ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Only U [ Midoriya x OC ]

    ลำดับตอนที่ #8 : ARC 0 :: 6. [ Destiny brings ] || FIN ARC 0

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 64



     


     

     

    o n l y  u | fanfic bnha

    midoriya izuku x shiori sachita (oc)

    อัพตอนสมบูรณ์ ; 27 March 2021

    แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021


     

    ARC 0 :: 6. [ Destiny brings ] || FIN ARC 0


     


     



     

    โควต้าพิเศษคือสิ่งที่ซาจิตะหวังจากการสอบเข้า ดังนั้นเธอต้องเข้าในการทดสอบศักยภาพของตัวเอง เด็กสาวยอมรับเลยว่าเธอไม่ได้หวังอะไรกับมันมากมายนัก - การเป็นฮีโร่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถาบันใดสถาบันหนึ่ง ถึงยูเอย์จะไม่ต้อนรับ แต่เด็กสาวผมสีควันบุหรี่ก็คิดว่ายังมีที่อื่นที่สามารถต้อนรับเธอได้

    แต่มนุษย์น่ะ จะพูดว่าไม่คาดหวังเลยก็คงไม่ได้ ซาจิตะก็หวังเหมือนกันว่าตัวเองอยากจะเข้าที่ยูเอย์


    "ขยันจังเลยนะ เด็กสมัยนี้"


    อาจารย์มิดไนท์นั่งตรงข้าม สาวผมสีทมิฬแหลมพูดทักซาจิตะ เธอไม่ได้มีคาบสอนทำให้อาจารย์สาวโปรฮีโร่มีเวลาว่างพอจะมองซาจิตะที่กำลังนั่งทำโจทย์อย่างตั้งใจ นัยน์ตาสีฟ้าของเธอปรายตามองขึ้นมา รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นบนมุมปากของเด็กสาว "ไม่เลยค่ะ…"


    "ถ่อมตัวเสียด้วยนะ"


    ซาจิยังคงส่ายหัว "มีคนเคยบอกค่ะ...ว่าถ้าไม่สู้เพื่อสิ่งที่ต้องการอย่างเต็มที่แล้ว ก็ห้ามร้องไห้เมื่อสูญเสียมันไป" เธอพูดขณะที่ในสมองฉายภาพของเจ้าของคำพูดที่จากไปเมื่อหลายปีก่อน ผู้หญิงที่ยิ้มสวยที่สุดในโลก ผู้หญิงที่เป็นโลกทั้งใบของเธอ

    ชิโอริ ซาโตมิ แม่ของเธอ


    "เป็นคำพูดที่ดีมากเลยนะ"


    "คิดเหมือนกันค่ะ"


    "ซาจิตะจังอยากเป็นฮีโร่จริงๆเหรอ?"


    คิยามะ นามุริ หรือฮีโร่มิดไนท์ยังคงถาม


    "มีคนเคยบอกว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ค่ะ"


    คราวนี้มันเป็นคำพูดของพ่อบุญธรรมของเธอ


    "อยากเป็นฮีโร่ค่ะ - อยากเป็นฮีโร่เพื่อใครสักคน เพื่อปกป้อง เพื่อช่วยเหลือใครสักคน"


    เธออยากเป็นฮีโร่จริงๆ


    มิดไนท์สัมผัสมันได้ ตอนนี้ลูกสาวบุญธรรมของเพื่อนสนิทเปลี่ยนไปมากโดยเฉพาะแววตาสีฟ้า - ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนที่เจอกันครั้งแรก มันหม่นแสง ไร้ประกาย ดูไร้จุดหมาย ร่างกายเล็กๆที่มาเจอเธอกับพรีเซ้นท์ไมค์ในวันนั้น ดูไม่ต่างอะไรจากเด็กหญิงที่ไร้ชีวิต


    และตอนนี้ เหมือนเด็กผู้หญิงคนนั้นได้เกิดใหม่เลย

    เหมือนนกฟีนิกซ์ที่แผดเผา ร่วงโรย

    เกิดใหม่และสยายปีกออกไปอีกฟาก


    "งั้นก็ต้องรักและตั้งใจกับมันมากๆนะ"


    เป็นการให้กำลังใจ ขณะเดียวกันที่ฝ่ามือของหญิงสาวอายุมากกว่าจับเข้าที่แผ่นกระดาษโจทย์ "ข้อนี้ ตรงประโยคภาษาอังกฤษมันเป็นสำนวนน่ะ ลองแปลใหม่แล้วเลือกช้อยส์ที่ถูกที่สุดอีกครั้งนะ"


