ตอนที่ 9 : (ตอนเฉพาะของฮานาโกะ)
"ดีใจขนาดนั้นเชียว?"มาซาชิถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่นเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นร่าวโปร่งใสหันซ้ายหันขวาด้วยแววตาสั่นระริก
"ใช่...ค่ะ..."ฮานาโกะซังตอบพร้อมกับหันมายิ้มให้มาซาชิ เล่นเอาเจ้าตัวอึ้งไปเล็กน้อย เผลอมองดวงตาสีน้ำตาลนั้นอย่างหลงใหล
...นี่เขาปล่อยให้แฟนคลับน่ารักๆแบบนี้เสียชีวิตได้ยังไงเนี่ย!!...
"เอ่อ..."ฮานาโกะซังเป็นฝ่ายหลบตาหันไปมองที่มือของเธอแทนและหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าโดนจ้องตา
"เอ้อ... ฉันขอโทษ"มาซาชิรีบปล่อยแขนของร่างโปร่งใสนั้นอย่างรวดเร็วเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว
ให้ตายสิ!! นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่นะ!!
"ไม่...เป็น...ไร...ค่ะ..."คนข้างๆเขายังคงตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง
"นี่ ฮานาโกะซัง เธอพูดแบบคนปกติแบบฉันเนี่ยได้รึเปล่า แบบไม่ต้องพูดให้มันยานคางน่ะ"มาซาชิเริ่มหาหัวข้อสนทนาเพราะกลัวว่าบรรยากาศจะเงียบ
เขาเดินไปนั่งที่ปลายเตียงก่อนจะควานหารีโมททีวีมาเปิด
"เอ่อ... อย่างนี้ได้ใช่มั้ย"เด็กสาวเริ่มพูดเร็วขึ้นอีกนิด มาซาชิดีดนิ้วพลางยิ้มอย่างถูกใจ
"ใช่เลย พูดแบบนี้ได้ก็น่าจะพูดซะตั้งแต่แรก"
"ค่ะ"
".........."
"........."
แล้วมันก็เงียบอีกจนได้...
บ้าจริงๆ! จะคุยอะไรดีล่ะ
เจ้าของห้องเริ่มรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เขาไม่เคยปล่อยให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาในห้องของเขามาก่อน ถ้าไม่นับคนทำความสะอาดกับแม่ของเขาน่ะนะ... สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่รายการโทรทัศน์ หากแต่ในสมองกลับนึกไปถึงผู้ร่วมห้อง
โดยที่เขาก็ไม่ทันคิดเลยว่าคนที่เขากำลังนึกถึงก็เริ่มทำตัวไม่ถูกเช่นกัน เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าสถานที่ๆเธอยืนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ห้องของมาซาชิเธอจะรู้สึกเกร็งอย่างนี้รึเปล่า
นัยน์ตาสีน้ำตาลกวาดมองไปทั่วห้องอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี(ไม่กล้ามองเจ้าของห้องนี่นา...) เธอคิดว่าห้องของมาซาชิก็คงจะเหมือนห้องของเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ก็ไม่รูล่ะ เธอไม่เคยเข้าห้องนอนเด็กผู้ชายคนไหนมาก่อนนี่! ห้องของเขาค่อนข้างเรียบร้อยและเป็นระเบียบ ข้าวของที่ตกแต่งห้องดูท่าทางจะแพงและมีอายุพอสมควร รสนิยมของมาซาชิเป็นแบบนี้เองเหรอเนี่ย? เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยแฮะ
บนหัวเตียงมีกรอบรูปของครอบครัวเขา พ่อของมาซาชิ แม่ของมาซาชิ และตัวของมาซาชิเอง... เขาตัวเล็กจัง สงสัยจะ... 7-8ขวบได้ล่ะมั้ง
"เอ้อ... แล้ววันนี้เธอจะนอนที่ไหนล่ะ"มาซาชิถามขึ้นมา ในใจรู้สึกโล่งอกที่ในที่สุดก็หาเรื่องคุยได้ซักที
ไอ้ความหมายของคำถามนั่นน่ะเรอะ เหอๆ ไม่ทันคิดร้อก...
