ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic KNB || Best Part [ Kuroko × OC ] 《 END

    ลำดับตอนที่ #22 : Q22

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.66K
      188
      7 เม.ย. 63






    Q22






        "เอ๋!!!"



        ทุกคนส่งเสียงดังเป็นเสียงเดียวกันหลังได้ยินคำพูดของโค้ชสาว พวกเขาต่างแสดงความสงสัย "จริงเหรอ? อเมริกา?"



        "คางามิน่ะเหรอ?"



        "ทำไมไปกะทันหันแบบนี้?"



        รุ่นพี่ริโกะเท้าเอวก่อนจะพูดต่อ "โรงเรียนของเรามีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนระยะสั้นน่ะ แล้วโรงเรียนที่มี Contact กับโรงเรียนของเราก็อยู่ในลอสแองเจลิสที่เป็นบ้านเก่าของคางามิ"เธอเว้นช่วงเสียง "เห็นบอกว่ามีอาจารย์สอนบาสที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องกลับไปเจอให้ได้"



        อาจารย์อย่างงั้นเหรอ…?



        สอนบาสด้วย



        คงไม่น่าเป็นห่วง แน่สิ ในหัวของหมอนั้นจะมีอะไรนอกจากบาสอีกกัน



        "ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย?"คนเป็นกัปตันทีมพูดอย่างสงสัย



        "ฉันก็พึ่งได้ข่าวคราวมาเมื่อคืนนี้เองอ่ะ"



        มันกะทันหันไปป่าววะ นาย



        นี่ถ้าในอนาคตเจ้าคางามิแต่งงานกับใครปุ้บปั้บ ให้การ์ดวันนี้ แต่แต่งพรุ่งนี้ก็ไม่แปลกใจเลย



        จากนั้นอายากะก็เห็นรุ่นพี่สาวเดินตรงเข้าไปหาเท็ตสึยะ เธอวางมือลงบนกลุ่มผมสีฟ้า



        ก่อนจะออกแรงขยี้เส้นผมแรงๆจนหัวเพื่อนของเธอขยับตาม



        "พวกม.สี่ปีนี้นี่นะ อยากอยู่ก็อยู่ คิดอยากจะไปก็ไป ยังกะจะวอนหาเรื่องอย่างนั้นเลยน้า"



        รอยยิ้มที่น่ากลัวที่สุดในโลก!



        "มาลงกับผม ผมเจ็บนะครับ"เสียงของเท็ตสึยะทำให้อายากะรู้สึกอยากจะขำออกมาหลังเขาถูกรุ่นพี่สาวมองเป็นสนามอารมณ์ในตอนนี้



        ตลกชะมัดยาก



        "ขอโทษด้วยครับ โอ๊ย โอ๊ย"



        อายากะพยายามกลั้นขำกว่าเดิมหลังเขาส่งเสียงขอโทษรุ่นพี่ริโกะทั้งๆที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองผิดอะไร



        ถ้าเจ้าหมอนั้นกลับมาแล้วเก่งขึ้นจริง



        ก็ดีสิ



        "คุณฮิโรโตะครับ ขอคุยด้วยข้างนอกแปบนึงได้ไหม?"คนที่สลัดจากการเป็นสนามอารมณ์ของรุ่นพี่สาวหันมาถามเธอ อายากะไม่ได้ตอบในทันที เธอหันไปส่งสัญญาณเชิงขออนุญาตโค้ชประจำทีมบาสเซย์ริน



        เมื่อได้รับการพยักหน้าเป็นคำอนุญาต อายากะก็ถูกลากออกมานอกโรงยิมในทันที หลังปิดประตู เขาเดินไปข้างๆ แล้วค่อยๆเริ่มเปิดบทสนทนา "จริงๆแล้ว ผมพอรู้ครับว่าทำไมคางามิคุงถึงเลือกไปกะทันหันแบบนี้"



        อ่า...คงจะเป็นเรื่องส่วนตัวสินะ



        "ก็ถ้ากลับมาแล้วเก่งขึ้นก็ดีสิ...จริงไหม?"



