ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic KNB || Best Part [ Kuroko × OC ] 《 END

    ลำดับตอนที่ #45 : Q special #5 "Father-in-law"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.41K
      140
      5 พ.ค. 63






    Q special #5 "Father-in-law"






        หลังจากวันเกิดของเท็ตสึยะผ่านไปไม่นานนัก อายากะก็ยังคงเป็นผู้จัดการคนเดิมของทีมเซย์ริน วันนี้เธอมาที่โรงยิมฝึกซ้อมคนเดียวเพราะแฟนหนุ่มออกไปทำธุระอยู่ เห็นเพื่อนแก๊งสามช่ารอกันก่อนแล้ว



        "ฮิโรโตะ มาไวจังนะ"



        คาวาฮาระทักทายเธอ อายากะยิ้มตอบไป "พวกนายมากันไวกว่าอีก" เธอหัวเราะ จะว่าไปวันนี้ก็เป็นวันที่รุ่นพี่คิโยชิจะต้องไปรักษาอาการบาดเจ็บนี่นา...สงสัยพวกปีสองคงไปส่งร่ำลาพวกรุ่นพี่



        ถึงจะบอกว่าไม่ต้องไปส่งก็เถอะ…



        "ฮิโรโตะ รู้สึกเหมือนผ้าพันแผล กับ ผงเกลือแร่ใกล้จะหมดแล้วนะ"ฟุริฮาตะเข้ามาบอกชี้แจงรายละเอียดสิ่งของที่ต้องการ นัยน์ตาสีทับทิมกระพริบถี่เป็นการใช้ความคิด



        "เดี๋ยววันนี้หลังซ้อม ฉันไปซื้อเข้ามาเพิ่มพรุ่งนี้แล้วกันนะ"



        "โอ้ ขอบใจเธอมากเลยนะ ช่วยได้เยอะเลย"



        "มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า พวกนาย"เธอบอกไป



        "จะว่าไป คุโรโกะไม่ได้มาด้วยเหรอ?"คำถามจากฟุคุดะ



        "อ้อ หมอนั้นออกไปเอาของน่ะ"



        "โหยยย ปกติเธอกับหมอนั้นตัวติดกันยังกะปาท่องโก๋"คาวาฮาระบ่น อายากะเบะปากขึ้นมาและส่ายหัวเบาๆ "ไม่คิดว่าจะได้เห็นเธออยู่คนเดียวแบบนี้ด้วยซ้ำ คุณผู้จัดการ"



        "จริง"



        ฟุคุดะเสริม



        "โอ๊ยย พวกนายมีปัญหาอะไรกัน?"



        ฟุริฮาตะหัวเราะหลังได้ยินเธอโวยวาย "เอาน่า เขาคบกัน เขาอยู่ด้วยกันก็ไม่แปลกหรอก ยังไงทั้งฮิโรโตะกับคุโรโกะก็เป็นคนเดิมที่เรารู้จักนี่ แค่เปลี่ยนสถานะกันนิดหน่อย"



        ใช่ เธอก็ยังเป็นเธอคนเดิม เป็นผู้จัดการสาวคนเดิม เป็นคนธรรมดาคนเดิม เป็นคนทำกับข้าวประจำทีมบาสคนเดิมแค่นั้น เพิ่มเติมก็แค่… เดี๋ยวนะ ที่ฟุริฮาตะพูดคือจงใจแซวเธอเหรอ?!



        อายากะอยากจะกำหมัดต่อยๆชกๆ!



        ไปเล่นกับเบอร์สองดีกว่า มามะ มาหาแม่มา เธอเข้าไปใกล้เจ้าลูกหมาที่สวมเสื้อบาส กอดๆลูบๆน้องด้วยความรักเหมือนเช่นเดิม เสียงประตูของโรงยิมเลื่อนเปิดออกอีกครั้ง พร้อมเสียงทักทาย "ดีครับ"



        ก่อนที่เจ้าของเสียงจะหันมามองรอบๆ "อ้าว ไปไหนกันหมด?"



        บื้อจริงๆเลย



        "พวกรุ่นพี่?"



        "พูดอะไรของนายเนี่ย คางามิ?"ฟุคุดะถาม ก่อนที่ฟุริฮาตะจะตบต่อ



        "เขาก็ไปส่งรุ่นพี่คิโยชิไง จำไม่ได้เหรอ?"



        "ซวยแล้ว วันนี้เหรอ?"



