ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประตูสวรรค์ต่างมิติ (Gate of time)

    ลำดับตอนที่ #4 : Compassionately or destructively

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 49


    ถ้าปล่อยมันไปคงต้องโดนแว้งกัดเข้าสักวัน แต่หากฆ่ามันเสียเรื่องปวดหัวจะตามมาทีหลัง...การเชื่อใจเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

     

                    ไม้ปลายแหลมพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า ความเร็วไร้ขีดจำกัด เป้าหมายแค่จะสอยเจ้านกยักษ์ที่บินอยู่บนท้องนภากว้าง ให้ร่วงตกลงสู่พื้นปฐพีเบื้องล่างนี้ ... สายตาของชายหนุ่มพยายามจับจ้อง จิตใจลุ้นระทึก ...ถ้าหากมันโดนเจ้านกยักษ์เพียงนิด เท่านี้ก็พอ ขอแค่เพื่อนคนแรก เพื่อนที่เพิ่งพบเจอ คนนี้ปลอดภัยก็พอแล้ว

                    ทันใดนั้น แค่ชั่วพริบตา ไม้ปลายแหลมที่นิราลัย ใช้กำลังทั้งหมดโยนออกไป ปักเสียบเข้ากับปีกข้างขวาเจ้านกยักษ์ เสียงร้องของมันดังลั่นอย่างเจ็บปวด มันคงไม่คิดไม่ฝันแน่ๆว่าจะมีมนุษย์หน้าไหนมาทำร้ายมันได้ ...มันบินวนไปวนมาสักพัก ก่อนจะปล่อยญาดาจากกรงเล็บอันแหลมคมและแข็งแรงของมัน ร่วงหล่นจากท้องนภา

                    ญาดาที่ตกใจระคนตื่นตะลึง ในเวลาอันสั้นเช่นนี้หล่อนไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าจะสามารถรอดพ้นจากการดิ่งพสุธาไปได้อย่างไร

                    ญาดา!!” นิราลัยตะโกนเรียกตรงเบื้องล่าง

                    มองมาทางนี้สิ เขาพยายามโบกไม้โบกมือ ถึงจุดที่เขายื่นอยู่

                    แต่ใครจะไปมีเวลาสนใจได้เล่า ในเมื่อตอนนี้ญาดาแทบจะหน้ามืด จะเป็นลมอยู่แล้ว...ไม่...จะมาตายตรงนี้ที่นี่ไม่ได้ ... ใครก็ได้ช่วยที...ญาดาภาวนาในใจ

                    ขณะนั้นเอง...นิราลัย เห็นท่าไม่ดี ...เขาจึงเร่งฝีเท้าวิ่งสุดชีวิตอีกครั้ง เพื่อไปช่วยญาดาโดยเร็วที่สุด เพราะสิ่งที่เขานึกออกและทำได้ก็คือการวิ่ง ...วิ่ง วิ่ง วิ่งเข้าไป...

                    กระทั้งในที่สุดญาดาที่ตัวเริ่มจะถึงพื้นถูกคว้าหมับโดยปลอดภัย ภายใต้อ้อมแขนทั้งสองข้างของนิราลัย ซึ่งวิ่งเข้ามารับตัวหล่อนไว้ทันเวลา พอดิบพอดี อย่างไม่น่าเชื่อ

                    “Thank you!!!” หล่อนกล่าวอย่างลืมตัว

                    .......!!?.....^o^”

                    นิราลัยมองญาดาแล้วยิ้ม ก่อนทิ้งตัวทรุดลงกับพื้น พร้อมกับหายใจหอบ แฮกๆ ด้วยอาการเหนื่อยอ่อน ...วันนี้ทั้งวันเขาได้แต่วิ่ง วิ่ง และก็วิ่ง ไม่หยุดไม่หย่อน

                    ญาดาเองเมื่อได้สติกลับมาอีกครั้ง หล่อนสอดส่ายสายตามองซ้ายมองขวา รอบทิศ เพื่อดูว่าเจ้านกยักษ์ที่เกือบจะเอาหล่อนไปเป็นอาหารนั้น อยู่ที่ใด...คิดว่าคงตกอยู่ใกล้นี้ เพราะก่อนที่หล่อนจะถูกปล่อยลงมา เห็นชัดเลยว่าไม้ปลายแหลมที่พุ่งเข้าใส่ตัวมัน เสียบเข้าโคนปีกใกล้ลำตัวมันพอดี