ส่วนคนที่ถูกถามก็ถึงกับสะดุ้งเพราะเอาแต่คิดอะไรเพลินๆ หันมาทางมาวาชิที่ถึงยังไม่มองเธอ แต่เธอก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขากำลังจับเจ่าอยู่ที่ตัวเธอ และนั่นส่งผลให้เธอหน้าแดงจนแทบจะพูดไม่ออก
"ก็... เดี๋ยวฉันก็คงต้องกลับไปที่ห้องน้ำโรงเรียนน่ะค่ะ"ฮานาโกะซังตอบ พยายามควบคุไม่ให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูสั่นจนเกินไป
"อ้าว เธอกลัวแมลงสาบไม่ใช่เหรอ"มาซาชิถาม ฮานาโกะซังได้แต่แอบคิดในใจ...
งั้นจะให้ฉันนอนที่นี่ได้มั้ยล่ะคะ!!?
"ก็... กลัว"
"ก็นอนที่นี่แหละ เธอก็นอนบนเตียงแล้วฉันนอนพื้นเอง"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆนะ"แขก(ไม่ได้)รับเชิญรีบพูดขึ้นอย่างร้อนรน ถ้ามาวาชิปวดหลังขึ้นมาเธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ! เอ... ตลอดวิญญาณนี้สิ ถึงจะถูก
"เอาน่า ฉันตัดสินใจแล้ว"ว่าแล้วเจ้าตัวคนพูดก็เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้านวมมาหนึ่งผืน จัดแจงปูเล็กน้อยแล้วคว้าหมอนบนเตียงนุ่มขึ้นมาหนึ่งใบ จากที่มี่อยู่สองน่ะนะ
"หมอนใบนี้ฉันชอบน่ะ ถ้าไม่มีมันฉันคงนอนไม่หลับ เธอก็นอนหมอนใบนั้นละกันนะ"มาซาชิยิ้มแห้งๆ ในขณะที่ฮานาโกะซังได้แต่ยืนอายทำอะไรไม่ถูก ในใจก็นึกชอบ...
น่ารักจังเลย! เหมือนเด็กๆไม่มีผิด!
มาซาชิทิ้งตัวนอนกับพื้นพลางหาวหวอดๆ จากนั้นก็หลับตาลงพริ้ม
อีกคนในห้องที่เริ่มทำใจกล้าล้มตัวลงบนเตียงก็พยายามข่มตาหลับ ความจริง... เธอไม่จำเป็นต้องหลับก็ได้...มาซาชิคงจะลืมไปว่าเธอ...
แต่...
นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบมองไปยังเจ้าของเตียงตัวจริงที่บัดนี้ระเห็จไปนอนอยู่กับพื้น
รอยยิ้มระบายบนใบหน้าของเออีกครั้งก่อนจะหลับตาตามลงไป...
เมื่อรู้สึกได้ถึงความเงียบที่เริ่มเข้าครอบคลุมทั้งห้อง มาซาชิก็ค่อยๆลืมตาแล้วขยับตัวอย่างแผ่วเบา ลุกขึ้นไปปิดไฟ
เขาหันไปมองคนที่นอนหลับอุตุอยู่บนเตียง... เผลอยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว... ก็ล้มตัวลงนอนกับพื้นบ้างด้วยความอ่อนเพลีย
ในยามราตรี... คงจะสั้นมากสำหรับใครบางคน...
แต่สำหรับทั้งสองนั้น... ราตรีนี้ช่างยาวนานและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจ...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ก๊อกๆๆ
"........."
ก๊อกๆๆ
"........."
"คุณหนูมาซาชิ"
คราวนี้เสียงเคาะประตูดังมาพร้อมกับเสียงเรียกชื่อของเจ้าของห้อง
มาซาชิบิดขี้เกียจทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา
"มาซาชิซัง..."เสียงหวานของใครบางคนทำให้เขาถึงกับลุกพรวด จนคนเรียกถึงกับตกใจแทบจะหงายหลัง
"เอ้อ... ฮานาโกะซัง"
ให้ตายสิ! เมื่อคืนเขาง่วงก็ง่วง เพลียก็เพลีย แต่ไหงมันนอนไม่หลับก็ไม่รู้!! โอยยย ไม่ไหวจริงๆ
"ขอนอนต่ออีกหน่อยเหอะ"แล้วมาซาชิก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
"มาซาชิ"ฮานาโกะซังเรียกอีกครั้งพร้อมกับขมวดคิ้ว ประวัติของมาซาชิเท่าๆที่เธอรู้มามาซาชิไม่ใช่คนขี้เซานี่นา เขาตื่นนอนตรงเวลาเสมอๆ และหากมีใครเรียกเขาก้จะตื่นทันทีด้วยความสดใส
หรือว่าเมื่อคืนเขาจะนอนไม่หลับกันนะ...
