คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Wings
「กระพือปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ให้สูงขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้น......」
“เจ้าจะเอาไม้พวกนี้ไปทำอะไร ญาดา” นิราลัย ถามขึ้นในขณะที่ค่อยๆวางไม้จำนวนหนึ่งลงพื้น
ญาดาไม่ตอบใดๆ นิ่งเงียบ หยิบไม้ที่นิราลัยเอามา กวัดแกว่งไปมาตรวจสอบดู ทีละอันทีละอัน อันที่ใช้ได้หล่อนก็วางมันไว้ใกล้ๆตัว ส่วนที่ใช้ไม่ได้หล่อนก็หักกองไว้เพื่อใช้เอาไปทำฟืน ... นิราลัยเอง เป็นฝ่ายเหลาปลายไม้ให้แหลม ตามคำสั่ง ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่า หญิงสาวจะเอาไปทำอะไรกับมันตั้งเยอะแยะ
“นายมีเชือกบ้างไหม?” ญาดาถาม
ชายหนุ่มส่ายหน้า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเชือกเป็นอย่างไร
“ยังดีนะที่นายมีมีด” ญาดากล่าวประชด
นิราลัยยิ้ม จนป่านนี้เขาก็เพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่เขาใช้เหลาไม้อยู่นี้มันเรียกว่ามีด ... ตอนตื่นขึ้นมาครั้งแรก ขณะที่เขามะงุมมะงาหราดูสถานที่ซึ่งรกร้างแห่งนี้ บังเอิญที่สุดสิ่งแรกที่เขาหยิบขึ้นมาได้ข้างๆกองกระดูกผุๆของใครสักคนก็คือมีดสั้นเล่มนี้ เพราะมีดเล่มนี้ล่ะทำให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
“แล้วตกลงเจ้าให้ข้าเหลาไม้เหล่านี้เพื่ออะไร...อ๋อ...เจ้าจะกระโดดขึ้นไปแทงไอ้นกยักษ์นั่นใช่ไหม”
“บ้ารึเปล่า ใครจะไปทำอย่างนี้ได้เล่า ไอ้บื้อ”
“หรือว่าเจ้าจะโยนมันขึ้นไป ไปปักเจ้านกยักษ์ ให้ร่วงหล่นลงมาล่ะ”
“ฉันไม่เก่งเรื่องพุ่งแหลม แต่วิธีที่ฉันจะทำมันดีกว่าเยอะ...ว่าแต่นายช่วยไปหาเชือกมาให้ทีสิ”
“เชือกมันเป็นยังไงล่ะ”
ญาดาถึงกับกุมขมับ...ไอ้หมอนี่มันซื่อหรือว่าโง่เง่ากันแน่ จะบอกกับเขาว่าเชือกมันมีลักษณะอย่างไรให้ ก็บอกไม่ถูกเสียด้วย แต่ไหนแต่ไรหล่อนไม่ถนัดอยู่แล้วเรื่องอธิบาย...