                    มันอยู่ตรงไหนนะ หล่อนพึมพำคนเดียว

                    จังหวะเดียวกับที่เจ้านกยักษ์ส่งเสียงร้องเจ็บปวด

                    นั่นไง ญาดาพูด แล้วรีบเข้าไปหามันทันที

                    แผลของเจ้านกยักษ์ ถึงจะเล็กแต่ก็ลึก ลึกพอที่จะสามารถให้มันกลายเป็นนกปีกหักธรรมดาๆ...เจ้านกยักษ์ค่อยๆส่งเสียงเบาลง เบาลง เบาลงทุกที

                    เจ็บมากเลยใช่ไหมล่ะ เจ้านกยักษ์...หนอยคิดจะโซ้ยฉันหรอ ไม่มีทางหรอก คนดีผีคุ้มน่ะเข้าใจรึป่าว

                    มันไม่เข้าใจสักนิด หรือไม่มีแรงที่จะมาเข้าใจในคำพูดแหนบแนมของญาดาก็ไม่รู้ แต่สายตาของมันที่มองเจ้าหล่อน ราวกับจะบอกว่าให้ญาดารู้ว่า อย่าทำร้ายให้มากไปกว่านี้อีกเลย

                    ญาดารีบดึงไม้ที่ปักคาปีกมันออก เจ้านกยักษ์ร้องลั่นอีกครั้ง...มันพยายามกระพือปีกบินทั้งที่ยังเจ็บหนักอยู่ ร้องครางเจ็บปวดในขณะตัวมันเองพยายามดิ้นรนสุดแรงเกิด แต่ก็ยังไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ไกล เลือดตรงบาดแผลยังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย

                    เลิกเถอะน่า เจ้านกยักษ์เอ๋ย ดิ้นรนไปก็เจ็บตัวเปล่าๆ อยู่เฉยๆดีกว่าน่า

                    ญาดาพูดพลางก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้มัน จะด้วยความสงสารหรือสมเพช หล่อนเอื้อมมือเข้าไปใกล้เพื่อจะได้ดูบาดแผลที่ปีกของมัน ดูสิว่าจะสามารถปฐมพยาบาลให้อาการมันทุเลาได้เพียงไหน ทว่าแทนที่มันจะยอมเสียดีๆ เจ้านกยักษ์มันกลับจะใช้จะงอยปากของมันแว้งจิก...โชคยังดีที่ตอนนี้พลังกายมันนั้นอ่อนแรงเต็มที ญาดาจึงสามารถหลบหลีบได้ทัน

                    ไอ้เจ้านกบ้า...แก...

                    ญาดายังคงอยากช่วยมันให้บรรเทา จึงลองเข้าไปใกล้มันอีกครั้ง...จะด้วยเพราะมันยังเห็นหล่อนเป็นแค่อาหาร เป็นมนุษย์ชั้นต่ำสำหรับมันอยู่ หรือเพราะมันไม่อาจไว้ใจหล่อนได้ อีกครั้งเช่นกันที่มันใช้จะงอยปากอันใหญ่จะจิกญาดา

                    ตอนนี้ญาดาเองก็แทบอดทนไม่อยู่แล้วเหมือนกัน

                    ฉันจะช่วยแก แกก็ทำเป็นหยิ่ง งั้นแกก็นอนรอความตายอยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน...หรือไม่ฉันจะช่วยให้แกสบายขึ้นกว่านี้ดีไหม เจ้านกบ้า

                    ญาดาคว้าไม้ปลายแหลมที่หล่นขึ้นมา สองมือจับปลายแหลมของไม้ตั้งท่าพื้นฐานของวิชาเคนโดที่หล่อนได้เคยร่ำเรียนมากจากโลกที่หล่อนเพิ่งจากมา หมายจะตีลงบนหัวของเจ้านกยักษ์ซึ่งนอนเจ็บอยู่ตรงหน้า ในจังหวะที่หล่อนจะฟาดมัน...นิราลัยที่หล่อนแทบจะลืมไปแล้วว่านั่งอยู่ข้างๆด้วยกัน ใช้แขนมารับน้ำหนักจากแรงฟาดจากไม้แทนเจ้านกยักษ์

                    ทำไมเล่า ทำไม นิราลัย ทำไมนายถึงได้รับไม้แทนมัน

                    ข้าสงสารมันนี่ ชายหนุ่มกล่าวซื่อๆ

                    ยังดีที่หล่อนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายนกยักษ์นั้นจริงๆ นิราลัยจึงได้แค่เป็นรอยฟกช้ำตรงแขนเท่านั้น

