ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Love :: บทนิทานแห่งความรัก (รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #5 : The Tale 1 :: The Curse [คำสาปแช่ง] 01 - อดีตเชื้อพระวงศ์

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 60




    The Character

    From The Curse


    ตัวละครหลัก

    “ขอสาปแช่งให้ใครสักคนพบกับจุดจบเช่นเดียวกับข้า!!!”

    -ดาร์เลเน่ (Darlene)-

    เด็กสาวเรือนผมสีขาว นัยน์ตาสีน้ำเงินราวกับมหาสมุทร

    แม่มดสาวผู้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่น่าสังเวช


    ตัวละครเสริม

    -โฮเซคิ-

    -ซาอัส -

    -มาเรีย & ไมเคิล-

    - เฟลิกซ์ -

    -วิลเลี่ยม-

    -อเล็กซ์-




    The Curse [คำสาปแช่ง] 01
    อดีตเชื้อพระวงศ์



    ยุคสมัยนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา...โลกใบนี้ไม่เคยมีความแน่นอนอยู่แล้ว เช่นเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ทั้งแม่มด ทั้งชั้นชน ทั้งทาส ถูกกล่าวถึงในช่วงยุคกลางนั้นมันช่างโหดร้ายเสียยิ่งกระไร ทั้งการล่าแม่มด ทั้งการแบ่งชั้นชนที่น่ารังเกียจ ผู้คนที่มีฐานะเหนือถูกยกย่องประหนึ่งสูงส่งราวกับเป็นเจ้าแห่งโลก ผู้ที่มีฐานะด้อยต่ำลงมาถูกมองราวกับเป็นเศษขยะ นับว่าเป็นยุคสมัยที่รุ่งเรื่องทว่ากลับซ่อนความมืดมากมายไว้ในฉากหน้านั้น


    ทุกอย่างเพื่อความสุขสบายของผู้คนที่มีฐานะสูงส่งเท่านั้นเอง


    เพล้ง!!


    เสียงวัตถุที่ทำจากแก้วกระทบกับพื้นเสียงดังภายในห้องที่มิดมืดทำให้เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันมองจานของเด็กสาววัยเดียวกันที่ร่วงหล่นลงพื้นเสียงดังทำให้เสียงฝีเท้าหนักของใครบางคนดังขึ้นมาตามด้วยเสียงฝ่ามือฟาดลงที่ใบหน้าของเด็กสาวคนนั้น


    ทำเอาเด็กคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ภายในห้องด้วยกันหลับตาแน่นก่อนพยายามไม่มองเด็กสาวที่ทำจานตกเมื่อครู่ ทว่าเพราะเสียงกรีดร้องของเธอและเสียงลากทำให้พวกเขาหันไปมองเด็กสาวด้วยสีหน้าหวาดกลัวปนสังเวช...


    ที่นี่มันนรกชัดๆ!


    ที่นี่คือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อดังของเมืองแห่งนี้...ถึงจะเรียกว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็เถอะ แต่จริงๆ มันก็แค่ฉากหน้าที่ปิดบังทุกอย่างไว้ อันที่จริงมันก็สถานที่ค้าทาสของพวกทีสูงส่งเท่านั้น เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวราวกับหิมะเหลือบมองรอบๆ ห้องด้วยสีหน้าหวาดผวา ใบหน้าของเธอราวกับเทพธิดาทำให้หลายๆ คนลังเลที่จะทำร้ายเธอจนช้ำ ได้เพียงแค่ตบหน้าเท่านั้น ไม่ใช่เพราะงดงาม แต่ว่าเนื่องจากราคาสูงต่างหาก....คงเพราะเคยเป็นอดีตเชื่อพระวงศ์เดิม


    ใช่...เธอคือเชื้อพระวงศ์


    ดาร์เลเน่ เดอ อัลเฟโดร่าคือหนึ่งในเชื้อพระวงศ์แห่งนี้ของประเทศแห่งนี้ ทว่าเพราะเกิดสงครามขึ้นทำให้เมืองทั้งเมืองล่มสลายลงทั้งพ่อแม่พี่ชายของเธอถูกปลงพระชนลงเหลือเพียงแค่เธอคนเดียว ทว่าก่อนที่ราชาผู้เป็นพี่ชายของเธอจะมาถึงเมืองนั้นดาร์เลเน่กลับถูกพาตัวมายังที่นี่เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในเมืองเสียก่อน แม้เธอจะไม่โดนทำร้ายมากก็เถอะ แต่ดาร์เลเน่เห็นเด็กหลายคนโดนทำร้ายเสียจนช้ำไปหมด มันโหดร้ายสุดๆ


