คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [AuFic:KNB] Blood Demon Queen
Application
“พวกท่านเอาเวลาที่มัวแต่มาเพ่งเล็งข้าไปทำประโยชน์ให้บ้านเมืองก่อนดีกว่าไหมรึ
อ้อหรือไม่ก็ควรออกไปพบเหล่าราษฎรที่เดือดร้อนในเมืองไม่ดีกว่ารึดูพวกท่านจะว่างกันเสียเหลือเกิน”
(พูดตอนโกรธนิดๆเจ้าค่ะ)
คู่ : มุราซากิบาระ อัตสึชิ
ชื่อ : ฮะคุโช นาริโกะ / Hakuchou
Nariko
ชื่อเล่น : นาริ , นาริโกะ
ชื่อที่ให้คนอื่นใช้เรียก : นาริจัง , นาริโกะจัง
อายุ : ไม่สามารถระบุได้เจ้าค่ะ
ลักษณะภายนอก : นาริโกะถูกสอนมาให้ดูแลร่างกายของตัวเองให้ดีตั้งแต่เยาว์วัยจึงทำให้ร่างกาย
ผิวพรรณ บุคลิกภาพของหญิงสาวดูดีทุกระเบียบนิ้ว
เล็บมือและเล็บเท้าจะสั้นอยู่เสมอเพราะจะถูกตัดออกทุกครั้งที่เริ่มยาวออกมาเพื่อไม่ให้รู้สึกรำคาญและหยิบจับอะไรได้สะดวก
เส้นผมยาวสลวยสีดำมักถูกบำรุงอย่างดีจากผู้เป็นเจ้าของนาริโกะจะใช้ไข่ไก่ผสมกับน้ำผึ้งเพื่อนำมาหมักผมของเธอให้ดูเงางามและสุขภาพดี
ส่วนผิวขาวอมชมพูของเธอใช้การอาบน้ำนมบ้างเป็นบางครั้งแต่ส่วนใหญ่เธอจะคอยขัดถูสิ่งสกปรกต่างๆออกไปเท่านั้น
นาริโกะมักมีรอยยิ้มน้อยๆประดับอยู่บนใบหน้า
เธอไม่ได้ยิ้มเยาะหรือดูถูกดูแคลนใครหรือยิ้มเพราะเพียงแค่เธอรู้สึกอารมณ์ดีแต่หญิงสาวยิ้มเพื่อสื่อว่าเธอมาด้วยความเป็นมิตรไม่ได้คิดรายกับใครรอยยิ้มของเธอจึงน่ามอง
นอกเสียจากรอยยิ้มที่สื่อถึงความเป็นมิตรดวงตาที่มีนัยต์ตาสีม่วงอมเทาก็สื่อถึงความเป็นมิตรเช่นกัน
นาริโกะจะใช้สายตาที่อ่อนโยนในการมองไม่ว่าจะมองอะไรอยู่ก็ตาม
ส่วนเรื่องความสูงของนาริโกะเนื่องจากเธออาจจะได้รับสายเลือดจากทางผู้เป็นพ่อมาเยอะจึงทำให้เธอมีรูปร่างที่สูงกว่าผู้หญิงปกติทั่วไป
(พ่อของนาริโกะมีรูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขาม) ในตอนนี้นาริโกะสูง 175 น้ำหนัก 63
นาริโกะมีปานแดงอยู่ตรงเอวด้านหลังเป็นรูปหงส์
ปานนี้เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์อย่างดีว่าหญิงสาวเป็นผู้สืบทอดสายเลือดหงส์ฟ้าที่แท้จริง
นิสัย
๑.นาริโกะอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอไม่ว่าจะกับใคร
นาริโกะได้รับการสั่งสอนทางมารยาทในสังคมมาอย่างดีจากท่านแม่จึงทำให้หญิงสาวเจริญเติบโตมาด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน
แม้อยู่ในสำนักเกอิชานาริโกะก็ไม่พูดอวดตนกับคนอื่นว่าเป็นลูกเจ้าของสำหนักหรือเอาเรื่องสายเลือดหลักมาโอ้อวดเธอนับถือทุกคนเหมือนพี่น้องไม่ว่าจะหญิงหรือชาย