        "อื้ม ครับ"นัยน์ตาสีฟ้าไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมาหลังจากการตอบรับคำของเด็กสาว "เมื่อคืนคางามิคุงเขาบอกว่า ถ้าเขาจะต้องมองคุณฮิโรโตะขณะซ้อม...คงไม่มีสมาธิเลย คางามิคุงเลยตัดสินใจไปแลกเปลี่ยนไปเจออาจารย์ของตัวเองครับ"



        ทำเอารู้สึกผิดเลย…



        นี่เราเป็นตัวปัญหารึเปล่าเนี่ย?



        "แต่ว่าคางามิคุงฝากบอกว่าเขาไม่คิดว่าตัวคุณเป็นตัวปัญหานะครับ แล้วก็ฝากบอกมาว่าให้คุณยิ้มเยอะๆ มีความสุขมากๆด้วย"



        "เป็นห่วงไม่เข้าเรื่องเลย"



        "ก็คนเป็นห่วงนี่ครับ"



        "หมอนั้นเองรึเปล่าที่น่าเป็นห่วง"



        คราวนี้ผู้เล่นเงามายาเป็นฝ่ายยิ้ม "จริงๆตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นครับ แต่ว่าเมื่อคืนคุณโมโมอิพึ่งเมล์มาบอกว่ามีคนๆหนึ่งที่กำลังจะบินไปลอสแองเจลิสวันนี้เหมือนกันด้วย"



        อายากะกระพริบตาถี่รู้สึกตามไม่ค่อยทันนัก ก่อนที่มือขาวที่มักส่งลูกบาสให้คนอื่นๆจะวางบนกลุ่มผมสีดำของเธอ เด็กสาวมุ่ยหน้าทำท่าทางไม่ชอบ "เอามือออกไปเลยนะ ไป กลับดข้าโรงยิมได้แล้ว เดี๋ยวคุณคาเงโทระก็มาดุหรอก"



        เท็ตสึยะหัวเราะ "ผมใช้มิสไดเรกชั่นได้นะครับ"



        ของแบบนั้นใครเขาเอามาใช้กับเรื่องแบบนี้เล่า!!!



       เนียนเก่งมาก



       ต้องมอบมงแล้วแหละ












        "เอ้า พวกเธอออกไปเล่นตำรวจจับโจรนะ!"



        "อีกแล้วเหรอ…?"



        "ใครที่แพ้ต้องฝึกกล้ามเนื้อสองเท่า"



        พอพูดแบบนั้นหนุ่มๆในทีมบาสก็ออกไปกันหมด อายากะมองประตูที่เปิดขึ้นด้วยมือของรุ่นพี่สาวที่น่าจะออกไปซื้ออะไรมา จากที่สังเกตเห็นถุงพลาสติกในมือของรุ่นพี่ริโกะ "เป็นไงบ้างคะ?"



        "ริโกะจ๋า!!"เขาพุ่งไปหาลูกสาวของตัวเอง "วันนี้ก็น่ารักสุดๆ!"



        ก่อนจะโดนหมัดของรุ่นพี่เธอไป



        "เรื่องนั้นไว้ทีหลัง สรุปว่าไง?"



        "จะว่าไงก็แค่ต้องทำในสิ่งที่ต้องทำ วันเสาร์อาทิตย์ให้เล่นตำรวจจับโจรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวม วันธรรมดาให้ซ้อมแยกท่าที่ถนัด อีกครึ่งเดือนจะพัฒนาขึ้นได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับพวกนั้นแล้ว"ขณะที่คุณคาเงโทระพูดอธิบายให้ลูกสาวฟัง รุ่นพี่ริโกะก็เอาข้าวของไปวาง



        "พวกเรื่องโดยรวมน่ะ ช่างเถอะ"รุ่นพี่หันมาคุย "เหลือไม่ถึงเดือนแบบนี้ จะฝึกท่าไม้ตายพวกนั้นไปทันไหมคะเนี่ย?"



        "ถ้ามีเวลาสักปี ก็ไม่แน่นะ แต่ถ้าสองปีก็คงได้มั้งนะ"เขาเองก็หันมาคุยกับลูกสาวของตัวเองตรงๆ "เจ้าเอ๋อธรรมชาติก็มีสไตล์ประจำตัวอยู่แล้วด้วย ศักยภาพก็ยอดเยี่ยม"



        จะ เจ้าเอ๋อธรรมชาติ



        ทำไมหน้ารุ่นพี่คิโยชิแวบมาในหัวเลยทันทีแบบนี้นะ



       "นายแว่น กับ นายหน้าสวย ก็ดูเหมือนจะมีคำตอบให้คำถามนี้อยู่แล้วนะ"



        นะ นายแว่น นายหน้าสวย?



