ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : *-* เอควา ทาวน์ *-*
// พื้นน้ำที่เย็นยะเยือก ขอบแม่น้ำที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ รอบๆแม่น้ำเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบ แต่ใครจะรู้ว่า ใต้แม่น้ำนั่นมันมีมหานครที่ยิ่งใหญ่ ตั้งผง่าน อยู่ในโลกใต้บาดาลนั้น
“บิล คริสตัล แม่ลืมบอกลูกนี่ ฟอร์ทีน่า น้องสาวแม่เอง” แม่พูดแล้วชี้ไปที่หญิงสาวผมสีขาว ตาสีครีม
“สวัสดีจ๊ะ เด็กๆ ขอโทษทีนะที่ปรากฏกาย เป็นร่างบีสท์ แบบนั้น มันเป็นการปกป้องเมืองของเรา” หญิงสาวสวยที่ชื่อ ฟอร์ทีน่า พูดแล้วยิ้มอย่างร่าเริง
“ตามฉันมาจ๊ะ” เมื่อพูดเสร็จฟอร์ทีน่า ก้าวเดินไปข้างหน้า แล้วเอานิ้วชี้ข้างซ้ายที่ใส่แหวนสีทอง มีไข่มุกล้อมรอบ จุ่มลงไปที่แม่น้ำ แล้วพูดว่า “กลี-ทอร์-ฟอ-มา-ดองส์-ซี”
พื้นน้ำเกิดคลื่นขนาดย่อม บริเวณที่ฟอร์ทีน่าชี้นิ้วลงไปนั้นถูกแบ่งแยกออกเหมือนแผ่นดินที่กำลังคลื่นตัวออก ทำให้เห็นทางเดินเป็นบันไดทองยาวลงสู่ มหานคร เอควา ทาวน์
  เมื่อชี้นิ้ว  ลงสู่  ประตูชล
พื้นน้ำดล  แยกครึ่ง  แบ่งสองสาย
ปรากฏชัด  เห็นบันได  ทอดเรียงราย
ประดับมุก พลับพลาย ระยับตา
  บันไดลึก  ลงสู่  ใต้พื้นน้ำ
มองเห็นถ้ำ  สีคราม  สวยสง่า
หน้าปากถ้ำ  ถูกสลัก  ประดับมา
ข้อความนั้นมีว่า  เอควา  ทาวน์
   
“น้าฟอร์ทีน่าครับ เขาเขียนว่าเอควา ทาวน์ ใช่ป่ะครับ แสดงว่าเรามาถึงแล้วสิ” บิลถามแล้วมองดูหน้าของน้าฟอร์ทีน่า
“ใกล้แล้วล่ะ นี่แค่ประตูเมืองด่านแรกน่ะ” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วยิ้ม
“เอ่อๆ น้าครับ ผมถามอะไรหน่อย” คริสตัลพูด
“ว่ามาค่ะ” ฟอร์ทีน่าหันกลับมองหน้าของคริสตัล
“ร่างบีสท์ จะมีลักษณะน่ากลัวแบบนี้ทุกคนเลยเหรอครับ แล้วทุกคนมีบีสท์ใช่ไหมครับ” คริสตัลถาม
“คือว่า ร่างบีสท์น่ะ 1 เมือง จะมีคนใช้ร่างบีสท์ได้เพียง 1 คนเท่านั้น นั้นคือกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองนี้”ฟอร์ทีน่าตอบ
“งั้นแสดงว่า น้าก็เป็นกษัตริย์สิครับ” บิลรีบถาม
“ใช่จ๊ะ”ฟอร์ทีน่าพูดแล้วเดินเข้าไปในถ้ำ
“เท่ ชะมัดเลย กษัตริย์เป็นผู้หญิง”บิลพูดแล้วยิ้มอย่างร่าเริง
