ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Love :: บทนิทานแห่งความรัก (รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #17 : The Tale 2 :: The Twins [ฝาแฝด] 08 - ปีศาจแห่งราคะ

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 60




    The Main Character

    From The Twins



    ตัวละครหลัก

    "ผมกับเขาก็เหมือนหยินและอย่าง...ถึงแม้จะเข้ากันไม่ได้ แต่ก็คอยเกื้อหนุนค้ำจุนกันและกัน"
    "ก็ตามใจหมอนั้นสิ.....จะให้โดดผาหรืออะไรก็แล้วแต่..."

    สองพี่น้องฝาแฝด


    ตัวละครเสริม

    -แม่มดชุดขาว-

    - วิกตอเรีย -

    -ชายหนุ่มชุดดำ และ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีแดง-

    - เฮเลน (มารดาของสองฝาแฝด) -






    The Twins[ฝาแฝด] 08
    ปีศาจแห่งราคะ



    หลังจากที่พวกเขาเปิดร้านได้นับเดือนนั้นผู้คนจนมากในย่านแห่งนี้นั้นต่างเข้ามาแบบไม่ขาดสาย แน่นอนว่านับวันยิ่งวุ่นขึ้นเรื่อยจนแทบไม่มีเวลาคิดอะไรเลยแม้แต่น้อย มอร์แกนนั่งมองเมลอสที่กำลังบดสมุนไพรสำหรับพรุ่งนี้เล็กน้อย อันที่จริงเขาหวังว่าพอดีจะเลิกตามตัวทั้งสองสักที


    บางทีเขาเองก็อยากจะชีวิตราบรื่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ นัยน์ตาจ้องมองน้องชายตนเองอีกครั้งก่อนที่จะเดินตรงไปหาอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามันเป็นผลให้ผู้เป็นน้องชายหยุดบดสมุนไพรพร้อมหันมามองเขาด้วยสายตานิ่งๆ หากแต่เพราเขาเดินไปนั่งชิดจนเกินไปทำให้เมลอสรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเล็กน้อยพลางหันมาพึมพำเบาๆ


    “ใกล้แล้ว มอร์แกน”


    “ไม่เป็นไรหรอก ทำงานต่อสิ”


    “ข้าไม่มีสมาธิ”


    “งั้นพักก่อนดีไหม?”


    “ไม่ล่ะ แค่เจ้าไปห่างๆ”


    “พักเถอะ”


    “.....”


    “ขอร้องล่ะ”


    “ก็ได้”


    เมลอสตอบกลับอย่างไม่มีทางเลือกทำให้มอร์แกนยิ้มให้ทันทีที่ได้คำตอบ ทว่าเพราะเจ้าตัวนั่งใกล้คนน้องเกินไปทำเอาชายหนุ่มผู้เป็นน้องชายหน้าร้อนขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นพร้อมทั้งเดินออกไปอย่างรวดเร็ว อันที่จริงเขาเองก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันที่ต้องทำงานเกือบทั้งวันแบบนี้


    มอร์แกนมองน้องชายตนเองที่เพิ่งลุกขึ้นไปนิดๆ ก่อนที่จะเดินตรงไปหา ผลคือเมลอสหน้าร้อนขึ้นมาอีกครั้งทำเอาชายหนุ่มผู้เป็นพี่อดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ และเพราะเสียงหัวเราะที่ลอดมาทำให้เมลอสหันมองเขาอย่างไม่พอใจก่อนกล่าวถามต่อ


    “หัวเราะอะไรน่ะ?”


