คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : The Tale 2 :: The Twins [ฝาแฝด] 07 - คำสาปของแม่มด
The Main Character
From The Twins
ตัวละครหลัก
สองพี่น้องฝาแฝด
ตัวละครเสริม
-แม่มดชุดขาว-
- วิกตอเรีย -
-ชายหนุ่มชุดดำ และ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีแดง-
- เฮเลน (มารดาของสองฝาแฝด) -
หนีนั่นคือทางเลือกของพวกเขา
แค่หนีจากครอบครัวให้จนได้ แม้ว่าจะอย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วทั้งสองก็หนีออกจากบ้านในยามค่ำคืน
พวกเขาคิดว่าคนที่บ้านคงไม่มีทางตามหาปีศาจแห่งราคะอย่างพวกเขาแน่ๆ
แต่ถึงกระนั้นทั้งสองก็ไม่ได้ไปไกลจากเมืองเลย เพราะถ้าพวกเขาออกไปนั้นต้องมีคนรู้จักกับพ่อแม่เขารู้แน่ๆ
ทำให้ทั้งสองเลือกที่จะอยู่ในเมืองต่อแต่ว่ามาในเขตที่แน่ใจว่าพ่อแม่ไม่มานั่นคือเขตสลัม
มอร์แกนนั่งกอดน้องชายตนเองภายใต้ห้องสีขาวเล็กๆ
ในเมือง...พวกเขาหยิบเงินออกมาจำนวนมากเลยทีเดียว ตอนแรกกะว่าจะข้ามทะเลไปแต่ว่าถ้าทำแบบนั้นคนที่บ้านและที่ทำงานรู้แน่ๆ
ทำให้มอร์แกนเปลี่ยนใจ ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบผมน้องชายตนเองที่กำลังนอนหลับ
แม้จะออกมาแบบนั้นแต่พวกเขายังจำเป็นต้องกินต้องใช้
เงินที่หยิบมาจากบ้านไม่มีวันพอแน่ๆ
ทำให้เมลอสที่มีความรู้เรื่องสมุนไพรต้องเริ่มหาเงินไปเรื่อยๆ
โดยการที่บ่นสมุนไพรและไปขายที่ตลาดแน่นอนว่าเป็นสถานที่ที่พ่อและแม่ของพวกเขาไม่มีวันมาเหยียบเลย
พวกเขานั้นชื่นชอบความสูงศักดิ์คงไม่มีวันมาในสถานที่ที่สามัญชนอยู่แน่ๆ
เมลอสกระพริบตาถี่ๆ
หลังจากที่หลับไปนานก่อนเงยขึ้นมองมอร์แกนที่ยิ่งให้ตนเองเล็กน้อย...เช้าวันนี้ก็ไม่เปลี่ยนไปเขาต้องทำเช่นเดิมบดสมุนไพรไปที่ตลาดอีกครั้งหากแต่ครั้งนี้กลับต่างออกไปพวกเขาพบบุคคลที่ไม่คาดคิดนั่นคือวิกตอเรีย
น้องสาวคนสุดท้องของพวกเขา อันที่จริงตอนแรกทั้งสองตั้งท่าจะเมินทำเป็นไม่รู้จัก
แต่ว่าสุดท้ายก็พาเธอแยกออกจากตลาดนั้นพร้อมทั้งกล่าวถามเสียงเรียบๆ
“น้องออกจากคฤหาสน์ได้ยังไง”
“คนรับใช้หาตัวพวกท่านพี่จนไม่ว่างดูแลค่ะ”
“งั้นเหรอ?”
“ค่ะ พี่คะ กลับบ้านกันเถอะ”
“....ไม่ล่ะ....”
“ทำไมล่ะคะ?”
“วิกตอเรีย รักระหว่างพี่น้องมันผิดนะรู้ไหม?”
