ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fiction]Bleach VS D.Gray-Man

    ลำดับตอนที่ #3 : Battle 2 : เพื่อนใหม่?[85%]

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 53


    ที่ด้านหน้าของศาสนจักร ด้วยความมืดจึงมองเห็นเป็นเพียงร่างเงาสองร่างกำลังยืนคุยกัน อย่างไม่สนใจใคร ท่ามกลางวงล้อมของเหล่าเอ็กโซซิสต์และเหล่ายมทูตที่ไม่กล้าพลีพลามเข้าไป เพื่อความไม่ประมาท

     

    เจ้าแน่ใจนะ ว่าพวกนั้นตกมาอยู่ที่นี่เสียงหวานใสของหญิงสาวปริศนาดังขึ้น

     

    อืมเสียงทุ้มของบุรุษปริศนาดังขึ้นตอบ

     

    แล้วนั่นใช่เจ้าพวกนั้นรึเปล่าหญิงสาวปริศนาถามพลางชี้นิ้วมายังเหล่ายมทูต

     

    ใช่บุรุษปริศนาตอบอีกครั้ง

     

    แล้วเราจะเอายังไงดีล่ะ เรื่องเกิดเพราะพวกเราแท้ๆหญิงสาวกล่าว

     

    ไม่ระ..บุรุษปริศนายังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแทรกขึ้นมา

     

    พวกนาย!!”อิจิโกะตะโกนก้อง ทำให้ร่างเงาทั้งสองร่างหันควับมาแทบจะในทันที

     

    เสียมารยาทบุรุษปริศนาพูดเสียงไม่พอใจ

     

    หา?! เอ่อ...ขอโทษก็แล้วกัน = =;”อิจิโกะบอกเหนื่อยๆ

     

    พวกแกเป็นใครคันดะถามเสียงเข้ม ในมือกระชับมุเก็นแน่น

     

    พวกข้าหรอ ข้าชิสึเนะ เรนะ เป็นยมทูตพิเศษจากโซลโซไซตี้จ้าหญิงสาวกล่าวพร้อมก้าวออกมาเผยให้เห็นถึงเด็กสาวที่มีอายุประมาณ18ปียืนอยู่ เส้นผมสีชมพูสยายยาวถึงต้นขามัดรวบครึ่งหัว นัยน์ตาสีฟ้าใสจ้องมองอย่างเป็นมิตรแต่แฝงไว้ด้วยความลึกลับ

     

    ฮาคุบะ ยูคิ ยมทูตพิเศษเช่นกันบุรุษปริศนาหรือเด็กหนุ่มวัย18ปีเจ้าของเรือนผมสีดำเหลือบเงินซอยสั้นระบ่า ดวงตาสีม่วงอ่อนเต็มไปด้วยปริศนา

     

    ยมทูตงั้นหรอ แสดงว่าพวกเธอคงรู้จักกับพวกเขาโคมุอิว่าพลางชี้ไปที่เหล่ายมทูตชุดก่อนหน้า

     

    ค่ะ พวกข้ารู้จัก แต่พวกเขาคงไม่รู้จักพวกข้าเรนะตอบเสียงใส แต่คำตอบที่ให้สร้างความงุนงงให้เหล่าเอ็กโซซิสต์และเหล่ายมทูต รู้จักอีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายไม่รู้จักหมายความว่ายังไง?

     

    แล้วมันหมายความว่ายังไงล่ะครับ รู้จักแต่ไม่รู้จักเนี่ยอเลนถามขึ้นมาอย่างสับสน เออสิใครไม่สับสนสิแปลก

     

    ก็...นะยูคิบอกเสียงเรียบหากแต่ก็ไม่ได้ช่วยเฉลยอะไรได้เลย

     

    แล้วพวกนายมาจากไหนกันล่ะราวี่ถาม

     

    ที่เดียวกับเจ้าพวกนั้นเรนะตอบก่อนจะชี้นิ้วไปทางเหล่ายมทูต

     

    ข้าไม่เคยเห็นพวกเจ้ามาก่อนเบียคุยะพูดเสียงออกแนวขมขู่เล็กน้อย

     

    ไม่เคยเห็นหรอกยูคิเอ่ยแทรก

     

    หมายความว่ายังไงกันโทชิโร่ถามอย่างต้องการคำตอบ แต่ยูคิกลับเบือนสายตาหันไปมองทางอื่นและมีท่าทีว่าจะไม่ตอบ

     

    พวกเจ้าน่ะไม่เคยเห็นพวกข้าหรอก แต่พวกข้าไม่ใช่ศัตรูรู้แค่นั้นแหละดีแล้ว ฮะๆๆเรนะพูดกลั้วหัวเราะอย่างเริงร่า

     

    หมายความว่ายังไงกัน เจ้าน่าจะรู้ว่าท่านพี่กับหัวหน้าฮิซึกายะเป็นถึงหัวหน้าหน่วยแต่กลับเล่นลิ้นรึไงลูเคียถามอย่างไม่พอใจเป็นที่สุด

     

