คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Battle 1 : อีกโลกหนึ่ง[100%]
ทางด้านศาสนจักรแห่งความมืด กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ภายในโรงอาหารของศาสนจักร คันดะ ยูเจ้าของผมสีน้ำเงินยาวกำลังนั่งกินโซบะเย็นที่กินอยู่เป็นประจำอยู่คนเดียว เพราะ ราวี่หรือบุ๊คแมน จูเนียร์นั้นกำลังนำถาดข้าวของตนเองไปเก็บ อเลน วอล์กเกอร์เอ็กโซซิสต์หนุ่มหัวหงอก[= =;]กำลังนั่งหม่ำดังโงะหลายสิบไม้ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ(มันเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ)ที่โต๊ะข้างหลัง แต่แล้วช่วงเวลาแห่งความสงบสุข(?)ก็ต้องยุติลงเมื่อ
“มีผู้บุกรุก มีผู้บุกรุก”เสียงประกาศเตือนดังขึ้น ทำให้เหล่าเอ๊กโซซิสต์และผู้เชี่ยวชาญที่มีอยู่น้อยนิดตอนนี้ในศาสนจักรรีบวิ่งกรูออกไปเหมือน...เหมือน....เอ่อ....ฝูงอะไรซักอย่าง..
ทางด้านหน้าศาสนจักร
กองอะไรซักอย่างสีดำๆกองใหญ่ตั้งอยู่หน้าศาสนจักรโดยตรงยอดนั้นมีอะไรซักอย่างสีขาวๆอยู่นั้นก็คือ..แต๊น แต๊น แต้นนนน กองซากศพเหล่ายมทูตจากโซล โซไซตี้นั่นเอง
“พวกนั้น เป็นใครกัน เป็นคนหรือศพกันล่ะครับนั้นน่ะ”อเลนถามขึ้นหลังจากเห็นสภาพของเหล่ายมทูต
“ยะยัง มะไม่ ตะตายย ฟะเฟ้ยยยยย อะไอ้เปี้ยกหัวหงอกลุกขึ้นไปได้แล้ว หนักน่ะเฟ้ย”เสียงอักน่าอดสูของอิจิโกะดังขึ้นมาจากใต้กองว่าง่ายๆคือทุกคนเรียงกันตามนี้
จากล่างสุดผู้เป็นเบาะรองรับนั้นก็คือคุโรซากิ อิจิโกะ พระเอกแห่งบลีชที่ไม่มีใครต้องการนั่นเอง ถูกทับด้วยคุจิกิ เบีคุยะหัวหน้าหน่วย6แล้วตามต่อด้วยรองหัวหน้าหน่วย6อาบาราอิ เร็นจิทับต่อด้วยน้องสาวสุดเลิฟของเบียคุยะคุจิกิ ลูเคียซึ่งตอนนี้กำลังถูกทับใส่ด้วยตัวของอิชิดะ อุริวควินซี่หนุ่มผู้เกลียดชังเหล่ายมทูต[แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกับยมฑูต]ตามด้วยหนุ่มร่างยักษ์ซาโดะ ยาสึโทระทับด้วยอิโนะอุเอะ โอริฮิเมะที่ไม่รู้จะบรรยายสรรพคุณเจ้าหล่อนว่าอย่างไรและรู้อย่างเดียวว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจเพราะหน้าอกของมัตสึโมโตะ รันงิคุที่หล่นลงมาทับหน้าของเธอเต็มๆ[= =;]และแน่นอนตบท้ายด้วยฮิสึกายะ โทชิโร่เจ้าหนูหัวขาว เอ๊ย หัวหน้าหน่วยสิบแสนหลักแหลมแห่งโซลโซไซตี้
“โอ้โห นี่ยังไม่ตายกันอีกหรอเนี่ย”ราวี่พูดขึ้นมาอย่างอึ้งๆ