ลูกค้าที่เข้ามาในสำนักเธอก็จะปฏิบัติด้วยความนอบน้อมไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งให้
ถึงจะขึ้นมาเป็นราชินีของแคว้นเธอก็ยังนอบน้อมต่อขุนนางหรือข้ารับใช้ที่มาปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เปลี่ยนแปลง
๒.นาริโกะมีความอ่อนโยนนุ่มนวลและแข็งกร้าวอยู่ในตัว
ถึงจะเป็นคนอ่อนโยนใจดีแต่คนอย่างนาริโกะไม่ใช่คนที่อ่อนแอที่จะให้ใครเอาเปรียบกันได้ง่ายๆหลายครั้งที่เธอยอมอ่อนโอนไปตามกระแสลมเพื่อจะหาผลลัพท์ที่ดีกว่าที่เธอจะต้องเสียผลประโยชน์ทั้งหมดหรือเธออาจะยอมเสียผลประโยชน์แต่ใช้ไม้แข็งให้คนเหล่านั้นที่ดูหมิ่นในศักดิ์ศรีของเธอหลาบจำและเข็ดหลาบแต่เธอจะไม่ใช้กำลังในวิธีนี้หรอกนะ
๓.นาริโกะมักฝึกปรือฝีมือของตัวเองอยู่เสมอไม่ว่าจะด้านใด
ไม่ว่าเวลาไหนไม่ว่าอยู่ที่สำนักเกอิชาหรือขึ้นเป็นราชินีแล้วนาริโกะก็มักจะฝึกปรือฝีมือของตนเองเสมอไม่ว่าเป็นฝึกปรือด้านสมองความรู้ต่างๆมากมายที่ได้รับมาจากผู้เป็นอาจารย์ถึงตอนนี้จะไม่ได้เล่าเรียนกับท่านแล้วแต่นาริโกะก็ยังหมั่นหาความรู้มาใส่ตัวเสมอ
๔.นาริโกะชอบฟังมากกว่าชอบพูด
นิสัยนี้ติดตัวมาตั้งแต่เป็นเด็กๆนาริโกะไม่ใช่เป็นคนไม่ชอบพูดแต่เธอเลือกที่จะชอบฟังเสียมากกว่า
การฟังคนอื่นเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังในความคิดของเธอหมายถึงการเฝ้าสังเกตตัวตนของอีกฝ่าย
ลักษณะการพูดเป็นแบบไหน ท่าท่างเวลาเล่าเรื่อง
ดวงตาที่แสดงออกมาสื่อตรงกับเรื่องที่เล่าหรือเปล่า
ตอนอยู่ในสำนักเกอิชาเธอมักจะได้รับฟังปัญหาชีวิตของคนในสำนักและลูกค้าที่เข้ามาในสำนักเสมอ
๕.ถึงจะชอบฟังมากกว่าชอบพูดแต่นาริโกะก็มีทักษะการพูดที่ดีสามารถทำให้คนอื่นคล้อยตามได้ไม่ยาก
ถึงจะเป็นคนชอบฟังแต่เรื่องการพูดจ้าโน้มน้าวคนอื่นนาริโกะก็ไม่เป็นรองกัน
เพราะในสำนักเกอิชาทุกคนพูดจาโน้มน้าวเก่งจนติดเป็นนิสัยจึงทำให้หญิงสาวใช้การฟังที่ตนเองชอบมาฟังการพูดโน้มน้าวคนอื่นของคนในสำนักและก็นำมาปรับใช้เป็นของตนเองเสียและเมื่อขึ้นเป็นประมุขของอาณาจักรแห่งนี้ทักษะการพูดจาโน้มน้าวก็ช่วยเหลือเธอจากการเพ่งเล็งของเหล่าขุนนางที่ไม่ชอบเธอ
๖.นาริโกะจะไม่ใช้กำลังในการตัดสินปัญหา
เธอจะเลือกใช้เหตุผลในการพูดคุยมากกว่า
นาริโกะถูกสอนมาโดยตลอดจากผู้เป็นแม่ว่าการใช้กำลังแก้ปัญหาไม่ช่วยอะไร
ในคราแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่แม่พูดหมายความถึงอะไรแต่เมื่อเติบโตขึ้นมาเธอถึงเข้าใจในคำสั่งสอนนั้น
