ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Species Wars

    ลำดับตอนที่ #4 : *-* ทางแยกอันตราย *-*

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 48


    // เบื้องหน้าของทุกคนที่ลงมาจากเรือนั้น ต้องตะลึงกับพระราชวังขนาดใหญ่ยักษ์เทียบไม่ได้กับการมองเห็นจากทางเข้าเมือง พระราชวังสูงตระหง่านตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีรั้วแน่นหนา 2 ชั้น ที่ถูกสร้างจากหินขนาดใหญ่เรียงตามแนวทีละก้อนสูงขึ้นเรื่อยๆ หินแต่ละก้อนมีโทนสีคล้ายกัน คือสีเทาออกขาวขุ่นๆ รอบๆปราสาทมีแม่น้ำขนาดกว้างที่ถูกขุดเพื่อป้องกันข้าศึก และทางเข้าก็เป็นสะพานไม้ที่ถูกขัดจนเงาวับ สามารถยกขึ้นลงได้ ด้วยรอก 10 ตัว ที่ทำงานอย่างเป็นระบบ



    “โอ้โห พระราชวังที่นี่ใหญ่กว่าของโควาเอนอฟอีกอ่ะพี่” บิลพูด พร้อมกับรีบวิ่งไปอย่างตื่นเต้น



    “ นั่นนะสิ เทียบกันไม่ติดเลย” คริสตัลพูดแล้วมองไปรอบๆ



    “เด็กๆ รอก่อนยังเข้าไปไม่ได้ ถ้าไม่มีรหัสจ๊ะ” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วเดินนำหน้าบิลกับคริสตัลไป



    “เปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ ตอนเราเด็กๆ ยังไม่มีรั้วกำแพงแน่นหนาเท่านี้เลย” ฟิน่าพูด



    “ศัตรูมันเก่งขึ้นเรื่อยๆ ป้องกันไม่ดี เมืองก็ไม่ปลอดภัยแน่นอน”ฟอร์ทีน่าพูดแล้วยิ้ม



    เมื่อข้ามสะพานข้ามน้ำที่หน้าพระราชวังมาก็พบ ประตูขนาดใหญ่ที่ถูกสลักด้วยภาษาที่อ่านไม่รู้เรื่อง และมีรูปภาพสัญลักษณ์ของ ปลาฉลาม  กิ่งไม้ขรุขระยาวๆ  แมงกะพรุน  และม้าน้ำ  ฟอร์ทีน่านำมือของเธอไปวางทาบที่สัญลักษณ์รูปม้าน้ำ แล้วพูดว่า  “ทวารหน้าวัง ข้า ฟอร์ทีน่า กษัตริย์ปัจจุบัน จงเปิดออกบัดนี้” สิ้นเสียงคำสั่งนั้น ประตูบานใหญ่ที่ถูกสลักด้วยภาษาและสัญลักษณ์ มีแสงสีน้ำเงินเคลื่อนตัวมาคล้ายๆกับน้ำกำลังไหลตามรอยที่ถูกสลัก จนมาสิ้นสุดที่รูปม้าน้ำ และก็เปลี่ยนสีเป็นสี ทองในทันที ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกอย่างแรง ทุกคนเดินเข้ามาในตัวของพระราชวัง แล้วฟอร์ทีน่าก็พูดอีกว่า “ทวารหน้าวัง รับฟังบัญชา จงปิด” เมื่อพูดจบประตูถูกปิดอย่างแรงแสงสีทอง หายวับในทันตา



    “อะไรกันนี่ วิเศษที่สุดเลย” บิลพูดแล้ววิ่งเอามือไปทาบตัวม้าน้ำที่อยู่ประตู “ผมอยากทำได้มั่ง”



    “อะไรกัน ถ้าทำได้แสดงว่าเธอคือกษัตริย์นะ จะโค้น น้าเหรอ”ฟอร์ทีน่าพูดแล้วหัวเราะ



    “ประตูถูกผนึกด้วย คาถา ทวารป้องกัน ใครเป็นคนทำผนึกนี้เหรอ ฟอร์ทีน่า” ฟีน่าพูดแล้วกันมาถามฟอร์ทีน่า



    “พี่ก็น่าจะรู้นะ แม่ ไง แม่พวกเรา”ฟีน่าพูด



    “ต้องใช้พลังมหาศาลเลยนะ ในการใช้คาถานี้” ฟีน่าพูด ด้วยสีหน้าเครียด



    “ก็ตอนนั้นเมืองเราถูกพวก มอนเตอร์ มันมาบุก เราก็จำเป็นต้องปิดผนึกใส่ประตูน่ะ” ฟอร์ทีน่าพูด