        บ้าเอ้ย ทำไมฉายานามจากปากคุณคาเงโมระมันได้ทุกประโยคเลยวะเนี่ย



        "อีกสามคนที่เหลือเดี๋ยวก็เข้าที่เข้าทางเอง"



        อ้าว ไม่มีสมญานามเฉย



        อุตส่าห์รอลุ้น



        "คุโรโกะคุงล่ะ?"



        อ่า...อายากะเองก็ได้ฟังที่คุณคาเงโทระคุยกับเพื่อนของเธอไปแล้ว



        จะว่ายังไงดีนะ



        "อะ...เอ่อ โทษทีนะ หมอนั้นไม่ไหวหรอก?"



        "เอ๊ะ?"



        "พ่อไม่เคยเจอนักกีฬาประเภทนี้มาก่อนเลย…"



        อย่าว่าแต่คุณคาเงโทระไม่เคยเจอเลย ฉันเองก็ไม่เคยเจอค่า ฮือ



        "หมอนั้นเป็นพวกครึ่งผีครึ่งคน"



        อุ้บ



        อายากะพยายามกลั้นขำ คือรู้นะว่าทุกคนจริงจัง แต่เธอ...เธอรู้สึกตลกแบบแปลกๆน่ะ อุแง



        "จะหาว่าพ่อห่วยก็ได้"เขายกมือขึ้นจับหัวของตัวเอง "แต่นี่ก็ไม่รู้เลยว่าจะสอนอะไรให้หมอนั้นดี แต่ก็พอจะมีคำแนะนำให้ได้บ้างมั้ง?"



        รุ่นพี่ดูสนอกสนใจ



        "กำแพงที่หมอนั้นจะต้องวิ่งเข้าไปเจอเข้าสักวันน่ะ พ่อก็ได้บอกไปหมดแล้ว แต่จะข้ามไปได้รึเปล่า มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง"












        ครึ่งเดือนจะว่าไวก็ไว



        จะว่านานก็นาน



        อายากะยอมรับเลยว่าสนุกกับทุกๆวันที่ผ่านๆมา



        มันสนุกจริงๆกับการได้จดสิ่งต่างๆของทุกๆคนลงในสมุดของตัวเอง บางครั้งเธอก็วาดรูปอะไรลงไปบ้างเพื่อความเข้าใจง่ายๆ พอมาคิดดูแล้ว มันทำให้เธอกลายเป็นคนใจเย็นขึ้นมาบ้างเลยแหละ



        การแข่งวินเทอร์คัพน่ะ สมัยนี้ถูกยกขึ้นมาว่าเทียบเท่าหรืออาจเหนือกว่าการแข่งอินเตอร์ไฮแล้วด้วยนะ เธอลองหาข้อมูลดูอ่านมาบ้าง



        พรุ่งนี้ก็วินเทอร์คัพแล้ว



         เหนือสิ่งอื่นใดขณะที่กำลังมองเท็ตสึยะซ้อมบาสอยู่ในสนามที่เป็นที่แรกที่เธอเจอเขาอยู่กับคางามิ โทรศัพท์ของเธอก็ส่งเสียงริงโทนดังแหละ



        ทายซิ ว่าใคร!?



       คิเสะคุงน่ะเองค่าาาา



       "สวัสดีค่า คิเสะคุง ไม่ได้คุยกันนานเลย เป็นยังไงบ้างคะ?"เสียงสดใสมีชีวิตชีวาถามออกไป คนที่กำลังเล่นบาสอยู่ในสนามอยู่ชะงักมือของตัวเอง สุดท้ายอายากะก็ไม่ได้ยินเสียงลูกบาสอีกเลย เพราะคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทตรงเข้ามานั่งข้างๆ แล้วดอาหัวซบกับไหล่แกล้ง จนอายากะส่งเสียงโวยวาย "เท็ตสึยะอย่าซบ ออกไปเลย ไปซ้อมต่อดิ"



