คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ARC 0 :: 4. [ I only see my goals, I don’t believe in failure ]
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
อัพตอนสมบูรณ์ ; 30 January 2021
แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021
ARC 0 :: 4. [ I only see my goals, I don’t believe in failure ]
"ข้อนั้นไม่ใช่แบบนั้น"
เสียงเรียบของคนเป็นพ่อเลี้ยงควบกับตำแหน่งครูเอ่ยบอกหลังจากที่คืนกระดาษคำตอบของซาจิตะคืน เด็กสาววัยสิบสามปีรับแผ่นกระดาษมาจากมือของอีกคน ก่อนไล่สายตาอ่านดู คิ้วของเด็กสาวขมวดขึ้น ท่าทางนั้นทำให้ครูจำเป็นยอมอธิบาย "ข้อนั้นมันต้องเอาไปแทนค่ากับสมการของคำตอบจากข้อที่แล้ว"
"แบบนี้นี่เอง…"
ซาจิตะพูดออกไปเป็นเชิงเข้าใจในโจทย์ที่ทำผิดไป เธอก็ว่าอยู่ว่าตัวเลขเฉลยที่เขาให้มันมาจากไหน หลังจากได้แนวแล้ว เด็กสาววัยสิบสามก็ขยับตัวไปนั่งบนเก้าอี้ที่ตอนแรกพ่อเลี้ยงนั่งอยู่ เธอนั่งเมื่อเขาลุกออกไป เพราะมีสอนต่อ
"อีเรเซอร์นี่จริงจังตลอดเลย อย่าไปซีเรียสเลยน้า! ชิโอริจัง!"
"มีลูกสาวน่ารักๆแบบนี้ ยังจะใจร้ายอีก สอนดีๆก็ได้นี่เนอะ"
เสียงที่สองดังต่อจากเสียงแรก สองคนอย่างฮีโร่พรีเซนท์ไมค์และฮีโร่มิดไนท์ต่างพูดจาหยอกแซวเอเรเซอร์เฮดที่มีสอนต่อ ซาจิตะกระพริบตามองปริบๆ ก่อนที่ฝ่ามือของฮีโร่สาวจะวางลงบนกลุ่มผมสีเทาที่ตัดสั้นระคนต้นคอของเธอ "สู้ๆนะ!"
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ซาจิตะถึงพยักหน้ากลับไป - สีหน้าของเธอไม่ได้ยิ้มแย้ม หากแต่เป็นสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ทันจะได้เอ่ยปากรับคำขอบคุณจากมิดไนท์หรือคายามะ เนมูริ หญิงสาวผมสีดำขลับคนนั้นก็หันไปพูดกับเพื่อนร่วมงาน ร่วมอาชีพในทันที "ไมค์ดูสิ! ต้องเป็นเพราะเด็กคนนี้ถูกหมอนั่นเลี้ยงมาแน่ๆ หมอนั่นกำลังทำให้เธอหน้านิ่งตามเขาไปแล้วนะ!"
"ไอ้หยา! แบบนี้ไม่ดีเลยนะ!"
เขาสองคนพูดคุยหัวเราะกัน ขณะที่ซาจิตะหันมาสนใจโจทย์ที่ต้องทำ - ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปหลังจากที่ไอซาวะ โชตะ รับเธอมาเป็นลูกบุญธรรม มันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ซาจิตะรู้ว่าเธอถูกดึงขึ้นมาจากขุมนรกเพราะเขา
ตั้งแต่วันแรก เขาดูแลเธอ ให้ความรัก ให้ความอบอุ่นจนขั้วหัวใจของเธอมันอุ่นวาบขึ้นมา ผิดจากตอนอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วันกี่ปี ซาจิก็รู้สึกทั้งหนาวและเปล่าเปลี่ยว - ผิดกับตอนนี้ที่มีพ่อของเธอ มีเพื่อนร่วมงานของพ่อที่คอยพยุงเธอขึ้น คอยสอนคอยค่อยเป็นค่อยไปในทุกๆเรื่องเหมือนจะบอกว่ารอการเติบโตของเธอไปในทุกย่างก้าว
ตอนอยู่สถานรับเลี้ยง ซาจิตะไม่เคยแตะต้องหนังสือเรียน เธอไม่ได้ถูกจับให้เรียนหนังสือ การกลับเข้าไปในสังคมของโรงเรียนอีกครั้ง มันอาจทำให้เธอกังวลได้ ตอนนี้ชิโอริ ซาจิตะ ในวัยสิบสามปีจึงใช้ชีวิตการเรียนนอกระบบอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อบุญธรรม...ผู้ชายที่เป็นทั้งฮีโร่และครู
"คาบต่อไปเธอมีสอนรึเปล่า?"