“เออสิฟะ”เร็นจิพูดหลังจากลุกขึ้นมาได้ ส่วนอิจิโกะนั้นกำลังถูกแช็ดหรือชาโดะ ยาซึโทระแงะขึ้นมาจากพื้นอยู่
“พวกแกเป็นใคร”คำพูดแบบนี้ ประโยคแบบนี้ไม่ต้องบอกก็คงรู้ใช่มั้ยครับว่าใครนั่นก็คือคันดะ ยูซึ่งตอนนี้กำลังเอามุเก็นสุดสวาทพาดคอของอิจิโกะที่พึ่งลุกขึ้นมาอยู่
“เฮ้ย ใจเย็นน่า ว่าแต่ที่นี่มันที่ไหนกัน”อิจิโกะถามอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ที่นี่ คือ ศาสนจักรแห่งความมืด กุรงลอนดอนประเทศอังกฤษครับ”อเลนตอบ
“ข้าจำได้ว่าที่กรุงลอนดอนเนี่ยมันไม่มีศาสนจักรแห่งความมืดที่ว่าไม่ใช่รึไง”โทชิโร่ผู้รอบรู้ถามขึ้น
“จะมีไม่มี พวกนายก็เหยียบพื้นที่ของศาสนจักรอยู่นะ”ราวี่พูดขึ้น
“พวกแกเป็นใคร ตอบคำถามฉันมา”คันดะถามแบบเดิม น้ำเสียงแบบเดิม ท่าทางแบบเดิม ว่าง่ายๆแบบเดิมหมดนั่นแหละ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าบรรยายตอนแรกเพื่ออะไร
“ฉันมาจากเมืองคาราคุระ ประเทศญี่ปุ่น พอใจยัง”อิจิโกะตอบ
“ที่ญี่ปุ่นไม่มีเมืองที่ชื่อคาราคุระ”คันดะตอบกลับ ทำหน้าดุขึ้นกว่าเก่า คมดาบเองก็ปาดเข้าไปบนคอของอิจิโกะนิดหน่อยแล้ว
“จะมีไม่มี พวกฉันก็มาจากเมืองคาราคุระเฟ้ย แล้วอีกอย่างเอาดาบออกไปจากคอฉัน”อิจิโกะโวยวายใส่คันดะ
“เป็นผู้บุกรุกยังมีหน้ามาพูดอีก”คันดะตอบกลับอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ขอโทษนะ เผอิญพวกข้าไม่ได้บุกรุก แต่หลงมาต่างหาก”เร็นจิบอก
“หลงมางั้นเหรอ?”ราวี่ถามงงๆ
“ในที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเป็นพันเมตรเนี่ยนะ”ราวี่ถามอีก
เมื่อได้ยินราวี่พูดดังนั้นทุกคนก็ต้องช็อค แม้บางคนจะไม่ได้แสดงอาการออกมาเลยก็ตาม
“คงงั้นมั้ง เจ้าประตูนั้นทำเราหลงมาที่นี่ได้ไงเนี่ย”ลูเคียบ่น
“คันดะคุงเก็บดาบก่อนเถอะ ฉันว่าเจรจากันจะดีกว่านะ”โคมุอิ ลีนักวิทยาศาสตร์ที่สติไม่ค่อยเต็มเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับมาดผู้นำที่ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน
“แล้วทำไมฉันต้องฟังคำสั่งของแกด้วย ถอยไปไกลๆเลย”คันดะพูดอย่างหงุดหงิดกว่าเดิม
“คันดะคุง ฉันเป็นหัวหน้าของเธอนะ เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน”โคมุอิพูดด้วยมาดหัวหน้า พลางทำสีหน้าจริงจัง
“ชิ”คันดะทำเสียงในลำคอพลางเก็บดาบแล้วเดินถอยหลังไปรวมกับพวกราวี่