                    รู้รึเปล่าหากฉันเอาจริงขึ้นมา นายที่ไม่มีแม้แต่เครื่องป้องกัน ฉันรับรองได้เลยว่ากระดูกแขนนายต้องหักเป็นสองท่อนแน่ๆ

                    นิราลัยหัวเราะ แฮะๆ

                    แล้วเดินเข้าไปใกล้เจ้านกยักษ์...เขามองตามัน สายตาของเขาช่างอ่อนโยนนัก อ่อนโยนและอบอุ่น...สำหรับญาดาเอง หล่อนก็เพิ่งจะเคยเห็นสายตาแบบนี้จากผู้อื่นเป็นครั้งแรก มันบริสุทธิ์ราวกับเด็กทารกยังไงยังงั้น...และคิดว่าเจ้านกยักษ์คงรู้สึกเช่นเดียวกัน

                    นิราลัยเอื้อมมือเข้าไปใกล้ปีกของมัน

                    ระวังหน่อยนะนิราลัย

                    เขายิ้มส่ง คล้ายกับจะบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ต่อหล่อน

                    เจ้านกยักษ์เอ๋ย เจ้าอย่าขยับตัวไปมากกว่านี้อีกเลยมันจะทำให้เจ้าเจ็บหนักจนอาจถึงแก่ชีวิตก็ได้นะ ข้าขอโทษ ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องบาดเจ็บ แต่ที่ข้าทำร้ายเจ้าใช่เพราะหมายจะเอาชีวิตเจ้า พวกเราเพียงแค่อยากเอาตัวรอดเท่านั้น หากว่าเจ้าไม่ทำร้ายพวกข้า พวกข้าก็ไม่ทำร้ายเจ้าเช่นกัน...มาเถอะ ขอให้เพื่อนของข้าคนนี้ดูบาดแผลเจ้าสักนิด รับรองได้ นางไม่ทำร้ายเจ้าอย่างแน่นอน

                    เจ้านกยักษ์มองหน้านิราลัยหนึ่งครั้ง มันสงบนิ่งดั่งตอบรับคำพูดแสนอ่อนโยนของเขา

                    เอาล่ะ ญาดา เจ้าไปดูอาการนกยักษ์เถอะ มันไม่ทำร้ายเจ้าแล้ว

                    ญาดาพยักหน้ารับ...หล่อนย่างสามขุมไม่มั่นใจ เข้าใกล้นกยักษ์ ยื่นมือไปแตะปีก ตรงแผลนั่นของมัน...พอมองเข้าไปใกล้ๆ มันเป็นแผลที่ลึกและกว้าง ถ้ามันเล็กว่านี้อีกหน่อยหล่อนก็ยังคงพอจะให้แผลสมานกันได้อยู่ แต่นี่ดูแล้วมันเกินเยียวยาจริงๆ หนำซ้ำเลือดยังไหลไม่หยุดอีก ถึงจะพันแผลให้หนาแค่ไหน มันก็ยังคงต้องตายเพราะเสียเลือดมากอยู่ดี

                    ญาดา~” นิราลัยเรียกหล่อน อยากรู้อาการ

                    ญาดาส่ายหน้า...

                    ทำไมล่ะ ทำไม เจ้าเก่งจะตายไป เจ้าต้องรักษามันได้สิ

                    นี่...ฉันไม่ใช่หมอ ไม่ใช่เทวดานะ มันไม่รอดก็คือไม่รอดนั่นล่ะ ทำใจดีๆดีกว่านิราลัย

                    ไม่ ข้าไม่ยอม

                    ถึงไม่ยอมนายก็ต้องยอม

                    นิราลัยปล่อยโฮ ร้องไห้ออกมา ไม่อาย

                    ข้าไม่ยอม ข้าไม่อยากให้มันตาย เพราะข้า ข้าทำร้ายมัน

                    เจ้านกยักษ์มองที่นิราลัย มันคงทำใจไว้แต่ต้นแล้วล่ะว่า ยังไงๆบาดแผลของมันคงจะไม่สามารถรักษาได้ แต่สิ่งที่มันไม่เข้าใจก็คือ ทำไมมนุษย์ผู้ชายคนนี้ ถึงได้ร้องห่มร้องไห้โวยวาย โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ ทั้งๆที่มันตั้งใจจะทำร้าย ตั้งใจจับพวกเขาทั้งสองเป็นอาหารของมัน และที่มันโดนก็เป็นการสมควรอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? ทว่าทำไม...กับแค่สัตว์เดรัจฉานอย่างมัน.....

