ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Only U [ Midoriya x OC ]

    ลำดับตอนที่ #17 : ARC 1 :: 15. [ Tomorrow must not be like today ] || FIN ARC 1

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 64


     



    o n l y  u | fanfic bnha

    midoriya izuku x shiori sachita (oc)


     

    ARC 1 :: 15. [ Tomorrow must not be like today ] || FIN ARC 1




     

    ทุกสิ่งทุกอย่าง สถานการณ์ตอนแรกพลิกจากเลวร้ายขึ้นมาเป็นสถานการณ์ที่ไม่เลวร้ายมากจนเกินไป

    ความหวังมาเยือน

    ในความกลัวของเด็กหนุ่มเด็กสาวใน USJ มันหายวับไปเพียงแค่เห็นร่างของฮีโร่อันดับหนึ่งที่มาถึงแล้ว - เขากัดฟันกรอดบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก


    "มาแล้วเหรอ ฮีโร่"


    ชิการาคิละมือจากซาจิตะ หันไปสนใจสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ "กำลังรอแกอยู่เลย ไอ้สวะ"


    ออลไมท์เข้าทำการจู่โจมพวกสมุนก่อน เขาพุ่งเข้าไปแบกร่างของรุ่นน้องที่นอนแน่นิ่งอยู่กลางลานกว้าง ท่าทางดูรู้สึกผิดไม่น้อยที่เห็นอาการบาดเจ็บปางตายตรงหน้า


    "ไอซาวะคุง ขอโทษนะ"


    เขาหันมาทางเธอและอิซึคุ ขยับตัวด้วยความเร็วพาเธอสองคนออกมาพร้อมกันจากบริเวณเดิม ให้อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด เกินกว่าที่จะรู้ตัว ร่างของพ่อบุญธรรมก็วางอยู่ข้างหน้า เด็กสาวแทบทรุดลงกับพื้นหลังเห็นว่าตัวเองสามารถเอื้อมมือถึงพ่อตัวเองได้แล้ว


    "ทุกคนไปที่ทางเข้า!"


    ออลไมท์บอก "ดูแลอาจารย์ไอซาวะด้วย เขาหมดสติแล้ว รีบไป!"


    ฮีโร่ยันตัวลุกขึ้นจากพื้นหลังออกคำสั่ง นัยน์ตาสีฟ้าจ้องไปยังวิลเลิน ซาจิตะแบกร่างของผู้เป็นพ่อบุญธรรมขึ้นมา เธอขอแรงของอิซึคุที่จ้องออลไมท์อยู่ คนที่ถูกเรียกสะดุ้งและช่วยเธอพยุงพาร่างที่บาดเจ็บไปด้วยกัน

    แม้มิโดริยะ อิซึคุจะกำลังกังวล

    แต่การที่สัญลักษณ์แห่งสันติภาพหันกลับมาชูสองนิ้วให้ก็ทำให้เขายอมถอย


    "ทุกอย่างจะโอเค"


    เธอไม่รู้ว่ามันจริงไหม มันจะจริงตามคำว่ารึเปล่าที่บอกว่าทุกอย่างจะโอเค แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรทำได้มากไปกว่าการเชื่อมั่น และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

    เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของซาจิตะในเวลานี้

    คือการแบกร่างของผู้มีพระคุณที่มอบชีวิตใหม่ให้ไปยังทางเข้าออก


    แต่ว่า…

    เธอเห็นนะ

    สีหน้าที่ยังกังวล ยังคิดอะไรไม่ตกอยู่แบบนั้น


    "คุณอยากจะเข้าไปเหรอคะ?"


    เธอถามออกไปตรงๆ เด็กสาวผมสีเทากลั้นใจถามออกไป "ดูกังวลนะคะ"


    "ผมอ่านข่าวของออลไมท์ทุกวัน…" ทางนั้นเปิดปาก "ผมรู้ว่านี่มันเกินขีดจำกัดของเขา"


    เหมือนเธอที่รู้ดีว่าการสู้แบบนี้มันเกินขีดจำกัดของอีเรเซอร์เฮด

    เราไม่มีอะไรต่างกันเลย เราเข้าใจ เข้าใจเรื่องพวกนี้กันดีหมด


    "ฉันเข้าใจค่ะ"


    "แต่ซัจจังกับ…"


    เขาปรายตามองที่อาจารย์ไอซาวะที่ตัวเองกำลังช่วยเธอแบกพยุง ซาจิตะส่ายหน้าเบาๆ "ไม่ใช่ลูกแท้ๆหรอกค่ะ ฉันเป็นลูกบุญธรรม"


    "อ่า...งั้นเองเหรอครับ?"