    ไม่มีความจำเป็นในตอนนี้ยูคิพูดเสียงเครียด

     

    เจ้าควรจะรู้ไว้ว่าบางเรื่องไม่สมควรที่จะรู้ตอนนี้ แต่จะรู้เมื่อถึงเวลา ไม่ใช่ว่าจะคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้เรนะพูดเสียงจริงจังต่อจากยูคิ ทำเอาลูเคียนิ่งค้างไป

     

    ....โทชิโร่และเบียคุยะยืนมองเหตุการณ์เงียบๆอย่างครุ่นคิด

     

    ถ้าพวกนั้นไม่ใช่ศัตรูจริงๆ ก็ไม่ควรไประแวงอะไร ถ้าเขายอมบอกทุกอย่าง แต่นี่กลับเต็มไปด้วยปริศนาโทชิโร่คิดอย่างหนัก

     

    เจ้าพวกนั้นเองก็มีแรงดันวิญญาณมหาศาลแต่กลับไม่เคยปรากฏในทะเบียนยมทูต จะเป็นมิตรแน่หรือเบียคุยะเองก็คิดหนักไม่แพ้กัน

     

    ไม่ต้องคิดกันให้เสียเวลาหรอก พวกข้าน่ะเป็นเพื่อนพวกเจ้าแน่เรนะบอก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความไว้วางใจเพิ่มขึ้นเลย

     

    เอาเถอะ ถึงจะไม่เชื่อ ข้าก็ไม่สนใจไว้เรื่องเกิดเมื่อไหร่ก็จะรู้เองเรนะกล่าวเสียงจริงจัง ทำให้หลายๆคนเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

     

    เกิดเรื่องอะไรกัน?

     

    งั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ ยืนคุยข้างนอกคงไม่เข้าท่าโคมุอิว่าก่อนที่รินาลี่จะผายมือเป็นฉากประกอบ

     

    นั่นสินะราวี่พูดขึ้นอย่างเห็นด้วย ก่อนจะเดินหายไปพร้อมๆกับเหล่าเอ็กโซซิสต์คนอื่นๆ

     

    งั้นพวกข้าขอตัวก่อนก็แล้วกัน มีธุระนิดหน่อยเรนะเอ่ย ก่อนที่ทั้งเรนะและยูคิจะกระโดดลงไปจากหน้าผาสูงใหญ่ของศาสนจักรแห่งความมืด ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของโคมุอิและเหล่ายมฑูตคนอื่นๆ แม้จะเป็นการตะลึงคนละหัวข้อก็ตาม แต่ความสูงระดับนั้นยมฑูตตกลงไปก็มีสิทธิตายเหมือนๆกัน

     

    โห สุดยอดเลยแฮะ ตกลงไปแล้วไม่ตายเนี่ยโคมุอิพูดก่อนจะบังเกิดแผนชั่วในใจ

     

    ลองจับเจ้าพวกนี้ไปผ่าพิสูจน์ดูดีมั้ยน้า เอ...หรือจะเอาเป็นหนูทดลองยาดีหว่า...หึๆ อย่างไหนก็น่าสนุกทั้งนั้นโคมุอิคิดพลางหัวเราะอย่างสยดสยอง จนคนรอบๆต้องถอยกรูดออกมาอย่างผวา

     

    เออ ส่วนเรื่องห้องพัก เดี๋ยวฉันจะให้รินาลี่พาไปก็แล้วกันนะ เข้าไปข้างในก่อนเถอะ อยู่ข้างนอกในฤดูหนาวนานๆแบบนี้เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอานะโคมุอิบอกก่อนที่ทุกคนจะเดินเข้าไปภายในศาสนจักร

     

    ขอโทษนะ แต่ว่าห้องพักนี่ ถ้าพักเป็นคู่จะสะดวกมั้ยรินาลี่ถามเสียงใส ขณะที่กำลังเดินนำ

     

    ก็ไม่มีปัญหาอะไรนิ ทำไมหรออิจิโกะตอบ

     

    อ๋อ เปล่าจ้ะ เผอิญว่าถ้าจะพักอยู่ใกล้ๆกันแบบนี้จะสะดวกกว่าน่ะรินาลี่ตอบ

     

    แต่ว่าพวกเรามี9คนผู้ชาย6ลงตัว แล้วผู้หญิงล่ะ3คนนะอิชิดะถามขึ้นมา

     

    ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกข้าสามคนนอนห้องเดียวกันก็ได้รันงิคุบอกสบายๆขณะที่กอดคออิโนะอุเอะและลูเคีย

     

    นั่นสินะคะ ยังไงฉันกับพวกคุณคุจิกิก็เข้ากันได้ดีอยู่แล้วอิโนะอุเอะเสริม

     

    “ไม่ต้องห่วงพวกข้าหรอก”ลูเคียบอก ก่อนจะยิ้ม

     

    “งั้นก็ห้องนี้จนถึงห้องที่4นับต่อไปนะคะ ส่วนประตูบานใหญ่ตรงนั้นจะเป็นห้องทำงานของพวกพี่น่ะค่ะ มีปัญหาอะไรก็เข้าไปเรียกได้นะคะ”รินาลี่กล่าวเสียงหวาน(น่าหมั่นไส้ : ผู้แต่ง)

