คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ARC 0 :: 2. [ A thing of the past ]
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
อัพตอนสมบูรณ์ ; 6 January 2021
แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021
ARC 0 :: 2. [ A thing of the past ]
warning - PSTD , suicide though , suicide attempt , blood
สามปี
ซาจิตะอยู่ที่นี่มาสามปีเห็นจะได้แล้ว ตอนนี้เธอเป็นเด็กหญิงเจ็ดขวบผู้กำพร้าแม่อยู่ในสถานรับเลี้ยงแห่งหนึ่ง พร้อมด้วยสังคมใหม่…
โลกใบนี้เหมือนเป็นสีเทาไปหมด ไร้สีสัน และเสียงหัวเราะ
เป็นโลกที่เดียวดาย
และไม่ว่าจะพยายามข่มตาหลับ ก็จะเห็นภาพเดิมๆขึ้นมาทุกครา อ้อมกอดของร่างที่สิ้นลมเมื่อสามปีก่อน
สามปี
ฟังดูนาน - แต่ซาจิตะกลับคิดว่ามันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อน
"ซาจิตะจัง"
พี่เลี้ยงที่ซาจิตะไม่คิดจะจำชื่อเรียกเธอ เด็กหญิงเจ็ดขวบที่นั่งอยู่มุมห้องกอดเข่าตัวเองและกำลังโงนเงนเหมือนจะหลับในเวลากลางวัน ถูกพี่เลี้ยงสาวเรียกจนต้องเงยหน้ามอง
"ถึงเวลาของว่างแล้วนะคะ"
"ไม่หิว"
เด็กหญิงตอบไปอย่างเสียมารยาท ทำเอาคนได้รับคำตอบหน้าเสียกับคำตอบที่ได้รับ แต่คนอายุมากกว่าก็ยังยิ้มเจื่อนแล้วเชิญชวนเธอ "เป็นเค้กเลยนะคะ ไม่ชอบเหรอ?"
"ไม่"
"กินเถอะนะคะ"
"ก็บอกว่าไม่ไง!"
เธอตะคอกออกไป ตาสีฟ้าอ่อนแสดงความแข็งกร้าวออกมาเป็นแววตาที่เจ็บปวดและแหลกสลาย จนกระทั่งพี่เลี้ยงมดความอดทนกับเด็กหญิง นางจึงลุกขึ้นยืนและไม่มายุ่งอะไรกับซาจิตะอีก
มือของเธอปิดใบหูของตัวเอง หน้าซบลงกับขาที่ชันขึ้นมา ปิดหูไม่รับรู้ว่าทุกคนวิพากย์วิจารณ์นิสัยของเธออย่างไร ซาจิตะรู้เพียงแค่ว่าความรู้สึกเมื่อสามปีก่อนมันยังคงเด่นชัดมาตลอด และ มันก็ไม่อาจถูกทดแทนด้วยความรู้สึกจากที่นี่ ความรู้สึกของเธอไม่มีวันลดลง
ซาจิตะเป็นโรคนอนไม่หลับ
เมื่อคืนเธอไม่ได้นอนเลย
มันจึงไม่แปลกที่ตอนนี้ ร่างกายจะเริ่มง่วงนอนขึ้นมา
ไม่ดีเลย
หม่าม๊า...ทำไมถึงไม่รอหนูกันนะ
หนูเป็นเด็กไม่ดีเหรอ?
ทุกสิ่งอย่างดับลง ซาจิตะหลับกลางวันแบบทุกครั้งโดยที่กำลังนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่ที่มุมห้องแบบทุกครั้ง แบบสามปีที่ผ่านมา ไม่ต่างจากทุกครั้ง - ไม่ต่างเลยจริงๆ
เธอหลับไป
เปลือกตาปิดนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนที่หมองลงไปมาก จนไม่เหลือประกายสดใสแบบเด็กหญิงอายุสามขวบในตอนนั้น
ไม่เหลือแม้แต่ตัวเธอคนเดิม
ไม่มีใครรับรู้หรือเข้ามาสนใจ
ไม่มีใครสักคน
หยดน้ำใสไหลออกจากเปลือกตาที่ปิด
มันไหลผ่านแก้มของเด็กหญิงเจ็ดขวบ
และซึมแห้งหายไป
โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอทรมานกับความรู้สึกนี้ขนาดไหน
อยากตายชะมัดเลย
อยากตาย อยากหายไปจากโลกใบนี้
ถ้าตายไป
จะเจอหม่าม๊าไหมนะ
"กรี๊ด!!"