        ท่าทางแบบนี้จำไม่ได้ชัวร์ๆ



        พึ่งจัดงานอำลาไปไม่นานเอง เจ้าบ้าคางามิเอ้ย



        เอ๋อชะมัด แต่ถ้าเจ้าตัวเข้ารู้ว่ารุ่นน้องลืมแบบนี้คงมีน้ำตาเช็ดหัวเข่าเป็นแน่แท้



        อายากะให้อาหารกับเบอร์สอง ปล่อยให้น้องกินในถาดใส่อาหาร พร้อมกะลูบหัวของลูกหมาตัวน้อยเบาๆ



        จะว่าไปก็มาเกินฝันเหมือนกันแหะ ตอนนี้ เมื่อคืนเธอเข้าร้านหนังสือซื้อนิตยสารบาสรายเดือนมาอ่าน เห็นภาพของทีมเซย์รินขนาดใหญ่ในนิตยสารรายเดือน ในฐานะของทีมที่ชนะวินเทอร์คัพในสมัยแรก



        ก็ยินดีจริงๆน่ะแหละที่ผ่านมาได้



        และจะต้องสู้ต่อไป ในฐานะผู้จัดการเธอสัญญากับตัวเองว่าจะต้องพัฒนาและทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดกว่าที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะทั้งอาคาชิ เซ็ตสึโกะ หรือ โมโมอิ ซัทสึกิก็เป็นคนที่ต่อกรด้วยยากมาก ไหนจะทีมอื่นๆที่จะมีน้องใหม่เข้ามา ต้องพัฒนาฝีมือกันไปอีกแน่ๆ



        และปีนี้พวกรุ่นพี่จะต้องทั้งฝึกซ้อมและอ่านหนังสือไปด้วยกัน เรียกได้ว่าความรับผิดชอบต้องมีให้พร้อมด้วย



        เวลาผ่านไปสักพัก



        ปีหนึ่งที่ใกล้ๆจะขึ้นปีสองอย่างพวกเราก็พูดคุยกันถึงเรื่องซ้อม "เรื่องซ้อมนี่เอายังไง ฮิโรโตะ พวกรุ่นพี่ได้ติดต่อมาได้ไหม?"



        "ไม่มีเลยนะ"



        "งั้นแสดงว่าวันนี้จะงดซ้อม!"ตัวแทนแก๊งสามช่าพูดออกมา ก่อนที่เธอจะเห็นพวกเขาโดนหมัดของกัปตันฮิวงะเข้าให้ งานนี้อายากะไม่เกี่ยวนะคะ!



        "จะไปงดซ้อมได้ไง เจ้าพวกบ้าเอ้ย"



        "กัปตัน เอ่อ สวัสดีครับ!"



        "กัปตัน สวัสดีค่ะ รุ่นพี่คิโยชิเป็นยังไงบ้างเหรอคะ?"



        "ก็ส่งขึ้นเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว ส่งอีเมล์ไปหากันก็ได้ หรือจะบินไปหาก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนี่นา ไม่เห็นจะตีองบีบน้ำตาเลย ก็เลยรีบถีบส่งขึ้นเครื่องไปแล้ว"



        กัปตันคะ อย่ามาเก๊ก!



        "แต่คนที่ลาพร้อมน้ำตาคลอเบ้ามีแต่นายคนเดียวนะ"



        เนี่ย รุ่นพี่อิสึกิ เขาแฉแล้ว ไม่ต้องมาเก๊กเลยนะคะ กัปตัน  คุณโป๊ะแตกแล้ว!!!



        ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่ค่ะ



        "ว่าแต่เมื่อกี้ ฉันได้ยินอะไรแว่วๆนะ ว่าใครจะงดซ้อมกัน พอจบแมตช์เด็กใหม่ ก็มีทัวร์นาเมนต์คันโต ต่อด้วยอินเตอร์ไฮเลยนะ แล้วไอ้เด็กอวดเก่งคนไหน คิดว่าพวกเราจะว่างขนาดงดซ้อมกัน!?"



        รังสีอำมหิตทะมึนตึงค่อยๆออกมาจากร่างโค้ชสาว พร้อมรอยยิ้มอาบยาพิษ อายากะจะมองห่างๆอย่างห่วงๆ



        "แบบนั้น รับรองพวกนายได้ออกไปแก้ผ้าสารภาพรักแน่!!!!"



        ดะ เดี๋ยวนะคะ ไอ้คำสาบานยังไม่จบลงอีกเหรอคะ…



        "เข้าปีใหม่ก็ต้องเริ่มใหม่นะ จะต้องพาเด็กใหม่ไปสาบาน ให้เป้าหมายสูงขึ้นกว่าเดิม"



        "เดี๋ยวนะ จะให้เป็นแชมป์สองสมัยซ้อนเหรอ?!"คางามิโวยวายอย่างรับไม่ได้กับคำพูดของโค้ชสาว แหงสิ กว่าจะได้เป็นแชมป์วินเทอร์คัพเลือดตาแทบกระเด็น



        "ก็แน่นอนอยู่แล้วสิ! ทีมอื่นๆก็คงไม่ได้อยู่เฉยๆ พวกเขาก็ต้องฝึกซ้อมกับกำลังเสริมใหม่ๆเพื่อมาเอาชัยอย่างแน่นอน ถ้าพวกเราเอาแต่อู้ก็จะโดนพวกนั้นแซงไปแน่นอน"ร่ายยาวจนจบ อายากะมองนกหวีดในมือ "เอาล่ะ มาเริ่มซ้อมกันได้แล้ว!"