    “ก็คงจำเป็นสินะ คนที่ใช้คาถานี้ไปแล้วต้องพักฟื้นนานเลยล่ะ” ฟีน่าพูด



    “ถ้าพักฟื้นก็หาย แต่แม่สิ ไม่มีโอกาสได้พักฟื้น มันจับตัวแม่ไปที่เมือง ของมัน ชั้นยังจำได้เลย ชั้นกับพี่ ไม่ได้ไปสู้เพราะยังเด็ก เราถูกกักไว้บนหอคอย ให้ดูภาพเบื้องล่างที่น่าหดหู่ พอพวกมันจับแม่ไป พวกมันก็ถอยทัพกลับ เหมือนมันต้องการแค่แม่ของเรา พ่อพยายามช่วยแม่แต่ไม่ทัน ทหารตายนับแสน ผู้คนบาดเจ็บสาหัส จากนั้นพ่อก็ให้พี่ให้พี่แต่งงานกับ คอร์เรนซ์  นักเวทย์ที่เก่งที่สุดในปฐพี แล้วพี่ก็ย้ายออกไปจากเมืองเรา ชั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ไปอยู่ไหน จนเพิ่งมาเจอพี่บนแม่น้ำนี่แหละ” ฟอร์ทีน่าเล่าเรื่อง พร้อมกับเดินไปเรื่อยๆ



    “พี่ไม่น่าแต่งงานกับไอ้คนพรร นั้นเลย เก่งก็จริง แต่......” ฟีน่าพูดแล้วหยุด



    “แม่ไม่เห็นเล่าเรื่องพ่อให้เราฟังเลย”คริสตัลพูด



    “ใช่ๆ ผมอยากรู้เรื่องพ่อ” บิลพูด



    “สักวันเดี๋ยวคงรู้” ฟีน่าพูด



    เมื่อเข้ามาในประตูนั้นก็จะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีบันได 5 ทาง  บันไดแรกตรงหัวบันไดถูกสลักด้วยรูปปั้นปลาฉลาม  บันไดที่สองหัวบันไดมีรูปปั้นผู้หญิงที่ใส่ชุดคุลมยาว มือถือกิ่งไม้ขรุขระยืนอยู่  บันไดที่สามมีรูปปั้นสลักรูปแมงกะพรุน  บันไดที่สี่ มีรูปปั้นถูกสลักด้วยรูปม้าน้ำ  และบันไดที่ห้ามีถ้วยขนาดใหญ่วางอยู่ 2 ข้าง ภายในถ้วยมีไฟพวยพุ่งจากด้านล่าง  



    “บิลกับคริสตัลเดี๋ยวน้าพาไปดูห้องนอน พี่จะดูด้วยไหม” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วถามฟีน่า



    “เดี๋ยวพี่นอนกับลูกของพี่ก็ได้”ฟีน่าพูด



    “งั้นชั้นจะพาไปดูแล้วกัน” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วมุ่งหน้าเดินไปที่บันไดที่มีถ้วยบรรจุไฟสีแดงสดพวยพุ่ง



    เบื้องล่างที่พื้นถูกปูด้วยพรมดีแดงยาวไปเรื่อยเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ด้านข้างผนัง มีรูปภาพมากมาย และมีรูปปั้นของอัศวินในอิริยาบถต่างๆ มากมายเช่นเดียวกัน



    “ระวังหน่อยนะ มันไม่ใช่อัศวินธรรมดา” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วชี้ไปที่หุ่นอัศวินที่ถือดาบชี้ลงพื้น



    “ไม่ใช่อัศวินธรรมดา หมายความว่ายังไงอ่ะครับ” บิลถามด้วยน้ำเสียงงุนงง



    “คือว่า มันถูกลงเวทมนต์ให้ปกป้องปราสาทจ๊ะ” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ



    “ฟอร์ทีน่า ใกล้ถึงยัง” ฟีน่าผู้เป็นแม่ของบิลและคริสตัลถาม



    “ใกล้แล้วๆ” ฟอร์ทีน่าตอบ



    ทั้ง  4 คน เดินตามทางที่ปูพรมมาเรื่อยๆ ผ่านทั้งรูปภาพ ทั้งอัศวิน และได้พบกับทางแยก ทางด้านขวามือ เป็นทางแยกที่ถูกปูด้วยพรมสีน้ำเงินสดใส  ส่วนทางแยกทางซ้ายเป็นทางที่มีรั้วเหล็กกั้นจนติดเพดาน มองเข้าไปในรั้วเหล็กสูงนั้น มีห้องอยู่ห้องหนึ่งที่ปิดประตูอย่างแน่นหนา



