คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ARC 0 :: 1. [ Out of the blue ]
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
ลงตอนสมบูรณ์ ; 4 January 2021
แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021
ARC 0 :: 1. [ Out of the blue ]
warning - blood and violence
"ไปไหนมาคะ?"
ซาโตมิถามหลังจากที่ซาจิตะเดินกลับมาหาแล้ว หญิงสาวอายุยี่สิบปีย่อตัวลงถามลูกสาว คนเป็นลูกยิ้มก่อนจะค่อยๆเล่าเรื่องให้เธอฟัง - ขณะที่เล่าก็ยิ้มไปดูสดใส สมวัยเด็กสามขวบ
หลังจากที่ลูกสาวผมเปียเล่าจบลงแล้ว ซาโตมิก็จับมือเล็กของลูกสาว ไม่จับแน่นจนรู้สึกเจ็บ แต่เป็นการจับเอาไว้หลวมๆ
"แล้วก็เด็กคนนั้นน่ะ ชวนให้หนูไปเป็นฮีโร่ด้วย"
"แบบนั้นก็สุดยอดไปเลยนะคะ"
"แต่ไม่อยากเป็นฮีโร่นี่นา"
"อ้าว ทำไมกันคะ?"
คนเป็นแม่ยกมือข้างที่ไม่ได้จับมือซาจิตะขึ้นมาป้องปิดปากหัวเราะเบาๆ พร้อมกับตาที่ปิด เด็กหญิงสามขวบที่ถูกถามเหตุผลก็ค่อยๆตอบออกมา
"ก็งานฮีโร่มันอันตราย"
"แต่เงินเยอะนะ"
"แต่ก็จะไม่มีเวลาอยู่กับหม่าม๊า หนูไม่เอาหรอก"
เป็นคำตอบซื่อๆตามประสาเด็กๆ แต่ยังไงก็ตาม ซาโตมิก็ไม่คาดหวังหรอกว่าเด็กหญิงจะโตไปเป็นฮีโร่ สำหรับหล่อนแล้ว ลูกสาวจะโตไปเป็นอะไร หล่อนก็ยังรักเธอที่สุดในโลกอยู่ดี
เพราะไม่ว่าซาจิจังจะเป็นอะไร ซาจิจังก็จะเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยของเธอตลอดไป
"เป็นคำตอบที่น่ารักจังเลย"
เธอเอ่ยชมในคำตอบของเด็กสามขวบผู้เป็นลูกสาว "เห็นแบบนี้ หม่าม๊าก็เคยอยากเป็นฮีโร่นะ" ซาโตมิเล่าเรื่องให้เด็กหญิงฟัง
แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ทีไร - ซาโตมิก็เผลอเสียงสั่นกับมันทุกที คราวนี้ก็เช่นกัน และมันคงจะชัดมากพอที่ลูกสาวตัวน้อยจะสัมผัสถึงความรู้สึกผ่านน้ำเสียงได้
"หม่าม๊า…"
"คะ?"
"หม่าม๊าอยากเป็นฮีโร่งั้นเหรอคะ?"
คำพูดนั้นมันใสซื่อ หากแต่ก็ทิ่มแทงจิตใจของคนเป็นแม่ขึ้นมา ซาโตมิใช้มือข้างที่ปิดปากป้องเสียงหัวเราะตอนแรกวางมันลงบนกลุ่มผมสีเทาควันบุหรี่ "หม่าม๊าอยากเป็นสุดยอดหม่าม๊าของซาจิจังมากกว่าค่ะ"
เด็กหญิงมุ่ยหน้า
"ก็เป็นอยู่แล้ว!"
"หม่าม๊ากลัวตกกระป๋องจัง"
"ไม่ตกหรอกน่า!"
เด็กหญิงเงยหน้าเถียง
"ถ้าหม่าม๊าอยากเป็นฮีโร่ - หม่าม๊าก็คือฮีโร่ของหนูไง"
ลูกสาวของเธอเป็นเด็กน่ารัก ซาโตมิรู้มาตลอด แต่ไม่รู้เพราะอะไร เพียงประโยคเดียวที่ลูกสาวพูด ซาโตมิก็รู้สึกว่าซาจิตะเป็นมากกว่าเด็กที่น่ารัก แต่เป็นเด็กที่อ่อนโยนและมีพลังเอามากๆ
แต่ก็แอบน่ามันเขี้ยวจังเลยนะ
"หม่าม๊า!"