        "ว่าแต่คุโรโกะยังไม่มาเลยนี่นา…"



        โค้ชสาวชะงักหลังคำทักของรุ่นพี่สึจิดะ "ฮิโรโตะ ตาคุโรโกะไปอยู่ไหน!?"



        อายากะสะดุ้งโหยง ก่อนที่ฟุริฮาตะจะช่วยบอก "เมื่อกี้ เจอที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เหมือนจะบอกว่าเดี๋ยวมานะครับ"



        "จะบ้าตาย!"รุ่นพี่ฮิวงะบ่น ก่อนจะวาดแขนชี้ออกคำสั่งกับเอสของเซย์ริน "คางามิ นายไปดูหน่อย"



        "หา ให้ผมไปดูเหรอ...ฮิโรโตะก็ได้ไม่ใช่เหรอ...แต่ก็...ครับ"



        อายากะดูท่าทางของคนถูกใช้และขำออกมา ทุกคนต่างเริ่มซ้อมกันไปก่อน ขณะที่อายากะก็จดรายละเอียดการซ้อมของคนในทีม



        เธอมองสองคู่หูแสงเงาที่กลับเข้ามา ส่งยิ้มให้เงาที่มองมา ก่อนที่เราจะละไปทำหน้าที่ของใครของมัน ในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม



        "พักได้!"



        เสียงนกหวีดและเสียงพูดของโค้ชดัง อายากะมองเวลา เป็นเวลาพักสิบถึงยี่สิบนาที เธอแจกจ่ายน้ำให้พวกรุ่นพี่ ก่อนจะไล่มายังเพื่อนๆปีเดียวกัน มาหยุดอยู่ที่เงาที่ไม่ยอมรับน้ำขวดสุดท้ายจากมือไป



        "จะมากวนอะไรของนาย?"



        "กอดหน่อยครับ"



        ดูนะคะ ดูคนเรานะ ดูนะ ดูไอ้พวกกล้าบ้าบิ่นนะคะ ดูนะคะ!



        อายากะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามเก๊กคำพูดให้ดูดุขึ้นมา "ไม่ต้องมาเล่นลิ้นเลย เอาน้ำไปได้แล้ว" เธอตัดสินใจยัดขวดน้ำใส่มือของเงาเซย์รินด้วย



        โดยพอยัดใส่มือเสร็จ จะเดินไปดูความเรียบร้อยอย่างอื่นต่อ ไม่ได้สังเกตคนที่รับขวดน้ำไปและวางลงเดินมารวบกอดจากด้านหลังและซุกหน้าลงกับไหล่เธอ



        หน้าไม่อาย!



        กลางโรงยิมเลยนะ!!



        ไอ้บ้า เท็ตสึยะ!



        พอเป็นแฟนแล้วก็กล้าทำอะไรบ้าๆแบบนี้เหรอ?



        และเสียงซุบซิบของไอ้เพื่อนๆปีหนึ่งกึ่งปีสองก็…



        "ทางซ้ายสิบนาฬิกา พวกนายเห็นเหมือนฉันไหม?"



        "ฉันพนันว่าฮิโรโตะจะต้องโวยวาย และคุโรโกะจะไม่ยอมปล่อย"



        "อ่ะ งั้นฉันพนันต่อว่าต่อให้โวยวายยังไง ยัยนั้นก็ไม่สะบัดออก"



        "และคุโรโกะจะหอมแก้มดั---"



        อายากะรู้สึกถึงสัมผัสจากจมูกที่กดลงมาหอมที่แก้มกลางโรงยิม ผู้จัดการสาวของเซย์รินนิ่งค้างหลังถูกหอมแก้ม เธอรีบสะบัดคนมาหอมแก้มตัวเอง พวกปีหนึ่งกึ่งปีสอง (เพราะกำลังจะขึ้นปีสอง) สี่คนที่นั่งรวมอยู่ด้วยกันระหว่างพัก จับมือกันเบาๆ



        ไอ้พวกรู้ดีเอ้ย!!



        จากสามคนเป็นสี่คน ไปได้ยังไง คางามิแกเนียนเข้าแก๊งสามช่าไปแล้วเหรอ โอเค อายากะจะเรียกว่าแก๊งสี่ช่า!



        "เฮ้ย คุโรโกะให้มันน้อยๆหน่อย!"



        เสียงจากกัปตันที่น่าเคารพดังโวยวาย



        "ให้มันน้อยๆหน่อย ให้มันน้อยๆหน่อย...เผือกเยอะๆ!"