“บางทีก็เหนื่อยเอาเรื่องเลยนะ  ร่างบีสท์น่ะ จะใช้สำหรับปกป้องเมืองเวลาเมืองโดนคุกคาม ที่น้าโพล่ไปร่างบีสท์หาพวกหนู และแม่น่ะ เพราะก่อนหน้านี้ โหราศาสตร์ ประจำเมือง ทำนายไว้ว่า มีจะสงครามระหว่างเมืองในเร็วๆนี้ และน้าเห็นคนมีปีกน้าก็นึกว่าพวกมอนเตอร์มาบุก ก็เลยไปหาแบบนี้ น้าควรป้องกันไว้อ่ะจ๊ะ อย่าโกรธแล้วกันที่ทำให้ตกใจ” ฟอร์ทีน่าพูด
“ฟอร์ทีน่า โหราศาสตร์บอกว่าเมืองจะเป็นยังไงนะ”แม่ถาม
“โหร บอกว่าเมืองจะถูกคุกคามโดยพวกบุกรุก และถ้าค้นหา นักเวทย์ ไม่ได้ล่ะก็ เมืองสลายแน่” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วก้มหน้า
“นักเวทย์เหรอ แล้วเราจะไปหาที่ไหน”แม่พูดด้วยน้ำเสียงดังขึ้น
“ถึงประตูที่ 2 แล้ว” ฟอร์ทีน่าพูดขึ้น
เบื้องหน้าของพวกเราเป็นห้องขนาดเล็กมีลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัส  มีเสาหินอ่อนขนาดใหญ่ 4 เสาอยู่ตรงหน้า  บนเสาหินอ่อนแรกนั้นมีรูปปั้นม้าน้ำติดอยู่ที่เสาราวกับกำลังจะพ่นน้ำ  เสาที่สองมีรูปปั้นลักษณะคล้ายแมงกะพรุนที่กำลังจะพ่นพิษอยู่ด้านบน เสาที่สามมีรูปปั้นคล้ายปลาฉลามที่พร้อมจะขย้ำผู้บุกรุกพร้อมแววตาที่โหดร้าย  เสาสุดท้ายเป็นเสาที่ไม่มีรูปปั้นใดๆ
  เบื้องหน้านั้นเป็นห้องจัตุรัส
เห็นถนัดเสาหินอ่อนสร้างสี่ต้น
มีรูปปั้นเหนือเสานั้นต่างระคน
ศิลปะที่เจอปนความหยั่งรู้
  เสาต้นแรกเบื้องสูงปั้นม้าน้ำ
ทำท่าการพ่นน้ำเป็นฟองสู้
เสาสองคือผู้สลักปั้นกระพรุนดู
พร้อมจะสู้และทำร้ายพวกบุกมา
  เสาสามนั้นถูกสลักด้วยฉลาม
อำนาจงามกัดกินสิ้นพงศา
ฆ่าพวกมันพวกบุกรุกสิ้นชีวา
ทั้งบรรดาพวกทรยศให้หมดกัน
  เสาต้นท้ายลงไว้ความว่างเปล่า
ไม่มีเงาของรูปปั้นที่สร้างสรรค์
เหมือนยังไม่สลักลายนานาพรรณ
คงค่านั้นความว่างเปล่าให้รอเอย
ฟอร์ทีน่าเดินไปที่เสาต้นแรก แล้วเอามือทั้งห้านิ้ววางทาบลงแล้วพูดว่า
“ประตูบาดาล จงเปิด ข้าคือ กษัตริย์ของเมือง” เมื่อฟอร์ทีน่าพูดจบ รูปปั้นม้าน้ำด้านบนพ่นฟองขนาดใหญ่ชนตัวทั้ง 4 ชีวิต และทั้ง ฟิน่า ฟอร์ทีน่า บิล คริสตัล อยู่ในฟองอากาศนั้น แล้วฟองอากาศก็พุ่งชนกำแพงด้านทิศเหนือ แต่ไม่เกิดการแตกหักของกำแพงเลยสักนิด เหมือนกับกำแพงนั้นเป็นแค่กลุ่มหมอกที่ผ่านมาได้อย่างง่ายดาย