    "ขอบคุณค่ะ"


    คิยามะ นามุริ ยิ้มอีกครั้งก่อนที่หล่อนจะยืดตัวตรงยืนขึ้น แม้ว่าความตั้งใจจะเต็มที่ก็ตาม และมิดไนท์ก็รู้ว่าเด็กคนนั้นหวังกับโควต้าพิเศษมากกว่าการสอบเข้า ไม่ใช่ว่าเธอไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่ว่าชิโอริ ซาจิตะ ลูกสาวบุญธรรมของอีเรเซอร์เฮดเป็นเด็กที่ไม่เก่ง


    เธอเก่ง

    เธอมีความตั้งใจ

    แต่อัตลักษณ์เธอใช้สู้ในการสอบปฏิบัติไม่ได้


    การเปลี่ยนแปลงระบบการสอบเข้าที่ให้ทดสอบโดยการสู้กับหุ่นวิลเลิน ทำให้อัตลักษณ์ของคนที่มีผลต่อกายภาพได้เปรียบกว่าเป็นอันมาก นั่นแหละที่น่าเป็นกังวล - และโควต้าพิเศษก็ใช่ว่าจะได้ง่ายๆเพียงเพราะเป็นคนที่ถูกแนะนำเท่านั้น


    แต่เพราะซาจิตะรู้ - รู้อยู่เต็มอก

    ถึงได้พยายามยังไงล่ะ










    เวลาดำเนินล่วงเลยไป

    พรุ่งนี้แล้ว

    วันแรก ชีวิตครั้งแรกในยูเอย์


    "ตื่นเต้นรึเปล่า?"


    เสียงเอื่อยถามเธอขณะที่กำลังนั่งมองทีวีที่ฉายข่าวอยู่ ซาจิตะที่กำลังคิดทบทวนถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา และ เรื่องที่อยากจะทำในวันพรุ่งนี้ชะงักหันมองเจ้าของเสียงเอื่อยที่มาจากริมฝีปากของอีเรเซอร์เฮด


    "มีความกังวลมากกว่าค่ะ"


    "ไม่แปลกหรอก"


    เขาบอก "ไม่ได้เรียนในโรงเรียนแบบคนอื่น ไม่แปลกเลยที่จะกังวล มันคือการเข้าสู่สังคมใหญ่ เรียกว่าเป็นครั้งแรกๆในชีวิตก็ได้เลย"


    ยอมรับว่าเธอกลัว

    นั่นก็เป็นความกล้าหาญมากพอแล้ว


    "จริงๆ มันทั้งกลัวแล้วก็ตื่นเต้นน่ะค่ะ"


    อีเรเซอร์ฟังลูกสาวที่พูดความในใจของตัวเอง


    "จะทำได้ดีไหม?"เธอค่อยๆพูดอย่างช้าๆด้วยน้ำเสียงเรียบ "คิดดีแล้วรึเปล่าที่จะเข้าไปที่นั่น? มันถึงเวลาแล้วรึยัง? จะเข้ากับคนอื่นได้ไหม? จะมีความสุขไหม? จะมีใครสักคนเข้าใจไหม? โลกใบนี้มันก็มีคนหลายแบบ จะต้องเจอกับอะไรในอนาคต โลกมันจะไม่ใจร้ายไปกว่านี้หรอกใช่ไหมนะ?"


    "ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดที่จะกลัวเลย"


    คนที่ผ่านประสบการณ์การเป็นฮีโร่บอก "มันถึงเวลาแล้ว ซาจิ"


    ฝ่ามือของโปรฮีโร่ใต้ดินแตะลงบนไหล่ของลูกสาว จ้องมองนัยน์ตาสีฟ้าที่เหมือนคนที่เขารักและคิดถึงเสมอเวลาที่ตนหลับตาลง ภาพของชิโอริ ซาโตมิคนนั้นก็ยังคงวนเวียนบ่อยครั้ง "ไม่เป็นไรเลย อย่าคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้" จากที่แตะบนไหล่ ไอซาวะขยับมือไปบีบมือของลูกสาว


    "ถ้าอยากจะเป็นฮีโร่เพื่อใครสักคน...ก็ขอให้เป็นฮีโร่เพื่อตัวเองด้วยนะ"