        "เงียบไป อิสึกิ…"



        "คุโรโกะนี่ติดฮิโรโตะมากเลยนะ"



        รุ่นพี่สึจิดะทัก



        "จะว่าไปก็จริงนะ"รุ่นพี่โคงะเห็นด้วย "ตั้งแต่เป็นแฟนกัน ไม่เคยเห็นคุโรโกะแยกจากเธอเลยนี่นา ฮิโรโตะ เอ๊ะ หรือว่าไม่เคยแยกกันเลย ใช่ ไม่เคยเห็นพวกนายแยกกันเลยนี่นา!"



        อายากะอยากจะตีหัวเท็ตสึยะขึ้นมาแล้วนะ ไอ้คนติดสกินชิพนี่ กอดเธอทุกวันจนจะช้ำแล้วนะ!



        …..อะ อะไรนะ เผลอหลุดไปเหรอ ว่าโดนกอดทุกวัน?



        หยุด หยุดแซว เก็บ เก็บมือลง เก็บรอยยิ้มของพวกคุณเอาไว้ เดี๋ยวนี้



        อะไรนะ อะไร ใครร้อนตัว ไม่มี ไม่เลย



        "ทุกคนหมดเวลาพักแล้ว ซ้อมต่อได้!!!!"











        "วันนี้ คุณแม่ไม่อยู่บ้านเหรอครับ?"



        คุณแม่?



        อะไรนะ?



        เอาจริงดิ?



        "คุณแม่?"อายากะถามออกไปด้วยความสงสัย



        "ครับ คุณแม่"



       "ใครให้นายเรียกแม่ฉันว่าแม่กัน?"สาวผมสีดำแสดงท่าทางโวยวายระหว่างซื้อของที่รับปากกับฟุริฮาตะแล้วว่าจะเป็นฝ่ายซื้อข้าวของที่ขาดไปเสร็จเรียบร้อย และกำลังกลับมาที่บ้านของตัวเอง ผู้เล่นมายาฟังคำถามก่อนที่จะตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง



        "ก็แม่อายะจังแหละครับ"



        เธออยากจะแผดเสียงกรีดร้อง แม่นะ แม่!



        "แล้วก็แม่ของแฟนก็เหมือนแม่ของเราไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าอายะจังจะเรียกพ่อกับแม่ผมว่า คุณพ่อ คุณแม่ ผมกับที่บ้านก็ไม่ขัดนะครับ"



        เอาเถอะ...ขี้เกียจเถียงแล้ว



        แค่อย่าไปเรียกคนนั้นแบบนั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไร…



        อายากะกับแฟนหนุ่มเดินมาถึงที่บ้าน ก่อนที่เธอจะเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกบิดประตูบ้านไม่ได้ล็อคทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่บ้าน "แปลกจัง แม่ไม่น่าจะลืมล็อคบ้านนี่นา…"



        อดีตผู้เล่นมายาแห่งทีมปาฏิหาริย์ดันเธอไปอยู่ข้างหลังของเขา หลังได้ยินเสียงอะไรดังมาจากข้างใน ประตูถูกเปิดออกมา



        "อายากะ ลูกรัก!!!!"



        เสียงคุ้นหู...



        "พ...พ่อ…"



        "คุณพ่อ…?"



        ร่างของอายากะถูกหนุ่มวัยกลางคนดึงเข้าไปกอดๆ ลูบหัวหอมหัว ผู้ชายวัยกลางคน เธอค้างทำตัวไม่ถูกในหัวมีความสงสัยอยู่เต็มไปหมดว่าพ่อของตัวเองมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง คนเป็นพ่อหันไปมองแฟนหนุ่มหัวฟ้าของอายากะที่กำลังยืนอยู่ห่างๆ "แล้วไอ้หน้าหวานมันเป็นใคร?"



        อ่า…



        "สวัสดีครับ คุณพ่อ"



        คนถูกเรียกว่าไอ้หน้าหวาน เรียกพ่อของเธอว่าคุณพ่อ อายากะเริ่มหน้าซีด….เมื่อเห็นคิ้วของฮิโรโตะ โคจิโร่ ผู้เป็นพ่อ กระตุกขึ้น….



        "คุโรโกะ เท็ตสึยะครับ เป็นแฟนของอายะจังครับ คุณพ่อ"



        ………



        เวร เวรกรรม



        "ไอ้หมอนี้มันเป็นใครกัน อายะ!!??"