“นี่แหละ ถึงแล้ว เอควา ทาวน์” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วชี้ไปที่ตัวเมืองขนาดใหญ่
ภาพเบื้องหน้าของเมืองมีตึกสูงตระหง่าน ตึกแต่ละหลังมีลักษณะรูปทางแปลกประหลาดต่างกันไป บ้างเหมือนปะการัง บ้างเหมือนหอยกาบ
\"นั่นพระราชวัง เราจะพักกันที่นั่น\"ฟอร์ทีน่าชี้ไปที่ อาคารหลังใหญ่ มีพื้นที่อาณาบริเวณกว้าง บริเวณด้านหน้ามีสวนที่มีทั้งพืชน้ำและพืชบกตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่อย่างน่าแปลกประหลาด ประตูทางเข้าพระราชวังเป็นประตูขนาดใหญ่ยักษ์ มีรั้วสูงล้อมรอบ มียามที่สวมหมวกคล้ายก้อนหินหนักอึ้งอยู่บนศีรษะ ชุดของยามเหมือนชุดเกราะของพวกฮิวแมน แต่ต่างกันตรงที่มีมุกประดับตรงกลางเสื้อเกราะ และมีแสงกระพริบตลอดเวลา อาวุธที่ยามถือนั้น มีลักษณะแปลกตา คือ เป็นอาวุธด้ามยาวที่ทำจากแร่ที่แข็งราวเพชร ปลายทั้งสองมีด้านมีตุ้มขนาดใหญ่และมีหนามเล็กๆขึ้นโดยรอบ
\"เดินไปเหรอครับ\"คริสตัลถาม
\"เปล่าจ๊ะ เดี่ยวมีคนมารับ\" ฟอร์ทีน่าบอก
\"ต่างกับสมัยก่อนมากเลยนะ สมัยก่อนยังเป็นแค่เมืองเล็กๆเอง เล็กกว่าพระราชวังของเธออีกนะ ฟอร์ทีน่า\" ฟีน่า (แม่)พูด
\"สมัยก่อนสงครามมันเยอะเวลาพัฒนาประเทศมันมีน้อย มาสมัยนี้สงครามค่อยลดลง เวลาพัฒนามันเลยเยอะ\"ฟอร์ทีน่าบอก
มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างเคลื่อนที่มา ไม่ใช่สิ ว่ายน้ำมา มันคือ เรือลากที่มีปลาวาฬตัวใหญ่ สองตัวแทนม้า และเป็นเรือแทนที่จะเป็นรถม้า เรือมีขนาดใหญ่พอๆกับรถเมล์ 3 คันต่อกันเลยทีเดียว ตัวเรือถูกทาด้วยสีแดงสลับทอง ประตูมีสีเงิน บริเวณตัวเรือมีหน้าต่างทีทำจากกระจกยาวต่อกันทั้งลำเรือ และด้านเพดานภายในเรือ มีรูปภาพวาดที่งามวิจิตรมันคือรูปของ ฉลามที่กำลังต่อสู้กับพวกปีศาจ
\"ถวายบังคม พะยะค่ะ\" ชายสวมชุดเหมือนองครักษ์กล่าวแล้วโค้งคำนับให้ฟอร์ทีน่า
\"ขึ้นเรือกันเถอะ เราคงไม่ต้องเดินหรอกนะ\"ฟอร์ทีน่าพูด
\"ผมคงบินเอาอ่ะครับ\" คริสตัลพูดแล้วยิ้ม
\"งั้นผมจะคลานเลย บินก็ไม่ได้ ว่ายน้ำก็ยังไม่เป็น ทำเป็นแต่พ้นลูกไฟเล็กๆออกจากนิ้ว\" บิลพูดแล้วมองดูนิ้วชี้ตัวเอง