“แต่น้องเองก็รักพวกพี่นะคะ”
“ความหมายมันต่างกันวิกตอเรีย...พี่กับเมลอสไม่ได้รักแบบพี่น้องอีกต่อไปแล้ว
ถ้ากลับไปคฤหาสน์นั้นมีแค่จะเสียใจเปล่าๆ เพราะฉะนั้นพวกพี่จะไม่กลับไป”
“...แต่ว่า....แบบนี้พวกพี่ลำบากไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ แต่ว่าดีกว่าทรมานทางจิตใจนะ”
“..........”
“วิกตอเรีย ช่วยปิดเรื่องที่เจอกับพวกพี่เป็นความลับทีนะ”
“เข้าใจแล้ว”
วิกตอเรียตอบกลับทำให้ทั้งสองยิ้มให้เธอเล็กน้อยในขณะที่เด็กสาวเหลือบมองตลาดตรงหน้าอีกครั้งก่อนที่จะหันมากล่าวถามพี่ชายของตนเอง
“ทำไมพวกท่านพี่ไม่ไปต่างเมืองล่ะ?”
“ด่านตรวจคนเข้าเมือง”
“?”
“ถ้าผ่านด่านนั้นท่านพ่อกับท่านแม่คงรู้ตัวแน่ๆ
ว่าพวกเราจะไปที่ไหน”
เมลอสกล่าวเสียงเรียบๆ
พลางเหลือบมองออกไปด้านนอกที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินไปมา
มันดูมีชีวิตชีวายิ่งกว่าสถานที่ที่พวกเขาอยู่ก่อนหน้านี้
แน่นอนว่าฝ่ายวิกตอเรียเองก็เห็นด้วยที่นี่เด็กนั้นดูร่าเริงและอิสระกว่าที่พวกเธอถูกเลี้ยงมาเสียอีก
หลังจากนั้นเด็กสาวเดินกลับไปยังบ้านในขณะที่สองฝาแฝดเดินทางกลับไปยังที่พักของตนเอง
เวลานั้นผ่านไปเรื่อยๆ
โดนที่พวกเขายังอยู่ด้วยกันอย่างปกติดีทุกอย่าง
แต่ว่าดูเหมือนไม่มีวี่แววว่าครอบครัวจะเลิกตามหาพวกเขาแม้แต่น้อย วิกตอเรียเองก็ปิดปากเงียบพร้อมทั้งมาหาพวกเขาบางครั้งบางคราว
เช่นเดียวกันวันนี้เด็กสาวมาหาพวกเขาในเวลาเช้าตรู่พร้อมคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ
ว่าให้เมลอสเปิดคลินิกอีกครั้ง เธอแน่ใจว่าพ่อและแม่ไม่มีทางมาหาหมอแถวๆ นี้แน่ๆ
แน่นอนว่าแม้ตอนแรกจะลังเลแต่ทว่าสุดท้ายทั้งสองก็ทำตามที่วิกตอเรียบอกในที่สุด
เมลอสแทบแน่ใจว่าทันทีที่เขาตัดสินใจเปิดนั้นเงินมันยุ่งกว่าที่คิดไว้เสียอีก
เพราะที่นี่ไม่ค่อยมีคนที่มีความสามารถในการรักษาทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเสียชีวิตเพราะโรคเล็กๆ
น้อยๆ ไปเยอะ ก็แน่ล่ะ ที่นี่มันเป็นเขตสลัมนี้
แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถทำงานหลายวันติดต่อกันได้ บางครั้งต้องพักบ้าง
แถมคนที่เข้ามาที่นี่ส่วนใหญ่มักเป็นโสเภณีหรือไม่ก็พวกทำงานผิดกฎหมายแล้วถูกซ้อมเสียมากกว่า
