ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Love :: บทนิทานแห่งความรัก (รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #23 : The Tale 3 :: Dear Friend [เพื่อนรัก] 01 - เหยื่อรายที่สอง

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 60




    The Main Character

    From Dear Friend 



    ตัวละครหลัก

    “ข้าชอบเจ้า เอลก้า ชอบเอลก้ามานานแล้วด้วย "
    "แอน เราคิดกับเจ้าแค่เพื่อนสนิทมากว่าอย่างอื่นนะ”

    สองเพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก



    ตัวละครเสริม

    -แม่มดชุดขาว-

    -ชายหนุ่มชุดดำ และ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีแดง-

    - ลิลลี่ (หญิงสาวที่ทำงานที่เดียวกัน) -

    - มอร์แกน (ชายหนุ่มที่ทำงานที่เดียวกัน) -





    Dear Friend [เพื่อนรัก] 01
    เหยื่อรายที่สอง




    ข้ากับเธอคนนั้นคือเพื่อนรัก

    เพื่อนที่ไม่มีวันพรากจากกัน

     


                ผู้ให้นิยามคำว่าปีศาจคือตัวมนุษย์เอง ผู้ให้คำว่าความชั่วร้ายคือมนุษย์ ผู้ที่สร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมาคือมนุษย์เอง ทว่าสุดท้ายแล้วปีศาจก็คือตัวมนุษย์ ความชั่วก็คือมนุษย์ คนที่ทำร้ายกฎเกณฑ์ก็คือมนุษย์เอง มนุษย์สร้างนิยามของบางอย่างขึ้นมาเพื่อที่จะรอวันทำลายมันเสียเองในอนาคต


                เมื่อครั้งอดีต คุณเคยทำพลาดหรือเปล่า คุณเคยอยากกลับไปแก้ไขมันได้หรือเปล่า คุณอยากเปลี่ยนอดีตที่มีผลต่อปัจจุบันหรือเปล่า แน่นอน อยากสิ..แต่เรื่องพรรค์นั้นน่ะ ทำไม่ได้หรอก อดีตยังคงเป็นแค่อดีต สามารถมองเห็นมันได้ แต่ไม่มีวันเปลี่ยนมันได้


                แสงสว่างส่องลงมาภายใต้บ้านที่ทำมาจากไม้อย่างดีสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย ด้านล่างของบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของขนมปังที่เพิ่งอบใหม่ ขนมปังสีสันต่างกันมันช่างดูสร้างสรรค์และงดงามในเวลาเดียวกัน หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีม่วงอ่อนหยิบถาดขนมปังสีเงินขึ้นจากโต๊ะไม้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


                แอนนา หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีม่วงอ่อนสั้นดูแปลกตารับกับดวงตาสีม่วงเข้มเพิ่งความโดดเด่นให้แก่เส้นผม เธอคือเจ้าของร้านขนมปังที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทางประตูของอาณาจักร ทำเลมีผู้คนจากอาณาจักรอื่นเดินผ่านไปมาอย่างไม่ขาดสาย หากแต่ถึงกระนั้นร้านขนมปังก็ไม่ได้วุ่นวายเท่าร้านเสื้อผ้าที่ต้องค่อยรับแล้วก็ตอบถามลูกค้าทำให้แอนนามีเวลาว่างเยอะผิดกับเพื่อนสนิทในวัยเด็กที่อยู่ตรงกันข้ามมาก


                อีกฟากหนึ่งของถนนคือร้านเสื้อผ้าของเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของแอนนา หญิงสาวเรือนผมสีบลอนด์โรสคล้ายกับดอกกุหลาบ ดวงตาสีชมพูเสริมความอ่อนหวานภายในตัวของเธอ เธอคนนั้นนามว่า เอลก้า เอลก้าเป็นสตรีแสนอ่อนหวาน ใสซื่อ ต่างกันแอนนาที่ออกจะตรงไปตรงมาไป แต่ไม่ว่าต่างกันแค่ไหนก็ตามสุดท้ายพวกเธอก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาโดยตลอด


    หญิงสาวผมม่วงก้มลงจัดเรียงขนมปังที่เพิ่งอบเสร็จ หากแต่ระหว่างที่กำลังจัดวางพร้อมมองไปรอบๆ นั้นหญิงสาวกลับมองเห็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าอันคุ้นเคยคนหนึ่งเดินตรงเข้าไปยังร้านเสื้อผ้า เขาคนนั้นถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะสนิทกับเอลก้าพอสมควรเลยทีเดียว แต่เธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เพราะจากที่มองแล้วชายคนนั้นดูไม่ได้มีพิษภัยอะไรแม้แต่นิด เท่าที่รู้ดูเหมือนจะเป็นบุตรชายของเจ้าของร้านดอกไม้ที่อยู่ห่างจากพวกเธอเกือบกิโลเมตร


    แอนนาไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคนเจอกันอย่างไร สนิทกันตอนไหน ตราบเท่าที่เขาไม่ได้มุ่งร้ายกับเพื่อนสาวของเธอ แอนนาก็ไม่จำเป็นต้องไปขัดขวางอะไร...ใช่ ตอนนี้เธอคิดเช่นนี้ ทว่าในอนาคตบางทีเมื่อเธอเข้าใจความรู้สึกตนเอง เธออาจจะไม่ได้คิดเช่นนี้อีกต่อไป แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรับรู้ ฉะนั้นแอนนาจึงไม่ได้รู้เลยว่านั่นคือจุดเริ่มต้นฃ


    ขณะที่กำลังมองภาพเพื่อนสาวกับชายหนุ่มคนนั้นเพลินๆ เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังเข้ามาในโสตประสาททำให้เธอชะงักนิดหน่อยำลางทั้งลุกขึ้นเพื่อต้อนรับลูกค้า ทว่าจังหวะที่เงยขึ้นสบตา แอนนาถึงกับผงะด้วยความตกใจ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งตรงหน้า ถ้ามองดูจากระยะไกลคงไม่มีอะไรแปลกเท่าไร เพราะผมดำ ชุดสีดำ แทบไม่มีจุดเด่นอะไรเลย หากแต่เมื่อมองใกล้ๆ จะมองเห็นว่าดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำคล้ายกับปีศาจ


    แอนนาจ้องดวงตาทั้งสองข้างของชายหนุ่มนานก่อนที่จะรีบสลัดความคิดภายในหัวทิ้งพลางหันไปส่งยิ้มตามมารยาทให้แก่ชายหนุ่ม ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีแดงมองเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเพียงครู่เดียวก่อนเดินไปหยิบขนมปังที่วางอยู่ในชั้นวาง ชายหนุ่มนำเงินมาจ่ายกับหญิงสาวที่นิ่งอยู่ไม่ไกลโดยไม่ได้พูดอะไร


    หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกไปไม่นานนัก เพื่อนร่วมงานของเธอเดินออกมาพอดี ลีโอนาร์ท ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูง เส้นผมสีดำสนิทมัดรวบหางม้ายาวถึงกลางหลัง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเลื่อนมองไปยังลูกค้าคนเมื่อครู่พร้อมทั้งกล่าวต่อ


    “คนเมื่อครู่..ช่วงนี้มาบ่อยแฮะ”


    “เคยเจอเหรอ?”


    แอนนาถามกลับทำให้ลีโอนาร์ทผงกศีรษะเบาๆ โดยที่ไม่ได้แม้แต่หันของหญิงสาวผู้เป็นเพื่อนร่วมงาน และเงียบไปอีกครั้งก่อนเล่าต่อ


    “มักมาช่วงเย็นๆ น่ะ”


    “จะว่าไปสีตาแบบนั้น เพิ่งเคยเห็นจริงๆ ครั้งแรก”


    หญิงสาวพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าถึงกระนั้นลีโอนาร์ทก็ยังคงได้ยิน ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ราวกับบอกว่าเห็นด้วยก่อนเดินกลับไปอบขนมปังในครัวต่อ ในขณะที่ฝ่ายแอนนายังคงรับลูกค้าที่ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งช่วงค่ำมาเยือน หญิงสาวเดินไปเก็บถาดขนมปังในตู้เพื่อนำไปให้ลีโอนาร์ท