\"อะไรนะ\"แม่พูดอย่างสนใจ
\"ก็แค่ลูกไฟเล็กๆเอง\"บิลพูด
\"บิล นายพ่นลูกไฟได้เหรอ แจ๋วชะมัด ชั้นไม่เหนรู้เลย\"คริสตัลพูดอย่างสนใจ
\"ผมไม่เคยบอกต่างหาก\"บิลบอก
\"ฟีน่า ฉันคิดว่าเราคงเจอนักเวทย์แล้วล่ะ\"ฟอร์ทีน่าพูดแล้วหันหน้าไปยิ้มให้กับฟีน่าและบิล
\"เชื้อพ่อมันแรง แย่จริง\"ฟิน่าพูดแล้วก้มหน้า
\"บิล ถึงวังแล้วไปหาน้าหน่อยนะ น้าจะสอนวิชาให้\"ฟอร์ทีน่าพูดแล้วจับไหล่บิล
เรือเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ผ่านร้านขายอาหาร ที่มีแม่ค้าดูวุ่นวาย ผ่านร้านขายอาวุธที่มีลานประลองอยู่ข้าง
\"ฟอร์ทีน่า จะดีเหรอ เค้ายังเด็กนะ\"ฟีน่าพูด แกมเป็นห่วง
\"ฟีน่า เด็กสมควรได้รับการป้องกันตัว และสำคัญถ้าเรามีนักเวทย์เป็นเปิดผนักเสาหิน เราก็จะป้องกันเมืองได้\"ฟอร์ทีน่าพูด
\"ลูกของพี่ไม่ใช่สิ่งของนะ ถึงจะได้ทำแบบนั้น\"ฟีน่าพูดแล้วตวาด
\"เราต้องรักษาเมืองนะ เทพผู้พิทักษ์หลับไหลมานาน รอผู้ปกป้องเมือง ตั้งแต่แม่เสียชีวิตไป ก็ไม่มีนักเวทย์มาคอยเปิดผนึก\"ฟอร์ทีน่าก้มหน้า
\"งั้นก็ได้\"ฟีน่ายิ้มแล้วลูบหัวฟอร์ทีน่า
\"พูดอะไรกันเหรอครับ\"บิลถาม
\"ชั้นอิจฉานายว่ะ บิล\" คริสตัลพูดแล้วยิ้ม
\"ถึงแล้วล่ะ ลงกันได้\" ฟอร์ทีน่าพูดแล้วประตูเรือก็เปิดเองโดยอัตโนมัติ 
“บิล คริสตัล แม่ลืมบอกลูกนี่ ฟอร์ทีน่า น้องสาวแม่เอง” แม่พูดแล้วชี้ไปที่หญิงสาวผมสีขาว ตาสีครีม
“สวัสดีจ๊ะ เด็กๆ ขอโทษทีนะที่ปรากฏกาย เป็นร่างบีสท์ แบบนั้น มันเป็นการปกป้องเมืองของเรา” หญิงสาวสวยที่ชื่อ ฟอร์ทีน่า พูดแล้วยิ้มอย่างร่าเริง
“ตามฉันมาจ๊ะ” เมื่อพูดเสร็จฟอร์ทีน่า ก้าวเดินไปข้างหน้า แล้วเอานิ้วชี้ข้างซ้ายที่ใส่แหวนสีทอง มีไข่มุกล้อมรอบ จุ่มลงไปที่แม่น้ำ แล้วพูดว่า “กลี-ทอร์-ฟอ-มา-ดองส์-ซี”
พื้นน้ำเกิดคลื่นขนาดย่อม บริเวณที่ฟอร์ทีน่าชี้นิ้วลงไปนั้นถูกแบ่งแยกออกเหมือนแผ่นดินที่กำลังคลื่นตัวออก ทำให้เห็นทางเดินเป็นบันไดทองยาวลงสู่ มหานคร เอควา ทาวน์
  เมื่อชี้นิ้ว  ลงสู่  ประตูชล
พื้นน้ำดล  แยกครึ่ง  แบ่งสองสาย
ปรากฏชัด  เห็นบันได  ทอดเรียงราย
ประดับมุก พลับพลาย ระยับตา
  บันไดลึก  ลงสู่  ใต้พื้นน้ำ
มองเห็นถ้ำ  สีคราม  สวยสง่า