    “ไปทางไหนดีครับ” คริสตัลถาม



    “ตรงไปจะ ตามพรมสีแดงไปดีที่สุด” ฟอร์ทีน่าบอก



    “แล้วทางขวาที่ปูพรมสีน้ำเงินคือห้องอะไรครับ” บิลถาม



    “ห้องรับประทานอาหารจ๊ะ เราจะทานอาหารเย็นกัน ตอน 6 โมงครึ่งนะ พอถึงเวลา 6 โมงครึ่งให้มาพร้อมกันที่ ห้องนี้ จะมีเสียงกริ่งเป็นสัญญาณให้ทุกคนมาพร้อม เสียงกริ่งจะดังตอน 6 โมง 15 นาทีนะ แล้วทุกคนก็มาทานอาหารพร้อมกันได้เลย” ฟอร์ทีน่าพูด



    “แล้วทางแยกทางซ้ายล่ะครับ ทำไมต้องมีรั้วเหล็กกั้นด้วย” บิลถาม



    “อย่าสงสัยดีกว่านะ มันอันตราย” ฟอร์ทีน่าพูด



    “เอาน่า ลูกๆ มันอันตรายจริงๆ อย่าเข้าไปใกล้เชียวนะ” ฟีน่าพูดกับลูกๆของเธอ



    เมื่อเดินตามพรมสีแดงผ่านทางแยก ตรงไปจนสุดจะพบกับห้อง 3 ห้อง



    “ นี่จ๊ะ ห้องที่เด็กๆต้องนอน” ฟอร์ทีน่าหยุดแล้วชี้ไปที่ห้องที่มีประตู ไม้สีน้ำตาล ทำจากไม้โอ๊ก



    “ส่วนอีก 2 ห้องว่างนะ ฟีน่าจะนอนต่างหากก็ได้นะ” ฟอร์น่าพูดบอกฟีน่า



    “ฉันขอนอนกับลูกดีกว่า”ฟีน่าพูด



    “งั้นตามใจ” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วยื่นกุญแจสีฟ้ามันวาวให้ “นี่กุญแจห้อง”



    ฟีน่าไขกุญแจ แล้วเปิดห้องออก



    ห้องนี้เป็นห้องที่กว้างมากๆ เฟอร์นิเจอร์ ทุกชนิดถูกตกแต่งด้วยไม้โอ๊กมันวาว เตียงมีทั้งหมด 2 เตียง มีหน้าต่างบานใหญ่ที่มองออกไปจะเห็นวิวทิวทัศน์หลังปราสาท



    “พักผ่อนให้สบายนะ”ฟอร์ทีน่าพูดแล้วเดินกลับไปทางประตู



    “อุ๊ยๆ เกือบลืม เสียงกริ่งจะดังตอน 6 โมง 15 นะ แล้วลงไปทานอาหารทางห้องปูพรมสีน้ำเงินด้วยนะ” ฟอร์ทีน่าบอก



    “คร๊าบบบ” บิลและคริสตัลพูดพร้อมกัน



    \"แม่ครับ ผมอยากรู้ว่าทางแยกที่มันมีรั้วอ่ะครับ มันคืออะไรเรหอ ทำไมแม่กับน้า ดูปกปิดกันจัง\"บิลถาม แล้วจูงแม่มานั่งที่โซฟาไม้ที่ทำจากไม้โอ๊กใหญ่



    \"น่า นะ แม่บอกเถอะ ผมก็อยากรู้\" คริสตัลอ้อน



    \"ลูกๆ ต้องสัญญานะว่าจะไม่ไปที่นั้น ทางแยกนั้นน่ะ\" ฟีน่าพูดแล้วยกนิ้วขึ้น หมายถึงให้สัญญา



    \"โอเคครับ ผมสัญญา\" บิลพูดแล้วเอานิ้วก้อยของเขาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของแม่



    \"คริสตัลล่ะ\" แม่ถาม



    \"โอเคๆจะไม่ไป\" คริสตัลก็เอานิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวกับแม่เช่นกัน