"อ่า ใช่ นายล่ะ?"
"เหมือนกัน"
"เหมือนไอซาวะเองก็มีสอนคาบเช้ายาวๆเลยนะ"
"เห็นหมอนั่นมีสอนเสริมอีกตอนเที่ยงด้วยนะ"
เธอกระพริบตาช้าๆ เงยขึ้นมาฟังบทสนทนาของสองฮีโร่ชายหญิงที่กำลังจะไปสอน พวกเขาพูดและหันมาหาเธอ "อยู่ได้ไหมเอ่ย?"
ซาจิตะพยักหน้ารับ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องอยู่คนเดียว ถ้าหากเที่ยงแล้วยังไม่มีใครมา เด็กหญิงวัยสิบสามก็ไปหาอะไรทานที่โรงอาหารเพียงคนเดียวได้ แต่ตอนนี้นัยน์ตาสีฟ้าให้ความสนใจกับตัวหนังสือที่เต็มไปด้วยตัวเลข พอทำข้อที่สงสัยได้ ข้ออื่นๆบนกระดาษกลับง่ายดายขึ้นมาในพริบตาจนทำเสร็จในเวลาก่อนเที่ยง ระหว่างที่ได้ทำ มีอาจารย์ในยูเอย์หลายคนเดินผ่านไปผ่านมาในห้องพักครูที่เธออยู่
มือเอื้อมหยิบหนังสือวิชาอื่นๆมาอ่านต่อ อาจเพราะว่าไม่ได้เรียนในระบบทำให้ซาจิตะเองก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเรียนได้ดีหรือทำได้ดี เด็กหญิงจึงพยายามอ่านเองเท่าที่ทำได้ อย่างน้อยก็เพื่อในอีกสองสามปีข้างหน้า - เธอก็จะกลายเป็นนักเรียนม.ปลายคนหนึ่งที่จะได้เลือกว่าอนาคตตัวเองอยากจะเป็นอะไร และอยากจะทำอะไร
หางตาที่กำลังจดจ้องบนตัวหนังสือเหลือบมองไปยังยาหยอดตาที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงาน ซาจิตะค่อยๆมองไปรอบข้างเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอ เด็กหญิงผมสั้นก็หยิบยาหยอดตานั้นขึ้นมา ค่อยๆเปิดฝาขึ้นมาและใช้อัตลักษณ์สร้างให้ของเหลวในยาหยอดที่พร่องลง เต็มภาชนะบรรจุอีกครั้งด้วยอัตลักษณ์ประเภทฮีลลิ่งอย่างยารักษา กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือขึ้นในอากาศ ก่อนที่ซาจิตะจะรีบพุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ เธอก้มหน้าโค้งลงก่อนจะคายเลือดของตนเองออกมา เลือดที่เป็นพิษที่ตีขึ้นมา ช่วงนี้เพราะผู้เป็นพ่อบุญธรรมไม่ค่อยว่าง - เด็กหญิงจึงไม่มีเวลาไปพบแพทย์ แม้ว่าอัตลักษณ์จะดูแข็งแกร่งและมีประโยชน์ แต่ข้อจำกัดที่ถูกตั้งขึ้นก็ทำให้ทรมานไม่น้อย
ซาจิตะจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะหมุนลูกบิดห้องน้ำออกมา ดวงตาสีฟ้าอ่อนเหมือนสีของท้องฟ้ามองไปรอบๆ ค้นพบว่าตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงของสถานศึกษา เด็กนักเรียนที่อายุมากกว่าเธอหลายคนเดินเต็มทางเดิน