        ค่ะ คนที่เธอหมายถึง...ก็คือพ่อของเธอเอง



        "เข้าบ้านก่อนเถอะค่ะ พ่อ…"เด็กสาวทำหน้าเอือมเล็กน้อย แล้วลากพ่อของตัวเองเข้าบ้าน ขณะที่เท็ตสึยะก็เดินตามเข้ามาด้วย



        อายากะกำลังถูกสอบสวนขณะที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เธอนั่งตรงข้ามกับพ่อของตัวเอง…. มองพ่อตัวเอง ความจริงฮิโรโตะ โคจิโร่ไม่ใช่ผู้ชายดุ แต่เขาแค่...ใช่ แค่หวงอายากะมาก ตั้งแต่อยู่ที่อังกฤษ



        ชีวิตที่อังกฤษ อายากะหรือไอรีน อยู่กับเพื่อนกับฝูงเป็นปกติ เคยถูกสารภาพรักจากเพื่อนร่วมห้องอยู่สองสามครั้ง….และคนเป็นพ่อที่มักชอบออกลายหวงลูกสาว ก็เป็นอุปสรรคที่ทำให้เธอไม่ได้คบกับใครก็คือพ่อ



        จริงๆที่ไม่ได้พ่อว่าคบกับเท็ตสึยะ ไม่ใช่อยากปิดบังหรอกนะ แต่อายากะมีเรื่องวุ่นๆให้ทำจนลืมพ่อไปซะสนิท



        "เท็ตสึยะไปเอาน้ำมาให้หน่อยนะ"



        มิติใหม่ ใช้แขกขนน้ำมาให้



        แต่แฟนหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธเขาพยักหน้าแล้วไปที่ครัว เธอหันมาเผชิญหน้ากับพ่อ โอเค เธอจะคุยเรื่องอื่นๆ ยังไม่โยงเข้าเรื่องของเท็ตสึยะแล้วกัน "พ่อมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง? แม่รู้เรื่องนี้รึเปล่า?"



        "แม่เขาไม่ได้บอกลูกเหรอ ว่าพ่อจะมาอยู่ญี่ปุ่นสักพัก น่าจะประมาณสองอาทิตย์"



        "สงสัยแม่ลืมน่ะ…"



        "เป็นไงบ้าง?"



        "สบายดีค่ะ ทั้งหนูทั้งแม่เลย หนูเป็นผู้จัดการทีมของทีมบาสเซย์รินด้วยนะ พึ่งได้แชมป์วินเทอร์คัพมาด้วยค่ะ"



        "โอ้ ดีเลยนี่นา เก่งมาก ลูกพ่อ!"



        "นี่หนูทำอาหารด้วย ทำไปให้พวกรุ่นพี่และเพื่อนๆในชมรมค่ะ"



        เธอเล่าเรื่องไป พร้อมขยับมือไม้ประกอบท่าทาง คนเป็นพ่อฟังเพลินๆอย่างภูมิใจในตัวลูกสาวคนเก่งของตัวเอง



        ก่อนความเพลินจะถูกดับลง เมื่อ…



        โครม! เพล้ง!



        เสียงดังออกมา อายากะลุกออกไปดู ก่อนจะรีบเข้าไปจับแฟนหนุ่มที่หกล้มลุกขึ้นจากพื้น "เท็ตสึยะ เป็นอะไรมากไหม?"



        "เมื่อกี้ก้าวพลาดนิดหน่อยครับ…"



        "เดี๋ยวพักก่อนนะ"



        "ขอโทษนะครับ ทำแก้วแตกเลย"



        "ไม่เป็นไรๆ"



        ท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของลูกสาวสุดรักสุดหวงปรากฎในสายตาของผู้เป็นพ่อที่ออกมายืนพิงผนังมอง จริงๆเขาคงจะไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะลูกสาวของเขา...ใช่ อายากะเป็นเด็กดี เป็นเด็กดีมากๆ



        แต่สิ่งที่ทำให้คนเป็นพ่อแบบเขาหงุดหงิดเหรอ



        ก็ตอนที่ลูกสาวเขาไปประคองไอ้หน้าหวานดูจืดๆนี่ มันแอบเนียนกอดกอดลูกเขา ใช่ เขาเห็น เขาเห็นนะ!



        และไม่ต้องมามองหน้าเขาแบบนั้นด้วย แบบที่ทำเหมือนเหนือกว่าเขา ไม่ต้องมามองลูกสาวเขาด้วยสายตาจะกลืนกินลูกเขาทั้งตัวแบบนั้น….



        เขาไม่ยอมรับ ไม่มีทางยอมรับไอ้หมอนี้มาเป็นลูกเขย ไม่มี ไม่มีวัน ไม่มีวันเด็ดขาด



        เอาอายากะ เอาอายะจังลูกรักของเขาคืนมา!











        สาวผมดำมองพ่อหลังจากที่แฟนหนุ่มกลับบ้านไปแล้ว ท่าทางเขาดูจะไม่ยอมรับอดีตเพื่อนสนิทคนนี้มห้มาเป็นแฟนเธอเลยสักนิด สุดท้ายเธอก็เปิดประโยคสนทนา "พ่อจำได้ไหม...เท็ตสึยะเองนะ เท็ตสึยะที่เล่นกับหนูตอนอนุบาล"



        "พ่อแทบจำไม่ได้แล้ว ไอ้หน้าจืดนั้นคือเพื่อนสนิทคนนั้นของลูกเหรอ?"