    “เปล่าแค่คิดว่าข้ามีน้องชายน่ารักขนาดนี้เหรอ”


    “หน้าตาเจ้ากับข้าก็เหมือนกันนั้นแหละ”


    “นั่นสินะ แต่ว่ายังเจ้าก็ดูน่ารักกว่าอยู่ดี”


    “หนวกหูน่า”


    ชายหนุ่มกล่าวพึมพำกับพี่ชายตนเองเล็กน้อยก่อนที่จะเอนตัวลงนอนอย่างรวดเร็วทำเอามอร์แกนยิ้มออกมานิดๆ พร้อมทั้งโน้มเข้าจูบที่แก้มของเมลอสทำให้อีกคนหันมาทำหน้าคล้ายไม่พอใจเล็กน้อย ทว่าแม้จะชอบใจเวลาที่น้องชายทำท่าทางแบบนี้ก็เถอะ แต่ว่ามอร์แกนไม่คิดจะแกล้งมากกว่านี้หรอก ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนข้างๆ พร้อมทั้งสวมกอดเมลอส


    ดูเหมือนจะขัดขืนนิดหน่อยก่อนที่จะนิ่งไปทำให้มอร์แกนก้มลงมองอย่างอดไม่ได้...หลับไปแล้วแฮะ ท่าจะเหนื่อยมากพอสมควร บางทีน่าจะให้เจ้าตัวหยุดพักผ่อนบาง มอร์แกนลุกขึ้นจากที่นอนพร้อมตรงไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง เงินที่เอามาจากบ้านยังคงเหลือเท่าเดิม พูดตามตรงไม่ค่อยอยากแตะเท่าไร แต่ว่าเงินนี้แหละที่ช่วยให้พวกเขามีที่อยู่แบบนี้


    อันที่จริงตอนนี้ใช้เงินที่ทำงานได้เท่านั้น...ซื้อแค่ของที่จำเป็น...ไม่สิ เรียกว่าซื้อแค่ข้าวอาหารล่ะมั้ง เรื่องเสื้อผ้าไม่ค่อยสนใจเท่าไร ส่วนเรื่องของในห้องที่เริ่มพังหมดนั้นทางเจ้าของที่พักจัดการให้หมด ดูเขาเป็นคนดีมากต่างจากที่เคยคิดไว้พอสมควร...ที่จริงพวกเราเลิกความคิดนั้นตั้งแต่มาที่นี่แล้วล่ะ คนพวกนี้ไม่ได้เลวร้ายเลยสักนิด


    ชายหนุ่มหันมองเมลอสที่หลับอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะเดินกลับไปนอนข้างๆ อย่างช่วยไม่ได้ อุ่นดีแฮะ จะว่าไปเมลอสตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อยเองนี้แปลกที่รู้สึกเหมือนกำลังอกดเด็กอยู่...อ่า คงเพราะเจ้าตัวเป็นน้องชายสินะ ถึงได้รู้สึกแบบนั้น


    มอร์แกนรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อไดด้ยินเสียงเคาะประตูบวกกับแสงแดดจากยามเช้าทำให้เขาสะดุ้งตื่นเล็กน้อยก่อนที่จะรีบเดินไปดูว่าใครมาแต่เช้าตรู่ หากแต่ทันทีที่เปิดนั้นมอร์แกนถึงกับนิ่งไปนิดๆ หญิงสาววัยกลางคนยืนอยู่หน้าห้องด้วยความรีบร้อนพร้อมทั้งอุ้มลูกน้อยของเธอที่กำลังร้องไห้ลั่นทำให้ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น


    เขาวิ่งเข้าไปในห้องเก็บสมุนไพรที่อยู่ข้างๆ พร้อมหาสมุไพรสำหรับลดอาการให้กับเด็กทารกตรงหน้า แน่นอนว่าเพราะความไม่คุ้นและไม่รู้ทำให้ใช้เวลาหานานกว่าเมลอส ทางด้านน้องชายท่าทางจะเพลียจนหลับอีกลึกทำให้เขาเป็นฝ่ายไปหาเอง หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดมอร์แกนก็หามันเจอทำใหเขารีบยืนให้หญิงสาวและบอกให้ผสมกับน้ำดื่ม เพราะอีกฝ่ายเป็นเด็กทารกไม่แน่ใจว่ากินแบบผู้ใหญ่ได้หรือไม่