        ไล่เลย หึ่ย



        แต่เจ้าคนนิ่งก็ไม่คิดจะสำนึกผิดอะไร ยังคงซบแบบนั้น 



        [ 555555 คุโรโกจจินี่หวงของชะมัดยากเลย ฉันไม่จีบฮิโรโตจจิหรอกนะ ]



        คะ คือ ถ้าคิเสะคุงอยากจะจีบฉัน ฉันก็ยินดีนะคะ



        แต่พอได้ยินคุณพูดแบบนี้หัวใจที่มันรักคุณมันชาไปหมดเลย คุณไม่จีบฉัน อุแง



        คนที่ไม่ได้ยินคำบ่นของคิเสะคุงในโทรศัพท์ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่สนใจ ไม่แคร์อะไรด้วย ถึงมาทำตัวเหลวอยู่ข้างๆเธอเนี่ย "คิเสะคุงสบายดีไหมคะ?"



        [ สบายมากกกก ฉันน่ะ อยากจะเจอทีมของพวกฮิโรโตจจิมากๆเลยนะ ครั้งนี้ไม่มีทางแพ้แน่ ]



        "การแข่งรอบนั้นฉันไม่ได้ดูนะคะ"อายากะหัวเราะไป "เห็นเท็ตสึยะนินทาให้ฟังว่าคิเสะคุงมีแฟนนี่เรื่องจริงรึเปล่าคะ?"



        [ โห คุโรโกจจินี่ขี้นินทาจังเลยนะ ] ทางนั้นพูดเสียงร่าเริง [ ก็นิดหน่อยฮะ พอเห็นคุโรโกจจิได้คุยกับฮิโรโตจจิที่คุโรโกจจิพกรูปสมัยเด็กใส่กระเป๋าตังค์ทุกวันก็อิจฉานี่นา ]



       แง อิจฉง อิจฉาอะไรกันคะ ใจฉันก็มีแค่คุณอ่ะ คิเสะคุง!



       ตะ แต่พกรูปสมัยเด็ก?



       เธอเหลือบมองคนที่หลับตาพักสายตาอยู่บนไหล่ เจ้าตัวคงไม่ได้ยอนบทสนทนาในมือถือจริงๆน่ะแหละ "คิเสะคุงหมายถึงอะไรเหรอคะ?"



       [ ก็รูปของฮิโรโตจจิน่ะแหละ ในกระเป๋าตังค์ของคุโรโกจจิน่ะ ฮิโรโตจจิไม่รู้เหรอฮะ? โหห งี้ไม่ได้เลยนะ คนรักกันเขาไม่มีความลับปิดบังกันหรอก แบบนี้ต้องค้นแล้วฮะ ต้องค้--- ]



        อาจเพราะคุยนานเกินไปรึเปล่า



       เจ้าคนที่พึ่งลืมตาไปหลังพักสายตาถึงเอื้อมมือมาแย่งโทรศัพท์และกดวางสายให้เสร็จสรรพ และเพราะจากการที่เขาเทน้ำหนักซบไหล่เธอเมื่อกี้ ในทำให้อายากะพึ่งรู้ตัวว่าเราสองคนอยู่ใกล้กันมากขนาดไหน



        มือข้างที่ไม่ได้จับโทรศัพท์ของเขาโอบรอบเอวของเธอให้ขยะบเข้าไปชิดเขามากขึ้น



        "คุยนานแบบนี้ คุยกันเรื่องอะไรเหรอครับ?"นัยน์ตาสีฟ้าใสสวยสบกับนัยน์ตาสีทับทิมของเธอ "นินทาผมอยู่เหรอ คุณฮิโรโตะ?"



        "คิเสะคุงเขาแฉนายให้ฟังน่ะสิ"



        "ว่าไงครับ?"



        "เขาบอกว่านายเก็บรูปตอนเด็กของฉันไว้ในเป๋าตังค์"



        คราวนี้คนถูกถามเงียบไป แถมยังค่อยๆหน้าแดงขึ้นมาอีก



        เห้ยๆ เจ้าพ่อขายทองหยอดเขินเหรอเนี่ย



        มันต้องมีอะไรแน่ๆ



        ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!