    เด็กสาวพยักหน้าเบาๆ ซาจิไม่รู้ว่าควรจะบอกอีกฝ่ายให้เบาใจยังไง ในเมื่อสายตาสีมรกตคู่นั้นยังคงมองไปที่ลานกว้าง เธอพยายามพูดคุยชวนเขาให้คลายความกังวล "อันดับหนึ่ง ต้องไม่เป็นอะไรค่ะ"


    "ซัจจัง…"


    เสียงนั้นแผ่วลงท้ายหางเสียงดูสั่น ซาจิกลั้นใจยามที่เห็นว่าเพื่อนร่วมห้องข้างกายตัวแข็งค้าง ใบหน้าของเธอหันไปตามทิศทางเดียวกันและได้เข้าใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

    สภาพของอันดับหนึ่ง

    ที่ถูกเล่นงานโดยพวกวิลเลิน


    ทั้งเธอ

    ทั้งอิซึคุ

    เราต่างหยุดนิ่ง


    "ซัจจังครับ…"


    "อิซึคุ"


    "ขอโทษนะครับ…" เขาเอ่ยบอก ท่าทางดูจริงจัง "ผมขอฝากอาจารย์ไอซาวะ ไว้ที่คุณคนเดียวได้ไหมครับ?"


    เธอไม่ควรอนุญาต

    เธอไม่ควรที่จะยอมตอบรับ

    แต่ท่าทางจริงจัง ความมุ่งมั่น และความเข้าใจในความรู้สึกที่อยากปกป้องคนสำคัญของเขา เพราะเธอเข้าใจมันดี เธอเข้าใจ เธอถึงยอมรามือและทำเพียงแค่การพยักหน้ารับเบาๆ


    "ค่ะ"


    เขาค่อยๆปล่อย เธอกระชับร่างของพ่อบุญธรรมตัวเองให้แน่นขึ้น ดวงตาสีฟ้ามองที่เขา


     "ผมขอโทษครับ ซัจจัง...แต่ ผมปล่อยเขาไม่ได้ ผมไม่พร้อม - ไม่พร้อมที่จะเสียเขาไป" 


    "ฉันรู้แล้วค่ะ"


    เธอบอกย้ำก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา


    "ไปเถอะค่ะ ไปช่วยเขาให้ได้นะคะ อิซึคุ!"


    เธอตะโกนไล่หลังคนที่วิ่งสวนทางออกไป


    ไม่มีแม้ห้ามหรือรั้งอะไรไว้

    เพราะเธอเข้าใจดี

    การที่อยากจะปกป้องคนสำคัญของตัวเองเอาไว้








    หลังจากที่อิซึคุวิ่งไปสมทบกับออลไมท์ ทั้งบาคุโก โทโดโรกิ โคซากุระและคิริชิมะก็สมทบเข้าไปด้วย จากนั้นไม่นาน แต่ก็ไม่รวดเร็ว การต่อสู้ก็ได้เริ่มและจบลง พร้อมโปรฮีโร่ในสถาบันที่ต่างมารวมตัวกันเพื่อคลี่คลายเรื่องทั้งหมด


    นั่นเป็นวันแรก

    สำหรับเด็กกลุ่มหนึ่ง

    ที่ได้ค้นพบการต่อสู้กับวิลเลิน

    นั่นคือ

    พวกเราสัมผัสกับมันเร็วเกินไป


    ซาจิตะภูมิใจที่ตัวเองรอดชีวิตมาได้ แต่ขณะเดียวกันไอ้ความภูมิใจที่ว่าก็เป็นเพียงแค่อาการโล่งใจที่รอดตายมาได้เท่านั้น เพราะจนถึงตอนนี้ จนถึงวินาทีที่ส่งร่างของพ่อให้กับอาจารย์คนอื่นหรือส่งให้ขึ้นไปบนรถพยาบาล

    จนถึงตอนนี้

    ร่างกายของซาจิก็ยังสั่นไปหมด


    เธอกลัว

    กลัวจนตัวสั่น กลัวจนแทบหายใจไม่ออก และกลัวจนน้ำตาคลอ


    "นี่ แม่ขา"


    "คะ?"


