คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ARC 1 :: 15. [ Tomorrow must not be like today ] || FIN ARC 1
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
ARC 1 :: 15. [ Tomorrow must not be like today ] || FIN ARC 1
ทุกสิ่งทุกอย่าง สถานการณ์ตอนแรกพลิกจากเลวร้ายขึ้นมาเป็นสถานการณ์ที่ไม่เลวร้ายมากจนเกินไป
ความหวังมาเยือน
ในความกลัวของเด็กหนุ่มเด็กสาวใน USJ มันหายวับไปเพียงแค่เห็นร่างของฮีโร่อันดับหนึ่งที่มาถึงแล้ว - เขากัดฟันกรอดบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก
"มาแล้วเหรอ ฮีโร่"
ชิการาคิละมือจากซาจิตะ หันไปสนใจสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ "กำลังรอแกอยู่เลย ไอ้สวะ"
ออลไมท์เข้าทำการจู่โจมพวกสมุนก่อน เขาพุ่งเข้าไปแบกร่างของรุ่นน้องที่นอนแน่นิ่งอยู่กลางลานกว้าง ท่าทางดูรู้สึกผิดไม่น้อยที่เห็นอาการบาดเจ็บปางตายตรงหน้า
"ไอซาวะคุง ขอโทษนะ"
เขาหันมาทางเธอและอิซึคุ ขยับตัวด้วยความเร็วพาเธอสองคนออกมาพร้อมกันจากบริเวณเดิม ให้อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด เกินกว่าที่จะรู้ตัว ร่างของพ่อบุญธรรมก็วางอยู่ข้างหน้า เด็กสาวแทบทรุดลงกับพื้นหลังเห็นว่าตัวเองสามารถเอื้อมมือถึงพ่อตัวเองได้แล้ว
"ทุกคนไปที่ทางเข้า!"
ออลไมท์บอก "ดูแลอาจารย์ไอซาวะด้วย เขาหมดสติแล้ว รีบไป!"
ฮีโร่ยันตัวลุกขึ้นจากพื้นหลังออกคำสั่ง นัยน์ตาสีฟ้าจ้องไปยังวิลเลิน ซาจิตะแบกร่างของผู้เป็นพ่อบุญธรรมขึ้นมา เธอขอแรงของอิซึคุที่จ้องออลไมท์อยู่ คนที่ถูกเรียกสะดุ้งและช่วยเธอพยุงพาร่างที่บาดเจ็บไปด้วยกัน
แม้มิโดริยะ อิซึคุจะกำลังกังวล
แต่การที่สัญลักษณ์แห่งสันติภาพหันกลับมาชูสองนิ้วให้ก็ทำให้เขายอมถอย
"ทุกอย่างจะโอเค"
เธอไม่รู้ว่ามันจริงไหม มันจะจริงตามคำว่ารึเปล่าที่บอกว่าทุกอย่างจะโอเค แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรทำได้มากไปกว่าการเชื่อมั่น และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของซาจิตะในเวลานี้
คือการแบกร่างของผู้มีพระคุณที่มอบชีวิตใหม่ให้ไปยังทางเข้าออก
แต่ว่า…
เธอเห็นนะ
สีหน้าที่ยังกังวล ยังคิดอะไรไม่ตกอยู่แบบนั้น
"คุณอยากจะเข้าไปเหรอคะ?"
เธอถามออกไปตรงๆ เด็กสาวผมสีเทากลั้นใจถามออกไป "ดูกังวลนะคะ"
"ผมอ่านข่าวของออลไมท์ทุกวัน…" ทางนั้นเปิดปาก "ผมรู้ว่านี่มันเกินขีดจำกัดของเขา"
เหมือนเธอที่รู้ดีว่าการสู้แบบนี้มันเกินขีดจำกัดของอีเรเซอร์เฮด
เราไม่มีอะไรต่างกันเลย เราเข้าใจ เข้าใจเรื่องพวกนี้กันดีหมด
"ฉันเข้าใจค่ะ"
"แต่ซัจจังกับ…"
เขาปรายตามองที่อาจารย์ไอซาวะที่ตัวเองกำลังช่วยเธอแบกพยุง ซาจิตะส่ายหน้าเบาๆ "ไม่ใช่ลูกแท้ๆหรอกค่ะ ฉันเป็นลูกบุญธรรม"
"อ่า...งั้นเองเหรอครับ?"