"น่ามันเขี้ยวจังเลยนะ เราเนี่ย"
ซาโตมิผลักหัวซาจิตะเบาๆ
"ไม่ให้หม่าม๊าเป็นเจ้าหญิงแล้วเหรอ?"
"เป็นได้ เป็นได้ทุกอย่างเลย"
ซาโตมิหยุดเดินหลังมาถึงหน้าร้านตุ๊กตา หญิงสาวชี้ไปที่ตัวร้าน "อยากได้ตุ๊กตาตัวใหม่ไหมคะ?"
คราวนี้ลูกสาวส่ายหน้าซึ่งมันเรียกความแปลกใจจากซาโตมิ
"ไว้คราวหน้ามาซื้อด้วยกันดีกว่าค่ะ"
คราวหน้า - นั่นสินะ
จะได้มีตัวใหม่ๆที่น่ารักๆกว่านี้
"งั้นเราไปหาอะไรกินกัน…"ท้ายหางเสียงของซาโตมิเงียบลง เมื่อเธอจับมือของลูกสาวและหวังจะไปหาอะไรกิน แต่เพียงเงยหน้าขึ้นมามองทาง ซาโตมิก็ชะงักค้างไปเมื่อเห็นหน้าตาของบุคคลคุ้นเคย
อ่า ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันในที่แบบนี้
"รุ่นพี่ชิโอริ"
เขาพูดเสียงเนือย...ยานคางที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เส้นผมสีดำยาวยุ่งเหยิงที่เป็นทรงที่ดูชวนให้หงุดหงิด
"คนรู้จักเหรอคะ หม่าม๊า"
ซาจิตะถามพร้อมกับหลบหลังของเธอ ซาโตมิค่อยๆลูบหัวลูกสาวที่เกาะแขนก่อนจะเงยขึ้นมายิ้มบางให้กับเด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดเครื่องแบบของโรงเรียนที่คุ้นเคย
เพียงแค่เขาได้รับรอยยิ้มของเธอ - ใบหน้าหนุ่มผมสีมะเกลือก็ขึ้นสีแดง
"สวัสดีนะ ไอซาวะคุง"
เธอเรียกชื่อของรุ่นน้องจากสถาบันยูเอย์
"ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะ"
"เธอ...เป็นลูกสาวของรุ่นพี่เหรอครับ?"
ในร้านกาแฟมีเพียงเธอและไอซาวะ โชตะ หนุ่มรุ่นน้องจากสถาบันฮีโร่ยูเอย์ แผนกฮีโร่ ซาโตมิเพียงแค่พยักหน้าขึ้นลง เธอเห็นมือของเขากำหมัดแน่นขึ้น ตาสีฟ้าของหญิงสาวหลุบตาลงมองคนเด็กกว่าสองปี "อื้อ เธอเป็นลูกสาวของฉันน่ะ…"
"ยัยเด็กคนนั้น…"
"ห้ามนะ ห้ามเรียกเธอว่ายัยเด็กคนนั้นเด็ดขาด"
ซาโตมิเสียงแข็ง
"เธอมีชื่อนะ - ซาจิตะ ใช่ ซาจิตะจังคือชื่อของเธอ"
ไอซาวะ โชตะเงียบไปยามที่ได้ยินเสียงแข็งแนะนำตัวลูกสาวให้เขาฟัง แม้ว่าตอนนี้เด็กคนนั้นจะกำลังออกไปเล่นเครื่องเล่นอยู่ก็ตาม สุดท้ายเจ้าของนัยน์ตาสีดำสนิทก็พ่นลมหายใจออกมา "ผมไม่คิดว่าจะเจอรุ่นพี่ที่นี่"
"ฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกัน ไอซาวะ"
"รุ่นพี่ลาออกจากยูเอย์"
ความจริงข้อนั้นทำให้ซาโตมิยิ้มเจื่อนออกมา "ก็ไม่ปฏิเสธหรอก"
"ผมหาเหตุผลมาตลอดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้รุ่นพี่ลาออก"
"ฉันพลาดเอง"
"ใครคือพ่อของเด็กคนนั้น?"