    มือที่แตะลงบนไหล่ จากเด็กสาวผมสีพิสุทธิ์ ซาจิตะที่ขยับปากออกเสียงตอบรับถูกจู่โจมด้วยการกอดจากด้านหลังจากเด็กสาวชุดกิโมโนประยุกต์ มือของโคซากุระข้างหนึ่งกอดเอวของซาจิ ส่วนอีกข้างยกมือขึ้นลูบหัวของซาจิตะเบาๆ


    "ไม่เป็นไรนะ"


    ทุกคนรู้เรื่องทั้งหมด

    เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับอาจารย์ไอซาวะ

    ว่าเรามีสายใยของความเป็นครอบครัวผูกเอาไว้

    ซาจิตะไม่รู้จะพูดอะไรตอบไป


    แต่ตัวของเธอก็ยังสั่น


    สมองของเธอมันคิดอะไรไม่ออกเลย มันรู้เพียงแค่อาจารย์ที่ปรึกษาผู้เป็นพ่อบาดเจ็บมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะจากการปกป้องลูกสาวอย่างเธอเอาไว้  - กระดูกที่มือและหน้าของเขาแตกหัก แม้สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน แต่กระดูกเบ้าตาก็แตกละเอียด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อตาของพ่อในอนาคตได้อีก


    เพียงแค่นั้น เธอก็ฟังอะไรไม่ออกอีกเลย

    ทำอะไรไม่ถูกและรู้สึกกลัวไปหมด

    เธอไม่ชอบเลย

    ความรู้สึกแบบนี้ - มันเหมือนวันที่รอคอยให้เขากลับบ้านในตอนเด็ก แม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่เสื้อผ้าที่มีรอยเลือดที่เธอซักให้ มันก็ฝังใจมาตลอด


    "ตัวสั่นนะ"


    ริทสึกะบอกซาจิตะแบบนั้น


    "ขึ้นรถกันนะ กลับกัน ไม่เป็นไรแล้วนะ พวกเราปลอดภัยแล้ว"


    ให้ตายสิ

    เธอน่ะ

    คงสูญเสียความเยือกเย็นของตัวเองไปแล้วจริงๆ

    ถึงต้องให้คนแบบริทสึกะมาเป็นห่วงได้


    ซาจิตะหวัง - หวังว่าความรู้สึกสั่นกลัวในครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอต้องเผชิญ

    เพื่ออนาคตข้างหน้าที่จะมาถึงในสักวัน








    อาจเพราะความร้อนใจอะไรบางอย่างที่ก่อตัวขึ้น

    เมื่อมาถึงที่โรงเรียนหลังนั่งรถบัสกลับมา ซาจิตะก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด มองอีดะที่ถือทั้งกระเป๋าและถุงใส่เสื้อผ้าของใครสักคนที่เธอรู้ดีว่าน่าจะเป็นของใคร


    "ของเขาเหรอคะ?"


    "ใช่แล้ว ของมิโดริยะคุงน่ะ"


    ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว อีกไม่นานท้องฟ้าที่เป็นสีส้มที่เราเห็นก็คงจะกลายเป็นสีม่วงของกลางคืน ซาจิสูดลมหายใจของตัวเอง "ฉันว่าจะไปห้องพยาบาลค่ะ ฝากของของเขามาให้ฉันก็ได้นะคะ"


    "อ่า งั้นฝากด้วยนะ ชิโอริคุง"


    "ไม่เป็นไรค่ะ อีดะ"


    เด็กสาวผมสั้นสีเทาหยักศกบอกปัดพลางรับถุงและกระเป๋ามา เธอหันหลังให้หัวหน้าห้อง1-A ก่อนจะได้ยินเสียงของอีดะตามไล่หลังมา


    "จะรอกับอุรารากะคุงที่หน้าประตูนะ ชิโอริคุง!"


    เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ยังคงเดินไปยังห้องพยาบาล ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นในใจของตนอยู่ - แม้ว่าความสั่นกลัวที่มีในตอนแรกจะหายไปแล้ว

    แต่

    มันยังมีอะไรที่อึดอัด ค้างคาอยู่ในใจ


    เธอก้าวมาถึงหน้าห้องพยาบาล เด็กสาวในยูนิฟอร์มสูทสีเทาของยูเอย์สวนทางกับสารวัตรทสึกะอุจิ นาโอมาสะ กล่าวทักทายและบอกลาเล็กน้อย ก่อนที่อีกฝ่ายจะขอตัวกลับไปจัดการอะไรต่อ ส่วนเธอก็หันไปขออนุญาตรีคัพเวอร์รี่เกิร์ลในห้องพยาบาล


    "เข้ามาสิ"


    "ขอบคุณค่ะ"


    "อ่า แม่หนูชิโอริ ปลอดภัยดีสินะ!"


    ออลไมท์ในรูปลักษณ์ผอมแห้งบอกออกมาขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง เตียงข้างๆติดริมหน้าต่างก็มีร่างของเด็กหนุ่มผมสีเย็นตาที่พึ่งฟื้นขึ้นมาเหมือนกัน เขายิ้มบางๆเอ่ยทักเธอ


    "ซัจจัง"


    "ฉันเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนแล้วก็เอากระเป๋ามาให้ค่ะ"


    ซาจิตะบอกเสียงนิ่ง สูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อเห็นสภาพบาดเจ็บของอีกฝ่ายที่ดูดีขึ้นมาบ้างเพราะการฟื้นฟูของครูห้องพยาบาล "คุณฟื้นแล้วสินะคะ"


    "ครับ"


    "ก็ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วนะ" หญิงชราชี้แจง "น้ำเกลือก็ใกล้หมดแล้ว อีกแปบก็คงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับได้เลย"


    พอได้ยินแบบนั้นซาจิตะก็โล่งอกขึ้นมา พอได้รับรู้ว่าเขายังปลอดภัยดี

    อาจเพราะเธอกลัวว่าการปล่อยเขาออกไปจะเป็นสิ่งที่ผิดพลาด


    "ซัจจัง…"


    "เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร"


    เธอพยายามคุมเสียงของตัวเอง


    "ดีจัง ที่คุณไม่เป็นอะไร"



    มือของเธอวางลงบนข้างเตียงคนเจ็บที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง คนเจ็บที่รอสายน้ำเกลือหมดก็ขยับมือมาประคองมือของเธอ เมื่อแตะลงที่มือของซาจิ อีกฝ่ายก็ตาเบิกกว้าง


    "ซัจจัง...มือสั่นเหรอครับ?"


    เธอพึ่งรู้ตัวว่าเธอกลับมาตัวสั่นอีกแล้ว


    และเพราะคำพูดแบบนั้นก็ทำให้สัญลักษณ์แห่งสันติภาพแตกตื่นขึ้นมาบ้าง


    "แม่หนูชิโอริ! กลัวงั้นเหรอ!?"


    "เป็นเด็กนี่ กลัวก็ไม่เห็นผิดเลย ออลไมท์!"


    รีคัพเวอร์รี่เกิร์ลโต้กลับไป ซาจิตะไม่ตอบอะไร เธอมองสายน้ำเกลือที่น้ำเกลือหมดลงแล้ว "หมดแล้วนะคะ ให้หนูจัดการได้เลยรึเปล่า?"


    "ได้สิ"


    เมื่อครูห้องพยาบาลอนุญาต ซาจิตะก็เป็นฝ่ายจัดการถอดสายน้ำเกลือออกให้อิซึคุ ท่าทางของเธอดูคล่องแคล่วจนทำให้ดูเหมือนเธอเป็นคุณหมอขึ่นมาจริงๆในสายตาของคนเจ็บที่มองเธออยู่ตลอด - จากมือที่สั่นคราแรก มันนิ่งลงอีกทั้งยังเบามือ

    เมื่อถอดสายน้ำเกลือให้ได้เรียบร้อยแล้ว ซาจิตะก็เลื่อนม่านปิดให้เพื่อให้มิโดริยะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและเธอรออีกฝ่าย

    ระหว่างที่รอ

    สัญลักษณ์แห่งสันติภาพก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา


    "แม่หนูชิโอริ"


    เขาเรียกเธอ "ฉันขอโทษนะ"


    ซาจิมองเขา สบตาของเขาก่อนจะค่อยๆถาม


    "เรื่องอะไรเหรอคะ?"