เธอเองก็ชักจะหิวขึ้นมาแล้ว ไว้ค่อยกลับไปอ่านหนังสือที่โต๊ะของพ่อแล้วกัน
เธอกลับบ้านด้วยรถไฟฟ้าไปลงยังสถานีที่หมายในเวลาเย็น กำลังคิดว่าจะนั่งแท็กซี่ หรือ เดินเท้าไปดี แต่เมื่อเห็นเวลาที่ท้องฟ้ายังไม่ตกดินลง ซาจิตะก็เลือกเดินเท้ากลับไปยังบ้านของตัวเอง - เป็นอีกวันที่อีเรเซอร์เฮดถูกทางสำนักงานฮีโร่อื่นเรียกตัวไปทีมอัพในการทำภารกิจ ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางกลับบ้านด้วยตัวเองพร้อมรับปากกับพ่อบุญธรรมว่าทันทีที่ถึงบ้าน เธอจะส่งข้อความหาเขา
บริเวณที่ซาจิผ่านเป็นบริเวณย่านการค้า เวลาเย็นทำให้มีนักเรียนเดินเที่ยวเล่นกับกลุ่มเพื่อนเต็มไปหมด ดวงตาสีฟ้าไม่ได้จ้องมองเธอแค่มีความคิดจะเดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง ไม่ทันจะำด้หลุดพ้นจากฝูงชน ร่างกายของใครสักคนก็วิ่งเข้ามากระแทกชนกับร่างกายของซาจิตะ การชนกันอย่างแรงทำให้มือที่ถืออุปกรณ์สื่อสารของเธอปล่อยมือให้มือถือที่กำลังเล่นเพลงฟังผ่านหูฟังของเด็กหญิงร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น - จังหวะที่อุปกรณ์สื่อสารลงไปกองกับพื้น ทำเอาคนที่เข้ามาชนชิโอริ ซาจิตะถึงขั้นหน้าซีดไม่ต่างจากไก่ต้ม
และเพราะของที่ถืออยู่ร่วง มันทำให้ซาจิตะเผลอตวัดสายตาของตนมองแรงใส่บุคคลตรงหน้า เธอขมวดคิ้วเงยหน้าจ้องเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งติดเย็นเหยียบ
"ระวังหน่อยสิคะ - คนเยอะแบบนี้ มันอันตรายนะ"
ถ้อยคำที่ทำให้คนฟังรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา เขาตัวสั่น ก่อนจะใจกล้าเอ่ยกลับมา "ข ขอโทษนะครับ!"
"ขอโทษเหรอคะ…"
เธอเอ่ยหลุบตาลงเพียงเสี้ยววิและตวัดตามองจ้องตาสีมรกตกลมโตอีกครั้ง
"ฉันรับคำขอโทษค่ะ แต่คราวหลังช่วยระวังตามที่เตือนด้วยนะคะ"
ซาจิตะเอ่ยจบก่อนจะก้มลงย่อตัวหยิบโทรศัพท์ที่ตกพื้นขึ้นมา มุมซ้ายบนของโทรศัพท์มีรอยแตกเล็กน้อย พอเห็นแบบนั้น คนที่เป็นต้นเหตุก็ยิ่งรู้สึกตัวหดลงไปกว่าเดิม โดยเฉพาะในจังหวะที่ตาสีฟ้าอ่อนยังคงจ้องมา
หน้าตาน่ารัก - ต แต่ดุมาก
เขาคิดในใจ ก่อนจะรีบสลัดหัวไล่ความคิดออกไป จะคิดแบบนี้กับคนที่ตนพึ่งทำความผิดใส่ไปแบบนี้ไม่ได้!