โคมุอิที่คุยกับคันดะเสร็จก็เดินไปหาเหล่ายมทูต
“ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นใคร มาจากไหนหรอครับ”โคมุอิพูด
“....พวกเราคือยมทูต”เร็นจิบอกห้วนๆ
“มาจากโซล โซไซตี้น่ะ เอ่อ ว่าง่ายๆมาจากมิติซ้อนทับของเมืองคาราคุระ ประเทศญี่ปุ่น”ลูเคียพยายามอธิบายให้โคมุอิเข้าใจ
“อ๋อ เข้าใจล่ะ อย่างนี้นี่เอง”โคมุอิพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มกลับมาทะเล้น
“ถ้าไม่เป็นการรบกวน พวกข้าจะขออาศัยอยู่ที่นี่ซักพักได้รึเปล่า”โทชิโร่ถามโทนเสียงปกติ
“อ๋อ ได้สิ ตามสบายแถมที่นี่ห้องก็เหลือเยอะด้วยเชิญเข้าไปข้างในกันก่อนเลย”โคมุอิพูดแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแล้วกวักมือเรียกรินาลี่ ลีน้องสาวสุดเลิฟของตนเองมา
“เฮ้ย หมายความว่าไง หา จะเอาไอ้พวกนี้มาอยู่กับพวกเราเนี่ยนะ”คันดะโวยวายขึ้นมาพร้อมทำท่าเหมือนกับจะพุ่งเข้าอัดโคมุอิด้วย ถ้าราวี่ไม่รั้งไว้
“ยู ใจเย็นน่า นะใจเย็นลงหน่อยเถอะนะ ยู~”ราวี่พร้อมเสียงทะเล้นทั้งๆที่เหงื่อใหลตามใบหน้าด้านข้าง
“ใครใช้ให้แกเรียกชื่อฉัน หา”คันดะเปลี่ยนทีท่ามาโวยใส่ราวี่แทน
“แหมๆๆยูนี่ล่ะก็ งกไปได้ ^-^”ราวี่พูดแล้วยิ้ม รอยยิ้มนั่นถึงจะดูทะเล้นแต่ก็แฝงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์
“แกกกกกกกก”คันดะชักมุเก็นออกมาหมายจะฟันราวี่แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเหล่ายมทูตและคนอื่นๆหายไปแล้ว ยกเว้นแต่ราวี่ซึ่งยืนอยู่ข้างหน้า
“พึ่งจะรู้หรอ ยูจัง เค้าเป็นแค่เหยื่อล่อเองน้า ติดกับแล้วล่ะ ไว้เจอกันใหม่ที่ห้องทำงานของโคมุอินะ บ๊ายบาย”พูดจบประโยคราวี่ก็วิ่งฉิวหายไปจากครรลองสายตาของคันดะเจ้าไปในศาสนจักรทันที
“หนอยแน่ แก๊ ไอ้โคมุอิ”คันดะตะโกนลั่นแล้ววิ่งเข้าไปในศาสนจักรหมายจะจัดการกับผู้ที่มาหาเรื่องของตน
ห้องทำงานโคมุอิ ภายในศาสนจักรแห่งความมืด
“ขอโทษด้วยนะที่ห้องมันรกไปหน่อย”โคมุอิบอก ทำให้บุคคลอื่นที่เข้ามาในห้องถึงกับเหงื่อตก
‘หน่อยเรอะ!/ไม่หน่อยนะเนี่ย มันรกมากต่างหาก’เหล่าเอ็กโซซิสต์คิด
“อย่ามองฉันอย่างนั้นน่า ฉันโคมุอิ ลี ยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนนี่น้องสาวฉัน”โคมุอิแนะนำ
“รินาลี่ ลีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”รินาลี่บอกพร้อมยิ้มให้
“อเลนครับ อเลน วอล์กเกอร์”อเลนบอก พรร้อมโค้งหัวลงน้อยๆเป็นเชิงเคารพ