    "คงกลัวมากเลยรึเปล่า...ฉัน...ขอโทษนะที่ไปช้า"


    เธอโทษเขาไม่ได้หรอก

    การที่เขาไปถึงที่หมายช้า

    และการที่วิลเลินเล็งเป้าที่เขา

    เขาไม่ใช่คนผิด เขาเองก็ไม่ได้อยากให้ใครเจ็บปวดเหมือนเธอเหมือนกัน


    "ไม่เป็นไรค่ะ ออลไมท์"


    ซาจิตะตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ "คุณไม่ได้ผิดอะไรเลย"


    เธอเข้าใจทุกอย่าง


    และเธอก็รู้ตัวดีว่าอนาคตยังมีเรื่องมากมายรออยู่ข้างหน้า


    "ฉันบอกแล้วไงคะ ออลไมท์ว่าฉันพร้อมที่จะแบกรับเรื่องนี้ไปพร้อมกับอิซึคุ"


    เด็กสาวพูดอย่างมาดมั่นออกมา เป็นความรู้สึกที่อัดแน่นด้วยความมุ่งมั่น ซาจิตะใช้มืออีกข้างชกแขนที่กำลังสั่นของตัวเองเพื่อให้มันหยุดสั่น


    "วันนี้สั่น ใช่ค่ะ วันนี้ฉันกลัว ใช่ค่ะ - แต่ในอนาคตสักวันฉันจะไม่มีทางสั่นกลัวแบบนี้อีกแล้ว"


    ฮีโร่อันดับหนึ่งสบตาสีฟ้าของเด็กสาวผมสีเทาหยักศก

    รู้สึกเหมือนภาพซ้อนทับของใครบางคนที่ซ้อนทับกันอยู่

    แววตา น้ำเสียง มุ่งมั่น - จนเหมือนคนๆนั้น

    อดีตภรรยาที่เลิกรากันมาได้หลายปี...ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ด่าเขาว่า 'อันดับหนึ่งงี่เง่า'


    "งั้นเหรอ แม่หนูชิโอริ"


    เขาหลุดยิ้มมุมปากออกมา


    "ฉันจะรอดูวันนั้น"


    ซาจิตะไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เมื่อคนที่แต่งตัวอยู่เรียบร้อยได้แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วและค่อยๆเลื่อนม่านที่ปิดเอาไว้อยู่คราแรกออก

    เมื่อเห็นแบบนั้นซาจิตะบอกลาออลไมท์และรีคัพเวอร์รี่เกิร์ล เด็กสาวเดินนำอิซึคุออกมา เขาแบกกระเป๋าเป้สีเหลืองของตนเองตามออกมาด้วย


    "ให้ฉันช่วยถือไหมคะ?"


    "ไม่เป็นไรครับ!"


    ซาจิตะพยักหน้ารับเบาๆ ไม่ขัดศรัทธาอะไร


    "คำพูดที่ซัจจังพูดกับออลไมท์ในห้องพยาบาลเมื่อกี้...เท่มากเลยนะครับ"


    "เท่เหรอคะ?"


    "ก็มันดูมุ่งมั่นดีมากเลยครับ"


    เธอยิ้มบางๆ "คนเราก็ต้องมุ่งมั่นสิคะ"


    "จริงด้วย"


    อิซึคุหัวเราะออกมาหลังได้ยินคำพูดของเธอ


    "ฟ้ามืดแล้วสินะครับ"


    เมื่อมองออกไปตรงหน้าต่างจากสีส้มก็ถูกย้อมด้วยสีม่วงจนเข้มบ่งบอกถึงเวลากลางคืนที่มาถึงหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว


    "ใช่ค่ะ"


    "วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยน่าดูเลยครับ"


    "อื้อ เหนื่อยจริงๆค่ะ"


    ซาจิตะไม่ได้ปฏิเสธ


    "เป็นวันที่เหนื่อยมากๆ ต้องพบเจออะไรน่ากลัวตั้งเยอะ"


    มันอาจเป็นครั้งแรก

    ที่อิซึคุนึกขึ้นมาได้ว่าซัจจังก็เป็นเด็กเหมือนกันกับเขา


    "แต่ก็รู้สึกโล่งใจที่รอดมาได้"


    "ผมเองก็เหมือนกันครับ"


    เราหยุดเดินแล้วหันหน้ามามองกันแทน - อิซึคุค่อยๆจับมือของซาจิตะขึ้นมากุมเอาไว้พร้อมยิ้มกว้างให้


    "วันนี้ต้องรบกวนซัจจังหลายเรื่องเลย...ผมดีใจนะครับที่มีซัจจังอยู่"


    เธอเองก็ดีใจ

    ที่ได้ช่วยอะไรได้บ้าง


    "วันนี้ ขอบคุณนะคะ"


    "ครับ?"