    หญิงสาวตรงหน้าพึมพำขอบคุณเขาเป็นการใหญ่ก่อนที่จะพาลูกน้อยเธอกลับไป มอร์แกนยืนส่งหญิงสาวคนนั้นเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปมองเมลอสที่กำลังหลับอยู่เช่นเดิม


    ท่าทางเหนื่อยปิดร้านดีไหมนะ


    แต่ว่าอย่างไรเสียก็ปิดไม่ได้อยู่ดี วันนี้ไม่มีลูกค้าที่เจอปัญหาหนักๆ น่าจะพอไหว มอร์แกนตัดสินใจไม่ปลุกเมลอสที่หลับอยู่ แน่นอนว่าเขาเขียนบันทึกจนถึงเที่ยงยังคงไม่มีใครเข้ามา ทว่าไม่นานเพราะเสียงลุกของเมลอสทำให้เขาหันมองเล็กน้อยก่อนที่ฝ่ายน้องจะกล่าวถาม


    “ทำไมไม่ปลุก”


    “ขอโทษ พี่คิดว่าน้องคงเหนื่อยน่ะ”


    “อืม วันนี้ไม่มีลูกค้าเลยเหรอ?”


    “ใช่ ยังไม่เห็นเลย อาหารวางอยู่ที่โต๊ะไปทานก่อนได้”


    “แล้วพี่ล่ะ?”


    “ไม่เป็นไร ขอเขียนยันทึกอีกนิด”


    “อืม”


    เมลอสตอบกลับเสียงแผ่วเบาในลำคอก่อนที่จะเดินไปนั่งเก้าอี้ของตนเอง ไม่นานนักคนเป็นพี่ก็เดินมานั่งด้วย แม้อาหารจะไม่ได้หรูหราเหมือนครั้งที่อยู่ในคฤหาสน์แต่ว่ามันก็อิ่มท้องดีพอสมควร ทั้งสองนั่งกินไปเงียบๆ ...ใช่ มันเงียบ แต่ว่าไม่ได้เงียบแบบมืดครึ้มเหมือนตอนนั้น เงียบแต่ว่ามีเสียงผู้คนคุยกันดันลอดเข้ามาตลอดทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่เพียงลำพัง


    หลังจากทานอาหารเสร็จชีวิตประจำวันหลังจากนั้นก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไร เวลายังคงดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีวันหยุดลง แน่นอนว่ามันผ่านไปหลายเดือนแล้วพวกเขาคิดว่าพายุที่เคยก่อตัวในชีวิตตนเองจะหายไปแล้ว หากแต่มันกลับไม่ใช่


    พายุนั้นแค่หยุดลงเพื่อรอวันที่จะกลับมาอีกรอบเท่านั้น ความสงบ ความสุข และความสบายใจถูกทำลายลงภายในวันเดียว เช้าตรู่ของวันนั้นหญิงสาวในชุดของผู้สูงส่งเดินเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทางหยิ่งยโส ผู้เป็นแม่มองพวกเขาด้วยสายตาเหยียดหยามเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวทักด้วยคำพูดที่ทำให้มอร์แกนไม่พอใจ


    “ยินดีที่ได้พบอีก ปีศาจแห่งราคะทั้งสอง”


    ปีศาจแห่งราคะ


    นั่นมันคำเรียกมนุษย์ที่ไม่เคยคิดทำร้ายหรือแย่งคนรักใครหรือไรกัน


    แน่นอนว่ามันทำให้มอร์แกนไม่พอใจอย่างมาก หากแต่หลังจากนั้นพวกเขาพากลับไปยังคฤหาสน์ของตนเองท่ามกลางเสียงคุยกับและสายตาโศกเศร้าจากผู้คนในเขตสลัม...เขาไม่อยากไปแต่ว่าสุดท้ายหญิงสาวคนนี้ทำตามใจตนเองแบบนี้