เด็กสาวพยักหน้าเบาๆ ซาจิไม่รู้ว่าควรจะบอกอีกฝ่ายให้เบาใจยังไง ในเมื่อสายตาสีมรกตคู่นั้นยังคงมองไปที่ลานกว้าง เธอพยายามพูดคุยชวนเขาให้คลายความกังวล "อันดับหนึ่ง ต้องไม่เป็นอะไรค่ะ"
"ซัจจัง…"
เสียงนั้นแผ่วลงท้ายหางเสียงดูสั่น ซาจิกลั้นใจยามที่เห็นว่าเพื่อนร่วมห้องข้างกายตัวแข็งค้าง ใบหน้าของเธอหันไปตามทิศทางเดียวกันและได้เข้าใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
สภาพของอันดับหนึ่ง
ที่ถูกเล่นงานโดยพวกวิลเลิน
ทั้งเธอ
ทั้งอิซึคุ
เราต่างหยุดนิ่ง
"ซัจจังครับ…"
"อิซึคุ"
"ขอโทษนะครับ…" เขาเอ่ยบอก ท่าทางดูจริงจัง "ผมขอฝากอาจารย์ไอซาวะ ไว้ที่คุณคนเดียวได้ไหมครับ?"
เธอไม่ควรอนุญาต
เธอไม่ควรที่จะยอมตอบรับ
แต่ท่าทางจริงจัง ความมุ่งมั่น และความเข้าใจในความรู้สึกที่อยากปกป้องคนสำคัญของเขา เพราะเธอเข้าใจมันดี เธอเข้าใจ เธอถึงยอมรามือและทำเพียงแค่การพยักหน้ารับเบาๆ
"ค่ะ"
เขาค่อยๆปล่อย เธอกระชับร่างของพ่อบุญธรรมตัวเองให้แน่นขึ้น ดวงตาสีฟ้ามองที่เขา
"ผมขอโทษครับ ซัจจัง...แต่ ผมปล่อยเขาไม่ได้ ผมไม่พร้อม - ไม่พร้อมที่จะเสียเขาไป"
"ฉันรู้แล้วค่ะ"
เธอบอกย้ำก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา
"ไปเถอะค่ะ ไปช่วยเขาให้ได้นะคะ อิซึคุ!"
เธอตะโกนไล่หลังคนที่วิ่งสวนทางออกไป
ไม่มีแม้ห้ามหรือรั้งอะไรไว้
เพราะเธอเข้าใจดี
การที่อยากจะปกป้องคนสำคัญของตัวเองเอาไว้
หลังจากที่อิซึคุวิ่งไปสมทบกับออลไมท์ ทั้งบาคุโก โทโดโรกิ โคซากุระและคิริชิมะก็สมทบเข้าไปด้วย จากนั้นไม่นาน แต่ก็ไม่รวดเร็ว การต่อสู้ก็ได้เริ่มและจบลง พร้อมโปรฮีโร่ในสถาบันที่ต่างมารวมตัวกันเพื่อคลี่คลายเรื่องทั้งหมด
นั่นเป็นวันแรก
สำหรับเด็กกลุ่มหนึ่ง
ที่ได้ค้นพบการต่อสู้กับวิลเลิน
นั่นคือ
พวกเราสัมผัสกับมันเร็วเกินไป
ซาจิตะภูมิใจที่ตัวเองรอดชีวิตมาได้ แต่ขณะเดียวกันไอ้ความภูมิใจที่ว่าก็เป็นเพียงแค่อาการโล่งใจที่รอดตายมาได้เท่านั้น เพราะจนถึงตอนนี้ จนถึงวินาทีที่ส่งร่างของพ่อให้กับอาจารย์คนอื่นหรือส่งให้ขึ้นไปบนรถพยาบาล
จนถึงตอนนี้
ร่างกายของซาจิก็ยังสั่นไปหมด
เธอกลัว
กลัวจนตัวสั่น กลัวจนแทบหายใจไม่ออก และกลัวจนน้ำตาคลอ
"นี่ แม่ขา"
"คะ?"