    \"เอาล่ะ แม่จะบอกก็ได้ ตอนที่แม่ยังเด็กนะ เราถูกพวกมอนเตอร์โจมตี เคยเล่าให้ฟังแล้วใช่ไหม แล้วทางเมืองของเราก็จับพวกมอนเตอร์ได้บางส่วน เราจึงเอามันมาขังไว้ที่ห้องนั้น\" ฟีน่าพูด



    \"แล้วมันไม่ตายเหรอครับ มีใครให้อาหารมันไหม \"บิลถาม



    \"มีสิ อาหารของมันก็พวกเนื้อสัตว์ บังเอิญเราจับมันได้ เป็นเพศผู้และเพศเมีย มันเลยเกิดลูกเกิดหลายเต็มห้องไปหมด เราจึงต้องขังไว้\"ฟีน่าพูด



    \"แล้วให้อาหารมันอยู่รึเปล่า\" คริสตัลถาม



    \"ก็ให้ แต่ตอนนี้มันเยอะมากๆ อาหารแทบจะไม่พอ ที่มันออกมาไม่ได้เพราะประตูถูก กริฟฟอร์ริน ผู้กำจัดมอนเตอร์คนสุดท้ายของเมืองเฝ้าอยู่ เขามีวิธีจัดการแบบเยี่ยมยอด ทำให้มอนเตอร์สยบ แต่ ถ้าเมื่อไหร่มันเยอะขึ้นมากๆ บวกกับอายุของกริฟฟอร์ริน มากขึ้น มันอาจจะเป็นดาบสองคมหันมาทำร้ายเมืองก็ได้\" แม่พูด



    \"แล้วเลี้ยงมันไว้ทำไมละคับ\" บิลถาม



    \"เลี้ยงไว้เพื่อเวลาป้องกันศึกสงครามไงละจ๊ะ กำลังไพร่พลเมืองเรามีไม่มาก ตอนที่เราจับมันมาคิดว่าถ้าสอนมันมันอาจจะเชื่อง แต่....ไม่เลย ใครที่เข้าไปจะสอนมัน ถูกกินหมด อย่าไปใกล้ที่นั้นแล้วกันนะ\"ฟีน่าพูด



    \"ปล่อยมันเลยสิครับ\"คริสตัลบอก



    \"มันไม่ง่ายนี่สิ เมืองเราต้องการนักเวทย์ ที่สืบเชื้อสายจากนักเวทย์กษัตริย์ สามารถฝึกมันได้เท่านั้น \"แม่บอก



    \"หลายคนที่อาสา ก็ตายทั้งนั้น ฟอร์ทีน่าเค้าเลยอยากได้ตัวลูกไงจ๊ะ บิล\" แม่บอก



    \"ผมเป็นนักเวทย์สืบเชื่อสายกษัตรย์เหรอครับ\" บิลถาม



    \"ใช่แล้ว พ่อของลูกเค้าเป็นลูกชายคนเดียวราชานักเวทย์ ซึ่งเป็นเชื้อสายบริสุทธิ์ มีพลังที่แข็งแกร่ง กว่านักเวทย์ทั่วไป\" แม่พูด



    \"แล้วผมจะต้องไปฝึกเจ้ามอนเตอร์เหรอครับ\" บิลถามอย่างตื่นเต้น



    \"ใช่จ๊ะ นักเวทย์บริสุทธิ์ จะมีเวทย์ที่แข็งแกร่งมากสามารถเสกเวทย์ได้นานับประการเลยล่ะ\"ฟีน่าพูดแล้วอมยิ้ม



    \"งั้นผมจะไปฝึกมอนเตอร์ตอนนี้เลย\" บิลพูด



    \"ไม่ได้ เด็ดขาด เชื้อสายบริสุทธิ์ก็ถูกฆ่าได้นะ\"แม่บอก \"ต้องฝึกก่อน แล้วค่อยคุยเรื่องฝึกกับฟอร์ทีน่าแล้วกัน\"



    \"แล้วทำไมแม่ต้องห้ามเราไม่ไห้ไปใกล้ทางแยกนั้นด้วยละครับ ทั้งๆที่ยังไงน้องก็ต้องไปฝึกมัน\" คริสตัลถาม



    \"กลิ่นไงละ ถ้ากลิ่นนักเวทย์บริสุทธิ์ติดจมูกมันเมื่อไหร่มันจะกระหายที่จะออกมา เร็วขึ้น และบัดนั้น คงวรู้กันนะ ถ้านักเวทย์ยังไม่แกร่ง ก็ตายได้ทั้งเมือง\" แม่บอก



    --- กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ---  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×