    หลังจากนั้นเธอกลับไปที่หน้าร้านอีกครั้งเพื่อเก็บป้ายหน้าร้านเข้ามา หากแต่จังหวะกำลังที่กำลังเดินเข้าไปเสีงทักอันคุ้นหูกลับดังขึ้นทำให้หญิงสาวผมม่วงชะงักฝีเท้าเล็กน้อยก่อนหันมอง


    “แอนนา”


    เจ้าของเสียงไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากเอลก้า หญิงสาวผมสีบลอดน์โรสโบกมือทักเธอจากอีกฟากของถนนเป็นผลให้แอนนาโบกมือตอบกลับ ทางด้านเอลก้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กหันมาสนใจตนเอง เธอตัดสินใจเดินเข้ามาหาด้วยความเร่งรีบ จากนั้นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง


    “พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าคะ?”


    เอลก้าถามทำให้แอนนานิ่งเพื่อใช้ความคิด พรุ่งนี้ว่างไหมงั้นหรือ เพราะทำงานในร้านขนมปังทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไร จะมีก็แค่เช้าตรู่ก่อนเตรียมวัตถุดิบ แล้วก็ช่วงหลังร้านปิดเท่านั้น แอนนาถอนหายใจตอบกลับคำถามของเพื่อนสาว


    “พรุ่งนี้? ถ้าตอนเย็นก็พอจะว่าง มีอะไรงั้นเหรอ?”


    “พรุ่งนี้เรามีของที่อยากรบกวนให้ช่วยเลือกหน่อยค่ะ สะดวกไหม?”


    “อืม ก็ได้อยู่หรอก”


    แอนนาพยักหน้าเบาๆ พร้อมทั้งตอบกลับทำให้เอลก้ายิ้มให้เธอเล็กน้อย จากนั้นพวกเธอคุยกันเรื่องทั่วๆ ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ามันเริ่มค่ำมากแล้วทำให้แยกย้ายกันกลับเข้าในบ้านของตนเอง ถึงจะพูดว่าบ้านก็เถอะ อันที่จริงมันก็ชั้นสองของร้านนี่แหละ เธออยู่ที่นี่คนเดียว ส่วนลีโอนาร์ทพักอยู่กับครอบครัว


    หญิงสาวเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสองของร้านหลังจากที่เก็บทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อย ห้องนอนที่เต็มไปด้วยกระดาษจำนวนมากทิ้งใกล้ๆ กับโต๊ะ เนื่องจากเธอเขียนสูตรทำขนมปังพลาดหลายครั้งเมื่อวันก่อนทำให้ภายในห้องรกมาก แม้แต่คนที่ทำห้องรกอย่างแอนนายังอดถอดหายใจไม่ได้เสียเอง


    แน่นอนว่าต้องเก็บกวาดก่อนเข้านอน เธอยกมือขึ้นหนวกไหลตนเองเบาๆ และเดินไปเก็บกระดาษนั้นลงในถังสีดำสนิทใกล้มือ เมื่อทำความสะอาดพื้นเสร็จเธอเดินตรงไปเปิดหน้าต่างอย่างเบามือ ทว่าจังหวะที่มองลงยังสวนด้านหลังของร้านนั้น แอนนามองเห็นใครบางคนที่ยืนอยู่ในสวนพอดี


    แม้ว่าพื้นเบื้องล่างจะมืดแค่ไหนก็ตาม แต่กลับมองเห็นร่างนั้นชัดเจน ทว่าตัวเธอกลับไม่ได้เอะใจเรื่องนี้เลย ร่างคนที่อยู่เบื้องล่างนั้นคือหญิงสาวเรือนผมสีขาวบริสุทธิ์นั่งนิ่งบนม้านั่งใกล้ๆ กับสวนผัก ความจริงแอนนาเห็นแค่สีผมแต่ว่าไม่เห็นใบหน้าของคนๆ นั้นแม้แต่นิด หากแต่เพราะตอนนี้มันดึกแล้วทำให้หญิงสาวตัดสินใจทักคนๆ นั้น


    “ขออภัยค่ะ”