มือที่แตะลงบนไหล่ จากเด็กสาวผมสีพิสุทธิ์ ซาจิตะที่ขยับปากออกเสียงตอบรับถูกจู่โจมด้วยการกอดจากด้านหลังจากเด็กสาวชุดกิโมโนประยุกต์ มือของโคซากุระข้างหนึ่งกอดเอวของซาจิ ส่วนอีกข้างยกมือขึ้นลูบหัวของซาจิตะเบาๆ
"ไม่เป็นไรนะ"
ทุกคนรู้เรื่องทั้งหมด
เรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับอาจารย์ไอซาวะ
ว่าเรามีสายใยของความเป็นครอบครัวผูกเอาไว้
ซาจิตะไม่รู้จะพูดอะไรตอบไป
แต่ตัวของเธอก็ยังสั่น
สมองของเธอมันคิดอะไรไม่ออกเลย มันรู้เพียงแค่อาจารย์ที่ปรึกษาผู้เป็นพ่อบาดเจ็บมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะจากการปกป้องลูกสาวอย่างเธอเอาไว้ - กระดูกที่มือและหน้าของเขาแตกหัก แม้สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน แต่กระดูกเบ้าตาก็แตกละเอียด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อตาของพ่อในอนาคตได้อีก
เพียงแค่นั้น เธอก็ฟังอะไรไม่ออกอีกเลย
ทำอะไรไม่ถูกและรู้สึกกลัวไปหมด
เธอไม่ชอบเลย
ความรู้สึกแบบนี้ - มันเหมือนวันที่รอคอยให้เขากลับบ้านในตอนเด็ก แม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่เสื้อผ้าที่มีรอยเลือดที่เธอซักให้ มันก็ฝังใจมาตลอด
"ตัวสั่นนะ"
ริทสึกะบอกซาจิตะแบบนั้น
"ขึ้นรถกันนะ กลับกัน ไม่เป็นไรแล้วนะ พวกเราปลอดภัยแล้ว"
ให้ตายสิ
เธอน่ะ
คงสูญเสียความเยือกเย็นของตัวเองไปแล้วจริงๆ
ถึงต้องให้คนแบบริทสึกะมาเป็นห่วงได้
ซาจิตะหวัง - หวังว่าความรู้สึกสั่นกลัวในครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอต้องเผชิญ
เพื่ออนาคตข้างหน้าที่จะมาถึงในสักวัน
อาจเพราะความร้อนใจอะไรบางอย่างที่ก่อตัวขึ้น
เมื่อมาถึงที่โรงเรียนหลังนั่งรถบัสกลับมา ซาจิตะก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด มองอีดะที่ถือทั้งกระเป๋าและถุงใส่เสื้อผ้าของใครสักคนที่เธอรู้ดีว่าน่าจะเป็นของใคร
"ของเขาเหรอคะ?"
"ใช่แล้ว ของมิโดริยะคุงน่ะ"
ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว อีกไม่นานท้องฟ้าที่เป็นสีส้มที่เราเห็นก็คงจะกลายเป็นสีม่วงของกลางคืน ซาจิสูดลมหายใจของตัวเอง "ฉันว่าจะไปห้องพยาบาลค่ะ ฝากของของเขามาให้ฉันก็ได้นะคะ"
"อ่า งั้นฝากด้วยนะ ชิโอริคุง"
"ไม่เป็นไรค่ะ อีดะ"
เด็กสาวผมสั้นสีเทาหยักศกบอกปัดพลางรับถุงและกระเป๋ามา เธอหันหลังให้หัวหน้าห้อง1-A ก่อนจะได้ยินเสียงของอีดะตามไล่หลังมา
"จะรอกับอุรารากะคุงที่หน้าประตูนะ ชิโอริคุง!"
เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ยังคงเดินไปยังห้องพยาบาล ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นในใจของตนอยู่ - แม้ว่าความสั่นกลัวที่มีในตอนแรกจะหายไปแล้ว
แต่
มันยังมีอะไรที่อึดอัด ค้างคาอยู่ในใจ
เธอก้าวมาถึงหน้าห้องพยาบาล เด็กสาวในยูนิฟอร์มสูทสีเทาของยูเอย์สวนทางกับสารวัตรทสึกะอุจิ นาโอมาสะ กล่าวทักทายและบอกลาเล็กน้อย ก่อนที่อีกฝ่ายจะขอตัวกลับไปจัดการอะไรต่อ ส่วนเธอก็หันไปขออนุญาตรีคัพเวอร์รี่เกิร์ลในห้องพยาบาล
"เข้ามาสิ"
"ขอบคุณค่ะ"
"อ่า แม่หนูชิโอริ ปลอดภัยดีสินะ!"