                    ช่วยไม่ได้จริงๆหรือ ญาดา นิราลัยถามซ้ำอีกครั้ง

                    ญาดาพยักหน้าตอบ

                    ช่วยไม่ได้จริงๆน่ะหรือ เขาถามซ้ำไปซ้ำมาอีกรอบ

                    ที่นี่ไม่มียา ไม่มีหมอที่สามารถช่วยมันได้ ฉันเองอย่างเก่งก็แค่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แผลลึกขนาดนั้น หนำซ้ำไปโดนเข้าเส้นเลือดใหญ่ของมันพอดี มันอยู่ได้ถึงขนาดนี้ก็นับว่ามหัศจรรย์แล้ว

                    ข้าเข้าใจดีถึงสิ่งที่เจ้าพูด ญาดา ข้าเข้าใจ

                    คิดเสียว่ามันก็เป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่ง เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในวัฎจักรสงสาร มีเกิด มีตาย เมื่อมันแข็งแกร่งมันก็กลายเป็นจ้าว แต่เมื่อมันอ่อนแอมันก็...

                    หยุดเถอะ ญาดา เจ้าอย่าพูดในสิ่งที่โหดร้ายได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ ทุกชีวิตต่างรักชีวิตของตัวเองทั้งนั้น จะอ่อนแอหรือว่าแข็งแกร่งมันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย และที่เจ้านกยักษ์มันเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่ามันอ่อนแอแต่เป็นเพราะ....เพราะ... เอาเถอะ จะเป็นเพราะอะไรก็แล้วแต่ยังไงผู้แข็งแกร่งจำเป็นต้องช่วยผู้อ่อนแอไม่ใช่หรือ ญาดา...ณ. เวลานี้ ถ้าผู้แข็งแกร่งที่เจ้าพูดหมายถึงเราทั้งสองคนแล้วล่ะก็ มันจะดีกว่าไหมถ้าเราช่วยยื้อชีวิตมัน แค่น้อยนิดก็ยังดี ช่วยมันเท่าที่ช่วยได้นั่นล่ะ

                    พอญาดาได้ฟังแล้ว ความรู้สึกสงสัยบางอย่างบังเกิดขึ้น ...นิราลัย ชายที่บอกกับหล่อนว่า ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อตัวเอง คนนี้  ทำไมถึงได้เหมือนกับคนที่รู้จักโลกมานานแสนนาน...หรือเขาจะแค่พูดไปตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นเอง แต่มันก็ทำให้ทฤษฎีแข็งแกร่งทำลายอ่อนแอของหล่อนถูกหักล้างจนเกลี้ยง

                    เอาเถอะ ช่วยเท่าที่ช่วยได้ใช่ไหม

                    นิราลัยพยักหน้า เผยร้อยยิ้มบนมุมปาก...ช่างน่ารักเสียจริงๆ~~~ให้ตายเถอะ

                    ญาดาเริ่มหยิบผ้าพันแผลที่หล่อนแอบหยิบติดมือมาด้วยจากกองถ่ายหนังในโลกแห่งความเป็นจริง ออกมาจากช่องลับในเสื้อนอกที่หล่อนสวมใส่ เข้าไปพันรอบบริเวณแผลของเจ้านกยักษ์ พร้อมกับกดตรงปากแผลเพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้ ทว่ายิ่งกดมันก็ยิ่งไหลออกมา

                    สีหน้าของพวกเขาตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

                    ที่ทำได้ก็ทำไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องพึ่งใจของเจ้านกยักษ์ล่ะนะว่ามันจะประคองชีวิตมันเองไปได้แค่ไหน

                    ญาดากล่าว

                    เข้มแข็งเข้าไว้นะ เจ้านกยักษ์ นิราลัยยิ้มเป็นกำลังใจให้

                   

                    แปะ แปะ แปะ

                    เสียงปรบมือปริศนา ดังมาจากบริเวณใกล้ๆ กับที่ญาดาและนิราลัยอยู่  ...พวกเขาทั้งสองต่างมองซ้าย มองขวา มองบน มองล่าง แต่บริเวณนั้นกลับมีแค่ความว่างเปล่า

                    พอรู้ตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มปริศนาได้เข้ามาอยู่ใกล้ๆเจ้านกยักษ์ที่บาดเจ็บตัวนั้น ไปเสียแล้ว

     

    ·۰•● ❤░░❤ ●•۰·

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×