เสียงกรีดร้องของเด็กในสถานรับเลี้ยงคนนึงกรีดร้องดังลั่นไปทั่ว จนฝีเท้าวิ่งเข้ามาใกล้ดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเด็กหญิงเจ็ดขวบที่กำลังเหยียบอยู่บนเก้าอี้พลาสติกกำลังเขย่งปลายเท้าเพื่อให้ศีรษะของตนเข้าไปในบ่วงเชือกที่ถูกผูกกับขื่อของบ้าน
ซาจิตะกำลังจะแขวนคอของตนเอง
"ซาจิตะจัง!"
ความโกลาหลเกิดขึ้นกับพวกผู้ใหญ่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กหญิงที่สอดหัวเข้าไปในบ่วงเชือกได้แล้ว กำลังรอให้เชือกกระตุก - หากแต่ทุกอย่าง ทุกความตั้งใจก็พังทลายหลังพวกผู้ใหญ่รีบเข้ามาดึงเธอให้ออกจากบ่วงของเชือก ซาจิตะกรีดร้องดิ้นพล่านส่งเสียงโวยวายไม่หยุดหย่อน
ร่างกายเล็กๆของเด็กเจ็ดขวบถูกอุ้มออกมา เธอกรีดร้อง เป็นภาพหดหู่ที่เกิดขึ้นในสายตาของทุกคน
พวกเขาสงสารเธอ - แต่ไม่เคยเลยที่พวกเขาจะช่วยปัดเป่าความรู้สึกทั้งหมดของเธอให้หายไปได้
ไม่มีเลยสักครั้ง
"คนบ้า"
คำนินทาจากพี่เลี้ยงสักคนว่าเธอแบบนั้น
"เด็กคนนั้นมันบ้า"
พวกเขานินทาเธอในครัว ซาจิตะได้ยินมันทุกถ้อยคำ ได้ยินทุกสิ่งอย่าง ได้ยินมาตลอด แต่เธอเหนื่อย...เหนื่อยเกินที่จะวิ่งตามคำเหล่านั้น เหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยจนแทบบ้า ทำไมกันนะ - ทำไมถึงไม่มีใครช่วยเธอได้เลย
จิตใจของเธอแหลกสลาย
และโลกไม่อนุญาตให้เธอตาย
ซาจิตะไม่ได้ไปเรียน ไม่ได้ไปเรียนแบบเด็กคนอื่นในสถานรับเลี้ยง พวกเขาเห็นว่าเธอจะเป็นปัญหาเลยไม่ยอมส่งให้เธอได้เรียนอะไรตามที่ควรจะได้เรียน
วันเวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ
และแววตาสีฟ้าอ่อนก็หม่นลง
เด็กหญิงมองตัวเองผ่านกระจก
เส้นผมสีเทาที่คุณแม่มักถักเปียให้ บัดนี้มันยุ่งเหยิงไปหมดเลย ทั้งยุ่ง ทั้งรุ่มร่าม
คัตเตอร์ในลิ้นชักของโต๊ะเครื่องแป้งถูกซ่อนเอาไว้ เผื่อว่าวันนึงซาจิตะจะจับมันขึ้นมาปาดคอของตัวเอง - หากแต่เธอกลับขี้ขลาดเกินไป
เพราะทุกคนส่งสายตามาบอกว่าถ้าเธอตาย
เธอจะสร้างปัญหา
โลกไม่อนุญาตให้เธอที่แหลกสลายตาย
คัตเตอร์ที่ค่อยๆเปิดให้เห็นใบมีดแหลมคม ซาจิขยับมือข้างหนึ่งยกขึ้นจับรวบเส้นผมสีเทาหยักศกปลายให้รวมกัน และออกแรงใช้คัตเตอร์หั่นเส้นผมด้วยความทุลักทุเล