    ทว่าระหว่างที่เธอกำลังนั่งเหม่อนั้นเสียงระฆังบอกว่าหมดเวลาอาหารเย็นทำให้เด็กสาวรีบหยิบจานพลางเดินไปล้างตามเด็กคนอื่นก่อนเดืนเข้าแถวตามไปยังห้องนอน เด็กสาวเอนตัวลงบนที่นอนที่ถูกจัดไว้ในห้องก่อนถอนหายใจออกมา ทว่าเพราะเสียงกรีดร้องของเด็กที่ถูกลงโทษดังขึ้นทำให้เด็กสาวรีบยกผ้าห่มขึ้นคลุมทันที


    เธอได้ยินเสียงเด็กที่นอนอยู่ภายในห้องเดียวกันสะอื้นเล็กน้อยพลางร้องหาผู้เป็นพ่อแม่ตนเองก่อนจะมีเสียงผู้ดูแลตะโกนให้พวกเขาหุบปากไป ทำให้เด็กๆ หลายคนกลั้นเสียงตนเองไว้ ดาร์เลเน่เหลือบมองไปยังประตูเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงเบากับคนที่นอนอยู่ตรงกับเธอพอดี


    “ที่นี่มันโหดร้ายเสียจริง...”


    “ใช่..โหดร้ายสุดๆ”


    เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทราวกับชาวตะวันออกเอ่ยเสียงลอยๆ ขึ้นมาก่อนพลิกตัวกลับมามองดาร์เลเน่เล็กน้อย ดวงตาสีดำสนิทราวกับอัญมณีมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า..เธอคงเป็นชาวตะวันออกจริงๆ นั้นแหละ ดาร์เลเน่ยิ้มรับเด็กสาวตรงหน้าอีกครั้งก่อนกระซิบเสียงเบา


    “เจ้า...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้”


    “พ่อแม่ของข้าโดนสังหารตอนที่เดินทางเข้าประเทศน่ะ”


    “เพราะผิดกฎหมาย?”


    “ไม่ใช่พวกท่านเป็นขุนนาง”


    “งั้นเพราะอะไร?”


    “ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์”


    เด็กสาวกล่าวเสียงลอยๆ ทำให้ดาร์เลเน่พยักหน้าเห็นด้วยก่อนพลิกกลับไปนอนท่าปกติของเธอ ทว่าทั้งสองก็เลือกที่จะคุยกันต่อไปอีก เด็กสาวเรือนผมสีดำดูเงียบไปอีกครั้งก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ


    “เธอเป็นลูกขุนนางหรือเปล่า?”


    “ไม่ ทำไมหรือ?”


    “เปล่า แค่รู้สึกว่าเธอดูผู้ใหญ่เกินกว่าวัยสิบสามเท่านั้นเอง”


    เปล่า ข้าไม่ได้เป็นลูกของขุนนาง”


    ดาร์เลเน่ตอบเสียงเรียบๆ ทำให้อีกคนเงียบเล็กน้อยก่อนหันมองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจ...ก่อนตัดสินใจถามต่อด้วยน้ำเสียงเรียบๆ


    “งั้นเป็นเชื้อพระวงศ์สินะ”


    “ราวๆ นั้น”


    “ข้าชื่อโฮเซคิ”


    “ดาร์เลเน่ เธออยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”


    “ราวๆ หนึ่งเดือนก่อนเธอน่ะ”


              “งั้นเหรอ— เงียบก่อน”


              ดาร์เลเน่กล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบเมื่อเห็นแสงไฟจากตะเกียงส่องผ่านประตูตรงหน้า เด็กสาวทั้งสองรีบเนียนหลับก่อนที่ชายหนุ่มวัยสามสิบร่างกำยำจะเดินผ่านไปทำให้ทั้งสองหันกลับมาคุยกันอีกครั้ง


    “เราอยากออกจากที่นี่” ดาร์เลเน่ว่าทำให้อีกคนพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่จะบอกต่อเสียงเรียบๆ


    “ข้าเองก็เหมือนกัน”


    “เธอรู้ทางหนีหรือเปล่า?”


    “ก็พอที่จะรู้บ้างแต่ว่าถ้าหนีไปได้...เราจะไปไหนกันล่ะ?”


