ำไห้จวนเจียนราวกับใจจะขาด ร้องครวญเรียกชื่อซอลลี่เหมือนคนหัวใจแตกสลาย...

     

     

     

    ฉันแค่อยากรู้...เวลาเธอมองรูปของเราสองคนแล้ว...เธอจะคิดถึงฉันบ้างไหม...?

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    The End 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×