แน่นอนว่าราคาในการรักษานั้นเมลอสต้องลดจากราคาที่เขาเคยตั้งไว้ก่อนหน้านี้ลงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
แต่ว่าก็ไม่ใช่ปัญหามาก แต่ปัญหาอยู่ที่ไม่ค่อยได้พักเท่าไร เพราะบางครั้งมีลูกค้ามายามค่ำคืนในสภาพที่เฉียดตายทำให้เมลอสกับมอร์แกนจำใจบดสมุนไพรพร้อมทำแผลให้เพราความเห็นใจที่โดนทำร้าย
อันที่จริงจากการที่ลูกค้าหลายคนเล่านั้นพวกเขามักถูกทำร้ายโดนพวกที่มีเงินมากกว่าเสมอ
เพราะการอยู่ที่นี่ทำให้สองฝาแฝดเริ่มเข้าใจว่าโลกที่ตนเองอยู่ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรในสายตาคนทั่วไป
และแน่นอนว่าทั้งสองไม่เคยบอกกล่าวกับใครว่าตนเองมาจากตระกูลที่สูงส่งเช่นเดียวกัน
หลังจากที่ลูกค้าเดินจากไปนั้นเมลอสถึงกับถอนหายใจโล่งอกก่อนเดินเข้าไปในห้องพร้อมทั้งเอนตัวลงนอนบนเตียงของตนเองที่ถูกจัดอย่างดีโดยผู้เป็นพี่ชายอย่างมอร์แกน
ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีขาวนอนขดตัวเล็กน้อย
เมื่อกี้เขาแทบไม่รู้ว่ามอร์แกนไปไหนเพราะมัวแต่ยุ่งกับการทำแผลให้ลูกค้าอยู่
หากแต่ยังไม่ทันได้ได้คิดอะไรต่อกลับมีแรงยุบลงข้างๆ
ทำให้เมลอสเงยขึ้นมองคนที่เพิ่งเดินมานั่งข้างๆ ตนเอง
มอร์แกนยิ้มให้กับเขาเล็กน้อยก่อนยกมือขึ้นขยี้เส้นผมนุ่มของน้องชายตนเองพลางกล่าวเสียงสดใส
“พยายามได้ดีมาก วันพรุ่งนี้พักดีไหม?”
“อืม ก็ดีนะ”
“จะตอนนี้ก็ได้ คงไม่มีใครมาแล้วล่ะ”
มอร์แกนบอกต่อพลางมองประตูห้อง
พวกเขาไม่ได้เปิดเป็นร้านโดยตรงแต่ว่าใช้พื้นที่ห้องที่เหลือทางฝั่งขวามือต่างหาก
เท่าที่ได้ยินเจ้าของที่พักบอกนั้นเหมือนห้องนั้นจะเป็นคนละห้อง
แต่ว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนขอร่วมห้องเดียวกันทำให้เขายอมทำตาม แต่ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามคนๆ
นั้นก็จากเมืองนี้ไปแล้วทำให้มันว่าง
และเหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าพวกเขาจะเปิดร้านสำหรับรักษาคนอื่นทำให้เจ้าตัวยกห้องนี้ให้ทั้งสองฟรีๆ
เนื่องจากไม่มีใครใช้มานานทำให้ต้องทำความสะอาดเป็นวัน
และทันทีที่เปิดนั้นกลับกลายเป็นว่างานยุ่งจนถึงวันนี้ เมลอสเองก็เหนื่อยไม่ใช่ย่อยทำให้มอร์แกนปล่อยให้น้องชายตนเองหลับก่อนเดินลงไปยังชั้นล่าง