"ค คือว่า…"
เขาพยายามที่จะอธิบาย ที่เร่งรีบขนาดนี้ก็เพราะอยากจะรีบไปที่หน้าร้านที่วางขายสินค้าของออลไมท์ที่เขากดจองไม่ทันน่ะแหละ แต่ยิ่งรีบ...ความซวยก็เหมือนจะมาเยือนจนได้
ระหว่างที่เขากำลังทำตัวลนลาน เลิ่กลั่ก ไปไม่ถูก เด็กสาวตรงหน้าก็ถอนหายใจออกมา
"ช่างเถอะค่ะ ยังไงทีหลังก็ช่วยระวังด้วยนะคะ"
เธอตัดสินใจพูดตัดปัญหาและขยับตัวเดินผ่านเด็กหนุ่มเรือนผมสีเขียวเข้มคนนั้น แต่เพราะท่าทางปล่อยของเธอทำให้ร่างกายของคู่กรณีตอบสนอง เขาคิดคว้าตัวเธอ เอื้อมมือพร้อมเรียก
"เดี๋ยวก่อนครับ!--"
เสียงหยุดลงก่อนตามมาด้วยเสียงล้มคะมำหน้าคว่ำจากอีกฝ่าย ซาจิตะรีบหันและก้มมองดู ค้นพบว่าเขากำลังจับข้อเท้าของเธอ - และเมื่อเด็กสาวผมหยักศกหยุดฝีเท้าของตนลง คู่กรณีวัยไล่เลี่ยกันก็เงยขึ้นมา หน้าของเขาที่ทิ่มพื้นไป ใบหน้ามีเลือดกำเดาไหลดูไม่ได้
โคตรดูไม่ได้สุดๆเลย
"ผมทำมือถือคุณเป็นรอยเลยนะครับ ค คือว่า!"
"ไหวไหมคะ นั่น…?"
"ผมไหวครับ!"
ทางนั้นตอบ ขณะที่เธอถอนหายใจ ย่อตัวลงกับพื้นหน้าอีกคน ใช้ปลายนิ้วชี้ของมือที่ไม่ได้จับโทรศัพท์ข้างที่มุมบนซ้ายแตกยกขึ้นมาค่อยๆชี้ไปที่ของเหลวสีแดงที่ไหลออกมาจากรูจมูกของเด็กหนุ่มตาสีมรกตตรงหน้า "เลือดนะคะ"
"อ เอ๋!?"
ทางนั้นรีบใช้หลังมือเช็ดลวกๆ - เห็นแล้วชวนให้ซาจิตะยิ่งจะหงุดหงิดไปมากกว่าเดิมเสียอีก มือเปลี่ยนจากการชี้นิ้วเป็นการตีไปที่แขนข้างที่ยกขึ้นมาเช็ดของคนสวมชุดกักคุรัน พร้อมขมวดคิ้วไม่พอใจใส่เขาไปด้วย
"มันสกปรก อย่าทำแบบนั้นสิคะ"
"ข ขอโทษนะครับ!"
นี่เขาเป็นเครื่องขอโทษอัตโนมัติรึไงกัน
"อย่าขอโทษไปเรื่อยสิคะ" เธอพูดพร้อมพ่นลมหายใจ "การขอโทษมากๆมันดูเป็นเรื่องไม่จริงใจนะคะ"
เราทำผิด เราก็ขอโทษ - และมนุษย์เราก็ทำผิดกับเรื่องเดิมๆซ้ำๆ
และการจะให้อภัยในทุกเรื่องก็ย่อมเป็นไปไม่ได้
เขาเงียบไป ใบหน้าดูเหวอจากคำพูดของเจ้าของตาสีฟ้า - ลูกแก้วสีมรกตของเจ้าตัวหลุบต่ำลงมองพื้นหลังจากที่เปลี่ยนท่าจากล้มคะมำมาเป็นนั่งกับพื้น ท่าทางดูน่าเป็นห่วงไม่น้อย ไอ้ท่าทางก้มหน้าก้มตาสำนึกผิดเนี่ยแหละ - ซาจิตะที่ย่อตัวมองเขาอยู่ถอนหายใจอีกครั้ง
"ขออนุญาตนะคะ"
ชิโอริ ซาจิตะเอื้อมมือไปตีหลังเขา "หลังตรงค่ะ"
สัมผัสทำให้คนที่ถูกสั่งหลังตรงขึ้นในทันควัน นิ้วมือของซาจิตะกดลงบีบจมูกให้เขา คนตาสีมรกตเบิกตากว้างดูตกใจ ไม่ทีนจะได้ขยับปากแย้ง เธอก็พูดต่อ
"ก้มหน้าลงเล็กน้อย อ้าปากหายใจห้านาทีค่ะ"