“เอาเป็นว่านายไปตัดต้นกล้วยมามากๆก็แล้วกัน...อ้อ...อย่าบอกอีกนะว่าไม่รู้จักต้นกล้วย”
“รู้สิ ข้ารู้จัก ต้นกล้วยข้ารู้จัก” ว่าแล้วไม่รอช้า นิราลัยรีบวิ่งออกไปเพื่อตัดต้นกล้วยข้างนอกทันที สายตาพลางมองซ้ายแลขวา มองบนมองล่าง สอดส่องให้แน่ใจว่าเจ้านกยักษ์ไม่มาทางนี่ พยายามตัดต้นกล้วยตามคำสั่งอย่างระแวดระวังที่สุด
พอได้ต้นกล้วยมาแล้ว ญาดาจึงรีบจัดการลอกผิวต้นกล้วยออกทีละชั้นทีละชั้น แล้วนำไปตากแดดข้างนอก ในที่ที่ปลอดภัยจากอันตรายจากเจ้านกยักษ์ที่สุด
ขบวนการนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ จวบจนรุ่งขึ้นของอีกวันมาถึง หล่อนจัดการฉีกเปลือกต้นกล้วยที่ตากจนแห้งได้ที่ให้กลายเป็นริ้วๆเส้นเล็กๆ จนหมดเป็นกระบุงใหญ่ แล้วค่อยถักเป็นเส้นเล็กก่อนจะสอดประสานรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเชือกกล้วยเส้นขนาดใหญ่ ที่ทั้งหนาและแข็งแรง
“ทีนี้เข้าใจรึยังล่ะว่าเชือกเป็นยังไง” ญาดากล่าวเชิงต่อว่าแก่นิราลัย ซึ่งได้แต่พยักหน้างึกๆ
“แล้วเจ้าจะจัดการยังไรกับเชือกนี้ล่ะ”
“ฉันก็จะเอามันมาผูกติดกับไม้ที่เหลาเมื่อวานนี้ จากนั้นก็วางเป็นกับดักล่อเจ้านกยักษ์”
“ข้ายังนึกภาพไม่ออกอยู่ดี” นิราลัยกล่าว
“งั้นฉันจะอธิบายให้ฟังทีละขั้นนะ...พวกเราจะวางกับดักนี้โดยจะนำไม้ปลายแหลมที่ผูกติดไว้กับเชือกนี่ พันไว้กับต้นไม้ใหญ่สักต้น จากนั้นเราก็จะนำเหยื่อมาล่อเจ้านกยักษ์ พอมันบินลงต่ำประมาณหนึ่ง ฉันก็จะกระตุกเชือกเพื่อที่จะให้ไม้ปลายแหลมนี้พุ่งเข้าใส่เจ้านกยักษ์”
“โฮ เก่งจังเลย...ว่าแต่แล้วเราจะเอาอะไรเป็นเหยื่อล่อล่ะ ผลไม้หรือว่าปลาดีล่ะ”
“สิ่งที่จะมาเป็นเหยื่อล่อนกยักษ์ไม่ใช่ทั้งผลไม้และก็ปลา”
“ถ้าไม่ใช่แล้วมันจะเป็นอะไร”
“นิราลัย นายบอกว่านายวิ่งเร็วใช่ไหม”
“ใช่”
“เพราะฉะนั้นเหยื่อล่อเจ้านกยักษ์นั่นก็คือ...นายไงล่ะ นิราลัย”
ชายหนุ่มถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาเป็นเหยื่อล่อนกยักษ์ ทั้งที่ตลอดมานี้ตัวเองก็ระวังตัวเต็มพิกัด พยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงนกยักษ์
“นายกลัวงั้นหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ก็สมควรอยู่น่ะนะ ฉันที่คิดแผนนี้มาเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะสำเร็จเต็มร้อย...ถึงรู้ว่ามันเสี่ยงแต่ว่าถ้าไม่ลองดูก็จะไม่รู้ว่ามันใช่ได้ผลหรือเปล่า ความจริงเราก็อันตรายกันทั้งคู่...ถ้านายวิ่งช้าก็จะเป็นอาหารของนกยักษ์ได้ง่ายๆ แต่ถ้าฉันเป็นฝ่ายพลาดพลั้งเสียเอง ฉันก็คงเป็นอาหารมื้อหนึ่งของมันไปเช่นกัน หรือไม่แน่เราสองคนอาจไม่รอด แต่ว่าถึงมีเปอร์เซ็นต์อยู่น้อยนิด ทำไมเราจะไม่ลองดูล่ะ ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว จริงไหม”
นิราลัยครุ่นคิดสักครู่ ถึงสิ่งที่ญาดาพูด ... มันก็จริง ยังไงๆก็อยู่ด้วยความหวาดผวากันอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลายเป็นอาหารของเจ้านกยักษ์อยู่แล้วในสักวันหนึ่ง เอาล่ะ...ลองเสี่ยงทำตามแผนญาดาสักครั้งมันก็คงไม่ต่างกันเท่าไรนักหรอก
“ก็ได้ ข้าจะทำ” นิราลัยตอบรับเสียงเข้ม แต่หัวใจกับเต้นตึกตักๆไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้เพราะรอยยิ้มของญาดาหรือว่าเพราะกลัวกับสิ่งที่ตนต้องทำในวันพรุ่งนี้กันแน่...
