ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประตูสวรรค์ต่างมิติ (Gate of time)

    ลำดับตอนที่ #3 : Wings

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 49


    กระพือปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ให้สูงขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้น......

     

                    เจ้าจะเอาไม้พวกนี้ไปทำอะไร ญาดา นิราลัย ถามขึ้นในขณะที่ค่อยๆวางไม้จำนวนหนึ่งลงพื้น

                    ญาดาไม่ตอบใดๆ นิ่งเงียบ หยิบไม้ที่นิราลัยเอามา กวัดแกว่งไปมาตรวจสอบดู ทีละอันทีละอัน อันที่ใช้ได้หล่อนก็วางมันไว้ใกล้ๆตัว ส่วนที่ใช้ไม่ได้หล่อนก็หักกองไว้เพื่อใช้เอาไปทำฟืน ... นิราลัยเอง เป็นฝ่ายเหลาปลายไม้ให้แหลม ตามคำสั่ง ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่า หญิงสาวจะเอาไปทำอะไรกับมันตั้งเยอะแยะ

                    นายมีเชือกบ้างไหม? ญาดาถาม

                    ชายหนุ่มส่ายหน้า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเชือกเป็นอย่างไร

                    ยังดีนะที่นายมีมีด ญาดากล่าวประชด

                    นิราลัยยิ้ม จนป่านนี้เขาก็เพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่เขาใช้เหลาไม้อยู่นี้มันเรียกว่ามีด ... ตอนตื่นขึ้นมาครั้งแรก ขณะที่เขามะงุมมะงาหราดูสถานที่ซึ่งรกร้างแห่งนี้ บังเอิญที่สุดสิ่งแรกที่เขาหยิบขึ้นมาได้ข้างๆกองกระดูกผุๆของใครสักคนก็คือมีดสั้นเล่มนี้ เพราะมีดเล่มนี้ล่ะทำให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้

                    แล้วตกลงเจ้าให้ข้าเหลาไม้เหล่านี้เพื่ออะไร...อ๋อ...เจ้าจะกระโดดขึ้นไปแทงไอ้นกยักษ์นั่นใช่ไหม

                    บ้ารึเปล่า ใครจะไปทำอย่างนี้ได้เล่า ไอ้บื้อ

                    หรือว่าเจ้าจะโยนมันขึ้นไป ไปปักเจ้านกยักษ์ ให้ร่วงหล่นลงมาล่ะ

                    ฉันไม่เก่งเรื่องพุ่งแหลม แต่วิธีที่ฉันจะทำมันดีกว่าเยอะ...ว่าแต่นายช่วยไปหาเชือกมาให้ทีสิ

                    เชือกมันเป็นยังไงล่ะ

                    ญาดาถึงกับกุมขมับ...ไอ้หมอนี่มันซื่อหรือว่าโง่เง่ากันแน่ จะบอกกับเขาว่าเชือกมันมีลักษณะอย่างไรให้ ก็บอกไม่ถูกเสียด้วย แต่ไหนแต่ไรหล่อนไม่ถนัดอยู่แล้วเรื่องอธิบาย...

                    เอาเป็นว่านายไปตัดต้นกล้วยมามากๆก็แล้วกัน...อ้อ...อย่าบอกอีกนะว่าไม่รู้จักต้นกล้วย

                    รู้สิ ข้ารู้จัก ต้นกล้วยข้ารู้จัก ว่าแล้วไม่รอช้า นิราลัยรีบวิ่งออกไปเพื่อตัดต้นกล้วยข้างนอกทันที สายตาพลางมองซ้ายแลขวา มองบนมองล่าง สอดส่องให้แน่ใจว่าเจ้านกยักษ์ไม่มาทางนี่ พยายามตัดต้นกล้วยตามคำสั่งอย่างระแวดระวังที่สุด

                    พอได้ต้นกล้วยมาแล้ว ญาดาจึงรีบจัดการลอกผิวต้นกล้วยออกทีละชั้นทีละชั้น แล้วนำไปตากแดดข้างนอก ในที่ที่ปลอดภัยจากอันตรายจากเจ้านกยักษ์ที่สุด