หน้าปากถ้ำ  ถูกสลัก  ประดับมา
ข้อความนั้นมีว่า  เอควา  ทาวน์
   
“น้าฟอร์ทีน่าครับ เขาเขียนว่าเอควา ทาวน์ ใช่ป่ะครับ แสดงว่าเรามาถึงแล้วสิ” บิลถามแล้วมองดูหน้าของน้าฟอร์ทีน่า
“ใกล้แล้วล่ะ นี่แค่ประตูเมืองด่านแรกน่ะ” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วยิ้ม
“เอ่อๆ น้าครับ ผมถามอะไรหน่อย” คริสตัลพูด
“ว่ามาค่ะ” ฟอร์ทีน่าหันกลับมองหน้าของคริสตัล
“ร่างบีสท์ จะมีลักษณะน่ากลัวแบบนี้ทุกคนเลยเหรอครับ แล้วทุกคนมีบีสท์ใช่ไหมครับ” คริสตัลถาม
“คือว่า ร่างบีสท์น่ะ 1 เมือง จะมีคนใช้ร่างบีสท์ได้เพียง 1 คนเท่านั้น นั้นคือกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองนี้”ฟอร์ทีน่าตอบ
“งั้นแสดงว่า น้าก็เป็นกษัตริย์สิครับ” บิลรีบถาม
“ใช่จ๊ะ”ฟอร์ทีน่าพูดแล้วเดินเข้าไปในถ้ำ
“เท่ ชะมัดเลย กษัตริย์เป็นผู้หญิง”บิลพูดแล้วยิ้มอย่างร่าเริง
“บางทีก็เหนื่อยเอาเรื่องเลยนะ  ร่างบีสท์น่ะ จะใช้สำหรับปกป้องเมืองเวลาเมืองโดนคุกคาม ที่น้าโพล่ไปร่างบีสท์หาพวกหนู และแม่น่ะ เพราะก่อนหน้านี้ โหราศาสตร์ ประจำเมือง ทำนายไว้ว่า มีจะสงครามระหว่างเมืองในเร็วๆนี้ และน้าเห็นคนมีปีกน้าก็นึกว่าพวกมอนเตอร์มาบุก ก็เลยไปหาแบบนี้ น้าควรป้องกันไว้อ่ะจ๊ะ อย่าโกรธแล้วกันที่ทำให้ตกใจ” ฟอร์ทีน่าพูด
“ฟอร์ทีน่า โหราศาสตร์บอกว่าเมืองจะเป็นยังไงนะ”แม่ถาม
“โหร บอกว่าเมืองจะถูกคุกคามโดยพวกบุกรุก และถ้าค้นหา นักเวทย์ ไม่ได้ล่ะก็ เมืองสลายแน่” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วก้มหน้า
“นักเวทย์เหรอ แล้วเราจะไปหาที่ไหน”แม่พูดด้วยน้ำเสียงดังขึ้น
“ถึงประตูที่ 2 แล้ว” ฟอร์ทีน่าพูดขึ้น
เบื้องหน้าของพวกเราเป็นห้องขนาดเล็กมีลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัส  มีเสาหินอ่อนขนาดใหญ่ 4 เสาอยู่ตรงหน้า  บนเสาหินอ่อนแรกนั้นมีรูปปั้นม้าน้ำติดอยู่ที่เสาราวกับกำลังจะพ่นน้ำ  เสาที่สองมีรูปปั้นลักษณะคล้ายแมงกะพรุนที่กำลังจะพ่นพิษอยู่ด้านบน เสาที่สามมีรูปปั้นคล้ายปลาฉลามที่พร้อมจะขย้ำผู้บุกรุกพร้อมแววตาที่โหดร้าย  เสาสุดท้ายเป็นเสาที่ไม่มีรูปปั้นใดๆ
  เบื้องหน้านั้นเป็นห้องจัตุรัส
เห็นถนัดเสาหินอ่อนสร้างสี่ต้น