“ญาดาเธอต้องรอดกลับมาให้ได้นะ ฉันรู้เธอทั้งเก่งทั้งเข้มแข็ง” คริสเอาใจช่วย จากโลกแห่งความจริง ยังคงไม่ค่อยมั่นใจนักถึงสิ่งที่ญาติร่วมรุ่นอย่างญาดาคิดจะทำในโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเขาเอื้อมไปไม่ถึง
แสงอาทิตย์พ้นขอบมามาอีกครั้ง...
ทั้งญาดาและนิราลัยต่างเหนื่อยล้ามาทั้งคืน ถึงกระนั้นจะมามันโยกโย้โอ้เอ้อยู่ไม่ได้ ...ญาดารีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้แล้วหลบพลางตัวทันที ส่วนนิราลัยก็รีบเดินไปในที่โล่งแจ้งซึ่งพอให้นกยักษ์มองเห็นในจุดที่ได้กำหนดไว้แล้ว เช่นกัน...
ไม่นานนักเจ้านกยักษ์ที่เห็นนิราลัย รีบกระพือปีก โผล่บินเข้าใกล้เหยื่อของมันอย่างนิราลัย ในความเร็วสูง ผงฝุ่นถูกแรงกระพือปลิวกระจัดกระจาย กระทั้งไปโดยเข้าตานิราลัย ... เขาเองพอกะระยะได้ ถึงจะแสบตาเพียงใด สองเท้าก็ยังสามารถวิ่ง วิ่งจนสุดชีวิต วิ่งไป วิ่งไป...วิ่งไปด้วยสัญชาติญาณอยากเอาตัวรอด ในขณะที่เจ้านกยักษ์ไล่ตามติดเขาไม่ลดละ ยิ่งใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา เขาก็ต้องพยายามเร่งฝีเท้าให้แรงกว่า ...
‘นี่ข้าจะรอดก่อนไปถึงกับดักไหมนะ?’ เขาคิดในใจ ขณะที่ยังคงวิ่งให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ ถึงหนทางจะอยู่อีกใกล้ก็เถอะ แต่สำหรับเขามันช่างไกลแสนไกลเหลือเกินจริงๆ...ทั้งเหนื่อย ทั้งกลัว แต่ก็ต้องวิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่าหยุดเป็นพอ มิฉะนั้นก่อนที่แผนการจะสำเร็จเขาคงกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของเจ้านกยักษ์อย่างแน่นอน
นิราลัยวิ่งกระทั่งถึงจุดที่วางกับดับเอาไว้...เขาย่อขาโดยไว หลบการโฉบของนกยักษ์ จังหวะเดียวกันกับที่ญาดากระตุกเชือก ปล่อยให้แพไม้ปลายแหลมพุ่งไปหานกยักษ์ ... ชั้นหนึ่ง ชั้นสอง และชั้นสาม ตามลำดับ
แต่เจ้านกยักษ์บินหลบพ้นไปได้ทุกอัน...สายตามมันเล็งจ้องมาทางญาดา โฉบเฉียดจนญาดาตกลงมาจากต้นไม้
หล่อนพยายามรีบลุกขึ้นให้เร็วที่สุด...แล้ววิ่งสุดชีวิต ตั้งใจจะไปหยิบไม้ปลายแหลมถึงในที่ซ่อนตัว ทุลักทุเล เพราะเจ้านกยักษ์คอยแต่จะโฉบเข้าหาอยู่เรื่อย หล่อนเป็นอันต้องย่อตัวหลบมันอยู่เสมอๆ
“นั่นไง” ญาดาพูดกับตัวเอง หล่อนเห็นแล้วไม้ปลายแหลมอยู่ตรงนั้น
แต่เจ้านกยักษ์เองก็ดูเหมือนจะรู้ความคิดญาดาเช่นกัน มันบินเข้าใกล้ด้วยความเร็วสูงสุด ญาดาย่อตัวเหมือนเคย ทว่าคราวนี้ เจ้านกยักษ์มันฉลาดพอที่จะบินลงต่ำ มันใช้กงเล็บอันใหญ่ คว้าหมับเข้าที่กลางหลังญาดา ...ครั้นหล่อนจะร้อง ก็ร้องไม่ออก
ตายแน่...คราวนี้ฉันต้องตายแน่...หล่อนได้แต่พึมพำคนเดียว ขณะที่ตัวหล่อนลอยสูงขึ้น สูงขึ้น...