มีหลายครั้งที่คนในสำนักทะเลาะกันแล้วใช้กำลังกันแค่ในสุดท้ายปัญหาก็แก้ไม่ได้แถมยังต้องเจ็บตัวเพิ่มอีกนี่เป็นสิ่งที่นาริโกะเห็นจนชินตา
จนทำให้เธอยึดมั่นกับตัวเองว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรเธอจะไม่ใช้กำลังในการตัดสินปัญหา
๗.นาริโกะมักฝึกคนอื่นไปให้พร้อมกันด้วยเสมอ
นอกจากฝึกตนเองนาริโกะก็มักจะฝึกให้คนอื่นพร้อมกันไปด้วยไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม
ถ้าเธอช่วยฝึกปรือให้ได้เธอก็จะช่วยและเหมือนกับการทบทวนความรู้ไปด้วยในตัว
๘.นาริโกะถึงจะอ่อนโยนใจดีแค่ไหนแต่พอถึงเวลาโกรธคำพูดคำจาของเธอสามารถกรีดเฉือนใจของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี
ถึงจะเป็นคนอ่อนโยนและจิตใจดีแค่ไหนมนุษย์ก็คือมนุษย์ที่มีการรักโลภโกรธหลง
แน่นอนว่าหญิงสาวที่ผ่านชีวิตมาไม่มากอย่างนาริโกะก็ไม่สามรถอดทนอดกลั้นที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์โกรธของเธออกมาถึงจะไม่บ่อยครั้งแต่เวลาที่นาริโกะโกรธเป็นช่วงที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ว่าจะออกอาการฮึดฮัดไม่พอใจหรืออาละวาดปาข้าวปาของ
ทำร้ายร่างกายคนอื่นแต่เพราะเวลาหญิงสาวโกรธเธอก็จะเหมือนปกติแต่วาจาของเธอจะคมกริบยิ่งกว่ามีดสามารถพูดให้คนฟังเจ็บเข้าไปถึงในจิตใจได้เลยแม้ว่าคนนั้นจะเป็นคนที่เธอรักมากก็ตาม
๙.นาริโกะจะรับข้อผิดพลาดที่เธอทำผิด
เธอจะไม่พูดแก้ตัวแต่เธอจะใช้การกระทำแทนเพื่อให้รู้ว่าเธอสำนึกผิดจริงๆ
ในหลายคราที่นาริโกะทำผิดในวัยเยาว์แต่ก็จะมีคนโอ๋เธออยู่ตลอดว่าไม่เป็นอะไรยกเว้นแม่ของนาริโกะ
แม่ของนาริโกะจะไม่เข้าไปปลอบโอ๋เหมือนกับคนอื่นแต่จะเข้าไปตำหนิติเตียนว่าหญิงสาวทำผิดเรื่องอะไรบ้างหลังจากนั้นนาริโกะก็จะเก็บไปคิดและปรับปรุงตัวโดยแสดงให้เห็นผ่านการกระทำ
๑o.นาริโกะไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
อันที่จริงนาริโกะชอบอยู่เงียบๆกับคนในสำนักเกอิชาเสียมากกว่าการต้องขึ้นรับมาเป็นราชินี
เพราะนาริโกะไม่ชอบความวุ่นวายหรือต้องเสียเลือดเนื้อถ้าไม่ถึงเวลาฉุกเฉินจริงๆ
ถ้าในภายภาคหน้านาริโกะพบผู้ที่เหมาะสมจะเป็นราชินีปกครองอาณาจักรแห่งนี้มากกว่าตน
เธอก็พร้อมจะยกตำแหน่งนี้ให้อย่างเต็มใจ
๑๑.นาริโกะขี้สงสารแต่เมื่อขึ้นมาเป็นราชินีแล้วเธอก็ต้องปัดความสงสารนั่นออกไป
นาริโกะเป็นคนขี้สงสารและใจอ่อนมาตั้งแต่วัยเยาว์
เธอมักจะนำสัตว์ที่บาดเจ็บมารักษา นำเงินไปซื้ออาหารให้กับคนยากจน
แถมยังเคยเอาเด็กที่ไม่มีพ่อแม่มาจะรับเลี้ยงเป็นลูกทั้งที่ตอนนั้นเธอพึ่งจะ 10
ขวบได้จนทำให้สำนักเกอิชาวุ่นวายไปยกใหญ่