สภาพดูไม่ได้เลย
ดูไม่ได้กว่าเดิมเสียอีก
ดูไม่ได้เลย ซาจิตะ
"หม่าม๊า…"
เธอร้องไห้
และเสียงร้องตกใจของพี่เลี้ยงก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขาเข้ามาแย่งยื้อคัตเตอร์จากมือของซาจิตะ ไม่ทันไรความยื้อแย่งก็จบลง แต่มันจบด้วยการที่คัตเตอร์มันแทงเข้ามาในฝ่ามือของซาจิตะ
เด็กหญิงเจ็ดขวบร้องไห้
มันไม่ได้เจ็บเลยที่ฝ่ามือจะถูกเสียบด้วยคัตเตอร์จนเลือดไหลออกมา กลิ่นสนิมตีขึ้นจมูก ไม่เลย ไม่ได้เจ็บที่ตรงนั้น
เธอเจ็บที่สุดท้ายก็เป็นตัวปัญหาอีกแล้วต่างหาก
การทำแผลเป็นไปอย่างทุลักทุเล พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำแผลให้เธอเลย แต่ซาจิตะก็ไม่รู้สึกเจ็บอยู่ดี
เด็กหญิงได้กลิ่น กลิ่นของแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อจากตัวเอง
และมันก็ไม่เจ็บเท่าที่คิด
เหมือนอะไรสักอย่างมากดความเจ็บของแผลเอาไว้
ตอนนี้เธอสิบขวบแล้ว
บางคนก็มีครับไปเลี้ยง บางคนก็ยังอยู่
และพี่เลี้ยงบางคนก็ออกไป
"ซาจิตะจัง วันนี้จะมีคนมาอุปถัมน์หนูนะ ดีใจด้วยนะ"
เธอต่างหากที่ต้องพูดกับอีกฝ่ายว่าดีใจด้วยที่เขี่ยเธอทิ้งออกไปได้
แต่เธอคิดถึงบ้านหลังเดิม…
คิดถึงบ้านหลังเดิมที่ไม่มีวันได้กลับไปอยู่อีกแล้ว
คิดถึงผู้หญิงที่เธอรักที่สุดในโลก
ความรู้สึกโหวงเหวงเกิดขึ้น ยามคิดถึง แต่ไม่อาจกลับ
"เธอ"
เสียงเรียกทำให้ซาจิหลุดจากภวังค์ เด็กหญิงเบิกตากว้าง ยามเห็นคนที่เคยเจอ เธอยืนนิ่งค้าง ขณะที่เขาก้าวเข้ามาใกล้และย่อตัวอยู่ข้างหน้าเธอ เส้นผมสีมะเกลือ ตาสีดำสนิทที่กำลังมองมาทางเด็กหญิง เขาย่อตัวแล้วค่อยๆจับแขนทั้งสองข้าง
คำพูดของรุ่นพี่สาวที่ตนชอบดังขึ้นมาในหัว
"ซาจิตะ"
'เธอมีชื่อนะ - ซาจิตะ ใช่ ซาจิตะจังคือชื่อของเธอ'
คำพูดที่เหมือนให้ทางแก่เขา
"มารับกลับบ้าน"
เธอตาเบิกกว้าง เด็กหญิงสิบขวบดูไม่เข้าใจในท่าทางของเขา ไอซาวะ โชตะ มองเธอ นัยน์ตาสีดำมองจ้องเข้าไปในตาสีฟ้าอ่อน มันหม่นแสงจนไม่เหมือนรุ่นพี่สาวคนนั้น เด็กหญิงตัวเล็กตรงหน้าดูสั่นกลัวขึ้นมา - ท่าทางที่สั่นจนส่งความกลัวออกมายังมือของเขาที่จับอยู่
หกปี
เธออยู่ที่นี่คนเดียวมาหกถึงเจ็ดปีได้แล้ว