มีรูปปั้นเหนือเสานั้นต่างระคน
ศิลปะที่เจอปนความหยั่งรู้
  เสาต้นแรกเบื้องสูงปั้นม้าน้ำ
ทำท่าการพ่นน้ำเป็นฟองสู้
เสาสองคือผู้สลักปั้นกระพรุนดู
พร้อมจะสู้และทำร้ายพวกบุกมา
  เสาสามนั้นถูกสลักด้วยฉลาม
อำนาจงามกัดกินสิ้นพงศา
ฆ่าพวกมันพวกบุกรุกสิ้นชีวา
ทั้งบรรดาพวกทรยศให้หมดกัน
  เสาต้นท้ายลงไว้ความว่างเปล่า
ไม่มีเงาของรูปปั้นที่สร้างสรรค์
เหมือนยังไม่สลักลายนานาพรรณ
คงค่านั้นความว่างเปล่าให้รอเอย
ฟอร์ทีน่าเดินไปที่เสาต้นแรก แล้วเอามือทั้งห้านิ้ววางทาบลงแล้วพูดว่า
“ประตูบาดาล จงเปิด ข้าคือ กษัตริย์ของเมือง” เมื่อฟอร์ทีน่าพูดจบ รูปปั้นม้าน้ำด้านบนพ่นฟองขนาดใหญ่ชนตัวทั้ง 4 ชีวิต และทั้ง ฟิน่า ฟอร์ทีน่า บิล คริสตัล อยู่ในฟองอากาศนั้น แล้วฟองอากาศก็พุ่งชนกำแพงด้านทิศเหนือ แต่ไม่เกิดการแตกหักของกำแพงเลยสักนิด เหมือนกับกำแพงนั้นเป็นแค่กลุ่มหมอกที่ผ่านมาได้อย่างง่ายดาย
“นี่แหละ ถึงแล้ว เอควา ทาวน์” ฟอร์ทีน่าพูดแล้วชี้ไปที่ตัวเมืองขนาดใหญ่
ภาพเบื้องหน้าของเมืองมีตึกสูงตระหง่าน ตึกแต่ละหลังมีลักษณะรูปทางแปลกประหลาดต่างกันไป บ้างเหมือนปะการัง บ้างเหมือนหอยกาบ
\"นั่นพระราชวัง เราจะพักกันที่นั่น\"ฟอร์ทีน่าชี้ไปที่ อาคารหลังใหญ่ มีพื้นที่อาณาบริเวณกว้าง บริเวณด้านหน้ามีสวนที่มีทั้งพืชน้ำและพืชบกตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่อย่างน่าแปลกประหลาด ประตูทางเข้าพระราชวังเป็นประตูขนาดใหญ่ยักษ์ มีรั้วสูงล้อมรอบ มียามที่สวมหมวกคล้ายก้อนหินหนักอึ้งอยู่บนศีรษะ ชุดของยามเหมือนชุดเกราะของพวกฮิวแมน แต่ต่างกันตรงที่มีมุกประดับตรงกลางเสื้อเกราะ และมีแสงกระพริบตลอดเวลา อาวุธที่ยามถือนั้น มีลักษณะแปลกตา คือ เป็นอาวุธด้ามยาวที่ทำจากแร่ที่แข็งราวเพชร ปลายทั้งสองมีด้านมีตุ้มขนาดใหญ่และมีหนามเล็กๆขึ้นโดยรอบ
\"เดินไปเหรอครับ\"คริสตัลถาม
\"เปล่าจ๊ะ เดี่ยวมีคนมารับ\" ฟอร์ทีน่าบอก
\"ต่างกับสมัยก่อนมากเลยนะ สมัยก่อนยังเป็นแค่เมืองเล็กๆเอง เล็กกว่าพระราชวังของเธออีกนะ ฟอร์ทีน่า\" ฟีน่า (แม่)พูด
\"สมัยก่อนสงครามมันเยอะเวลาพัฒนาประเทศมันมีน้อย มาสมัยนี้สงครามค่อยลดลง เวลาพัฒนามันเลยเยอะ\"ฟอร์ทีน่าบอก
มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างเคลื่อนที่มา ไม่ใช่สิ ว่ายน้ำมา มันคือ เรือลากที่มีปลาวาฬตัวใหญ่ สองตัวแทนม้า และเป็นเรือแทนที่จะเป็นรถม้า เรือมีขนาดใหญ่พอๆกับรถเมล์ 3 คันต่อกันเลยทีเดียว ตัวเรือถูกทาด้วยสีแดงสลับทอง ประตูมีสีเงิน บริเวณตัวเรือมีหน้าต่างทีทำจากกระจกยาวต่อกันทั้งลำเรือ และด้านเพดานภายในเรือ มีรูปภาพวาดที่งามวิจิตรมันคือรูปของ ฉลามที่กำลังต่อสู้กับพวกปีศาจ
\"ถวายบังคม พะยะค่ะ\" ชายสวมชุดเหมือนองครักษ์กล่าวแล้วโค้งคำนับให้ฟอร์ทีน่า
\"ขึ้นเรือกันเถอะ เราคงไม่ต้องเดินหรอกนะ\"ฟอร์ทีน่าพูด
\"ผมคงบินเอาอ่ะครับ\" คริสตัลพูดแล้วยิ้ม
\"งั้นผมจะคลานเลย บินก็ไม่ได้ ว่ายน้ำก็ยังไม่เป็น ทำเป็นแต่พ้นลูกไฟเล็กๆออกจากนิ้ว\" บิลพูดแล้วมองดูนิ้วชี้ตัวเอง
\"อะไรนะ\"แม่พูดอย่างสนใจ
\"ก็แค่ลูกไฟเล็กๆเอง\"บิลพูด
\"บิล นายพ่นลูกไฟได้เหรอ แจ๋วชะมัด ชั้นไม่เหนรู้เลย\"คริสตัลพูดอย่างสนใจ
\"ผมไม่เคยบอกต่างหาก\"บิลบอก
\"ฟีน่า ฉันคิดว่าเราคงเจอนักเวทย์แล้วล่ะ\"ฟอร์ทีน่าพูดแล้วหันหน้าไปยิ้มให้กับฟีน่าและบิล
\"เชื้อพ่อมันแรง แย่จริง\"ฟิน่าพูดแล้วก้มหน้า
\"บิล ถึงวังแล้วไปหาน้าหน่อยนะ น้าจะสอนวิชาให้\"ฟอร์ทีน่าพูดแล้วจับไหล่บิล
เรือเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ผ่านร้านขายอาหาร ที่มีแม่ค้าดูวุ่นวาย ผ่านร้านขายอาวุธที่มีลานประลองอยู่ข้าง
\"ฟอร์ทีน่า จะดีเหรอ เค้ายังเด็กนะ\"ฟีน่าพูด แกมเป็นห่วง
\"ฟีน่า เด็กสมควรได้รับการป้องกันตัว และสำคัญถ้าเรามีนักเวทย์เป็นเปิดผนักเสาหิน เราก็จะป้องกันเมืองได้\"ฟอร์ทีน่าพูด
\"ลูกของพี่ไม่ใช่สิ่งของนะ ถึงจะได้ทำแบบนั้น\"ฟีน่าพูดแล้วตวาด
\"เราต้องรักษาเมืองนะ เทพผู้พิทักษ์หลับไหลมานาน รอผู้ปกป้องเมือง ตั้งแต่แม่เสียชีวิตไป ก็ไม่มีนักเวทย์มาคอยเปิดผนึก\"ฟอร์ทีน่าก้มหน้า
\"งั้นก็ได้\"ฟีน่ายิ้มแล้วลูบหัวฟอร์ทีน่า
\"พูดอะไรกันเหรอครับ\"บิลถาม
\"ชั้นอิจฉานายว่ะ บิล\" คริสตัลพูดแล้วยิ้ม
\"ถึงแล้วล่ะ ลงกันได้\" ฟอร์ทีน่าพูดแล้วประตูเรือก็เปิดเองโดยอัตโนมัติ 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น