     

    “งั้นฉันขอตัวก่อนล่ะค่ะ”รินาลี่กล่าวออีกครั้งก่อนจะโค้งหัวให้แล้วเดินจากไป

     

    “อิชิดะ นายพักกับแช้ดก็แล้วกันนะ”อิจิโกะพูด

     

    “ไม่มีปัญหา อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าพักกับนายและยมทูตคนอื่น”อิชิดะ อุริวบอกพร้อมดันแว่นขึ้นตามคอนเซปต์

     

    “งั้นข้ากับเจ้าก็แล้วกัน”เร็นจิกล่าวก่อนจะหันไปหาเบียคุยะ

     

    “หัวหน้า พักกับหัวหน้าฮิซึกายะได้นะครับ”

     

    “อืม”เบียคุยะตอบ ก่อนที่ทั้ง9คนจะแยกย้ายกันเข้าไปที่ห้องพัก

     

    ภายในห้องพักนัมเบอร์1(?)ของอิจิโกะและเร็นจิ

     

    “เฮ้ย เร็นจิ นายมีเอาเสื้อผ้ามาม่ะ”อิจิโกะถามหลังจากนึกขึ้นได้ว่าไม่มีเสื้อผ้า

     

    “ไม่มี ข้าว่าข้าต้องถามเจ้ามากกว่านะ”เร็นจิย้อนเสียงเขียว

     

    “ก็ข้าวของฉันก็ต้องอยู่ที่บ้านสิ ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะหลงมาแบบนี้”อิจิโกะพูด

     

    “งั้นเดี๋ยวพวกเราไปหาเจ้าแว่นนั่นดูล่ะกัน”เร็นจิบอก ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแว่นที่หมายถึงนั้นคือโคมุอิ

     

    ถัดมา ภายในห้องพักนัมเบอร์2ของชาโดะและอิชิดะ

     

    “.....”ชาโดะไม่พูดอะไรเพียงแต่มองสัมภาระของตัวเองที่ว่างเปล่า...ไร้เสื้อผ้า ส่วนอิชิดะนั้นกำลังเลือกเสื้ออยู่ว่าจะใส่ตัวไหนดี?

     

    “นี่ของนาย ฉันมีเย็บใหม่ว่าจะเอาไปให้พอดี”อิชิดะบอกพร้อมยื่นเสื้อคอกลมสีแดงเข้มที่เป็นแถบสีขาวขวางเป็นลายเสื้อ

     

    “ขอบคุณ...”ชาโดะกล่าวก่อนจะรับเสื้อมา.....แต่ยังไง...มันก็ยังขาดกางเกงอยู่ดีนั่นแหละ...คิดแล้วก็ปลงตกและเดินออกจากห้องหมายจะไปหานักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง โคมุอิ ลี(???)

    ถัดมาอีกรอบ ภายในห้องพักนัมเบอร์ 3 ของเบียคุยะและโทชิโร่

     

    “........”นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลและนัยน์ตาสีนิลหันมาสบกันและสื่อสารผ่านสายตาตามประสาคนพูดน้อย(?!)

     

    ไม่มีเสื้อผ้าเหมือนกัน...ไปกันเถอะทั้งสองคนเมื่อมองตาค้นหาหัวใจ(?)เสร็จ ก็ลุกเดินออกจากห้องไปอย่างพร้อมกัน

     

    ภายในห้องพักห้องสุดท้าย ห้องพักนัมเบอร์ 4 สามสาว สามสไตล์กำลังคุยกันเรื่องเสื้อผ้าอยู่

     

    “เอ..พวกเราจะทำยังไงกันดีล่ะคะเนี่ย”อิโนะอุเอะถาม

     

    “ลองไปถามเจ้าแว่นนั่นดูดีมั้ย”รันงิคุเสนอ

     

    “ก็ดีนะ เผื่อว่าเจ้านั่นจะมีเผื่อ”ลูเคียเสริมก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินออกไปโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับคนในอีกสามห้องที่เหลือ

     

    ณ ห้องทำงานของโคมุอิ ลี

     

    “นี่เจ้าแว่น ถามอย่างสิ เจ้าพอจะมีเสื้อผ้าให้พวกข้าเปลี่ยนรึเปล่า”รันงิคุถาม

     

     

     +++++++++++++++

    ข้าน้อยมาอัพด้วยเพียงไม่กี่บรรทัด
    ไม่นึกว่างานกิจกรรมโรงเรียนจะเยอะมาก
    จนแทบไม่มีเวลาเหลือให้เจียดมาแต่งต่อ(รึเปล่าก็ไม่รู้หรืออาจจะเพราะตั้งใจอู้)
    ยังไงก็ตามหวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านจะช่วยติชมและรู้สึกสนุกกับเรื่องเรื่องนี้
    ถึงแม้ว่าคนอ่านจะไม่มากก็ตามที

    Darkshadow

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×