    เป็นคำสอน

    ที่ฟังแล้วน้ำตาก็ไหลพรากออกมา


    เป็นฮีโร่เพื่อตัวเอง


    ฟังเผินๆดูเห็นแก่ตัว แต่จริงๆมันคือคำบอกเล่าให้รู้จักรักตัวเองขึ้นมาบ้าง อีกนัยหนึ่งก็บอกผ่านมาว่าผู้เป็นพ่อรักเธอขนาดไหน - เขารักเธอ รักลูกสาวของเขาจริงๆ


    เป็นความอบอุ่นในแบบของอีเรเซอร์

    ผู้ชายที่ซาจิตะกล้าเรียกเต็มปากว่าพ่อ


    "ขอบคุณนะคะ"


    "พอลดความกลัวลงบ้างแล้วหรือยัง?"


    "อื้อ"


    เธอเช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไม่รู้ว่าทำไมมันต้องไหลออกมาด้วย ซาจิตะไม่ได้อยากให้มันไหลพรากออกมาแบบนี้กับคำพูดเท่ๆของคนเป็นพ่อเลย มันทำให้ในสายตาของเขา ซาจิตะก็กลายเป็นเด็กขี้แย อ่อนไหวง่ายไปได้


    "ไปนอนได้แล้ว"


    มือของเขาผลีกศีรษะของซาจิตะ หัวของลูกสาวเอนไปตามแรงผลัก ซาจิลุกจากโซฟาเดินตรงไปที่ห้องนอนของตัวเองที่ยังคงมีเจ้าตุ๊กตาตัวเดิมที่เขาซื้อให้วางอยู่บนเตียง แม้ตอนนี้จะโตจนไม่ได้กอดมันแล้ว แต่สำหรับลูกสาวมันก็ยังเป็นของสำคัญที่อยากจะวางไว้บนเตียงอยู่ดี


    เธอนอนลงบนเตียง หัวซบลงกับหมอน


    พรุ่งนี้

    ก็จะสวมยูนิฟอร์มของยูเอย์

    จะกลายเป็นเด็กนักเรียนธรรมดาๆคนหนึ่ง

    เข้ามาด้วยโควต้าพิเศษ


    เข้ามาด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นในอก

    และที่ตรงนั้นก็คงมีคนที่รู้สึกแบบเดียวกันกับเธอ


    ร่างกายของเธอพลิกตัวไปมาสักพักก่อนจะค้นพบว่ามันนอนไม่หลับด้วยอาการตื่นเต้นที่เกิดขึ้น


    นิ้วมือของซาจิแตะที่ขมับของตัวเอง

    ปล่อยให้อัตลักษณ์ทำงาน


    ยานอนหลับ

    ที่ทำให้เธอลืมความตื่นเต้นและหลับลงไปในค่ำคืนนี้









    ซาจิตะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการตื่นเช้าตามที่นาฬิกาปลุกตั้งเอาไว้ เธอทำอาหารเช้าทานมัน ก่อนจะปิดบ้านให้เรียบร้อยและเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้า ทุกอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด มันดำเนินไปตามปกติ

    เธอกดมือถือที่มีรอยขอบแตกเครื่องเดิมที่ใช้ระหว่างยืนรอตำแหน่งรอรถเทียบท่า ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองรอบข้างเป็นระยะสลับกับการดูหน้าจอมือถือของตัวเอง เด็กสาวในชุดเครื่องแบบของสถาบันยูเอย์ก้าวเท้าขึ้นรถไฟฟ้าหลังจากรถไฟฟ้ามาจอดเทียบ


    เวลาเร่งด่วนที่นรกซะไม่มี


    กว่าจะเบียดร่างกายของตัวเองฝ่าคนที่ทยอยออกและเข้าไปได้ ซาจิตะแทบจะกลายเป็นปลากระป๋อง ขณะเดียวกันเสียงดังของอะไรสักอย่างก็ทำให้เธอต้องหันมองตาม เสียงร้องดังประมาณว่า


    รอก่อนครับ!