ออลไมท์ในรูปลักษณ์ผอมแห้งบอกออกมาขณะที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง เตียงข้างๆติดริมหน้าต่างก็มีร่างของเด็กหนุ่มผมสีเย็นตาที่พึ่งฟื้นขึ้นมาเหมือนกัน เขายิ้มบางๆเอ่ยทักเธอ
"ซัจจัง"
"ฉันเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนแล้วก็เอากระเป๋ามาให้ค่ะ"
ซาจิตะบอกเสียงนิ่ง สูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อเห็นสภาพบาดเจ็บของอีกฝ่ายที่ดูดีขึ้นมาบ้างเพราะการฟื้นฟูของครูห้องพยาบาล "คุณฟื้นแล้วสินะคะ"
"ครับ"
"ก็ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วนะ" หญิงชราชี้แจง "น้ำเกลือก็ใกล้หมดแล้ว อีกแปบก็คงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับได้เลย"
พอได้ยินแบบนั้นซาจิตะก็โล่งอกขึ้นมา พอได้รับรู้ว่าเขายังปลอดภัยดี
อาจเพราะเธอกลัวว่าการปล่อยเขาออกไปจะเป็นสิ่งที่ผิดพลาด
"ซัจจัง…"
"เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร"
เธอพยายามคุมเสียงของตัวเอง
"ดีจัง ที่คุณไม่เป็นอะไร"
มือของเธอวางลงบนข้างเตียงคนเจ็บที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง คนเจ็บที่รอสายน้ำเกลือหมดก็ขยับมือมาประคองมือของเธอ เมื่อแตะลงที่มือของซาจิ อีกฝ่ายก็ตาเบิกกว้าง
"ซัจจัง...มือสั่นเหรอครับ?"
เธอพึ่งรู้ตัวว่าเธอกลับมาตัวสั่นอีกแล้ว
และเพราะคำพูดแบบนั้นก็ทำให้สัญลักษณ์แห่งสันติภาพแตกตื่นขึ้นมาบ้าง
"แม่หนูชิโอริ! กลัวงั้นเหรอ!?"
"เป็นเด็กนี่ กลัวก็ไม่เห็นผิดเลย ออลไมท์!"
รีคัพเวอร์รี่เกิร์ลโต้กลับไป ซาจิตะไม่ตอบอะไร เธอมองสายน้ำเกลือที่น้ำเกลือหมดลงแล้ว "หมดแล้วนะคะ ให้หนูจัดการได้เลยรึเปล่า?"
"ได้สิ"
เมื่อครูห้องพยาบาลอนุญาต ซาจิตะก็เป็นฝ่ายจัดการถอดสายน้ำเกลือออกให้อิซึคุ ท่าทางของเธอดูคล่องแคล่วจนทำให้ดูเหมือนเธอเป็นคุณหมอขึ่นมาจริงๆในสายตาของคนเจ็บที่มองเธออยู่ตลอด - จากมือที่สั่นคราแรก มันนิ่งลงอีกทั้งยังเบามือ
เมื่อถอดสายน้ำเกลือให้ได้เรียบร้อยแล้ว ซาจิตะก็เลื่อนม่านปิดให้เพื่อให้มิโดริยะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและเธอรออีกฝ่าย
ระหว่างที่รอ
สัญลักษณ์แห่งสันติภาพก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา
"แม่หนูชิโอริ"
เขาเรียกเธอ "ฉันขอโทษนะ"
ซาจิมองเขา สบตาของเขาก่อนจะค่อยๆถาม
"เรื่องอะไรเหรอคะ?"