"ไอซาวะ…" คนอายุมากกว่าเริ่มเอ่ยปราม "อย่าเอาแต่หาคนผิดเลย เรื่องมันผ่านมาตั้งเกือบสามปีแล้วนะ" เจ้าของตาสีฟ้าเหมือนตาของลูกสาวบอกไป "พี่ไม่ได้คิดอะไรแล้ว"
"รุ่นพี่ชิโอริ"
"พี่ก็แค่เลิกเดินตามความฝัน"
เธอบอก "แต่ไอซาวะ...พี่ก็ยังมีความฝันนะ"
สบตาสีดำสนิทที่กำลังสั่นไหวคล้ายไม่เข้าใจในสิ่งที่รุ่นพี่อย่างเธอพูด ซาโตมิยิ้มออกไป "แต่แค่ฝันคราวนี้ มีซาจิจังอยู่ด้วย"
คนเป็นรุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันมานานถึงสามปีนิ่งไป
"พี่อยากเป็นฮีโร่เพื่อลูกสาวน่ะ"
ซาโตมิหัวเราะและใช้มือป้องปาก "ว่าแต่ตอนนี้เธออยู่ปีสามแล้วสินะ อาจลำบากหน่อย แต่พยายามเข้านะ ไอซาวะ"
"รุ่นพี่…"
"หือ?"
"รุ่นพี่รู้มาตลอดว่าผมรู้สึกยังไง"เขาบอกเธอ "จะให้ผมทำใจได้ยังไง...คนที่ผมชอบ หายไปจากชีวิตผมเกือบสามปี พอมาเจอกัน ผมก็ค้นพบว่าเธอมีลูกไปแล้ว รุ่นพี่คิดว่าจะให้ผมรู้สึกยังไงงั้นเหรอ?"
คนที่ได้รับคำสารภาพรักยิ้มให้ และเจ้าของผมสีมะเกลือผู้เป็นรุ่นน้องก็พูดต่อ "รุ่นพี่ใจร้ายจริงๆ"
"ใช่ ไอซาวะ พี่เป็นคนใจร้าย"
ไม่ปฏิเสธความจริงข้อนั้นเลยแม้แต่น้อยนิด
"เธอจะเกลียดพี่ก็ได้ แต่อย่าเกลียดซาจิตะเลยนะ ไอซาวะ"
"คุยธุระเสร็จแล้วเหรอคะ หม่าม๊า"
"เสร็จแล้วค่ะ"
ซาจิตะพยักหน้ารับหลังได้คำตอบนับจากคุณแม่ เด็กหญิงถูกคนเป็นแม่อุ้มขึ้นจากพื้นอีกครั้ง "ว่าไงคะ ไปเล่นซนอะไรมาบ้างเอ่ย?"
"เล่นที่ทุบๆ"
"อ้อ"
"แล้วก็ไปเล่นที่มันตกปลา"
"แบบนี้นี่เอง"
ซาจิตะยิ้มกว้าง "มันสนุกมากๆเลย"
"ดีแล้วค่ะ สนุกกับชีวิตน่ะ ดีแล้ว"
สัมผัสที่วางบนหัวและลูบ ซาจิชอบมันจริงๆเลยนะ
"เป็นเด็กๆก็ควรจะมีความสุขกับโลกใบนี้เยอะๆนะคะ"
คำพูดของคุณแม่ที่พูดกับเด็กหญิงอย่างเธอมันวิเศษมากๆเลย วิเศษจนเหมือนมีเวทย์มนต์ - ทุกๆคำที่แม่ของเธอพูด ทำให้ซาจิตะรู้เสมอถึงความอบอุ่นผ่านรอยยิ้ม
ไม่ว่าจะความอบอุ่นหรือความรัก - ทุกสิ่งทุกอย่างบอกซาจิตะ ว่า ผู้หญิงตรงหน้าคือบ้านที่แสนอบอุ่นที่สุด
"หม่าม๊าก็ต้องมีความสุขเหมือนกัน"
เธอยื่นนิ้วก้อยชูขึ้นหาแม่ของตนเอง
"สัญญากับหนูนะคะ หม่าม๊าว่าจะมีความสุข"
ซาจิตะเงยมองสบตาสีฟ้าอ่อนที่เหมือนสีตาของตัวเอง ทันใดนั้น เด็กหญิงมีความสุข ใช่ เธอแสดงออกไปหมดแล้วว่าเธอมีความสุขเอามากๆ
และเธอก็คาดหวังว่าหม่าม๊าจะสัญญา
เมื่อนิ้วก้อยของคนเป็นแม่เกี่ยวประสานกับนิ้วก้อยของเด็กหญิง
เด็กหญิงรู้ว่าเธอจะสมหวัง
กับความอบอุ่นที่ได้รับจากผู้หญิงที่เธอรักที่สุดในโลกใบนี้
วันนี้เป็นวันที่ดี
เป็นวันเกิดอายุสี่ขวบ
ชีวิตในโรงเรียนใหม่ของซาจิตะ - มันดี ดีมากๆเลย
"สุขสันต์วันเกิดนะ ซาจิจัง!"