สุดท้ายคนในสำนักเกอิชาจึงตัดสินใจรับเป็นพ่อแม่แทนนาริโกะและยกให้นาริโกะเป็นพี่สาวของเด็กน้อยคนนี้
แต่เมื่อขึ้นมาปกครองอาณาจักรใช่ว่าความสงสารจะใช้ไม่ได้แต่บางทีการที่ให้ความสงสารหรือใจอ่อนมากไปสิ่งที่ย้อนกลับมาอาจจะเป็นการลอบกัดและเจ็บไปจนวันตายเลยก็ได้
แม้แค่เดินแต่ละก้าวภายในปราสาทก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่าควรจะเดินไปทางไหน
จะมีคนลอบทำร้ายหรือไม่เพราะขนาดตอนเด็กที่เธอช่วยสัตว์ที่บาดเจ็บยังมีบางตัวหันมากัดเธอเลยด้วยซ้ำแล้วถ้านำมาเทียบกับมนุษย์ที่อ่านออกเขียนได้จิตใจพร้อมจะรวนเรตลอดความเจ็บที่สัตว์กัดในวัยเด็กคงไม่อาจเท่าได้
๑๒.นาริโกะไม่ใช่ผู้นำหรือผู้ตามเธออยากจะเดินไปพร้อมกับคนอื่นๆมากกว่า
ถึงราชินีจะเป็นผุ้นำสูงสุดของอาณาจักรแต่นาริโกะไม่คิดแบบนั้นเธอไม่ได้อยากจะเป็นผู้นำและเธอก็ไม่ได้อยากจะเป็นผู้ตาม
เธออยากจะพัฒนาอาณาจักรไปพร้อมๆกับทุกคนมากกว่าอยากจะได้ความเห็นจากทั้งฝั่งคนที่ชอบเธอและฝั่งคนที่ไม่ชอบเธอว่าอาณาจักรควรจะเดินไปทางไหน
เธอไม่อยากออกคำสั่งเหมือนเป็นผู้กุมอำนาจแค่เพียงผู้เดียว
๑๓.นาริโกะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับความรักหญิงชายมากนัก
เธอคิดว่าการมีคู่ครองที่เป็นคนดีก็เพียงพอแล้ว
ถึงจะอยู่ในสำนักเกอิชาที่จะได้พบปะเหล่าผู้ชายมากมายแต่สำหรับนาริโกะการเป็นเกอิชาคือข้อห้าม
หญิงสาวไม่ได้เป็นเกอิชาวันๆได้แค่เพียงเรียนหนังสือกับออกมาช่วยเสิร์ฟอาหารบ้างเป็นครั้งคราว
ทำให้นาริโกะแทบไม่พูดคุยกับผู้ชายคนใดเลยนอกจากคนในสำนัก
อาจเพราะด้วยนาริดกะมักได้ความรักจากคนในสำนักและแม่เต็มเปี่ยมอยู่แล้วจึงทำให้เธอไม่ได้แสวงหาความรักสำหรับหนุ่มสาว
ประวัติ
นาริโกะเติบโตมาในสำนักของเกอิชาแม่ของเธอเป็นผู้ดูแลที่นี่
เด็กหญิงกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เกิดไม่เคยแม่แต่เห็นหน้าด้วยซ้ำหลายครั้งที่เธอถามแม่ว่าพ่อของเธอไปไหนแม่ของนาริโกะก็ได้แต่เพียงมอบรอยยิ้มและพูดตามด้วยประโยคสั้นๆว่าพ่อของเธอได้จากไปทำงานในที่ไกลแสนไกลเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวคงอีกนานกว่าจะกลับมา
ในตอนนั้นนาริโกะคิดว่าพ่อของเธอออกไปทำงานจริงๆเด็กหญิงไม่ได้เอะใจอะไร
ในสำนักเกอิชานาริโกะไม่ได้เข้าเรียนการเป็นเกอิชาเหมือนอย่างคนอื่นๆเด็กหญิงได้รับการสอนจากอาจารย์ที่มาจากนอกสำนักโดยมีของแม่เธอเป็นคนจ้างมา
ในด้านความรู้ต่างๆนาริโกะได้จากท่านอาจารย์ที่เข้ามาสอนให้