ยิ่งคิดก็ยิ่งราวกับส่งผลให้ร่างโปร่งใสหน้าแดงอย่างห้ามไม่อยู่
"คุณหนูมาซาชิครับ A มารอแล้วนะครับ"
ฟึ่บ!!
เท่านั้นล่ะมาวาชิก็ลุกพรวดแล้วกระโจนเข้าไปในห้องน้ำทันที ท่ามกลางความแปลกใจของวิญญาณสาวที่ได้แต่นิ่งด้วยความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
A... ใครกันนะ...?
ผู้หญิงหรือผู้ชาย?
ทำไมมาซาชิดูร้อนรนขนาดนั้น?
หรือจะเป็นคนสำคัญกันนะ?
ไม่จริง!!
ขณะที่เธอกำลังจมปลักกับความคิดของตัวเอง คนที่เธอกำลังคิดถึงอยู่นั้นก็ออกมาด้วยสภาพเสื้อผ้าชุดใหม่ ไม่ลืมคว้าแขนเธอเดินลงไปด้วยกัน
"คนชื่อAเป็นใครเหรอคะ"ฮานาโกะซังถามขณะที่ถูกมาวาชิจูงลงมาข้างล่าง
"ดร.ฌอน โจเซฟ แอนเดอร์สันน่ะ"มาวาชิตอบเรียบๆ
"หา?"ฮานาโกะซังถึงกับอ้าปากค้าง ที่แท้มาซาชิก็คงจะจ้างดร.ชื่อดังคนนี้มาสอนประวัติศาสตร์เองหรอกเหรอ??
ทันทีที่ลงมาถึงห้องนั่งเล่น ทั้งสองก็เห็นเจ้าของเรือนผมสีเงินสองคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว หนึ่งในนั้นคือหลิงซือหลง นัยน์ตาของทั้งสองดูอ่านได้ยากและเปี่ยมไปด้วยความเครียด ทำให้เธอรู้ได้ไม่ยากว่าสองคนนี้คงมีเรื่องอะไรสำคัญมากๆที่จะคุยกับมาซาชิแน่ๆ
ทันทีที่Aเห็นมาซาชิ เขาก็เอ่ยขึ้นทันทีด้วยแววตาที่พราวระยับ
"โอ้... นี่ถึงกับคว้าผีมาเป็นแฟนเลยเหรอเนี่ย...แหม... เป็นโชเน็นที่ไม่เบาเลยนะ!!"
โชเน็น!!
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างทันทีอย่างตกใจพลันหันไปมองเจ้าของมือที่จับมือเธอแน่นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ถึงใบหน้าเธอจะมีสีแดงระเรื่อนิดๆกับคำพูดเมื่อครู่นี้ก็เถอะ
"เงียบน่ะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยนะ"มาซาชิพูดเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยอารมณ์ที่ไม่สูดีนัก เขาเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา คนที่ถูกจูงมาเลยต้องนั่งลงข้างๆด้วยอย่างเสียไม่ได้
"เรื่องฮานาโกะซังคนนี้สินะ น่ารักไม่เบาเลยนี่"
"A!!"
"โอเคๆๆ"ว่าแล้วดร.ชื่อดังก็หัวเราะลั่น ฮานาโกะซังเพิ่งเคยเห็นตัวจริงของเขาเป็นครั้งแรก ถึงเธอจะไม่ค่อยสนใจเรื่องวงการประวัติศาสตร์เท่าไหร่ แต่เธอก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี
"ซือหลงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฉันฟังหมดแล้ว ตอนนี้นายอยากรูอะไรล่ะ วิธีผนึกวิญญาณเหรอ?"
คนข้างตัวมาซาชิถึงกับสะดุ้ง แต่เขาก็บีบข้อมือของเธอแน่นไม่ยอมปล่อย
"นั่นก็ส่วนหนึ่ง คุณน่าจะรู้อะไรมาก เพราะฉะนั้นคุณก็ช่วยสอนให้พวกเราด้วยก็แล้วกัน"เขาพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้เต็มที่
ฮานาโกะซังมองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก เธอหันมามองซือหลงที่ยิ้มให้เธออย่างพยายามจะปลอบโยน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