ชิโอริ ซาโตมิบอกเขาว่าอย่าเกลียดเธอ
ไอซาวะ โชตะ กอดร่างของเด็กผู้หญิงตาฟ้าหม่น และเส้นผมที่ดูเหมือนหั่นออกอย่างไม่เป็นทรง
"กลับบ้านกันเถอะ - อย่าเสียใจอีกเลย"
ซาจิตะร้องไห้ออกมาไม่หยุด เด็กหญิงร้องไห้ดังลั่น พร้อมกอดเขาแน่น ไม่ยอมปล่อยมือออก
ไอซาวะในวัยยี่สิบห้าปีรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเขากำลังกอดเศษแก้วอยู่ - ความรู้สึกที่แตกเป็นเศษแก้วของเด็กหญิงสิบขวบ ความรู้สึกเปราะบางที่ไม่มีใครมารับมันไว้ตลอดหกปี
เศษแก้วมันจะบาดเขาได้เสมอ - แต่ไอซาวะก็ยินดีที่จะกอดเศษแก้วนี้เอาไว้
เขาทำเรื่องส่งเรื่องรับเธอมาเป็นบุตรสาวบุญธรรมของตัวเอง
แต่ว่านะ - ปัญหาก็ใช่ว่าจะไม่จบลงเสียหน่อย
"ซาจิตะไม่พูด"
เขาเอ่ยขึ้นในที่ทำงานของตนเอง ทำให้คนที่กำลังนั่งรวมอยู่ที่โต๊ะด้วยกัน คนหนึ่งเท้าคางมองอย่างสนใจ ขณะที่อีกคนแทบจะพ่นน้ำออกมา เพราะไม่คิดว่าคนเฉื่อยชาอย่างไอซาวะจะสนใจเรื่องที่เด็กคนนึงไม่พูด
"เห...เธอสนใจด้วยเหรอ?"
"เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายมาก!"
เสียงแรกมาจาก คายามะ เนมูริ และเสียงที่สองจาก ยามาดะ ฮิซาชิ เพื่อนร่วมงานของเขา ความสนใจที่เกิดขึ้นทำให้ไอซาวะถอนหายใจขึ้นมากับท่าทางของเพื่อนสองคนที่มีปฏิกิริยาตอบรับเขา
"ก็นิดหน่อย"
"เธอเป็นลูกสาวของรุ่นพี่ที่นายแอบปิ๊งนี่นา อีเรเซอร์!"
ยามาดะส่งเสียงดัง - เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ไอซาวะไม่ชอบเลยสักนิด "ตอนนั้นนายเฮิร์ทเอามากๆเลยที่เขามีลูก"
"เงียบไป ยามาดะ"
"แหม อย่าพึ่งโกรธกันซี่!"
ระหว่างที่เขาเถียงกับคนผมทอง สาวผมดำยาวก็เอ่ยขึ้น
"พวกเราตกใจนะ ที่อยู่ดีๆนายก็ไปรับเธอมาเป็นลูกบุญธรรมน่ะ"
เขาพยักหน้าขึ้นลงรับฟังคำพูดจากเพื่อนร่วมงานสาว
"อายุพึ่งถึงเกณฑ์รับเด็กน่ะ"
"เห นี่แสดงว่าเล็งว่าจะรับมาเป็นลูกสาวนานแล้วสินะ"
เขาไม่ได้ตอบคำถามของเธอต่อ แต่เลือกที่จะถามคำถามเดิมที่ค้างในใจของตัวเองอีก "ซาจิตะไม่ยอมพูด" เขาเกริ่น นึกไปถึงตอนเช้าที่ก่อนออกจากบ้าน ลูกสาวบุญธรรมสิบขวบคนนั้นก็ไม่ยอมพูดอะไร แม้ว่าเธอจะเห็นเขาอยู่ในบ้านก็ตาม
"เอาน่า ให้เวลาเธอหน่อยเถอะ อีเรเซอร์!"