"อื้อ!"
"มีความสุขมากๆนะ!"
วันเกิดของเธอจะต้องเป็นวันที่ดีแน่ๆเลย
มีอะไรหลายๆอย่างบอกแบบนั้น
"แบบนี้ก็ใกล้แล้วสินะ อัตลักษณ์ของซาจิจังน่ะ!"
สักวัน อัตลักษณ์ของเธอก็จะออกมาแล้วสินะ
จะเป็นอัตลักษณ์ที่ดีไหมนะ - จะเป็นอัตลักษณ์ที่เหมือนของคุณแม่รึเปล่า
เป็นสี่ขวบที่ตื่นเต้นไม่น้อยเลย
"อ่า ต้องแยกกันแล้วสิ"
เด็กหญิงผมเปียเดี่ยวหลวมๆพูดออกไปหลังจากที่เห็นว่าตนและเพื่อนร่วมห้องเดินมาถึงทางแยกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซาจิตะโบกมือลาเพื่อนๆแล้วเดินแยกไปในอีกทางเพียงลำพัง เด็กหญิงยิ้มร่าฮัมเพลงไปด้วยความแสนสุข
รั้วบ้านที่คุ้นเคยทำให้เธอเลี้ยวเอื้อมมือกดออดของบ้าน หากแต่ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรจากข้างในบ้าน ซาจิตะฉงนใจ โดยปกติแล้วถ้ากดกริ่งคนเป็นแม่จะต้องรีบออกมาพร้อมคำว่ายินดีต้อนรับกลับบ้านแล้ว
เธอไม่สามารถเข้าไปได้เพราะรั้วถูกล็อคด้วยกุญแจเอาไว้
แต่นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนก็เห็นรถจอดอยู่ในบ้าน
"หม่าม๊า อยู่ไหมคะ!"
เด็กหญิงตัดสินใจตะโกนถามออกไป
จะออกไปข้างนอกอยู่รึเปล่านะ
พอคิดได้แบบนั้นเธอก็ยืนเงียบๆ กะว่าจะขยับตัวไปขอนั่งพักอยู่ในบ้านข้างๆ แต่ไม่ทันจะได้ขยับไปไหน เสียงภายในบ้านก็ดังออกมา
เพล้ง!!
เสียงที่เหมือนของตกแตก ซาจิตะเริ่มสงสัยว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น ด้วยความใคร่รู้ เด็กหญิงก็ออกแรงโยนกระเป๋านักเรียนที่สะพายหลังให้ผ่านข้ามรั้วไป ก่อนที่ร่างเล็กๆจะปีนป่ายรั้วขึ้นไป และตกลงมาจากรั้ว
เด็กหญิงกัดฟันเจ็บ แต่ไม่ทันไร เธอก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆออกมาจากร่างกาย ใช้เวลานับนาที ความเจ็บก็ค่อยๆถูกบรรเทาลง
เสียงจากภายในบ้านยังคงดัง ซาจิจะลุกจากพื้น เดินเข้าไปหมุนลูกบิดของประตูบ้าน สภาพภายในบ้านที่เห็นทำให้เด็กหญิงยกมือขึ้นปิดปากของตนเอง
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน…?"