                    ขบวนการนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ จวบจนรุ่งขึ้นของอีกวันมาถึง หล่อนจัดการฉีกเปลือกต้นกล้วยที่ตากจนแห้งได้ที่ให้กลายเป็นริ้วๆเส้นเล็กๆ จนหมดเป็นกระบุงใหญ่ แล้วค่อยถักเป็นเส้นเล็กก่อนจะสอดประสานรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเชือกกล้วยเส้นขนาดใหญ่ ที่ทั้งหนาและแข็งแรง

                    ทีนี้เข้าใจรึยังล่ะว่าเชือกเป็นยังไง ญาดากล่าวเชิงต่อว่าแก่นิราลัย ซึ่งได้แต่พยักหน้างึกๆ

                    แล้วเจ้าจะจัดการยังไรกับเชือกนี้ล่ะ

                    ฉันก็จะเอามันมาผูกติดกับไม้ที่เหลาเมื่อวานนี้ จากนั้นก็วางเป็นกับดักล่อเจ้านกยักษ์

                    ข้ายังนึกภาพไม่ออกอยู่ดี นิราลัยกล่าว

                    งั้นฉันจะอธิบายให้ฟังทีละขั้นนะ...พวกเราจะวางกับดักนี้โดยจะนำไม้ปลายแหลมที่ผูกติดไว้กับเชือกนี่ พันไว้กับต้นไม้ใหญ่สักต้น จากนั้นเราก็จะนำเหยื่อมาล่อเจ้านกยักษ์ พอมันบินลงต่ำประมาณหนึ่ง ฉันก็จะกระตุกเชือกเพื่อที่จะให้ไม้ปลายแหลมนี้พุ่งเข้าใส่เจ้านกยักษ์

                    โฮ เก่งจังเลย...ว่าแต่แล้วเราจะเอาอะไรเป็นเหยื่อล่อล่ะ ผลไม้หรือว่าปลาดีล่ะ

                    สิ่งที่จะมาเป็นเหยื่อล่อนกยักษ์ไม่ใช่ทั้งผลไม้และก็ปลา

                    ถ้าไม่ใช่แล้วมันจะเป็นอะไร

                    นิราลัย นายบอกว่านายวิ่งเร็วใช่ไหม

                    ใช่

                    เพราะฉะนั้นเหยื่อล่อเจ้านกยักษ์นั่นก็คือ...นายไงล่ะ นิราลัย

                    ชายหนุ่มถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาเป็นเหยื่อล่อนกยักษ์ ทั้งที่ตลอดมานี้ตัวเองก็ระวังตัวเต็มพิกัด พยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงนกยักษ์

                    นายกลัวงั้นหรอ

                    ก็ใช่น่ะสิ

                    ก็สมควรอยู่น่ะนะ ฉันที่คิดแผนนี้มาเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะสำเร็จเต็มร้อย...ถึงรู้ว่ามันเสี่ยงแต่ว่าถ้าไม่ลองดูก็จะไม่รู้ว่ามันใช่ได้ผลหรือเปล่า ความจริงเราก็อันตรายกันทั้งคู่...ถ้านายวิ่งช้าก็จะเป็นอาหารของนกยักษ์ได้ง่ายๆ แต่ถ้าฉันเป็นฝ่ายพลาดพลั้งเสียเอง ฉันก็คงเป็นอาหารมื้อหนึ่งของมันไปเช่นกัน หรือไม่แน่เราสองคนอาจไม่รอด แต่ว่าถึงมีเปอร์เซ็นต์อยู่น้อยนิด ทำไมเราจะไม่ลองดูล่ะ ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว จริงไหม