ยามาดะบอกเขาให้เวลาลูกสาว
"เธอเจอเรื่องหนักๆมาเยอะ"คายามะแสดงความเห็น "นายเองก็เคยบอกไม่ใช่เหรอว่าสถานรับเลี้ยงพูดถึงเธอว่ายังไง"
อ่า
จำได้สิ
สถานรับเลี้ยงพูดว่าอะไร เขาจำได้หมดเลย
ที่เข้ามาจับมือของเขาบอกว่าขอบคุณมากๆที่เอาเด็กคนนี้ออกไป คำพูดนั้นทำให้เขายังกัดปากของตนเองแน่นไม่ให้พ่นคำพูดจาร้ายกาจออกไป
ก็เพราะบรรยากาศแบบนี้ไง เด็กคนนั้นถึงได้ไม่อาจพูดอะไรได้และกลายเป็นแก้วที่แตกสลาย
"ความรู้สึกของเด็กมันเปราะบางมากเลยนะ"
"ฉันรู้"
เขาตอบคำพูดของคายามะไป แสดงออกชัดเจนว่าตนเองเห็นด้วยในคำพูดของเธอ
"ว่างๆก็พาเธอออกไปเปิดหูเปิดตาหน่อยดีไหม อีเรเซอร์"
คำแนะนำจากยามาดะ ก็น่าสนใจดี
พาออกไปเที่ยวบ้างงั้นเหรอ - เธอจะโอเคไหมนะ
"อ่า...ก็ดี"
เขาคิดแต่ดูเหมือนจะคิดดังไปหน่อย
"ไม่ก็พามาหาพวกเราบ้างก็ได้นะ"
เพื่อนสาวบอกออกมา ยังแนะนำอีกทาง "จะได้ช่วยๆกันเลี้ยงหลานด้วย"
ให้ตายสิ เจ้าพวกนี้
"เออ รู้แล้ว"
"ไหง ทำเย็นชาแบบนั้นกันเล่า! อุตส่าห์ช่วยให้คำปรึกษานายนะ!"
"ก็รู้แล้วไง"
เขาเถียงกับเพื่อนผมทองตั้งทรงสูงคนนั้นไป พลางหัวเราะออกมา
"ว่าแต่วันนี้หลังเลิกงาน นายถูกเรียกตัวให้ไปช่วยพวกตำรวจใช่ไหม?"
"ก็ใช่ เดี๋ยวก็คงต้องไปเตรียมตัวแล้ว"
เขาเอ่ยบอกเพื่อนสองคน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ โบกมือลาทั้งสองคนออกไป ขณะที่ก้าวออกจากห้องเพื่อตรงไปยังจุดนัดหมาย
ไอซาวะขึ้นแท็กซี่ไป
ขณะที่รถกำลังวิ่งไปตามถนน - เขาก็มองออกไปนอกหน้าต่าง
ถ้าเธอยิ้ม
หรือพูดอะไรสักนิด
บางทีไอซาวะอาจรู้ว่าเธอต้องการอะไรก็ได้
จะมีความสุขได้ไหมนะ เด็กคนนั้น
เพราะบางสิ่งที่สำคัญของเธอ มันสูญหายไปแล้ว
และไอซาวะก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเอง
ว่าเขาจะสามารถทำให้เธอได้รับบางสิ่งที่ว่าได้คืน
|||||
Talk with มาวว ♡
รีไรท์เหมือนเทิร์นดาร์กเลยค่ะ ไหนสโลแกน เด็กๆจีบกัน
รอพ้น Arc 0 ไปก่อนนะคะทุกคน แง tt
มะรู้ว่าจะยังชอบกันอยู่รึเปล่า แต่ตั้งใจเขียนมากๆเลยนะคะ!
ฮือ รักค่ะ หวังว่าจะชอบงานฟิคเล็กๆฟิคนี้อยู่นะคะ ❤
ความคิดเห็น