ส่วนด้านกิริยามารยาทหรือแม้แต่การใช้ชีวิตในสังคมนาริโกะจะถูกสอนจากคนในสำนักเกอิชาและแม่ของเธอเอง
แต่เรื่องที่นาริโกะยังไม่รู้ก็คือสำนักเกอิชาแห่งนี้คือฐานลับของผู้มีสายเลือดหงส์ฟ้า
สายเลือดหลักของอาณาจักรที่เธออาศัยอยู่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่ปกปิดตัวตนที่แท้จริงไม่ว่าจะหญิงหรือชาย
จุดประสงค์หลักของการเปิดสำนักเกอิชาคือการหาข่าวและไหวตัวได้ทันเพราะสำนักเกอิชาแห่งนี้มีพวกคนใหญ่คนโตมาใช้บริการมากมายจึงทำให้สืบเสาะหาข่าวได้ง่ายและที่ต้องปิดเรื่องนี้ไม่ให้นาริโกะรู้ก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กหญิง
แต่ขึ้นชื่อว่าความลับอย่างไรก็ต้องแตกเข้าสักวันเมื่อนาริโกะได้ไปเปิดเจอบันทึกของผู้เป็นแม่ตอนเข้าไปทำความสะอาดให้ในห้องเด็กหญิงรับรู้ความจริงทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องที่ตนเองเป็นสายเลือดหลัก
เรื่องที่พ่อของเด็กหญิงเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องเธอจากคนที่มาตามไล่ฆ่าหลังจากแม่คลอดเธอออกมาได้ไม่นานความจริงที่ถาโถมเข้ามาทำให้เด็กหญิงเสียหลักไม่น้อย
นาริโกะตัดสินใจจะไปถามแม่ของเธอแต่เพียงก้าวออกจากห้องหญิงสาวก็สลบไป
เด็กหญิงฟื้นขึ้นมาในโรงเก็บข้าวที่ไหนสักแห่งเธอถูกมัดมือมัดเท้าและใช้ผ้าปิดปากเธอไว้
มองไปรอบๆโรงเก็บข้าวที่เธออยู่กำลังถูกไฟไหม้และกำลังไฟกำลังเริ่มลามมาหาเธอ
เด็กหญิงพยามยามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่มัดอยู่แต่ยิ่งดิ้นกลับยิ่งรัดแน่นขึ้น
นาริโกะพยายามหาของมีคมมาช่วยตัดแต่ในโรงเก็บข้าวไม่มีของแบบนั้นอยู่เลยสักนิดเธอรู้สึกเหนื่อยและตัดใจแต่โชคยังเข้าข้างนาริโกะอยู่เพราะมีคนผ่านมาแถวนั้นด้วยความบังเอิญจึงทำให้เด็กหญิงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดแต่ก็ต้องนำส่งโรงหมออย่างเร่งด่วนเพราะสำลักและสูดควันเข้าไปมาก
นาริโกะฟื้นขึ้นในโรงหมอหลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบผู้เป็นแม่และเหล่าคนในสำนักเกอิชาอยู่รอบๆทุกคนร้องไห้โฮกันออกมาปนไปด้วยเสียงดีใจที่กู่ร้องกันออกมาจนเจ้าของโรงหมอต้องเข้ามาดุให้เงียบลง
หลังจากนั้นนาริโกะที่รู้ว่าตนเองมีสายเลือดหลักก็ต้องคอยระวังตัวทำตัวไม่โดดเด่นให้เป็นที่สังเกตเพื่อป้องกันอันตรายที่จะมาเข้าใกล้ตนเอง(ยาวมากนี่แต่งนิยายเรอะ
ฮรือ)
ชอบ : นาริโกะชื่นชอบการเล่นหมากล้อม
ตอนอยู่ที่สำนักเกอิชาเธอมักจะเล่นกับคนในสำนักอยู่เสมอแรกๆเธอก็มีแพ้บ้างแต่หลังจากเคยชินในวิธีการเล่นเธอก็ไม่เคยแพ้ใครอีกเลย