        เดี๋ยวก็หน้าหวาน เดี๋ยวก็หน้าจืด สรุปเพื่อนเธอมันหน้ายังไงนะ…



        "ใช่แล้วๆ พ่อจำได้ไหมที่เท็ตสึยะมาเล่นกับหนูตอนที่แม่กับพ่อมารับช้าไง"เธอพูดแล้วยิ้มกว้าง "ไม่น่าเชื่อเลยว่าหมอนั้นจะยังจำหนูได้ด้วยเลยแหละ ผ่านมาตั้งเกือบสิบปีแล้ว"



        ไอ้หมอนั้น มันคลั่งรักลูกสาวเขาเหรอ!?



        แต่ก็นับถือในความจำได้นั้นอยู่นิดนึง



        "ตอนเจอกันครั้งแรก หนูกลัวว่าจะไม่ใช่เท็ตสึยะด้วยแหละ แต่ดีใจมากๆเลยนะที่ใช่ แล้วก็หมอนั้นก็อยู่ทีมบาสของเซย์รินด้วยแหละ!"



        "คงได้เป็นตัวสำรองล่ะสิ ดูปวกเปียกขนาดนั้น"



        "ตัวจริงค่ะ เป็นตัวจริงแหละ"



        ชายวัยกลางคนรู้สึกปวดหัว อะไรนะ ท่าทางดูปวกเปียกแค่เดินก็สะดุดล้มคว่ำแบบนั้นน่ะเหรอ จะเป็นตัวจริงทีมบาสของลูกสาวเขาที่ได้แชมป์วินเทอร์คัพ ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ



        ฮิโรโตะ โคจิโร่ รู้สึกเหลือเชื่อ



        และอายากะก็หัวเราะ ดวงตาสีทับทิมของลูกสาวเป็นประกาย "หนูเองก็เคยประมาทในความสามารถของเขามากๆเลยแหละ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว เท็ตสึยะพึ่งพาได้มากเลยนะคะ พ่อ เขามีทั้งความมุ่งมั่น ความรัก ความจริงใจ…"



        เขาไม่เคยเห็นลูกสาวแสดงออกกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้มาก่อน ไม่เหมือนคนอื่นๆ



        บ้าน่า ไอ้บ้านั้น หลอกลวงอะไรลูกสาวเขา



        ลูกเขาเป็นคนดี ต้องโดนหลอกแน่ๆ ด้วยความหมาป่าห่มหนังแกะ ต้องทำให้อายะเผลอหลงกล ไม่มีทาง เขาไม่มีทาง ให้ไอ้คนที่อยู่ดีๆมาเรียกเขาว่าคุณพ่ออย่างถือดีแบบนั้นหรอก!



        "อายะ...ลูกชอบเขามากเหรอ?"



        "ก็ถ้าไม่ชอบกันก็คงไม่เป็นแฟนหรอกค่ะ…"



        …….



        มันก็จริง



        "แล้วเขาจะดูแลลูกได้รึยังไง?"



        ลูกสาวไม่ได้ตอบคำถามของคนเป็นพ่อในทันที เธอทำท่าทางใช้ความคิด



        "คิดว่ามันเป็นการดูแลกันและกันมากกว่านะคะ"



        อายะยิ้มกว้าง








        เขายังไม่เข้าใจอยู่ดี



        ลูกสาวเขาดูไม่ได้ชอบผู้ชายประเภทนี้เลยด้วยซ้ำ ให้ตายสิ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย



        และทำไม... เขาต้องมาสะกดรอยตามลูกสาวที่เดินคู่ไปกับคนที่มารับถึงบ้าน เมื่อคืนเขาเองก็คุยกับอดีตภรรยาเหมือนกันถึงเรื่องนี้ว่า ไอ้หนุ่มนั้นจะมารับลูกสาวไปทำกิจกรรมของชมรมในเวลานี้



        เขาหลบอยู่ตามหลังเสา พยายามทิ้งระยะห่างให้ดูไม่มีพิรุธอะไร



        มือกำหมัดเล็กน้อย ตอนเห็นว่าไอ้ผมฟ้าโอบไหล่ลูกสาวของตัวเอง จนปาก้อนหินก้อนเล็กๆใส่หัวแม่นๆไปที คนโดนปาหินใส่ ร้องดังออกมา



        "เท็ตสึยะเป็นอะไรรึเปล่า?"



        "เหมือนมีอะไรปามาใส่หัวครับ…"



        "ไหน ดูหน่อย?"