ซาจิตะรำพึงยามเห็นบ้านที่เละเทะ ข้าวของที่ถูกทำลาย หูของเด็กหญิงยังได้ยินเสียงดังจากด้านบนของบ้านที่เธออยู่ ขาสองข้างก้าวขึ้นบันไดไป
"หม่าม๊า"
เธอเรียกเสียงเบา พยายามตามหาคนเป็นแม่
แต่ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกเข้าใกล้เสียงดังมากขึ้น
ซาจิตะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนที่ถูกเปิดอ้าเอาไว้ ก่อนจะรีบยกมือขึ้นปิดปากของตนเอง
"หม่าม๊า…"
หัวของแม่ที่กำลังถูกจับโขกกับผนังของบ้าน จนผนังมีรอยเลือดเปรอะผนังสีครีมสะอาดตา ชายที่สวมผ้าปิดบังใบหน้าคนนั้นหันมามองเธอหลังจากได้ยินเสียงเรียก มือของมันที่จับหัวแม่ของเธอก็ยังคงโขกหัวของแม่เธอปิดท้ายไปเต็มแรง
ขาของซาจิตะสั่นขยับไม่ออกยามที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ร่างกายของชายร่างใหญ่ตรงเข้ามาหาเธอ เจ้านั่นเข้ามาจับข้อมือของร่างกายเด็กหญิงสี่ขวบที่กำลังสั่น
"กลิ่นแอลกอฮอล์...ไม่ผิดแน่ ลูกของแกก็มีอัตลักษณ์เหมือนแกงั้นสินะ"
ไม่เข้าใจเลย
มันเกิดอะไรขึ้นกัน
อัตลักษณ์…
อัตลักษณ์ของเธองั้นเหรอ?
เด็กหญิงมองร่างกายของคนเป็นแม่ที่ล้มไปแล้วกำลังขยับ หญิงสาวที่ปกติมีแววตาสีฟ้าอ่อนโยน...บัดนี้มันเต็มไปด้วยความโกรธ เธอใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดยกแจกันขึ้น ขณะที่พยายามก้าวเข้ามาใกล้
ซาจิตะพยายามตั้งสมาธิไม่ขัดขืนร่างของชายตัวโต
"คุณลุง...เป็นใครเหรอคะ?"
ไม่ทันที่เขาจะตอบโต้กลับมา แจกันในมือของมารดาก็ฟาดลงไปที่ศีรษะของชายตัวโตเต็มแรง เลือดของเขาหลั่งออกมาก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นข้างเธอ
"หม่าม๊า…"
"ไม่เป็นไรๆ…"
คนเป็นที่มีเลือดหลั่งไหลออกมาจากหัวพยายามปลอบประโลมซาจิตะ ซาจิตะกอดคนเป็นแม่เอาไว้ ซาโตมิกอดลูกสาวด้วยอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น
"เจ้าหญิงน้อยของหม่าม๊า…" คนเป็นแม่พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "สุขสันต์วันเกิดนะคะ"
"ไม่เอาสิ หม่าม๊า…"
"ฟังหม่าม๊านะคะ"
เธอเงียบลง
"หม่าม๊ารักซาจิจังที่สุดในโลก สุขสันต์วันเกิด ขอบคุณที่เกิดมาเป็นของขวัญให้หม่าม๊านะคะ"
มันกะทันหัน กะทันหันเกินไป
"ขอโทษที่หม่าม๊าผิดสัญญา… ขอโทษที่ไม่ได้พาไปเลือกซื้อตุ๊กตาตัวใหม่นะคะ"
ซาจิตะรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังถูกทุบให้แหลกสลาย
"หม่าม๊า"
"หนีไป ซาจิจัง...นะคะ หนีไปนะ"
หนี
"รีบหนีไป ก่อนที่พวกมันจะมานะคะ"
เธอไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจจริงๆ
แต่ทันทีที่ร่างของคนเป็นแม่ที่กอดอยู่นิ่งไป ซาจิตะก็รู้สึกกลัวขึ้นมามากกว่าเดิม ร่างที่แน่นิ่งสงบไปในอ้อมกอดของเธอที่ไม่ว่าซาจิตะจะส่งเสียงเรียกร้องเท่าไร ร่างของอีกฝ่ายก็สงบแน่นิ่ง
ทุกสิ่งอย่างมันกะทันหันเกินไป
จนเด็กอย่างเธอไม่อาจรับมันได้ไหว
เธอกรีดร้อง
"หม่าม๊า!!!"