"คงกลัวมากเลยรึเปล่า...ฉัน...ขอโทษนะที่ไปช้า"
เธอโทษเขาไม่ได้หรอก
การที่เขาไปถึงที่หมายช้า
และการที่วิลเลินเล็งเป้าที่เขา
เขาไม่ใช่คนผิด เขาเองก็ไม่ได้อยากให้ใครเจ็บปวดเหมือนเธอเหมือนกัน
"ไม่เป็นไรค่ะ ออลไมท์"
ซาจิตะตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ "คุณไม่ได้ผิดอะไรเลย"
เธอเข้าใจทุกอย่าง
และเธอก็รู้ตัวดีว่าอนาคตยังมีเรื่องมากมายรออยู่ข้างหน้า
"ฉันบอกแล้วไงคะ ออลไมท์ว่าฉันพร้อมที่จะแบกรับเรื่องนี้ไปพร้อมกับอิซึคุ"
เด็กสาวพูดอย่างมาดมั่นออกมา เป็นความรู้สึกที่อัดแน่นด้วยความมุ่งมั่น ซาจิตะใช้มืออีกข้างชกแขนที่กำลังสั่นของตัวเองเพื่อให้มันหยุดสั่น
"วันนี้สั่น ใช่ค่ะ วันนี้ฉันกลัว ใช่ค่ะ - แต่ในอนาคตสักวันฉันจะไม่มีทางสั่นกลัวแบบนี้อีกแล้ว"
ฮีโร่อันดับหนึ่งสบตาสีฟ้าของเด็กสาวผมสีเทาหยักศก
รู้สึกเหมือนภาพซ้อนทับของใครบางคนที่ซ้อนทับกันอยู่
แววตา น้ำเสียง มุ่งมั่น - จนเหมือนคนๆนั้น
อดีตภรรยาที่เลิกรากันมาได้หลายปี...ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ด่าเขาว่า 'อันดับหนึ่งงี่เง่า'
"งั้นเหรอ แม่หนูชิโอริ"
เขาหลุดยิ้มมุมปากออกมา
"ฉันจะรอดูวันนั้น"
ซาจิตะไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เมื่อคนที่แต่งตัวอยู่เรียบร้อยได้แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วและค่อยๆเลื่อนม่านที่ปิดเอาไว้อยู่คราแรกออก
เมื่อเห็นแบบนั้นซาจิตะบอกลาออลไมท์และรีคัพเวอร์รี่เกิร์ล เด็กสาวเดินนำอิซึคุออกมา เขาแบกกระเป๋าเป้สีเหลืองของตนเองตามออกมาด้วย
"ให้ฉันช่วยถือไหมคะ?"
"ไม่เป็นไรครับ!"
ซาจิตะพยักหน้ารับเบาๆ ไม่ขัดศรัทธาอะไร
"คำพูดที่ซัจจังพูดกับออลไมท์ในห้องพยาบาลเมื่อกี้...เท่มากเลยนะครับ"
"เท่เหรอคะ?"
"ก็มันดูมุ่งมั่นดีมากเลยครับ"
เธอยิ้มบางๆ "คนเราก็ต้องมุ่งมั่นสิคะ"
"จริงด้วย"
อิซึคุหัวเราะออกมาหลังได้ยินคำพูดของเธอ
"ฟ้ามืดแล้วสินะครับ"
เมื่อมองออกไปตรงหน้าต่างจากสีส้มก็ถูกย้อมด้วยสีม่วงจนเข้มบ่งบอกถึงเวลากลางคืนที่มาถึงหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว
"ใช่ค่ะ"
"วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยน่าดูเลยครับ"
"อื้อ เหนื่อยจริงๆค่ะ"
ซาจิตะไม่ได้ปฏิเสธ
"เป็นวันที่เหนื่อยมากๆ ต้องพบเจออะไรน่ากลัวตั้งเยอะ"
มันอาจเป็นครั้งแรก
ที่อิซึคุนึกขึ้นมาได้ว่าซัจจังก็เป็นเด็กเหมือนกันกับเขา
"แต่ก็รู้สึกโล่งใจที่รอดมาได้"
"ผมเองก็เหมือนกันครับ"
เราหยุดเดินแล้วหันหน้ามามองกันแทน - อิซึคุค่อยๆจับมือของซาจิตะขึ้นมากุมเอาไว้พร้อมยิ้มกว้างให้
"วันนี้ต้องรบกวนซัจจังหลายเรื่องเลย...ผมดีใจนะครับที่มีซัจจังอยู่"
เธอเองก็ดีใจ
ที่ได้ช่วยอะไรได้บ้าง
"วันนี้ ขอบคุณนะคะ"
"ครับ?"