    ร่างกายของใครคนนั้นที่วิ่งแทรกเข้ามาฝ่าดงมนุษย์พอๆกับซาจิตะแทรกเข้ามาก่อนที่ประตูจะปิด เส้นผมสีเขียวเข้มเย็นตาเหมือนร่มไม้ที่แสนคุ้นเคย ร่างกายที่ตัวสูงกว่าเธอไม่กี่เซนติเมตรในชุดยูนิฟอร์มสถาบันเดียวกัน

    เขากำลังยืนอยู่ข้างเธอ ตอนนี้


    อ่า

    แต่นายคนนั้นไม่รู้ตัวเลย

    ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังยืนจับราวรถไฟฟ้าอยู่ข้างเขา


    ก็เจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้ามองสมาร์ทโฟนของตัวเอง - ไม่แปลกหรอกที่จะไม่สังเกตเธอ


    เป็นคนที่ยังไม่ระวังตัวแบบเดิม

    ไม่มีความปลอดภัยเลยสักนิด


    ซาจิตะวิจารณ์เขาทั้งหมดในใจ









    เธอคิดว่าความหงุดหงิดในใจของเธอจะหมดไป ถ้าออกจากรถไฟฟ้ามาได้ แต่เปล่าเลย มันกลับเพิ่มขึ้นในยามที่ตัวเองังเดินตามหลังเจ้าของเรือนผมสีป่าไม้ที่กำลังกระชับกระเป๋าเป้ของตัวเอง และบ่นพึมพำไม่ได้ศัพท์ จนคิ้วเรียวของซาจิตะขมวดขึ้นตามไปเมื่อได้ยินเสียงของเขา

    และเขาก็ไม่ได้สังเกตสังกาเลยว่าซาจิตะเดินตามเขามาด้วยตั้งแต่ที่รถไฟจนตอนนี้เข้ามาในรั้วของสถาบันแล้ว ตาสีฟ้ามองแผ่นหลังของอีกฝ่าย เธอไม่ได้ขยับปากทักทายอะไรออกไป


    "ห้อง1-A….ห้อง1-A"


    แต่ความอดทนของคนเรามันก็หมดกันได้น่ะนะ


    "นี่คุณคะ"


    เธอเรียกส่งเสียงทักออกไป


    "ค ครับ?!"


    คนถูกเรียกตื่นตระหนก หันมาตามเสียงเรียก หน้าตาดูตนะหนกตกใจ ใบหน้าของเขาแสดงออกอย่างชัดเจน ก่อนที่จะยิ่งเผลอร้องอุทานออกมาอีก "ค คุณในตอนนั้นนี่?!"


    ซาจิส่ายหัวเอือมๆ "สวัสดีค่ะ ดีใจนะคะที่ยังจำกันได้"


    "ยูนิฟอร์มแบบนั้น? ย ยูเอย์เหรอครับ!?"


    "คิดว่าที่ใส่อยู่มันชุดยูเอย์หรือว่าชิเค็ทสึล่ะคะ?"


    เธอตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็น ทำเอาคนฟังรู้สึกกลัวขึ้นไปอีกยามที่ซาจิตะใช้ตาสีฟ้าปรายตามองอย่างไม่พอใจ "ข...ขอโทษนะครับ"


    "คุณเอาแต่พูดพึมพำตั้งแต่เมื่อกี้แล้วค่ะ ช่วยคิดในใจเบาๆหน่อยนะคะ"


    เธอยังคงตำหนิ และ นั่นก็ทำให้คนรุ่นเดียวกันรู้สึกประหม่าและวิตกขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด


    อ่า - ซาจิตะก็คิดว่าเธอยังไม่ได้ดุอะไรเขาเลยนะ


    "ครับ! จะระวังนะครับ!"


    "เสียงดังอีกแล้วค่ะ"


    คนถูกตำหนิรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองในทันทีหลังจากถูกว่า ดวงตาสีมรกตของเขาสั่นระริก ซาจิถอนหายใจออกมา "คุณยังเหมือนเดิมเลยนะคะ"


    "ครับ?"


    "ที่รถไฟฟ้า อย่าวิ่งฝ่าเข้ามาตอนที่ประตูใกล้จะปิดสิคะ เดี๋ยวมันก็หนีบเอาหรอก"


    คราวนี้เจ้าของใบหน้ากระที่แสดงสีหน้าหวาดหวั่นอ้าปากค้าง

    นี่เธอเห็นหมดเลยเหรอ?


    "ง งั้นเหรอครับ?"