เธอได้ค้นพบ
ว่าหัวใจของเธอมันแตกสลายตอนอายุเพียงแค่สี่ขวบ
และเธอก็ไม่อาจกล้าคาดหวังว่าโลกใบนี้ที่แหลกสลายไปอย่างกะทันหันนั้น มันจะดีขึ้น
อิซึคุกำลังรอผลการตรวจจากแพทย์หลังจากที่ตอนนี้อัตลักษณ์ของเขาก็ยังไม่โผล่ออกมา โดยที่มีแม่กำลังบีบมือให้กำลังใจให้เขาอยู่ และในเวลาไม่นาน การรอคอยของมิโดริยะ อิซึคุก็จบลง
เด็กชายสี่ขวบนั่งลงบนเก้าอี้ แววตาสีมรกตมีความคาดหวังเป็นอย่างมากกับสิ่งที่จะได้ยินต่อไปนี้
"ตัดใจซะเถอะนะ"
คำจากแพทย์ตรงหน้าทำให้เหมือนโลกและความหวังทั้งใบของอิซึคุพังทลาย แววตาที่เปี่ยมด้วยความหวังถูกทำลายไปในทันทีหลังจบคำพูดของแพทย์ตรงหน้า
"ไม่จริง...! มีตรงไหนไม่ดีงั้นเหรอคะ? พวกเด็กๆที่โรงเรียนอนุบาลมีพลังกันหมดแล้ว เหลือแต่เด็กคนนี้"
"ขอเสียมารยาทนะครับ แต่คุณนายเป็นรุ่นที่สี่สินะครับ แล้วอัตลักษณ์นี่?"
"ค่ะ...ก็มีอยู่แล้ว ตัวฉันดึงดูดสิ่งของได้นิดหน่อย"
แม่ของเขาแสดงให้ดูโดยการดึงดูดฟิกเกอร์ออลไมท์โชว์ให้แพทย์ตรงหน้าดู
"ส่วนสามีของฉัน เขาพ่นไฟได้ค่ะ"
คำอธิบายถูกพูดออกไป ขณะที่อิซึคุกำลังช็อคค้าง
แพทย์ตรงหน้าพูดถึงผล x-ray ตรงข้อต่อของนิ้วก้อยเท้า ความจริงที่ได้รับกะทันหันยิ่งทำให้เขาไม่สามารถที่จะยอมรับได้เลย
"อิซึคุคุงมีส่วนข้อต่อของนิ้วก้อยเท้า ซึ่งในยุคนี้ถือว่าหาได้ยาก"
อิซึคุรู้สึกเหมือนหัวใจจะสลาย
"เพราะเป็นรูปแบบที่ไม่มีอัตลักษณ์ใดแฝงอยู่เลย"
หัวใจของเขารับสิ่งที่กะทันหันไม่ไหวเลย
ความจริงที่เจ็บปวด
คำขอโทษของแม่
ที่ขอโทษกับความจริงที่เขาได้รับ
ความจริงในตอนอายุสี่ขวบ ความเจ็บปวดของโลกใบนี้
ความจริงกะทันหันที่ตบหน้าเขา
และบอกว่าโลกนี้ ไม่มีความเท่าเทียมอยู่จริง
|||||
Talk with มาวว ♡
สวัสดีคั้บ ทุกคน มาวเองค้าบ
ตอนนี้เปงตอนที่เขียนมันส์มือมากๆ
หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ อุแง
หวังว่าทุกคนจะชอบในปมของพล็อตใหม่นะคะ!
อาจปูเรื่องนานไปหน่อย แต่รอกันก่อนนะคะ!
รักทุกคนค่ะ! ❤
ความคิดเห็น