“ฉันราวี่นะ หรือจะเรียกจูเนียร์ก็ได้ตามใจ”ราวี่บอกพร้อมรอยยิ้มประจำตัว
‘เข้ามาเมื่อไหร่กัน คนคนนี้’ความคิดของทุกคนตรงกันเมื่อราวี่ที่ทำหน้าที่ล่อคันดะโผล่เข้ามาในห้อง
“โว้ย แก เดี๋ยวพ่อจะจับทำหมูบะช่อให้หมดเลย”เสียงตะโกนของคันดะที่ดังมาแต่ไกลพร้อมเสียงประตูเปิดดังปึง
“ส่วนคนที่พึ่งเข้ามานี้คือ...”โคมุอิที่กำลังพูดแต่ยังไม่ทันจบก็ถูกขัดขึ้นมาโดยเจ้าตัวว่า
“คันดะ ส่วนพวกแกก็ตายที่นี่ซะเถอะ”ว่าแล้วก็กระชับมุเก็นในมือแล้ววาดดาบออกไป
‘เคร้ง’เสียงมุเก็นปะทะกับดาบซันเงสึของอิจิโกะ
“โทษนะพวก ฉันไม่ยอมโดนฟันง่ายๆหรอก”อิจิโกะพูดพร้อมเก็บซันเงสึเข้าที่ คันดะสบถอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมเบือนหน้าหนี
“คันดะ ยูด้วยสิ เนอะยู ~”ราวี่พูดขึ้นมาอย่างกวนประสาท ทำให้คันดะเตรียมชักมุเก็นอีกหนึ่งรอบ
“เอาล่ะ สต๊อปปุ นี่มันห้องทำงานฉันนะ ช่วยสงบเสงี่ยมกันนิดนึง แล้วก็พวกเธอชื่ออะไรกันบ้างล่ะ"โคมุอิขัดขึ้นมาก่อนที่จะเกิดฉากนองเลือดขึ้น ทำให้คันดะเก็บมุเก็นเข้าฝัก
“ฉัน คุโรซากิ อิจิโกะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ฉันอิชิดะ อุริว ไม่ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก”
“ข้าคุจิกิ ลูเคีย ยินดีที่ได้รู้จัก”
“คุจิกิ เบียคุยะ”
“ข้ามัตสึโมโตะ รันงิคุ ยินดีที่ได้รู้จักจ้า”
“ข้าฮิตสึกายะ โทชิโร่”
“ฉันอิโนะอุเอะ โอริฮิเมะจ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ
“ฉัน ชาโดะ ยาสึโทระ”
“ข้าอาบาราอิ เร็นจิ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เอาล่ะ ในเมื่อแนะนำตัวกันครบแล้ว ฉันอยากจะบอกว่าที่ที่พวกเธอเหยียบอยู่คือศาสนจักรแห่งความมืด เป็นที่ที่รวบรวมเอ็กโซซิสต์มาเพื่อกำจัดเหล่าอาคุม่าที่เคาท์พันปีสร้างขึ้น”โคมุอิอธิบายเสียงจริงจังจนหลายๆคนงง
“หา?? อาคุ..อะไรนะ?”อิจิโกะถามงงๆ อาจเป็นเพราะสมองที่ช้าเกินกว่าจะสามารถรับรู้ได้ทัน
“อาคุม่าเฟ้ย!!ไอ้หัวส้ม”คันดะบอกอย่างไม่พอใจ
“หา?..ยูเรียกฉันหรอ”ราวี่ที่นั่งอยู่ข้างๆคันดะถามอย่างแปลกใจ
“ไม่ใช่แกไอ้หัวส้ม(??)”คันดะตอบราวี่
“หา!?”อิจิโกะกับราวี่ร้องอย่างสงสัยพร้อมกัน เพราะว่าหัวมันสีเดียวกันนี่เอง
“เอ่อ..พอเถอะครับคันดะ สุดท้ายแล้วราวี่กับคุณคุโรซากิก็ผมสีเดียวกันล่ะครับ”อเลนแย้งขึ้นมา