เพื่อบอกเจ้าของร้านเรื่องที่พวกเขาจะปิดรับลูกค้าสักวัน
อันที่จริงรู้สึกว่าตนเองรบกวนเขามากเกินไป แต่ว่า..จะว่าอย่างไรดี
ตอนแรกคิดว่าเจ้าของร้านน่าจะเป็นคนที่จริงจังและโหดเสียอีก
ทว่าพอรู้จักกลับพอจะรู้ว่าไม่ควรตัดสินคนจากใบหน้า
เจ้าของร้านที่นี่นั้นใจดีกว่าคนอื่นๆ
เสียอีก....ดูเหมือนเจ้าตัวจะสนับสนุนให้พวกเขาเปิดร้านอย่างเต็มที
เท่าที่ชายหนุ่มวัยกลางคนคนนี้บอกนั้นเขาเองอยู่ที่นี่มานานนับสามสิบปี เห็นผู้คนมากมายตายไปเพราะไม่มีเงินจะเสียค่ารักษาแพงๆ
ในเขตที่เจริญกว่า
พอเมลอสกับมอร์แกนที่มีความรู้เรื่องยาตั้งใจจะเปิดร้านนั้นทำให้หลายคนพอมีหวังบ้าง
แน่นอนว่าพอได้ยินแบบนั้นทำให้พวกเขาลดราคาลงครึ่งหนึ่ง...แถมบางคนยังรักษาให้ฟรีๆ
อีกด้วย
ชายหนุ่มผมขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ด้านล่างตรงหน้าเจ้าของที่พักอย่างเงียบเชียบพลางมองผู้คนที่ดูมีความสุขกันมาก...แม้จะลำบากแต่พวกเขากลับมีชีวิตชีวามากพอสมควร
ในขณะที่นั่งเงียบนั้นเสียเจ้าของร้านกลับดังขึ้นมาทำให้มอร์แกนหันมองไปอย่างช่วยไม่ได้
“..ได้ยินว่าพวกเธอมาจากแถวๆ คฤหาสน์ที่เคยโดนเปลวเพลิงเผาสินะ”
“อา...ใช่แล้วล่ะ”
“จะว่าไปเมื่อกี้ได้ยินลูกค้าคนหนึ่งเล่าเกี่ยวกับคฤหาสน์นั้นด้วย
เจ้าคงเคยได้ยินสินะ”
“ได้ยินว่าเป็นที่อยู่ของแม่มดน่ะ
นอกนั้นไม่รู้หรอก”
มอร์แกนบอกพลางยกน้ำขึ้นดื่มเล็กน้อย
อันที่จริงนอกจากที่พักแล้วที่นี่ยังเป็นร้านเหล้าอีก
แต่ว่าเขาดื่มเป็นที่ไหนตั้งแต่เล็กจนโตมาถูกห้ามไม่ให้ดื่มของแบบนี้มาตลอดทำให้ชายหนุ่มได้เพียงแค่ดื่มน้ำเปล่าเท่านั้น
หากแต่ไม่นานนักเจ้าของร้านกลัวกล่าวต่อทำให้เขาชะงักน้อยๆ
เมื่อได้ยินลักษณะของคนที่เล่าเข้า
“เมื่อกี้ชายชุดคลุมดำเล่ามันให้ข้าฟังด้วยล่ะ”
“ชุดคลุมดำ?”
“ใช่แล้ว”
เมื่อพูดถึงชุดคลุมดำนั้นมอร์แกนคิดออกแค่สองพี่น้องที่อยู่บนโบสถ์นั้นทำให้เขาเงียบไปเล็กน้อยก่อนตัดสินใจกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง...
“เล่าให้ข้าฟังที”
แม้เจ้าของร้านจะงุนงงเพราะปฏิกิริยาตอบรับของเขาก็ตามสุดท้ายแล้วชายหนุ่มกลางวันก็ยอมเล่าให้ฟังในที่สุด....