นิราลัย ที่ยังตะลึงตกใจกับภาพที่เห็น...
ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรดี...
‘นิราลัย นายบอกว่านายวิ่งเร็วใช่ไหม’...จู่ๆคำพูดของหล่อนก้องดังในหูเขา...ใช่ สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็คือวิ่ง...ใช่ วิ่งไปก่อนก็แล้วกัน เขาเร่งฝีเท้าตัวเองสุดกำลังที่มี ญาดาที่ถูกนกยักษ์โฉบเอาไปก็ยิ่งลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
นิราลัยเหลือบไปเห็นไม้ปลายแหลมที่ค่อยๆร่วงหลนลงมาจากพื้น...มั่นใจว่าคงจะหลุดมือมาโดยตั้งใจจากญาดาแน่นอน...เขารีบหยิบไม้ปลายแหลมขึ้น แล้วตัดสินใจใช้กำลังที่มีอยู่ทั้งหมดถ่ายทอดไปที่แขนตัวเอง พุ่งไม้ปลายแหลมให้สูงที่สุด...ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่ามันจะไปถึงตัวนกยักษ์ได้หรือเปล่า เขาได้แต่ลุ้นสุดใจ...ถ้าพลาดนั่นก็หมายถึง เขาจะต้องเสียเพื่อนสาวคนนี้ไปอย่างแน่นอน...
ซึ่งความรู้สึกนี้มันได้ส่งผ่านมายังคริสด้วยเช่นกัน...
“ญาดา เธออย่าเป็นอะไรไปนะ...” คริสภาวนา
“...พระผู้เป็นเจ้า สวรรค์เบื้องบน สิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ช่วยคุ้มครองพวกเขาทั้งสองให้ปลอดภัยด้วยเถิด”
คริสอธิษฐาน...ใจจริงอยากจะเข้าไปช่วยเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้ ลำแสงประหลาดมันไม่มีวี่แววจะปรากฏขึ้นอีกแม้นสักครั้ง ในทางตรงกันข้าม หากจะให้คิดอีกทีหนึ่ง บางทีถ้าเขาได้ไปจริงๆ เขาเองก็อาจกลายเป็นตัวถ่วงของญาดาอีกคนมากกว่าผู้ช่วยที่ดี ก็เป็นได้
“ญาดา...ญาดา...!!!~~~” คริสได้แต่เอ่ยเรียกชื่อญาติร่วมรุ่นสาวคนนี้ด้วยใจหวั่นหวั่นใจ หลายครั้งต่อหลายครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดั่งแผ่นCDตกร่องเสียง
ก่อนจะตัดสินใจอ่านตัวอักษรที่ค่อยๆปรากฏของเรื่องราวในสมุดประหลาดเล่มนี้อีกครั้ง...
·۰•● ❤░※░❤ ●•۰·
ความคิดเห็น