    เธอถอนหายใจ


    "ตามนั้นค่ะ"


    เขาตัวตรงดูเกร็งแข็งไปหมดจนชวนให้บรรยากาศมันพาลลบไปด้วยเลย…


    "ถ้าไม่รังเกียจเดินไปด้วยกันไหมคะ?"เธอถาม "คุณอยู่ห้อง 1-A สินะคะ ฉันเองก็เหมือนกัน"


    "ได้!--ครับ"


    จากที่เสียงดังท้ายประโยคอีกฝ่ายลดเสียงลง และก็ค่อยๆเอ่ยแนะนำตัวออกมา "มิโดริยะ อิซึคุครับ"


    "ชิโอริ ซาจิตะค่ะ"


    "ชิโอริซัง...สินะครับ?"


    "ค่ะ ยินดีที่ได้พบอีกครั้งนะคะ"


    "เช่นกันครับ"


    บรรยากาศทุกอย่างนิ่งเงียบลง - มันเต็มไปด้วยความอึดอัดแผ่ซ่านออกมา และเจ้าของบรรยากาศก็คือเธอกับมิโดริยะที่กำลังก้าวเท้าขึ้นอาคาร

    คนผมสีเข้มเดินแซงนำไปตอนขึ้นบันได ซาจิตะมองแผ่นหลังของมิโดริยะที่กำลังเร่งรีบจนจากเดินเร็วจะกลายเป็นวิ่งบนอาคาร


    "อาคารเรียนห้ามวิ่งนะคะ"


    เสียงเย็นเรียบเอ่ย ทำให้ฝ่าเท้าของอิซึคุชะงักเพราะเสียงของเธอ คนทำผิดตัวเกร็ง


    "ขอโทษนะครับ"


    "ขอโทษแล้วก็อย่าทำอีกนะคะ"


    เธอเอ่ยพร้อมพ่นลมหายใจ "เลิกเกร็งเถอะค่ะ มิโดริยะ"


    "ก็คุณดุนี่ครับ"


    "ฉันเปล่าค่ะ"


    "ดุครับ"


    "อะไรทำให้คิดแบบนั้นคะ?"


    คนถูกถามลนลานคล้ายไม่รู้จะตอบอะไร ซาจิตะพ่นลมหายใจออกมา "ว่าไงคะ?"


    "ก็...ทั้งน้ำเสียง...คำพูด แล้วก็แววตา มันดูเย็นมากเลยล่ะ"คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันบอก นิ้วชี้ของเขาทั้งสองข้างจิ้มเข้าหากันคล้ายกลัวที่จะพูดออกมา


    "อ่า...งั้นเหรอคะ?"


    "อ...เอ่อ! อย่าไปคิดมากเลยนะครับ!"


    "ยังไม่ทันคิดอะไรเลยค่ะ" ซาจิตะเอ่ยบอกแก้ไขความเข้าใจผิดของคนตรงหน้า "แต่เสียงดังอีกแล้วนะคะ"


    "ข...ขอโทษครับ"




    เธอเดินนำเขาไปที่ห้อง

    เดินผ่านเขาไป


    นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นมองแผ่นหลังของซาจิตะ

    เผลอแอบคิดว่าแผ่นหลังเล็กๆนั้นดูกำลังแบกอะไรมหาศาลเอาไว้ - แต่มันก็คงเป็นแค่ความคิดไปเอง






    ขณะหนึ่งที่เขามองเธอ

    นัยน์ตาสีฟ้าของคนที่เดินนำไปเองก็คอยกลับเหลือบมองมาที่ด้านหลัง

    ท่าทางไม่เอาไหน - ดูอ่อนแอ หากแต่ก็มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไป

    อาจเพราะเธออยู่กับฮีโร่

    ความรู้สึกมันเลยบอกเธอ - ว่ามิโดริยะมีออร่าแบบฮีโร่พวกนั้น




    และในตอนนั้น

    วันแรกที่เราสองคนแลกเปลี่ยนชื่อของกันและกันตามประสาเด็กทั่วไป





    เราไม่เคยรู้เลยว่าโชคชะตากำลังเล่นตลก

    กำลังเล่นตลกกับชีวิตของเรา






    มันอาจเป็นความจงใจของโชคชะตา

    ที่พาเธอให้มาพบกับมิโดริยะ

    เป็นโชคชะตาที่ไม่อาจหนีพ้น












    ที่ทำให้เราสองคนพบกัน






    ■ Arc 0 : END







    |||||

    Talk with มาวว ♡

    จบ arc 0 แล้วค่ะ เย้

    หวังว่าจะมีคนตามอ่านฟิคเล็กๆฟิคนี้อยู่นะคะ แหะ

    รักทุกคนเช่นเดิมอย่างที่เป็นมาเสมอค่ะ



     

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×