        "ดูหน่อยสิ เท็ตสึยะ"



        "ขอปฏิเสธครับ"



        "อ้าววว คนคุยกันเขามีความลับปิดกันเหรอ?"



        เธอลองแหย่อีกฝ่ายเล่น



        "เอ...หรือว่าคิเสะคุง เขาเข้าใจผิดกันนะว่าเด็กคนนั้นเป็นฉัน อ้าว งี้แสดงว่านายชอบคนอื่นแล้วเอารูปเขามาใส่ในเป๋าตังค์เหรอ?"



        และเพราะคำพูดนั้น คนถูกว่าเลยถอนหายใจ



        แล้วเปิดกระเป๋าตังค์ ส่งรูปขนาดสองนิ้วครึ่งที่เขาใส่ในกระเป๋าส่งมาให้เธอดู



        "ก็รูปคุณฮิโรโตะน่ะแหละครับ"



        "โห...อย่างเด็กเลย"เธอบ่นออกไป "ไปขอจากครูเขามาเหรอ?"



        "ครับ"



        "มิน่า ครูเขาถึงบอกว่านายไปหาบ่อยๆ"



        "ก็มันเป็นที่เดียวที่ทำให้รู้สึกว่ามีคุณอยู่ด้วยนี่ครับ"



        เขาจับมือของเธอ แล้วให้ฝ่ามือของเธอแตะแนบแก้มของเขา อายากะมองตาอีกฝ่ายตรงๆ



        "แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว…เพราะว่าคุณอยู่ตรงนี้"



        ขี้โกง



        "ผมไม่รู้ว่าอายะจังจะเชื่อไหม แต่ว่าผมดีใจที่ได้เจออายะจังอีกครั้ง ดีใจที่ได้จีบ ดีใจที่เราสองคนได้มีช่วงเวลาอยู่ด้วยกัน สำหรับผมมันพิเศษและมันก็ดีที่สุดมากๆครับ"



        และเขาก็ใช้จมูกถูไปที่หลังมือของเธอ



        ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปบนมือ



        หมอนี้มันไม่อายคนอื่นเลยจริงๆน่ะแหละ



       นี่ที่สาธารณะ



       แต่ก็เป็นที่สาธารณะที่ไม่เคยมีคนเลย คนญี่ปุ่นแถวนี้ไม่ชอบเล่นบาสรึไงวะเนี่ย



       "รูปนั้นคุณเอากลับไปก็ได้นะครับ?"



       "แต่…?"



       อายากะเถียงกลับไป แหงสิ ถึงมันจะเป็นรูปเธอจริง แต่อีกฝ่ายก็เก็บรักษาดีแบบนั้น



       "ผมคืนให้ครับ"



        "เพราะถ้าเราคบกันเมื่อไร คงมีรูปคู่มากมายให้ผมเลือกใส่ในเป๋าตังค์พกติดตัวแบบนี้เยอะจนเลือกไม่ถูกแน่ๆครับ"



        อายากะนิ่งไปกับคำพูดของหมอนั้น



        ที่ตอนนี้หนีไปซ้อมบาสต่อแล้ว



        บ้าเอ้ย



        หยอดไรมา แม่งไม่กลัวหน้าแตกเพราะกลายเป็นนกบ้างเลยเหรอวะ…







    |||||


    วันนี้กลับมาพบคนเขียนอีกแล้วค่า ฮือ สารภาพว่าแอบเขินกะฉากสองคนนี้จริงๆ 55555 อันนี้เป็นเหตุการณ์ก่อนวินเทอร์คัพหนึ่งวันนะคะ วางไทม์ไลน์แบบนี้ทุกคนงงไหม

    คือพี่ไฟไปเมกาก่อนวินเทอร์คัพครึ่งเดือน ส่วนที่เขาสวีทกันคือหนึ่งวันก่อนวินเทอร์คัพ ซึ่งทางด้านพี่ไฟเดี๋ยวทางเราจะไปเล่าในเรื่องแยกของพี่แก ว่าพี่แกเป็นยังไงบ้างค่า


    แล้วก็ดีใจที่ทุกคนยังตามอ่านกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ

    เรารักทุกคนเสมอแบบที่เราพูดมาทุกๆตอนเลยค่ะ ฮาา

    แล้วเจอกันอีกทีในตอนต่อไปนะคะ!






    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×