ท่าทางจริงจังที่ทำให้เด็กอายุรุ่นเดียวกันยอมทำตามไปเสียทุกอย่าง - มิโดริยะ อิซึคุ รู้สึกหวาดหวั่นกับน้ำเสียงและท่าทางดุของคยตรงหน้า เขาทำตามที่เธอบอกทุกอย่าง ใช้ปากของตนรับออกซิเจนแทนจมูกที่ถูกนิ้วมือบีบ
น่ากลัวชะมัดเลย…
แต่ก็...ไม่น่าใช่คนไม่ดี ไม่สิ - เธอเป็นคนดี
เขายอมอดทนสักพักก่อนที่เธอจะผละนิ้วมือออกไป
"ฉันบอกให้คุณระวังตัว"
เธอบอก
"บอกตอนที่คุณชนฉัน"
อ่า เขาผิดจริงๆ
"แต่คุณก็ยังล้มหน้าคะมำแบบนี้อีก"
อิซึคุรู้สึกเหงื่อแตกยามถูกดุจากริมฝีปากเล็กตรงหน้า - แต่คือเขาก็ผิดจริงๆ ทำอะไรไม่ได้นอกจากการเกาหลังคอตัวเองเบาๆอย่างรู้สึกผิด
เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอโกรธซะหน่อย…
"ข…"
"หยุดเลยค่ะ"
มิโดริยะ อิซึคุ แทบจะยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองแทบไม่ทันยามที่เธอทำตาขวางใส่ออกมา ไอ้เขาก็ติดปากในคำนั้นทั้งๆที่เธอเองก็เตือนเขาแล้วว่าอย่าพูดว่าขอโทษ
เด็กหนุ่มกลืนคำพูดของตัวเองลงคอ
"เลือดหยุดแล้วนะคะ"
เธอบอก
อิซึคุกระพริบตาลงเชื่องช้า เขาไม่รู้สึกตัวเลย จนกระทั่งเธอพูด "ต่อจากนี้ดูแลตัวเองให้ดี อย่าไปสะดุดล้มที่ไหนอีก แล้วก็ช่วยยืนขึ้นด้วยค่ะ"
เขาขยับทำตามคำบอก ลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงของตัวเอง
ก่อนจะลนลานอีกครั้ง ยามที่ฝ่ามือที่ช่วยเหลือกำลังแตะเส้นเชือกของรองเท้าผ้าใบที่หลุดรุ่ย
"เพราะแบบนี้ไงคะ ถึงล้ม"
เธอดุเขาอีกครั้ง
ให้ตาย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเชือกรองเท้าหลุดตอนไหน
"แหะ...คือไม่ได้สังเกตน่ะครับ"
"ระวังหน่อยค่ะ"
เธอบอก ปลายนิ้วของเธอสัมผัสเส้นเชือกและค่อยๆเกี่ยวมันเบาๆเพ่อที่จะผูกเชือกรองเท้าผ้าใบให้กับเขา
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญนะคะ"
เขานิ่งเงียบไป วันนี้เขาถูกเพื่อนในห้องแกล้งนิดหน่อย จนเกือบจะบันได อ่า ความปลอดภัยมันสำคัญจริงๆน่ะแหละ
โดยเฉพาะกับเขา - เขาที่ไร้อัตลักษณ์...เขาก็ควรจะดูแลตัวเองให้ดี
"ขอบคุณนะครับ"
"มันเป็นสิ่งที่คนปกติควรได้รับไม่ใช่เหรอคะ"
เธอบอกพร้อมขยับมือทัดเส้นผมสีเทาราวควันบุหรี่กับหูของตนเอง มิโดริยะ อิซึคุมองทุกอิริยาบถของเธอ เขารู้สึกว่าก้อนเนื้อใต้อกเต้นแรงขึ้นมา ทั้งท่าทางและคำพูดของเธอ
"เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับความปลอดภัยและความคุ้มครอง"
เขาฟังเธอ - คำพูดที่เรียบนิ่งหากแต่ดูจริงใจและแนะนำชี้แนวทางในทุกประโยคที่ไหลออกมาจากริมฝีปาก "ไม่ว่าใครก็ควรปลอดภัยและได้รับชีวิตที่ดี ไม่ใช่เหรอคะ?"