    โฮเซคิถามต่อเสียงเบาทำให้ดาร์เนเล่ฉุกคิดขึ้นได้แม้เธอจะหนีออกไปได้แต่ว่าไม่มีที่จะไปอยู่แล้วนี้ เพราะที่นี่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดของเธอเสียหน่อย เด็กสาวถอนหายใจออกมาก่อนหลับตาลงเพื่อพักผ่อนอย่างช่วยไม่ได้


    สวรรค์ช่วยพาเธออกจากที่นี่ทีเถอะ!


    ทว่าไม่นานนักรุ่งเช้ากลับมาเยือนทำให้พวกเธอต้องลุกตามที่เสียงระฆังดังขึ้นมา หลังจากที่ทำธุระทุกอย่างเสร็จ พวกเขารีบวิ่งตรงไปยังจุดที่ผู้ดูแลเรียกอย่างไม่ลังเล แน่นอนว่าทั้งวันพวกเธอถูกใช้งานราวกับทาสไม่มีผิดเพี้ยน ตั้งแต่งานบ้าน งานสวน หรือแม้กระทั่งบางคนต้องตกเป็นของเล่นของพวกผู้ใหญ่ ดาร์เลเน่กับโฮเซคิเหลือบมองเด็กวัยเดียวกันี่ถูกลากไปยังที่พักอีกครั้งด้วยสีหน้าเห็นใจ


    “พวกโสโครกไม่เลือกแม้กระทั่งหญิงชายหรือไร”


    โฮเซคิบ่นออกมาเบาๆ กับดาร์เลเน่ก่อนหันมองด้านหลังตนเองอย่างไม่พอใจ...ก่อนหันกลับมาตัดกิ่งไม้ตรงหน้าตนเองต่อ ทว่าเพราะเสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นทำให้พวกเธอหันไปมองเจ้าของเสียงอย่างรวดเร็ว


    “ใช่ พวกนั้นไม่เลือก”


    เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนเดินเข้ามาช่วยพวกเขาตัดแต่งกิ่งไม้ ดาร์เลเน่เห็นว่าดวงตาของเขามีสีคล้ำเล็กน้อยก่อนยิ้มอ่อนๆ ให้กบัทั้งสองคนทำเอาแม้แต่โฮเซคิยังอดถามไม่ได้


    “นายเคยโดน?”


    แต่คำตอบคือส่ายหน้า...


    “เพื่อนสนิทของข้าน่ะ...”


    เขาบอกก่อนมองไปยังเด็กหนุ่มที่เป็นหนึ่งในคนที่โดนลากเข้าไปก่อนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เบาจนน่ากลัว


    “เขากลับมาพร้อมคราบแบบนั้นตลอด...ตอนนี้ประสารทเริ่มหลอนจนบางครั้งทำลายตัวเอง...”


    “พวกนั้นมันเลว”


    “ข้าเกลียดที่นี่ ถ้าจะโดนทำแบบนั้นขอตายดีกว่า”


    “เจ้าชื่ออะไรนะ”


    “ซาอัส”


    “งั้นเหรอ?.....”


    ดาร์เลเน่เอ่ยเสียงเรียบๆ ก่อนที่จะมีเสียงเรียกจากชายหนุ่มทำให้ทั้งสามเลิกคุยกันก่อนวิ่งไปยังคนที่เรียกตนเองทันทีด้วยความไม่เต็มใจนัก ทว่าสีหน้าของคนๆ นั้นกลับทำให้ทั้งสามงุนงงเล็กน้อย ชายหนุ่มตรงหน้าแลดูอ่อนโยนกว่าคนอื่นๆ หลายเท่าก่อนเอ่ยถามเสียงนุ่มนวล


    “ดาร์เลเน่...โฮเซคิและซาอัสใช่ไหม?”


    คำถามของชายหนุ่มทำให้ทั้งสามพยักหน้าน้อยๆ แทนคำตอบก่อรอยยิ้มจะระบายบนใบหน้าของเขา ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบศีรษะทั้งสามเล็กน้อยก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลยิ่งกว่าเดิม


    “หลังจากนี้พวกเธอไปเก็บข้าวของของตนเองเสีย”


    “ทำไมหรือคะ?”