นาริโกะชอบดอกสึบากิเพราะเป็นดอกไม้ที่พ่อของเธอให้ในวันแรกเกิด
นาริโกะชอบเล่นโคโตะ
โคโตะเป็นเครื่องดนตรีเครื่องดีดเวลาเล่นจะต้องใส่เล็บปลอมที่นิ้วโป้งชี้และกลาง
เครื่องดนตรีชิ้นนี้แม่ของนาริโกะเป็นคนสอนให้เล่น
ไม่ชอบ : ไม่ชอบให้คนอื่นพูดถึงทุกคนที่เธอรักไม่ว่าจะพ่อแม่หรือคนในสำนักเกอิชาอย่างเสียๆหายๆแบบพูดออกมาอย่างไม่เป็นความจริง
นาริโกะจะไม่ชอบเอาอย่างมากๆ
เกลียด : ไม่มีสิ่งที่เกลียดเจ้าค่ะ
ของที่ติดตัว : ปิ่นปักผมดอกสึบากิสีแดงสด
(เป็นของที่พ่อเธอซื้อไว้ให้ตอนคลอดเจ้าค่ะ)
ลักษณะการพูด
นาริโกะจะเป็นคนที่พูดไม่เสียงดังเกินและไม่เบาเกินไปแม้แต่ยามโกรธเสียงของนาริโกะก็จะปกติเท่าเดิมไม่มีตะเบ็งให้ดังขึ้นเพื่อข่มขวัญใดๆทั้งสิ้น
“ท่านแม่
ท่านพ่อหายไปไหนเหรอเจ้าคะข้าไปถามพี่ๆในสำนักมาแต่ไม่มีใครตอบข้าได้เลยสักคน...ทุกคนดูไม่อยากจะเอ่ยออกมาให้ข้าฟัง
ข้า ข้าแค่อยากรู้” พูดพร้อมสีหน้ากังวลใจ
“ท่านพี่มีอะไรจะปรึกษาอย่างงั้นรึ
ปรึกษามาเถอะเจ้าค่ะข้าพร้อมที่จะรับฟัง” พูดพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“เจ้ากระต่ายน้อย
เจ้าบาดเจ็บมางั้นรึไหนข้าขอดูแผลของเจ้าหน่อยสิเจ้าตัวน้อย” พูดพร้อมกับลูบหัวและดูแผลของกระต่าย
“พวกท่านอดอาหารมานานเท่าไหร่กันแล้วเจ้าคะ
อาหารจากวังที่นำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านไม่พองั้นรึ
ถ้างั้นโปรดรอข้าสักครู่นะเจ้าคะข้าจะไปนำอาหารมาให้พวกท่าน” พูดด้วยน้ำเสียงตกใจที่เห็นคนยากจนอดอาหาร
“พวกเจ้าไม่ต้องทำอะไรเยี่ยงนั้นหรอก
ข้าทำเองได้พวกเจ้าไม่ต้องช่วยข้าหรอกนะเรื่องแค่นี้เอง
เถอะนะปล่อยให้ข้าทำเองเถอะ” พูดกับข้ารับใช้ในวังเรื่องการอาบน้ำ
“เนื่องจากข้าพึ่งจะขึ้นมารับตำแหน่งประมุขของอาณาจักรแห่งนี้
อย่างไรข้าขอฝากตัวกับพวกเจ้าทุกคน
มีอะไรที่อยากจะเสนอหรือร้องทุกข์ยื่นฎีกาขึ้นมาได้เลย ข้าจะอ่านทุกฉบับ”
พูดกับเหล่าขุนนางด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“พวกท่านเอาเวลาที่มัวแต่มาเพ่งเล็งข้าไปทำประโยชน์ให้บ้านเมืองก่อนดีกว่าไหมรึ
อ้อหรือไม่ก็ควรออกไปพบเหล่าราษฎรที่เดือดร้อนในเมืองไม่ดีกว่ารึดูพวกท่านจะว่างกันเสียเหลือเกิน” พูดกับขุนนางด้วยอารมณ์โกรธนิดๆ
เพิ่มเติม
- ฮะคุโช แปลว่าหงส์
นาริโกะแปลว่าเด็กอ่อนโยน
- นาริโกะเล่นเครื่องดนตรีได้เกือบทุกชนิด
- นาริโกะมีม้าชื่อโทรุอยู่หนึ่งตัว
เป็นม้าที่วิ่งไวมากๆและขนดำเมี่ยมไปทั้งตัว
Talk Tell With HIMORI
(บทของลูกๆนะคะ)
“สวัสดีค่ะ ชื่อว่าอะไรคะ?”