        ไม่ว่าเปล่าคนเป็นลูกสาวก็พยายามเขย่งปลายเท้าขึ้น หัวใจของคนเป็นพ่อแทบจะตกไปที่ตาตุ่ม ตอนไอ้แฟนของลูกจับเอวของอายากะประคองเธอเอาไว้ เขากำหมัดแน่น ใจอยากจะเข้าไปแยกทั้งสองคนออกจากกันจะตายชัก



        ไอ้นี้มันแอบเนียนสกินชิพลูกสาวเขาตลอดเวลา!



        "ดูก็ไม่มีแผลอะไรนะ เจ็บมากรึเปล่า?"



        "ก็ไม่ค่อยแล้วครับ…เป็นห่วงผมขนาดนี้เลยเหรอ?"



        น้ำเสียงนิ่งเรียบตอบไป และยังหยอกเด็กหกขวบในสายตาของเขา ใช่ อายะสิบหกแล้ว แต่สำหรับคนเป็นพ่อ ลูกก็เป็นแค่เด็กหกขวบคนนึงเท่านั้นแหละ! มายงมาหยอกน้องทำไม น้องแค่หกขวบ เนี่ย มันร้าย มันร้ายๆมากๆ!!



        "ก็ห่วง…ไม่ได้เหรอ?"



        "ทำแบบตอนเด็กหน่อยสิครับ"



        "โหย…"



        "น่า...ทำเถอะครับ มันช่วยให้ผมหายเร็วขึ้นนะ"



        อายากะลดปลายเท้าที่เขย่งลง เธอยืนเต็มเท้า "งั้นก็ก้มหัวลงหน่อย คุณอดีตซิกซ์แมน"



        หัวของแฟนก้มลงมาตามคำบอกของเธอ



        สิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าคนเป็นพ่อคือลูกสาวที่เป่าลมออกจากปากเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงสดใส "หายนะ เพี้ยงๆ"



        หายนะ เพี้ยงๆ งั้นเหรอ?



        ตอนนั้น….



        ภาพหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเขา



        ในตอนที่อายากะยังเป็นแค่เด็กประถม ตอนที่ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ เธอเป็นเด็กนิสัยร่าเริง เข้ากับคนง่าย จึงไม่แปลกใจเลยที่เข้ากับผู้หญิงคนใหม่ของเขาได้อย่างง่ายดาย วันนั้นที่เขาแอบดูยัยลูกสาวที่กำลังเข้าครัวกับภรรยาคนใหม่



        ภรรยาของเขา ทำมีดบาดนิ้วของตัวเอง ลูกสาวของเขาที่ติดพลาสเตอร์บนนิ้วให้ เธอยิ้มกว้าง



        "หายนะ เพี้ยงๆ"



        ตอนนั้นอายากะพูดแบบนั้น



        "เท็ตสึยะ เคยสอนไว้ค่ะ ว่าถ้าทำแบบนี้ แผลจะหายเร็วขึ้น!"



        ให้ตายสิ



        พอคิดมาถึงตรงนี้



        เขาจะห้ามได้ยังไง…



        เท็ตสึยะที่ว่าก็คือ ไอ้หมอนี้นี่เอง…



        คนเป็นพ่อมองลูกสาวที่เดินไปกับแฟนหนุ่มต่อ



        เป็นเท็ตสึยะที่ลูกสาวรอมาตลอด



        เป็นเท็ตสึยะที่ดีที่สุดที่ลูกสาวของเขาเชื่อ



        หมอนั้นที่เปลี่ยนจากการโอบไหล่ลูกของเขา มาเป็นการจับมือของเธอ เป็นการจับที่ดูถนอมไม่ได้ดูบีบแรงจนน่าอึดอัด กระนั้นก็ไม่ได้ดูจะปล่อยให้หลุดลอยไป



        ที่คุยกัน...ที่พูดกัน…



        ดูทั้งคลั่งรักอายะ



        แต่ก็...ดูเป็นห่วง….ดูพึ่งพาได้ทั้งๆที่ท่าทางดูพึ่งไม่ได้เลย



        ไม่อยากจะยอมรับสักนิด



        แต่...เฮ้อ…



        เขาหยิบโทรศัพท์ กดโทรออกไป



        เมื่อปลายสายรับสาย



        "คุณ...ตอนนี้ลูกเราอายุเท่าไรแล้ว?"



        เขาถามอดีตภรรยาออกไป



        [ หา...ลูกเราก็สิบหก ปีนี้จะสิบเจ็ดแล้วนะ คุณ ]



         "เหรอ….ผมยังคิดว่าเธอหกขวบอยู่เลย"



        [ คุณ ลูกเราโตแล้ว ]



        "ในสายตาผม ลูกก็เด็กตลอดเวลาแหละ"



        [ คุณต้องตั้งสติ และ ท่องว่าลูกโตแล้ว ]



        [ เชื่อเถอะ ลูกเราเก่งแล้ว เราเป็นผู้ใหญ่ก็อยู่ในส่วนของผู้ใหญ่ วันนึงถ้าเขาไปต่อกันไม่ได้จริงๆ เขาก็จะหาทางออกแบบเรา ]



        [ อกหักยังดีกว่ารักไม่เป็นนะ ]



        "ก็ลูกยังเด็ก…"



        [ เด็กก่อนหัดเดินได้ ก็ต้องหกล้มก่อน ]



        "....."