                    นิราลัยครุ่นคิดสักครู่ ถึงสิ่งที่ญาดาพูด ... มันก็จริง ยังไงๆก็อยู่ด้วยความหวาดผวากันอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลายเป็นอาหารของเจ้านกยักษ์อยู่แล้วในสักวันหนึ่ง เอาล่ะ...ลองเสี่ยงทำตามแผนญาดาสักครั้งมันก็คงไม่ต่างกันเท่าไรนักหรอก

                    ก็ได้ ข้าจะทำ นิราลัยตอบรับเสียงเข้ม แต่หัวใจกับเต้นตึกตักๆไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้เพราะรอยยิ้มของญาดาหรือว่าเพราะกลัวกับสิ่งที่ตนต้องทำในวันพรุ่งนี้กันแน่...

     

                    ญาดาเธอต้องรอดกลับมาให้ได้นะ ฉันรู้เธอทั้งเก่งทั้งเข้มแข็ง คริสเอาใจช่วย จากโลกแห่งความจริง ยังคงไม่ค่อยมั่นใจนักถึงสิ่งที่ญาติร่วมรุ่นอย่างญาดาคิดจะทำในโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเขาเอื้อมไปไม่ถึง

     

                    แสงอาทิตย์พ้นขอบมามาอีกครั้ง...

                    ทั้งญาดาและนิราลัยต่างเหนื่อยล้ามาทั้งคืน ถึงกระนั้นจะมามันโยกโย้โอ้เอ้อยู่ไม่ได้ ...ญาดารีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้แล้วหลบพลางตัวทันที ส่วนนิราลัยก็รีบเดินไปในที่โล่งแจ้งซึ่งพอให้นกยักษ์มองเห็นในจุดที่ได้กำหนดไว้แล้ว เช่นกัน...

                    ไม่นานนักเจ้านกยักษ์ที่เห็นนิราลัย รีบกระพือปีก โผล่บินเข้าใกล้เหยื่อของมันอย่างนิราลัย ในความเร็วสูง ผงฝุ่นถูกแรงกระพือปลิวกระจัดกระจาย กระทั้งไปโดยเข้าตานิราลัย ... เขาเองพอกะระยะได้ ถึงจะแสบตาเพียงใด สองเท้าก็ยังสามารถวิ่ง วิ่งจนสุดชีวิต วิ่งไป วิ่งไป...วิ่งไปด้วยสัญชาติญาณอยากเอาตัวรอด ในขณะที่เจ้านกยักษ์ไล่ตามติดเขาไม่ลดละ ยิ่งใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา เขาก็ต้องพยายามเร่งฝีเท้าให้แรงกว่า ...

                    นี่ข้าจะรอดก่อนไปถึงกับดักไหมนะ? เขาคิดในใจ ขณะที่ยังคงวิ่งให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ ถึงหนทางจะอยู่อีกใกล้ก็เถอะ แต่สำหรับเขามันช่างไกลแสนไกลเหลือเกินจริงๆ...ทั้งเหนื่อย ทั้งกลัว แต่ก็ต้องวิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่าหยุดเป็นพอ มิฉะนั้นก่อนที่แผนการจะสำเร็จเขาคงกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของเจ้านกยักษ์อย่างแน่นอน

                    นิราลัยวิ่งกระทั่งถึงจุดที่วางกับดับเอาไว้...เขาย่อขาโดยไว หลบการโฉบของนกยักษ์ จังหวะเดียวกันกับที่ญาดากระตุกเชือก ปล่อยให้แพไม้ปลายแหลมพุ่งไปหานกยักษ์ ... ชั้นหนึ่ง ชั้นสอง และชั้นสาม ตามลำดับ

                    แต่เจ้านกยักษ์บินหลบพ้นไปได้ทุกอัน...สายตามมันเล็งจ้องมาทางญาดา โฉบเฉียดจนญาดาตกลงมาจากต้นไม้

                    หล่อนพยายามรีบลุกขึ้นให้เร็วที่สุด...แล้ววิ่งสุดชีวิต ตั้งใจจะไปหยิบไม้ปลายแหลมถึงในที่ซ่อนตัว ทุลักทุเล เพราะเจ้านกยักษ์คอยแต่จะโฉบเข้าหาอยู่เรื่อย หล่อนเป็นอันต้องย่อตัวหลบมันอยู่เสมอๆ