“ข้าชื่อนาริโกะเจ้าค่ะ เรียกข้าว่านาริจังได้นะเจ้าคะ
ส่วนชื่อสกุลเต็มของข้าคือฮะคุโช นาริโกะเจ้าค่ะ” /โค้งหัว
“เหรอค่ะ
แล้ว...รู้สึกยังไงค่ะที่รู้ว่าตัวเองเป็นสายเลือดหลัก”
“ข้าก็รู้สึกว่าต้องระวังตัวตามคำบอกของท่านแม่เจ้าค่ะ
อันที่จริงข้าจะสายเลือดไหนก็ได้ขอเพียงเกิดมาเป็นลูกท่านพ่อท่านแม่ข้าก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ”
“แต่ว่าเป็นสายเลือดหลักแล้วคิดว่าจะกระทบต่อการปกครองไหมคะ?”
“ถ้าตามที่ท่านแม่ของข้าบอกก็คงมีเจ้าค่ะแต่คงไม่ได้มากมายอะไร
ถ้าผลกระทบจะใหญ่ก็คงเป็นเพราะตัวข้ามากกว่าเจ้าค่ะ”
“อืม..งั้นก็ขอแค่นี้ก่อนก็ได้ค่ะ”
“จะไปแล้วเหรอเจ้าคะ? เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ”
“แต่ช่วยระวังตัวไว้ด้วยนะคะเพราะว่าอาจเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้
เอาเป็นว่า..ลาก่อนนะคะ”
“ขอบพระคุณที่ช่วยเตือนข้าเจ้าค่ะ
ข้าจะระวังตัวให้มากยิ่งขึ้นนะเจ้าคะ” /โค้งหัวลา
Talk Tell With HIMORI
(บทของผปค.ค่ะ)
“สวัสดีค่ะ เราชื่อฮิโมริน้า
เราเคยเจอกันรึเปล่าน่ะ555”
อาจจะเคยเจอในความฝัน เราจุมพิตโดยไม่รู้จักกัน ปฏิทินไม่บอกคืนและวัน ~ /ร้องเพลง
“เหรอๆยินดีที่ได้เจอในฟิคนี้นะ(ซับน้ำตา)
ไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า55”
เช็ดน้ำตาแล้วมองกันได้ไหม ฉันเป็นใครเธอลืมไปแล้วหรือ /ยังจะร้องเพลงต่อ
“คิดยังไงถึงเข้ามาฟิคนี้ของเราได้ล่ะ”
หาฟิค knb อ่านแล้วมาเจอว่าเปิดรับสมัครตัวละครอยู่ค่ะ
แล้วพล็อตเรื่องน่าสนใจดีด้วยสุดท้ายเพราะมุคคุงค่ะ 5555555
“แล้วถ้าไม่ติดว่ายังไงเหรอ(แอบร้องไห้เบาๆ)”
ถ้าไม่ติดเราจะไปซื้อระเบิดมาค่ะ
.
.
.
.
,มาระเบิดในเกมค่ะ
เพราะมันแรงกว่าปืนแต่คงต้องซื้อเพชรก่อน
“คิดยังไงถึงเลือกลูกสาวให้คู่กับคนๆนี้เหรอคะ”
เพราะว่าเราชอบมุคคุงค่ะ รักเป็นลูกเลย เอ็นดูสุดๆคนเนี้ย ฮรือออ
“อ่อ..ถ้าเปลี่ยนอะไรไปเป็นอะไรไหมคะ”
เปลี่ยนได้หมดเลยค่ะ ยกเว้นเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น /โดนตบ
“อา..อันนี้ไม่มีการเปลี่ยนคู่นะคะ
แต่อาจจะมีให้เลือกระหว่างยัดกับกลับไปนอนที่บ้าน..”
ถ้าไม่ติดเป็นอะไรก็ได้ที่ใกล้มุคคุงค่ะ /โดนตบอีกรอบ
“ค่ะ!!^^ ถ้าติดก็กดFAV ไว้นะคะ!!...แล้วเจอกันนะคะ อย่าลืมมารายงานตัวล่ะ”
ไม่ติดก็เฟบค่ะจะอ่านพร้อมน้ำตา ฮรืออ
ความคิดเห็น