    พวกเขาถูกขังไว้ในห้องของตนเองอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ไร้ซึ่งทางหนี หน้าตาบานใหญ่ถูกปิดสนิทรวมทั้งประตูทำให้รู้สึกตัวว่าถูกขังโดยสมบูรณ์และที่น่าสมเพชมากกว่านั้นก่อนที่จะออกไปนั้นผู้หญิงคนนั้นส่งสายตาเหยียดหยามมาให้พวกเขาโดยที่มีวิกตอเรียยืนอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้ารู้สึกผิด


    อันที่จริงจะไม่โกรธเลยถ้าใบหน้าของผู้เป็นน้องสาวไม่มีรอยฝ่ามือแบบนั้น เดาว่าคงโดนผู้หญิงคนนี้ตบเข้า วิกตอเรียคงเป็นคนบอกที่อยู่พวกเขาแหละ แต่ว่าน่าจะโดนบังคับมากกว่า เพราะจากสภาพแล้วไม่ต่างจากคนที่เพิ่งโดนทำร้ายเลย  ทว่าหลังจากนั้นประตูถูกปิดลงทำให้เขามองไม่เห็นน้องสาวตนเองอีก


    เมลอสมองประตูด้วยสายตาที่เหม่อลอยเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเซไปที่เตียงกว้างที่พวกเขาเคยใช้ตั้งแต่มาทีเมืองแห่งนี้ ห้องนี้สภาพเปลี่ยนไปเล็กน้อยตรงที่มีรอยค้นห้องมากมาย คิดว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นคนบอกให้คนใช้ค้นมากกว่า หากแต่เตียงนอนตอนนี้ปกติ...บางทีรู้สึกเป็นห่วงคนที่สลัมแฮะ พวกเขาจะเป็นเช่นไรยังไม่รู้เลย แต่ว่าในตู้บดสมุนไพรคงยังมียาอยู่ ส่วนเงิน...เดาว่าผู้หญิงคนนั้นหยิบมาด้วยแน่ๆ เพราะเหมือนได้ยินหล่อนสั่งลูกน้องอยู่


    มอร์แกนถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเหลือบมองเมลอสที่ซุกหน้ากับเตียงก่อนที่จะพึมพำออกมาเสียงแผ่วเบา


    “กลับมา...ที่นี่อีกแล้ว”


    “...ไม่เป็นไร...”


    ชายหนุ่มผู้เป็นพี่กล่าวเสียงเบากว่าปกติพลางยิ้มอ่อนๆ ให้น้องชายตนเองก่อนที่จะเลื่อนกลับไปยังประตูอีกครั้ง...ปีศาจแห่งราคะงั้นหรือ ฟังแล้วรู้สึกแย่ชะมัดเลย มันเป็นคำพูดที่ทำให้ชายหนุ่มคิดว่าคนที่โดนเรียกแบบนั้นไม่ใช่มนุษย์เลยแฮะ


    ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้คิดจะทำร้ายใครเลยแม้แต่น้อย ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้...แค่หลงรักพี่น้องหรือเพศเดียวกัน พวกเขาถึงกับถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่น่ารังเกียจเช่นเดียวกับปีศาจงั้นหรือ ไม่มีความยุติธรรมเลยว่าไหม ทั้งๆ ที่มนุษย์ก็คือมนุษย์ ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ตาม แต่ว่าเพราะพวกเขาต่างจากคนธรรมดาก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นปีศาจเสียหน่อย


    มอร์แกนหวังว่าคนที่อยู่ในอนาคตจะไม่เป็นเช่นตอนนี้นะ รู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหนที่ต้องโดนกล่าวหาแบบนั้นน่ะ  พวกเขาเองก็มนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน รู้สึกอยากให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจคำว่ามนุษย์มากกว่านี้ แค่ต่างไม่จำเป็นต้องกล่าวหาหรือด่าทอจนพวกเขาก็ได้นี้ ทำไมถึงไม่ยอมรับในตัวพวกเขาเลยสักนิด


    ชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดน้ำตาตนเองเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปยังระเบียงของห้องเบื้องล่างมีคนรับใช้เดินไปมาราวกับระวังไม่ให้ทั้งสองหนีไปอีก นี่มันกักขังของแท้เลย ทว่าเพราะอะไรบางอย่างทำให้สายตามอร์แกนมองไปเห็นสวนดอกไม้สีขาวเล็กน้อย...เขาจำได้ว่าสวนดอกไม้นั้นมีอยู่อีกด้านนี้ทำไมกันล่ะ หรือว่าปลูกขึ้นมาใหม่ ไม่สิ ไม่น่าจะโตเร็วขนาดนี้


    หากแต่ไม่นานนักมอร์แกนกลับมองเห็น แม่มดขาวที่ยืนอยู่ในสวนนั้น เธอหันมาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่จะยกมือขึ้นโบกไปมา ทว่าไม่นานนักภาพเบื้องหลังของเธอกลับหลายเป็นหลุมศพจำนวนมากเรียงรายกัน พร้อมทั้งไม้กางเขนกลับหัวตั้งอยู่ไกลออกไป ริมฝีปากของแม่มดขาวฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่มือสีซีดจะเลื่อนไปชี้ไปยังฝั่งขวามือของตนเอง


    หลังจากนั้นคือภาพบางอย่างที่ปรากฏขึ้นมา ภาพมากมายจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รวมทั้งภาพที่เมลอสกำลังร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดด้วย นั่นนะ มอร์แกนไม่แน่ใจว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือลางบอกเหตุ แต่ว่าสิ่งที่เขารับรู้คือความเจ็บปวดและทรมานจากภาพพวกนั้น ภาพสุดท้ายที่ปรากฏคือหญิงสาวผมขาวที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เปลวไฟที่ลุกราวกับเทศกาล และเสียงหัวเราะของร่างของบุคคล ไม่สิ รูปภาพ ตุ๊กตา หนังสือ กำลังส่งเสียงหัวเราะออกมาราวกับกำลังสนุกกับเรื่องที่เกิดขึ้น


    แต่ว่าของพวกนี้ไม่มีชีวิตนี้แล้วมันหัวเราะได้อย่างไรกัน ทว่าระหว่างที่กำลังตกใจและสับสนนั้นเสียงใครบางคนกลับแทรกขึ้นมาเสียงเบาๆ ข้างหู


    ...เจ้าน่ะ อาจจะเป็นปีศาจแห่งราคะ...

    ....แต่ไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร...

    ....ทว่านะ.....

    ...เธอคนนั้นน่ะ คือแม่มดขาวที่ฆ่าผู้คนไปมากมาย...


    ....ทั้งตอนนี้ และ อนาคต...


    อนาคตที่ไกลออกไปผู้คนจำนวนมากจะต้องตายเพราะ


    เธอ แม่มดขาว

    เธอคนนั้น เวโรนิก้า

    และ

    “นี่ เคยได้ยินนิทานก่อนนอนกันไหม?”

    สองปีศาจปริศนา


    สุดท้ายพวกเขากลับพรากชีวิตคนไปจำนวนมาก

    ในอนาคต



    -----------------------------------------------------------------------

    จบอีกตอน อีกนิดจะจบเรื่องนี้แล้ว TT

    ตอนนี้พยายามรวบมากที่สุดค่ะ  แล้วก็ขออภัยที่ช้านะคะ

    ขออนุญาตเรียงชื่อตอนต่อจากนี้ 

    -ทางเลือกสุดท้าย-

    -จุดจบของเรื่องราว-

    แถมตอนส่งท้ายเกี่ยวกับครอบครัวของสองแฝดสั้นๆ ค่ะตอนนี้

    -คำขอโทษที่ไม่มีวันส่งไปถึง-



    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×