    "ก็ที่ช่วยฉันจากวิลเลิน"


    "ผมก็ต้องขอบคุณซัจจังเหมือนกันครับที่ช่วยใช้ยาชา!"


    เราต่างคนต่างขอบคุณกันและกัน

    รอยยิ้มกว้าง ตาสีมรกตที่ปิดเปลือกตาพร้อมยิ้ม

    ขณะที่ซาจิยิ้มบางๆ


    "ไปกันเถอะค่ะ อีดะกับอุรารากะ รอเราสองคนอยู่นะ"


    "อ เอ๊ะ!? งั้นเหรอครับ!?"


    เธอไม่ได้ตอบอะไร เป็นเพียงแค่การพยักหน้ารับ ทันใดนั้นอิซึคุก็ดูรีบร้อนขึ้นมาในทันที

    แต่ถึงแบบนั้น เขาก็หันกลับมาหลังจากที่เดินนำเธอไป

    รอยยิ้มกว้างที่มอบให้พร้อมมือที่ยื่นมาตรงหน้า


    "อาจต้องรบกวนอีกหลายๆเรื่องต่อจากนี้...เพราะแบบนั้น  ขอฝากตัวด้วยนะครับ"


    เขาขอเธอออกมา ขอฝากตัวกับเธอ

    ในฐานะคนที่พร้อมจะแบกรับไปด้วยกัน


    อาจต้องรบกวนหลายๆเรื่อง

    แน่นอนสิ


    ซาจิตะยื่นมือไปจับมือของอิซึคุ


    "อยากจะรบกวนอะไรก็รบกวนมาเถอะค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ - ฝากตัวด้วยนะคะ ต่อจากนี้"








    ในวันที่จุดเริ่มต้นของลางร้ายได้เริ่มขึ้น

    ในวันที่เราจับมือกันและกัน






    ไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร







    แต่มันก็แค่จุดเริ่มต้น

    จุดเริ่มต้นก่อนที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง

    และมีเบื้องหลังความสำเร็จเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง






    ใช่ - เด็กสองคนที่จับมือกันบนทางแห่งชะตานี้

    ที่คิดว่าวันพรุ่งนี้ ต้องไม่เป็นแบบวันนี้

    บนทางเดินที่เลือกเดินไปด้วยกัน







    ■ Arc 1 : END







    ||||

    Talk with มาวว ♡

    ทุกคนรู้ไหมคะ ฟิคนี้อยู่มาจะครบ1ปีแล้วค่ะ!

    (เปิดฟิควันแรก 15/06/2020)

    เค้าเก่งไหมคะ จบarc1 ทันวันครบรอบด้วย แงๆๆ

    มีหลายๆอย่างที่อยากจะเรียนรู้

    และอยากได้รับความรักจากทุกคนแบบนี้ไปตลอดจังเลยค่ะ

    ขอให้กันได้ไหมคะ ;_____;

    มาถึงตรงนี้ก่อนจะขึ้น arc2 

    มาวอยากจะคั่นด้วยหน้าแนะนำตัวละครค่ะ

    อาจคั่นด้วยทอล์คนิดหน่อย (ถ ถ้าทุกคนอยากคุยด้วย แต่ถ้าเม้นส่วนใหญ่บอกไม่อยากหรือไม่สนใจตรงนี้ เค้าอาจข้ามตรงนี้ไปเลยก็ได้ค่ะ ,___,)

    และก็เป็นตอนพิเศษ (ซึ่งน่าจะอัพไม่ทันครบรอบ) แต่ก็จะด้านลงค่ะ แงงงง

    สิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะนักอ่านเก่าหรือใหม่ แค่ความรักที่ทุกคนมีให้ เค้าก็พอใจแล้วค่ะ แต่ก็ยอมรับว่าอยากได้กำลังใจมากๆเหมือนกันนะคะ ขอโทษที่เอาแต่ใจนะคะ แต่รักทุกคนจริงๆค่ะ

    ยินดีที่ได้พบนะคะ ต่อจากนี้คงต้องฝากตัวกับทุกคนอีกมาก

    รักค่ะ ❤


     

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×