        [ ได้สติแล้วใช่ไหม ไหนท่องมา ]



        "อายะจะสิบเจ็ดแล้ว"



        [ ดีมาก ]



        "แต่ถ้ามันทำอายะเสียใจ เธอจะว่ายังไง!? ถ้าลูกเราต้องร้องไห้ ฉันต้อง ฉันต้องยอมไม่ได้แน่ๆ!"



        [ เมื่อกี้ท่องว่าอะไร ]



        "อายะสิบเจ็ดแล้ว"



        เขาตอบอดีตภรรยาออกไป หลังเธอเรียกสติ 



        [ อื้อ ]



        ทางปลายสายส่งเสียงมาคล้ายเอือมๆ



        [ และก็สุดท้ายนะ คุณอย่าดูถูกคนที่คลั่งรักเลย ]



        [ เขาไม่ทำให้ลูกของเราเสียใจง่ายๆหรอก ]




        ทางปลายสายวางสายลงไป



        เขาถอนหายใจ



        ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ...แต่ว่า...




        ถ้ามันทำหนูร้องไห้เมื่อไร



        พ่อจะจัดการเองนะ อายะ



        และถ้ามันทำอะไรเกินไปมากกว่านี้ล่ะก็….



        วินาทีนั้น จิตวิญญาณของคนเป็นพ่อก็พึ่งจะนึกขึ้นมาได้



        ถะ….ถ้าลูกสาวของเขาถูกจูบไปแล้วล่ะก็….



         เขาต้องร้องไห้แน่ๆ



         "อะ...อายะจะสิบเจ็ดแล้ว"



        เสียงเขาสั่นหลังท่องประโยคนั้น



         อกเขาจะแตกตาย



    ใช่ ถ้าอายะถูกไอ้หมอนั้นจูบไปแล้วล่ะก็....



    เขาจะกัดลิ้นตายตรงนี้เลยได้ไหม









    |||||


    สวัสดีวันอังคารค่ะ 55555

    ตอนนี้อาจเป็นตอนพิเศษที่เมาๆกาวไปซะหน่อยของเรื่องค่ะ 555


    ต้นเรื่องเป็น Ss.3 ตอนที่25 ครึ่งหลังที่มาววไม่ยอมเขียนให้จบค่ะ เพราะจะเอามาต่อแบบนี้ 555


    ว่าด้วยเรื่องพ่อตาไม่ปลื้ม มุกละครไทยมากค่ะ แง อย่างที่เคยเขียนไปนะคะ ว่าพ่อแม่อายะเขาเลิกกัน อายะไปอยู่กับพ่อที่แต่งงานใหม่หลายปีแล้ว เธอไม่ได้มีซีนดราม่าอะไร ถึงตอนนั้นจะเด็กแต่ก็เข้าใจอะไรได้บ้าง แต่งงานใหม่ก็คือแต่งงานใหม่ 55


    ส่วนตาครก.นี่ก็น่าหมั่นไส้หน่อยๆ พ่อเขาโผล่มาปุ้บ เรียกคุณพ่อเลย คนเป็นพ่อที่หวงลูกก็ขึ้นค่ะ ขึ้นค่ะ ขึ้นจริงๆ 55555 อกจะแตกตายแล้ว อย่าไปแอบกระซิบบอกคุณพ่อเรื่องนั้นเด็ดขาดนะคะ! 5555


    ตอนพิเศษตอนต่อไปก็ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวกับอะไรเท่าไรเลยค่ะ last game นี่ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเขียนใหม่ เพราะยาวมาก ยาวจริงๆ แง


    เอาเป็นว่าตอนพิเศษต่อๆไปจะเกี่ยวกับอะไรมารอลุ้นกันนะคะ!


    และก็ๆๆๆ เกือบลืมเลยค่ะ แง


    มาววกับคุณนีดได้ทำการ collab นิยายกันนะคะ เป็นโปรเจคพิเศษ

    พี่น้องมิยาจิ x OC ( คุณนีด & มาวว ) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในจักรวาลของเราทั้งสองคนเลยค่ะ มีแค่สองเรื่องนี้ที่เชื่อมกันเท่านั้น ซึ่งสามารถติดตามได้นะคะ ทั้งคุณนีดและมาววต่างเปิดเรื่องกันแล้วเรียบร้อย


    #แท่งไฟเหินเวหา ; Miyaji Kiyoshi By I need มาม่า 》


    #ยูยะอย่าดุน้อง ; Miyaji Yuya By มาวว ♡ 》


    สำหรับวันนี้มาววขออนุญาตลาไปก่อน สวัสดีค่ะ!






    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×