                    นั่นไง ญาดาพูดกับตัวเอง หล่อนเห็นแล้วไม้ปลายแหลมอยู่ตรงนั้น

                    แต่เจ้านกยักษ์เองก็ดูเหมือนจะรู้ความคิดญาดาเช่นกัน มันบินเข้าใกล้ด้วยความเร็วสูงสุด ญาดาย่อตัวเหมือนเคย ทว่าคราวนี้ เจ้านกยักษ์มันฉลาดพอที่จะบินลงต่ำ มันใช้กงเล็บอันใหญ่ คว้าหมับเข้าที่กลางหลังญาดา ...ครั้นหล่อนจะร้อง ก็ร้องไม่ออก

                    ตายแน่...คราวนี้ฉันต้องตายแน่...หล่อนได้แต่พึมพำคนเดียว ขณะที่ตัวหล่อนลอยสูงขึ้น สูงขึ้น...

                    นิราลัย ที่ยังตะลึงตกใจกับภาพที่เห็น...

                    ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรดี...

                    นิราลัย นายบอกว่านายวิ่งเร็วใช่ไหม...จู่ๆคำพูดของหล่อนก้องดังในหูเขา...ใช่ สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็คือวิ่ง...ใช่ วิ่งไปก่อนก็แล้วกัน เขาเร่งฝีเท้าตัวเองสุดกำลังที่มี ญาดาที่ถูกนกยักษ์โฉบเอาไปก็ยิ่งลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

                    นิราลัยเหลือบไปเห็นไม้ปลายแหลมที่ค่อยๆร่วงหลนลงมาจากพื้น...มั่นใจว่าคงจะหลุดมือมาโดยตั้งใจจากญาดาแน่นอน...เขารีบหยิบไม้ปลายแหลมขึ้น แล้วตัดสินใจใช้กำลังที่มีอยู่ทั้งหมดถ่ายทอดไปที่แขนตัวเอง พุ่งไม้ปลายแหลมให้สูงที่สุด...ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่ามันจะไปถึงตัวนกยักษ์ได้หรือเปล่า เขาได้แต่ลุ้นสุดใจ...ถ้าพลาดนั่นก็หมายถึง เขาจะต้องเสียเพื่อนสาวคนนี้ไปอย่างแน่นอน...

     

                    ซึ่งความรู้สึกนี้มันได้ส่งผ่านมายังคริสด้วยเช่นกัน...

                    ญาดา เธออย่าเป็นอะไรไปนะ... คริสภาวนา

                    ...พระผู้เป็นเจ้า สวรรค์เบื้องบน สิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ช่วยคุ้มครองพวกเขาทั้งสองให้ปลอดภัยด้วยเถิด

                    คริสอธิษฐาน...ใจจริงอยากจะเข้าไปช่วยเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้ ลำแสงประหลาดมันไม่มีวี่แววจะปรากฏขึ้นอีกแม้นสักครั้ง ในทางตรงกันข้าม หากจะให้คิดอีกทีหนึ่ง บางทีถ้าเขาได้ไปจริงๆ เขาเองก็อาจกลายเป็นตัวถ่วงของญาดาอีกคนมากกว่าผู้ช่วยที่ดี ก็เป็นได้

                    ญาดา...ญาดา...!!!~~~” คริสได้แต่เอ่ยเรียกชื่อญาติร่วมรุ่นสาวคนนี้ด้วยใจหวั่นหวั่นใจ หลายครั้งต่อหลายครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดั่งแผ่นCDตกร่องเสียง

                    ก่อนจะตัดสินใจอ่านตัวอักษรที่ค่อยๆปรากฏของเรื่องราวในสมุดประหลาดเล่มนี้อีกครั้ง...

     

    ·۰•● ❤░░❤ ●•۰·

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×