“เออ”คันดะกระแทกเสียง
“มาเข้าเรื่องกันต่อล่ะนะ(เรื่องอะไรของแกฟร่ะ : คันดะ)อาคุม่าที่พูดถึงเมื่อกี้คือจักรกลสังหารที่คอยคร่าชีวิตมนุษย์โดยมีผู้สร้างคือ(ไอ้)เคาท์พันปีและเหล่าโนอาร์ที่ใช้จิตใจอันอ่อนแอของมนุษย์ยามเสียสิ่งสำคัญเป็นเครื่องมือ”โคมุอทกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังที่ไม่มีใครเคารพเหมือนตอนแรก
“หา? วิชาคริสตศาสตร์หรอคะ เห็นมีโนอาร์ด้วย”อิโนะอุเอะถามขึ้นมา
“เอ่อ..ก็ไม่เชิงว่าไม่ใช่หรอกนะ แต่มันไม่เกี่ยวกันหรอก ฉันจะอธิบายคร่าวๆให้ฟังแล้วกัน โนอาร์ในยุคนี้เป็นโนอาร์ที่เป็นลูกหลานของโนอาร์ในปรากฏการณ์น้ำท่วมโลก และโนอาร์นั้นได้ร่วมมือกับท่านเคาท์พันปีเพื่อหวังจะทำลายมนุษย์ด้วยอาคุม่า ส่วนพวกเราเหล่าเอ็กโซซิสต์และผู้เชี่ยวชาญทุกคนเป็นกลุ่มศาสนจักรแห่งความมืดที่คอยขัดขวางแผนการเหล่านั้น เข้าใจมั้ยครับ”โคมุอิถาม พร้อมรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้วางใจ
“ซะยาวเชียว ไหนบอกคร่าวๆไง = =;”เร็นจิบ่นอย่างงงๆ
“ก็นี่แหละคร่าวๆ แบบเต็มๆมีเป็นตู้เลย สนใจจะอ่านมั้ย “ราวี่ถามยิ้มๆ
“คงไม่ล่ะ เกรงใจ”รันงิคุพูด ก่อนจะเหงื่อตก แน่นอนล่ะ อาเจ๊รันงิคุเกลียดของพวกนี้ยิ่งกว่าอะไร ไม่อย่างนั้นจะคอยโยนงานให้หัวหน้าหน่วยตัวน้อยหรอ
“เอาล่ะเรื่องห้องพัก เดี๋ยวฉันจะพาไปเองนะคะ”รินาลี่ที่ยืนมองเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มน่ารักแต่แล้วบรรยากาศอันสงบสุขก็หายไปอีกครั้งเมื่อ
“มีผู้บุกรุก มีผู้บุกรุก”เสียงประกาศเตือนเหมือนอตนแรกดังขึ้น
“โว้ยย อะไรอีกล่ะ”คันดะโวยวายอย่างหัวเสีย
“นี่ประกาศอะไร”โทชิโร่ถามเสียงเรียบ
“อ๋อเป็นประกาศเตือนว่ามีศัตรูมาน่ะครับ”อเลนตอบ
“อเลนไปเร็ว”ราวี่เร่งทำให้อเลนรีบวิ่งออกไป
“งั้นพวกเราก็ไปกันมั้งเถอะ”อิจิโกะบอกพร้อมให้ก้าวพริบตาหายตัวออกไปพร้อมกับยมฑูตและคนอื่นๆ.....
----------------------
ขอโทษที่ทำให้ท่านผู้อ่านทุกท่านต้องรอนานไปหน่อย
เผอิญว่าปิดเทอมแล้วเลยมีเวลาอัพที่มากขึ้น
ต่อไปจะพยายามไม่อู้งาน(เฟี้ยวว หลบสิ่งของที่ผู้อ่านปามา)
พวกเราเองก็มีคนหนึ่งไปต่างประเทศ2เดือน อาจจะทำให้ล่าช้าเช่นเดิม
แต่จะพยายามไม่หายไปเหมือนคราวก่อนนี้อีก
หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะยังไม่ลืมพวกเรา ^ ^
Maydia/Darkshadow
ความคิดเห็น