    ไม่มีการตอบรับ แต่อย่างใด ร่างนั้นยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับตัว ไม่แม้แต่เงยขึ้นมองแอนนา หญิงสาวแน่ใจว่าเสียงระดับนี้น่าจะได้ยินแท้ๆ แน่นอนเพราะฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบรับทำให้แอนนาเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อเข้าไปทักคนๆ นั้น อย่างน้อยเธอควรบอกให้หญิงสาวคนนั้นกลับบ้านหรือถ้าไม่มีบ้านจริงๆ ให้พักที่นี่สักคืนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร


    ทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่าง หญิงสาวมองออกไปที่สวนอีกครั้ง แต่กลับไม่พบใครเลยสร้างความงุนงงให้แก่หญิงสาวผมม่วงมากพอสมควร บางทีเธออาจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีจนเกินไปทำให้เผลอคิดไปว่าคนๆ นั้นคงกลับบ้านไป เพราะเธอไม่ได้รู้เรื่องแม่มดสีขาวเลยทำให้ไม่เอะใจเลยแม้แต่นิด


    เมื่อหญิงสาวเดินกลับขึ้นไปยังห้องนอนอีกครั้ง ร่างของหญิงสาวผมขาวที่ทุกคนรู้จักในชื่อแม่มดขาวปรากฏในเงามืด ดวงตาสีหม่นของเธอเลื่อนมองขึ้นไปยังหน้าต่างที่ถูกเปิดค้างเอาไว้ก่อนริมฝีปากจะค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาเบาๆ


    แอนนา หญิงสาวที่อนาคตกลายเป็นสีเทา


    เนื่องจากเป็นช่วงดึกมากทำให้ถนนไร้ซึ่งผู้คน ชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีแดงจ้องมองไปยังร้านขนมปังด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มผู้สวมฮู้ดที่ยืนข้างๆ ทั้งสองจ้องมองร้านของแอนนานานก่อนที่เด็กหนุ่มจะเลื่อนสายตาไปมองร้านเสื้อผ้าอีกฟากหนึ่งของถนน มือเรียวสีซีดถือหนังสือเล่มหนาค้างเอาไว้พลางกล่าวกับพี่ชายของตนเองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา


    “เพื่อนสนิท...เหรอ”


    “ไม่เป็นไรหรอก สายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันขาด แต่ถ้าเสียชีวิตมันก็หายไปอยู่ดี”


    ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีแดงกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าเด็กหนุ่มผู้เป็นน้องชายของตนเอง แม้ว่าฝ่ามือนั้นจะเย็นเฉียบแค่ไหนก็ตาม แม้ว่าคำกล่าวจะชวนให้ใครมองว่าเขาเป็นปีศาจก็ตาม แต่เด็กหนุ่มไม่เคยสนใจหรอก...ถ้าชายหนุ่มคนนี้เป็นปีศาจจริงๆ เขาเองก็คงไม่ต่างกัน ดวงตาสีแดงที่อยู่ภายใต้เสื้อฮู้ดค่อยๆ หลับลงพร้อมทั้งเสียงตอบกลับที่


    “นั่นสินะครับ”


    “นิทานทอันยาวนานจบเมื่อไร พวกเราคงได้นอนสักที”


    ผู้เป็นพี่ชายกล่าวออกมาลอยๆ ทำให้เด็กหนุ่มพยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ หลังจากนั้นพวกเขาเดินกลับไปยังสถานที่ที่ตนเองอยู่อีกครั้ง เหยื่อรายแรก...นิทานเรื่องแรก คือ พี่น้องฝาแฝด ส่วนนิทานเรื่องที่สอง คือ เพื่อสนิทตั้งแต่เด็ก และแน่นอน


    เหยื่อรายที่สอง

    ผู้ที่เต็มใจจะมอบชีวิตให้แก่ คำสาปที่น่าสังเวช




    ---------------------------

    ขอสารภาพว่าเนื้อเรื่องจะค่อนข้างสั้นกว่าสองเรื่องก่อน

    กำลังคิดว่าลงเดือนละตอนมันจะไหวไหม อยากทำได้ แต่ก็...อย่างที่เห็นค่ะ ขออภัยด้วย




    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×