"ก็ที่ช่วยฉันจากวิลเลิน"
"ผมก็ต้องขอบคุณซัจจังเหมือนกันครับที่ช่วยใช้ยาชา!"
เราต่างคนต่างขอบคุณกันและกัน
รอยยิ้มกว้าง ตาสีมรกตที่ปิดเปลือกตาพร้อมยิ้ม
ขณะที่ซาจิยิ้มบางๆ
"ไปกันเถอะค่ะ อีดะกับอุรารากะ รอเราสองคนอยู่นะ"
"อ เอ๊ะ!? งั้นเหรอครับ!?"
เธอไม่ได้ตอบอะไร เป็นเพียงแค่การพยักหน้ารับ ทันใดนั้นอิซึคุก็ดูรีบร้อนขึ้นมาในทันที
แต่ถึงแบบนั้น เขาก็หันกลับมาหลังจากที่เดินนำเธอไป
รอยยิ้มกว้างที่มอบให้พร้อมมือที่ยื่นมาตรงหน้า
"อาจต้องรบกวนอีกหลายๆเรื่องต่อจากนี้...เพราะแบบนั้น ขอฝากตัวด้วยนะครับ"
เขาขอเธอออกมา ขอฝากตัวกับเธอ
ในฐานะคนที่พร้อมจะแบกรับไปด้วยกัน
อาจต้องรบกวนหลายๆเรื่อง
แน่นอนสิ
ซาจิตะยื่นมือไปจับมือของอิซึคุ
"อยากจะรบกวนอะไรก็รบกวนมาเถอะค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ - ฝากตัวด้วยนะคะ ต่อจากนี้"
ในวันที่จุดเริ่มต้นของลางร้ายได้เริ่มขึ้น
ในวันที่เราจับมือกันและกัน
ไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
แต่มันก็แค่จุดเริ่มต้น
จุดเริ่มต้นก่อนที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง
และมีเบื้องหลังความสำเร็จเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
ใช่ - เด็กสองคนที่จับมือกันบนทางแห่งชะตานี้
ที่คิดว่าวันพรุ่งนี้ ต้องไม่เป็นแบบวันนี้
บนทางเดินที่เลือกเดินไปด้วยกัน
■ Arc 1 : END
||||
Talk with มาวว ♡
ทุกคนรู้ไหมคะ ฟิคนี้อยู่มาจะครบ1ปีแล้วค่ะ!
(เปิดฟิควันแรก 15/06/2020)
เค้าเก่งไหมคะ จบarc1 ทันวันครบรอบด้วย แงๆๆ
มีหลายๆอย่างที่อยากจะเรียนรู้
และอยากได้รับความรักจากทุกคนแบบนี้ไปตลอดจังเลยค่ะ
ขอให้กันได้ไหมคะ ;_____;
มาถึงตรงนี้ก่อนจะขึ้น arc2
มาวอยากจะคั่นด้วยหน้าแนะนำตัวละครค่ะ
อาจคั่นด้วยทอล์คนิดหน่อย (ถ ถ้าทุกคนอยากคุยด้วย แต่ถ้าเม้นส่วนใหญ่บอกไม่อยากหรือไม่สนใจตรงนี้ เค้าอาจข้ามตรงนี้ไปเลยก็ได้ค่ะ ,___,)
และก็เป็นตอนพิเศษ (ซึ่งน่าจะอัพไม่ทันครบรอบ) แต่ก็จะด้านลงค่ะ แงงงง
สิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะนักอ่านเก่าหรือใหม่ แค่ความรักที่ทุกคนมีให้ เค้าก็พอใจแล้วค่ะ แต่ก็ยอมรับว่าอยากได้กำลังใจมากๆเหมือนกันนะคะ ขอโทษที่เอาแต่ใจนะคะ แต่รักทุกคนจริงๆค่ะ
ยินดีที่ได้พบนะคะ ต่อจากนี้คงต้องฝากตัวกับทุกคนอีกมาก
รักค่ะ ❤
ความคิดเห็น