เมื่อสิบปีก่อนนั้นเคยมีหมอยาที่ถูกเรียกว่าแม่มดขาวเกิดขึ้นมา
เธอนั้นเกิดในตระกูลและฐานะที่สูงส่งหากแต่เพราะสงครามทำให้เธอเปลี่ยนสถานะจากสูงสุดเป็นล่างสุด
เดิมทีเด็กสาวนั้นเป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง แต่ว่าเมื่อโตขึ้นเธอถูกรับเลี้ยงโดนชายหนุ่มผู้เป็นเศรษฐีคนหนึ่ง...แม่มดขาวนั้นมีความฝันที่อยากรักษาเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีอาการประสาทหลอนตั้งแต่ถูกจับเป็นทาส แม้จะถูกมองด้วยสายตารังเกียจแต่ว่าแม่มดขาวนั้นไม่เคยสนใจแม้แต่น้อยเธอยังคงมีความสุขกับการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของตนเอง
แต่ว่าความฝันและความสุขนั้นกลับอยู่ไม่ได้นานในวันที่เธอข้ามฝั่งเพื่อศึกษาวิชาการแพทย์นั้นกลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน
คฤหาสน์ที่ซึ่งเป็นบ้านของเธอถูกเผาไม่เหลือเพียงเถ้าธุลี
หากแต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้นั้นเด็กสาวขาวตะวันออกหนึ่งในนั้นกลุ่มคนที่โดนเผ่านั้นได้สร้างบางอย่างขึ้นมาและส่งออกจากคฤหาสน์
ฝากไว้กับผู้คนที่สูงส่งทั้งหลาย
และไม่มีใครรู้ของชิ้นพวกนั้นกลับสร้างเรื่องราวที่น่าสังเวชถัดๆ
ไปอย่างไม่มีสิ้นสุด
ทางด้านแม่มดขาวนั้นหลังจากที่ทราบข่าวไฟไหม้นั้นเธอตั้งใจจะตามหาพี่น้องที่ออกทะเลอีกสองเพื่อกลับไปยังบ้านของตนเอง...ทว่าสุดท้ายนั้นเรือของทั้งสองก็อับปางลงทำให้ความหวังทุกอย่างเธอหายไป
แม่มดขาวเดินทางกลับมายังบ้านของตนเองอีกครั้ง
แต่เมื่อเธอกลับมาทุกอย่างกลับกลายเป็นเถ้าธุลีไป
หลังจากนั้นผู้คนเห็นแค่เพียงว่าเธอเดินขึ้นไปยังเขตโบสถ์ที่ร้างใกล้ๆ
กับบ้านตนเอง และไม่กลับมาอีกครั้ง
ทว่าสิ่งที่รู้แน่ชัดแม่มดขาวได้ฝากคำสาปไว้กับสถานที่แห่งนั้น
คำสาปแช่งกับคำขอของหล่อนนั้นไม่รู้ว่ามีผลอะไรหรือไม่
แต่ว่าผู้คนมักเห็นดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์เบ่งบานเสมอในสวนด้านหลังนั้น มันเป็นดอกไม้ดอกเดียวไม่เคยเหี่ยวเฉาหลังจากแม่มดขาวจากไปก็ตาม...คำสาปของเธอที่มีไม่มีรู้นั่นคือ...
การที่ขอให้ใครบางคนพบจุดจบที่ไม่ต่างจากเธอ จุดจบเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ทุกอย่างหายไป
หายไปจากโลกใบนี้
----------------------------------------------
มีความรู้สึกว่าวนเรื่องตำนานนั้น เอ่อ คือตอนแรกเล่าไม่หมดสักที TT
ขออภัยนะคะ แต่อีกไม่กี่ตอนเรื่องนี้ก็จบแล้วค่ะ
อย่างที่เล่าข้างต้น...จบไม่สวยเท่าไรค่ะ
ขออนุญาตเรียงชื่อตอนต่อจากนี้
-ปีศาจแห่งราคะ-
-ทางเลือกสุดท้าย-
-จุดจบของเรื่องราว-
แถมตอนส่งท้ายเกี่ยวกับครอบครัวของสองแฝดสั้นๆ ค่ะตอนนี้
-คำขอโทษที่ไม่มีวันส่งไปถึง-
ความคิดเห็น