อิซึคุยังคงนิ่ง เขาที่วิ่งไล่ตามความฝันด้วยแสงริบหรี่มาตลอดในตอนนี้...ก็ยังคงเป็นแบบเดิม เป็นแบบนี้เสมอ จนเขาเองก็เริ่มท้อ...ตลอดชีวิตประถมที่คอยถูกหัวเราะและบอกว่าเขาไม่ควรที่จะฝัน
เพราะแค่คำว่าเขาไร้อัตลักษณ์
"ถ้าเข้าใจแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวก่อนครับ!"
เขารีบเรียกรั้งเธอเอาไว้
"คะ?"
"แม้แต่คนไร้อัตลักษณ์แบบผม...ก็เหมือนกันงั้นเหรอครับ?"
ใบหน้าเรียบนิ่งค่อยๆยิ้มบางออกมา
"ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะมีอัตลักษณ์หรือไม่มีอัตลักษณ์ ฉันคิดว่าทุกคนเกิดมาเพื่อที่จะมีความสุข มีชีวิตที่ปลอดภัยและที่ดีค่ะ"
คำพูดของเธอกำลังเติมเต็มเขา
เติมเต็มความรู้สึกข้างใน
"แม้แต่ความฝัน...ก็ด้วยงั้นเหรอครับ?"
"ค่ะ"
"ผมอยากเป็นฮีโร่"
"งั้นคุณก็คงเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เอาซะเลย"
เธอบอกพร้อมส่ายหัว - เธอเดินนำออกไป เดินห่างออกไป
และเขาก็เลือกที่จะตะโกน
"ขอบคุณมากๆครับ!"
ผมมีความฝัน
ผมเชื่อมาตลอดว่าผมที่ไร้อัตลักษณ์
จะสามารถทำมันได้ - ใช่ แต่ผมก็แค่เด็กคนหนึ่ง
ผมในตอนนั้นยังเป็นแค่เด็กที่หลงทางคนหนึ่ง
คุณคงเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เอาซะเลย
ประโยคธรรมดาจากคนแปลกหน้าคนนั้น
สอนให้เขารู้ - รู้ว่าแม้แต่เสียงที่เล็ก หรือ คนตัวเล็กๆอย่างเขาที่ไม่เอาไหน ก็สามารถเป็นได้
อื้อ ใช่ ต่อจากนี้น่ะ…
เขาเห็นแต่เป้าหมายของเขา และเขาเอง...ก็ไม่เชื่อในความล้มเหลว
|||||
Talk with มาวว ♡
แง กลับมาพับกบ พบกับมาวอีกครั้งนะคะ ! มะเจอกันนานเลย คิดถึงทุกคนมากๆ มีความหวังว่าทุกคนจะคิดถึงเหมือนๆกัน tt
ถ้ายังตามกันอยู่ มาวขอกำลังใจได้ไหมคะ ปิ๊งๆ แง 55555
สำหรับเนื้อหาตอนนี้ เปงก่อนหน้าที่พี่เดจะเจออลไมท์ค่ะ ประมาณปีสองปี
พล็อตหลังรีไรท์มาวยอมรับเลยค่ะว่าเนื้อหาใน Arc0 มาวพยายามปูเรื่องมาก่อน จะพยายามไม่ให้เกิน 10 ตอนค่ะ แง
พอจบ Arc0 จะเข้า Arc1 ซึ่งจะดำเนินตามเรื่องหลักไป
มาวก็หวังว่าทุกคนจะรู้สึกชอบและรู้สึกกับการอ่านฟิคเล็กๆฟืคนี้
ขอบคุณทุกคนนะคะ มาวรักทุกคนเลย ❤
ความคิดเห็น