    “ข้าซื้อพวกเจ้าแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล”


    “ล..แล้วเพื่อนของข้าล่ะ”


    “เช่นกัน ไม่ต้องห่วง เอาล่ะ ไปได้แล้ว”


    ชายหนุ่มว่าก่อนปล่อยให้ทั้งสามเดินเข้าไปเก็บของท่ามกลางสีหน้าหงุดหงิดของเหล่าผู้ดูแลที่มองทั้งสามคนอยู่ พวกเขารีบวิ่งเข้าไปเก็บของของตนเองด้วยความงุนงงไม่น้อย..อนึ่งไม่คิดว่าจะมีคนมาซื้อตนเองเร็วขนาดนี้ แถมยังดูใจดีเสียจนน่าตกใจต่างจากลูกค้าคนอื่นๆ ที่เธอเคยเห็นมามากแถมเข้ายังดูอายุไล่เลี่ยกับทั้งสามพอสมควร


    พวกเขาเดินออกจากที่พักพร้อมเด็กจำนวนสามถึงสี่คนก่อนรถม้าจะวิ่งมาหยุดตรงหน้าพร้อมชายหนุ่มคนนั้นยิ้มให้ทั้งสามเล็กน้อย ดาร์เลเน่เงยขึ้นมองเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มคนนั้นอุ้มเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกับพวกเขาถ้าจำไม่ผิดคนๆ นั้นน่าจะเป็นเพื่อนของซาอัสแน่ๆ แต่ว่าดวงตาสีมรกตของเจ้าตัวดูเหม่อลอยแปลกๆ ที่มุมปากมีรอยช้ำเล็กน้อย มือข้างที่ว่างของชายหนุ่มยกขึ้นลูบใบหน้าที่มีรอยแผลของเด็กหนุ่มเล็กน้อยก่อนยิ้มอ่อนๆ ออกมาพลางบอกให้เด็กคนอื่นๆ เดินขึ้นรถตรงหน้า แน่นอนว่าพวกเขายอมทำตามอย่างง่ายดาย


    “ทำไมถึงซื้อพวกเราล่ะคะ?”


    “ข้าน่ะสัญญากับพ่อของพวกเจ้าไว้ว่าจะดูแลลูกๆ ของเขาแทน” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเรียบๆ ทำให้เด็กๆ ทั้งหมดมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนเขาจะกล่าวต่ออีกครั้ง


     “ไม่ต้องห่วงข้าไม่ทำร้ายพวกเจ้าเหมือนพวกนั้นหรอก”


    เขากล่าวก่อนรถม้าจะเริ่มแล่นต่ออย่างรวดเร็วทำให้ดาร์เลเน่เงยขึ้นมองท้องฟ้าที่สว่างต่างจากที่พักเมื่อครู่มาก ก่อนยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ ดวงตาสีน้ำเงินไล่มองรอบๆ ก่อนนึกคำพูดบางอย่างออกมาท่ามกลางความเงียบสงัด


    ขอบคุณพระเจ้าที่เห็นใจเธอ...

     

     

     

     

     

     



    ------------------------------------------------------------

    เสร็จไปตอนแล้วค่ะ ถถถ

    คนที่มีชื่อจะมีเรื่อราวของตนเองค่ะ แต่อยู่ที่เรื่องที่เท่าไรนี้ยังไม่บอก

    ของดาร์เลเน่จะออกแนวครอบครัว เพื่อนๆ น่ะค่ะ ไม่ใช่รักแบบหนุ่มสาว

    แล้วก็ชายหนุ่มกับเด็กที่ถูกอุ้มน่ะค่ะ..สองคนนี้ก็มีเรื่องราวของตนเอง แต่อยู่ในจบแบบ Happy น่ะค่ะ

    (ในสุขนาฏกรรมน่ะค่ะ ส่วนคนอื่นๆ เป็นโสกมหมด)

    ถ้างงก็ขออภัยนะคะ พอดีรีบพิมพ์อนึ่งที่บ้านแผ่นกระดาษตอนกลางวันเกือบสี่สิบสามองศาค่ะ 

    สุขสันต์วันสงกานต์นะคะ แต่ว่าแผ่นกระดาษไม่เล่นสงกานต์ค่ะ ร้อนแดด!!

    บ้านยิ่งอยู่ที่ราบสูงอยู่แค่นั่งอยู่ในบ้านก็จะละลายเป็นไอศกรีมแล้ว ฮือ

    บวกกับเป็นคนอารมณ์ไม่คงที่(ดีบ้างร้ายบ้าง ตามประสาคนไม่ปกติ(????))อยู่

    เจออากาศร้อนเข้าไปยิ่งหนักเลย ฮา แต่ปกติเป็นคนนิ่งๆ ไม่แสดงออกทางสีหน้านะคะ

    ปล.ไม่ได้เป็นไพโบล่าร์นะเออ







    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×